แท๊กซี่

ใครจะขึ้นแท๊กซี่ไปไหนก็ระบุเส้นทางให้แน่นอนไปเลยนะคะ
ระบุไปเลยว่า ไปตามถนนใหญ่ หรือจะเข้าทางลัด
เพราะถ้าท่านไม่ระบุ ท่านอาจจะเจอเส้นทางลัดที่เปลี่ยว
อาจจะโดนปล้นจี้ หรือ เสียค่าเดินทางมากกว่าปกติก็ได้

คือ.. เรานั่งรถแท๊กซี่ใกล้ถึงสถานที่ที่เราไปอีกไม่ถึง 10 ป้ายรถเมล์ คนขับหันมาถามเราว่า ไปเส้นทางลัดเข้าซอยทางซ้ายมือมั้ย เราก็บอกว่า ไปทำไม มันอ้อมมาก นี่ก็อีกไม่กี่ป้ายรถเมล์ก็ถึงแล้ว....นี่ยังดีมันยังถามความเห็น แต่แท๊กซี่คันที่จะเล่าต่อไปนี้สิ มันไม่ถามความเห็นเลย มันเลี้ยวขวาเข้าซอยป้าดอย่างรวดเร็ว ....คือ สถานที่ที่เราจะไปนั้น เหลืออีก 7 ป้ายรถเมล์ก็ถึงแล้ว แต่แท๊กซี่ดันเลี้ยวขวา ออกนอกเส้นทางที่เป็นถนนใหญ่ทันที พอเราทักท้วงก็บอกว่า ทางนี้ทางรัดไปได้เหมือนกัน ไอ้ครั้นจะให้กลับรถย้อนไปทางเดิมก็ลำบากซะแล้ว เนื่องจากถนนในซอยฝั่งที่จะย้อนไปหาถนนใหญ่ทางเดิมนั้น รถติดอย่างมหาศาล และฝั่งที่แท๊กซี่เลี้ยวออกนอกเส้นทางนั้นก็ติดๆ ขัดๆ ไปได้ช้าๆ ก็อยู่ในภาวะจำยอมที่ต้องนั่งไปเรื่อยๆ แล้วมันเป็นแท๊กซี่ที่ใจดีใจเย็นมาก รถเค้าแย่งกันไปตรงช่องทางแคบๆ เหลือเส้นเดียวที่ผลัดกันไปทั้ง 2 ฝั่ง แต่ มันจอดคอย ทั้งๆ ที่มีจังหวะไปได้ มันไม่ไป ใจดีซะงั้น รอให้รถอื่นไปจนเกลี้ยง แล้วค่อยไป ปรากฏว่า เส้นทางที่บอกว่าทางลัดนี้ มันไกลมาก เมื่อเทียบกับไปตามถนนใหญ่ก่อนเลี้ยวขวานั้นเหลืออีก 7 ป้ายรถเมล์เองค่ะ และเส้นทางลัดที่ไปนั้น ก็มีหลายช่วงที่แืท๊กซี่อาจจะเลี้ยวพาเราไปปล้นได้ค่ะ

ส่วนเรื่องสุดท้ายนี้เกิดแก่พี่สาวเราเองค่ะ นั่งแท๊กซี่อยู่แถวชานเมือง
แท๊กซี่วิ่งอยู่บนถนนดีๆ อยู่ๆ ก็จะขึ้นบนทางสะพานเชื่อมไปสู่เส้นทางออกนอกเมืองไปต่างจังหวัด ซึ่งถ้าขึ้นสะพานนั้นแล้วไปยาวเลยค่ะ ออกต่างจังหวัด กว่าจะเจอยูเทิร์นกลับเข้าเมืองได้ก็อีกไกลเลยค่ะ ดีว่า พี่สาวร้องห้ามไว้ทันก่อนแท๊กซี่จะพาขึ้นสะพาน แล้วก็สั่งให้จอดรถลงข้างถนนนั้นเลยค่ะ คิดว่าแท๊กซี่น่าจะพาไปปล้นนะคะ เพราะแท๊กซี่คงเดาออกว่า มีเงินแน่นอน ซึ่งก็จริงค่ะ ทั้งเงินสด เอทีเอ็ม และเครื่องประดับเล็กๆ น้อยๆ ที่ติดตัว ก็น่าจะได้หลายตังค์แน่นอน