เห็นภาพคลื่นน้ำทะเลซัดท่วมภูเขามาเลย(พี่ที่ทำงานบอกนั่งสมาธิเห็น)

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย Dhamma2, 19 ตุลาคม 2018.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. nan_nori

    nan_nori เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กุมภาพันธ์ 2018
    โพสต์:
    470
    ค่าพลัง:
    +799
    ถ้าพ้นจากภัยครั้งนี้น้องขอแค่สุขภาพจิตดี ร่างกายเเข็งแรงครบ 32 ก็โอเคที่สุดล่ะ ไม่ขอไรมาก
     
  2. ดาราแฟร์

    ดาราแฟร์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 เมษายน 2013
    โพสต์:
    1,660
    ค่าพลัง:
    +2,461
    ครับ หากไม่ตาย ได้ตามนั้นครบถ้วนครับ.
     
  3. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,710
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    ส่วนตัวผมก็ไม่ได้เตรียมตัวอะไรมากครับ เตรียมใจซะมากกว่า เพราะผมรวยน้ำใจ แต่จนทุนทรัพย์ จึงทำได้แค่เผยแผ่ความรู้ที่มีอยู่ แบ่งปันให้เพื่อนๆ ได้นำไปใช้เอาตัวรอดจากภัยพิบัติกันครับ
     
  4. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,710
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    คำบอกกล่าวเรื่องภัยพิบัติ จากหลวงพ่อสุมโน ภิกขุ

    1457f88f5e6b454.jpg

    ณคอนสะหวัน สมาชิก

    ขออนุญาตเผยแพร่คำบอกกล่าวเรื่องภัยพิบัติ จากหลวงพ่อสุมโน ภิกขุ(หลวงพ่อเพชร) แห่งสำนักป่าอรัญวาสี 1 (เพชรบูรณ์) สำนักป่าอรัญวาสี 2 (กาญจนบุรี) ถ้าท่านใดสนใจติดตามได้ที่เฟสบุ๊คของท่านที่ลูกศิษย์จัดทำขึ้น และมีตารางการสอนมโนมยิทธิในแต่ละเดือนของหลวงพ่อด้วยค่ะ

    เมล็ดธรรมจากขุนเขา ตอน ภัยพิบัติ

    ลูกศิษย์ : หลวงปู่ครับผมขออนุญาตถามนอกเรื่อง เรื่องภัยพิบัติอะไรแบบเนี่ย

    หลวงปู่ : อืม เอาอย่างนี้นะ แต่ข้าไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ เดี๋ยวเอ็งไปที่สำนักข้าที่เพชรบูรณ์ สำนักข้าที่เมืองกาญเนี่ย ทำไมหนอ? หลวงพ่อถึงสร้างวัดอยู่ในที่สูงอย่างนี้ แล้วศาลาอะไรก็ใหญ่โตมโหฬารจุคนได้ 400-500 คน และก็เป็นวัดป่า ทำไมข้าบ้าสร้างศาลาอาคารแต่ละหลังเนี่ยไม่ใช่หลังเล็กๆ ข้าสร้างไว้ทำอะไร? ที่ข้าทำอย่างนั้น ข้าไม่ได้ทำโดยพลการ องค์สมเด็จเป็นองค์สั่งให้ข้าทำ ข้าก็ทำ แล้วก็ ภัยพิบัติเนี่ย มีแน่นอน 100% ลูกเอ้ย แต่คนดีที่มีศีลมีธรรมจะรอด บุคคลชั่วมันจะจมน้ำตายห่ากันหมด เพราะอะไร? มันห่วงสมบัติ มันมัวแต่จะไปเอาของอันนั้นออก เอาอันนี้ออก น้ำตูมมา ตาย!

    ลูกศิษย์ : ใช่ หนูก็เป็น (หัวเราะ) เพราะว่าตอนน้ำท่วมลำลูกกา หนูไปแบกตู้เย็นมาก่อนเลยอ่ะ (หัวเราะ) ไม่ มันเป็นสิ่งเดียวที่แบบว่ามัน (เหลืออยู่) อืมครับ

    หลวงปู่ : ความจริงเนี่ย มึงน่าจะไปงัดเสาปูนแบกออกไป

    ลูกศิษย์ : หลวงปู่บอกว่าถ้ามีข่าวซึนามิเกิดที่ไหนนะครับหลวงปู่

    หลวงปู่ : ถ้าได้ยินข่าวว่าน้ำ(ทะเล)มันเริ่มท่วมสมุทรปราการนะ จงรีบออกจากกรุงเทพให้เร็วที่สุด อย่าห่วงอะไรทั้งสิ้น น้ำมันรถเติมไว้ให้เต็ม ทั้งแก๊สทั้งน้ำมัน แล้วตีรถออกนอกกรุงเทพให้เร็วที่สุด ถ้าจังหวัดกาญฯคิดว่ามันใกล้ดิ่งไปหาข้า ถ้าอยู่ใกล้เพชรบูรณ์ไปสำนักเพชรบูรณ์ รับรองที่เพชรบูรณ์ ถ้าน้ำมันท่วมภูเขาลูกนั้นก็ กูก็ช่วยอะไรไม่ได้แล้ว

    แล้วก็ปักษ์ใต้นี่ วัดหลวงปู่ทวดวัดช้างไห้ที่ปัตตานีอ่ะนะ มันจะเหลือเป็นเกาะ เกาะก็ไม่ใหญ่โตเท่าไหร่หรอก ที่เหลือเป็นเกาะนั้นก็เพราะบารมีหลวงปู่ทวด เหลือเป็นแผ่นดินเป็นเกาะอยู่เท่านั้น ไม่ใหญ่โตอะไรมากมายจะเหลือเฉพาะที่วัดเท่านั้น นอกนั้นน้ำทะเลซัดหายหมด อินโดนีเซีย มาเลเซีย ภาคใต้ประเทศไทย น้ำเนี่ยนะ นู้นน่ะนะ สระบุรีนู้น

    เอาอย่างนี้ดีกว่านะ เรือรบมันจะวิ่งอยู่บนยอดตึกใบหยก แล้วผู้คนจะตายไม่ใช่น้อยๆ แต่คนดีมีศีลมีธรรมรอด ไม่ตาย คนเหี้ยทั้งหลายแหล่รับรองไม่รอด เพราะเค้าล้างคนชั่ว ข้าก็พูดแบบนี้แหละ ตามภาพที่ข้าเห็น เกิดแน่ แต่ข้าไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ อยากจะรู้ไหมว่าเมื่อร้อยล้านปีที่แล้วอ่ะ ทะเลมันไปอยู่ตรงไหน? รู้จักภูกระดึงไหม? รู้จักเขาวงพระจันทร์ไหม? ทำไมเปลือกหอยทะเลอยู่บนเขาวงพระจันทร์ แล้วทำไมเปลือกหอยทะเลอยู่บนยอดเขาภูกระดึง ทะเลทั้งนั้น ที่เรานั่งกันอยู่นี้มันท้องทะเลนะ น้ำทะเลมัน แห้งไปๆ ก็กลายเป็นแผ่นดินให้เราอยู่กัน ...

    จบ..ดูเพิ่มเติม https://www.facebook.com/luangpoo

    หลวงพ่อไม่ได้บอกว่าจะเกิดเมื่อไหร่ แต่ก็เป็นที่น่าสังเกตุ ที่ท่านบอกว่าถ้าได้ยินข่าวว่าน้ำท่วมสมุทรปราการ ให้รีบออกจากรุงเทพฯ ทันที ตรงนี้น่าจะเป็นสัญญาณเตือน

    เขียนโดย Chaichan Noochangphuak

    ที่มา http://paipibats.blogspot.com/2012/12/blog-post.html
     
  5. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,710
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    องค์พระพิฆเณศ ทำนายภัยพิบัติโลก

    1426651664-Photobucke-o.jpg


    องค์พระพิฆเณศ ทำนายภัยพิบัติโลกผ่าน อ.จตุพร ซึ่งร้ายแรงกว่าที่มนุษย์คิดไว้มากมายนัก (บทความนี้เขียนไว้เมื่อ วันพฤหัสบดีที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2553)


    คำทำนาย ในประเทศไทย

    ทุกวันนี้โลกเราผิดปกติไปมากขึ้นทุกที แกนโลกเริ่มขยับตัวเคลื่อนที่อย่างมาก รอวันที่มันจะผลิกคว่ำ เมื่อคนไม่ดีมีเยอะมากขึ้น ศีลธรรมเสื่อมทรามลง แกนโลกจะคว่ำ เมื่อมันคว่ำแล้ว อะไรทุกอย่างจะเปลี่ยนไปหมด บางจุดน้ำจะเป็นดิน ดินจะเป็นน้ำ

    หนาวจะร้อน ร้อนจะหนาว สภาวะขาดอาหารและน้ำ จะเกิดขึ้นไปทุกหย่อมหญ้า เงินจะไม่มีความหมาย อาหาร ยา เท่านั้นที่มีความหมาย คนไม่ดีจะเหลือน้อย คนดีจะเป็นใหญ่ ความสามัคคีจะเกิด ผู้คนจะช่วยกัน เริ่มเห็นใจกัน จะมีการเดินทางครั้งยิ่งใหญ่ อะไรก็ตามที่ใช้ไฟฟ้า แทบจะไม่มีความหมาย คนไทยจะเริ่มอพยพ ไปทิศใหม่ เมืองใหม่จะถูกสร้างขึ้น อารยธรรมใหม่จะเกิดขึ้นที่นั้น ทรัพย์พยากรใหม่ๆ จะออกมาตามรอยแยกแผ่นดินไหว จะมีแต่คนดีที่ครอบครอง ...สมาธิ จะเป็นบทนำที่อารยธรรมใหม่แห่งนี้

    คำทำนาย ในกรุงเทพมหานคร

    วันนั้นฟ้าจะเปลี่ยน พระอาทิตย์จะปรากฎให้เห็นเป็น 2 ดวง ทางทิศตะวันตกในเวลาเดียวกัน ท้องฟ้าจะเป็นสีแสด อากาศผิดปกติ เป็นแบบนี้ไม่กี่วัน "คนมีบุญจะรวมกลุ่มกันหนี คนบาปจะอยู่กับบ้าน" เข้ายามราตรี ฝนจะตก ฟ้าจะร้อง พายุขนาดใหญ่จะมา

    (ดวงอาทิตย์ที่เห็นเคียงคู่นั้น คือดาวหาง นิบิรุซึ่งเป็นดาวฤกษ์ กำลังโคจรเข้ามาใกล้ดวงอาทิตย์ของสุริยจักรวาลมากขึ้น เพื่อวนรอบดวงอาทิตย์ ทุกๆ 13,000 ปี สีจะออกแดง)

    ไฟจะดับ น้ำจะเริ่มท่วม รถยนต์จะเริ่มลอย เสาไฟจะล้ม คลื่นยักษ์สูง 50 เมตร จะมากวาดทุกอย่างไปในพริบตา "คนมีบุญที่หนีได้ทัน จะไปอยู่บนยอดตึก บุญจะส่งให้เขามีเหตุให้ต้องไปอยู่บนยอดตึกในเวลานั้น" ตกเช้าน้ำจะไป ทิ้งไว้แต่โคลนสีส้มไปทั่วเมือง "กรุงเทพฯ ไม่เหมาะที่จะสร้างเป็นเมืองหลวงอีกต่อไป" ส่วนต่างจังหวัดอื่นๆ จะเกิดหนักเหมือนกัน แต่น้ำจะไปไม่เท่ากัน

    นัยว่าก่อนโลกจะย้ายขั้ว โลกจะหยุดหมุนรอบตัวเอง เช่นเดียวกับสุริยจักรวาล ที่โคจรรอบดาวหลุมดำ แกนกลางของกาแลกซี่ทางช้างเผือก กำลังโคจรเข้ามาสู่แรงดึงดูดของกาแลกซี่ไตรแองกุลัม ทางด้านทิศตะวันออก และเริ่มชลอตัวหยุดการหมุนรอบตนเอง มาตั้งแต่ 2 เม.ย. 2552 และเริ่มเดินเป็นปรกติ เมื่อ 1 ก.พ. 2554 ที่พระอาจารย์รัตน์ พบในสมาธิ สุริยจักรวาลใช้เวลาปรับตัว หมุนสวนทิศทางเดิมอยู่ประมาณ 22 เดือน

    ถ้าโลกจะย้ายแกนปลายปี 2555 ตามปฏิทินของชาวมายา และสโตนเฮนซ์ เตือนภัยอนาคตไว้กับคนรุ่นหลัง ก็จะใช้เวลาปรับตัวย้ายแกนโลกใหม่เป็นช่วงเวลาใกล้ๆกัน แต่ในขณะที่สุริยจักรวาลเปลี่ยนทิศทางการหมุนรอบตนเองแล้ว โลกเริ่มมีผลกระทบทั้งคลื่นกัดเซาะชายฝั่งมากขึ้น แมกม่าเปลี่ยนทิศทางเดิน จะเกิดแผ่นดินไหวและภูเขาไฟปะทุขึ้นทั่วโลก

    แต่เมื่อโลกย้ายแกน ของเหลวบนเปลือกโลก และแมกม่าใต้โลก จะเปลี่ยนทางเดินขนานใหญ่ รวมทั้งอากาศแปรปรวน เกิดภัยพิบัติต่างๆตามมาทั่วโลก แต่ของเหลวที่อยู่รอบผิวโลก เช่นน้ำในมหาสมุทรต่างๆ ไม่สามารถหยุดพร้อมกับโลกได้ ด้วยแรงเฉื่อยของน้ำในมหาสมุทรต่างๆ จึงพากันวิ่งขึ้นบนบก บริเวณริมทะเลต้องรับคลื่นสูงกว่าในแผ่นดินที่อยู่ลึกเข้าไป แต่ก็จะมีภัยจากน้ำท่วมกระทันหันเกิดขึ้นได้....

    ผู้ที่ไม่ประมาทจึงควรติดตามความเคลื่อนไหวของสิ่งแวดล้อมโลกอย่างใกล้ชิด และลองนำมาตรวจสอบกับ การคาดการณ์ที่กล่าวมาแล้วหรือไม่ ถึงอย่างไรก็ดี ผลการติดตามการเปลี่ยนแปลงสิ่งแวดล้อมโลกนี้ จะค่อยๆต่อภาพความเป็นจริงให้ทุกท่านประจักษ์ได้ด้วยตนเอง เป็นระยะๆไปแล้วเมื่อนั้นท่านจะเข้าใจ สิ่งที่พระพิฆเนศร์ ท่านเมตตามาเตือนภัยล่วงหน้า

    และชาวดาวอังคารก็มาทำ Crop Circle ที่ประเทศอินโดนีเซียเมื่อเร็วๆนี้ เตือนเหตุก่อนวิบัติกาลของโลกเช่นเดียวกับชาวมายา ในอดีต 5 พันปีได้รับการเตือนมาแล้ว ในลักษณะคล้ายๆกัน ผลสุดท้ายชาวมายาก็สูญพันธุ์ไปจากโลกใบนี้ แม้จะได้รับสัญญานเตือนล่วงหน้าแล้วก็ตาม
    ยังไม่ทราบว่าผลการชลอความเสียหายในวิบัติกาลของโลก คราวนี้จะสามารถลดความรุนแรง ลดความเสียหายได้น้อยลงได้มากสักเพียงใด โดยแทนที่จะปล่อยให้โลกสลับขั้วเหนือใต้ เช่นในคราวที่อาณาจักรแอตแลนตีสล่มจมทะเลเมื่อ 13,000 ปีก่อน รอบนี้เขาจะช่วยให้โลกย้ายแกนมาที่สฟิงซ์ หรือย้ายที่เพียง 90 องศา แทนที่จะเป็น 180 องศา การเตรียมการตรงนี้ได้เตรียมมาแล้ว 5 พันกว่าปี ก่อนลงมือสร้างสฟิงซ์ และพีระมิด ที่อียิปต์ โดยใช้เทคโนโลยี่ของชาวดาวอังคาร ในการเคลื่อนย้ายหินก้อนใหญ่ๆหนักหลายๆตัน โดยวิชชาอภิญญาใหญ่


    (ในกรณีที่โลกหยุดหมุนรอบตัวเอง และแรงดึงดูดของโลกจะเหลือน้อยเกือบศูนย์ ผู้คนจะลอยเคว้งคว้างในอากาศ เหมือนมนุษย์แหวกว่ายในอวกาศ พระอาจารย์รัตน์ ท่านเล่าให้บรรดาศิษย์ที่ไปฝึกวิปัสสนาที่วัดดอยเกิ้งฟังในวันหนึ่ง หลายเดือนมาแล้ว)

    คำทำนาย เกิดเมื่อไร

    "บอกแล้วอาจเคลื่อน เพราะเวลาจะล้างคนไม่ดี เขาไม่บอกให้ทราบล่วงหน้า ถ้าทราบล่วงหน้า คนไม่ดี หนีกันไปหมด ก็ไม่เกิดแน่นอน ก็จะผลักออกไป ให้มาเร็ว หรือช้า จนคนบนโลกประมาท เมื่อนั้น ก็จะล้างทันทีไม่ให้ตั้งตัว"

    ปัจจุบันมีผู้มีอภิญญาหลายท่านก็ทราบกันแล้ว และก็เตรียมพร้อมกันแล้ว แผนกดาราศาสตร์ขององค์การนาซ่า คำนวณว่า ดาวหางนิบิรุ จะโคจร มาเรียงแถวกับโลกและดาวต่างๆ ในเพลนของกาแลกซี่ทางช้างเผือก ในปลายปี 2555 หรือต้นๆปี 2556 แรงโน้มถ่วงของดาวนิบิรุ ที่มีขนาดใหญ่กว่าโลก และโคจรเฉียดกับโลกสวนทางกัน ตอนที่ดาวนิบิรุกำลังโคจรอ้อมดวงอาทิตย์ ช่วงเวลานั้นจะมีผลต่อโลกสูงที่สุด และที่น่าตื่นเต้นมากขึ้นไปอีกก็คือ ดาวหางดวงนี้เป็นดาวฤกษ์ที่มีดาวบริวารขนาดเท่าๆกับโลกอีก 5 ดวง ติดตามมาด้วย

    สนามแม่เหล็กโดยรวมของดาวนิบิรุ จึงมีอิทธิพลมากขึ้น จากดาวเดี่ยวๆ และสิ่งที่จะตกลงมาบนโลกจากส่วนหางของดาวดวงนี้ กลางๆปี 2555 ก็น่าจะได้สัมผัสกันบนโลก พร้อมอันตรายที่มันมีขนาดใหญ่นั่นเอง
    เวลาที่ดาวดวงนี้ใกล้เข้ามา ทุกคนน่าจะได้ยินข่าวคราวของมันอย่างใกล้ชิดเพิ่มขึ้น ก่อนที่จะปรากฏเคียงคู่กับดวงอาทิตย์ ส่งสัญญาณขั้นสุดท้าย ให้แก่ผู้ไม่ประมาทจะเคลื่อนย้ายสู่ทีกำบังที่ปลอดภัย....แล้วท่านมองๆหาทำเล และเตรียมการอย่างไรบ้างแล้ว?


    เท่าที่นายกอร์ดอน สแกลเลียน ผู้ตายแล้วฟื้น ได้มองเห็นแผนที่โลกใหม่ มาตั้งแต่ 1979 -1982 และได้ลงมือวาดแผนที่โลกใหม่ขึ้น มีส่วนสรุปคำทำนายของโซนเอเชียดังต่อไปนี้

    1399914749-xxxyyyzzzJ-o.jpg


    ผลสรุปการทำนายก็คือ ประเทศไทยจะยังเหลืออยู่บางส่วน ตามภาพที่ขยายออกมา ซึ่งคงได้ยินกันมาอยู่บ้างว่า ประเทศไทยจะเหลือมากที่สุด คือภาคเหนือ ส่วนอีสานบางส่วน และภาคใต้จะจมลงไปในทะเลพร้อมกับมาเลเซีย สิงคโปรและอินโดนีเซีย ส่วนชายฝั่งทะเลจะมาอยู่ที่ชัยภูมิ เพรชบูรณ์ พิจิตร พิษณุโลก สุโขทัยและตาก และแม่น้ำโขงจะกลายจากแม่น้ำเป็นทะเล

    เมื่อ 23 ก.พ. -25 ก.พ. 2554 ได้เกิดแผ่นดินไหว ดินยุบ ดินแยก ที่เกาะสุมาตราตะวันออก พร้อมกับมีเสียงระเบิดดังกึกก้องสะท้อนขึ้นมาจากใต้ดินตลอดวันตลอดคืน ทางการได้ส่งเจ้าหน้าที่มาทำการวิจัยหาสาเหตุว่าเสียงดังเกิดมาจากอะไร....ปรากฏการณ์นี้กำลังส่งสัญญาณให้มนุษย์ทราบว่า กำลังจะเกิดแผ่นดินยุบบริเวณกว้างเป็นจังหวัดๆ ไล่ถล่มออกไปเรื่อยๆ เนื่องจากแมกม่ากำลังปรับเปลี่ยนการไหลตลอดเวลา แผ่นดินถล่มมีโอกาสเกิดที่เกาะสุมาตราตะวันออก ในบริเวณตรงกันข้ามกับเกาะสิงค์โปร์ก่อน

    เนื่องจากใต้ดินบริเวณนั้นมีช่องว่างขนาดใหญ่เกิดขึ้น จากการเคลื่อนตัวของแมกม่า ทำให้แผ่นดินตั้งอยู่บนอากาศ เพดานถ้ำขนาดใหญ่จะไม่สามารถรับน้ำหนักตัวเองได้ และมวลของดินยังขาดการยึดเกาะไม่เหมือนเก่า เนื่องจากที่ผ่านมา 10 กว่าปี เปลือกโลกได้ถูกเกลียวพลังงานเส้นแรงแม่เหล็กชอนไช ทำให้ดินเสียแรงยึดเกาะระหว่างโมเลกุล ดินจึงถล่มง่ายกว่าในอดีต

    จึงต้องคอยติดตามข่าวต่อไปว่า เสียงระเบิดใต้ดินที่ดังกึกก้องตลอดเวลา นั้นหยุดลงหรือยังและยังจะมีแผ่นดินไหวเกิดขึ้นตามมาถี่ขึ้นหรือไม่ และสุดท้ายยังไม่ทราบแน่ว่าแผ่นเปลือกโลกในโซนนี้ จะถล่มลงในเวลาไล่ๆกันทั้งหมด เหมือนที่นายกอร์ดอน สแกลเลี่ยน ได้รับภาพหรือไม่...

    ที่มา https://www.sites.google.com/site/wimon601/khaw-phay-phibati-caeng-teuxn-phay-kxn-pi-2555
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 พฤศจิกายน 2018
  6. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,710
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    คำทำนาย หลวงปู่สังวาลย์ ส่อเค้าแล้ว ไม่แคล้วอาจจะเกิดขึ้นจริง


    เผยแพร่เมื่อ 24 ต.ค. 2017
     
  7. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,710
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    เทวดามาแจ้งข่าวเรื่องภัยพิบัติ

    02.jpg

    ภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้นกับโลกมนุษย์ สามารถแยก ออกเป็นภัยที่เกิดขึ้นในรูปของธาตุทั้ง 4 คือ ดิน น้ำ ลม ไฟ

    1. ดิน ภัยที่เกิดขึ้นในรูปของดิน คือ แผ่นดินแยก แผ่นดินไหว แผ่นดินถล่ม แผ่นดินทลาย เกาะจม ฯลฯ

    2. น้ำ ภัยที่เกิดขึ้นจากน้ำ ได้แก่ ภาระฝนแล้ง ติดต่อกันยาวนานในบางประเทศ และเกิดภาวะน้ำท่วมในบางประเทศ ในระหว่างที่เกิดการซ้อนกันของดวงดาวต่าง ๆ ทำมุม 180 น้ำแข็งขั้วโลกละลาย น้ำทะเลจะหนุนเนื่องท่วมสูงมาก เกิดคลื่นขนาดใหญ่ ความสูง 1,000 - 2,000 เมตร เนื่องจากคลื่นใต้น้ำ ซึ่งเกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟใต้ทะเล

    3. ภัยที่เกิดในรูปของลม ก็มีลมพายุชนิดต่าง ๆ เช่น ทอร์นาโด ลมไต้ฝุ่น เกิดขึ้นในท้องที่ต่าง ๆ ทั่วโลก เมื่อเกิดแผ่นดินไหวและแผ่นดินแยกนี้ก็จะมีอากาศบางชนิดที่ เป็นพิษอย่างร้ายแรงขึ้นมาจากใต้พิภพ ตามที่หลวงพี่วาณิช นั่งกรรมฐานเห็นมาแล้วนั้น เทวดาท่านเรียกว่า "ลมสลาตัน"

    4. ไฟ ภูเขาไฟระเบิดเกิดขึ้นทั่วไป อากาศจะร้อน อบอ้าวผิดปกติ แผ่นดินจะแยก มีไฟพุ่งขึ้นจากใต้พิภพ บางครั้งจะมีสัตว์นรกหลบหนีขึ้นมาเพ่นพ่านด้วย

    ข้อสังเกต ก่อนเกิดเหตุ จะเกิดปรากฏการณ์นี้ขึ้น คือจะมีสงครามนิวเคลียร์เกิดขื้น ท้องฟ้าจะมีเม็ดดำขนาดใหญ่แผ่ปกคลุมไปทั่ว มีฝนตกตลอดเวลาผสมกับลมพายุ และฟ้าจะผ่าในพื้นที่นั้นตลอดเวลา ต่อเนื่องเป็นเวลาหลาย ๆ วัน

    ภัยพิบัติที่จะเกิดขึ้นในแต่ละสถานที่จากคำบอกเล่า ของหลวงพี่วาณิช ตามที่ท่านเห็นในกรรมฐานและคำกล่าว ของเทวดาแก่ท่านเป็นดังนี้

    ภาคใต้ โดยเฉพาะทางตอนล่าง จะพบกับพายุ น้ำท่วม แผ่นดินไหวและคลื่นขนาดยักษ์พัดเข้ามา ทุกสิ่งทุกอย่างจะสูญสิ้นไปหมด แผ่นดินจะหายไปเหลือเพียงเกาะ เพียงไม่กี่เกาะ คนที่อาศัยอยู่เสียชีวิตเกือบหมด

    ภาคกลาง จะพบกับพายุฝนอย่างหนัก แผ่นดินไหว แผ่นดินแยก กรุงเทพมหานครและจังหวัดใกล้เคียง จะจมทะเลลงไปหมด เนื่องจากแผ่นดินไหวและทรุดตัวลงกลายเป็นทะเล

    ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จะพบภัยพิบัติน้อยกว่า ภาคอื่น ๆ เพราะว่าภาคนี้ประสบเคราะห์กรรมอยู่เสมอ เป็น การใช้หนี้กรรมอยู่เป็นประจำแล้ว โดยภาคนี้จะพบลมพายุ และแผ่นดินไหวบ้างเล็กน้อย จังหวัดที่ปลอดภัยก็มี อุดรธานี ขอนแก่น และชัยภูมิ เป็นต้น แต่ปัญหาสำหรับภาคนี้ก็คือ ผู้คนที่รอดตายจะต้องพบกับโรคระบาด และอดอยาก เพราะ พืชพันธุ์ธัญญาหาร ถูกภัยธรรมชาติทำลายหมด

    ภาคเหนือ จะพบภัยธรรมชาติก็คือ แผ่นดินไหว และแผ่นดินแยก มีไฟพุ่งขื้นมาจากใต้พิภพ มีผู้คนล้มตาย จำนวนมาก เช่นเดียวกับภาคใต้และภาคกลาง พื้นที่ริมทะเล จะถูกน้ำท่วมเข้ามา

    สรุปว่าหลังจากเกิดภัยพิบัติแล้ว ประเทศไทยจะต้อง ทำแผนที่ใหม่ เพราะดินแดนบางส่วนจะจมลงใต้ทะเล

    สำหรับภัยพิบัติที่เกิดขึ้นในประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก เป็นดังนี้

    ประเทศที่เป็นเกาะ เช่น ญี่ปุ่น ฮ่องกง สิงคโปร์ ฟิลิปปินส์ ไต้หว้น ฯลฯ จะจมหายไปเกือบหมด

    ประเทศที่เคยเป็นผู้ก่อสร้างสงคราม ในสมัยสงครามโลกครั้งที่หนึ่งหรือครั้งที่สอง ก็จะต้องใช้หนี้กรรมที่ตามมา เนื่องด้วยแรงคำสาปแช่งของผู้ได้รับเคราะห์ เนื่องจากสงครามโลกทั้งสองครั้ง ทำให้ประเทศเหล่านั้นประสบภัยพิบัติ ที่เกิดจากแรงอาฆาตจนพังพินาศไปหมด

    ประเทศที่เคยล่าอาณานิคม ประเทศที่เคยค้าทาส และใช้แรงงานทาสมาก่อน จะต้องประสบกับภัยพิบัติจากคำสาปแช่งของผู้ที่ต้องทนทุกข์ทรมานในอดีต และกลุ่มประเทศ ที่เคยล่าอาณานิคมมาก่อน จะหันมาทำสงครามกันเอง

    ภายหลังจากการเกิดภัยพิบัติ อันเนื่องมาจากแรงอาฆาตพยาบาทและสาปแช่ง ของเหล่ามนุษย์โลกที่ต้องทนทุกข์ ทรมาน เนื่องจากถูกเอารัดเอาเปรียบและข่มเหง ประชากรทั่วโลกจะมีชีวิตรอดเหลือเพียงไม่เกิน 1 00 ล้านคน จากปัจจุบันที่มีประชากรทั้งโลกมากกว่า 5,000 ล้านคน

    คนที่รอดชีวิตภายหลังเหตุการณ์ครั้งนี้ จำแนกได้เป็น 3 ประเภท คือ

    1. พวกที่รอดชีวิต แต่สูญเสียสติสัมปชัญญะอย่างสมบูรณ์ ที่เป็นเช่นนี้เนื่องจากมีจิตใจและสติที่ไม่เข้มแข็งพอ ไม่ได้ฝึกเจริญกรรมฐานมาก่อน ไม่สามารถทนเห็นสภาพของ เหตุการณ์ต่าง ๆ ได้ เช่นคนตายจำนวนมาก แผ่นดินไหว แผ่นดินแยก ฯลฯ

    2. พวกที่รอดชีวิต แต่สูญเสียสติสัมปชัญญะไปชั่วขณะ หรือบางส่วน ที่เรียกว่า "กึ่งดี-กึ่งบ้า" พวกนี้ได้แก่ผู้ที่ฝึกหัดกรรมฐานมาบ้าง จนมีพื้นฐานพอสมควร แต่ยังไม่แข็งแกร่งพอ

    3. พวกที่รอดชีวต และมีสติสัมปชัญญะอย่างสมบูรณ์ ซึ่งจะมีจำนวนน้อยมาก ได้แก่ผู้ที่เจริญกรรมฐานมานานหลายปี จนมีจิตใจเข้มแข็งมองเห็นการเกิด แก่ เจ็บ และตาย เป็นธรรมดาของมนุษย์โลก หรืออาจกล่าวว่าได้แก่ผู้ที่เคยเจริญมรณานุสติ มาเป็นประจำแล้วจนไม่กลัวความตายและมองเห็นความตายเป็นเรื่องธรรมดานั่นเอง

    ตามที่หลวงพี่วาณิช ท่านเห็นทางกรรมฐานมาท่าน กล่าวต่อไปอีกว่า ประเทศไทยจะมีผู้รอดชีวิตมากที่สุด เมื่อเทียบกับประเทศอื่น ๆ ทั่วโลก คือ ประเทศไทยจะเสียหาย เพียง 70% ขณะที่ประเทศอื่น ๆ เสียหายเกินกว่า 90% ภายหลังภัยพิบัติใหญ่ครั้งนี้ มนุษย์โลกที่รอดชีวิตมาได้ ยังต้องประสบกับภัยโรคระบาด ตายไปอีกไม่น้อย

    หลังจากเหตุการณ์ทั้งหมดนี้ผ่านพ้นไปแล้ว โลกมนุษย์คงเหลือแต่ผู้มีศีลธรรม คนชั่วทั้งหลายจะเสียชีวิตไปหมด หรือกลายเป็นคนบ้า สูญเสียสติสัมปชัญญะ เพชรนิลจินดาและทรัพย์สมบัติทั้งหลาย จะผุดขื้นมาเกลื่อนพื้นโลก พรรณไม้ต่าง ๆ แปลก ๆ จะออกดอกออกผลเต็มไปหมด อาหารการกิน จะอุดมสมบูรณ์มาก แต่ใช้เวลาอีกหลายร้อยปี

    โลกมนุษย์จะค่อย ๆ วิวัฒนาการขึ้นมาใหม่อีกครั้งหนึ่ง ภายหลังจากที่ถาวรวัตถุทั้งหลายถูกทำลายลงไปหมด ทัศนคติและค่านิยมของคนในยุคนี้ จะตรงกันข้ามกับในยุคก่อนเกิดภัยพิบัติ คือมีความเจริญทางจิตใจและมีคุณธรรมสูงขึ้น แต่ความเจริญทางวัตถุจะมีน้อยมาก เพราะจะต้อง ก่อสร้างกันใหม่หมด เพชรนิลจินดาทั้งหลายที่กองเกลื่อนพื้นดิน จะไม่มีค่า อาหารการกิน จะมีค่ามากกว่า

    ประเทศไทย ซึ่งมีคนรอดชีวิตมากกว่าประเทศอื่น ๆ จะค่อย ๆ เจริญขื้นมา จนภาษาไทยจะกลายเป็นภาษาหลักของโลกในที่สุด เนื่องจากคนในประเทศอื่น ๆ ถึงแม้ว่าจะรอดชีวิตก็จะมีสติ วิปลาสไปหมด และการเจริญกรรมฐานนั้น ก็มีปฏิบัติกันเฉพาะในเมืองพุทธเท่านั้นเป็นส่วนมาก เมืองนอกก็มีแต่น้อยและจิตสมาธิไม่สูงเหมือนคนไทย ชาวไทยผู้มีศีลธรรมซึ่งเหลือรอด จากภัยพิบิตนี้ จะได้ทำบันทึกเหตุการณ์ครั้งนี้เอาไว้ และหลัง จากนี้ไปอีก 300 ปี ถึง 400 ปี วิชาการ ลิ่งก่อสร้าง ฯลฯ จะเกิดขึ้นอีกครั้งหนึ่ง ควบคู่กับจิตใจของมนุษย์โลก ซึ่งเจริญเข้าสู่ยุคศิวิไลซ์ คือมีชีวิตงดงาม หลวงพี่วาณิท่านเล่าว่า ผู้ที่จะไปเกิดในยุคนี้ได้จะต้องเป็นผู้มีศีลธรรม รู้จักทำบุญทำทาน มากพอสมควร

    เมื่อท่านได้เล่าถึงภัยพิบัติต่าง ๆ แล้ว ท่านได้เล่าต่อไปว่า ท่านได้เอ่ยถามเทวดาผู้มาแจ้งข่าวท่านในกรรมฐาน ภัยพิบัติที่จะเกิดขึ้นจะสามารถแก้ไขหรือบรรเทาได้อย่างไร แค่ไหน เทวดาตอบว่าไม่สามารถจะระงับภัยพิบัติได้ ซึ่งกล่าวได้แค่สามารถบรรเทาให้เบาบาง ลงไปได้ตามแต่การปฏิบัติดี ปฏิบัติชั่วของชาวโลกทั้งหมด เพราะว่าสาเหตุของภัยพิบัติ นั้น เกิดจากความชั่วของชาวโลกทั้งหมดนั่นเอง


    ที่มา http://www.madchima.org/forum/index.php?topic=5904.0;wap2
     
  8. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,710
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    โหรโสรัจจะ เตือนภัย จะเกิดสึนามิอีกครั้ง

    990111-img.s2l3df.ylxk.jpg

    พฤศจิกายน 2561 ระวังพายุโซนร้อน ระวังสึนามิ สงครามอาวุธร้ายแรง

    เดือนนี้จะมีสิ่งดีและไม่ดีเกิดขึ้น นั่นก็คือ ต้นเดือนประเทศเราจะได้เกียรติได้รับการสรรเสริญ จะมีแขกระดับประมุขของประเทศมาเยือน จะได้รับความเอื้อเฟื้อจากต่างชาติด้วยดี หุ้นยังดีอยู่ แต่พอเข้ากลางเดือนประเทศไทยก็ถูกตรึงด้วยบาปเคราะห์เป็นปลายหอก มีดาวจันทร์เป็นตัวเสริมให้ครบมุม สิ่งไม่ดีจะเกิดขึ้นหลายอย่าง

    พายุโซนร้อนผ่านภาคกลางและตอนใต้ของไทย สร้างความเสียหายไปทั่ว ถนน สะพาน ทางรถไฟ เขื่อนเก็บกักน้ำขนาดใหญ่ และสาธารณูปโภคถูกทำลายสิ้น

    คนงานในบริษัทใหญ่โตถูกลอยแพ รวมทั้งข้าราชการต้องถูกปลด สร้างความวุ่นวาย รัฐบาลไม่สามารถแก้ไขอะไรได้

    ประเทศเพื่อนบ้านใกล้เคียง พม่า สิงคโปร์ จะต้องเผชิญหน้ากับภัยทางด้านเศรษฐกิจอย่างร้ายแรง

    ราวปลายเดือนเกิดฝนตกหนักไม่หยุดเป็นหลายสัปดาห์ในกรุงเทพฯ ลงมาทางใต้ต่อ จะเกิดน้ำท่วมใหญ่ที่สุดในกรุงเทพฯ อีกครั้งหนึ่ง ดินฟ้าอากาศวิปริต อาเพศไปทั่ว เดือนนี้สภาพภูมิอากาศหนาวจัดที่สุดในรอบร้อยปี มีคนเสียชีวิตจำนวนมาก และเกิด “หิมะตกในเมืองไทย” ทางภาคเหนือและภาคกลาง ผู้คนตกตะลึงกันไปทั่วโลก

    เกิดคลื่นสึนามิ พัดเข้าถล่มทางฝั่งทะเลอันดามันอีกครั้ง สูญเสียชีวิตผู้คนนับแสน

    น้ำแข็งที่ขั้วโลกจำนวนมหาศาล ละลายอย่างรวดเร็วสุดที่จะยับยั้ง ทำให้น้ำในทะเลและมหาสมุทรสูงขึ้นมาก เกิดสภาวะน้ำท่วมใหญ่ของโลกในบริเวณที่ลุ่มต่ำ ประเทศไทยและนานาประเทศถูกน้ำท่วมครั้งยิ่งใหญ่ หมู่เกาะบางเกาะจมลงไปในทะเล สูญเสียทรัพยากรธรรมชาติและชีวิตมนุษย์ครั้งใหญ่ของประเทศชาติ

    อินเดียและปากีสถาน เกิดวาตภัยรุนแรง สัตว์เลี้ยงและผู้คนล้มตายมากมายนับไม่ถ้วน

    สหรัฐอเมริกา คงตกต่ำ นโยบายต่างประเทศไร้ผล ผู้มีอำนาจถูกตำหนิ และทำการล้มเหลว มีฐานะง่อนแง่น อยู่ในภาวะอันตรายอย่างยิ่ง

    สงครามระหว่างสหรัฐฯ กับตะวันออกกลาง ทำให้โลกต้องตกอยู่ในช่วงฝันร้าย ใช้กำลังทหารและอาวุธรุนแรงเข้าห้ำหั่นกัน มีผู้ถือหางทั้งสองฝ่าย อาณาบริเวณที่จะเกิดจุดฆาต คือ สหรัฐฯ อังกฤษ อิสราเอล กลุ่มประเทศปาเลสไตน์ ออสเตรเลีย จีน รัสเซีย ฝรั่งเศส ประเทศไทยถูกดึงเข้าไปสู่สงครามใหญ่ครั้งนี้ด้วยสงครามยืดเยื้อต่อไปจนกลายเป็นสงครามโลกครั้งที่ 3

    ธันวาคม 2561 ไข้หวัดนกรีเทิร์น ดวงเมืองแตก ธันวาหฤโหด

    ตลาดหุ้นเจอกับภาวะคับขัน ตกเป็นท้องร่วง ร่วงหล่นไม่หยุดตลอดเดือน จะเกิดแผ่นดินไหวครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา ภัยธรรมชาติจะยังคงคุกคามต่อไปอีก แผ่นดินไหวครั้งใหญ่นี้จะเกิดขึ้นทางภาคเหนืออีกครั้งต่อเลยมาถึงกรุงเทพฯ จะเกิดต่อเนื่องหลายครั้ง แต่ละครั้งก็ทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น

    ไข้หวัดนกกลับมาระบาดอย่างหนักอีกครั้ง กลายพันธุ์เป็นโรคร้ายที่ติดต่อจากมนุษย์สู่มนุษย์ วงการแพทย์ยังไม่มีวัคซีนหรือยารักษาได้ คร่าชีวิตผู้คนไปจำนวนมาก สิ่งที่ไม่ดีที่จะเกิดขึ้นคือ จะมีอุบัติเหตุร้ายแรงเกิดขึ้น สภาพเหตุการณ์ภายในเป็นที่น่าวิตก อาจปั่นป่วน หรือมีผู้ยุยงให้วุ่นวายได้ อาจมีการประสานงากันบ้างกับประเทศเพื่อนบ้าน

    ดวงกำลังตก ประเทศชาติ “ดวงเมืองแตก” อันเป็นเหตุให้บ้านเมืองวิบัติ เป็นปีแห่งความไม่แน่นอน ประชาชนสิ้นศรัทธากับบุคคลสำคัญของบ้านเมือง กลุ่มนักการเมืองร่วงหล่นเป็นแถวๆ

    ผู้บริหารของภาครัฐที่ขาดวิสัยทัศน์ ทำให้ความต้องการแท้จริงของระบบเศรษฐกิจและการค้าไทย ไม่ได้รับการแก้ไขและเยียวยาอย่างทันท่วงที ส่งผลให้ภาคธุรกิจอุตสาหกรรมต่างๆ ของไทยอ่อนแอ ขาดศักยภาพในการแข่งขัน และที่สำคัญต้องแบกภาระความไร้ประสิทธิภาพ ไม่สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าทัดเทียมกับคู่แข่งในต่างประเทศได้

    ในสถานการณ์ที่ตลาดการค้าการแข่งขันของไทยเดือนนี้ได้รับแรงกดดันอย่างมากจากสินค้าราคาถูกจากประเทศคู่แข่งทางการค้าอย่างเช่น จีน และเวียดนาม และระบบการค้าที่นับวันจะตกอยู่ภายใต้ภาวะจำยอมกับข้อตกลงทางการเสรีทางการค้าระหว่างประเทศ

    ปลายเดือนทางใต้หลายจังหวัดประสบอุทกภัยร้ายแรง คนล้มตายและไร้ที่อยู่จำนวนมาก รัฐบาลไม่เหลียวแล

    ข่าวในหน้าหนังสือพิมพ์เป็นข่าวปล้นฆ่าทารุณอย่างน่าสยดสยองทั้งสิ้น มีผู้ค้ายาเสพติดมากมายทำให้เสื่อมเสียไปทั่วโลก เป็นระยะที่ค่อนข้างจะมีเหตุหวั่นไหวและมีเหตุกระทบกระเทือนใจเกิดขึ้น

    “เกิดน้ำท่วมใหญ่” น้ำก้อนมหึมาทะลักเข้าท่วมหมู่บ้าน อำเภอ ตำบล หลายจังหวัด พื้นที่เพาะปลูกไร่นา สิ่งก่อสร้าง สัตว์เลี้ยง และผู้คนตื่นตระหนกขณะที่นอนหลับ อพยพหนีไม่ทัน ต้องล้มตายลงมหาศาล อย่างอเนจอนาถ จำนวนน้ำมหึมาไหลลงมาสร้างความเสียหายจนถึงกรุงเทพฯ

    เดือนธันวาคม หฤโหดนี้ จะพบแต่ความยากลำบากทุกชาติทุกภาษา ไม่ว่าจะเป็นด้านชีวิตความเป็นอยู่ เศรษฐกิจ สังคม

    ที่มา https://www.thairath.co.th/content/1166995
     
  9. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,710
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    Emergency Kit อุปกรณ์ที่ควรมีติดตัวระหว่างเดินป่า

    เผยแพร่เมื่อ 14 มิ.ย. 2010​
     
  10. 9อมตะ9

    9อมตะ9 อมตะ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    571
    ค่าพลัง:
    +1,288
    ดวงอาทิตย์ยามเช้า ย้ายทิศขึ้นไปทางใต้เรื่อยๆๆๆๆ
     
  11. คมสันติ์

    คมสันติ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    100
    ค่าพลัง:
    +259
    เมตตา คุณณัง อะระหัง เมตตา
    เวลามิใช่เหลือน้อยครับ
    แต่..หมดแล้วครับ..
    จิตแกร่ง นิ่ง สงบ วาง ว่าง ละ ปลง
    บุญ บารมีในตน จะเป็นสิ่งที่นำพาตนให้ปลอดภัย
    แบบฉิวเฉียด..ดังปาฎิหารย์..
    สาธครับ
     
  12. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,710
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    บันทึกของพระคุณลุงคนเชียงใหม่ ถึงหลาน ๆ เรื่องภัยพิบัติ

    knowing.jpg

    วิกรม สมาชิก

    เรียนสมาชิกทุกท่านครับ หลังจากไตร่ตรองอยู่หลายวัน ผมตัดสินใจนำบันทึกทั้งหมดของพระคุณลุง ออกนำมาเสนอก่อนที่จะเกิดภัยพิบัติมากเกินไป กว่าที่จะคาดเดาได้ของมนุษย์ชาติ ในประวัติศาสตร์ของประเทศไทย โดยที่ผมมีส่วนได้เห็นคำบันทึกอันเนื่องมากจากญาน ของพระคุณลุง โดยที่ผมไม่ได้นำมาเสนอให้มีการเตรียมการกัน จะเป็นบาปติดในใจผมซึ่งถ้าเกิดเหตุการณ์แบบในบันทึก ที่เขียนไว้ แม้นว่าตัวผมเองจะได้วางอุเบกขา แต่ว่าถ้าไม่ได้เผยแพร่ออกไปผมสิ่งนี้ถือว่าผมขาดเมตตา จะเชื่อหรือไม่เป็นเรื่องของบุญกรรมของท่าน ในส่วนตัวผมเองถือว่าได้เผยแพร่สิ่งที่ติดค้างในใจผมแล้ว

    ผมขอแบ่งบันทึกออกเป็น 4 ตอนนะครับ
    1. เรื่องราวที่เกิดขึ้นในวันฟ้าดับ
    2. เรื่องราวที่จะเกิดตามมาหลังวันฟ้าดับ 3 วัน
    3. เรื่องราวที่จะเกิดขึ้นหลัง จากวันฟ้าดับ
    4. คนไทยจะเผชิญกับสิ่งใดบ้าง

    1.เรื่องราวที่เกิดขึ้นในวันฟ้าดับ

    วิกรมหลานลุง หลังจากลุงได้แจ่มชัดในญานทัศนะในสิ่งที่จะเกิดขึ้นแล้ว ทำให้จิตใจของลุงเองเศร้าหมอง จนไม่อาจข่มจิตให้เป็นอุเบกขาว่ามนุษย์ทุกคนล้วนมีกรรมเป็นของตัวเอง การเข้าไปก้าวล่วงกรรมของผู้อื่นนั้น ผู้ที่เข้าไปเปลี่ยนแปลงนั้นจะต้องเป็นผู้แบกรับกรรมนั้นๆ ไว้ หลังจากบันทึกนี้ลุงตัดสินใจที่จะออกบวช เรื่องราวที่มีการเตรียมการกันนั้น ฝากให้หลานดูแล ประสานกับคุณลุงประสิทธิ์ และกลุ่มบ้านพุทธบุตร เพื่อช่วยเหลือกันตามกำลังบุญต่อไป เรื่องราวที่ลุงบันทึกทิ้งไว้ใหลานนี้ ทั้งหมดเพื่อไม่ให้หลานและ คณะเกิดความประมาท ในสิ่งที่จะเกิดขึ้น ทั้งในด้านการเตรียมการภายนอกและการเตรียมการภายใน เน้นย้ำเรื่องการฝึกตายก่อนตาย เพื่อให้จิตคุ้นเคยกับอาสัญกรรมในทางสว่าง ให้กับน้อง ๆ และหลาน ๆ ทุกคนด้วย เพราะกุญแจดอกแรกที่จะเปิดเข้าไปในโลกแห่งวิญญานนั้น กรรมที่แรงสุดคืออาสัญกรรม เพราะถ้าจิตผูกยึดกับสิ่งใดในขณะที่ขาดห้วงลมหายใจสุดท้ายนั้นถ้าหากมีเพียงแค่เสี้ยวอึดใจ อาจจะถลำลงสู่อบายภูมิถ้า จิตเป็นอกุศล หมั่นทำทานในสิ่งที่ยากๆเพื่อไม่ให้ตนติดยึดกับคน สัตว์สิ่งของใดๆ อันจะเป็นแรงเหนี่ยวรั้งเรา ไปสู่การเกิดที่ไม่เป็นกุศล หม่นเจริญมรณะสติ เรื่องราวที่ลุงได้บันทึกไว้ให้หลานนี้ เป็นเรื่องราวที่เกิดจากญานทัศนะของลุง เพื่อให้หลาน จะได้เตรียมตัว เตรียมใจ วันเวลาอาจจะมีการคลาดเคลื่อนบ้างตามเหตุและปัจจัย แต่ เรื่องราวที่จะเกิดขึ้น สิ่งเตือนซึ่งวันเกิดภัยพิบัตินั้น ไม่เปลี่ยนแปลง

    เรื่องราวที่จะเกิดขึ้นนั้น ลุงขอเรียกว่า วันฟ้าดับ ก็แล้วกัน เพราะในยามนั้น สิ่งที่เกิดขึ้น ทุกด้านมืดสนิท แม้แต่ในยามที่เราหลับตายังมีความสว่างมากกว่าเสียอีก ลุงบันทึกหลังจากอธิฐาน ไปยังวันก่อนหน้าที่จะเกิดภัยพิบัติแก่บ้านเรา 3 วันเจ็ดวัน ก่อนหน้านั้นลุงเห็น คนที่มีจิตเป็นอกุศลกรรม ได้มีการฉลอง จุดพลุ ร้องเพลงปีใหม่และนับย้อนหลังในวันสิ้นปี (ลุงจึงคาดว่าเหตุการจะเกิดขึ้นหลังฉลองสิ้นปีใหม่) ลุงเห็นดาวเหนือเปลี่ยนไป ในลักษณะที่อธิบายไม่ถูก แต่มีความแตกต่างและเห็นได้เจนทั้งขนาด และความสว่าง (จุดนี้น่าจะเป็นสัญญานเตือนให้มีการเตรียมการกันนานหลายวัน) ในวันฟ้าดับ ก่อนหน้านั้นจะมีฝนตกต่อเนื่องกันหลายวัน แล้วในวันนั้นไร้ฝน ฟ้าหม่นหมองยิ่งนัก ใบไม้ เงียบจนไม่ฟลิกใบ ฝูงสัตว์เลี้ยง สัตว์ป่า จะครวญครางแอบหมอบ

    ลุงเห็นฟ้าสว่างโร่อย่างไม่เคนเห็นมาก่อน (ทำให้ลุงนึกถึงเรื่องราวที่คนเล่าถึงแสงสว่างจากระเบิดปรมาณู) ในยามที่เกิดแสงสว่างลุงเตือนหลานและทุกคนอย่าพยายามที่จะมองหาต้นทางของแสง เพราะหลังจากนั้นลุงเห็นภาพคนที่ตามืดบอดเนื่องจากแสงจักรวาลที่ฟาดลงมาแทงทำลายตาของเขา แต่หลังจากเกิดแสงนี้แล้วหลานยังมีเวลาเตรียมตัว ในช่วงนี้เองสัตว์ต่าง ๆ จะตื่นกลัววิ่งหนีแบบ ไม่มีทิศทาง บ้านเราถ้ามีสัตว์ใดขอให้หลานอย่าได้กักขังเขา เพราะจะเป็นอันตราย แม่แต่สัตว์ที่เชื่องที่สุด แต่ก็มีบางตัวที่จะรอดนั้นจะหมอบตัวสั่นใกล้ ๆ กับมนุษย์ ในยามนี้ขอให้หลานได้เข้าไปยังสถานที่ที่มีการเตรียมการและปิดให้มิดชิด อาหาร น้ำ ยา และชุดยังชีพให้ทุกคนแยกติดตัวไว้ อย่าเอารวมกันเพื่อจะแบ่งกัน เพราะอาจจะลำบากมาก ในการติดต่อกันแม้แต่อยู่ใกล้ ๆ กัน

    ส่วนการย้ายเข้าที่ปลอดภัยและ ที่มีมีการเตรียมการอพยพขอให้หลานๆได้เตรียมตัวกันเต็มที่ หลังจากที่เห็นดาวเหนือเปลี่ยนไป หลังจากที่มีแสงจักรวาลเข้ามาแล้ว หลังอีกไม่นานนัก ลุงเห็นภาพคนกำลังทานข้าวกันอยู่ จะเกิดเหตุการณ์โลกเราเหมือกับชนกับอะไรซักอย่าง คนที่อยู่บนผืนดิน เหมือนคนที่อยู่บน รถขนาดใหญ่ที่มีการชน ภาพคนคนล้มไถล ไปกับพื้น ตึกพังทลายราบ ลงมาทันที ยังไม่ทันได้ตั้งตัว จะมีเสียงดังเหมือนวัวยักษ์ครางอือ ๆๆๆๆๆ ขอให้หลานและทุกคนห้องแข็งแรงของเรา หรือคนที่ อยู่นอกพื้นที่ให้เข้าไปยังที่มีหลังคาแข็งแรงและปิดหูด้วยอุปกรณ์ป้องกันเสียงที่ลุงได้ให้เตรียมไว้แล้ว เพราะพอเสียงวัวยักษ์ร้องเงียบลง ไม่กี่อึดใจ ลุงเห็นภาพผู้คนวิ่งออกจากตึกเพราะกลัวแผ่นดินไหวที่จะตามมา หลังจากนั้น จะมีเสียงดังที่สุด ซึ่งลุงก็บอกไม่ได้ว่ามันดังแค่ใหน แต่หลังจากนั้นลุงเห็นผู้คนเลือดออกจากรูหูนอนกลิ้งเกลือก ไปตามพื้น ตาเถลือกถลน คนที่เอามืออุดหูทันนั้น ก็ยังไม่สามารถป้องกันได้ เพราะลุงเห็นคน ที่พยายามสื่อสารกัน แต่เหมือนกับว่าคนในโลกนี้แก้วหูขาดไปหมดสิ้นแล้ว เสียงตะโกนโหวกเหวก แต่ต่างคนต่างไม่รู้เรื่อง ลุงจึงขอย้ำเตือนหลานตรงนี้เรื่องการจัดหาอุปกรณ์ป้องกันหูให้ดีที่สุด อาจจะทำให้หนักเป็นเบาได้

    หลังจากนั้นลุงเห็นภาพที่ทุกคนกลับมาตื่นกลัวอีกครั้งจากแผ่นดินไหวรุนแรงและสั่นต่อเนื่องกันผิดจากครั้งแรกที่เหมือนจะชนโครมเดียวแล้วหยุด แต่คราวนี้เป็นเหมือนมีคนจับเอาเราอยู่ในกระด้งแล้วเคาะ ขอบมันอย่างแรงอย่างต่อเนื่อง เสียงหวีดร้องตื่นกลัวดังไประงม แต่ในยามมนั้นนิมิตลุงอาจจะมี เพียงลุงในจุดนั้นที่ได้ยินเสียงเพราะภาพคนที่วิ่งไปมามีเลือดไหลออกจากหู ช่างเป็นภาพที่น่าเวทนา ที่ลูกหลานที่พ่อแม่หอบออกมาจากอาคารบ้านเรือนที่กลัวแผ่นดินไหว มาเจอเสียงดังก็วิงกลับไป ในที่คิดว่าปลอดภัย และพอแผ่นดินไหว ก็พากันวิ่งกระเซอะกระเซิง อออกมาอีก หลานวิกรม ลุงเห็นภาพที่สร้างความน่าเวทนาสงสารสรรพสัตว์ทั้งหลาย ว่าชีวิตมนุษย์มีเพียงแค่นี้เอง ยังไม่จบสิ้นแค่นี้นะ ภาพผู้คนที่วิ่งหลบแผ่นดินไหวออกมา นั่งกอดกัน ร้องไห้ เป็นกลุ่ม ๆ มีควันไฟ ที่เกิดจากไฟไหม้ลอยคละคลุ้งไปหมด หลายคนที่เสียสติเริ่มต้นร้องไห้ ภาพพ่อแม่พยายามค้นหาลูกหลานที่ติดอยู่ในซากปรักหักพัง ต่างคนต่างฟูทฟายร้องไห้ ไม่มีใครสามารถช่วยใครได้

    ในตอนค่ำลุงเห็นคนมารวมกันมีการก่อกองไฟ อากาศหนาว แต่ลมสงบนิ่ง ตอนนี้ลุงเห็นขอฟ้าแดงจ้า จนน่ากลัว แล้วสิ่งที่ลุงเรียกว่าวันฟ้าดับก็เกิดขึ้น ลุงเห็นมีแสงสีแดงพุ่งมาจากพระอาทิตย์ วาบหนึ่ง จากนั้นแสงทั้งหมดก็จะม้วนเข้าไปในรูปทรงกลม ลูงไม่รู้จะเรียกอะไร น่าจะเป็นพระจันทร์ดำ เพราะเป็นสีดำ ๆ เหมือนจันทรุปราคาที่มาบดบังพระอาทิตย์แต่เล็กกว่ามาก แต่ตอนนั้นพระจันทร์ก็ยังเห็นอยู่ แล้วบรรยากาศที่เหมือนเราดับเทียนในห้องมืดที่สุดก็เกิดขึ้น พรึบเดียวแสงทั้งหมดจะหายไป แม้แต่ดวงดาวและพระจันทร์ก็ไม่สามารถมองเห็นได้ ความมืดในขณะนั้นลุงเห็นคนพยายามยกมือ ของตนเองขึ้นมาดูก็ยังไม่สามารถเห็นได้ ความตื่นกลัวก็เกิดโกลาหลอีกครั้ง คนจะกอดคนที่อยู่ใกล้ที่สุดแล้วร้องไห้ระงม คนที่อยู่ห่างจากคนอื่น แม้แต่วาเดียวก็ไม่สามารถหากันเจอ จนกว่าจะคลำหากันเจอ ช่างเป็นภาพที่น่าเอน็จอนาจมาก คนส่วนใหญ่ ที่หูจะแตกดับ หรือคนที่อุดหูทันก็จะมีอาการหูอื่ออึงอยู่ แต่ก็พอยังมองเห็นกัน แต่ในยามมืดสนิทแล้ว เสียงคนพยายามตะโกนหากัน เสียงหวีดร้อง โหยหวนด้วยความกลัว แต่คนส่วนใหญ่จะไม่ได้ยิน ได้แต่สะเปสะปะไขว่คว้าหากัน อย่างนี้เองลุงถึงได้ย้ำกับหลานว่าให้แยกเป้ที่จัดเตรียมไว้ให้สำหรับแต่ละคน และเมื่อเข้าไปอยู่ในที่ห้องปลอดภัยที่ได้เตรียมสร้างไว้ ขอให้หลานสร้างตามแปลนที่ลุงได้เขียนไว้ให้ ตู้คอนเทนเนอร์ที่เตรียมทั้งตู้อาหาร ตู้ปลอดภัย และโรงพยาบาลเคลื่อนที่ ด้วย

    ตอนนี้ดึกมากแล้ว ลุงง่วงแล้วแต่ยังอยากบันทึกให้หลานไว้ให้เสร็จก่อนที่เดินทางไปหาพระอาจารย์ ภาพที่เกิดมาลุงรู้สึกเศร้า ใจกับญานทัศนะที่ลุงได้เคลื่อนไปในยามที่เด่นชัดกับเจอภาพภัยพิบัติที่หนักหนา สาหัญกว่าที่ลุงเตรียมการไว้ จนเกิดเวทนาในสัตว์โลก และเห้นการคร่ำควรญของคนที่ไม่เคยศึกษาทางธรรม และไม่ได้เตรียมตัวกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นและเตรียมมรณะสติไว้เลย ในส่วนที่ลุงบันทึกนี้คนที่มีกรรมและไม่เคยฝึกสมถะกรรมฐานผ่านในขั้ขรูปญานและอรูปญาน 4 นั้น หลานอย่าไปอธิบายเขาเลย เพราะจิตเขาหยาบกว่าที่จะเข้าใจ ในวันฟ้าดับยังมีเรื่องเอน็จอนาจซ้ำเติมมนุษย์ที่ไม่ได้เตรียมการอีก หลังจากที่มืดมิดแล้วลุงยังเห็นภาพ คนคลานหนีหรือกอดกันร้องไห้เพราะยังมีอาการแผ่นดินไหวเป็นระยะ ๆ มากบ้างน้อยบ้างภาพเพดาน สิ่งของเท่าที่คนไปแอบซุกอยู่หล่นลงมา มีคนเจ็บคนตายร้องครวญคราง

    แต่วิกรมมีสิ่งที่น่ากลัวกว่านั้นก็คือ คนที่รอดตายขณะนั้นจะตายมากอีก ลุงเห็นภาพ น้ำแข็งก้อนเท่าทีวี เท่าบาตร หรือบางก้อนขนาดเท่าตู้เย็นเล็ก ทะยอยตกลงมาจากฟ้า ส่วนก้อนขนาดกำปั้น ตกกระจายไปทั่ว คนที่หลบหนีหลังคนที่หักโครมครามออกมาท่ามกลางความมืดนั้น มาอยู่ในที่โล่ง ต้องมาตายกับฝนลูกเห็บยัก ที่มีความเย็นจัดมาก เพราะลุงเห็นภาพคนแข็งตายอยู่กราดเกลื่อน เต็มไปหมด แต่ภาพที่เกิดหลังจากนี้ที่หลานคงคิดว่ามนุษย์ชาติจะอยู่อย่างไร เมื่อลุงอธิฐานไปยังหลังจากนี้แล้วกลับเน็จอนาจ ยิ่งกว่า ลุงจะได้พยายามทบทวนเรียบเรียงสิ่งที่ลุงเห็นมา บันทึกให้หลานๆได้นำไปเตรียมตัวกับสิ่งที่จะเกิดขึ้น ทั้งหมดในสิ่งที่ลุงเห็นมานั้นไม่เคยแจ่มชัดเท่านี้มาก่อน แต่สิ่งที่ลุงได้อธิฐานว่าถ้าลุงมีบารมี และมีบุญที่เกี่ยวเนื่อง กับพระอาจารย์โสณะ ขอโปรดเมตตา ให้ญานทัศนะของลุงชัดเจนแจ่มใส จนได้เห็นภาพเหล่านี้ขึ้นมา

    ขอพระบารมีขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกพระองค์ พระอริยสงฆ์ทุกพระองค์ได้โปรดเมตตาสรรพสัตว์ และหลานๆด้วย
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 พฤศจิกายน 2018
  13. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,710
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    2. เรื่องราวที่จะเกิดตามมาหลังวันฟ้าดับ 3 วัน

    วิกรมที่ลุงฝากบันทึกนี้ให้หลานเพราะ ลุงคาดว่าต้องใช้เวลาสองสามวัน ที่จะบันทึกให้เสร็จหมด เพราะพิมพ์ได้ช้ามาก และที่มอบให้หลานเพราะ หลานเป็นญาติเพียงคนเดียวที่สามารถแยกกายจิตรวมทั้งฝึกสมถะกรรมฐานได้ในระดับที่ จะสามารถสื่อสารทางจิตกับลุงได้ แม้ตอนนี้จะยังไม่สามารถจะไปหน้าหรือย้อนกลับในเรื่องราวของตนเองได้ดีแต่ ขอให้หลานตั้งใจฝึกฝน รายชื่อพระอาจารย์ที่หลานควรจะเดินทางไปฝึกฝนต่อไป บันทึกในส่วนนี้ลุงขอเล่าในเรื่องหลังจากผ่านคืนฟ้าดับมาแล้ว เพื่อให้หลานๆได้เตรียมตัว บันทึกเมื่อคืนก่อนแม้ลุง จะไม่ได้บันทึกละเอียดได้เท่าที่ลุงเห็นมา แต่ภาพรวมก็คงไม่ขาดไปมาก ที่ลุงต้องรีบบันทึกเพราะวันที่ 17 นี้ ลุงจะเดินทางตามพระอาจารย์ไปยังหลวงน้ำทา ประเทศลาวตอนบน

    วิกรม ในส่วนของพื้นที่ ๆ ได้มีการจัดเตรียมไว้นั้นที่ลุงประสิทธิ์เสนอย้ายให้ไกล้ลงมานั้นและรับคนในหมู่บ้านให้มากเพิ่มนั้นลุงขอเล่าเรื่องที่ลุงเห็นมา จะตัดสินใจอย่างไรแล้วแต่หลาน ๆ จะร่วมกันพิจารณา บันทึกในส่วนก่อนลุงเล่าถึงเรื่อง มีก้อนน้ำแข็งที่ตกมาจากท้องฟ้า ทำให้อากาศหนาวเย็นและลมแรงมาก ในส่วนของตู้คอนเทนเนอร์ที่นำมาสร้างห้องแข็งแรงนั้นขอให้ใช้ตู้เหล็กขนาดใหญ่ที่ลุงสั่งมา และให้เร่งเสริม เหล็กกันกระแทกด้านบนและด้านข้าง ให้เลือกที่เป็นตู้ที่ใช้เป็นห้องเย็น เพราะจะช่วยเรื่องอากาศหนาวเย็นหลัง จากมีก้อนน้ำแข็งตกลงมาจากฟ้าได้ดี ในส่วนของตู้สำหรับบรรจุอาหารนั้นถ้าสามารถรวบรวมเงินได้ ก็ให้เปลี่ยนเป็น ตู้แบบตู้ห้องเย็นให้หมด ก็จะปลอดภัยมากขึ้น

    เหตุผลที่ไม่ควรย้ายลงมาเพราะว่า ภาพที่ลุงเห็นถัดไปก็คือ หลังจากที่มีการหยุดของโลกกึ๊กหนึ่งนั้น ภาพน้ำข้ามภูเขามาจำนวนมากมาย ลุงเห็นภาพกรุงเทพจมหายไปกับสายน้ำ ภาพเขื่อนภูมิพล และหลาย ๆ เขื่อนลุงไม่แน่ใจว่าอะไรบ้าง บิดร้าว ตัวเขื่อนแม้ไม่แตกสลายแต่ ขอบ ๆ เขื่อนที่เป็นภูเขาเป็นดิน มีรอยร้าว และมีน้ำกัดเจาะเข้าไป จนน้ำทะลุภูเขาไปอีกด้านจน สุดท้ายภูเขาก็แบ่งออกเป็นสองซีก ลุงเห็นภาพน้ำกวาดบ้านไปเหมือนของเล่น

    ที่เชียงใหม่บ้านเราได้รับความเสียหายจากแผ่นดินไหวมากไม่น้อยกว่าทีอื่น ๆ แต่เรื่องน้ำนั้น เขื่อนแม่งัดแม่กวง แตกพังทะลาย น้ำที่แตกมาจากเขื่อนจะกวาด บ้านเรือนที่อยู่ในส่วนตอนล่าง ลุงเห็นภาพเจดีย์ขาวที่อยู่หน้าเทศบาล ที่ติดแม่น้ำปิงเห็นแต่ตัวยอดนิดเดียว ฝากหลานไปบอกให้เจ้านิดหน่อยกับลูก ๆ และแฟนเขา ย้ายบ้านมารวมกับหลาน แบ่งพื้นที่หลังบ้านในส่วนของลุงยกให้นิดเลยก็ได้ หรือถ้าไม่อยากสร้างใหม่ก็มาอยู่ที่บ้านหลังเล็กของลุงเลย เพราะแถวแม่ริมนี้จะได้รับผลกระทบจากการพังของเขื่อนน้อยก็ เป็นเพียงแต่น้ำเอ่อล้นแผ่ออกมา แต่คาดว่าแผ่มาแต่ไม่ท่วมถึงหน้าวัดบ้านเราหรือว่าขึ้นมาก็คงไม่สูงมากเพราะปริมาณน้ำในเขื่อนแม่งัดน้อยกว่า เขื่อนแม่กวง

    ภาพที่ลุงเห็นในเมืองเชียงใหม่ ตึกรามบ้านช่องที่พังทลายจากก่อนหน้านั้นผู้คนออกมาในคืนฟ้าดับนั้น กลับโดนกวาดไปกับสายน้ำ ที่บ้านเราจะรุนแรงและต่อเนื่องกันเพราะเขื่อนบ้านเราอยู่ใกล้เขื่อนน้ำเดินทางเพียง สองสามชั่วโมงเท่านั้นเอง คนแถวสันทราย ดอยสะเก็ด ช่อแลคงเลี่ยงหนีไม่พ้น มวลน้ำทั้งหมดจะกวาด ไปผ่านลำพูน ไปทั้งหมด แต่ด้วยระยะทางของน้ำก็จะเสียหายน้อยกว่าแถว สันทราย เมือง สันกำแพง แถวอำเภอบ้านธิ ลำพูน ลุงจะเตือน ป้าแดงของหลาน และญาติของเราแล้วแต่เขาเคยฝึกจิต และเชื่อเรื่องการเปลี่ยนของโลกได้อย่างไร คงแล้วแต่บุญกรรมของเขา แต่การสูญเสียบ้านเราก็น้อยกว่า พื้นที่เขื่อนใหญ่ๆ ที่มีมวลน้ำจำนวนมาก อย่างเทียบไม่ได้ ลุงเห็นภาพ เจดีย์วัดอรุณ เห็นเพียงยอดฉัตรเท่านั้น หมายถึงกรุงเทพ คงไม่มีที่แห้งให้ยืน ลุงย้ำตอนนี้ขอให้เลือกพื้นที่ อย่างไรก็ให้อยู่ตอนเหนือของเขื่อนหรือหลานจะแนะนำใคร ที่จะย้ายออกมา เพราะเชียงใหม่เองก็ไม่ใช่ว่าจะปลอดภัยทั้งหมด ในยามที่โลกมืดมิดมองไม่เห็นอะไรนั้น พ้นจากแผ่นดินไหว แล้วสายน้ำก็กวาดลงมาอีก จะมีใครซักกี่คนหนอที่จะรอดผ่านไปได้ถ้าไม่มีการเตรียมการก่อนล่วงหน้า รวมทั้งการเลือกพื้นที่ ๆ ปลอดภัยก่อนเพราะในยามนั้นไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้แล้ว

    อดคิดถึงเชียงรายพะเยาไม่ได้ ถ้าน้ำจากเขื่อนที่จีนสร้างไม่รู้จะเสร็จเมื่อไหร่ แตกลงมา ที่ว่าเป็นเขื่อนที่ใหญ่ที่สุดในโลก ก็หมายถึงมีการกักน้ำได้มากที่สุด จะทะลักมาตอนนั้นอีกมากเท่าไหร่ หลานอยากแปลกใจเลยที่จุดปลอดภัยของ เชียงรายอยู่ที่ดอยตุง มีเรื่องที่หลานต้องเตรียมไว้ด้วยนะว่า ในช่วงของการที่มีความมืดมิดของโลกนั้นใช่ว่าจะเป็นความมืดแบบไม่มีแสงใด ๆ คงไม่ใช้ แต่จะมีฟ้าแลบ ฟ้าผ่า ลงมาเสียงผ่าที่ดังกว่าเสียงระเบิด เปรี้ยง ๆ ๆ พอ ๆ กับเสียงระเบิดหิน เป็นเวลาก่อนที่ก้อน น้ำแข็งจะร่วงมาจากฟ้า เพราะฉนั้นเวลาที่มืดมิดแล้วเริ่มเห็นแสงขึ้นมาอย่าออกจากห้องเพราะ มันจะเป็นแสงฟ้าแลบ และจะตามด้วยก้อนน้ำแข็ง ขอให้หลาน ๆ อย่าได้พยายามที่จะเปิดอุปกรณ์ใดที่เป็นแสงเพราะจะเกิดการผ่าเข้ามาที่ บริเวณนั้น แต่ว่าในห้องสามารถที่จะใช้เส้นเรืองแสงที่ลุงให้เตรียมไว้ ในกรณีที่ต้องรักษาอาการบาดเจ็บของคน แต่ต้องปิดประตูให้มิดชิด ให้อยู่ในห้องแข็งแรง นั้นอีก 3 วันหรือจนกว่าอาหารในเป้ ที่เตรียมไว้สำหรับทุกคนหมดที่เตรียมไว้ 4 วัน จึงออกมาจากห้องแข็งแรงได้

    ในช่วงที่อยู่ในห้องแข็งแรง ขอให้หลาน นำน้อง ๆ และลูก สวดบทสวดมนต์ที่ลุงได้บังคับท่องให้ขึ้นใจ ไม่ต้องกลัวว่าใครจะได้ยินเพราะตอนนั้นคนส่วนใหญ่จะหูแตกหรือยังอื้ออึงอยู่ แต่จะช่วยป้องกันอมนุษย์ หรือสิ่งที่หลุดออกมาจากโลกที่ต่างมิติออกไปเข้ามา หลานเคี่ยวเข็ญให้ยายจุ๊กจิ๊ก กับหนูบ๊วย สวดด้วยอย่างน้อยต้องสวดบทชินบัญชรต้องได้ วิกรม อย่าลืมน้ำผึ้งที่ลุงสั่งไว้ที่ฟาร์มผึ้งสุภาพเอามาเก็บไว้ในห้องด้วย เพราะจะช่วยเด็กๆไม่ต้อง ทานอาหารแห้ง ๆ อย่างไร้รสชาติไปหลายๆวัน

    ย้ำเรื่องการออกจากห้องแข็งแรง อย่าออกจนกว่าจะเห็นแสงอาทิตย์จากข้างนอก หลังจากนั้น หลานอย่าได้รอที่จะย้ายขึ้นไปรวมกับลุงประสิทธิ์ แต่ต้องรอสังเกตุให้ฟ้าสว่างชัด ถ้าขอบฟ้ายังเป็นสีเหลืองอมฟ้า อย่าได้รีบเคลื่อนย้าย ระวังอย่าให้ทุกคนหรือเด็ก ๆ โดนฝนเป็นอันขาด เพราะในก้อนน้ำแข็งที่หล่นมาจากฟ้านั้นมี เชื้อโรค ที่ยาในรายการที่ลุงเตรียมไว้ให้หามาไว้ในห้องยาของเราไม่ครอบคลุม ลุงได้ตรวจสอบกับครูบาอาจารย์แล้ว ตรงกันก็คือวันฟ้าดับนั้นประมาณ 3 วัน ซึ่งหลานอย่าได้กังวลเกี่ยวกับวันเวลาเพราะ ในสิ่งที่ลุงไปเห็นมา มันมืดจนแยกเวลาไม่ออกอยู่แล้วว่าผ่านไปเทียบกับกี่วันในเวลาโลกปกติ

    ในส่วนที่อื่น ๆ หลานอย่ารู้มากกว่านี้เลย เพราะจำทำให้จิตใจเศร้าหมองกับการจากไปของญาติพี่น้องคนที่รู้จักมากมาย ขอให้หลานอย่าได้หยุดตั้งใจฝึกจิตของหลานให้มีร่างจิตสามารถสื่อสารได้ และสามารถแยกร่างจนชำนาญนั้นก็จะช่วยให้หลานเป็นที่พึ่งของคนอื่น ๆ ได้

    วันนี้คงได้แค่นี้สายตาลุงชักจะไม่ใหวแล้ว ในส่วนของบัญชีเงินฝากของลุงที่มีในธนาคาร กรุงเทพ กรุงไทย และกสิกรไทย ลุงได้เซ็นใบถอนทิ้งไว้แล้ว หลานเบิกและย้ายมารวมกันในบัญชีธนาคารกรุงไทย ที่ลุงให้หลานใช้ในการซื้อของจัดเตรียมสร้างตู้คอนเทนเนอร์ให้หมด จะได้สะดวกในการทำงาน เพราะถ้าหลังจากนี้ลุงบวชเงินก้อนนี้ก็คงไม่จำเป็นสำหรับลุงแล้ว
     
  14. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,710
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    3. เรื่องราวที่จะเกิดขึ้นหลัง จากวันฟ้าดับ

    วันนี้วันที่ 15 แล้ว ลุงมีเวลาอีกสองวันที่จะบันทึก ก่อนที่จะเดินทางไปตามกำหนดที่ได้นัดหมายกับพระอาจารย์ไว้ ลุงจะพยายามบันทึกสิ่งที่มีประโยชน์กับหลานและคณะที่เตรียมการกันมากที่สุด เท่าที่จะทำได้ และความสามารถและสายตาลุงสามารถทนได้กับจอคอมพิวเตอร์นี้

    วิกรม ที่ลุงต้องรีบให้หลานอพยพหลังจากที่ฟ้าสว่างแล้วนั้น เพราะหลังจากนั้นอีกไม่เกิน 10 วันศพคนตายที่มีจำนวนมากได้เริ่มเน่าเหม็น แม้ส่วนใหญ่สายน้ำได้จะได้พัดพาไปด้วยแล้ว แต่มีอีกเป็นจำนวนมาก ที่เสียชีวิตเนื่องจากหนาวตายจากอุณภูมิที่ก้อนน้ำแข็งได้ตกมาจากฟ้าและไม่ ได้เตรียมการเอาไว้ อย่าห่วงของที่เหลือเพราะในหมู่บ้านที่มีการเตรียมการไว้แล้วนั้นมีอาหาร เพียงพอสำหรับสมาชิกที่เคลื่อนขึ้นไปทานอย่างประหยัดสามารถอยู่ได้นานกว่า สองปี ซึ่งเมื่อถึงวันนั้น แกนโลกก็คงสมดุลย์และคนอื่นๆก็คงสามารถปรับตัวได้

    ในระหว่างเดินทางนั้น ให้สวมชุดที่ใช้สำหรับการควบคุมโรคไข้หวัดนก ที่ลุงได้ซื้อเตรียมไว้และเมื่อในระหว่างทางเจอฝนให้ใช้ผ้ายางปันโจ กาง อีกครั้งอย่าให้เด็กๆลุยฝน ในช่วงหลังจากนี้วิกรมพาน้อง ๆ หลาน ๆ ไปออกกำลังโดยการเดินทุกวัน เพื่อในยามที่ต้องเดินเท้าจะได้ไม่ลำบาก ลุงทดลองเดินสบายๆโดยไม่หยุดเลย ออกจากบ้านแม่ริมตอนเช้า ไปถึงหมู่บ้านเรายังไม่ค่ำนัก ถ้าจำเป็นก็แบกเจ้าตัวเล็ก ๆ แล้วใช้ตัวลาก บรรทุกของเป้ แบบล้อสูง ก็คงไม่ทุลักทุเลนัก แต่แน่นอนทางเสียหายหมด แต่เส้นทางที่เดินไปหลานเดินทางไปบ่อย ๆ ถึงจะเปลี่ยนแปลงอย่างไรก็คงไม่คลาดเคลื่อนมากนัก ในระหว่างทางถ้ามีการขออาหารหรือสิ่งของก็ให้ไปอย่าขัดขืน แต่ต้องรีบเดินทางให้ถึงก่อนค่ำ

    เพราะในยามค่ำคืนนั้น มีอมนุษย์ที่หลงหลุดมาจากต่างมิติ ที่คุ้นเคยกับความมืด จะมารบกวนเด็ก ๆ ได้ ลุงเล่าเรื่องที่ลุงเห็นผ่านญานให้หลานเตรียมตัวในช่วงนี้จะได้ประมาณสถานการณ์ได้

    ลุงเห็นผู้คนในเมืองที่เสียสติเที่ยวไปคุ้ยเขี่ยหาอาหาร มีการปล้นฆ่ากัน ซากศพก็มีกองระเกะระกะ มีทหารถือปืนเสื้อผ้าขาดกะรุ่งกะริ่งไม่มีสภาพทหารออกมาปล้น โรงพยาบาลที่ลุงเคยทำงาน ตึกใหญ่ล้มพังเกลื่อนลงมา ถนนหนทางที่เราเคยไปถนนคนเดินกันเทพไม่เหลือ สภาพให้จำได้ ลุงกำหนดจิตไปที่กรุงเทพ เป็นภาพที่เอน็จอนาถใจมากกว่า น้ำยังไม่ลดลงมากเท่าไร แต่สิ่งที่ลอยเกลื่อนคือซากศพคนตาย มีฝูงจรเข้ ที่ภูเขาทอง ลุงเห็นภาพคนที่แก่งแย่งกัน ค้นหา ปล้นอาหาร ที่เป็นซากห้างใหญ่

    ลุงเห็นภาพซากเขื่อนที่จังหวัดตาก แตกกวาดน้ำไปตามเส้นทาง แทบไม่เหลือสภาพว่านี้เคยเป็นเมืองที่เคยมีผู้คนอยู่มากมาย ลุงเห็นภาพผู้คนที่รอดมาแต่คงอดอาหารบางคนใส่สูทอยู่เลยแต่รวมตัวกันไปปล้นแย่งอาหารของคนที่รอดตายคนอื่น ๆ มีการฆ่ากัน ภาพคนเสียสติเดินไปเดินมาร้องไห้ หัวเราะ ตีอกชกตัวกันเต็มไปหมด

    ลุงเห็นภาพพระ 2 รูป องค์หนึ่งหน้าตามีเมตตา ขาว ๆ อายุประมาณ 4-50 ปี อีกองค์ อ้วน ๆ คล้ำ ๆนิดหนึ่ง อายุกะไม่ถูก พร้อมกับลูกศิษย์นับร้อย ๆ คน เดินทางลงจากเขาลูกเตี้ย ๆ มีวัดอยู่ข้างบน ลุงไม่แน่ใจว่าที่ใหนนะ ช่วยกันฝังศพ และสวดศพตามมีตามเกิด แต่ที่น่าสนใจคือเขาเป็นชาวบ้านธรรมดาแต่รอดชีวิตมาได้อย่างไร มีการเตรียมการกันอย่างไร โดยที่ไม่แสดงอาการหวาดกลัวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเลย สิ่งที่ลุงพบในร่างจิตนั้น ขนาดชาวบ้านก็ยังรู้ว่างลุงผ่านไป หลายคนยิ้มให้แสดงว่า มีระดับจิตที่สูงมาก คงเป็นจังหวัดที่ลุงเคยทำงาน ที่มีภูเขาเตี้ย ๆ และมีวัดบนภูเขา ก็น่าจะแถวนครสวรรค์ หรือลพบุรี อะไรแถวนั้น เพราะญาณทัศนะของลุงนั้นจะกำหนดจิตไปยังพื้นที่ ๆ กายเนื้อเคยผ่านมาแล้ว ภาพจะชัดเจนที่สุด ลุงเสนอให้หลานเดินทางไปกราบพระอาจารย์ทั้งสององค์ และหาหมู่บ้านที่มีการฝึกจิตระดับสัมผัสกับญานทัศนะของคนอื่นที่ผ่านมาได้

    หวังว่าหลานจะชวนน้องกิ๊บที่ทำงานกรุงเทพให้ลาออกกลับมาทำงานที่เชียงใหม่ได้ ที่เหลือก็คงเป็นภาพคล้ายๆ กันถึงความสูญเสีย ขอหลานได้เตรียมใจในส่วนของการสูญเสียคนที่หลานรักด้วยลุงไม่อาจบอกได้ว่าเป็นใคร แต่หลานต้องเตรียมพร้อมกับการเกิดขึ้น ตั้งอยู่และดับไปของสังขารทุกคนที่เกิดมาร่วมกัน

    ผู้โพสต์บันทึกพระคุณลุง ที่บันทึกไว้ให้หลาน ๆ ก่อนออกบวช
    วิกรม หลานพระคุณลุง
     
  15. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,710
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    4. คนไทยจะเผชิญกับสิ่งใดบ้าง

    บันทึกหน้าสุดท้ายที่จะเขียนถึงหลาน ก่อนที่พรุ่งนี้ลุงจะออกเดินทางไปเพื่อ ติดตามพระอาจารย์โสณะซึ่งถ้าได้รับอนุญาตจากพระอาจารย์ ลุงคงบวช ตามที่ตัดสินใจไว้ล่วงหน้าก่อนนี้แล้ว ลุงคงไม่มีภาระในทางโลกมากอยู่แล้วเพราะคุณป้าของหลานได้ลาโลกนี้ไปนานหลาย ปีแล้ว วันเวลาที่ผ่านมาลุงก็พอมีความสุขทางโลกกับลูก ๆ หลาน ๆ และช่วยเหลือคนไข้ไปตามประสา จนสามารถที่จะมีเวลาในการศึกษาในทางธรรมจนชีวิตก้าวมาถึงจุดนี้

    บันทึกนี้ลุงบันทึกไว้เพื่อให้ลูกหลานได้ระลึกถึงลุง เพราะหลังจากลุงบวชแล้วต้องติดตามพระอาจารย์โสณะ เท่าที่ได้กราบพระอาจารย์พระอาจารย์จะธุดงค์เป็นส่วนใหญ่ และลุงเชื่อมั่นว่าพระอาจารย์จะมีอายุขัยมาหลายร้อยปีมาแล้ว เพราะลุงได้กราบถามพระอาจารย์ว่าพระอาจารย์ทำไมพูดได้หลายภาษา พระอาจารย์ยิ้ม ๆ แล้วบอกว่า เมื่อจิตฝึกมาดีแล้วและมีเวลาศึกษาอะไรนาน ๆ ก็ไม่ยากที่จะเข้าใจหลาย ๆ ภาษา และถ้าไม่อยากศึกษาก็สามารถสื่อสารกันด้วยจิต ลุงได้ถามว่าพระอาจารย์ชื่อพ้องกับพระในคณะพระที่เดินทางมาจากอินเดียในสมัย พระเจ้าอโศกเพื่อมายังสุวรรณภูมิ พระอาจารย์ยิ้มๆ บอกว่าทำไมคิดว่าพ้องละ ลุงเลยบอกว่าเพราะพระที่มาจากอินเดียรูปนั้น ถ้ายังอยู่อายุคงเป็นพันกว่าปีแล้ว พระอาจารย์ไม่ตอบ แต่เบี่ยงไปว่า ในดินแดนจาตุมหาราชิกา หรือรอยต่อนั้น พรรษาหนึ่งกับบ้านเรานานกว่านั้นแล้วนะ และที่ลุงมั่นใจเพราะว่าระดับจิตเจโตของลุงไม่สามารถเทียบเคียงกับจิตของพระ อาจารย์ได้ ที่สูงกว่าพระที่มีชื่อเสียงในบ้านเราที่ลุงไปกราบมาแล้วตั้งมากมาย จึงคาดว่าอาจจะได้พบกับหลาน หรือว่าไม่มีโอกาสอีกเลยก็ได้ แต่หวังว่าหลานจะฝึกจิตจนร่างจิตสามารถที่จะติดต่อกับลุงได้ในที่สุด

    วิกรม สิ่งที่ลุงได้บันทึกเล่านี้เป็นการบันทึกที่ผ่านญานทัศนะของลุงในระดับจิตที่ลุงมีอยู่ สามารถเดินหน้าถอยหลังชัดเจนในพื้นที่ ๆ กายเนื้อของลุงเคยไปสัมผัสในบริเวณนั้น ๆ แต่ที่ผ่านมาลุงมีโอกาสได้เดินทางไปเกือบทั่วทุกจังหวัด เพราะไปทั้งราชการและป้าของหลานเป็นคนชอบเที่ยว ทำใหการผูกจิตข้ากับจุดที่กายเนื้อผ่านไป มีความชัดเจนในภาพรวมที่พอจะช่วยหลานได้พอสมควร

    สุดท้ายที่ลุงจะบอกกับหลานก็คือ ต่อไปประเทศไทยหลังวันที่โลกมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ลุงไม่แน่ใจว่าในญานที่ลุงผ่านไปนั้น ลุงเห็นพระอาทิตย์ขึ้นทางดอยสุเทพ หรือขึ้นผิดทาง ที่เราเคยเห็นมาโลกคงเปลี่ยนไปมากทีเดียว

    ลุงใช้เวลาหลายคืนในระยะที่ผ่านมาเพื่อกำหนดยังที่ต่าง ๆ หลานจะได้เห็นประเทศไทยเปลี่ยนไป เหนือกับอีสานยังพอมีเหลือคนไทยอยู่มาก น่าสงสารคนภาคใต้ที่โชคร้าย ที่น้ำทะเล สูงเท่าตึก 5 ชั้น 7 ชั้น กวาดเข้ามาในแผ่นดินตอนที่โลกเหมือนจะชนกับอะไรซักอย่างที่ลุงเล่าให้ฟังแล้ว จนคนที่รอดตายเหลือน้อยอยู่แล้วก็จะมาตายกับลูกเห็บยักษ์อีก หลังจากนั้นลุงเห็นคนที่รอดตาย กำลังจะไปหาอะไรทานเพราะความหิว กลับถูกน้ำทะเลมากวาดคนลงไปให้ปลากินเป็นอาหารอีกมากมาย ภาคใต้คนจะเหลือน้อย จริง ๆ ในส่วนของเมืองกรุงเทพของเราก็คงจะจมลงในน้ำที่เกิดจากเขื่อนพัง มีคนตายมากมาย และกว่าน้ำจะลดลง จำนวนตายมากจนคนไม่กล้ามาอยู่ เพราะวิญญานที่ไม่รู้ว่าตัวเองตายแล้ว วนเวียนหาคำตอบให้ตัวเองมากมายไปหมด ใครที่เข้ามาโดยจิตที่อ่อนแอแล้ว จะถูกดวงวิญญาณเหล่านี้พยายามที่จะเข้ามาหาคำตอบ น่ากลัวจนคนไม่กล้ามาจนกลายเป็นเมืองร้าง

    คนที่มีมากที่สุดแต่กลับเดือดร้อนที่สุดกับคนภาคอีสาน เพราะขุดบ่อน้ำตรงไหนก็เจอแต่หิน บ่อที่เคยมีน้ำ กลับกินไม่ได้เลยกลายเป็นน้ำที่เค็มกว่าทะเล ลุงเห็นภาพคนเป็นหมื่นเป็นแสนเดินไปอยู่ริมน้ำโขงมากมาย และสุดท้ายคนอีสานข้ามไปอยู่ฝั่งน้ำโขงไปอยู่ประเทศลาว มีพระอาจารย์ที่หูเป็นปานพาชาวบ้านเดินข้ามน้ำไป

    ทางเหนือของเรา อาหารการกินถ้าไม่ได้มีการกักเก็บไว้ล่วงหน้าจะเจอกับปัญหา เพราะอากาศจะหนาวมาก ลุงกำหนดจิตไปที่ภูเขา เจอหิมะบนยอดเขา ตอนแรกคิดว่าอธิษฐานผิดที่ไปเมืองนอก แต่กลับไม่ใช่ ลุงเห็นภาพพระธาตุดอยตุง ตั้งอยู่กลางหิมะขาวโพลน กว่าจะปรับตัวกันได้ ก็คงจะลำบากหน้าดู แต่อย่างไรก็ตาม ลุงโซ๊ะที่ปลูกพืชเมืองหนาวมาตลอดชีวิตน่าจะช่วยให้คำแนะนำหลานได้ อีกอย่างโรงเขี่ยเชื้อเห็ด เพาะเห็ด ที่ให้พะดีดูแลอยู่ก็น่าจะช่วยเรื่องอาหารได้ นานพอสมควร ที่หลาน ๆ จะได้ปรับตัวกันได้

    หวังว่าสิ่งที่ลุงบันทึกนี้จะเป็นประโยชน์กับหลานไม่มากก็น้อย ในการเตรียมการ ส่วนอุปกรณ์ที่ลุงได้เตรียมให้พวกเราไว้ทั้งเป้ อุปกรณ์ยังชีพ วิทยุสื่อสาร ชุดป้องกันโรค และอื่น ๆ ขอให้หลานได้ตรวจสอบตามวงรอบที่ลุงได้ทำแผ่นบันทึกให้ตรวสอบและสับเปลี่ยนยา อาการหลอดในเป้ รวมทั้งชุดป้องกันเชื้อ ส่วนอาวุธปืน มีดสนาม ขอให้รักษาให้ดี ปืนนั้นทะเบียนเป็นชื่อลุง ก็คงไม่เป็นไร เอาไว้ป้องกันตัวจากสัตว์ร้าย

    ขอหลานได้ตั้งใจฝึกจิตและพาน้อง ๆ หลาน ๆ ฝึกด้วยกับหลาน ส่วนเจ้าตัวเล็ก ๆ ทั้งหลายให้ฝึกสวดมนต์ในบทที่ลุงเตรียมไว้ ให้ ลุงเขียน Username และ Pass ไว้ที่หน้าจอแล้วถ้าไม่ลำบากคิดจะทำบุญก็ให้หลานไปตามข้อมูลและติดตามข่าวจากในเวปพลังจิตก็จะได้ประโยชน์จากการหาของที่จำเป็นและวิธีการในการเตรียมความพร้อม ขอคุณพระศรีรัตนตรัยได้คุ้มครองหลาน ๆ ด้วย สิ่งใด ๆ ที่ลุงได้ล่วงเกินหลาน ๆ และทุกคน โปรดเมตตาอหสิกรรมลุงด้วยลุงหมอของหลาน ๆ ทุกคน

    วิกรมหลานพระคุณลุงคนเชียงใหม่ โพสต์ข้อความในบันทึกใด ๆ ที่มาจากบันทึกนี้ ก่อให้เกิดอกุศลกรรมกับผู้ได โปรดเมตตาอโหสิกรรมให้กระผมด้วยครับ

    วิกรม

    ที่มา https://news.mthai.com/general-news/159274.html
     
  16. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,710
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    คนที่เพิ่งจะอพยพหาที่ปลอดภัย จะอยู่ในสภาพ "จะกลับก็กลับไม่ได้ จะไปก็ไปไม่ถึง"

    deep-impact-1108x0-c-default.jpg

    โดยคุณ kkk

    ครูบาอาจารย์ท่านหนึ่งแห่งเมืองโคราช..ท่านกล่าวเตือนว่า ที่เมืองไทยเนี่ยมีหลุมโพลงลึกและกว้างหลายจุดเลย ถ้าเกิดแผ่นดินไหว แนวแผ่นเปลือกโลกเคลื่อนตัวจากเหตุต่างๆ มันจะส่งผลกระทบเป็นลูกโซ่มาถึงจนได้..!!!

    ที่วันนั้นท่านบอก ให้ค่อยๆเตรียมขยับขยายออกจาก กทม.ก่อน ไม่ต้องรอถึงปี xxxx ไงคะ!!!

    แม้แต่ต่างจังหวัดเอง ก้อมีพื้นที่หลายจุดเหมือนกัน ที่มีหลุมโพลงลึกและกว้างข้ามอำเภอเชื่อมต่ออำเภอเลย

    ถ้าเกิดเหตุ ภัยพิบ้ติหนักขนาดนั้นจริงๆ คนที่เพิ่งจะอพยพหาที่ปลอดภัย จะอยู่ในสภาพ "จะกลับก้อกลับไม่ได้ จะไปก้อไปไม่ถึง" เพราะถนนจะถูกตัดขาด ภูเขาดินถล่มขวางถนนทั้งเส้น

    เงิบเลย เรามาเร่งพัฒนาจิตกันเถอะค่ะ รักษาศีลห้ากันให้มั่นคง สำรวมในเส้นทางสู่กระแสพระนิพพานกันค่ะ ถ้าจิตออกจากร่าง อย่างน้อยก้อไม่ลงสู่อบายแน่นอนค่ะ คือพวกเรารับรู้เหตุปัจจัยต่างๆมาเยอะแล้ว เรามุ่งสู่เป้าหมายกันเถอะค่ะ

    ท่านสมาชิกท่านหนึ่งสอบถาม..
    ขอบคุณค่ะพี่ kkk
    พี่ kkk วางแผนขยับขยายยังไงคะ???
    มีจุดสังเกตว่าจะเผ่นตอนไหนมั้ยคะ???

    จากคุณ kkk
    งั้น เริ่มจาก ทำใจว่างๆ เบาๆ สบายๆ แล้วไปนอนภาวนา ดูลมหายใจเข้า ดูลมหายใจออก จนหลับในสมาธิกัน ไปค่ะ..!!!
    ..............................................

    โดยคุณ kkk ( วันรุ่งขึ้น )

    พิมาย คือ 1 ใน 3 อำเภอของโคราช
    ที่ท่านครูบาอาจารย์ผู้ทรงศีลแห่งเมืองโคราชท่านหนึ่ง กล่าวเตือนเรื่องใต้แผ่นพื้นดินมีแนวหลุมโพลงลึกและกว้างมาก

    (ที่ถามวันก่อนว่าจะมีอะไรเป็นจุดสังเกตุในแต่ละพื้นที่ ว่าควรเริ่มออกเมื่อไร คำตอบคือจะมีสัญญาณส่งมาให้เห็นชัดเจนทีละส่วนทีละแบบโดยธรรมชาติ เขาจะแจ้งเตือนเราเองค่ะ เพียงแต่ให้เราหมั่นพิจารณาและจดบันทึกเหตุการณ์แต่ละช่วงกันลืมด้วยจ้า เพื่อเตรียมพร้อมรับมือ เมื่อถึงเวลาของแต่ละคน จะมีเหตุรู้สึกว่า ควรออกแล้วหรือยัง ควรเตรียมพร้อมแค่ไหนค่ะ)

    ถามว่ากรุงเทพ น้ำประปาเค็ม รับรู้กันหลายคน หลายบ้าน หลายพื้นที่
    แต่จะมีใครสักกี่คน???

    ที่จะ...ย้อนคิดกลับว่าน้ำประปาใช้ดื่มสำหรับประชาชนเราจู่ๆเค็มได้ยังไง??? จะเค็มนานแค่ไหน.???

    ส่งสัญญาณอะไรรึป่าว เอ๊ะๆๆ กัน บ้างไหมคะ???

    ธรรมชาติเขาส่งสัญญาณเตือนพื้นที่กรุงเทพและปริมณฑลแล้วค่ะ !!!

    เตือนแบบให้ทุกคนซึมซาบด้วยตนเอง ดื่มเอง เจอน้ำรสเค็มลงคอเอง
    ถ้าไม่จดบันทึก ว.ด.ป.ไว้ อาจค่อยๆ ลืมกัน???
    และ อาจกลายเป็นกบที่นั่งสบายอยู่บนหม้อน้ำอุ่นก้อได้จ้า

    เมื่อเค็มน้อยๆ จนชินไปเรื่อยๆ ก้อเหมือนน้ำอุ่นจนกบชิน
    จนน้ำค่อยๆร้อน จนต้มกบสุกคาหม้อได้แหละจ้า..!!!

    จดหมายจากธรรมชาติ ส่งถึงทุกคนเสมอ เท่าเทียมกัน เวลาเดียวกัน
    แต่จะมีใครเปิดอ่านและทำความเข้าใจในสัญญาณจดหมายนั้น แค่ไหน เท่านั้นเองจ้า.!!

    อีกท่านสมาชิกกล่าวเสริม...

    สังเกตธรรมชาติ เป็นสิ่งที่ควรทำเป็นอย่างยิ่ง
    เราเป็นมนุษย์ตัวเล็กนิดเดียว เมื่อเทียบกับธรรมชาติ

    เราเป็นแค่ฝุ่นธุลีเล็กๆ เข้าไปอีก เมื่อเทียบกับจักรวาล
    เข้าใจธรรมชาติ ก็เลี่ยงความรุนแรงได้หน่อยนึงค่ะ.!!!


    ที่มา https://palungjit.org/threads/บันทึกของพระคุณลุงคนเชียงใหม่ถึงหลานๆ-เรื่องภัยพิบัติ.311084/page-121
     
  17. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,710
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    หลวงปู่เทพโลกอุดร พยากรณ์ภัยพิบัติ ที่กำลังจะมาถึงนี้

    %B8%B0%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B9%E0%B9%82%E0%B8%A5%E0%B8%81%E0%B8%AD%E0%B8%B8%E0%B8%94%E0%B8%A3.jpg

    มวลมนุษย์ ภัยพิบัติ น้ำจะท่วมโลก แผ่นดินจะไหว มนุษย์ที่ดีถึงจะรอด หมู่ชนควรทำดี ให้มนุษย์มีการปฏิบัติ มวลชนทุกหมู่เหล่าต้องปฏิบัติ พระเจ้าผู้สร้างโลก มองเห็นมวลมนุษย์ กำลังจะทุกข์ยาก ล้มหายตายจาก เวลานั้นใกล้เข้ามา มนุษย์เท่านั้น ที่จะช่วยตัวเองได้ จงทำตัวเองให้ดี จงมีจิตที่ดี จึงจะรอดพ้น ไม่มีใครช่วยใครได้ แผ่นดินจะกลืนกิน มิรู้สิ้นชีวิตเท่าใด ผู้ที่จะรอดปลอดภัย ต้องอยู่ในศีลธรรม[​IMG]

    พึงรักษาชีวี อย่าคิดว่าตายแล้วดีกว่าอยู่ ต้องอดทน ผู้รอดจากภัยพิบัติ คือ ผู้ที่ต้องอยู่ต่อ เป็นผู้ที่ต้องช่วยกัน ปรับสภาพจากเหตุการณ์ ที่ผ่านพ้นแต่กว่าจะถึงตอนนั้น มนุษย์ก็แสนสาหัส ทุกข์ยากอดอยาก ยากไร้ปางตาย ไร้ความทรงจำก็มี เพราะขาด การเตรียม ด้วยความไม่รู้ มนุษย์ต้องพบ วิบากกรรมชีวิต ทุกชีวิตที่อาศัย อยู่บนโลกลำบาก มนุษย์เป็นผู้ทำทุกสิ่งด้วยมือ ของมนุษย์ทั้งสิ้น ไม่มี ไม่ใช่ ใครที่ไหนทำ เวลาใกล้เข้ามา ทุกขณะความตาย กำลังเข้ามาใกล้ตัว

    ก่อนถึงเวลา ก่อนถึงวันนั้น มนุษย์ผู้ซึ่งกระทำการทำลาย มนุษย์ด้วยกัน มันต้องพินาศเช่นกัน การกระทำของมันผู้นี้ ทำให้มนุษย์ จำนวนมากมายสิ้นชีวิต คล้ายใบไม้ร่วง มันหวังว่าจะได้เป็นใหญ่ ในแผ่นดินทั่วโลก แต่แล้วความหายนะ เข้ามาครองโลกแทน ความพินาศเต็มไปหมด ความหวังย่อยยับ ปฐพีเต็มไปด้วยเลือด ศพกลาดเกลื่อนเลือดทาแผ่นดิน ชีวิตสูญสิ้น สิ้นไร้ผู้คน มีแต่ความตาย ที่เห็นชัดความดับสูญครั้งใหญ่ ของมวลมนุษย์และสัตว์ในโลก

    ความตายเป็นผู้ชนะ ผู้แพ้คือผู้กระทำความชั่วร้าย ผู้ที่ตายทั้งหมดเป็นผู้โชคดีกระนั้นหรือ ผู้ที่รอดเป็นผู้โชคดีกระนั้นหรือ มิใช่ทุกอย่างคือ กฎแห่งกรรม วิถีแห่งกรรม มาจากที่ใด ทำไม มวลมนุษย์จึงต้องรับความดับสูญ เพราะชีวิตกับความตายเป็นสิ่งที่คู่กัน ไม่อาจหลีกเลี่ยง ไม่มีทางหนีพ้น โอกาสผู้ที่รอด หมายถึง ผู้อยู่ต่อ เพื่ออนาคตโลก ผู้ทำลายดับสิ้นสูญ โลกร้อนระอุ มีแต่ไฟ เถ้าถ่านท่วมท้นแผ่นดิน น้ำเป็นพิษ สารเคมีท่วมท้น เชื้อโรคสารพัดชนิด กัดกินผู้คน ผู้ที่รอดแสนสาหัส ทุกข์ยากรอความตาย

    ผู้มีบุญจะออกมาช่วย รักษาชีวิต ผู้คนมากมาย จะรอดชีวิตจากโรคร้าย การรักษา ไม่ต้องใช้ยา เป็นวิชา ไม่มีใครรู้จัก คนผู้นี้ รักษาผู้คน ไม่หวังสิ่งใด เพราะเป็นหน้าที่ก่อนเกิด การรักษา ไม่ต้องมาพบตัวผู้ป่วยอยู่แห่งใด รักษาได้ ไม่ต้องมา ถึงเวลาไม่ต้องค้นหา โรคจะหายเอง

    เศรษฐกิจตกต่ำ ต้องการผู้แก้ไข ทั่วโลกวุ่นวาย ขาดอาหาร น้ำตาเนืองนอง ศพลอยฟูฟ่อง เพราะน้ำหลากมา น้ำตาไหลริน ไม่มีใครได้กินอิ่ม
    มีแต่ความทุกข์ ความเศร้าโศกครอบคลุม คนทั่วโลกไม่ต่างกัน ทุกที่มีแต่ความเศร้า การสูญเสีย ของมวลมนุษย์ แต่ก็มีบางประเทศ ฟื้นตัวเร็ว การฟื้นตัวของบางประเทศรวดเร็ว เป็นประเทศเล็กๆ ประเทศที่เคยยิ่งใหญ่สูญเสียหนัก การพัฒนา เริ่มขึ้นอีกครั้ง แต่ช้า ทุกอย่างจึงกลับกัน ประเทศที่เคยเป็นมหาอำนาจ กลายเป็นผู้ยากไร้ แทบไม่น่าเชื่อ เคยมีเงินเหลือเฟือ ต้องฝืดเคือง ยิ่งกว่ากินเกลือ

    โลกไม่พ้นวิกฤต ความทุกข์ยังครองเมือง
    ผู้อ่อนแอจะไม่รอด อากาศหนาว หิมะถล่ม น้ำแข็งละลาย น้ำป่าหลาก ความทุกข์ยากทับถม คนตายเพราะความหนาวทุกข์ทับถมทวี กว่าจะรู้ ความดื้อรั้น ความเชื่อยาก ทำให้มนุษย์ ได้รับบทเรียน แต่ไม่เข้าใจ เพราะความตายมาเร็วเกินไป ไม่ทันรู้ตัว มนุษย์ไมทันได้คิด ไม่มีโอกาส เข้าใจ ทุกสิ่งทุกอย่าง เพราะไม่บรรลุธรรม ต้องมีชะตากรรม เวียนว่ายตายเกิด อยู่เช่นนี้ ทุกชีวี ผู้รู้เหตุการณ์ รอเวลามีน้อย ความไม่แน่นอน


    ความไม่มั่นใจ คิดว่าไม่เกิด จึงทำให้ การเตรียมตัวไม่พร้อม
    อาหารไม่พอ น้ำดื่มไม่มี หมอก็ป่วย คนไข้มากมาย โรคที่เป็นก็หายยาก พุพองทั่วร่างกาย โรคร้ายทั้งสิ้น เกาะกินร่างกายกัมมันตภาพรังสี สารเคมี เชื้อโรคมากมี ทำร้ายร่างกาย อาหารเป็นพิษ ยาปฏิชีวนะ ช่วยไม่ได้ โรคระบาด ทุกหย่อมหญ้า ชีวิตร่วงเหมือนผักปลา ไม่มีเวลา มีแต่ชีวิตที่สิ้นไป กว่าเถ้าจะมอด กว่าน้ำจะลด กว่าเชื้อโรคจะหมดสิ้น ชีวิตสิ้นไปไม่รู้เท่าไหร่ ความอดทนต้องสูงสุด ไม่มีเสียงนกร้อง มีแต่เสียงโอดครวญ ความเจ็บปวด ครองเมือง

    การครั้งนี้ กว่าจะสิ้นสุด ไม่มีใครล่วงรู้ ความไม่แน่นอน เที่ยงที่สุด ทุกชีวิต กว่าจะผ่านพ้น เหตุการณ์ สุดแสนลำบาก นอกจาก ผู้คนจำนวนหนึ่งหยั่งรู้ เตรียมรับสถานการณ์ ผู้คนเหล่านั้น มีโอกาส เป็นผู้อยู่รอด ชาวโลก กว่าครึ่งโลก ที่ล้มหายตายจาก ล้วนแล้วแต่ กรรม ฟ้าจะใสอีกครั้ง เมื่อฤดูฝนร่วงหล่น ละลายสิ่งต่างๆ ฝนจะชุ่มโชก สิ่งที่ร้ายจะกลายเป็นดี แต่ก็ต้องใช้เวลา พลิกฟื้นขึ้นมาใหม่

    ช่วยกันทำนุบำรุงรักษาทุกประเทศต้องพัฒนา เหมือนยุคเก่าย้อนมา แต่เจริญรุ่งเรือง กลายเป็นโลกยุคใหม่ วิทยาศาสตร์ล้ำหน้า ชาวประชาหน้าใส คนที่เหลือจากเหตุการณ์ มีความคิดเปลี่ยนไป ไม่มีแล้วความคิดเก่าๆ ทุกอย่างเปลี่ยนไป แม้แต่ความคิดของคน เปลี่ยนแปลงไปหมด ลดทิฐิ จิตใจดี มีเมตตาช่วยเหลือเกื้อกูลกัน การแก่งแย่งชิงดี แทบสิ้นไป มนุษย์ จิตใจร้ายยังมีอยู่ ความเมตตาค้ำจุนโลก ทุกข์สร่างโศก

    ผู้มีเมตตาธรรมปรากฏ เพื่อนมนุษย์ช่วยเหลือกัน บำรุงรักษา ผู้มีจิตเมตตา เปิดโฉมหน้า แต่ไม่ปรากฏตัว ได้ยินแต่ข่าว ร่ำลือไปทั่ว เพื่อนมนุษย์ ทั่วโลก ต่างยินดีชื่นชม เหมือนพระเจ้ามาโปรด คนทั่วโลก ต้องการหมอรักษา หาหมอ ไม่ได้ โรคที่ระบาด ไม่มีในตำรา และไม่มียา แก้โรคที่ระบาด ความตาย มาเยือน ชีวิตมนุษย์ ได้สำนึก กว่าจะรู้ตัว เกือบจะรู้ตัว เกือบจะตาย ผู้ที่ตายไม่ได้รู้ตัว สำนึกในบาป

    คนที่เหลือ ล้วนคิดได้ ความตาย ผ่านพ้นไป ผู้มีบุญ ช่วยเหลือผู้อื่น ไม่กลัวเหนื่อย ไร้การแบ่งชั้น ทุกคนเสมอภาค ความดี ความพยายาม ผู้สร้างโลก ไม่ปล่อยให้ มนุษย์ ทุกข์ทรมานสู้กับความตาย นิมิตรหมายใหม่ ประกอบกรรมดี ละเว้นความชั่ว รักษาความดี อยู่ในศีลธรรม ตั้งมั่นในการปฏิบัติ อย่าเห็นแก่ตัว ทางสายกลาง ช่วยเหลือผู้อื่น จงมองตนเอง อย่ามัวรอเวลา ความว่าง (สุญญตา) จิตตั้งมั่น ปล่อยใจวาง จิตเป็นหนึ่ง มีสติ

    คนที่สามารถทำได้เช่นนี้ ทางสายใหม่ คือการหลุดพ้น ผู้ที่ทำได้ ไม่ต้องมาเกิด ตามวัฎจักร ทางสายนี้มีมานาน ตั้งแต่ดึกดำบรรพ์ ผู้ที่รู้ และเข้าใจ พยายามศึกษา ผิดบ้างถูกบ้าง เพื่อหาทางหลุดพ้น จากกิเลส พระเจ้าเบื้องบน เฝ้ามองดู ใครทำอะไร ไม่รอดพ้นสายตา การกระทำ ทุกสิ่งทุกอย่าง อยู่ในสายตา มีการบันทึก ผู้ที่รอดตาย ต้องมีจิตใจเข้มแข็ง อดทนต่อสถานการณ์ ไม่ใช่ง่าย สิ่งที่เลวร้าย มนุษย์ ต้องอดทนให้ได้

    กาลเวลาผ่านไป ผลที่ได้รับต่างทุกข์ถ้วนหน้า จิตใจสำคัญที่สุด เมื่อเวลานั้นมาถึง สภาวะคับขัน ผู้เข้มแข็ง จะรอดพ้น ความอดอยาก ความพลัดพราก คืบคลานเข้ามาความลำเค็ญ ผู้คนโอดครวญ ชีวิตทุกผู้ทุกนาม รอความหวัง อย่างสิ้นหวัง แต่ก็รอ สภาวะเช่นนั้น ใครทนได้ ยอดคน ชีวิตมืดมน ยิ่งกว่าความมืด หนทาง มองไม่เห็น

    สิ่งลี้ลับ เริ่มปรากฏ ผู้คนแตกตื่น ได้ยินเรื่องราว อันมหัศจรรย์ ความมหัศจรรย์นั้น ไม่เคยปรากฏ ตั้งแต่สมัยพุทธกาล มาสู่ยุคปัจจุบัน มนุษย์จะได้พบ สิ่งมหัศจรรย์ ในยุคนี้ ผู้ซึ่งไม่เคยได้พบเห็น ความมหัศจรรย์ จะมีโอกาส ได้เห็น

    ที่มา https://sites.google.com/site/jantimema/rwm-kha-thanay-1/kha-thanay-hlwng-pu-theph-lok-xudr
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 พฤศจิกายน 2018
  18. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,710
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    ถ้าถนนถูกตัดขาด จักรยานอาจช่วยท่านได้


    เผยแพร่เมื่อ 14 มี.ค. 2017​
     
  19. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,710
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    คำทำนายวันสิ้นโลก(ยุคเก่า)

    560000012754801.jpg

    ต่อไปนี้คือรายละเอียดของคำทำนายทั้งหมดครับ โปรดอ่านอย่างไตร่ตรอง

    สัญญาณอันตราย :
    1. ก่อนการเกิดภัยธรรมชาติครั้งใหญ่ 15 วัน โลกจะเอียงก้มหัวให้ดวงอาทิตย์มากขึ้นเรื่อยๆ ส่งผลให้น้ำแข็งจากขั้วโลกเหนือละลาย จะนำไปสู่คลื่นยักษ์ถาโถมเข้าสู่แผ่นดินครับ อย่านิ่งเฉยเชียวนะ โลกเริ่มเอาคืนแล้วนะครับ
    2. เกิดภัยธรรมชาติครั้งใหญ่เป็นเวลา 49 วัน ในระหว่างเดือนตุลาคม – พฤศจิกายน ช่วงนี้เป็นหน้าหนาวนะครับ
    3. ฝนตกครั้งใหญ่ทั่วโลก (ชำระล้างเป็นเวลา 7 วัน)
    *ใน 3 วันแรกจะเกิดสงครามนิวเคลียร์ที่ทวีปเอเชีย ในประเทศที่เป็นอริต่อกัน


    ภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
    1. เกิดน้ำท่วมครั้งใหญ่
    2. พายุถล่ม
    3. แผ่นดินแยกและแผ่นดินไหว
    4. ภูเขาไฟระเบิด (จังหวัดทางภาคกลาง 2 ลูก,ภาคเหนือตอนล่าง 3 ลูก,อีกทั้งที่จังหวัด ราชบุรี น่าน แพร่ อ.ร้องกวาง)
    5. คลื่นยักษ์จากทะเล
    6. โรคระบาดที่สุดจะเยียวยา ได้แก่ Virusteria,อหิวาตกโรคสายพันธุ์ใหม่ ผู้ที่ได้รับเชื้อจะเสียชีวิตทันทีภายใน 6 วัน
    7. คลื่นเสียงที่รุนแรง ตั้งแต่เกิดมาในชีวิตยังไม่เคยได้ยินเสียงที่ดังขนาดนั้นมากก่อน
    8. อดอยากขาดแคลนอาหาร


    การเตรียมตัวเตรียมปัจจัยเพื่อตนเองและสมาชิกในครอบครัว
    1. เตรียมอาหารและน้ำดื่มไว้ที่บ้านอย่างน้อย 3-6 เดือน
    2. เครื่องนุ่งห่มเพื่อความอบอุ่นของร่างกาย ได้แก่ เสื้อผ้า กระเป๋าน้ำร้อน ผ้าห่ม ฯลฯ เพราะในช่วงเวลานั้นอากาศจะหนาวเย็นยะเยือกจับขั้วหัวใจ
    3. เครื่องใช้ที่จำเป็น
    4. ที่อยู่อาศัย
    5. ยารักษาโรค
    6. ด่างทับทิมและคาราไมล์(จำเป็นมาก) ห้ามกินอาหารที่มาได้ล้างด้วยด่างทับทิม เพราะจะมีทั้งเชื้อโรคและสารกัมมันตรังสี ส่วนอาราไมล์ จะมีไว้รักษาโรคทางผิวหนังที่ดูเหมือนจะยากต่อการรักษา แต่เมื่อทาคาราไมล์แล้ว จะหายได้อย่างน่าอัศจรรย์
    7. ยานพาหนะ เช่น เรือ เสื้อชูชีพ
    8. เครื่องช่วยชีวิต
    9. แสงสว่างเช่น เทียน ตะเกียงพายุ (เวลานั้นท้องฟ้าจะมืดมิด 7 วัน เท่ากับ 1 ราตรี และจะมืดมิดรวม 7 ราตรี หรือ 49 วัน ไฟฟ้าจะดับทั่วโลก)ทุกอย่างจะถูกตัดขาด
    10. เครียมสุขภาพร่างกายให้แข็งแรง
    spd_20081105181545_b.jpg
    ด่างทับทิมครับ


    วิธีการดูแลตัวเองในช่วงวิกฤติ
    1. ห้ามออกนอกบ้านโดยเด็ดขาด ใครมาเคาะประตูบ้านก็ห้ามเปิด ไม่ว่าคนนั้นจะเป็นญาติสนิทหรือคนที่เรารู้จักก็ตาม (เหตุผลอยู่ในข้อ 4 ครับ)
    2. ห้ามตากฝน เพราะในฝนจะมีพิษ ทั้งเชื้อโรคและสารเคมีที่มนุษย์สร้างขึ้น มลภาวะที่ขึ้นไปติดค้างอยู่ตามชั้นบรรยากาศจะลงมาพร้อมกับฝน
    3. ห้ามลุยน้ำหรือแช่น้ำนานๆ แต่ถ้าหลีกเลียงไม่ได้ต้องใช้ด่างทับทิมล้างทุกครั้ง (ตอนนั้นคงขึ้นราคาอ่ะนะ ฮ่าๆๆ)
    4. ห้ามเปิดประตูต้อนรับผู้อื่น เพราะช่วงเวลานั้นประตูมิติของโลกทั้ง 3 ภพ จะถูกเปิดเป็นครั้งแรก ผู้ไม่เชื่อเรื่องผีสาง จิตวิญญาณ ก็จะได้เห็น คนที่มาเยือนอาจเป็นผีเปรต ผีโขมด ที่เป็นเจ้ากรรมนายเวรของเราจำแลงมาก็เป็นได้และห้ามอยากรู้อยากเห็นโดนเด็ด ขาด
    5. ห้ามกินเนื้อสัตว์ทุกชนิด
    6. ห้ามกินผักที่ยังไม่ได้แช่ด่างทับทิม เพื่อป้องกันสารพิษตกค้างครับ
    7. ฝึกการกินน้อย ถ่ายน้อย
    8. ระวังอากาศที่หนาวเย็น
    9. ระวังสัตว์ร้าย สัตว์มีพิษเช่น งูพิษ จระเข้
    10. ห้ามอยู่ตึกสูงเกิน 3 ชั้น เพราะตึกสูงเกิน 3 ชั้น จะพังทลายราบเป็นหน้ากลอง

    ทั้งหมดนี้เป็นเพียงคำทำนาย อาจจะไม่เกิดขึ้นจริงหรือจะเกิดขึ้นก็ตาม ทุกท่านต้องใช้สติสัมปัญชันญะที่มีไตร่ตรองให้ดี


    ไม่เชื่ออย่าลบหลู่ รู้เชื่ออย่างมงาย ตั้งในสติปัญญาไตร่ตรอง

    ที่มา : www.mythland.org
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 พฤศจิกายน 2018
  20. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,710
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    ต้องรอด : ภัยหนาวคร่าชีวิต

    เผยแพร่เมื่อ 14 ม.ค. 2015
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 พฤศจิกายน 2018
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...