พี่ได้ไปสร้างบุญหล่อพระเจ้าทันใจ เป็นพระที่หล่อให้เสร็จภายใน 1 วัน
ที่วัดเจียง อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ เมื่อ 3-7 ก.พ. 54 นี้เอง
จึงมาบอกบุญให้เพื่อน ๆ น้อง ๆ มาร่วมอนุโมทนาบุญกันจ้า
ขอให้ทุกท่านได้บุญทุกอย่าง ทุกประการเช่นเดียวกับที่พี่ทำทุกประการ
ลิงก์มาให้ดูบรรยากาศของงานค่ะ สนุกสนาน เต็มอิ่ม อิ่มใจ
ชาวแม่แจ่มต้อนรับแขกที่มาจากกรุงเทพด้วยความอบอุ่นอย่างเต็มที่
พ่ออุ้ย แม่อุ้ยน่ารักทุก ๆ ท่านเลยค่ะ
http://palungjit.org/threads/ขอเชิญร่วมเป็นเจ้าภาพหล่อพระสมเด็จองค์ปฐมบรมศาสดา-วัดเจียง-อ-แม่แจ่ม-จ-เชียงใหม่.272046/page-24
แคร่ริมคลอง...วันวิสาข์พาไป "พิพิธภัณฑ์สักทอง"
ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย ณ., 19 สิงหาคม 2008.
หน้า 69 ของ 83
-
เมื่อคืนวันที่ 11 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
ณ และผู้ร่วมเดินทางมุ่งหน้าสู่วัดป่าบ้านตาด
ราวตีสามครึ่ง เราก็เดินทางไปถึงจุดหมาย
จอดรถไว้ในลานจอดรถ
แล้วพากันเดินไปศาลาที่ไว้สังขารหลวงตา
ระหว่างสองข้างทางมากมายเต็มไปด้วยโรงงาน
ซึ่งคาดว่าน่าจะมีมากกว่า 1,000 โรงทาน
หลายจุดก็เริ่มออกมาจัดเตรียมทำอาหาร
บางจุดก็เริ่มให้บริการ เช่นจุดดื่มกาแฟ
-
ผู้คนหลั่งไหลมาเรื่อยๆ ไม่ขาดสาย
เรามุ่งหน้าไปจุดแรกที่ตั้งใจ
ได้กราบสังขารหลวงตา
และได้ร่วมทำบุญในโครงการหลวงตา
-
หลังจากนั่งสมาธิที่ศาลาได้ราว10 นาที
เราก็ต้องรีบลงมาเพราะจากตอนแรกที่พอจะมีที่เดินได้บ้าง
ตอนนี้แน่นขนัดไปด้วยผู้คนที่มากราบหลวงตา
เราเดินรอบๆ อาณาบริเวณวัด ดูนิทรรศการที่ทางวัดจัดไว้
เกี่ยวกับปฏิปทาของหลวงตา
คำสอนของหลวงตาที่เมตตาสั่งสอนลูกหลาน
และคุณงามความดีที่หลวงตาได้สร้างไว้อย่างมากมายมหาศาล
-
วันที่ 12 นี้เป็นงานบุญประทายข้าวเปลือก
ซึ่งหลวงตาจะจัดให้มีขึ้นทุกปีมานานกว่าสิบปีมาแล้ว
เริ่มจากประเพณีทางภาคอิสานหลังจากการเก็บเกี่ยวผลผลิต
ชาวนาที่อยู่ใกล้ๆวัดจะนำข้าวเปลือกมาร่วมกันทำบุญที่วัด
ทางวัดก็จะนำข้าวที่มาทำบุญเอาไปสีแล้วเก็บไว้บริโภคภายในวัด
และแจกจ่ายให้ชาวบ้านที่ขาดแคลน
ต่อมาปริมาณข้าวเปลือกที่นำมาทำบุญมีมากขึ้นเรื่อย
จนเก็บและแจกในบริเวณใกล้เคียงไม่หมด
หลวงตาจึงนำข้าวไปแจกจ่ายให้ส่วนข้าราชการ
โดยเฉพาะ โรงเรียน ตำรวจ ทหาร โรงพยาบาล ที่อยู่ชายแดน
หรืออยู่ในถิ่นธุรกันดาร
ในปีนี้ หลวงปู่ลี กุสลธโร เป็นประธานคณะสงฆ์
ในปี 2554 นี้ ณ ได้ยินประกาศของทางวัดว่ายอดข้าวเปลือก
ที่ได้ประมาณ 6 แสนกิโลกรัมกว่าไม่รู้กว่าเท่าไหร่
แต่ที่แน่ๆ รถสิบล้อมากกว่า10 คันจอดอยู่ในบริเวณล้านข้าวเปลือก
ยอดทองคำ 4 กิโลกรัม 4 บาท 50 สตางค์
ยอดเงินสด 8 ล้านบาท
ยอดเช็ค 1,301,883 บาท
-
จากนั้นก็เดินมาดูสถานที่เตรียมงาน
บริเวณนี้น่าจะเป็นเมรุเผาสังขารหลวงตาค่ะ
กำลังก่อสร้างกันอยู่ อีกไม่กี่วันคงจะเสร็จ
เพราะต้องเสร็จให้ทันวันประราชทานเพลิงศพ
วันที่ 5 มีนาคม 2554
-
ราวตีสี่กว่า ณ มายืนรอเพื่อเตรียมใส่บาตรตอนเช้า
รออยู่นานจากที่ยืนรออยู่ไม่กี่คนก็แน่นขึ้นเรื่อยๆ
วันนี้พระท่านจะไม่เดินบิณฑบาตร
แต่จะนำบาตรมาวางให้ได้ใส่บาตรตรงโต๊ะที่จัดเตรียมไว้
จนหกโมงครึ่งยืนรอจนขาแข็งแล้วแข็งอีก
ก็ยังไม่มีผู้มาจัดเตรียมบาตรมาให้ใส่ของทำบุญ
คนประกาศก็ส่งเสียงผ่านลำโพงไปหลายรอบ
ณ ก็ยืนสับปะหงกไปหลายรอบเหมือนกัน เพราะได้งีบบนรถไม่กี่นาที
จนในที่สุดเลยตัดสินใจนำของที่เตรียมมาไปวางถวายไว้ที่โต๊ะ
...เราเดินออกมาหาของรองท้องจากโรงทานที่ตั้งอยู่เป็นพืดไปหมด
เดินกันจนเมื่อยเลย กินกันจนอิ่ม แล้วก็ได้ร่วมบุญกับโรงทานด้วย
ผู้คนก็หลั่งไหลมาร่วมทำบุญกันมากมายหนาแน่นขึ้นเรื่อยๆ เช่นกัน
-
เกือบสิบเอ็ดโมงเราก็เดินทางกันต่อไปยังวัดโพธิสมพร ในตัวเมืองอุดรฯ
ไปกราบหลวงปู่จันทร์ศรี จันททีโป ท่านน่ารักมาก
พวกเราได้ร่วมถวายปัจจัย และรับพรจากท่าน
-
เราไปชมพระบรมธาตุธรรมเจดีย์
มีทั้งหมด 3 ชั้น
ขั้นแรกเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธเมตตาธรรมเจดีย์
ซึ่งแกะสลักจากหินหยกแม่น้ำโขง
มีรูปปั้นหลวงปู่จูม และหลวงปู่จันทร์ศรี อยู่ด้านข้าง
-
ชั้นสองเป็นที่ประดิษฐานพระแก้วมรกตจำลอง
แกะสลักจากหินหยกแม่น้ำโขง
สองข้างมีพระพุทธชินราช และพระพุทธสิหิงค์จำลอง
มีรูปปั้นหลวงปู่เสาร์ และหลวงปู่มั่น
มีภาพจิตกรรมฝาผนังที่งดงามมากๆ
เป็นเรื่องราวของพระธุดงคกรรมฐานสายหลวงปู่มั่น
ไฟล์ที่แนบมา:
-
-
ชั้นบนสุดเป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ
ภาพจิตกรรมฝาผนังเป็นเรื่องราวสังเวชนีย์สถาน 4 แห่ง
และรูปวาดพระพุทธรูป 4 บางที่งดงามสุดๆ
-
ออกจากวัดโพธิสมภรณ์ราวเที่ยงครึ่ง
เราได้ไปฝากท้องที่แหนมเนือง VT ในเมืองอุดร
จนเป็นที่อิ่มหน่ำสำราญกันทั่ว เราก็พากันเดินทางต่อ
ไปยังวัดถ้ำสหายของหลวงปู่จันทร์เรียน คุณวโร
ค่ำคืนนี้เราจะขออนุญาตพักกันที่วัดนี้แหละ
ใช้เวลาเดินทางไม่นานนัก เราก็มาถึงที่หมายราวสี่โมงเย็น
เราพากันไปกราบหลวงปู่จันทร์เรียน ซึ่งมีข้อห้ามถ่ายรูป
เลยเอารูปในหนังสือมาให้ดูแทน
เราได้ร่วมถวายปัจจัยและสังฆทานกับหลวงปู่
-
ขณะนั้นหลวงปู่กำลังคุยกับลูกศิษย์ราว 30 คน
คณะเราไม่มีโอกาสได้แจ้งว่าจะมาขอพัก
จึงได้ไปเรียนแจ้งกับแม่ชี ท่านก็ใจดี แนะนำให้
ว่าให้พักได้วันรุ่งขึ้นค่อยแจ้งหลวงปู่ก็ได้
บรรยากาศภายในวัดสงบดี ดูร่มรื่น ร่มเย็น
มีกุฏิศาลาสำหรับปฏิบัติธรรมกระจายอยู่ทั่วไป
มีพระสงฆ์ราว 40 รูป แม่ชีมีไม่กี่คน
-
คืนนี้พวกเราต่างแยกกันปฏิบัติตามถนัด
ในกุฏิต่างๆ ไม่มีไฟฟ้า จะมีไฟฟ้าเพียงไม่กี่จุดในวัด
ฉะนั้นไฟฉาย และเทียนไขจึงจำเป็นอย่างมาก
ตีสองกว่ากรมอุตุฯทำงานได้ดี ฝนกระหน่ำแรงมาก
ตีสี่ครึ่งฝนซาลงมาหน่อย ณ ก็เลยได้โอกาส
ลุกขึ้นไปเข้าไปช่วยงานในโรงครัว
และจัดการนำอาหารที่ซื้อเตรียมมาทำใส่บาตรหลวงปู่ตอนเช้า
ช่วยกันทำคนละไม้ละมือ ก็ได้เมนูเด็ด 3 อย่าง
ยำปลากระป๋อง ไข่เจียวใส่หอมใหญ่
ผัดผักรวมมีบล๊อกเคอรี่กับเห็ด3อย่าง ฟาง นางฟ้า หูหนู
ตอนพระฉันจังหันพระสายป่าจะเลื่อนถาดอาหารไปเรื่อยๆ
ตักกันเอาไว้ตามความชอบใจ แล้วต้องกินให้หมด
ต่อจากพระก็จะเป็นแม่ชี แล้วก็เป็นอุบาสกอุบาสิกาที่มาร่วมงาน
วันนี้กับข้าวเยอะมาก เราเลื่อนกันจนมื้อมือ
แล้วก็ใจจดใจจ่อรอดูกับข้าวฝีมือของพวกเรา
ทุกอย่างแทบจะไม่เหลือให้เราได้เห็น
แสดงว่าอาหารที่เตรียมมาได้รับการสนใจ...เฮ่...
-
หลังจากช่วยเก็บกวาดล้างจานในโรงครัวเสร็จแล้ว
เราก็พากันเข้าไปกราบลาหลวงปู่
หลวงปู่พูดคุยและสอนในหลายๆ เรื่อง
ท่านคุยสนุก พูดตรงๆ ไม่อ้อมค้อม
มีอยู่เรื่องหนึ่งที่สะดุดหู ณ มาก คือ
ได้ยินตอนมากราบหลวงปู่ครั้งแรกเมื่อวาน
ตอนจะลากลับก็ยังได้ยินอีกรอบ
หลวงปู่กล่าวว่า
"ประชาธิปไตยสอนกันไปทำไม
การเมืองสอนกันไปทำไม
ศีลธรรมจรรยาทำไมไม่สอน"
ณ ก็มานั่งนึกคำพูดหลวงปู่
...นั่นสินะ หากคนที่สอนเรื่องประชาธิปไตย
ไม่มีศีลธรรมจรรยา สอนไปก็เท่านั้น มีแต่การแย่งชิง
ไม่มีความเมตตาให้แก่กัน ไม่เห็นจะมีประโยชน์อะไรเลย
ก่อนกลับเราก็แวะเข้าไปดูในถ้ำที่อยู่ด้านบนศาลา
มีรูปพ่อแม่ครูบาอาจารย์หลายท่านอยู่ภายในถ้ำ
ไฟล์ที่แนบมา:
-
-
สิบโมงกว่าเรามุ่งหน้าไปวัดป่าภูสังโฆ
เพื่อจะไปกราบพระอาจารย์วันชัย วิจิตโต
เราไปถึงราวสิบเอ็ดโมง ได้รับแจ้งจากพระตัวแทนว่า
พระอาจารย์วันชัย ท่านเดินทางไปประเทศจีน
เพื่อรักษาอาการเจ็บหลังตั้งแต่สายๆ ของเมื่อวาน
เราจึงได้รวมกันถวายสังฆทานและปัจจัย
-
จากนั้นพวกเราจึงเดินสำรวจอาณาบริเวณวัด
ครูบาตัวแทนท่านได้เล่าว่า วัดป่าภูสังโฆกว้าง 7,250 ไร่
พระที่วัดต้องทำหน้าที่เฝ้าดูแลเกี่ยวกับไฟป่าด้วย
-
เราอำลาทริปนี้ด้วยภาพต้นไม้ใบหญ้าในเขตวัดป่าภูสังโฆก็แล้วกัน
-
เช้ามืดวันที่18กุมภาฯ วันมาฆบูชา
วันนี้ ณ ตื่นมาตั้งแต่ตีสามกว่า
เตรียมตัวมุ่งหน้าออกต่างจังหวัดกันอีกแล้ว
ไม่ใช่อะไรหรอก เมื่อค่ำๆ วันพุธ โทรหาพี่ที่รู้จักกัน
กะว่าจะขอความกรุณาเอาตัวมาใช้งานซะหน่อย อิอิ ^^
ปรากฏพอโทรไปยังไม่ทันพูดอะไร
พี่ก็พูดสวนมาว่า "จะมาชวนไปหล่อพระอะดิ"
"อ้าว...มีงานหล่อพระเหรอ ไปๆ"
ไม่พูดพร่ำทำเพลง ใจง่ายซ๊า....า
ต้นทางนัดหมายวินรถตู้อนุสาวรีย์ชัยฯ
ฝั่งพหลฯขาเข้าอนุสาวรีย์ฯ นั่นแหละ
รถเคลื่อนตัวออกก่อนตีห้าครึ่งเล็กน้อย
ใช้เวลาเดินทาง 2 ชั่วโมงกว่า
แปดโมงครึ่งเราก็ได้เกาเหลาข้าวเปล่าเป็นอาหารเช้าที่ตัวเมืองอุทัยธานี
ปลายทางของวันนี้อยู่ที่บ้านสบายใจ ก่อนถึงวัดท่าซุงนิดหน่อย
หน้า 69 ของ 83