เอ่อโทษนะครับ เราคุยกันตามประสาคนหาธรรมนะครับ ใจเย็นๆๆๆอย่าใช้อารมณ์เลยครับ คุยกันดีๆๆอย่างที่ปัญญาชนเค้าคุยกันเอาเหตุเอาผลมาหักล้างกันไม่ใช่มานั่งทะเลาะกันนะครับค่อยพูดค่อยจาครับ
เอารูป นิพพานมาไห้ดูกัน . . .
ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย สุรีย์บุตร, 17 กุมภาพันธ์ 2008.
หน้า 3 ของ 3
-
-
สุรีย์บุตร https://youtu.be/8qf8khXqUjU
ไปเดินนายอินดอกหญ้า ก็หาหนังสือไม่มี สงสัย ต้องขอจากพี่มหาหินซะแล้วครับ....
ถึงคุณkhajonsak9999 เห็นคุณก็นึกถึงตัวเองเมื่อก่อนตอนที่เข้ามา
ไหม่ๆ เจอคนไช้ชื่อ ศรีอาริยะเมรไตร แล้วมันหงุดหงิดๆ เดี๋ยวนี้
อยากเจออีกครับ อยากรู้ว่าใจเราจะเป็นยังไงบ้างนะ
:boo: :boo: :boo: -
นิพพาน มองไม่เห็น หรือ เป็นความว่างเปล่า ครับ ??
-
เหอๆ แจ่มแจ้งมากครับ
-
เล่นง่ายๆแต่ได้ใจความ
-
การเข้าถึงธรรม การเจริญธรรม จะมีความรุ่งเรืองขึ้นได้
เปรียบเหมือนกับ การปลูกต้นไม้
ปลูกแล้ว ปล่อยทิ้งไว้ ตามแต่ ฝนจะตก ลงมาไหม
กับ ปลูกแล้ว มีการเอาใจใส่ ดูแล รดน้ำ ให้ปุ๋ย
ต้นไม้ ก็จะเจริญขึ้น แตกต่างกันไป
อุปมา ก็คล้ายการศึกษา มีการเรียน การสอน การสอบวัดผล
ต้องมีครูบาอาจารย์ ชี้แนะนำ สืบ ๆ กันมา
การยึดถือว่า ครูคนโน้น ครูคนนี้ สอนดี สอนถูก เข้าใจง่าย
เพราะว่า "ครู" ท่านนั้น มีความเนื่องกับเรามาแต่ก่อนในอดีต
เคยเป็นพ่อ แม่ พี่น้อง เคยทำบุญร่วมกันมา
จึงจะเชื่อ จึงจะศรัทธา จึงจะเข้าใจได้ง่าย
ตัวอย่าง เช่น....
เรารู้จัก "พระอริยะ" 2 รูป
(พระอริยะ เคารพพระพุทธ พระธรรม พระอริยสงฆ์ ยิ่งกว่าชีวิตของตนเอง)
ทั้ง 2 รูปนี้ สอนเรื่อง "พระนิพพาน" เหมือนกัน
มีความรู้ ความเข้าใจ ในพระนิพพานเสมอกัน สอนไปในทางเดียวกัน
เพียงแต่ ลีลา และวิธีการสอน เพื่อให้ศิษย์ มีความเข้าใจ แตกต่างกันไปบ้าง
เมื่อเราได้รับฟัง ได้รับการแนะนำ จากทั้ง 2 พระอาจารย์
ผู้ทรงความรู้ถึง อริยะ ได้จริงได้ถูกต้อง สอนก็เรื่องเดียวกัน
แต่ทว่า เราจะรู้สึกได้ว่า....
"พระอาจารย์ ก." สอนแล้วรู้เรี่อง เข้าใจได้ง่าย
"พระอาจารย์ ข." สอนเข้าใจได้ยาก สอนไม่ค่อยจะรู้เรื่อง
ก็เพราะว่า จริต กิเลส กรรมดี กรรมชั่ว ของเรา ผู้เป็นศิษย์ บำเพ็ญไว้ต่างกัน
ครู และคนที่เนื่องมาด้วยกัน จะเข้าใจตัวของศิษย์ ได้ดีกว่า คนอื่น ที่ไม่เคยเนื่องกันมาก่อน
เหมือนกับ พ่อ-แม่ ของเรา ที่เลี้ยงดูแลตัวเรา มาตั้งแต่เล็ก สอนเราอย่างใกล้ชิด มาจากเด็ก ย่อมเข้าใจอารมณ์ และความรู้สึกของเรา ได้ดีกว่า คนอื่น ๆ
เมื่อ พ่อ-แม่ สอนสั่งเรา เราก็มีความศรัทธา มีความเชื่อถือ และปฏิบัติตาม
(ความสำคัยอยู่ตรงนี้แหละครับ.. มีความศรัทธา เชื่อถือ ปฏิบัติตาม
เมื่อ.. ปฏิบัติตาม ก็สามารถก้าวเข้าถึง คุณความดี
ตามที่พ่อ-แม่ ครูบาอาจารย์ ต้องการ.. เราก็เจริญธรรมขึ้นไป)
การที่จะบอกว่า สายโน้น สายนี้ สอนดีกว่า
ข้อนี้ ก็จะผิดได้ง่าย ๆ
เพราะว่า ไม่ว่าสายไหน ๆ ก็มีอาจารย์ต้น องค์เดียวกัน คือ....
สมเด็จพระประทีปแก้ว สัมมาสัมพุทธองค์ นั่นเอง
ดังนั้น..
พวกเรา ต่างก็เป็น "ญาติพี่น้องกัน" ในความเจริญ ของการปฏิบัติธรรม
การเรียนรู้ในธรรมของเรา ก็ต้องให้ตรงกับจริตเดิม ที่เนื่องมานาน นั่นเอง
จะไปบอกว่า พระอริยะ รูปนี้.. สอนดีกว่า พระอริยะ รูปโน้น.. คงจะไม่ถูก
พึงกล่าวได้เพียงว่า "พระ" รูปโน้น รูปนี้ สอนแล้ว "ตัวเรา" เข้าใจได้ง่าย
สอนได้ตรงกับความรู้สึก สอนได้ตรงกับจริตของเราได้ดี
(แต่กับ บุคคลอื่น เขาก็อาจจะไม่ได้เนื่องกันมา เหมือนกับตัวของเรา ก็เป็นได้)
ก็พอที่จะสรุป ได้ว่า....
ความศรัทธา เลื่อมใส
จึงเป็น "จุด" ที่มีความสำคัญ ในการสอน เพื่อการเจริญธรรม ของตัวของเรา
นั่นเอง....
หมายเหตุ
การที่ผมตั้งใจ ส่งมอบหนังสือ ให้คุณdamrong
ผม ก็ไม่ทราบได้ว่า.. คุณdamrong จะเลื่อมใส ศรัทธา หรือไม่
แต่ทว่า.. ก็ต้องให้คุณdamrong เรียนรู้ ด้วยตัวของเขาเอง
การอธิบายธรรม หมื่นคำ ล้านประโยค ก็ไม่เท่า ปฏิบัติ และ "รู้" ด้วยตนเอง
การที่ผมส่งหนังสือให้ ผมก็เพียงหวังในอานิสงส์ ให้ธรรมเป็นทาน
คนเรา หากสามารถก้าวล่วงเข้าสู่แนวทางที่ตรง ที่ถูกต้อง
แม้แต่เพียงคนเดียว ก็ดีใจ สุดล้นพรรณา
ส่วนที่ว่า หนังสือ ที่ผมจะมอบให้..
คุณdamrong จะอ่าน จะปฏิบัติ หรือไม่
ศรัทธา หรือไม่.. มีผล หรือไม่..
จะเอาหนังสือไปถวายให้พระ ไหม
ข้อนี้ ก็ไม่เกี่ยวกับผม แล้วครับ
ผมได้รับอานิสงส์ ในกุศลเจตนา ครบถ้วนแล้ว ครับ
(และ จากนี้ไป.. ผมก็ยังไม่สามารถรู้ได้ว่า อะไรจะเกิดขึ้น)
ขอกราบอารธนาคุณพระไตรรัตน์ พรหม เทพเทวา นานาสิ่งศักดิ์สิทธิ์
คุณแห่งครูบาอาจารย์ สืบ ๆ กันมา
ขอโปรดอำนวย อวยชัย เปิดทางให้แก่ทุกท่าน ที่อกุศลกรรมหลีกพ้นไป
กุศลกรรมเข้าถึงได้ มีความจำเริญในธรรมอันยิ่งละเมียด ขึ้นไป
ด้วยเทอญ.
................................................................................... -
จริงอย่างคุณมหาหินครับ คนเราต้องเลือกทางเดินย่อยๆของตนก่อน
และคงต้องหาให้ตรงจริต ตอนหานี้ก็ต้องมีการหยิบจับขึ้นมาทดลองกัน
ไปจนกว่าจะเจอที่เหมาะแก่ตน
แต่ตอนปลายๆ นี้ ตอนยกเข้าสู่วิปัสสนาญาณ เพื่อตัดชาติ ตัดภพนี้
ส่วนใหญ่จะใช้ มรณะสติ กัน อันนี้ผมก็มีตำรานะ มีทั้งละเอียดและ
พื้นๆ พื้นๆนี้คงไม่จำเป็น เพราะคงนึกกันออก มันเป็นของง่าย ที่จะ
นึกใน มรณะสติ แต่ถ้ารู้สึกยาก เจริญ มรณะสติ ยาก ผมก็มีวิธีเจริญ
ในทุกๆอริยบท ทุกอนูความคิดให้เหมือนกัน ถึงเวลานั้นถ้าต้องการก็
ลองหาด้วยตัวเองก่อนนะครับว่ามีที่ไหนบ้าง แต่ถ้าไม่เจอจริงๆ ผมก็
มีเหมือนกัน พร้อมจะให้ เป็นหนังสือส่วนตัว มีเล่มเดียว -
อืม....เป็นความว่างจริงๆนะครับ.....นิพพาน....โมทนาครับ
(คิดได้ไงเนี๊ย.....) -
สุรีย์บุตร https://youtu.be/8qf8khXqUjU
ได้รับหนังสือแล้วครับ 2เล่มหนาๆ ขอบคุณครับพี่มหาหิน
-
เมื่อยังอยากรู้ว่าพระนิพพานนั้นเป็นอย่างไร ก็ขึ้นชื่อว่า ยังไม่ถึงพระนิพพาน เพราะยังมีความ "อยาก" สิ้นความอยาก ลังเล สงสัย สมมุติ ในเบื้องต้น ท้ามกลาง และเบื้องปลาย ไม่มีสมมุติอีก นั้นคือสิ้นแล้ว และถึงแล้ว
อันข้อความข้างต้นควรแก้ควรไขอย่างใดโปรดแนะนำด้วยนะครับ เพราะอันนี้เขียนจากสัญญา นึกคิดเอา ไม่ได้เกิดจากปัญญาคือความรู้จริง ดังนั้นจึงยังต้องทำให้ตรงอยู่ -
เมื่อยังอยากรู้ว่าพระนิพพานนั้นเป็นอย่างไร ก็ขึ้นชื่อว่า ยังไม่ถึงพระนิพพาน
เพราะอันนี้เขียนจากสัญญา นึกคิดเอา ไม่ได้เกิดจากปัญญาคือความรู้จริง
ปัญหาจึงอยู่ตรงตัวสัญญานี่เอง ที่มันลักลอบแอบทำงานแทนจิต หลอกลวงจิต
ให้เกิดภาวะ อยาก หรือ ตัณหา ถ้าจะผ่านให้ได้ก็ต้องรำงับการใช้สัญญา ซึ่งมี
อยู่สองทางที่จะพาไปเห็นสภาวะธรรมที่สัญญารำงับ หรือให้ทำงานน้อยมากๆ
หนึ่งคือ ฌาณ4 ซึ่งอาจจะไม่ใช่เรื่องง่ายของฆราวาส แต่ถ้าเป็นอีกทางคือ
อบรมจิตให้มีสติสัมปัชัญญะมากๆ สติก็จะไวพอจะแยกดูอาการของสัญญาที่
กำลังดึงรั้งจิตให้ตกไปในสภาวะธรรมตัณหาที่หน่วงมาจากฐานของมัน
แต่การจะเห็นฐานของมัน เราก็ต้องเอาจิตไปตั้งมั่นยังฐานของเรา วิธีนั้นก็เพียง
แต่เมื่อเห็นภาวะกิเลส ตัณหาใด หรือแม้แต่ภาวะสงสัย ก็ให้ระลึกว่ามันส่งมา
จากอีกที่ไว้ ก็จะเริ่มแยกออกได้ เมื่อนั้นก็จะเริ่มเห็นสายส่งของสัญญา และเมื่อ
นั้น เราก็จะสามารถตั้งมั่นเพื่อแยก หรือ รำงับการใช้สัญญา
วิธีนี้จะชี้ให้เห็นด้านหนึ่งว่า สมมติยังมีอยู่ กิเลสยังมีอยู่ อาสวะยังมีอยู่ แต่มัน
ยืนคนละข้าง และเมื่อแยกข้างกันยืนได้ เราก็จะเลือกให้เฉพาะที่ก่อกุศลข้าม
พ้นมาสัมพัสกับจิต ก่อกริยา -
เอารูป แฟนมาไห้ดูกัน . . .
ห้ามด่านะเพราะว่ามันบาป -
ผมจะอนุโมทนาบุญให้เป็นการชดเชยค่าเสียหายแทนนะครับ -
เกิดมาเคยเห็นใครนิพพานไหมครับ
-
ว่างที่ไหนอ่า เต็มไปด้วยอากาศ ไม่ว่างซักนิดเลย
-
ตถตา
มันก็เป็นเช่นนั้นเอง -
คำถามที่ต้องตอบให้ได้คือ เรามาจากไหน แล้ว โลกล่ะ
อย่างอื่นไม่ต้องไปคิด
หน้า 3 ของ 3