แบบนี้เรียก "อวดอุตริ" หรือไม่?

ผมเคยคุยกับผู้ชายคนหนึ่งผ่านทาง Facebook จากการที่คุยกับเขา และเข้าไปดูอัลบั้มรูปของเขา ที่แทบจะ 60% ของภาพทั้งหมด เป็นรูปพระ รูปวัด และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ ก็พอจะสรุปได้ว่า เขาก็เป็นคนที่ธรรมะ ธรรมโมพอสมควร เขาทักผมตามประสาคนที่เพิ่งเริ่มคุยทั่วๆไป แล้วก็คุยกับเรื่องข้อมูลต่างๆ ที่จะทำให้เรารู้จักกันมากขึ้น แล้วก็ไปๆมาๆ เขาก็ชวนคุยเรื่องพระ

ผมก็คุยกับเขาเท่าที่ความรู้ผมมี แล้วทีนี้เขาเริ่มคุยอะไรแปลกๆ เช่น... "บ้านคุณมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์เยอะเลยนะ , คุณมีองค์เทพประจำกาย , แล้วนั่นคุณจะก้มๆเงยๆทำไม?" คือแบบ งงมาก... เพราะ 1.บ้านผมไม่มีพระ หรือรูปเคารพเลย , 2.ผมก็เป็นคนปกติทั่วๆไป ที่เกิดมาอายุก็ไม่ใช่น้อย แต่ก็ไม่เคยเจอผี ไม่มีจิตสัมผัส ไม่มีญาณทิพย์อะไรเลย , 3.ผมก็นั่งของผมเฉยๆ ไม่ได้ก้มๆเงยๆอะไรทั้งสิ้น คนบ้าบออะไร นั่งเล่นคอมต้องก้มๆเงยๆ...?? และที่สำคัญ "เขารู้ได้ไงว่าบ้านผมเป็นยังไง" ????

ทีแรกก็ว่าเขาคุยดีๆ มีหลักการ มีธรรมะ แต่ไปๆมาๆชักจะออกทะเล แล้วทะลุไปดาวนาแม็ก เลยปล่อยให้แกเพ้อของแกไปคนเดียว พอเขาเห็นผมเงียบไปนาน เขาก็ไม่คุย จนสุดท้ายเท่าที่ผมจำได้ เขาบอกว่า "เดี๋ยวผมจะถอดจิตไปเยี่ยมคุณนะ ผมจะทำให้คุณรับรู้ว่าผมมา" นี่ก็ผ่านมาประมาณวันนึงแล้ว ยังไม่รู้สึกอะไรเลย มีก็แต่รู้สึกจุกท้อง เพราะไปกินโออิชิบุฟเฟ่ต์มา แล้วจัดหนักไปหน่อยเท่านั้นเอง

เลยมีความสงสัยในใจว่า ยังมีคนแบบนี้อยู่ในสังคมอีกหรือ? เพราะเท่าที่ทราบมา คนที่มีฤทธิ์ทางนี้จริงๆ จะไม่แสดงตน หรือ อวดตนเลย แต่นี่มาทุกรูปแบบ ล่าสุดผมตัดสินใจ บล็อก คนๆนี้ไปเรียบร้อย เพราะไม่ว่าผมจะโพสต์อะไร เขาก็จะแย้งโพสต์แบบดราม่าตลอด เช่นผมโพสต์ว่า "วันนี้เหงาจุงเบย สงสัยต้องปาร์ตี้ให้เมา เพื่อที่เราจะได้ไม่เหงาเนอะๆๆๆ" ไม่ทัน 5 นาที... เขาก็เมนท์มาว่า "ความเหงาไม่จำเป็นต้องพึ่งพาเหล้า หรือสถานอโคจร แนะนำให้ไปปฏิบัติธรรม สร้างญาณบารมีแก่ตัวเอง จะได้ไม่เหงา............" อะไรของเขาก็ไม่รู้ คือเข้าใจว่าการปฏิบัติธรรม เป็นสิ่งที่ดี แต่เยอะไปมันก็ดูเอเลี่ยนๆอยู่นะ เพลียจิต เลยบล็อกซะ เออ... ชีวิตคนเราก็มีอะไรแปลกๆเหมือนกันเนาะ -*-

 

[ame=http://www.youtube.com/watch?v=NnU_NiZYus0]ฉันไม่ใช่นางเอก-ตั๊ก ศิริพร - YouTube[/ame]


ให้ยาดีอันนี้เลยครับ ฟังก่อนบ่าย (คลายเครียด) ครับ

 

ยังไม่เข้าถึงธรรมแท้ ก็หลง เป็นธรรมดา หลงติดความดี หลงติดฤทธิ์

 

อวดอุตริ ใช้สำหรับ พระสงฆ์เท่านั้น ถ้าเป็นฆาสวาสก็อาจจะหมายถึง การกล่าวโดยความนั้นไม่จริง ไม่เป็นไปเพื่อความเบื่อหน่าย คลายกำหนัด เพ้อเจ้อ

 

...ไม่อวดหรอกครับ อวดอุตริ เป็นหนึ่งใน ปาราชิก 4 ศีลร้ายแรงของภิกษุ...แต่คนประเภทนี้เป็นประเภทที่ มีจิตไม่ได้อยู่กับกาย (กายคตาสติ) แต่ไปอยู่ที่สัญญา สังขาร และเวทนา
เชื่อไว้อย่างเดียวว่า ทุกอย่างบนโลกนี้เป็น อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา...

 

แล้วคุณอินทรบุตรหายหลงหรือยังครับ ?

 

เข้ามาขำ 555555 +

 

อ่อ... ถ้างั้นก็คงเรียกว่า "เพ้อเจ้อ" จะเหมาะกว่าเนาะ เพราะอวดอุตริ ไว้ใช้กับพระ แต่ก็อย่างว่าแหละ สงสัยจะเป็นพวกจิตไม่ค่อยปกติเท่าไหร่

 

เข้าใจว่าเขาคงได้สนทนาธรรมในเบื้องแรก ครั้นเห็นว่าท่านระบำฯมีความรู้ในข้อธรรมดีพอควร เมื่อเขารู้สึกว่า ท่านระบำฯ"รู้ธรรมดีกว่า"เขา จึงคิดจะรักษามานะของตนหรือข่มความรู้ของท่านระบำฯด้วยการชวนให้เชื่อว่าเขามีความสามารถทำนองตาทิพย์หรืออ่านใจใครๆได้ ฯลฯ เรื่องเช่นนี้เป็นไปได้ในบรรดาปุถุชนทั้งหลาย ที่ไม่หลอกแต่คนอื่น แต่หลอกตนเองมานาน..

บางที่ท่านผู้นี้จะได้แสดงตนว่ามีความวิเศษกับแฟนคลับใน Face Off เอ๊ย ! Facebook มามากจนเกิดความสับสนทำนองสัญญาวิปลาส แยกไม่ออกว่าสิ่งใดจริงหรือไม่จริงในตน..เขาจะรู้ตนโดยความไม่จริงมากกว่าคนปรกติ ..แต่ที่น่าแปลกคือ เเม้เวลาคุยด้วยตัวต่อตัว..ตาต่อตากับคนประเภทนี้..เรายังนึกว่าเขาเหมือนคนปรกติทั่วๆไป ไม่พักต้องกล่าวถึงการคุยกันผ่านแค่ตัวหนังสือ ไม่เห็นกันเลย..

ท่านระบำฯ อาจตกใจถ้าท่าน"ถอดใจ"ไปดูเขาถึงที่ที่เขาอาศัยอยู่...และได้เห็นเขากินยาก่อนหรือหลังอาหาร 3 มื้อและก่อนนอน....ดูแล้วช่วยนำมาเล่าให้ฟังบ้าง..จะได้เป็นอุทาหรณ์แก่ชนรุ่นFacebook ในปัจจุบัน..

 

ช่างเขาเถอะนะคะ...เขามีหน้าที่แสดง เขาก็แสดงไป เราก็ดูไป แต่อย่าเก็บมาคิด ปวดหัวเปล่าๆค่ะ

 

ก็คงจะแบบนั้นแหละครับ แต่ผมก็ไม่ได้มีความรู้ ในเชิงธรรมอะไรมากมาย ความรู้น้อยเท่าหางอึ่งด้วยซ้ำไป ศีล 8 มีอะไรบ้างยังไม่รู้เลยครับ แต่เขาคุยมา แล้วคุยดี ก็คุยไป แต่พอเขาเริ่มบิน ผมก็งงไปใหญ่ แต่เขาก็มีอายุพอสมควรแล้วครับ (สังเกตจากรูปร่าง หน้าตา น่าจะราวๆ 40+)

ส่วนเรื่องจะให้ผมถอดใจ ผมทำไม่เป็นหรอกครับ แต่ก็งงเหมือนกัน ว่าคนที่เขาทำได้ เขาจะประกาศก้องขนาดนี้เชียวหรือ?

 

555
นานาจิตตัง นะครับ ไม่น่าจะมาเถียงกันนะครับ
เจ้าของกระทู้ ก็ไม่ต้องไปสนใจเค้าแหละครับ

พระพุทธศาสนาก็เหมือนต้นไม้แหละครับ มีเปลือก มีเนื้อไม้ มีกระพี้ มีแก่น

จะเข้าถึงแก่นไม้ มันก็ต้องผ่านเปลือกใช่มั้ยละครับ

ฉันไดก็ฉันนั้นครับ ตอนนี้เค้าอยู่เปลือก ถ้าติดเปลืองก็เข้าไปในเนื้อไม่ได้ หลงว่าเปลือกดีครับ ถ้าเรารู้ทันแล้ว เราก็ผ่านเปลือกเข้ามาหาเนื้อได้ครับ


แต่อย่าไปคิดว่าตนเองดีนะครับ คิดว่าตัวเองดีเมื่อไหร่ ก็เลวลงเมื่อนั้นครับ
อันนี้เป็นธรรมประจำใจของผมครับ


แอดมาคุยธรรมะกันได้ครับ
Skype Name : panuwich.inwang

 

แบบนี้มีเยอะ ครับ

ในเวปพลังจิตนี่ก็มากมาย
ลองเข้าไปดูห้อง Black Hole ดูนะครับ

ทางที่ดีเราก็เฉยๆให้เค้าแสดงไป
แล้วก็ถอนตัวออกมาเงียบๆ อย่าให้ความสนใจ

 

ถ้าเขาเห็นจริงคงไม่พูดเพราะได้ประโยชน์ตรงไหน
ฟังแล้ว ละเหี่ยใจ 555
มุมกลับคือ คงรอใครชี้แนะแสงสว่างให้ครับ

 

ผมว่าเขาเป็นบ้ามากกว่าครับ
ประเภทจิตฟั่นเฟือนไม่สมประกอบ ก็ฟังขำๆไปครับ