แจก พระธาตุพระสีวลี พระธาตุพระปัจเจก ไข่พญางูเผือก พญาเหล็กไหลน้ำ คตหอยหมื่นปี

ในห้อง 'แจกฟรี แต่มีค่าส่ง' ตั้งกระทู้โดย บารมีธรรมะ, 11 ตุลาคม 2013.

  1. บารมีธรรมะ

    บารมีธรรมะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มีนาคม 2013
    โพสต์:
    146
    ค่าพลัง:
    +122
    แจก พระธาตุพระสีวลี พระธาตุพระปัจเจก ไข่พญางูเผือก พญาเหล็กไหลน้ำ คตหอยหมื่นปี

    เพิ่งได้รับมาค่ะ เก็บก็เยอะเกินไปก็เลยเอามาแจกให้ผู้ศรัทธาทุกๆท่าน ที่อยากนำไปกราบไหว้บูชาเพื่อเป็นศิริมงคลแก่ท่านและครอบครัวค่ะ ทุกอย่างล้วนมีความศักดิ์สิทธิ์ทั้งสิ้นค่ะ มีพุทธคุณรอบต้านส่งผลให้ผู้ที่ครอบครองมีโชคลาภ วรรณะ สุข พละ ร่มเย็นเป็นสุข บ้านใดมีเก็บไว้จะชุ่มเย็นคนในบ้านรักใคร่ปรองดอง บ้านไหนรูสึกว่าอยู่ยาก อยู่แล้วกระวกระวายใจ เพราะเจ้าที่แรงหรือหลายสาเหตุ ควรนำไปบูชานะค่ะสิ่งไม่ดีจะได้คลายออกไปค่ะ สาธุ......

    ค่าจัดส่งองค์ล่ะ 100 ค่ะ

    โอนเงินมาที่
    ชื่อบัญชี โสภา คลูธ
    เลขที่บัญชี 231-2-74570-7
    ธนาคาร กสิกรไทย
    สาขา เพชรบูรณ์

    หรือจองผ่านE-MAIL anna_amulet@hotmail.com

    ปล.กรุณาใส่เศษสตางค์ด้วยนะค่ะ ^^

    พระธาตุพระสีวลี (องค์ใหญ่ทุกองค์)

    (รูปถ่ายบางส่วนจากองค์จริง)
    [​IMG]
    เข้าศึกษาข้อมูลต่อได้ที่นี้ค่ะ http://www.relicsofbuddha.com/barahun/page8-1-03.htm
    การบูชาพระธาตุพระสีวลี
    พระธาตุพระสีวลี การตั้งให้ต่ำกว่าพระพุทธ สูงกว่าเทพและเกจิทั้งหลาย
    ควรอัญเชิญพระธาตุใว้ในผอบ เอาผ้าขาวรองไว้ในผอบก่อนตั้งพระธาตุ และรองบนพานก่อนตั้งผอบ เป็นผ้าขาว 2 ผืน
    คาถาบูชาพระธาตุเช้า-ค่ำ (ตั้งนะโม 3 จบก่อน)
    สีวะลีจะมหาเถโร เทวะตานะระปูชิโต โสระโหปัจจะยาทิมหิ มหาลาภัง ภะวันตุเม ลาเภนะอุตตะโมโหติ โสระโหปัจจะยาทิมหิ มหาลาภัง สะทาโสตถี ภะวันตุเม
    คาถานี้ภาวนา 3 จบทุกเช้า-ค่ำ

    คาถาถวายอาหารบิณฑบาตร์
    สีวะลี จะ มหาเถโร ยักขาเทวานะระปูชิโต โสระโหปัจจะยาทิมหิ อะหังวันทามิสัพพะทา
    คาถานี้ภาวนา 3 จบตอนถวายสำรับกับข้าวน้ำ อาหารคาวหวานตอนเช้า
    โดยยกสำรับไปถวายท่าน คือตั้งหน้าพระธาตุนั่นเอง ถวายทุกเช้าอย่าให้ขาดจะเห็นผลทันตา หากมีน้ำผึ้งถวายน้ำผึ้งด้วยจะยิ่งดีมาก ตำราว่าไว้หากเราขอลาภใหญ่หรือเพื่องานด้านลาภครั้งสำคัญ ท่านให้ถวายเป็ดต้ม 1 ตัว ไก่ต้ม 1 ตัวบายศรีปากชาม 1 คู่ พร้อมด้วยสำรับกับข้าวคาวหวาน น้ำผึ้ง 1 แก้ว จัดวางบนผ้าขาวสะอาดบริสุทธิ์ (คือผ้าใหม่ที่ยังไม่เคยใช้) หากปฏิบัติได้ดังนี้จะเห็นอานิสงส์ทันตาแล

    คาถาบูชาขอลาภพระสีวะลี
    อุกาสะ ข้าพเจ้าจะขออาราธนาพระพุทธเจ้า พระธรรมเจ้า พระสังฆะเจ้า จะขออาราธนาคาถาพระฉิมพลีเถระเจ้าในวันนี้ ขอให้ข้าพเจ้าได้ดวงแก้วมณี ให้รุ่งเรืองสุกใสในจักขุทวารแห่งข้าพเจ้าบัดเดี๋ยวนี้เถิด พระฉิมพลีเถระเจ้าพระองค์มีศักดาฤทธานุภาพ หาที่จะอุปมามิได้เลย เมื่อครั้งสมเด็จพระพุทธเจ้าเสด็จไปเยือนพระพุทธมารดา ย่อมอาศัยฤทธาศักดานุภาพ พระมหาเถระฉิมพลี พระองค์เสด็จไปอยู่สถานที่แห่งใดๆก็ดี เทพยะดาและมนุษย์ย่อมมาบูชามิได้ขาด ในสถานที่นั้นๆทุกแห่ง ขอให้เดชะบุญญาบารมีพระฉิมพลีเถระเจ้า จงมาเป็นที่พึ่งแก่ข้าพเจ้าในการบัดเดี๋ยวนี้เถิด อิติปิโสภะคะวา พุทโธชัยยะเมตตา ฉิมพลีจะมหาเถโร ลาภะลาภัง ภะวันตุเม ธัมโมชัยยะเมตตา ฉิมพลีจะมหาเถโร ลาภะลาภัง ภะวันตุเม สังโฆชัยยะเมตตา ฉิมพลีจะมหาเถโร ลาภะลาภัง ภะวันตุเม

    คาถานี้หากปรารถนาสิ่งใด เมื่อตั้งความปรารถนาต่อพระธาตุท่านแล้ว จึงให้ภาวนาคาถานี้แล้วอธิษฐานอีกครั้งได้ดังใจนึกแล



    หากต้องการใช้ ด้านใดไห้ภาวนาคาถาหัวใจพระสีวลี 7 จบ ก่อนนะครับดังนี้ นะชาลีติ นี่คือคาถาหัวใจพระสีวลี และเมื่อจะออกจากบ้าน ให้หันหน้าไปทิศตะวันออก ระลึกถึงพระสีวลีเถระเจ้าแล้วภาวนาคาถาหัวใจพระสีวลี 14 จบ จึงไปจะดีนักเป็นเมตตาแก่คนทั้งปวง และมีโชคดีนักจะแคล้วคลาดปลอดภัยด้วย


    ต่อไปนี้เป็นการบูชาพระสีวลีแบบพิเศษ

    การบูชาพระธาตุพระสีวลี(เพื่อขอโชคลาภ)
    ก่อนขอโชคให้ชำระร่างกายให้สะอาดก่อน แล้วทำจิตใจให้สดชื่นผ่องใส ถ้าให้ดีหาดอกไม้มาบูชาบูชาด้วยพวงมาลัยก็ได้ แล้วจุดธูป 3 ดอกเทียน 2 เล่มบูชา แล้วให้ตั้งจิตระลึกถึง คุณของพระพุทธเจ้าทุกพระองค์ คุณของพระธรรมเจ้า คุณของพระสังฆะเจ้า คุณของบิดามารดา ครูบาอาจารย์ คุณของพระสีวลีเถระเจ้า แล้วอธิษฐานดังนี้ว่า
    ช่วยลูกด้วยลูกขอบารมีเป็นที่พึ่ง บัดนี้ได้ฤกษ์งามยามดี ลูกได้เปิดร้านทำการค้าขาย ขอให้ซื้อง่ายขายดี ขอให้ซื้อง่ายขายคล่อง ร่ำรวยเป็นเศรษฐีมหาเศรษฐียิ่งๆขึ้นไป ขอให้อยู่เย็นเป็นสุข ทำมาหากินเจริญรุ่งเรือง ร่ำรวยเป็นเศรษฐีมหาเศรษฐี ขอให้มีอายุมั่นขวัญยืนมี อายุ วรรโณ สุขัง พลัง

    แล้วตั้งนะโม 3 จบ แล้วภาวนาดังต่อไปนี้ว่า
    อิมินา สักกาเรนะ พุทธัง อภิปูชะยามิ
    อิมินา สักกาเรนะ ธัมมัง อภิปูชะยามิ
    อิมินา สักกาเรนะ สังฆัง อภิปูชะยามิ
    อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ ภะคะวา พุทธัง ภะคะวันตัง อภิวาเทมิ (กราบ)
    สวากขาโต ภะคะวะตา ธัมโม ธัมมัง นมัสสามิ (กราบ)
    สุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ สังฆัง นะมามิ (กราบ)
    สีวลีจะมหาเถโร เทวะตานะระปูชิโต โสระโหปัจจะยาทิมหิ สีวลีจะมหาเถโร ยักขาเทวาภิปูชิโต โสระโหปัจจะยาทิมหิ อะหังวันทามิตังสะทา สีวลีเถรัสสะ เอตังคุณะ สวัสดิลาโภ ภะวันตุเม พุทธังนำมาเงิน ธัมมังนำมาทอง สังฆังนำมาของ กอ ขอ ข้อ เห แห ให้ มาให้เราหนา พ่อแม่หนา นะชาลีติ พระอิติปิโส ภะคะวา พุทธังขอให้ร่ำรวย ธัมมังขอให้ร่ำรวย สังฆังขอให้ร่ำรวย พุทธังขอให้เป็นเศรษฐีมหาเศรษฐี ธัมมังขอให้เป็นเศรษฐีมหาเศรษฐี สังฆังขอให้เป็นเศรษฐีมหาเศรษฐี เตชะสุเนมะภูจะนาวิเวอิติ นะเยปะรังยุตเต ขอจงนำเอาโชคลาภ แก้วแหวนเงินทองข้าวของ มาสู่ในสถานที่นี้ด้วยเทอญ พุทธังรักษา ธัมมังรักษา สังฆังรักษา พุทธังคุ้ม ธัมมังคุ้ม สังฆังคุ้ม เอหิพุทธานุภาเวนะ เอหิธัมมานุภาเวนะ เอหิสังฆานุภาเวนะ

    คาถานี้ใช้เวลาจะเปิดร้าน ก่อนจะไปค้าขายดีนักแล
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 ตุลาคม 2013
  2. บารมีธรรมะ

    บารมีธรรมะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มีนาคม 2013
    โพสต์:
    146
    ค่าพลัง:
    +122
    พระธาตุ พระปัจเจกพระพุทธเจ้า

    พบได้ในถ่ำโดยเฉพราะ เป็นสิ่งที่ธรรมชาติสร้างขึ้นมา และหายาก
    คนไทยมักจะเรียกว่า ลูกนิมิตในถ่ำ และมีความเชื่อที่ว่าเป็นลูกหินศักดิ์สิทธิ์
    สามารถนำมาใช้ฝึกสมาธิได้ และผู้ที่ได้ครอบครองจะช่วยให้เป็นคนที่ใจเย็นได้

    ความเป็นมาในไทยเรียกว่า พระธาตุ พระปัจเจกพระพุทธเจ้า หรือ ไข่มุกกวนอิม ไข่มุกถ้ำ ไข่หินตัน หรือพญางูเผือก แล้วแต่คนจะเรียกกัน!

    ธาตุกายสิทธิ์อีกชนิดหนึ่งที่จัดได้ว่ามีความแข็งของโมล์เท่ากับ 10 โมล์คือแข็งแกร่งเท่าเพชรหรือมากกว่าเพชรและมีพลังเทียบเท่ากับธาตุ กายสิทธิ์เหล็กไหลและพระบรมสารีริกธาตุเลยทีเดียว อีกทั้งยังมีลักษณะและสีสรร รูปร่างเหมือนกับพระธาตุสมเด็จองค์ปฐมเลยครับ และยัง มีอีกชิ้นที่รูปร่างเหมือนกับพระธาตุของพระธาตุของพระอรหันต์ไม่ทราบพระนาม ด้วยครับ แต่องค์ขนาดเท่าลูกปิงปองเนี่ยก็หนักและมีพลัง เกินตัวมาก ด้วยความแข็งที่เท่ากับเพชรดังนั้นจึงมีพลังมากขนาดทำลายก้อนหินขนาดที่ใหญ่ กว่าได้

    แต่บางคนบอกว่าใช้หินเจียที่เขาใช้ตัดเหล็ก มาค่อยๆตัดผ่าซีกกว่าจะตัดเข้าก็ใช้เวลานานมากครับ ซึ่งคนเก่าแก่บอกว่าเขาเอาไว้ ใต้ฐานพระพุทธรูปหรือที่พระธาตุหรือเจดีย์ต่างๆครับ เพราะบางคนก็เล่าว่าข้างในไข่มุกกวนอิมนั้นเป็นลูกแก้ว 7 สี บางคนก็บอกว่ามี 12 ราศีอยู่ข้างใน บางคนก็บอกว่ามีองค์เหล็กไหลอยู่ข้างใน ไข่มุกกวนอิมมักจะมีอยู่ในถ้ำลึกที่คนเข้าถึงยาก มีอยู่ทางภาคใต้ ภาคเหนือ ภาคกลางกับภาคอิสานผมไม่รู้ว่ามีหรือไม่เพราะมันไม่มีข่าวออกมา และมีที่ถ้ำในธิเบตครับ ก็ที่ลามะธิเบตใช้ทำลูกประคำแขวนคอนั่นเอง เพราะจะมีองค์เล็กๆเท่าหัวแม่โป้งก็มี

    อีกความเห็นหนึ่งที่ได้มาคือ พระธาตุ พระปัจเจกพระพุทธเจ้า เหล็กไหลสีขาว ธาตุกายสิทธิ์พลังเย็น

    พระธาตุ พระปัจเจกพระพุทธเจ้า จัดเป็นธาตุกายสิทธิ์ชนิดหนึ่ง เป็นสิ่งที่ธรรมชาติสร้างขึ้นมาและหายาก พระลามะทิเบตชอบมีไว้ประจำตัว เพราะจะพบได้เฉพาะในถ้ำในภูเขาประเทศทิเบต และลึกเข้าไปในแคว้นเชียงตุงของพม่า และทางเหนือของประเทศลาว

    ส่วนในประเทศไทยจะพบในถ้ำลึกกลางป่าเขาทางภาคเหนือ พระธาตุ พระปัจเจกพระพุทธเจ้าชอบ อากาศหนาวจัด จึงมีพลังเย็น มีอานุภาพทางแคล้วคลาดล่องหนหายตัวได้ชั่วคราว ถูกไฟไม่ยืด แต่ถ้าใช้คาถาอาคมยืดได้ มีมายาในตัว งอกขึ้นได้เล็กลงได้ ถ้าจะนำไปสร้างพระเครื่องจะต้องใช้วิชาเล่นแร่แปรธาตุบังคับ หากพลังจิตไม่แก่กล้าพอก็ทำไม่ได้

    พระธาตุ พระปัจเจกพระพุทธเจ้าสามารถรู้ล่วงหน้าได้ว่าผู้ ครอบครองจะหมดสิ้นอายุขัย มีเคราะห์ร้ายถึงตายเมื่อใด ไข่มุกกวมอิมจะถือโอกาสล่องหนอันตรธานหายไป ผู้ครอบครองคนใดเมื่อรู้ว่าไข่มุกกวมอิมของตนหายก็อย่าได้ตกใจจนขวัญเสีย มีสติปลงให้ตก ทำบุญสุนทาน แผ่เมตตา ทำสมาธิให้จิตสงบไม่ฟุ้งซ่าน เมื่อจะต้องตายไปจริงๆ จิตจะได้สู่สุคติในสัมปรายภพ

    คนไทยมักจะเรียกว่า พระธาตุ พระปัจเจกพระพุทธเจ้า ไข่มุกกวมอิม เหล็กไหลสีขาว เหล็กไหลชีปะขาว เหล็กไหลน้ำหนึ่งไข่มุกถ้ำ ไข่หินตัน แล้วแต่คนจะเรียกกัน!

    เกจิอาจารย์บางท่านเรียกว่า “พญางูเผือก” มีสีขาวเป็นมันเลื่อมคล้ายเกล็ดงู และมีความเชื่อที่ว่าเป็นลูกหินศักดิ์สิทธิ์ สามารถนำมาใช้ฝึกสมาธิได้ มีไว้กับตัวกับบ้านถือว่าเป้นศิริมงคลยิ่งนัก


    คาถาพระปัจเจกพุทธเจ้า (คาถาพระปัจเจกะโพธิ์)

    นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ (ตั้งนะโม 3 จบ)

    วิระทะโย วิระโคนายัง
    วิระหิงสา วิระทาสี วิระทาสา วิระอิตถิโย พุทธัสสะ
    มานีมามะ พุทธัสสะ สวาโหม

    คาถาพระปัจเจกะโพธิ์นี้ (คาถาพระปัจเจกพุทธเจ้า) ว่า 3 จบ หรือ 5 จบ หรือ 7 จบ หรือ 9 จบ ก็ได้แต่ต้องสม่ำเสมอจึงจะเกิดผล สวดเป็นประจำเงินทองไม่ขาดมือ ผู้มีความเชื่อมั่น เป็นเศรษฐีมานักต่อนักแล้ว
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 ตุลาคม 2013
  3. บารมีธรรมะ

    บารมีธรรมะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มีนาคม 2013
    โพสต์:
    146
    ค่าพลัง:
    +122
    พญาเหล็กไหลน้ำ​


    วัตถุธาตุกายสิทธิ์ (พญาเหล็กไหลน้ำ) นี้
    เกิดมีขึ้นด้วยฤทธิ์อำนาจของพวกฤาษีผู้มี ฌาน (สมาธิระดับสูง) และ อภิญญา (ความสามารถพิเศษ)
    แก่กล้าในระหว่างอันตรกัป คือ ในระหว่างที่ว่างจากพระพุทธศาสนาเป็นระยะเวลายาวนานนั้น
    บรรดามนุษย์ผู้มีบุญ คือ คุณธรรมจากการที่ได้เคยรักษาศีล และเจริญภาวนาสมาธิมาก่อน ที่ได้มาเกิดเป็นมนุษย์ในยุคนั้น ได้ออกบำเพ็ญพรต (ถือศีล) พรหมจรรย์ (การออกบวชเว้นเมถุน-คือเว้นชีวิตคู่)
    ด้วยมุ่งหวัง “อมตธรรม” ก็คือ ปรารถนาพระนิพพานที่สิ้นสุดแห่งทุกข์ และที่เป็นบรมสุขนั้นแหละ

    แต่ไม่รู้จักทางสายกลาง (มัชฌิมาปฏิปทา) ให้ถึงอมตมหานฤพานได้ เพราะยังไม่มีพระพุทธเจ้ามาตรัสรู้
    จึงได้แต่เจริญสมาธิภาวนา จนได้ฌานและอภิญญาแก่กล้า
    แต่ก็รู้ว่าตนเองนั้นยังไม่อาจพ้นความตายได้ ยังไม่เห็นทางที่จะถึงอมตธรรมที่ไม่ตายได้
    ก็ปรารถนาที่จะมีชีวิตที่ยั่งยืนที่สุด ดุจว่าเป็นอมตธรรม
    เพื่อรอผู้ตรัสรู้ (พระพุทธเจ้า) มาตรัสสอนทางปฏิบัติให้ได้บรรลุถึงอมตธรรม
    เพื่อจักได้เข้าสู่กระแสธรรม นำไปให้ถึงอมตธรรมตามที่ได้มุ่งหวัง

    จึงค้นหาวิธีสร้าง "วัตถุธาตุอันเป็นที่สถิตแห่งจิตวิญญาณของตน" ให้คงทนยั่งยืนที่สุด
    ดุจว่าเป็นอมตธรรมนั้นด้วยฤทธิ์อำนาจของตน ก่อนเบญจขันธ์ของตนจะแตกทำลาย (ก่อนทำกาละ/ตาย)

    ครั้นพากันทำวัตถุธาตุนั้นขึ้นด้วยฤทธิ์อำนาจของพวกตนที่แก่กล้ารุนแรง
    จนเกินอำนาจการควบคุมให้อยู่ในสภาวะพอเหมาะตามต้องการได้
    วัตถุที่ปรุงขึ้นด้วยฤทธิ์อำนาจนั้นก็ระเบิดเป็นจุณ วิจุณ
    เป็นอณูธาตุ เป็นที่สถิตอยู่ของจิตวิญญาณฤาษีนั้นเองด้วย และกายสิทธิ์ภาคผู้เลี้ยงด้วย
    และแม้เทพเทวาที่รู้คุณวิเศษของวัตถุธาตุเช่นนั้น ก็ติดตามครอบครองยึดถือเป็นเจ้าของ

    อณูธาตุเหล่านั้นมีทั้งที่กระจัดกระจายออกนอกแนวแรงดึงดูดของโลก คือ หลุดออกไปนอกโลก
    และทั้งที่กระจัดกระจายไปในบรรยากาศของโลก แล้วตกลงสู่พื้นดิน
    และวิวัฒนาการไปตามธรรมชาติ ตลอดระยะเวลายาวนานหลายกัปหลายกัลป์มาจนถึงปัจจุบันนี้

    จึงมีสภาพ ลักษณะ และอานุภาพที่แตกต่างกันไปตามธรรมชาติที่แวดล้อม เป็นอยู่
    และเปลี่ยนแปลงไปตามกฎเกณฑ์ธรรมชาติ คือ
    ความเป็นสภาพไม่เที่ยง (อนิจฺจํ)
    ต้องเปลี่ยนแปลงไปตามเหตุปัจจัย เป็นทุกข์ (ทุกฺขํ) คือทนอยู่ในสภาพเดิมไม่ได้นาน
    จนถึงเป็น อนตฺตา ได้ในที่สุด

    ครั้นเมื่อมาถึงยุคปัจจุบันนี้
    จึงอาจมีอานุภาพตามคุณลักษณะของธาตุธรรมที่จะเป็นฝ่ายพระ (ฝ่ายบุญกุศล) ล้วนๆ
    ที่จะให้สุขสมบัติแก่ผู้มีอยู่ในครอบครองแต่ถ่ายเดียว

    หรือว่าจะมีอานุภาพตามลักษณะของธาตุธรรมเป็นฝ่ายมาร (ฝ่ายบาปอกุศล) ล้วนๆ
    ที่จะให้ทุกข์สมบัติ แก่ผู้มีไว้ในครอบครองแต่ถ่ายเดียว

    และ/หรือจะมีลักษณะของธาตุธรรม 2 ฝ่าย ปะปนกัน
    ที่อาจให้ทั้งสุขสมบัติแก่ผู้ประพฤติปฏิบัติดี มีศีลมีธรรม
    และ ที่ให้ทั้งทุกข์สมบัติแก่ผู้ประพฤติปฏิบัติชั่ว ทุศีล ขาดหิริโอตตัปปะ และ ไร้คุณธรรม
    ได้ตามส่วนของเขา และตามระดับคุณธรรมของผู้มีไว้ในครอบครอง

    อณูธาตุอันเป็นที่สถิตอยู่ของจิตวิญญาณธาตุของฤาษี ที่ปรารถนาดำรงคงทนยั่งยืนที่สุดดุจอมตธรรม
    จึงต้องเสพ หรือ ดูดซึมสิ่งที่อยู่แวดล้อมเป็นเครื่องหล่อเลี้ยงอณูธาตุนั้น ให้ดำรงคงอยู่คู่กับเบญจขันธ์ของตน เช่น
    - ในบริเวณบางแห่งที่มีแร่ธาตุประเภทอัญมณีมาก ก็จะวิวัฒนาการเป็นวัตถุธาตุที่เหมือนอัญมณีสีต่าง ๆ ได้
    - บริเวณที่มีทั้งแร่ธาตุ ดินกากยายักษ์ หิน และทั้งว่านยาสมุนไพรที่วิเศษต่าง ๆ
    ที่เหมาะแก่การรักษาธาตุขันธ์ของเขา ก็จะเสพหรือดูดซึมเข้าไปปรุง หล่อเลี้ยงธาตุขันธ์ของเขา
    จึงวิวัฒนาการมาเป็นวัตถุธาตุกึ่งอัญมณี-หิน-เหล็ก รวมกัน แต่ไม่ดูดเหล็ก

    กล่าวโดยส่วนใหญ่แล้วมีส่วนผสมของแร่เหล็กเป็นตัวยืน
    ที่เมื่อถูกเชิญ หรือถูกบังคับเรียกออกมาจากรังด้วยเวทมนตร์ของผู้ทรงวิทยาคม
    ก็จะไหล หรือ ย้อยหยดลงมาในสภาพเป็นของเหลว
    หรือ ยืดออกมาในสภาพเป็นของอ่อนนิ่มก่อน จึงชื่อว่า “เหล็กไหล”
    เมื่อมากระทบกับอากาศเย็น หรือ น้ำพระพุทธมนต์ที่รองรับไว้
    ก็จะกลับแข็งตัวเหมือนโลหะเหล็ก หรืออัญมณีที่แข็งเหมือนเหล็ก

    นอกจากนั้น วัตถุธาตุกายสิทธิ์นี้ยังขยายขนาดและขยายเผ่าพันธุ์ มีสมาชิกทั้งแก่และอ่อนสถิตอยู่ร่วมกันในรัง
    ดุจดังว่าเป็นอาณาจักรของเขา เรียกว่า “รังเหล็กไหล” หรือ “โคตรเหล็กไหล”

    กรณีที่ธาตุกายสิทธิ์ถูกผู้มีอำนาจสิทธิเหนือกว่า เช่น
    ผู้เป็นพระอริยเจ้าเชิญออกมา หรือ ผู้ทรงวิทยาคมเรียกบังคับให้ออกมาจากรัง...จนหมดทั้งรัง
    รัง หรือ โคตรเหล็กไหลนั้น บางท่านเรียกว่า "มูล หรือ ขี้เหล็กไหล"
    เเต่ มูล หรือ ขี้เหล็กไหลจริงๆ มีอยู่อีกต่างหาก

    ธาตุกายสิทธิ์ที่ถูกเชิญ หรือ เรียกบังคับออกมานี้ ชื่อว่า "เหล็กไหลตัด"
    เหล็กไหลประเภทนี้ มีกัมมันตภาพรังสีอยู่ด้วยมาก
    ประเภทนี้มีฤทธิ์อำนาจมาก มีอานุภาพร้อนเเรง
    จึงมีทั้งคุณอนันต์เเก่คนดีมีศีลมีธรรม เเละเป็นโทษมหันต์เเก่ผู้ทุศีล หรือขาดคุณธรรมได้



    รัง หรือ โคตรเหล็กไหล ที่มีสมาชิกธาตุกายสิทธิ์สถิตอยู่มากมายนั้น
    นานปีนับร้อย - พัน - หมื่น - เเสน - ล้าน - โกฏปี
    ย่อมได้รับความกระทบกระเทือนจากปัจจัยเเวดล้อมตามธรรมชาติ ได้เเก่
    เเดด ลม ฝน เเผ่นดินไหว น้ำไหลเซาะ ฯลฯ เป็นต้น
    บางส่วนก็เเตกหลุดออกจากรังเดิมไปตามธรรมชาติ
    ถูกกระเเสน้ำกระเเสลม...ซัดพัดพาไปติดอยู่ ณ ที่ใดที่เหมาะสม ก็ขยายเผ่าพันธุ์ ณ ที่นั้นต่อๆไปอีก

    ชื่อว่า "พญาสมิงเหล็ก" ก็มี / "เหล็กไหลเจ้าป่า" ก็มี / "หล็กไหลโกฏปี" ก็มี
    เเละสมาชิกที่วิวัฒนาการเป็นธาตุกายสิทธิ์ ที่เคยอาศัยอยู่ในรังน้อยใหญ่
    ก็หลุดจากรังเดิมต่อๆไปอีก ถูกกระเเสน้ำพัดพาไปอยู่ตามถ้ำ ตามเเอ่งน้ำ
    บนภูเขา หรือออกจากถ้ำ / ภูเขา ไปอยู่ตามเชิงเขาเเละตามพื้นดินภายนอกก็มี
    ที่อยู่ตามน้ำ เรียกว่า "เหล็กไหลตาน้ำ" หรือ "เหล็กหลบ" ก็มี
    เเละที่อยู่ตามพื้นดินภายนอก ถูกเเดดเเผดเผาจนเป็นสีน้ำตาลอมส้ม เรียกว่า "เหล็กไหลเพลิง" ก็มี ฯลฯ

    วัตถุธาตุกายสิทธิ์ที่ตัดเอง (หลุดออกมาเอง) โดยธรรมชาติ
    ทั้งหมดเหล่านี้จึงรวมเรียกว่า "เหล็กไหลบารมี"


    พิธีการอัญเชิญเหล็กไหลเข้าบ้านและ การบูชาเหล็กไหล

    เมื่อท่านได้เหล็กไหล(ชนิดใดๆ ก็ตาม ดีทั้งนั้น) ไว้ในครอบครองแล้ว เมื่ออัญเชิญเข้าบ้านให้จุดธูป 5 ดอก ให้บอกกล่าวดังนี้.- (ตั้ง นะโม 3 จบ )
    “ข้าแต่พระพุทธเจ้า พระธรรมเจ้า พระสงฆ์เจ้า ข้าพเจ้าขอนอมอัญเชิญ และบอกกล่าวภูมิฐานเทวดา ทั้งเบื้องบน เบื้องกลางเบื้องล่าง เจ้าที่เจ้าทาง เจ้าป่าเจ้าเขา เจ้าทุ่งเจ้าท่า ตลอดทั้งครูบาอาจารย์ในทุกๆ พระองค์ และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ที่สิ่งสถิต ณ บ้านหลังนี้ บัดนี้ ข้าพเจ้า ชื่อ ..นามสกุล... ขออาราธนาอัญเชิญธรรมธาตุเหล็กไหล อันเป็นธาตุกายสิทธิ์อันทรงฤทธิ์ อานุภาพนี้ เข้าสู่บ้านเลขที่ ............ซึ่งเป็นบ้านของ .... เพื่อมา เพิ่มเติมเสริมทรัพย์ ให้บังเกิดมีโชคมีลาภ คุ้มครองป้องภัย และกำจัดสิ่งเลวร้ายทั้งหลายให้หมดไป ...(ให้จิตนึกคิดว่าเอาแต่สิ่งดีๆ) ด้วยเทอญ
    การบูชาธรรมธาตุเหล็กไหล ( ตั้ง นะโม 3 จบ )
    “ พุทโธเมนาโถ ธัมโมเมนาโถ สังโฆเมนาโถ สะกะพะจะ บูชา จะ มหาบูชา ท่านผู้ดูแลรักษา ธาตุอันศักดิ์สิทธิ์ อันทรงฤทธิ์อานุภาพนี้
    อิสะวาสุ อิติปิโส ภะคะวา เหล็กไหลเจริญมา เจริญยิ่ง เจริญดี สิ่งดี ๆ ทั้งหลาย หลั่งไหลเข้ามาสู่แก่ตัวข้าพเจ้า ชื่อ......... นามสกุล.........
    สัมมะ สัมมา สัมมา สัมมะ นะมะอะอุ นะมะพะทะ นะโมพุทธายะ ”
    ตอนกล่าวคาถา “ นะ มะ อะ อุ ” กำหนดจิตรับพลังเหล็กไหลเข้าไปที่ นะ (หน้าผาก) , มะ (หน้าอก) , อะ (แผ่นหลัง) และ อุ (หน้าท้อง ที่จุดสะดือ)


    การบูชาด้วยพระคาถาอาคม จะมีความศักดิ์สิทธิ์มีฤทธิ์มีเดช ต่อเมื่อผู้ใช้มีความเชื่อ เคารพศรัทธา ต่อพลังธาตุกายสิทธิ์ และต่อครูบาอาจารย์ที่ถ่ายทอดพระคาถาอาคมนั้น นับเป็นโชคดีของท่านที่ได้ครอบครองวัตถุธาตุนี้ เหนือสิ่งอื่นใดความสำเร็จในชีวิต ท่านต้องเป็นผู้สร้าง สิ่งศักดิ์สิทธิ์สร้างให้ไม่ได้ แต่จะทำให้ท่านได้พบแต่ความโชดดี แคล้วคลาดปลอดภัย แต่ก็พึงระลึกเสมอว่า คนทุกคนล้วนอยู่ภายใต้กฎแห่งกรรม มีกรรมเป็นเผ่าพันธุ์ มีกรรมเป็นที่ตั้ง ขอให้นอมรับกรรมนั้นๆ ไม่ว่าจะเป็นกรรมดี หรือไม่ดีก็ตาม ด้วยการมีสติ จะได้ไม่เสียสมดุลของชีวิต
    การได้มาของเหล็กไหล เกิดจากการทำพิธีอัญเชิญ อธิษฐานจิต ของผู้บำเพ็ญธรรม ที่มีความประสงค์จะขอธรรมธาตุเหล็กไหล เพื่อมาทำประโยชน์ในการทำนุบำรุงพระศาสนา โดยมอบเป็นของที่ระลึกให้กับผู้ที่บริจาคทานทรัพย์สร้างวัดวาอารามบ้าง หรือครูบาอาจารย์แบ่งมอบให้กับลูกศิษย์บ้าง


    เมื่อถึงเวลาเหล่าเทพเทวา นาคนาคา คนธรรพ์ ยักษ์ ผู้ดูแลรักษาสิ่งเหล่านี้ จะนิมิตบอกให้รู้ หรือมีเหตุให้รู้ เพื่อให้มารับเอาของสิ่งนี้ ตามเจตนาอันบริสุทธิ์เพราะผู้มีบารมีในที่นี้ส่วนใหญ่จะเป็นผู้ที่ รักษาศีลหรือปฏิบัติธรรมมาก่อนตั้งแต่อดีตชาติ จึงสามารถสื่อ และอัญเชิญผู้ดูแลรักษาเหล็กไหลนี้ ดังนั้นไม่ว่าท่านจะได้มาด้วยเป็นการพบโดยบังเอิญ หรือได้มาด้วยความศรัทธาจากการบูชา หรือจะด้วยแรง อธิษฐาน หรือนิมิตบอกก็ตาม ล้วนเป็นเหตุปัจจัยทั้งสิ้น
    เหล็กไหลวัตถุธาตุกายสิทธิ์ ใช่ว่าใครๆ จะได้ครอบครอง บางคนยังไม่เคยเชื่อว่าสิ่งเหล่านี้มีจริงมองว่าเป็นวัตถุธาตุ ตามตารางธาตุธรรมดา ดังนั้น เมื่อได้พบจึงเหมือนไม่ได้พบ (สื่อ ศิล เหมือน เสมอกัน จะเหนี่ยวนำกัน)
    คาถาเพิ่มฤทธิ์เดชให้กับเหล็กไหล เริ่มต้นครั้งแรกให้ บูชาครู ขัน 5 ขัน 8 และขันเต็ม (ระลึกถึงครูบาอาจารย์ที่มอบพระคาถา) ตั้ง นะโม 3 จบ
    “ พุทโธ พุทธัง นะกัญตัง อะระหัง สัมมา สัมพุทโธ นะโมพุทธายะ”
    (ในวันพระ สวด 108 จบ จะดีมาก และอธิฐานจิตนึกขอเอาแต่สิ่งดีๆ จะศักดิ์สิทธิ์มีฤทธิ์มีเดชหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับความเชื่อ และศรัทธา ของที่ผู้นำไปปฏิบัติบูชา)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 ตุลาคม 2013
  4. บารมีธรรมะ

    บารมีธรรมะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มีนาคม 2013
    โพสต์:
    146
    ค่าพลัง:
    +122
    คตพญาหอยหมื่นปี

    หอยต้๋น(หอยกลายเป็นหิน) เป็นเครื่องรางล้านนาที่ยากจะพบเจอได้ทั้งความแปลก ความคลาสสิค เนื่องจากคงคาดเดาได้ยากว่าอายุเท่าไหร่แต่ที่แน่นอนตามหลักวิทยาศาสตร์คงต้องใช้เวลาอย่างน้อยเป็นหมื่นๆปี เป็นของเก่าแก่สืบทอดมาหลายชั่วอายุคนแล้วครับไม่ใช่ของมั่วของแกะของทำเลียนแบบแน่นอนครับ ความพิเศษในตัวคือ มหาอุตย์ เน้นด้านคงกระพันชาตรีเป็นหลัก เป็นเครื่องรางคู่ชายชาตินักรบอีกชิ้นครับ ถ้าจะนำไปบูชาค้าขายไม่แนะนำครับ เพราะโบราณคนล้านนาเขาถือว่าอาจจะค้าขายไม่ดีคือตันไปหมด หอยตั๋น (คตหอย) ธาตุกายสิทธิ์หายาก ไม่ต้องปลุกเสกก็มีดีในตัว. คนเหนือเชื่อว่า อยู่ยงคงกะพันชาตรี มหาอุด กันคุณไสยที่เกิดจากลมเพลมพัด ชาวล้านนามักจะนำหอยมาแช่น้ำใช้ดื่มกิน เชื่อว่าสามารถป้องกันคุณไสย์มนต์ดำ ที่พวกโจรสมัยก่อนทำไว้เพื่อจะได้ปล้นอย่างสะบายใจ ให้รอดพ้นจากอวิชชาเหล่านี้ ส่วนเหล่าหาญชายชาตรีเวลาจะด้องเดินทางไกล หรือไปค้าขายต่างเมืองมักจะนำหอยตั๋นมัดติดฝักดาบไปด้วยทุกครั้งเพราะว่าหอยตั๋นนั้นมีพุทธคุณเป็นมหาอุฒม์ ฟันแทงไม่เข้านั้นเอง หรือแวะดื่มน้ำทานข้าวที่ไหนก็จะนำหอยตั๋นมาวนบนอาหารหรือน้ำดื่มนั้น เพื่อแก้ขึด(อาถรรพ์)ที่อาจถูกวางมาในอาหารหรือน้ำดื่มได้

    คาถาพญาหอยตั๋นหลวง

    อะธะ พุทธะทัดตัง อะธะ ธัมมะทัดตัง อะธะ สังฆะทัดตัง ตันจะ

    พุทธะตันจะ ธัมมะตันจะ สังฆะตันจะ คะสะติ ลิฐิตันจะ เลหิ กัมมะตันหิ

    ยันติ วิทิตันติ กะกุวิธะเล สัพพัญญูตัมหิ พะธะนัง กะชะปัง โกตะมัง

    จะตุตันจะ เจวะ เยหิ มะมะ

    อมธาตุพระพุทธเจ้า มาช่วยกูตัน แต่ในมานอก ตันทุกคอกตีนมือ ตันสายดือที่ป่อง

    ตันทางช่องหัวนม ตันทั้งกลมทุกแห่ง ตันติตะโก นะโมตันติ


    ค่าจัดส่งทุกชิ้น 100 บาทค่ะ เป็นเพียงบางส่วนนะค่ะที่นำมาถ่าย ที่ยังไม่ได้ถ่ายยังมีอีกค่ะ ชิ้นไหนหมดจะแจ้งให้ทราบค่ะ

    โอนเงินมาที่
    ชื่อบัญชี โสภา คลูธ
    เลขที่บัญชี 231-2-74570-7
    ธนาคาร กสิกรไทย
    สาขา เพชรบูรณ์

    หรือจองผ่านE-MAIL anna_amulet@hotmail.com

    ปล.กรุณาใส่เศษสตางค์ด้วยนะค่ะ ^^
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 ตุลาคม 2013
  5. cunchit99

    cunchit99 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    2,044
    ค่าพลัง:
    +1,951
    จองพระธาตุพระสีวลี 1 องค์
    พระธาตุพระปัจเจก 1 องค์ ครับ
     
  6. baimon22

    baimon22 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    217
    ค่าพลัง:
    +251
    ขอบูชาพระธาตุพระสีวลี 1 องค์ กับพระธาตุ พระปัจเจกพระพุทธเจ้า 1 องค์ ครับ
     
  7. จริยากุ

    จริยากุ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    1,314
    ค่าพลัง:
    +1,446
    คตพญาหอยหมื่นปี จอง 3 ค่ะ
     
  8. บารมีธรรมะ

    บารมีธรรมะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มีนาคม 2013
    โพสต์:
    146
    ค่าพลัง:
    +122
    รับทราบการจองทุกท่านค่ะ
     
  9. Mapgssc

    Mapgssc Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    34
    ค่าพลัง:
    +61
    ขอบูชาพระธาตุพระสีวลี 1 องค์ครับ
     
  10. บารมีธรรมะ

    บารมีธรรมะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มีนาคม 2013
    โพสต์:
    146
    ค่าพลัง:
    +122
    รับทราบการจองค่ะ
     
  11. cunchit99

    cunchit99 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    2,044
    ค่าพลัง:
    +1,951
    สวัสดีครับ ขอแจ้งการโอนเงิน บูชารายการ พระธาตุพระสีวลี 1 องค์
    พระธาตุพระปัจเจก 1 องค์ เรียบร้อยแล้ว วันนี้ 17/10/2556 จาก ธ.กสิกรไทย เวลา 13:26น. จำนวนเงิน 200 บ. ที่อยู่ขอแจ้งทาง PM ครับ
     
  12. Mapgssc

    Mapgssc Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    34
    ค่าพลัง:
    +61
    ผมโอนเงิน 100.75 บาท วันที่ 14 ตค 56 C345B037 เวลา 9:59 น. สำหรับ พระธาตุพระสีวลี 1 องค์ ขอเรียนถามว่าได้จัดส่งหรือยังครับ
    (ได้ส่ง e-mail แจ้งการโอนและที่อยู่แล้วครับ)
    หากยังไม่ได้ส่ง กรุณาส่งที่
    เศรษฐภัทร
    29/28 ม อลิชา 1 ซ พุทธบูชา 36 ถ พุทธบูชา ทุ่งครุ กทม 10140
    ขออภัยด้วยครับหากจัดส่งแล้ว
     
  13. Mapgssc

    Mapgssc Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    34
    ค่าพลัง:
    +61
    วันนี้ 27/10/56 ผมยังไม่ได้รับ พระธาตุพระสีวลีครับ
    ผมแนบหลักฐานการโอนเงิน
    กรุณาส่งตามที่อยู่ด้วยครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  14. cunchit99

    cunchit99 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    2,044
    ค่าพลัง:
    +1,951
    จัดส่งหรือยังครับ
     
  15. บารมีธรรมะ

    บารมีธรรมะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มีนาคม 2013
    โพสต์:
    146
    ค่าพลัง:
    +122
    ยังมีอยู่น่ะค่ะ
     
  16. Mapgssc

    Mapgssc Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    34
    ค่าพลัง:
    +61
    ได้รับพระธาตุแล้วครับ
    ขอบคุณครับ
     
  17. Rei123

    Rei123 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ตุลาคม 2013
    โพสต์:
    332
    ค่าพลัง:
    +266
    ขอรับทั้งหมด เท่าไรหรอครับ
     
  18. เวลาน้อย

    เวลาน้อย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มกราคม 2012
    โพสต์:
    281
    ค่าพลัง:
    +449
    หมดยังครับ...ถ้ายังผมขอบูชาพระธาตุพระสีวะลี 3 องค์นะครับ
     
  19. บารมีธรรมะ

    บารมีธรรมะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มีนาคม 2013
    โพสต์:
    146
    ค่าพลัง:
    +122
    ตอบในPM ให้แล้วค่ะ
     
  20. tuktiksmile

    tuktiksmile Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2014
    โพสต์:
    235
    ค่าพลัง:
    +45
    หมดรึยังคะ จอง
    พระธาตุพระปัจเจก 1
    พญาเหล็กไหลน้ำ 1 ค่ะ
     

แชร์หน้านี้

Loading...