แคร่ริมคลอง...วันวิสาข์พาไป "พิพิธภัณฑ์สักทอง"

หลังจากพระท่านฉันเช้า เราก็เป็นลูกศิษย์
กินต่อจากพระ งานนี้มีผู้ใจบุญมาร่วมออกโรงทานหลายเจ้ามาก
แต่ไม่ได้เก็บรูปมาให้ชม อาหารทุกอย่างมีมากมาย
และอร่อยมากๆ กินกันจนอิ่มแปล้ไปตามๆ กันเลย

จากนั้นพวกเราก็มาจัดเตรียมองค์พระเพื่อให้ผู้มาร่วมงานได้ปิดทอง
หลังจากลงสี ก็ต้องรอให้สีแห้งหมาดประมาณ 3 ชั่วโมง จึงจะปิดทองได้

 

ใกล้เวลาเพลเข้าไปทุกที บรรดาศาสนิกชนก็มาถวายสังฆทานกันไม่ขาดสาย
หลวงปูพวงท่านก็สวดมนต์ให้พร เสียงดังชัดแจ๋ว ไม่ได้หยุด
และท่านก็เมตตาก็ปะพรมน้ำพระพุทธมนต์เพื่อเป็นสิริมงคลแก่ทุกคนที่มาร่วมงาน

 

เรามาร่วมอนุโมทนากับพระและเงิน
ที่จะรวมบรรจุลงในสมเด็จองค์ปฐมจักรพรรดิ์ ไพรีพินาศ
เด็กเล็กๆ ต่างก็ดีใจยินดีที่ได้ปิดทององค์พระ
ผู้คนที่มาร่วมงานก็มาช่วยกันปิดทอง

 

ช่วงบ่ายเป็นเวลาเริ่มเทปูนหล่อองค์พระ
ขบวนแถวที่ยาวเหยียดบ่งบอกถึงความศรัทธา
ที่ศาสนิกชนมีต่อพุทธศาสนาไม่เสื่อมคลาย
ถังปูนถูกส่งผ่านจากอีกมือหนึ่งไปสู่อีกมือหนึ่ง
ส่งจากด้านล่างขึ้นสู่ด้านบน สู่แบบหล่อองค์พระ

 

เราช่วยกันยกของที่จะบรรจุไปบริเวณที่หล่อพระ

 

จากนั้นองค์พระพุทธชินราชจำลอง
และบริวารได้ถูกส่งต่อกันจากเชิงเขาขึ้นสู่บริเวณที่เทปูนหล่อพระ

 

หลวงปู่พวงได้เมตตาหิ้วถังปูนขึ้นเขา มาร่วมเทปูนหล่อองค์พระด้วย
ท่านรับถังปูนส่งขึ้นไปเทหลายถังเลยทีเดียว สาธุ สาธุ สาธุ

 

ต่อเทปูนหล่อพระเสร็จสิ้น
จากนั้นพวกเราก็มารวมตัวกันร่วมถวายสังฆทานแด่พระสงฆ์

 

เจ้าภาพและผู้มาร่วมงาน ร่วมถ่ายรูปกับหลวงปู่พวง

 

จากนั้นก็ไปช่วยกันปักป้ายชื่อหน้าที่พำนักสงฆ์
แล้วเราก็กราบลาหลวงปู่กลับกรุงเทพฯ

 

ขอร่วมอนุโมทนากับทุกคนทุกดวงจิต
ที่ได้มีส่วนร่วมในบุญกุศลทั้งหลายเหล่านี้ทุกประการ
อนุโมทนาสาธุ ค่ะ:cool:

อ้อ...ลืมแจ้ง
เมื่อสัปดาห์ที่แล้วก่อนวันเข้าพรรษา ณ ได้ไปร่วมทำบุญ
และเทน้ำเทียนหล่อเทียนเข้าพรรษาที่จะนำไปถวาย
ยังวัดในเขตอำเภอพระสมุทรเจดีย์ 16 วัด
ขอให้ร่วมอนุโมทนาบุญกันนะคะ ;)

 

และแล้ว งานผมก็เสร็จได้ด้วยดี ยิ่งมาเห็นภาพที่พี่ๆ นำมาฝากยิ่งรู้สึกปิติ มากมาย โมทนาด้วยทีไร ขนหัวลุกทุกที ... ว่าแล้วก็อย่ารีรอ ผมนำบุญมาฝากพี่ๆ เช่นกันครับ ได้ถือศีล 8 2วัน 2 คืนที่บ้าน อ.ผมเอง ได้ทำบุญใส่บาตร ปล่อยปลา สวดมนต์ ทำวัตรเช้าเย็น เดินจรงกรม นั่งสมาธิ รวมถึง สวดบทธรรมจักร และ ถวายดอกไม้ ถวายเทียนพรรษาให้วัดด้วย เช่นกัน เอาบุญมาให้พี่น้องทุกๆท่านนะครับ และขออนุโมทนาบุญกับสิ่งที่พี่น้องทุกท่านได้ช่วยกันทำทุกบ่อบุญใน trip นี้ด้วยนะครับ .... สาธุ:cool:

 

ไม่ได้เข้ามาอ่านกระทู้แคร่ริมคลอง...ได้อ่านก็คิดตามไปว่าเราก็คบกับเพื่อนๆ

กลุ่มนี้มานาน...ทำให้คิดถึงอดีตที่เคยไปร่วมทำบุญด้วยกันตามที่ต่างๆการมี

มิตรที่ดีทำให้เรามีความสูขทางกายและจิตทำให้คิดดีทำดี...ก็อยากให้เป็นแบบ

นี้ตลอดไป...ถึงจะต่างความคิดแต่เรามีใจทำเพื่อส่วนร่วมคือ...ชาติ,ศาสนา,

และพระมหากษัตริย์...และจะทำต่อไปจนกว่าจะหมดลมหายใจ...สิ่งหนึ่งที่ผม

คิดตลอดว่า...อะไรก็ไม่สำคัญเท่ากับ...เราเก็บความรู้สึกที่ดีๆที่มีให้กันตลอด

ไป...ขอขอบคุณมากครับที่ทำให้พวกเรามาเจอกัน...มิตรแท้(ทางธรรม)...สวัสดีครับ

 

เช้าวันใหม่ของเดือนใหม่ สิงหาคม
ออกจากบ้านเกือบ 8 โมงแล้ว
ก็คนสวยนี่ค่ะ เลยต้องมีนัดกันบ้าง @^.^@
สถานที่นัดก็ที่ประจำแหละค่า ก็ต้องที่ที่คนไปกันเยอะๆ
นัดที่คนน้อยๆ ไม่ชอบค่า เดี๋ยวมันไม่เด่น :D หุหุ
อ๊ะๆ คิดกันไปถึงไหนล่ะนั่น ไม่ได้ไปไหนไกลค่ะ
ณ พาร่างอันแสนบอบบาง ไปแหมะอยู่ที่บ้านสายลม ใกล้ๆ อนุสาวรีย์ฯ ค่ะ
แต่ช่วงนี้ชักอืดๆ แย้วเหมียนกาน...อิอิ ก็ของมันอร่อยไปซะทุกอย่างเลยนิ
ราว10โมงเจอพี่ที่นัดเอาไว้ และได้ร่วมถวายสังฆทาน
แล้วก็ไปหยอดตู้ทำบุญแทบทุกตู้เลยล่ะค่า อนุโมทนาบุญกันนะคะ

เสร็จจากทำบุญ ก็เกือบ11 โมงแล้ว กำลังสองจิตสองใจว่าจะไปทำบุญต่อที่นนท์ฯ
หรือว่าจะไปซื้อของที่สนามหลวง ในที่สุดก็เห็นธงโบกไหวๆอยู่ที่สนามหลวง

จากอนุสาวรีย์ชัยน่าจะสักครึ่งชั่วโมง ณ ก็มาเดินโต๋เต๋อยู่สนามหลวง
เดินจากท่าพระจันทร์ ไปท่าช้าง เล็งของที่ต้องการไว้แล้ว
แล้วก็เดินดูโน้นดูนี่ ส่วนใหญ่จะเป็นพระ กรอบใส่พระ
ยาสมุนไพร หนังสือ เดินดูเพลินจนไปถึงท่าเตียน
ไหนๆ ก็มาถึงแล้ว ข้ามไปฝั่งกะโน้นกันดีกว่า
ลงเรือข้ามฝาก 3 บาทค่ะ....

 

ข้ามมาแล้วค่ะ ฝ่าคลื่นและลมมาขึ้นที่ท่าวัดอรุณ
วัดอรุณราชวราราม คือชื่อที่เป็นทางการของวัดนี้ค่ะ
สถานที่ตั้ง อยู่ฝังธนบุรี ข้างๆ กับกองทัพเรือ
วัดอรุณแรกเริ่มเดิมที่ชื่อ "วัดมะกอก"
รัชสมัยพระเจ้าตากสินเปลี่ยนชื่อให้เป็น "วัดแจ้ง"
ต่อมามีการบูรณะวัดใหม่ รัชกาลที่2 เปลี่ยนชื่อเป็น "วัดอรุณราชธาราม"
และในสมัยรัชกาลที่ 3 ก็ได้เปลี่ยนชื่อมาเป็น "วัดอรุณราชวราราม"จนถึงปัจจุบัน
นอกจากจะมีการเปลี่ยนชื่อมา 3 รอบแล้ว
วัดอรุณยังเป็นวัดที่สำคัญถือว่าเป็นวัดคู่บ้านคู่เมือง
ในสมัยที่กรุงธนบุรีเป็นราชธานีด้วยนะคะ
แน่นอนค่ะ สิ่งที่เด่นที่สุดของที่นี่คือพระปรางค์วัดอรุณ
ซึ่งเป็นการประดับประดาด้วยกระเบื้องเคลือบหลากสี
ปราณีตและงดงามมาก

 

พาไปดูยักษ์วัดแจ้งเท่จริงๆ -^_^-
และสถาปัตยกรรมภายในวัด

 

เดินมาได้หน่อยบริเวณหน้าโบสถ์ก็มีให้กราบพระ
และได้ร่วมทำบุญซื้อกระเบื้องหลังคาโบสถ์
รวมถึงได้ร่วมบุญทอดผ้าป่ามหากุศล วันที่ 12 สิงหาคม
ไปกราบพระประธานในโบสถ์กัน
พระพุทธธรรมมิศรราชโลกธาตุดิลก พระปางมารวิชัย

 

จากนั้นเดินออกมาทางแม่น้ำ ออกไปมีโบสถ์น้อย
ภายในมีรูปปั้นพระเจ้าตากสินอยู่ด้านหน้า
ด้านในจะเป็นหลวงพ่อรุ่งมงคล ซึ่งสร้างในสมัยกรุงศรีอยุธยา

 

ถัดจากโบสถ์น้อยมาหน่อยก็จะเป็นวิหารน้อยพระเจดีย์จุฬามณี
ด้านหน้ามีพระปรางไสยยาสน์ กราบพระกันนะ
ด้านในจะเป็นเจดีย์ที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ

 

จากนั้นก็เดินไปทางท่าวัดอรุณ กะจะข้ามกลับ
แต่ประสาทหูกับตาก็ได้ทำงานพร้อมกันอย่างฉับไว
เสียงประกาศว่า มีเรือรับส่งไปวัดกัลยาและวัดระฆัง
พร้อมกันนั้นตาก็เห็นป้าย เลยใจง่าย เดินตามป้ายไปต้อยๆ
จ่ายเงินค่าเรือ 30 บาท แล้วก็โดดลงเรือไปวัดกัลยา