แบ่งปัน ให้บูชาเครื่องมงคลของพ่ออาจารย์พลครับ

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย ธัญญ์นิธิ, 26 พฤษภาคม 2017.

  1. ธัญญ์นิธิ

    ธัญญ์นิธิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,794
    ค่าพลัง:
    +6,030
    หลายๆ รายการสร้างน้อยมากและหมดไปนานแล้ว หลายๆรายการมีประสบการณ์มาก หลายๆรายการท่านที่มีจิตสัมผัสพิเศษมีครูบาอาจารย์ตามให้มาบูชา หลายรายการผมก็เสียดายน่าจะได้ใช้ก่อนมีครอบครัว แต่ก็ไม่มีโอกาสเพราะมารู้จักพ่ออาจารย์พลก็หลังแต่งงานแล้ว นับเป็นโอกาสอันดี ผมได้อธิษฐานต่อเครื่องมงคลทั้งหลายเหล่านี้ ให้ครูบาอาจารย์เลือกคนที่ท่านอยากไปอยู่ด้วย มีบุญบารมีที่จะได้ครอบครอง กระจายออกไปดีกว่าเพื่อเป็นประโยชน์ต่อผู้ที่ศรัทธา ถ้าสะสมอยู่ที่ผมคนเดียว ก็แขวนไม่หมด และลูกหลานคนในครอบครัวก็ไม่ได้มีความสนใจทางนี้เลย ถ้าหมดรุ่นผมไปก็คงจะไม่มีคนเห็นคุณค่า ผมขอนำเงินที่ได้ส่วนหนึ่งไปทำบุญต่อ ทั้งการปล่อยปลาหน้าเขียง และร่วมสร้างถาวรวัตถุในพุทธศาสนา ถวายครูบาอาจารย์ ซึ่งได้ทำไปแล้วบ้างตามสมควร

    เลขที่บัญชีครับ

    บัญชี ธนาคารไทยพาณิชย์
    ประเภทออมทรัพย์
    ชื่อบัญชี ธัญญ์นิธิ เจียรจรูญวงศ์
    เลขที่บัญชี 1602471548

    ค่าจัดส่งครั้งละ 100 บาท ครับ
    โอนแล้วแจ้งที่อยู่หลักฐานการโอนทาง PM ได้เลยครับ


    สรุปรายการที่เหลืออยู่สามารถจองบูชาได้ครับ



    5. มงคลเจริญทรัพย์ประสิทธิเวทย์มหาคุรุศุกรจารยะ(นางสุพรรณมัจฉา)
    ให้บูชา 4100 บาท

    8. พ่อขุนจักรพรรดิท้าวพันตาวาสนาครองฟ้าดิน(ผงเศรษฐีพันวิมานสหัสโยนี)
    ให้บูชา 2600 บาท

    11. องค์กำเนิดบรรพกาลวราหาคลี่แผ่นดิน(หมูกินเสือตรีกาลมหาสะเดาะ)
    ให้บูชา 4100 บาท

    13. พระปิดตาเนื้อผงเปิดวาสนามหาอุดม(ได้แล้วได้อีก)
    ให้บูชา 2600 บาท

    15. เหรียญหล่อมหาพรหมแปลงรูปวิชาคาดสังวาลย์(พ่อฟ้าฟื้น)
    ให้บูชา 4100 บาท

    19. พญาโจรมุสิกราชกระชากทรัพย์ (ลักวาสนา ขโมยโชค ชิงดวง)
    ให้บูชา 900 บาท

    22. พยนต์รับกรรมมหายักษาผจญมาร (ตายแทนตัว เจ็บ ช้ำ ชั่ว รับแทน )
    ให้บูชา 2500 บาท

    23. จันทร์ลอยมหาชัย ชนะพนัน เหนือดวง (ท้าวกบิลพรหมถวายหัว)
    มี 2 องค์ ให้บูชาองค์ละ 800 บาท

    24. มงคลพญาปลายกตรีกูฏหนุนโลกแบกวัฏจักร (มัจฉาโต้วารี แท่งยามหาสะดาะ)
    ให้บูชาเป็นคู่ครับ คู่ละ 1800 บาท

    25. พระยอดมงกุฎธรรมอนันต์โพธิวงศ์สรรพสิทธิ์ (องค์ธรรมสภาฝังยาปัดอุบาทว์)
    ให้บูชา 4100 บาท

    26. เวทย์ศาสตราอาถรรพ์เศรษฐีพันโกฏิวาสนาร้อยชาติภพ
    (พญาแมงป่องเล่นฤทธิ์)

    มี 2 ตน ให้บูชาตนละ 800 บาท

    29. ตะกรุดดอกครูนามธรรมบุญหนุนส่งวาสนานำพา(เอื้อบุญ)
    ให้บูชา 1000 บาท

    30. หุ่นอิทธิฤทธิ์ผกผันค้ำคูณลัคนาชะตารุ่งโรจน์(พญานอเดียวย้อนรอยแทงสวนกลับ)
    มี 2 ตน ให้บูชาตนละ 1600 บาท

    31. ตะกรุดเพชรกลับชีวิตรุ่งโรจน์สำเร็จสมประสงค์(นิราศทุกข์ทั้งผอง)
    ให้บูชา 1600 บาท

    33. ตะกรุดพระอินทร์กินอาหาร (นั่งรับทรัพย์เปิดโลกเบิกบารมี)
    ให้บูชา 900 บาท







     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 กันยายน 2019
  2. Powernext

    Powernext เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    619
    ค่าพลัง:
    +3,291
    ผมโอนเงินค่าบูชาวัถุมงคลที่จองไว้ให้เรียบร้อยแล้วครับ
    รายละเอียดตามPMครับ
     
  3. ธัญญ์นิธิ

    ธัญญ์นิธิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,794
    ค่าพลัง:
    +6,030
    รับทราบครับ พรุ่งนี้ผมจัดส่ง ems ให้นะครับ
    ขอบคุณมากครับ
     
  4. Powernext

    Powernext เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    619
    ค่าพลัง:
    +3,291
    จอง2รายการนี้ครับ
     
  5. ธัญญ์นิธิ

    ธัญญ์นิธิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,794
    ค่าพลัง:
    +6,030
    รับทราบการจองครับ ขอบคุณมากครับ
     
  6. Powernext

    Powernext เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    619
    ค่าพลัง:
    +3,291
    ผมโอนเงินในรายการที่จองให้เรียบร้อยแล้วครับ
    รายละเอียดตามPM ครับ
     
  7. ธัญญ์นิธิ

    ธัญญ์นิธิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,794
    ค่าพลัง:
    +6,030
    รับทราบการโอนครับ
    ขอบคุณมากครับ
     
  8. Powernext

    Powernext เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    619
    ค่าพลัง:
    +3,291
    ได้รับพัสดุเรียบร้อยแล้วครับ
    ขอบคุณครับ
     
  9. ธัญญ์นิธิ

    ธัญญ์นิธิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,794
    ค่าพลัง:
    +6,030
    ขอบคุณมากครับ ที่แจ้งให้ทราบ
     
  10. ธัญญ์นิธิ

    ธัญญ์นิธิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,794
    ค่าพลัง:
    +6,030
    สวัสดีครับ

    วันนี้มีลงรายการเพิ่มนะครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  11. ธัญญ์นิธิ

    ธัญญ์นิธิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,794
    ค่าพลัง:
    +6,030
    อิทธิวัตถุธาตุจตุรมณีดวงแก้วสำเร็จเกาสตุภะวิษณุมัธวะ
    (ปักตะกรุดรุทรมณี)


    ให้บูชา 4000 บาท

    ปิดรายการโดยคุณ powernext

    IMG_20190915_013507.jpg IMG_20190915_013544.jpg IMG_20190915_013608.jpg IMG_20190915_013630.jpg IMG_20190915_013702.jpg

    อ้างอิงจาก
    https://palungjit.org/threads/ร่วมทำบุญบูชา-ตะกรุดพระยมราชผลาญเพชรฆาต-สมใจนึก-เผาคำอธิษฐาน-พ่ออาจารย์พล.539894/page-384#post-10581040

    " อันมนุษย์นั้น ในห้วงชีวิตเค้าเป็นได้ทั้งยอดคนผู้ดำเนินไปบนหนทางค้นหาสัจธรรม ลางบุคคลก็เป็นอันธพาลนำพาชีวิตตนเองและผู้อื่นไปสู่ความพินาศฉิบหาย มีความคิด ยึดมั่น ถือมั่นเป็นของตนเอง มีตรรกะที่เป็นปัจเจกมากกว่าสรรพสัตว์ สรรพชีวิตทั้งหลายในหมื่นจักรวาล แต่ทว่ามนุษย์นั้นก็ยังต้องดำเนินไปบนหนทางของมหาวัฏฏะ วนเวียนไปตามอำนาจของกิเลส วนเวียนไปตามอำนาจของกุศลกรรมและอกุศลกรรม วนเวียนไปตามอำนาจวิปากกรรมรับผลจากการกระทำที่ตนเองทำไว้...

    ...มนุษย์เวียนว่ายตายเกิดในกฏแห่งมหาวัฏฏะ แสวงหาจุดสูงสุดแต่ก็นำพาตนไปสู่จุดสิ้นสุดของเผ่าพันธุ์เช่นกัน คิดแต่เพียงว่าวันนี้จะเป็นอย่างไร พรุ่งนี้จะมีอะไร แม้หนทางนั้นจะรู้อยู่แก่ใจ ปฏิเสธตนเองยังไม่ได้ว่าถ้าเดินต่อไปจะนำมาซึ่งความพินาศฉิบหาย เค้าก็ยังจะเพียรเดินต่อโดยอ้างว่าจำเป็น ดุจดั่งการกระทำโง่ๆที่เผาผลาญทำลายทุกสรรพสิ่งเพื่อให้เกิดแสงสว่างในทางมืด โดยไม่ได้สนใจหรือเฉลียวใจแม้แต่น้อยว่าสิ่งที่นำมาเผานั้นมีค่ากว่าแสงสว่างที่ตนต้องการหรือไม่ สุดท้ายเขาก็เผาผลาญตัวของเขาเอง เผาผลาญชีวิตตนเอง....

    ....บนหนทางค้นหาสัจธรรมนั้นมนุษย์ได้ชื่อว่าเป็นสิ่งมีชีวิตอันมีศักยภาพสูงสุด เพราะสามารถพัฒนาตนเองขึ้นไปได้และก็ขึ้นไปสูงยิ่งๆขึ้นได้อีก พัฒนาไปสู่ชาติ สู่ภพ สู่ภูมิ สู่ชีวิตที่ดีกว่า แต่กาลและโอกาสในกายสังขารที่ได้อุบัติมาเป็นมนุษย์นั้น เขากลับไม่ใช้โอกาสและศักยภาพที่มีติดตัวเพื่อพัฒนาพื้นฐานทางจิตวิญญาณ พวกเขากลับใช้ศักยภาพนั้นเพื่อบำรุงบำเรอความต้องการทางกาย เพื่อความสุขความสบายเพียงชั่วขณะ เพื่อภาพลวงตาที่ได้มาแล้วก็เสียไปในห้วงชีวิตหนึ่ง สุดท้ายเขาใช้ศักยภาพเขาเพื่อทำลายตัวเอง ละทิ้งหนทางที่จะก้าวข้ามอัตตา ก้าวข้ามภพภูมิ ..... ด้วยเหตุผลดังกล่าวมานี้เทพยดา สิ่งศักดิ์สิทธิ์เหล่าใดก็ดี ที่เพียรพยายามจะช่วยเหลือมนุษย์เหล่านั้น เขาย่อมไม่อาจทนมองได้นาน ด้วยความรู้สึกเบื่อหน่าย เหนื่อยหน่าย เกิดธรรมสังเวช เพราะยิ่งช่วยเหลือมนุษย์เท่าใด เขาก็ไม่ได้มีพัฒนาการ ไม่ได้ใช้ศักยภาพก้าวล่วงอัตตาของเขาเลย "


    พ่ออาจารย์ท่านระลึกถึงคำของสมเด็จพระตถาคตเจ้าทุกพระองค์และพระพุทธเจ้าองค์ปฐม ซึ่งสมเด็จท่านได้แบ่งบุคคลทั้งหลายออกเป็นสี่ประเภท ได้แก่
    - บุคคลผู้มืดมาและมืดไป
    - บุคคลผู้มืดมาแต่สว่างไป
    - บุคคลผู้สว่างมาแต่มืดไป
    - บุคคลผู้สว่างมาและสว่างไป

    ทั้งนี้ในห้วงของการดำเนินชีวิตอันเป็นภาพลวงตาซึ่งติดอยู่ในกฏแห่งมหาวัฏฏะทั้งสามคือกิเลส กรรม และวิปากกรรม จึงทำให้บุคคลทั้งสี่ประเภทนี้มีอยู่สองประเภทที่ไม่อาจพัฒนาได้ นั่นคือมืดมาและมืดไปกับสว่างมาแต่มืดไป พ่ออาจารย์ท่านต้องการเห็นสรรพชีวิตทั้งหลายมืดมาก็สว่างไปหรือแม้กระทั่งสว่างมาก็ให้สว่างไปไม่ตกต่ำลง

    ท่านจึงขออนุญาติเสด็จพระใหญ่เพื่อจะทำเครื่องมงคลที่ปรับพื้นฐานดวงชะตาผุ้บูชาให้พลิกกลับเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ มีชีวิตที่ดีเป็นปรกติสุข ให้เป็นชีวิตที่ยืนอยู่บนจุดเดียวกันคือคำว่าสว่าง ไม่เป็นผู้มืดมาและมืดไป ซึ่งเสด็จพระใหญ่ท่านก็มีโองการว่า "การจะสร้างเครื่องมงคลวิเศษที่อยู่นอกเหนือกฏเกณแห่งมหาวัฏฏะทั้งสามนั้นเป็นไปไม่ได้เลย แต่หากจะเพียงล่วงกฏเช่นนี้ในหมื่นจักรวาลย่อมมีของวิเศษสี่ประการที่เปลี่ยนแปลงชะตาผู้ถือครองจากก้นหุบเหวสูงขึ้นเป็นฟากฟ้าได้"


    พ่ออาจารย์ท่านพิจารณาตามกฏแห่งมหาวัฏฏะและคำบอกใบ้ของเสด็จพระใหญ่แล้ว ท่านก็คิดถึงของวิเศษสี่ประการที่มีอำนาจล่วงกฏเกณฑ์ของมหาวัฏฏะได้ พิจารณาและเพียรตามหาจนครูพระสยมท่านประทานทางออก แก้ปริศนาของสิ่งวิเศษนั้น คือจตุรมณีสี่ชนิดอันมีกำเนิดขึ้นมาเองในมหาจักวาล เป็นยอดยิ่งของแก้วมณีและธาตุทั้งหลายอันประเสริฐยิ่งกว่าแก้วจักรพรรดิ์ ซึ่งการเกิดขึ้นของดวงแก้ววิเศษทั้งสี่นี้ ด้วยมหาอานุภาพที่ยังผลให้ผู้ครอบครองเปลี่ยนแปลงชะตาชีวิตจากสามัญขึ้นสู่จุดสูงสุดในฉับพลันทันที แก้วมณีทั้งสี่อันมีอานุภาพไร้ขอบเขตสิ้นสุดนั้น บางชนิดก็ให้ลาภผลให้ทรัพย์ต่อเนื่องในทุกๆวันไม่ขาดตกบกพร่อง บ้างก็คุ้มครองไม่ให้อคติและทุกข์คติใดมาล่วงเกินทำอันตรายแก่ผู้ครอบครองได้ บ้างก็คุ้มกันอันตรายทั้งหลายอันเกิดจากมหาธาตุทั้งสี่ บ้างก็ดลบันดาลให้สำเร็จกิจทุกประการดั่งใจนึก บ้างก็เปลี่ยนแปลงฐานแห่งดวงชะตาและโชคชะตาเสียใหม่ให้ดีดขี้นและเจริญยิ่งๆขึ้นในฉับพลันทันที แก้วมณีอันประเสริฐทั้งสี่ประการนี้ ได้แก่
    - แก้วเกาสตุภะ
    - แก้วจินดามณี

    - แก้วศยามันตะกะ
    - แก้วรุทรมณี
    ซึ่งการปรากฏขึ้นของมหามณีทั้งสี่นี้ยังความเป็นไปให้มหาจักรวาลโกลาหล ด้วยทุกสรรพชีวิตล้วนคาดหวังจะครอบครองดวงแก้ววิเศษดวงใดดวงหนึ่งเหล่านั้น ไม่ว่าจะมนุษย์ เทวดา อสูรตลอดจนสิ่งมีชีวิตทุกจำพวก ก่อให้เกิดมหาสงครามแย่งชิงกันอยู่เนืองๆ สุดท้ายดวงแก้วทั้งสี่อันมีมหาคุณเป็นอเนกประการแบบที่ไม่เคยปรากฏมาก่อนในพิภพและมหาวัฏฏะใด ก็ได้ไปอยู่ในความครอบครองของบุคคลต่างๆทั้งสี่ท่าน พ่ออาจารย์ท่านว่าอันแก้วเกาสตุภะกับแก้วศยามันตะกะนั้นได้อยู่ในความครอบครองของพระวิษณุนารายณ์ ในส่วนของแก้วศยามันตะกะนั้นเบื้องหลังพระวิษณุเจ้าก็ได้ประทานไว้ให้เป็นของคู่สวรรค์แก่องค์อินทร์อีกชั้นหนึ่ง แก้ววิเศษจินดามณีนั้นอยู่ในครอบครองของท้าวมหาพรหมพ่ออาจารย์ท่านว่าแม้มนต์จินดามณีที่เราใช้กันอยู่ทุกวันนี้ก็เป็นเพียงมนต์กำกับดวงแก้วซึ่งเรียนสืบต่อกันมาจากท้าวมหาพรหมประทานให้องค์อินทร์และสืบเนื่องมาถึงในชั้นมนุษย์ แม้เป็นเพียงมนต์ก็มีอานุภาพมากเหลือคณา แต่พ่ออาจารย์ท่านว่าก็ยังไม่เท่าอานุภาพของดวงแก้วจินดามณีที่แท้จริง ประการสุดท้ายแก้วรุทรมณีนั้นก็อยู่ในการครอบครองของครูพระสยมหรือองค์พระศดาศิวะนั่นเอง เมื่อแก้วทั้งสี่ได้รับการถือครองและใช้เป็นเครื่องประดับวรกายก็ดลให้เกิดความความเจริญ รุ่งโรจน์ มั่งคั่งแบบที่ไม่เคยปรากฏมาก่อนแก่ผู้ครอบครอง ทั้งยังอภิบาลรักษาปกป้องภัยทั้งหลายไม่ให้กระทำอันตรายใดๆได้ ซึ่งเมื่อแก้วทั้งสี่ได้ผู้ครอบครองที่แท้จริงแล้วก็ไม่เคยเปลี่ยนมืออีกเลย จนทำให้เรื่องราวของดวงธาตุจตุรมณีแห่งสรวงสวรรค์นั้นขาดการกล่าวถึงและเลือนหายไป


    พ่ออาจารย์ท่านกล่าวว่าบางครั้งคนบูชาองค์เทพหรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ใด ด้วยจริตและการกระทำของตัวมนุษย์เองก็ยังทำให้เทพถอยห่าง เกิดธรรมสังเวช และวางเฉยเอาได้ เรียกว่าไม่เข้าตาและไม่ถูกโฉลกกันก็ได้ทำให้ท่านวางเฉยไม่เอาเป็นธุระ ไม่ช่วยเหลือใดๆ เนื่องจากองค์เทพทั้งหลายท่านก็มีทัศนะและความคิดเป็นของท่านเองเช่นกัน พ่ออาจารย์ท่านจึงมีดำริว่าหากจะเอาอิทธิมงคลที่ยังผลช่วยเหลือผู้ครอบครองโดยไม่ต้องมีชีวิตและความนึกคิดเป็นของตัวเองแล้วก็คงจะต้องใช้อัญมณีสุดประเสริฐทั้งสี่ประการของมหาจักรวาลแต่เพียงเท่านั้นเพราะสามารถพลิกฟ้าคว่ำดินได้ฉับพลันทันทีและมีอานุภาพแรงกล้าที่สุดในบรรดาของวิเศษอันจะเกิดมีในมหาจักรวาลทั้งปวง แต่ดวงแก้วทั้งสี่นี้ก็ยังเป็นของมีจิตวิญญาณในตัวเองถ้าเอาไปใช้ก่อกรรมกระทำชั่วรังแกเอาเปรียบผู้อื่น อานุภาพของดวงแก้วก็จะดลให้เกิดผลร้ายแก่ผู้ครอบครองเช่นกัน


    พ่ออาจารย์ท่านว่าดวงแก้วทั้งสี่นี้สร้างยากมากเพราะท่านต้องทำตามคำแนะนำของครูทั้งสี่คือครูพระสยม ครูพระวิษณุนารายณ์ ครูท้าวมหาพรหม ครูพระอินทร์ โดยท่านได้แสวงหามวลสารตามที่ครูสั่งซึ่งหายาก บางอย่างก็อยู่ในป่า อยู่ใต้ดิน อยู่ในถ้ำ อยู่ในน้ำแตกต่างกันไป ตลอดจนได้หาศิลาวิเศษตามธรรมชาติอันเป็นที่สิงสถิตย์แฝงญาณของครูทั้งสี่ตั้งแต่ศิวลึงค์ธรรมชาติของพระศิวะ ศาลิครามอันเป็นตัวแทนที่พระวิษณุเจ้าสาปตัวเองมายังโลก ศิลาพรหมลูกฟักอันเป็นจุดนิทราแห่งท้าวมหาพรหม ศิลาดวงตาสวรรค์ของพระอินทร์ที่ท่านสาปสรรค์ให้เป็นตัวแทนท่านปรากฏแก่ตาโลก พ่ออาจารย์ท่านนำมหาศิลาทั้งสี่อันมีธาตุและอิทธิคุณสูงสุดในเทวานุภาพและมวลสารว่านยามาบดแยกกันกอปรด้วยผงวิเศษที่ท่านลบด้วยพระเวทย์และหัวใจของดวงแก้วทั้งสี่ ตลอดจนคาถากำกับแก้วทั้งสี่ตามที่ครูทั้งสี่สอนและมอบให้ทำเป็นการเฉพาะ ซ้ำยังย้ำให้เก็บเป็นเรื่องลับหนักหนาห้ามถ่ายทอดหรือเผยแพร่ออกไป ท่านว่าใช้ว่านใช้ยามานั่งลบผงแต่ละอย่างร้อยรอบพันรอบ ก่อนจะนำผงเหล่านั้นมาเข้ากับน้ำทิพย์อันเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติที่ท่านเก็บสะสมไว้ ทั้งน้ำในรอยพระพุทธบาท น้ำผุดในวิษณุบาท น้ำในเศียรพระพุทธรูป น้ำที่หลั่งออกมาเองจากเทวรูปพระอรรถนารีศวรเนื้อสัมฤทธิ์ ตลอดจนน้ำในบ่อธรรมชาติที่มีอาถรรพ์และความศักดิ์สิทธิ์แต่โบราณที่ท่านเก้บรวบรวมไว้ พ่ออาจารย์ท่านได้ปั้นดวงแก้วทั้งสี่ชนิดขึ้นมา คือแก้วเกาสตุภะ , แก้วจินดามณี , แก้วศยามันตะกะ , แก้วรุทรมณี ท่านว่าทำทั้งทีก็เอาให้ดีที่สุดแบบไม่เคยปรากฏมีเป็นประวัติการณ์มาก่อนที่ดวงแก้วทั้งสี่นี้จะได้มาอยู่รวมกัน โดยท่านปั้นตามธาตุศิลามหาคุณและผงวิชาดวงแก้วทั้งสี่ ให้แก้วจินดามณี แก้วศยามันตะกะ แก้วรุทรมณี เป็นลูกขนาดย่อมๆ ฝังไว้ภายในแก้วเกาสตุภะ ท่านว่าเช่นนี้ก็คือรวมแก้ววิเศษทั้งสี่เป็นหนึ่งเดียว เป็นแก้วจตุรมณีโดยที่มีแก้วเกาสตุภะครอบไว้เป็นพื้นด้านนอก


    พ่ออาจารย์ท่านว่าการทำแก้ววิเศษนี้ใช้ว่านยามวลสารมากมายดังนั้นผิวเนื้อของดวงแก้วจะหยาบบ้างมีคราบน้ำว่าน น้ำยา ปรากฏบ้าง ด่างบ้าง เข้มบ้างต่างกันไป เพราะท่านต้องการใช้มวลสารจากวัตถุธาตุที่ทรงฤทธิ์ล้วนๆมาประกอบให้มีอิทธิคุณแรงกล้าสูงสุดนั่นเอง


    ด้วยดวงแก้ววิเศษทั้งสี่นั้น แม้ปกติแยกกันอยู่ ก็มีอานุภาพดลบันดาลให้มหาเทพทั้งสี่เป็นยอดบุรุษของจักรวาล สูงสุดจนไม่มีผู้ใดคิดล่วงเกินหรือล่วงละเมิดได้ พ่ออาจารย์ท่านว่ายิ่งนำมารวมกันเป็นหนึ่งเดียวแล้วยิ่งไม่ต้องคิดเลย ทั้งนี้ดวงแก้วยังมีญาณบารมีจากครูพระสยม ครูพระพรหม ครูพระวิษณุนารายณ์ ครูพระอินทร์สถิตย์อยู่ด้วย พ่ออาจารย์ท่านว่าเรื่องใดที่ครูองค์ใดท่านไม่ยุ่งไม่ช่วยครูอีกองค์ก็จะช่วยฉับพลันทันที ขึ้นอยู่ที่ว่าเรื่องที่เราขอเป็นหน้าที่ของผู้ใด เช่นหน้าที่แห่งการสร้างสรรค์พัฒนาความเจริญของพระพรหม หน้าที่แห่งการทำลายล้างอัปมงคลเพื่อให้เกิดมหามงคลตลอดจนประทานพรอันประเสริฐของครูพระสยม หน้าที่แห่งการธำรงค์พิทักษ์รักษาชีวิตให้ดำเนินไปอย่างปรกติสุขของพระวิษณุนารายณ์ หน้าที่แห่งการบังคับควบคุมมหาธาตุตลอดจนอภิบาลรักษาผู้ประพฤติธรรมของพระอินทร์


    ดวงแก้วทั้งสี่ที่รวมเป็นหนึ่งนี้ พ่ออาจารย์ท่านว่าเราแทบจะไม่ได้เสกเลย เพราะต้องรบกวนครูทั้งสี่เท่านั้น แม้นจะระดมครูพระครูเทพซักหมื่นแสนก็ทำไม่ได้ เนื่องจากเป็นของวิเศษในมหาจักรวาลและเป็นของคู่บารมีเฉพาะผู้ครอบครอง พ่ออาจารย์ท่านต้องอาราธนาครูทั้งสี่ ให้เมตตาทำให้เป็นดวงแก้วสำเร็จ ซึ่งครูทั้งสี่ก็ได้เมตตาถ่ายพลังจากแก้วต้นกำเนิดให้เต็มที่ ท่านว่าต้องทำไปทีละขั้นทีละชนิดก่อนจะปั้นรวมและให้ครูพระวิษณุนารายณ์สำเร็จแก้วเกาสตุภะเป็นลำดับสุดท้าย ท่านว่าทำยากมาก
    กว่าจะได้แก้วที่มีชื่อว่าเหนือกว่าแก้วจักรพรรดิ์เช่นนี้ กว่าจะได้แก้วทั้งสี่อันประเสริฐซึ่งไม่มีผู้ใดระลึกนึกถึงแล้วในมหาจักรวาล ท่านว่าทำครั้งนี้ก็เพื่อเปลี่ยนตำนานให้กลับคืนสู่ความเป็นจริง

    ทั้งนี้เมื่อก่อนพ่ออาจารย์ท่านเคยทำเครื่องมงคลทางหนุนดวงพลิกดวงเสริมดวงเสกเอาไว้บ้าง แต่ท่านก็ไม่เคยทำถึงขนาดว่าเป็นเครื่องมงคลที่จะเปลี่ยนพื้นฐานดวงชะตาแลบุพกรรมอันมีมาแต่กำเนิดเสียที ด้วยท่านพิจารณาเห็นว่าสิ่งใดหนอที่จะทำได้ จะก้าวล่วงอานุภาพของเทพยดาและครูพระซึ่งท่านวางเฉยได้ สิ่งเหล่านั้นต้องกำเนิดจากพลังงานธรรมชาติที่เข้มข้นอยู่เหนือกฏทุกกฏทั้งโลกวิสัยและกรรมวิสัย คือหลุดจากกฏแห่งกรรมและวิบากกรรม หลุดจากวิสัยโลกและสังสาระวัฏ ไม่เกี่ยวข้องข้องกับพุทธวิสัยและฌานวิสัยของผู้ใด เป็นของศักดิ์สิทธิ์สูงสุดในหมื่นจักวาลอันก่อกำเนิดรูปและดวงจิตขึ้นเอง ซึ่งดวงแก้วทั้งสี่นี้ตามที่เสด็จพระใหญ่ท่านแนะนำและครูพระสยมท่านประทานคำตอบมาให้ จึงเป็นอิทธิวัตถุที่ได้ชื่อว่าเกิดขึ้นเพื่อดึงสิ่งต่ำสุดขึ้นสู่จุดสูงสุด เกิดขึ้นเพื่อความรุ่งโรจน์ในผู้ถือครองอย่างแท้จริง


    โดยพ่ออาจารย์ท่านได้นำตะกั่วขอมโบราณมาลงเวทย์กำกับแก้วรุทรมณีปักไว้ในแก้วเกาสตุภะอีกวาระหนึ่งด้วย ซึ่งด้วยอานุภาพของตะกรุดรุทรมณีนั้นจะทำให้คำพรและคำอธิษฐานของผู้บูชาเป็นจริงท่านว่าสิ่งใดที่ปรารถนาให้เราขอจนกว่าจะได้รับและอย่าหยุดที่จะขอหากยังไม่ได้รับ นอกจากนั้นท่านให้นำกระดาษมาเขียนชื่อวันเดือนปีเกิดตนใส่ไว้ในดวงแก้วโดยม้วนบรรจุเองในตะกรุดด้วย ที่สำคัญที่สุดคือ ให้ตัดเส้นผมของตัวเองด้วยความตั้งใจมอบถวายเป็นทานแก่ครูพระวิษณุนารายณ์บรรจุในดวงแก้วไว้ด้วยโดยนำเส้นผมอุดปิดไว้ในตะกรุดหลังจากใส่กระดาษบรรจุดวงแล้ว ทั้งนี้แก้วสยมันตกะก็จะให้คุณมาก บันดาลทรัพย์ลาภผลอย่างต่อเนื่องในทุกวันๆไม่ให้ขาดไม่ให้พร่อง ท่านว่าการถวายผมแก่พระวิษณุนี้เหมือนเป็นพันธะสัญญาของศิษย์และครู เป็นข้อกำหนดกฏแกณฑ์แต่โบราณที่ครูพระวิษณุท่านตั้งใจจะให้ผู้บูชานั้นกระทำถวาย ครูพระวิษณุนารายณ์ท่านว่าเหมือนเราตัดทุกข์โศกออกมา ถวายหัวถวายชีวิตไว้กับท่าน ท่านจะรับทุกข์นั้นๆไปและจะนำความสุขสวัสดิมงคลมาต่อเติมคืนให้ด้วยพันธะสัญญา แม้ในกาลบัดนี้หากกระทำแล้วก็เท่ากับว่ามหาเทพทั้งสี่พร้อมใจกันรับพันธะสัญญานี้ด้วยและจะช่วยเหลือกันอย่างสุดความสามารถเพื่อต่อเติมสุขและสวัสดิมงคลให้เกิดขึ้นกับศิษย์รัก หรือลูกรัก ที่ยอมตัดผมอันถือได้ว่าเป็นสิ่งมีค่าสูงสุดในร่างกายตนแก่ครูเป็นเครื่องบูชา


    พ่ออาจารย์ท่านปั้นดวงแก้วไว้ได้ทั้งหมด 6 ลูก ท่านอธิษฐานไว้ว่าแล้วแต่ครูทั้งสี่ท่านตั้งใจจะโปรดจะประทานแก้ววิเศษแก่ผู้ใดก็ให้ดลจิตเขามารับไปไว้ในครอบครองและทำการปฏิบัติบูชา ซึ่งการบูชานั้นก็เพียงหาพานมาวางรองไว้ ไม่ต้องเคลื่อนไม่ต้องย้ายหากไม่จำเป็นจริงๆ หมั่นสวดมนต์ทำกรรมฐานบูชาโดยปกติเท่านั้น และให้หาน้ำอบน้ำปรุงประพรมดวงแก้ว เวลาอธิษฐานขอพรเสร็จ แล้วจึงเอาน้ำอบน้ำปรุงที่ติดอยู่กับดวงแก้วนั้นมาเจิมหน้าเปิดบารมี พ่ออาจารย์ท่านกล่าวว่าที่สุดแห่งความปรารถนาทั้งหกภพและหมื่นจักรวาล ไม่มีสิ่งใดเกินคุณค่าของดวงแก้ววิเศษนี้เลย ท่านตั้งใจทำให้ไว้บรรจุดวงชะตาเพื่อปรับพื้นฐานเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตของตนเอง เมื่อประสบพบความสุขเสมอใจแล้วก็ให้เร่งพิจารณาธรรม สร้างกุศลกรรม อย่าหลงไปกับอำนาจเงินตราและความสุขจอมปลอมใดๆ


    คาถาบูชา(ระลึกถึงครูทั้งสี่)
    กายะ วาจา จิตตัง อะหังวันทา จตุรเทวะมหาอินทรา มหาพรหมมา วิษณุ จะนะมัสศิวา นะอุภะยะอะ ปูเชมิ


    * อิทธิวัตถุธาตุจตุรมณีดวงแก้วสำเร็จเกาสตุภะวิษณุมัธวะ(ปักตะกรุดรุทรมณี) นี้รับจองเฉพาะทาง PM เท่านั้น พ่ออาจารย์ท่านจะเมตตาเปิดรับคำขอ ความต้องการ คำอธิษฐานที่จะฝากท่านไว้ แล้วท่านจะจารกำกับด้วยวิชาเปิดบารมีลงมนต์หนุนดวง หนุนบารมี เปิดบารมีให้เป็นการเฉพาะตัวบุคคลทำการบอกกล่าวอธิษฐานแบบเน้นๆเปิดบารมีให้เฉพาะตัวอีกด้วยซึ่งวิชาเปิดและหนุนบารมีนี้เป็นวิชาที่ทำได้ยากมากๆ พ่ออาจารย์ท่านจะเมตตาสงเคราะห์ลงให้เป็นบุคคลไป รายได้ร่วมสมทบทุนการศึกษาเด็กด้อยโอกาสต่อไป
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 กันยายน 2019
  12. ธัญญ์นิธิ

    ธัญญ์นิธิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,794
    ค่าพลัง:
    +6,030
    พระธรรมสวามีผงพุทธอุปถัมภ์พยาบาลรักษาปิดเคราะห์ซ่อนกรรม(พระสร้างคน,ยกฐานะ)

    ให้บูชา 4100 บาท

    ปิดรายการนี้แล้วครับ

    รายการนี้แถมดวงแก้วกำลังพระจักรพรรดิ์ชะลอกรรม

    IMG_20190818_010610.jpg IMG_20190818_010648.jpg

    อ้างอิงจาก
    https://palungjit.org/threads/ร่วมทำบุญบูชา-ตะกรุดพระยมราชผลาญเพชรฆาต-สมใจนึก-เผาคำอธิษฐาน-พ่ออาจารย์พล.548127/page-26#post-10998360

    "เมื่อไหร่ที่บารมีถึงพร้อม...ให้เธอทำผงพุทธอุปถัมภ์ให้ลูกหลานของฉันเสียคราวหนึ่งนะ"
    "สำหรับคนที่ไม่มีอะไรมา...มาแต่ตัว ไม่มีอนาคตอะไรเลยท่านต้องช่วยพวกเขามากๆหน่อยนะครับ”
    "พระผงพุทธอุปถัมภ์นี้พระใหญ่ท่านให้ทำมาใช้ติดตัวนะ ไม่เหมาะสำหรับเก็บไว้เฉยๆใครวางไว้นานๆไม่ใช้เดี๋ยวหายได้ แหมม..ของดีก็ต้องใช้ก่อนใช่มั๊ยจึงจะรู้ว่าดี"

    พระพุทธเจ้าผู้เป็นสรรเพชุดาญาณนั้นท่านคือครูผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน ด้วยทรงมีคุณทั้งสามได้แก่พระปัญญาคุณ,พระบริสุทธิคุณ,พระมหากรุณาธิคุณโดยปรกติ เมื่อเสด็จพระใหญ่ท่านให้พ่ออาจารย์ทำผงพุทธอุปถัมภ์โดยอาศัยพุทธานุภาพนั้นก็เพื่อที่จะได้พยาบาลรักษาปิดเคราะห์ซ่อนกรรมช่วยเหลือบุคคลอันมีบุญสัมพันธ์กันมาก่อนร่วมกับท่าน คนที่เกิดไม่ทันยุคศาสนาของท่าน...หรือคนที่ผ่านกระแสธาราของกฏแห่งกรรมอันเชี่ยวกรากมาจนถุงยุคนี้ พ่ออาจารย์ท่านว่าวิชาพุทธอุปถัมภ์นี้เจาะจงเหลือเกินในการที่จะคํ้าจุน,คํ้าชูทั้งให้การสนับสนุนผู้ตั้งจิตอาราธนา เปรียบเสมือนการรับเราไว้ในอุปถัมภ์,อุปการะของเสด็จพระใหญ่ ท่านจะคอยเลี้ยงดูเราทั้งค้ำยันไว้ไม่ให้ล้ม จะคอยอุดหนุน คอยบำรุงให้เราเจริญขึ้น พยุงให้สูงขึ้น ทั้งส่งเสริมช่วยเหลือคอยอุปการะสงเคราะห์อนุเคราะห์กันในทุกๆโอกาส พ่ออาจารย์ว่าเช่นนี้ฉันจึงย้ำว่าต้องใช้แล้วจะรู้เอง เพราะพระผงรุ่นนี้ท่านตั้งใจทำมาให้คนที่ได้ทุกข์ยากและต้องการการเอาใจใส่ดูแลเป็นพิเศษเหล่านั้น พ่ออาจารย์ท่านว่าจะรู้สึกได้เองเหมือนชีวิตเรามีผู้เลี้ยงดูคอยอุปถัมภ์ชุบเลี้ยงค้ำจุนเผื่อแผ่อยู่ข้างๆตัวเองเสมอ

    สำหรับผู้มีศรัทธาในพุทธานุภาพ,มีความเชื่อท่านจะช่วยจะรักษาไว้ ไม่ว่าจะเป็นคนที่ต้องทนทรมานกับความทุกข์ยากสาหัสใดๆมานานขนาดไหนก็ตามด้วยกำลังแห่งผงพุทธอุปถัมภ์นั้นจะบรรเทาช่วยเหลือสิ่งที่หนักหนาสาหัสได้ อุปมาดุจเธอนั้นเป็นคนป่วย,มีโรคภัย,มีไข้ที่พร้อมจะกำเริบอยู่เนืองๆตามกรรมเก่าที่เธอทำไว้ พอชีวิตเธอเกิดศรัทธาได้บูชาผงพุทธอุปถัมภ์นี้ก็ให้เธอขอบารมีองค์พระท่านรักษาโรคเวรโรคกรรมทั้งหลาย ที่ว่าได้เจ็บได้ไข้กันมายาวนานนั้นอันใดจะมี...อันนั้นจักหายไป ด้วยเมตตาธิคุณในพระตถาคตเจ้าอันไม่มีสิ่งใดมาวัดมาประมาณได้นั้นดั่งท่านได้ให้คำปกาศิตไว้ว่า"บุคคลใดก็ตามที่ไม่มีผู้สนใจจะดูแล ทั้งยังตั้งอยู่ในกระแสของโรคเวรโรคกรรมทั้งหลายเราจะช่วยเหลือบุคคลนั้นจนกว่าจะหาย" พ่ออาจารย์ท่านว่าผงพุทธอุปถัมภ์ที่เสด็จพระใหญ่ให้ทำขึ้นมานี้มีอาถรรพ์มากเพราะท่านตั้งใจจะช่วยเหลือทั้งให้การพยาบาลอุปถัมภ์ผู้อาราธนาอย่างแท้จริงแม้ในยามปกติหรือยามที่ชีวิตทรุดตกต่ำลง แม้ในกิจต่างๆกรรมต่างๆที่ชีวิตเราวนเวียนข้องเกี่ยวอยู่ท่านก็จะช่วยให้มีกำลังกาย กำลังใจถึงพร้อมอยู่เสมอ เรียกได้ว่าจะช่วยให้เธอนั้นกลับเข้าสู่สภาวะที่ตัวของเธอเองช่วยตนเองได้,ยืนขึ้นมาได้ด้วยขาตัวเองโดยไม่ต้องรับการช่วยเหลือจากใครอีกโดยเร็วที่สุด

    วิชาพุทธอุปถัมภ์นั้นพ่ออาจารย์ท่านว่าจะผูกพันกับผู้ที่ได้อาราธนาดุจบิดามารดาคอยดูแลปกป้องบุตร..จะเป็นอยู่เช่นนั้นและเป็นตลอดไป ด้วยคนเราเมื่อตกทุกข์ได้ยากสิ้นไร้ไม้ตอกหรือเจ็บไข้ไม่สบาย เมื่อใดก็ตามที่เราได้ทุกขเวทนาอย่างถึงที่สุดคนทั้งหลายก็มักจะนึกถึงพ่อแม่ก่อนเป็นลำดับแรก แล้วนั่นก็จริงอีกที่คุณบิดามารดานั่นแหละที่ช่วยเราได้เสมอ เพราะได้ชื่อว่ามีพระคุณเกื้อกูลโดยตรงต่อเราอย่างหาที่สุดไม่ได้ ดังนั้นวิชาพุทธอุปถัมภ์นี้พ่ออาจารย์ท่านว่าเสด็จพระใหญ่ท่านจึงให้ฉันผูกวิชาไว้นอกจากคนใช้เวลาอาราธนาจะต้องนึกถึงพระพุทธคุณแล้วยังต้องนึกถึงคุณบิดามารดาของตัวเองอีกด้วย ท่านว่าเกิดมาเป็นคนอย่าลืมพระคุณพ่อแม่ที่แม้แต่พระศาสดายังทรงสรรเสริญเท่านี้ก็เจริญโดยลำดับแล้ว ด้วยบิดามารดานั้นเป็นพระพรหมของลูก,เป็นพระอรหันต์เป็นพระที่ไม่เคยทอดทิ้งเราไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เช่นนั้นผงพุทธอุปถัมภ์นี้จึงเปรียบได้กับกระแสความรักอันสูงสุดเมื่อเราเชื่อ มีศรัทธาจนเกิดปิติปาฏิหาริย์ทั้งหลายก็จะเกิดขึ้นได้อย่างง่ายดายเช่นนั้น แม้พระสัมมาสัมพุทธเจ้าผู้เป็นนาถของโลกพระองค์ก็ยังรู้ซึ้งถึงพระคุณของผู้เป็นบิดามารดาที่คอยอนุเคราะห์บุตรนั้น พ่ออาจารย์ท่านว่าเสด็จพระใหญ่นั้นท่านได้สรรเสริญกำลังบิดามารดานี้เมื่ออนุเคราะห์แก่กุลบุตรธิดาใดว่าดุจเป็นบุรพเทวดา,เป็นบุรพาจารย์,เป็นอาหุเนยยบุคคลของบุตรดังนี้ ด้วยจะมีแต่กำลังแห่งบิดามารดาเท่านั้นที่จะมั่นคงอยู่ได้ในพรหมวิหารธรรมโดยไม่ยอมทิ้งลูกของตน ย่อมมีเมตตารักใคร่ปรารถนาจะเห็นลูกของตนมีความสุขปราศจากโรคภัยเบียดเบียน ทั้งยังมีกรุณาสงสารเมื่อบุตรนั้นประสบกับความทุกข์คิดแต่จะช่วยให้พ้นจากความทุกข์ความเดือดร้อน ช่วยให้มีความสุขความเจริญก้าวหน้าแบบสุดกำลังเท่าที่จะช่วยได้ เมื่อลูกถึงพร้อมซึ่งความสุขสามารถยืนขึ้นได้ด้วยตัวเองก็พลอยมีใจยินดีด้วยไม่อิจฉาริษยาในความสุขของลูก เมื่อเห็นลูกต้องประสบทุกข์เดือดร้อนก็ไม่ซ้ำเติมเช่นนั้นจึงได้ชื่อว่าเป็นผู้พิทักษ์รักษาลูกก่อนเทวดาทั้งปวง เพราะวิชานี้เป็นของกลางที่จะช่วยเหลือผู้บูชาโดยไม่ยึดติดกับอารมณ์เกลียดและโกรธใดๆดั่งคุณพระบิดามารดา...ดั่งพระพุทธคุณเช่นนั้นแม้เราทำผิดก็ยกโทษให้ไม่คำนึงถึงความผิดใดๆทั้งสิ้นมุ่งแต่ให้พวกเขามีความสุขความเจริญฝ่ายเดียว ทั้งจะให้อุปการะดุจนำพาลาภสักการะทั้งหลายมาป้อนให้ลูกถึงปากพ่ออาจารย์ท่านว่าเช่นนั้นพระผงพุทธอุปถัมภ์นี้จึงมีอานุภาพมากแม้ใครได้อาราธนาติดตัวหรือกราบไหว้บูชา ดุจดั่งว่าได้ดำรงค์อยู่ใกล้ชิดพระอรหันต์ขีณาสพทั้งยังได้กราบไหว้บูชาท่านอยู่ตลอดเวลา ####เช่นนั้นพระผงนี้ใครได้ไปแนะให้เอาไปให้พ่อแม่ตนเองอธิษฐานให้พรซ้ำๆพูดแต้สิ่งที่ดีกับลูกเสมอต่อองค์พระลูกจะมีแต่เจริญไม่มีตกอับ(หากผู้ใดพ่อแม่ไม่อยู่แล้วก็ให้นึกถึงพ่อแม่ของตัวเองไว้ คิดเองเออเองเลยว่าท่านพุดอะไรให้พรเราอย่างไร..อยากได้พรอะไรก็คิดอย่างนั้น) แม้ทำได้ดังนี้ก็จะมีความสุขความเจริญแก่ชีวิตทั้งเป็นที่สรรเสริญของเทวดาทั้งหลายแลเป็นเหตุให้พ้นจากทุกข์ทั้งปวง

    ท่านได้ลบถมผงวิเศษตามสูตรเฉพาะของเสด็จพระใหญ่ที่ท่านกำชับไว้หนักหนาว่าไม่ให้พูดออกไปเด็ดขาดใครเชื่อใครมาเอาไปใช้ก็ให้เป็นที่บุญและวาสนาของเขาจริงๆเท่านั้นท่านว่าพอจะบอกได้ก็มี
    ผงวาสนาค้ำฟ้า ใช้ค้ำชูชะตาเร่งนำพาวาสนาของเราให้เปิดออก ให้รับความสุขมีชีวิตอยู่ในช่วงที่ดีที่สุด
    ผงสร้างคน ใช้สร้างอำนาจลาภยศและบารมีชื่อเสียงต่างๆให้คนกลายเป็นคนเต็มตัว
    ผงหาทรัพย์ ท่านว่าใช้ทางหาลาภทำมาหากินให้เจริญในอาชีพได้ทุกทาง
    ผงแก้โรค อันนี้ใช้แก้โรคภัยไข้เจ็บตลอดจนฟื้นฟูสุขภาพที่ทรุดโทรม
    ผงดับทุกข์ ใช้แก้ทุกข์แก้ความเดือดร้อนทั้งหลาย
    ผงแก้อาถรรพ์ ใช้ล้างสิ่งอัปมงคลและแก้อาถรรพ์ร้ายต่างในตัวเราไม่ให้กำเริบขึ้นมา
    ผงเมตตา ใช้ในการเข้าหาคนให้ผู้ใหญ่เมตตามีแต่คนรักไม่มีคนเกลียด
    ผงยกฐานะ ช่วยให้ชีวิตก้าวไปข้างหน้าไม่มีทางตันสามารถขยับฐานะตัวเองได้ง่ายและไวขึ้น
    ผงขุมทรัพย์ ช่วยไม่ให้อดดุจคนมีทรัพย์ตลอดเวลาแม้ทรัพย์ขาดไปเทวดาต้องช่วยเหลือ...
    ท่านว่าบอกได้คร่าวๆแค่นี้เพราะผงแต่ละอย่างนั้นเสด็จพระใหญ่ท่านทำให้เต็มที่
    ท่านว่าผงแต่ละอย่างนี้แม้ตกในแผ่นดินผืนใด จะเป็นเหย้าเรือนหรือได้ไว้เป็นกรรมสิทธิ์แก่บุคคลใด จะมีผลเพิ่มพูนให้ไม่รู้จบ มีคุณล้ำค่ายิ่งกว่าแก้วสารพัดนึก แค่ได้พบเห็นก็ได้ชื่อว่ามีบุญมีบุพกรรมได้ทำมาดีแล้ว อย่าไปกลัวเลยว่าจะตกทุกข์ได้ยาก ขอให้บูชาไว้ให้ดีเถิดชีวิตจะเต็มไปด้วยมงคลทั้งหลายทั้งข้าวของสมบัติก็บริบูรณ์นักถึงขั้นคหบดีเป็นเศรษฐีรุ่งเรือง แม้ปรารถนาสิ่งใดก็จะสัมฤทธิ์ผลเจริญขึ้นวัฒนาสถาพรตลอดไป

    เสด็จพระใหญ่ท่านเจาะจงให้พ่ออาจารย์ทำพิมพ์พระเป็นพระปางพยาบาลเช่นนี้เพราะจะได้สื่อเข้าไปให้ถึงใจว่าต่อแต่นี้ด้วยผงคุณพระวิชาพุทธอุปถัมภ์นั้นก็จะได้โอบอุ้มดูแลกันไป แม้ในวันที่ตกต่ำและทุกข์ยากหรือในวันที่เธอเจ็บอย่างถึงที่สุดก็จะไม่ทอดทิ้งกัน ซึ่งองค์พระนั้นพ่ออาจารย์ท่านได้ฝังมงคลวัตถุต่างๆดังนี้
    - พลองตีเทพ "เทพมาตีเทพ มารมาตีมาร ใช้ตีกำราบสั่งสอนหรือกำจัดได้ทั้งสิ้น" เสด็จพระใหญ่ท่านให้แกะด้วยไม้กำจัดและจะทำให้ พ่ออาจารย์ท่านว่าพลองนี้เปรียบเสมือนตัวแทนการปราบปรามและสามารถใช้อธิษฐานขจัดอุปสรรคตต่างๆโดยเฉพาะเจ้ากรรมนายเวรที่กลั่นแกล้งเราตลอดจนสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายที่ไม่อยู่ในทำนองคลองธรรม เพราะเจ้ากรรมนายเวรและจิตวิญญาณทั้งหลายจะเกรงกลัวพลองนี้นักดุจเห็นพลองประหารเทพนั่นทีเดียว(ด้วยเทพนั้นท่านว่าเป็นคำจำกัดความไว้เรียกรวมๆหมายถึงตัวตนที่มีฤทธิ์มากยากที่เราจะแตะต้อง ตัวตนเหล่านั้นเรียกรวมๆว่าเทพ ส่วนพลองตีเทพนั้นก็เป็นสิ่งที่เอาไว้ใช้ลงโทษเทพเหล่านั้นนั่นเอง) ท่านว่าพลองตีเทพนี้ใครใช้เป็นจะมีผลดีมากเพราะนอกจากเราใช้เองแล้วยังสามารถใช้อธิษฐานช่วยเหลือมนุษย์หรือแผ่อานุภาพไปถึงภพภูมิต่างๆได้อย่างน่าอัศจรรย์ แม้อธิษฐานใช้คราวใดก็ทำได้เต็มกําลังทั้งรุนแรงและดุดันอย่างถึงที่สุด ใช้ได้ทั้งป้องกันและปราบปรามทุกสิ่งที่ไม่ดีรวมทั้งคุณไสยอวิชชาทุกชนิด เป็นการปราบด้วยธรรม,ปราบด้วยบารมีที่เสด็จพระใหญ่ท่านลงไว้ให้จึง เรียกว่าทั้งปราบและโปรดไปพร้อมๆกัน พ่ออาจารย์ท่านว่าพลองตีเทพนี้คนที่ใช้เป็นจะสามารถส่งจิตกำกับพลองออกไปได้ไกลมาก...แม้ตัวเราอยู่ตรงนี้จะกำหนดจิตไปที่ไหนก็ได้ท่านว่าตีได้ไกลถึงพรหมโลกทีเดียว ###ด้วยพลองนี้ท่านห้ามนำมากวัดแกว่งเล่นเด็ดขาด พ่ออาจารย์ท่านว่าเสด็จพระใหญ่ท่านกำชับไว้หนักหนาหากนำมากวัดแกว่งเมื่อใดโลกทิพย์รอบด้านจะสั่นสะเทือน พอเราแกว่งพลองเขาจะได้ยินเสียงดังเลื่อนลั่นเหมือนสายอสุนีบาตตกต้องโลกของเขา ท่านว่าเช่นนั้นจึงห้ามแกว่งเล่นหรือถือไปเล่นมั่วๆเพราะต่างภพต่างภูมิเขาจะเดือดร้อนกันได้ เช่นนั้นท่านจึงเจาะจงให้ฝังไว้กับพระพิมพ์เสีย ท่านว่าจะได้ใช้แต่อาราธนาแผ่กำลังฤทธิ์กวาดไปตามที่เราต้องการ
    - ลูกอมรวยใหญ่ โบราณท่านนิยมบูชาพระสีวลีเพื่อเร่งลาภผลเงินทองให้หากินคล่องตัว เช่นนั้นพ่ออาจารย์จึงเมตตาลบถมผงคาถาวิชาพระสีวลีทุกชนิดที่ท่านเคยร่ำเรียนมาปั้นเป็นลูกอมไว้แล้วตั้งชื่อว่าลูกอมรวยใหญ่ ท่านว่าเสกเสร็จรู้เลยลูกอมนี้ให้คุณมากแม้คนใช้จับจ่ายใช้สอยมากก็ยังได้เงินทองกลับมาเองไม่พร่องไป ท่านว่าทรัพย์ที่ขาดที่หายไปเดี๋ยวจะได้กลับมาใหม่พุทธคุณจะออกไปทางมีเงินเยอะรวยใหญ่สมชื่อดังนั้น ใครบูชาลูกอมแล้วนึกถึงคุณพระสีวลีเงินทองจะมาล้อมด้วยบุญของพระสีวลีที่พ่ออาจารย์ท่านเชิญและทำวิชาไว้อย่างแท้จริง ให้คุณพระส่งเสริมสงเคราะห์เราดุจว่าลูกอมนี้อยู่ที่ไหนจะนำมาซึ่งความร่มเย็นเป็นสุขบริเวณนั้น ความอิ่มอุดมสมบูรณ์,ไม่อดไม่อยากจะปรากฏแก่ผู้บูชาให้ชีวิตรับเงินทองโภคสมบัติ พร้อมทั้งศุภมงคล อายุ วรรณะ สุขะ พละครบครันเป็นเสบียงบุญไม่หมดสิ้นทั้งยังนำความเจริญก้าวหน้ามาสู่ตัวเอง
    - ตะกรุุดน้ำเต็มบ่อ วิชานี้เปรียบพระพุทธคุณดั่งคลังแห่งโภคสมบัติที่จักไหลมาจากจตุรทิศ ด้วยพระพุทธเจ้าทรงเป็นประธานแห่งอริยทรัพย์ทั้งภายในและภายนอก ด้วยพุทธานุภาพนั้นแม้สมบัติจักรพรรดิอันยิ่งใหญ่ก็ยังปรากฏขึ้นมาได้นี่แหละขุมทรัพย์อันบริสุทธิ์ที่อุดมไปด้วยสรรพมงคล ท่านว่าตะกรุดนี้ติดตัวใครจักพบเจอแต่อริยทรัพย์รวมไปถึงสิริสมบัติทั้งสินทรัพย์เงินทอง แลโภคทรัพย์เนืองนองท่วมท้นหลับก็ได้รับเงินตื่นก็ยังได้เงินเพิ่มพูนทวีความสุขความเจริญแม้ทำกิจใดก็สมปรารถนา เปรียบประดุจกำลังแห่งพุทธคุณนั้นเป็นขุมทรัพย์ใหญ่ที่ไม่รู้จักหมดดั่งมหาสมุทรสาครที่ไม่มีวันเหือดแห้ง เอ่ยอ้างเป็นเหตุปัจจัยแห่งกุศลพึงเกิดกับผู้บูชาไปตลอดกาล ให้ทรัพย์สินเงินทองไหลบ่าเทเข้ามาดั่งห้วงน้ำเล็กใหญ่หลั่งไหลลงไปสู่ท้องพระสมุทรมหาสาครฉันนั้น
    - ตะกรุดปิดเคราะห์ซ่อนกรรม ท่านว่าใช้แก้เคราะห์กรรม,ไล่ผี,เสนียดจัญไรก็ได้ หรือจะบูชาให้นำมาซึ่งความอุดมสมบูรณ เพิ่มยศเพิ่มตำแหน่งฐานะก็สุดแต่จะใช้ ท่านว่าตามชื่อเลยพูดเยอะก็ไม่ได้เพราะตะกรุดนี้ท่านต้องลงด้วยตะกั่วขอมลงถมเท่านั้นจึงจะมีอานุภาพมาก พอปิดเคราะห์ซ่อนกรรมได้ทุกอย่างในชีวิตจึงสรุปรวมไว้ที่คำว่าดี เช่นนั้นตะกรุดนี้จึงเป็นเหตุที่จะอุดช่องโหว่และเติมเต็มชีวิตเราขอให้แค่ผู้ใช้มั่นคงในคุณพระรัตนตรัยท่านว่าจะยิ่งแรงขึ้นเป็นเงาตามตัว ยิ่งถ้าคนใช้ประกอบด้วยศีลมั่นคงในสติแล้วล่ะก็ผลจะยิ่งตอบสนองไวดุจเงาตามตัวที่ต้องวิ่งตามเราให้ทัน รีบคลุมร่างกายเราทับตัวตนเราเพื่อปิดเคราะห์ซ่อนกรรมเช่นนั้น

    พระธรรมสวามีเนื้อผงพุทธอุปถัมภ์นี้ท่านว่าทำไว้ให้ครบแล้วตามแต่จะอธิษฐานใช้ แม้ผู้ใดนำไปอาราธนาจะยังประโยชน์ให้เกิดขึ้นทั้งในชาตินี้และชาติหน้า ดั่งบุญวาสนาที่แข่งกันไม่ได้ท่านว่าแม้ได้พบได้นำไปอาราธนานั่นก็ถือว่ามีวาสนาแล้ว "อุปมาดั่งกาไก่จะกลายเป็นหงส์" จะเกิดเมตตามหามงคลล้นมากดังมีเทวดาอยู่กับตัว ไปทางไหนคนทั้งหลายก็เปิดทางให้จะรักเมตตาเราด้วยอำนาจของศีลของพระธรรม อำนาจนี้แรงกว่าการทำให้รักด้วยวิชาใดๆหลายเท่านัก ท้งยังได้อำนาจบารมีแบบลูกโดดชนิดที่ว่าสิ่งมีชีวิตใดไม่ว่าจะอยู่บนดิน,บนฟ้า,หรือขุดรูอยู่ในมิติต่างๆก็สยบไม่เว้น(ท่านว่านี่คืออานุภาพของพลองตีเทพโดยตรง)ทำให้เรามีบารมีโดดเด่นเป็นที่ยำเกรง ทั้งยังจะระงับภัยและเหตุการณ์เลวร้ายเบื้องหน้าได้ ทั้งยังนอนกินมีชีวิตความเป็นอยู่สบายดุจมีคนคอยอุ้มชูอุปถัมภ์ใช้แล้วจึงมีชื่อเสียงโด่งดังเสริมสง่าราศีเสริมความก้าวหน้าเสริมกิจการให้สำเร็จสมหวังทุกอย่าง เหตุหลายประการล้วนสรุปที่คำว่าดีทั้งสิ้นยังให้เกิดผลดีต่างๆตามมาเป็นอันมาก สุดท้ายจะไม่ตายโหงไม่ตายเป็นผีสัมภเวสีมีที่อันจะไปด้วยดี

    คาถาบูชา(ท่านให้นึกถึงพระพุทธคุณและคุณบิดามารดาเป็นที่สุดก่อนว่าบทสักกัตวา)
    สักกัตวาพุทธะรัตตะนัง โอสะถังอุตตะมังวะรัง หิตังเทวะมะนุสสานัง พุทธะเตเชนะ โสตถินานัสสันตุ ปัททะวา สัพเพทุกขาวูปะสะเมนตุเมฯ
    สักกัตวาธัมมะรัตตะนัง โอสะถังอุตตะมัวะรัง ปิริฬาหูปะสะมะนัง ธัมมะเตเชนะ โสตถินานัสสันตุ ปัททะวา สัพเพภะยาวูปะสะเมนตุ เมฯ
    สักกัตวาสังฆะรัตตะนัง โอสะถังอุตตะมังวะรัง อาหุเนยยัง ปาหุเนยยัง สังฆะเตเชนะ โสตถิน นัสสันตุปัททะวา สัพเพภะยาวูปะสะเมนตุเมฯ


    ### พ่ออาจารย์ท่านให้แถมดวงแก้วกำลังพระจักรพรรดิ์ชะลอกรรม ซึ่งเป็นดวงแก้วที่ท่านนำมาอธิษฐานจิตเสกไว้หลายปีให้บูชาคู่กัน ท่านว่าเป็นดวงแก้วธรรมดาๆนี่แหละแต่ฉันอธิษฐานและเสกตลอดจนเชิญครูและทิพย์กายต่างๆมาร่วมปลุกเสกให้เป็นดวงแก้วจักรพรรดิ์ใช้ชะลอกรรมได้ แก้วมหาจักรพรรดิเรียกว่าแก้วมณีนพรัตน์ เป็นสมบัติของพระพุทธเจ้าแม้ผู้ใดนำไปใช้ก็จะเกิดประโยชน์ใหญ่มีพุทธานุภาพมากแล้วแต่จะอธิษฐานเอา ให้นำแก้วมณีนพรัตน์ไปแขวนคอไว้แล้วภาวนาไตรสรณคมณ์ตลอดเวลาหรือภาวนามากๆ ถ้ากรรมไม่หนักพุทธานุภาพของไตรสรณคมณ์ก็จะช่วยได้อยู่ที่ว่าตั้งใจภาวนามากน้อยเพียงไรนับถือและศรัทธาจริงภาวนาไปจะมีเหตุมาทำให้หาย กรรมหนักก็จะเบา กรรรมเบาก็จะหาย ทำมากๆผลของไตรสรณคมณ์ที่เป็นบุญใหญ่นี้ก็สามารถตัดกรรมได้โดยการภาวนาไตรสรณคมณ์ เมื่อจิตเป็นสมาธิและภาวนาไตรสรณคมณ์ก็จะสว่างไปทั้งสามโลก การภาวนานี้เป็นบุญใหญ่กรรมชั่วที่เคยทำไว้มิอาจเข้าแทรกได้ กรรมดีที่เคยทำไว้แต่ปางก่อนก็จะมาส่งผลบวกกับบุญใหญ่ที่เกิดจากการภาวนาไตรสรณคมณ์รวมกันก็จะเป็นมหากุศล หากได้ภาวนาคู่กับดวงแก้วกรรมชั่วเรียกว่าเป็นหมันไปเลยยังไม่มีโอกาสที่จะมาส่งผล

    *** ร่วมทำบุญบูชาองค์พระธรรมสวามีผงพุทธอุปถัมภ์ได้เฉพาะทาง PM เท่านั้น ผู้จองให้แจ้งชื่อนามสกุลไว้ด้วยพ่ออาจารย์ท่านว่าเราจะต้องฝากฝังเขาไว้ให้ถึงมือเสด็จพระใหญ่ท่าน ท่านว่าพระรุ่นนี้วาสนาเราทำได้แค่ครั้งเดียว ใครจะได้จะบูชานั่นก็ขึ้นอยู่กับวาสนาอีกท่านว่าต้องมีวาสนาทั้งผู้ทำและผู้รับจริงๆ ใครบารมียังอบรมมาไม่พอก็ไม่ได้ไป รายการนี้ท่านทำไว้หกองค์ ท่านอาราธนาใช้โปรดสรรพสัตว์เององค์หนึ่งและท่านว่าเทวดาเขามาเชิญไปอีกองค์หนึ่ง จึงมีให้ร่วมบูชาทั้งสิ้นสี่องค์ รายได้ร่วมสมทบทุนค่าน้ำค่าไฟตามวัดต่างๆเพื่อเป็นปัจจัยนำมาซึ่งแสงสว่างแก่ชีวิตสืบต่อไป
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 เมษายน 2020
  13. Powernext

    Powernext เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    619
    ค่าพลัง:
    +3,291
    จองรายการนี้ครับ
     
  14. ธัญญ์นิธิ

    ธัญญ์นิธิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,794
    ค่าพลัง:
    +6,030
    ดวงตราอจินไตยกลับมารวยฝังน้ำตาพญามาร
    (จอมฟ้ากำสรวล)


    ให้บูชา 4100 บาท

    ปิดรายการนี้ทาง pm แล้วครับ

    IMG_20190818_171823.jpg IMG_20190818_171927.jpg

    อ้างอิงจาก
    https://palungjit.org/threads/ร่วมทำบุญบูชา-ตะกรุดพระยมราชผลาญเพชรฆาต-สมใจนึก-เผาคำอธิษฐาน-พ่ออาจารย์พล.548127/page-16#post-10672042

    " บรรดาสัตว์ผู้มีอัตภาพ (ใหญ่) อสุรินทราหูเป็นเลิศ บรรดาบุคคลผู้บริโภคกาม พระเจ้ามันธาตุราชเป็นเลิศ บรรดาผู้ใหญ่ยิ่ง มารเป็นเลิศ "...(พุทธดำรัส)
    "พระยามารนี้เวลานี้ช่วยชาวบ้านพวกพุทธมามกะทุกคน พระยามารต้องบังคับให้ลูกน้องไปช่วยเหลือ คือ ที่ประคับประคองพวกเรานี่แหละ "(หลวงพ่อฤาษี)

    หากกล่าวถึงเครื่องมงคลที่เป็นรูปของพญามาราธิราชอันมีพระบารมีเต็มโดยเฉพาะ และใช้อาราธนาให้เข้ากับกรรมหรือวงจรสำคัญที่มีคุณลักษณะพิเศษนั้น พ่ออาจารย์ท่านว่าหากจะสร้างแล้วย่อมยากอย่างแท้จริง ด้วยต้องใช้วัตถุและมวลสารที่เป็นของพญามารมีบารมีของท่านจริงๆมาทำ สิ่งนี้ย่อมเรียกได้ว่าเห็นยากเอายาก

    เมื่อจะกล่าวถึงปกติวิสัยของพญามาราธิราชนั้นท่านเป็นพระมหาโพธิสัตว์ใหญ่องค์สำคัญ แต่คนส่วนมากก็ยังยึดติดกับคำว่ามาร ไม่ได้เข้าใจว่าท่านคือเทวดาจำพวกหนึ่ง ไปเข้าใจเสียว่ามารคือตัวตนที่น่าเกลียดน่ากลัว จินตนาการให้น่าสยดสยองดุจยักษ์มารเช่นนั้น พ่ออาจารย์ท่านว่าแท้จริงแล้วพญามารนอกจากจะเป็นพระโพธิสัตว์ใหญ่ที่มีบารมีล้นฟ้าแล้ว ยังมีฐานะเป็นถึงจอมภพหรือเจ้าสวรรค์ชั้นปรนิม ขึ้นชื่อว่ามีภพภูมิที่สูงกายทิพย์ย่อมสง่างามและมีความปราณีตมากกว่าเทวดาต่ำชั้นลงไปทั้งหมด ท่านว่าในกามภพนั้นแม้เราคิดว่าเทวดาตั้งแต่จาตุมหาราชิกาไปจนถึงนิมานรดีมีรูปงาม แต่นั่นย่อมไม่อาจเทียบได้กับชั้นปรนิม นับประสาอะไรจะไปเทียบกับพญามาร

    พระพุทธเจ้าทรงยกย่องว่า ใน "บรรดาผู้ใหญ่ยิ่งทั้งหมด มารเป็นเลิศ " .... "พญามาร มีโคตรเสมอด้วยพระอินทร์ " จะเรียกว่าพญามารคือประมุขฝ่ายมาร หรือเทวดาฝ่ายมารในสวรรค์ชั้นสูงสุด ที่มีความเป็นทิพย์ประณีตที่สุดอันจะพึงมีได้ในสวรรค์และเทวดาทั้งมวลก็ไม่ผิด แท้จริงแล้วมารก็คือเทวดา หากแต่มีหน้าที่ ซึ่งตรงนี้หน้าที่ของพญามารก็คือกามคุณทั้งหลายประกอบด้วยรูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ ด้วยท่านมีหน้าที่ดูแลและควบคุมวงจรแห่งกามคุณ การดูแลวงจรที่ยิ่งใหญ่นั้นเมื่อมองในมุมกลับหากพ้นจากจุดนี้ก็จะถึงซึ่งความเป็นอริยะเช่นกัน ดังนั้นเมื่อไม่มีมารแล้วจะมีพระอริยะได้อย่างไรจุดนี้พ่ออาจารย์ท่านกล่าวไว้ว่า "ของบางอย่างอาจมองว่าขัดแย้งกัน แต่แก่นแท้กลับหนุนเสริมเกื้อกูลซึ่งกันและกันโดยที่เราไม่อาจเข้าใจ" หากไม่มีเหล่าเทวปุตตมารบรรดาโพธิสัตว์แลเทวดาทั้งหลายย่อมไม่มีหน้าที่ให้กระทำเพื่อที่จะเพิ่มบารมีของตน ย่อมไม่มีบททดสอบต่างๆเพื่อการก้าวล่วงไปถึงความเป็นอรหันต์หรือโพธิญาณในตนทั้งสิ้น

    เมื่อพูดถึงมารหลายคนย่อมคิดเสมอว่า ขึ้นชื่อว่ามารย่อมมีหน้าที่ทำลายล้าง พ่ออาจารย์ท่านว่าอันมารทั้งหลายและพญามารนั้น เค้าก็มีหน้าที่ของเค้า หากให้กล่าวกันจริงๆแล้ว หน้าที่ของมารนั้นกลับเป็นคุณประโยชน์กับหมื่นจักรวาลและสรรพสัตว์ทั้งหลายอยู่มากเสียด้วย หากแต่ไม่มีใครนิยมพูดถึงกัน และไม่รู้ ไม่เข้าใจ ไม่สนใจจะรู้ หน้าที่นั้นคือหน้าที่ของการสร้างสรรค์ จะเรียกว่าพญามารก็เป็นพระผู้สร้างองค์หนึ่งทีเดียวย่อมไม่ผิด เพราะพญามารคือกษัตริย์แห่งภพปรนิมในฝ่ายมาร ภพนี้เทวดาทั้งหลายปรารถนาสิ่งใดก็ตาม จะมีเทวดาในภพต่ำกว่าหรือภพนิมมานรดีมาคอยตามเนรมิตถวาย แต่ถึงกระนั้นหากเป็นเรื่องการสร้างสรรค์ที่เกี่ยวข้องกับกามคุณทั้งห้า ก็ไม่มีเทวดาที่ไหนจะมีฤทธิ์ มีอานุใหญ่ มีความประณีตที่จะสร้างสรรค์ได้เหนือเทวปุตตมาร แม้แต่พรหมก็ยังไม่เป็นเลิศในกามคุณเช่นนั้น

    พ่ออาจารย์ท่านได้สร้างเครื่องมงคลแทนครูพญามาราธิราชไว้ชุดหนึ่ง หากใครที่ติดตามกระทู้มาตลอดจะทราบดีว่ามีการกล่าวถึงพญามารอยู่เนืองๆ ด้วยท่านเป็นพระโพธิสัตว์ใหญ่ทั้งพ่ออาจารย์ยังยึดเป็นครูองค์สำคัญ โดยการทำเครื่องมงคลแทนครูนั้นท่านได้ขออนุญาติครูซึ่งพญามารท่านก็ได้กำหนดให้กระทำในรูปแบบที่ท่านต้องการ
    - การพนมมือ คือการแสดงคารวะ แสดงความนอบน้อมถ่อมตนเป็นสัญญาณว่าให้และคืนความรู้สึกอันดี รวมทั้งเรื่องดีๆทั้งหลายตลอดจนความอ่อนน้อมส่งกลับแก่ผู้บูชา ด้วยเจตนาที่เท่าเทียมกัน พ่ออาจารย์ท่านว่าเหรียญหล่อนี้ด้วยศักดิ์ศรีขององค์ท่านย่อมไม่จำเป็นต้องไหว้ใคร แต่การแสดงคารวะนี้เหมือนเป็นการให้เกียรติซึ่งกันและกัน ท่านว่าใจเราแน่แค่ไหนย่อมได้ผลคืนกลับไปมากเพียงนั้น
    - บัวตูม บัวบาน สัญลักษณ์แห่งความงอกงามของสรรพชีวิต หนึ่งคือบัวตูมดุจดอกบัวใต้น้ำที่ยังไม่ได้รับแสงอาทิตย์ ต้องโดนกุ้งหอยปูปลาตอดมีอันตรายแก่ชีวิตอยู่เนืองๆ สองคือบัวบานที่พ้นน้ำแล้ว เบ่งบานประจักษ์แก่ตาโลกสมศักดิ์ศรีชาติพันธุ์แล้ว ดุจชีวิตที่ผ่านพ้นอุปสรรคและห้วงวัฏสงสาร ไม่มีสิ่งใดทำอันตรายหรือแผ้วพาลได้นับจากนี้ต่อไป


    เมื่อจะกระทำเครื่องมงคลนั้นพ่ออาจารย์ท่านว่าพญามาราธิราชท่านเป็นครูใหญ่ของเรา ท่านจึงนำเอาคตของเจ้าปู่ชัยพรหมและของศักดิ์สิทธิ์ต่างๆมาเคี่ยวรวมกับธาตุกายสิทธิ์ พร้อมทั้งใช้เพลิงพิธีหลอมเอาตบะและอานุภาพของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายนั้นมารวมกันเพื่อสร้างเหรียญหล่ออจินไตยที่มีพลังงานเหนือโลกโดยวัตถุประสงค์ขึ้นมา การสร้างเหรียญหล่ออจินไตยนี้คือพลังงานเหนือโลกที่อยู่เหนือกฏและความเป็นไปทุกอย่างของโลกท่านว่าบอกได้เพียงเท่านี้จริงๆ

    การทำเหรียญหล่ออจินไตยพญามาราธิราชนั้น พ่ออาจารย์ว่าทุกอย่างต้องเคร่งครัดและปราณีตอย่างมาก ด้วยเครื่องมงคลแทนครูนี้จะมีอานุภาพเป็นเลิศแม้สถิตย์อยู่กับผู้ใดบุคคลนั้นดุจมีอาญาสิทธิ์พิเศษ ทั้งเทพแห่งนิมมานรดีจะต้องคอยรักษาเนรมิตสิ่งต่างๆตามที่ปรารถนาให้ดั่งใจคิด และเหล่าเทวปุตตมารอันอยู่ภายใต้บัญชาแห่งพญามารทั้งหลาย ก็จะบันดาลให้บุคคลนั้นเจริญด้วยกามคุณอันเป็นความสุขอย่างยิ่งในโลก ด้วยการสร้างสรรค์อย่างปราณีต พ่ออาจารย์ท่านว่าเอาตรงๆนะชีวิตคน เกิดมาแล้วก็ควรจะเหยีบเรือสองแคมไว้บ้าง ถ้าจะตัดโลกตัดทุกอย่างก็ตัดให้มันจริงอย่าเพียงแต่คิดให้หรูให้ดูดี หากอยากตัดแล้วก็อย่าอยู่เป็นมนุษย์เลย ไปบวชเสีย ไปทำความเข้าใจทำให้แจ้งให้เห็นในอรหันต์นิพพานนั่นเถิด แต่หากจะอยู่เป็นปุถุชนใช้ชีวิตไม่ให้ข้องขัดหวังเอาดีทางโลกเจริญไปพร้อมกับการปฏิบัติธรรมดูแลพระศาสนาแล้ว เช่นนี้เราจึงเรียกว่าเหยียบเรือสองแคม ด้วยหมายความว่าเจริญไปพร้อมๆกันทั้งทางโลกและทางธรรม ดังนั้นอานุภาพแห่งการสร้างสรรค์และพัฒนา วิวัฒนาการตนเองจึงเป็นสิ่งจำเป็น อันวิทยาการความเจริญก้าวหน้า สิ่งสวยงามสะดวกสบาย ความยิ่งใหญ่โอ่อ่าอัครฐานทั้งหลาย สิ่งใดอยู่ในกามคุณห้า นั่นแหละคือานุภาพและการควบคุมของเหล่าเทวปุตตมาร มันคือหน้าที่ของชาติพันธุ์เขา เป็นหน้าที่อันมีมาแต่กำเนิด หน้าที่ซึ่งทำด้วยความเชี่ยวชาญ หน้าที่อันเหมาะสมกับฤทธิ์อำนาจตน

    เหรียญหล่ออจินไตยนี้ พ่ออาจารย์ท่านได้ใช้มวลสารกายสิทธิ์เชิญบารมีพญามารฝังไว้เฉพาะเจาะจงทุกองค์ สิ่งนั้นท่านเรียกว่าน้ำตาพญามาร อันน้ำตาพญามารนี้เป็นของสำคัญยิ่งยวดซึ่งผูกพันธ์กับพญามารมากนัก
    "...เมื่ออดีตกาลนั้นท่านไม่สามารถเอาชนะพระโพธิสัตว์ได้ จนพระบรมโพธิสัตว์ได้ตรัสเป็นพระพุทธเจ้า ท่านก็รู้สึกโศกเศร้าน้อยเนื้อต่ำใจ ไม่อาจดำรงค์พระองค์อยู่ในเทวโลกได้ จึงมานั่งน้อยใจหม่นไหม้อยู่บนพื้นโลก ท่านได้นั่งขีดเขียนแผ่นหินศิลาเทียบวิชาความรู้ระหว่างตนเองกับพระพุทธองค์ ก็รู้ว่าตนกับพระพุทธเจ้านั้นยังห่างไกลกันอยู่ด้วยพระพุทธองค์ทรงรู้มากกว่าตนถึงสิบหกประการ ตั้งแต่บารมีสิบ อินทรียปโรปริยัติญาณ สยานุสยญาณ มหากรุณาสมาบัติ ยมกปาฏิหาริยญาณ อนาวรณญาณ สัพพัญญุตญาณ เมื่อท่านรู้ความแตกต่างท่านก็กำสรวลโศกเศร้าจนน้ำตาแห่งพญามารได้หลั่งลงต้องปฐพี เป็นน้ำตาแห่งความสำนึกและกลับตัวกลับใจพร้อมกับทำพิณประจำพระองค์หล่นไว้ตรงนั้น ซึ่งองค์อมรินทร์ก็ได้มาเชิญพิณนั้นพร้อมกับนำน้ำตาพญามารซึ่งเป็นกายสิทธิ์ธาตุประดิษฐานในพานทองนำกลับไป "
    ...เมื่อพ่ออาจารย์จะทำเครื่องมงคลแทนครูพญามารนั้น องค์อมรินทร์ท่านว่าถ้าจะให้ควรก็ให้นำน้ำตาพญามารประดิษฐานลงไปด้วย โดยท่านได้นำน้ำตานั้นมามอบให้แข็งค้างไว้แต่เบื้องอากาศ พ่ออาจารย์ท่านต้องทำพิธีอัญเชิญและนำขวดน้ำมันจินดามณีมารองรับ ส่งผลให้น้ำมันจินดามณีเปลี่ยนสีไปใสกระจ่างดุจสีน้ำทะเลเมื่อผสมกลมกลืนเข้ากับน้ำตาพญามาร ท่านจึงเรียกน้ำมันนี้ว่าน้ำตาพญามาร


    น้ำตาพญามาร ...ของวิเศษเทวโลกนี้มีอานุภาพอันน่าอัศจรรย์ยิ่งดั่งที่พ่ออาจารย์ท่านได้กล่าวไว้ว่า " บิดเบือนคราเคราะห์ เยาะเย้ยเวรกรรม ผันผวนชะตา ปั่นป่วนพรหมลิขิต " เป็นธาตุบารมีของพญามาราธิราชอย่างแท้จริง พ่ออาจารย์ท่านบอกว่าคนเรานั้นถ้าถึงกับบิดเบือนคราเคราะห์ เยาะเย้ยเวรกรรม ผันผวนชะตา ปั่นป่วนพรหมลิขิตได้แน่นอนว่าชีวิตนี้ย่อมไม่มีไม่รู้จะให้เดือดร้อนเรื่องอะไร อันจอมฟ้าพญามารนั้น หากลงมาทำหน้าที่หนุนส่งผู้ใด ด้วยฐานะที่ตนก็มีหน้าที่สร้างสรรค์กามคุณ มีหน้าที่เกี่ยวข้องกับความเจริญรุ่งเรืองในเทคโนโลยีและวิวัฒนาการทั้งหลายของทุกชาติพันธุ์ มีหน้าที่ดูแลความเป็นไปและความเจริญก้าวหน้าของโลกแลมนุษยชาติ ด้วยกามคุณนี้ก็คือความสะดวก สบาย ความยิ่งใหญ่ในภพ ในชาติ หลายคนสงสัยว่าพวกที่รวยๆ อยู่เฉยไม่ทำอะไรก็รวย หรือพวกที่ใช้เงินให้ตายใช้ทั้งชาติมันก็ยังไม่หมด พวกที่มีบารมีมากคับฟ้าคับแผ่นดินใครก็เอาลงมาไม่ได้ หรือสถานที่อันใหญ่โตโอ่อ่าเกินความจำเป็น เกินประโยชน์ใช้สอย เกินชีวิตความเป็นอยู่ ทั้งคนและสถานที่เหล่านี้ นั่นคือการอุปถัมภ์ของเหล่าเทวปุตตมารนั่นเอง

    ตัวจอมฟ้าพญามารนี้ได้เคยกล่าวไว้เบื้องหน้าพระบรมศาสดาว่า "ตัวพระองค์มีฤทธิ์ที่จะบันดาลภูเขาทั้งลูกให้เป็นทองคำได้ มีอานุภาพยิ่งใหญ่ในกามสามารถขวนขวายเรื่องทรัพย์ อำนวยประโยชน์สุขต่างๆตามแต่จะประสงค์ " ดังนั้นบุคคลใด สถานที่ใด หากได้รับความอุปถัมภ์หรือบารมีจากเทวปุตตมาร บุคคลเหล่านั้นก็จะถึงซึ่งความเปลี่ยนแปลง ความเจริญรุ่งเรือง พ่ออาจารย์ท่านว่าอันจอมฟ้าพญามารนั้น ท่านได้กำหนดรูปแบบของเครื่องสูงแทนตัวท่านให้แล้วเสร็จตั้งแต่แกะพิมพ์และแม้แต่ผงที่จะใช้อุดต้องจำเพาะลงไปว่าใช้ได้เพียงผงพุทธนิมิต กับผงพุทธเนรมิตรเท่านั้น ซึ่งพ่ออาจารย์ท่านต้องเพียรลบถมผงทั้งสองนี้ล้วนๆจำนวนนึง นำมาคลุกกับผงไม้ตะเคียนช่อฟ้าอุโบสถ ก่อนจะอุดไว้ด้านหลังท่านว่าตะเคียนช่อฟ้านี้คืออยู่ที่สูงค้ำฟ้าไม่ต่ำลง ซึ่งนอกจากจะอุดผงสำคัญอันมีคุณนิมิต เนรมิตได้ทุกอย่างด้วยอำนาจแห่งพุทธคุณสมกับอานุภาพทางด้านสร้างสรรค์ความสุขอันเกิดแต่กามคุณของพญามาราธิราชแล้ว ยังฝังตะกรุดสำคัญอีกสองประการ เป็นหัวใจพญามารดอกนึง กับการสร้างสรรค์กามคุณดอกนึง พ่ออาจารย์ว่าเมื่อพระผู้สร้างอยู่กับตัวแล้ว การใช้ชีวิตทำทุกกิจให้แจ้งนั้น สิ่งต่างๆบรรดามีหากประสงค์อะไรให้บนบอกท่านเอา

    เหรียญหล่อสำคัญรุ่นนี้พ่ออาจารย์ท่านให้ชื่อรุ่นว่ากลับมารวย ซึ่งความหมายก็ตรงตามชื่อนั้น คนรวยกับคนเคยรวยนี่ท่านว่าไม่เหมือนกัน เพราะคนรวยคือยังมีบุญยังเสวยบุญอยู่ แต่คนเคยรวยคือบุญหมดถึงวาระกรรมไปแล้ว ดังนั้นการกลับมารวยได้จะต้องอาศัยพื้นฐานอะไร การจะช่วยคนเคยรวยที่หมดบุญสูญสิ้นวาสนาไปแล้วให้กลับมามั่งมีได้ต้องอาศัยอะไร ตรงนี้ท่านว่ามีคนมาปรึกษาและบูชาเครื่องมงคลของท่านไปแต่เขาก็ไม่กลับมารวยด้วยท่านตรวจชะตาดูจึงรู้ว่าสิ้นบุญสูญวาสนาการเป็นเศรษฐีไปแล้วนั่นเอง พ่ออาจารย์ท่านตอนนั้นจึงได้อาราธนาดวงตราจอมฟ้าพญามารที่ฝังน้ำตาพญามารไว้หรือจะเรียกเหรียญมารฟ้ากำสรวลก็สุดแต่จะเรียกขานให้เขาไปบูชา ท่านว่าสมกับคำที่เรากล่าว " บิดเบือนคราเคราะห์ เยาะเย้ยเวรกรรม ผันผวนชะตา ปั่นป่วนพรหมลิขิต " แม้คนที่สิ้นบุญสูญวาสนาไม่มีทางกลับมาตั้งตัวจนมั่งมีได้แล้ว ก็ยังฟื้นกลับคืนฐานะเก่าได้ ดังนั้นท่านจึงเรียกมงคลบูชาครูนี้ติดปากว่ารุ่นกลับมารวย

    อันวิสัยปุถุชนมนุษยชาตินั้น พ่ออาจารย์ท่านว่าขอแค่อย่างเดียว เหรียญหล่อนี้ไม่ว่าจะเอาไปใช้กันด้านไหนอย่างไรก็ตาม ขอแค่อย่าลืมตัว อย่าเป็นวัวลืมตีนได้ดีแล้วก็เสพย์สุขไม่รู้จักขวนขวายในทานและบำรุงรักษาศาสนา อันพญามารในวันนี้ไม่เหมือนพญามารในอดีตกาล ด้วยพระองค์นั้นกลับตัวคอยดูแลพิทักษ์รักษาพระศาสนาทั้งยังเป็นมหาโพธิสัตว์ใหญ่ที่พร้อมช่วยเหลือผู้คน แม้ใครอาราธนาบูชาท่าน เมื่อได้ดีสมความปรารถนาอย่างไรก็อย่าทิ้งแนวทางในการสร้างบารมีนั้นเช่นกัน

    คาถาบูชา
    นะโม วะสะวะตีมาเร อนาคะตังเส พุทธัสสะ(ใช้ภาวนา)
    โอม วสวัตตีโพธิสัตโตนะโมพุทธานะ ปาฏิหารัญจะ ทวาทะสะ กาละกัญชะมหา ภิสมาปะสะนะวา อิติสิทชะติ


    * พ่ออาจารย์ท่านสร้างดวงตราจอมฟ้ากำสรวลไว้ทั้งหมดแปดองค์ คงเหลือให้บูชาห้าองค์รับจองเฉพาะทาง PM เท่านั้น สำหรับผู้สั่งจองให้แจ้งชื่อ นามสกุล วันเดือนปีเกิดไว้ด้วย พ่ออาจารย์ท่านจะทำพิธีหยดเทียนสะกดเคราะห์ให้ที่ดวงตราอีกวาระหนึ่ง รายได้ร่วมทำบุญสร้างวิหารทานในวัดที่ขาดแคลนจตุปัจจัยเพื่ออุทิศถวายกุศลแก่ท้าวมาลัย
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 กันยายน 2019
  15. ธัญญ์นิธิ

    ธัญญ์นิธิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,794
    ค่าพลัง:
    +6,030
    รับทราบการจอง ขอบคุณมากครับ
     
  16. ธัญญ์นิธิ

    ธัญญ์นิธิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,794
    ค่าพลัง:
    +6,030
    เหรียญหล่อจอมกษัตริย์นาคามหานาคดึกดำบรรพ์
    (พญาอนันตเศษะเจ้ามหานาคเทวา)


    ให้บูชา เหรียญละ 800 บาท
    (มี 2 เหรียญครับ เลือกได้)

    ปิดรายการนี้ครับ

    IMG_20190915_014119.jpg IMG_20190915_014140.jpg


    อ้างอิงจาก
    https://palungjit.org/threads/ร่วมทำบุญบูชา-ตะกรุดพระยมราชผลาญเพชรฆาต-สมใจนึก-เผาคำอธิษฐาน-พ่ออาจารย์พล.548127/page-18#post-10742920

    พญาอนันตนาคราช ก็คือมหาราชา เจ้าเเห่งนาคราชผู้ให้กำเนิดเผ่าพันธุ์นาคาทั้งปวงของพิภพบาดาลรวมถึงสรวงสวรรค์นั่นเอง พ่ออาจารย์ท่านว่าจะเรียกขานเป็นจอมกษัตริย์หรือองค์บรรพบุรุษของเผ่าพันธุ์ก็ได้ พญาอนันตนาคราชนั้นยิ่งใหญ่นัก เป็นพญานาคที่ไม่กลัวพญาครุฑชั้นสูงเช่นพญาสุเรนทร์เเละยังมีฤทธิ์เสมอกันไม่สามารถเปรียบกันได้ด้วย พญาอนันตนาคราช(เศษะนาค)นั้นมีร่างดั่งทองคำเกล็ดเป็นทองคำ

    ทีนี้เธอมาพิจารณาต่อ ความเชื่อไทยเรานั้นพญาอนันตนาคราช คือมหาพญานาคเจ้าเเห่งมวลนาคทั้งปวงล้วนเป็นลูกหลานสืบเชื้อสายเชื้อวงศ์มาจากท่านเเต่คติพราหมณ์ฮินดูเเท้ๆนั้น พญาอนันตนาคราชที่ยิ่งใหญ่ถึงปานนี้ก็เพราะเป็นมหาอวตารภาคหนึ่งของพระนารายณ์เช่นกัน

    ฟังไม่ผิดพญาอนันตนาคราชที่มีฤทธิ์เลิศล้ำนั้น เป็นอวตารของพระเป็นเจ้า อาจจะฟังดูตลกๆที่พระเป็นเจ้าจะอวตารเพื่อมาเป็นที่นอนของตัวเอง แต่ก็ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้ เพราะปกติพระนารายณ์นั้นย่อมบรรทมหลับเป็นเนืองนิจ การที่จะมีสิ่งที่ยิ่งใหญ่มีอำนาจปรากฏขึ้นมารองรับพระวรกายของพระองค์ได้นั้นก็เป็นเรื่องสำคัญมาก การหลับของพระนารายณ์นั้นเเต่ละครั้งกินเวลานับกัปป์นับกัลป์เลยทีเดียว เพราะฉะนั้นอะไรจะดีไปกว่าก็ตัวเองนั่นเเหละอวตารลงไปเกิดเป็นซะเอง พญาอนันตนาคราชนั้นใช่ว่าจะลงมาเกิดเป็นพระลักษมันเท่านั้น เมื่อพระนารายณ์ลงไปเกิดเป็นพระกฤษณะ พญาอนันตเศษะนาคราชนี้ก็ไปเกิดเป็นพระพลรามพี่ชายของพระกฤษณะด้วย พญาอนันตเศษะในปางพระพลรามนั้นว่ากันว่ามีอำนาจมากถึงขนาดสามารถล้างโลกได้เลยทีเดียว

    วรรณคดีนั้นได้เเฝงความหมายเป็นนัยยะเอาไว้ เเต่คนอ่านไม่เข้าใจเองนั่นเเหละ ตามคติฮินดูตอนพระรามจะยกศรเมื่อพระนางสีดาเลือกคู่ กษัตริย์ทั้งหมดเเม้เเต่ทศกัณฐ์ก็ไม่สามารถยกได้ ก่อนพระรามจะยก พระลักษมันได้เสด็จมาลองยกก่อน ปรากฏว่าเเค่จับคันธนูลองกำลังดูก็รู้เเล้วว่าพระองค์เองนั้นสามารถยกขึ้น พระนางสีดาคือพระลักษมีอวตาร ถ้าไม่ใช่สายอวตารของพระนารายณ์เเล้วจะยกขึ้นได้อย่างไรเธอลองใช้ปัญญาซักนิดก็จะเข้าใจ หากเเต่ให้เกียรติพี่ว่าน้องจะไม่ควรเเต่งก่อนพี่เเละพระนางสีดานั้นก็มีใจให้พระราม พระลักษมันจึงถอยออกไปเเกล้งทำเป็นยกไม่ขึ้น

    มาทำความรู้จักพญาอนันตนาคราชซักนิด
    ราชาแห่งนาคทั้งมวลในตำนานของฮินดู อนันตเศษ (อะ-นัน-ตะ-เส-สะ) หรือ อนันตนาคราช มีขนาดตัวเป็นอนันต์สมชื่อ เพราะเป็นผู้นอนอยู่ในเกษียรสมุทรและให้พระนารายณ์นอนบนหลัง บางตำนานเล่าว่าแม้ดาวนพเคราะห์ทั้งปวงนั้นก็ตั้งอยู่บนพังพานของอนันตนาคราช ส่วนพระเศียรนั้นว่ากันว่ามีตั้งแต่ปางห้าหัวถึงหนึ่งพันหัวเป็นอนันต์สมชื่อจนจิตรกรวาดไม่หมด ซ้ำพระองค์จะไม่พ่นพิษเหมือนนาคอื่นๆแต่จะพ่นเป็นเปลวไฟ และอนันตนาคราชก็จะร้องเพลงสรรเสริญบารมีของพระนารายณ์เป็นนิจ


    ในตำนานเล่าว่าตอนที่เหล่านาคเล่นโกง ที่แม่ไปพนันกับนางวินตาซึ่งเป็นแม่ของพญาครุฑ (ทั้งคู่พนันสีม้าของพระอาทิตย์ เหล่านาคนั้นพ่นพิษใส่จนหางของม้าพระอาทิตย์เป็นสีดำ บ้างก็ว่าเหล่านาคตัวเล็กๆได้เลื้อยเข้าไปแทรกในขนสีขาวจนดูสีดำเป็นหย่อม) อนันตเศษนั้นรังเกียจบรรดาน้องๆเลยหนีไปจำศีลอยู่ตัวเดียว เวลาผ่านไปพระพรหมก็มาเจอเข้า เมื่อทราบว่าอนันตเศษไม่ชอบใจที่น้องโกงพนันเลยให้ไปนอนในเกษียรสมุทรเป็นเตียงให้พระนารายณ์ คำสาปที่ทำให้ครุฑจับนาคกินได้จึงไม่รวมถึงอนันตเศษด้วย

    ตำนานที่ดุเดือดของอนัตเศษนาคราชที่สุดนั้น กล่าวว่าครั้งหนึ่งอนันตเศษเคยโผล่หัวขึ้นไปบนสวรรค์ (ไม่ใช่มุข เพราะตัวยาวจนไม่ต้องขึ้นไปทั้งตัวเเค่ชะโงกหัวก็ไปถึงสวรรค์เเล้ว) และพูดกับเหล่าเทวดาว่า ในสามโลกนี้มีแต่ตรีมูรติ(ศิวะ นารายณ์ พรหมา)เท่านั้นที่มีอำนาจเหนือตน หากใครไม่เชื่อแล้วก็จงมาประลองกำลังกันเถิด เหล่าเทวดากลัวหัวหด เเม้เเต่พระอินทร์ยังขยาดไม่กล้าสู้หน้าหรือรับคำท้าพญาอนันตนาคราชได้ มีแต่พระพายที่กล้าพอเพราะมีทิฏฐิมานะคิดว่าอย่างไรนาคตัวนี้ก็เป็นแค่ดิรัจฉาน(ดูถูกท่าน) การจะมาท้าตีท้าต่อยกับเทวดาจึงนับว่าโอหังนัก คงลืมนึกถึงกำเนิดที่เเท้จริงของท่านไป เเม้เเต่พระอินทร์ซึ่งเป็นเทพที่จัดเป็นหัวหน้าพระพายยังไม่อยากจะต่อกรด้วย

    พระพายรับคำท้า ว่าแล้วพญาอนันตนาคราชก็เอาตัวเองพันรอบภูเขาลูกหนึ่งไว้ บอกว่าให้พระพายลองทำลายภูเขานี้ดู พระพายนั้นใช้กำลังสร้างพายุรุนแรงหมายจะพัดทำลายภูเขานั้นให้ยับเยิน แต่อนันตเศษก็ขยายตัวเองให้ใหญ่ขึ้นแล้วแผ่พังพานป้องไว้ได้ทุกครั้ง สุดท้ายพระพายจึงทุ่มกำลังทั้งหมดเข้าโจมตีโดยดึงเอาลมในมหาอนันตจักรวาลทั้งหมดมาใช้ก็ยังไม่สามารถพัดทำลายภูเขาได้ เทพเเห่งลมเริ่มหมดหนทาง ทางสุดท้ายคือดึงเอาลมทั้งหมดหนักยิ่งกว่าเก่าเเม้เเต่ในตัวสัตว์โลกและสิ่งมีชีวิตตลอดจนในโลกเเละพิภพต่างๆทั้งมวลมาใช้ด้วยรวมไปถึงตนเอง แต่ก็ถูกพญาอนันตเศษกลืนเข้าไปทั้งตัวพูดง่ายๆคือไม่มีพระพายอยู่ในโลก ทีนี้เมื่อไม่มีพระพายแล้ว สัตว์โลกทั้งหลายก็หายใจไม่ออก ร้อนถึงพระนารายณ์ต้องมาบอกเตียงหลังโปรดให้คายพระพายออกมา อนัตนาคราชก็ทำตาม ปรากฏว่าตอนที่อนันตนาคราชคายพระพายมานั้นก็บังเกิดเป็นลมรุนแรงพัดไปโดนภูเขาที่พันไว้จนราบเป็นหน้ากลองจะไม่ให้ราบได้อย่างไรนั่นคือลมทั้งหมดที่จะพึงมีในอนันตจักรวาลทีเดียวและพระองค์ก็ไว้หน้าพระพายอยู่บ้างจึงตัดสินให้เสมอกัน

    ท่านว่าวิเศษเพศงูนั้นเจ้าชู้เเละมักมากในกามารมณ์เป็นที่สุด ก็ดูสิอนันตนาคราชเพียงพระองค์เดียวให้กำเนิดลูกหลานเเละเผ่าพันธุ์มากมายนับไม่ได้ว่ากี่ตระกูล

    พ่ออาจารย์ท่านเมตตาสร้างพญาอนันตนาคราชด้วยเหตุว่าจะได้เป็นอาญาสิทธิ์แก่เผ่าพันธุ์นาคทั้งปวง ด้วยรู้ดีว่าถึงกาล ถึงยุคที่นาคนั้นจะให้คุณมหาศาลแก่ผู้บูชา ให้สำเร็จง่าย ให้ง่ายและรวดเร็วกว่าการบูชาสิ่งต่างๆด้วยว่าเป็นยุคในความดูแลของพวกเค้า ท่านได้หล่อหลอมธาตุกายสิทธิ์ขึ้นกำกับด้วยแผ่นชนวนคาถาวิชาเทพสายกูโบ๊ส กุสตาฟ ลงมนต์หัวใจพญาอนันตนาคราชเพื่อเทรูปหล่อที่ท่านตั้งใจให้ใช้สักการะบูชาเป็นตัวแทนขององค์มหานาคเทวาสืบไป

    ปกติอานิสงค์แห่งการบูชาพญานาคนั้นจะเชื่อถือกันว่า
    - จะทำให้ร่ำรวยขึ้นโดยเร็วพลัน สมบัติทั้งหลายทั้งปวงจะหลั่งไหลมาให้แบบไม่รู้เนื้อรู้ตัว หรือไม่เคยคาดคิดมาก่อน เพราะพญานาคเป็นเจ้าแห่งสมบัติมหาศาล
    - จะทำให้ท่านมีความผาสุก ร่มเย็น ปกป้องคุ้มครองให้ท่านพ้นจากภัยอันตราย สารพัด มีชีวิตที่ราบรื่น สุขทั้งกายสุขทั้งใจเหมือนน้ำเย็นหุ้มห่อท่านไว้ตลอดเวลาเพราะ พญานาคเป็นเจ้าแห่งความร่มเย็นผาสุก
    - จะทำให้ท่านมีเสน่ห์ มีเมตตา มหานิยม มีแต่คนหลงรัก ไปทางไหนทิศใดจะมีแต่คนคอยช่วยเหลืออุปถัมภ์ พญานาคเป็นเจ้าแห่งเสน่หากามคุณ
    - จะทำให้ได้ในสิ่งที่ปรารถนา พญานาคเป็นเจ้าแห่งความอุดม อยากได้เงินเดือนใหม่ อยากได้บ้านใหม่ อยากได้รถใหม่ อยากได้โอกาสความสำเร็จใหม่ๆ ให้บูชาพญานาคแล้วขอพรจะได้สิ่งนั้นอย่างเหลือเชื่อเกินกว่าที่ใครจะคาดถึง
    แต่พญาอนันตนาคราชนั้นพ่ออาจารย์ท่านว่านอกจากสิ่งต่างๆเหล่านั้นแล้ว ท่านยังขอพญาอนันตไว้เป็นพิเศษในอีกหลายๆด้านให้คอยเกื้อกูลกับผู้อาราธนาเป็นการเฉพาะด้วย

    - ท่านจะเสริมมงคลชีวิตทางด้านการเงินให้ไหลคล่องเหมือนดั่งแม่น้ำ
    - ช่วยเสริมและบำรุงจิตใจให้ดีขึ้นในภาวะจิตใจย่ำแย่
    - เป็นที่ยำเกรงกับสรรพชีวิตทั้งหลายด้วยบารมีสูงส่งหนุนนำ
    - ช่วยให้วาสนาคล่องตัวไม่ติดขัดมีใช้ไม่อดอยาก
    - มีพลังแห่งเมตตามหานิยมเป็นที่รักของฝูงชน
    - ปัดเป่าอันตรายจากโรคร้ายและสิ่งที่มองไม่เห็น
    - ป้องกันอำนาจไสยศาสตร์ ภูติผีปีศาจแลอวมงคลทั้งหลาย
    - ประทานพรได้ถ้วนทุกประการ(แต่พ่ออาจารย์ท่านว่าจะเน้นให้ชีวิตเจริญรุ่งเรือง เวลาติดขัดหรือมีอุปสรรคใดๆนึกถึงท่านจะผ่านไปโดยง่าย)


    * ด้านหลังท่านลงด้วยตะกรุดหัวใจมงคลฟ้าชินะบันดาลเพื่อทำการฝังไว้ในพญานาคชุดพิเศษนี้ ท่านว่าเอาให้แรงที่สุด มีคุณครบทุกทาง ซึ่งอานุภาพของตะกรุดนี้ก็ใช้ได้หลายด้าน เช่น
    - แก้พระศุกร์เข้าพระเสาร์แทรก ดวงติดขัดต่างๆ ดำรงค์ชีวิตอยู่อย่างติดขัดคือคิดทำการอย่างใดก็ไม่ได้เสมอใจเราซักอย่าง ที่หวังไว้ก็ไม่เคยสมหวัง พบแต่เรื่องผิดพลาด ผิดหวัง มีวามรู้สึกว่าตนเองเป็นคนโชคร้ายเจอเคราะห์ซ้ำกรรมซัดผีซ้ำด้ามพลอย ส่งผลให้ความรู้สึกอ่อนล้ามัวหมอง จิตใจหดหู่ถดถอย พ่ออาจารย์ท่านว่าเรื่องพวกนี้ไม่ใช่ปัญหาตึงมือแต่อย่างใด ด้วยวิชาธรรมและเคล็ดของบูรพาจารย์ขอให้มั่นใจเท่านั้น
    - ช่วยในเรื่องการเจริญสติ แรงครูดุจแสงสว่างกระจ่างจ้าเบื้องบนที่จะทำลายความทุกข์โศกมืดมิดที่เราหาทางออกไม่ได้ มีคุณใหญ่ชัดเจนคือการดลบันดาลความสำเร็จมาให้
    - ช่วยให้เรามีทัศนคติที่ดี มองอะไรทะลุปรุโปร่ง เห็นช่องทางความสุข เห็นประโยชน์ใหญ่ จิตใจปลอดโปร่งรู้แจ้งแทงตลอด เห็นสิ่งที่ปกติตัวเองคิดไม่ถึง มองไม่เห็น เมื่อจะพิจารณาการณ์และกิจสิ่งใดย่อมทำไปโดยความรอบคอบ ไม่ปล่อยโอกาศทุกครั้งให้หลุดรอดไป
    - พ่ออาจารย์ท่านกล่าวว่าชินะบันดาล ก็คือการบันดาลของคุณพระ ของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ไม่มีสิ่งใดที่พุทธนิมิตบันดาลให้เกิดขึ้นไม่ได้ ทุกสิ่งย่อมเป็นไปได้เสมอใจ ต้องได้ในสิ่งที่ดีที่สุดเหนือคนอื่นเสมอ
    - กลับสิ่งร้ายให้แปรเปลี่ยน เป็นโอกาศ เป็นเรื่องดี ผ่อนสิ่งที่หนักตนให้บางเบา เคราะห์กรรมฉาบฉวยให้สูญหายไป
    - ส่งผลต่อจิตวิญญาณเบื้องต่ำและเจ้ากรรมนายเวรทั้งหลาย ให้หยุดคิดร้ายไม่สามารถรังแกเราได้ เพราะเกรงอำนาจและเทวราชอาชญาของแก้ววัชระ หรือสายฟ้าแห่งองค์อินทร์ที่ประจุเข้าไป
    - ปรับสมดุลย์ความห่างเหิน ต่ำชั้น ไม่คู่ควร กับสิ่งที่มุ่งหวังหรือหมายปองด้วยว่าบารมีของเราไม่เสมอกัน ไม่เท่ากัน ไม่คู่ควรกันกับสิ่งที่เราหวังที่เราปรารถนาเหล่านั้น เปลี่ยนเป็นให้สมกัน คู่ควรกัน ไม่มีใครเกินเราหรือเหมาะหรือควรเท่าเรา
    - ท่านว่าในแต่ละวันกิจและชีวิตของคนมีหลากรูปแบบ ท่านจึงผูกธาตุวิชาไว้โดยดึงขึ้นมาให้เด่นทุกธาตุ สอดคล้องกับกิจที่เราจะเจอในแต่ละวัน เป็นได้ทุกอย่าง ครูท่านคอยคลุมธาตุของท่านเอง ปรับเปลี่ยนให้เหมาะสมตามสถานการณ์ จะเป็นน้ำก็ดีได้ชื่อว่าเป็นโชคลาภเป็นมหานิยมที่สุด จะเป็นไฟก็ดี เป็นลมก็ดี เป็นดินก็ดี ล้วนปรับเปลี่ยนตามสถานการณ์ชีวิต ว่าเราต้องการผูกสัมพันธ์ก็จะเป็นเสน่ห์เข้าไส้ ต้องหลบหนีอันตรายก็จะเป็นคลาดแคล้วบังตา ต้องการแข่งขัน ต้องการเสี่ยงโชค ต้องการโอกาศในชีวิต ทุกสิ่งล้วนปรับเปลี่ยนตามสมดุลย์ชีวิตไม่ขัดแย้งหรือล่วงเกินกัน


    พ่ออาจารย์ท่านสร้างพญาอนันตนาคราชชุดพิเศษนี้เสกเก็บไว้ยาวนาน ที่ผ่านมาจะออกให้บูชาเฉพาะสายลูกหลานนาคาจริงๆเวลาขอบูชาเครื่องมงคลมาเท่านั้นด้วยเป็นของมีอภินิหาริย์มาก บางคนตาดีเขาว่าทำสมาธิทีไรดุจได้เฝ้าจอมกษัตริย์นาคา บางครั้งท่านก็มาแผ่พังพานปกปักรักษาไปไหนไปด้วยกับเราตลอดแม้จะไม่รู้สึกตัวหรือมองไม่เห็นก็ตาม จนกาลบัดนี้ท่านว่าถึงเวลาที่สายญาณบารมีของพญานาคจะได้พิทักษ์รักษาพระศาสนา สร้างบารมีไปร่วมกับสรรพชีวิต และท่านเล็งเห็นว่าความเป็นอยู่ วาสนาในชะตาโชคลาภต่างๆของหลายคนเริ่มมีปัญหา ปู่อนันตเศษะท่านจึงปรารถนาที่จะออกไปสร้างบารมีกับผู้ศรัทธาเป็นการเฉพาะ

    คาถาบูชา
    นาคเทวะ ปรีตาภวันติหะ คานติมาปะโนติ เวนะวิภี สัมศานติ โลกะมาสาทะยะ โมทะเต ศาศติช สมาช


    *ื พ่ออาจารย์ท่านสร้างพญาอนันตเศษะเจ้ามหานาคเทวาไว้จำนวนไม่มากนัก ท่านว่าทำแล้วก็ต้องทำให้เป็นที่สุดเอามหานาคดึกดำบรรพ์นี่แหละ ด้วยสายตระกูลพญานาคทั้งหมดล้วนเกรงบารมีท่านเวลาไปไหนผ่านภพภูมิพญานาคอื่นๆเค้าจะรีบมาต้อนรับ รีบเข้ามารักษา ให้โชคชัยอวยพรแก่เรา ท่านว่าภพภูมิพญานาคนั้นมีทุกที่ทั้งบนบก ในน้ำ ในอากาศ มีมากมายยิ่งกว่าภพภูมิใดๆ(ท่านพูดแฝงความนัยน์สำคัญไว้ว่าเราบอกได้แค่นี้) ถ้าใครมีวาสนาและบารมีก็จะมาแสวงหาเอง ***พญาอนันตเศษะนั้นพ่ออาจารย์ท่านแนะเคล็ดว่าถ้าคนบูชาไปปรารถนาในสิ่งที่เกินเอื้อม หรือมีความหวัง ความฝันสูงกว่าอัตภาพ ความสามารถ ขีดจำกัดของตัวตนในปัจจุบัน ให้อาราธนาเป็นคู่หันหลังชนกันนำด้ายสายสิญจน์มาพันมัดท่านไว้ ปรารถนาสิ่งใดก็ให้ตั้งใจบอกกล่าวท่านในหนนั้นก่อนนำไปเลี่ยมเพื่ออาราธนาบูชา
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 พฤษภาคม 2020
  17. ธัญญ์นิธิ

    ธัญญ์นิธิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,794
    ค่าพลัง:
    +6,030
    พญาลูติกาขย้ำเหยื่อยันต์แปดทิศชุดพิเศษ
    (อุดผงยาดักมนุษย์สมบัติ)


    ให้บูชา 800 บาท

    ปิดรายการโดยคุณ นิติทอง

    IMG_20190915_013855.jpg IMG_20190915_013923.jpg

    อ้างิงจาก
    https://palungjit.org/threads/ร่วมทำบุญบูชา-ตะกรุดพระยมราชผลาญเพชรฆาต-สมใจนึก-เผาคำอธิษฐาน-พ่ออาจารย์พล.548127/page-18#post-10744765

    วิชาพญาลูติกาหรือแมงมุมล่อเหยื่อ ดักเหยื่อ ขยำเหยื่อนี้ก็เรียก เป็นวิชาพิเศษของพ่ออาจารย์ท่าน ที่เน้นใช้งานจริง เร็วจริง ให้ผลจริง เกี่ยวกับการใช้งานให้เครื่องมงคลช่วยล่อ ช่วยดัก บุญวาสนาและสิ่งดีงามรวมไปถึงทรัพย์โภคสมบัติและโชคลาภทั้งหลาย

    โอกาสสำคัญในวาระสุดพิเศษนี้ที่หลายคนถามหาแต่พลาดพระเจ้าประทานธรรมไปนั้น พ่ออาจารย์ท่านให้นำแมงมุมชุดพิเศษ ชุดเล็กที่ท่านทำเข้ากับยาดักมนุษย์สมบัติไว้ เป็นแมงมุมชุดแรกที่ท่านเทขึ้นอุดผงยาและลงวิชาพิเศษเพื่อแก้ทาง แก้ปัญหา แก้วิชา ของคนทำมาหากินไม่ขึ้นเพื่อให้คนที่ชอบสายดูด สายดัก หรือหวังประสบความสำเร็จในมนุษย์สมบัติทั้งปวงได้อาราธนา

    แมงมุมชุดพิเศษนี้เราเรียกว่าชุดยันต์แปดทิศ ที่พ่ออาจารย์ท่านสร้างตามลักษณะใยและการดักของยันต์แมงมุมให้มีอานุภาพดักแปดทิศ ติดแปดเรื่อง ได้แก่
    - ชื่อเสียง ตำแหน่ง อำนาจ ความเจริญรุ่งเรือง
    - ความสุขสมหวังทางชีวิตคู่
    - ความสำเร็จของบุตรธิดา บริวารปรองดอง
    - ความช่วยเหลือเกื้อกูลย์เวลาตกที่นั่งลำบาก
    - ความเจริญในกิจอาชีพ
    - ความรู้การบ่มเพาะตนเอง
    - ความปรกติสุขของครอบครัว สุขภาพแข็งแรง
    - ความมั่นคงในชีวิต


    ท่านว่าชุดนี้ท่านแก้เคล็ดคนใช้ด้วยการเอาแมงมุมมาลงจารอักขระเรียกสูตรนะมีในทิศก่อนจะอุดผงยาดักมนุษย์สมบัติ ท่านว่าเมื่อเสกแล้วพลังงานทั้งหมดย่อมเชื่อมต่อกันเป็นแรงดึงดูดจากนะมีในทิศกลายเป็นมั่งมีในทิศทั้งแปด ตัวนี้ท่านว่าดีมาก อยู่ทิศไหนก็มั่งมี อยู่ทิศไหนก็ได้ ก็ดักติด ได้ดักเหยื่อ ล่อเหยื่อ ขย้ำเหยื่อไม่คลาดแคล้ว

    นอกจากนั้นพ่ออาจารย์ท่านยังได้ลงตะกรุดวิเศษสองดอกกำกับแมงมุมชุดพิเศษไว้ ดอกหนึ่งคือดักวาสนา ดอกที่สองคือดักเงิน ท่านว่าเอาเอาตรงๆมีเงินมันก็ดุจมีทุกสิ่ง ดักเงิน ดักโชคลาภให้อยู่กับตัวเราและเพิ่มวาสนาไปเรื่อยๆต่อยอดให้มากขึ้นเท่านี้ แมงมุมชุดนี้ท่านจึงว่าเป็นที่สุดจริงๆทั้งด้วยวิชาแมงมุมรวมไปถึงกลคาถามั่งมีในทิศทั้งแปด ทั้งยังผงยาดักมนุษย์สมบัติและตะกรุด ท่านว่า"สมบูรณ์ด้วยมายา เป็นพยนต์ที่มีฤทธิ์มาก" ถึงขนาดที่พ่ออาจารย์ท่านอุทานว่า"แมงมุมชุดนี้ให้คุณมากเกินกว่าจะประมาณการณ์ใดๆได้"

    ทำไมหลายๆคนถึงขนาดกล่าวขานว่าเป็นไอเท็มที่โกงสุดๆ ...ก่อนอื่นก็จะขอนำวิชาแมงมุมของพ่ออาจารย์ท่านมาลงไว้อีกคำรบหนึ่ง ให้พิจารณกัน
    ***......เมื่อกล่าวถึงวิชาสายธรรมเวทย์ ที่เป็นบทวิชาสำคัญอันเกี่ยวเนื่องกับความสุขอย่างหยาบทั้งหลายที่จำเป็นต่อการดำรงค์ชีวิตไม่ใช่สิ่งปราณีตสูงสุดคือบรมสุขหรือพระนิพพาน ด้วยวิชาสำคัญนั้นทำไมถึงเปลี่ยนชีวิตคนได้ง่ายๆ วิชาอะไรที่ทำให้ฐานะเปลี่ยนแปลง ไม่เหนื่อยและไม่ต้องลงแรงมาก เครื่องมงคลอะไรที่เป็นทั้งเหยื่อล่อแล้วก็ใช้ล่อเหยื่อในเวลาเดียวกัน ใช้เพื่อการกินเหยื่อแบบกว้างๆตามแต่จะอธิษฐาน เปรียบเปรยทำนองว่าลงแรงทำอะไรต้องได้ผล แม้อยู่กับที่ยังต้องอิ่ม ต้องได้กิน ไม่ถูกคนอื่นแย่งกิน เป็นวิชาเกี่ยวกับการกางอาณาเขตในทิศทั้งแปดเพื่อทำการสร้างพื้นที่พิเศษ เอาไว้ทำการดักจับหรือที่เราเรียกว่าสร้างเหยื่อล่อไว้ล่อเหยื่อก็เรียก

    พญาลูติกาล่อเหยื่อที่ท่านหล่อขึ้นมาจากยันต์วิชาเฉพาะทางอันเป็นวิชาบังคับในการทำแมงมุมนี้ วิชาแมงมุมนั้นสำคัญอย่างไร “แมงมุมเป็นสัตว์สะอาด อาหารของมันเป็นอาหารที่หมดอายุแล้ว แมงมุมไม่ใช่นักล่าที่แสวงหาชีวิตของผู้อื่นกินเป็นอาหาร เหมือนสัตว์อื่น เพราะแมงมุมจะชักใยดักเหยื่อไว้ ในที่ๆเหยื่อจะมองเห็นได้ ไม่ใช่ว่าซ่อนหรือดักไว้ในที่ลับตา” แมงมุมจะคอยเฝ้าเหยื่อที่อยู่ปลายใยของตัวเอง จะไม่เห็นแมงมุมวิ่งไปรอบหรือไล่เหยื่อให้มาติดใยที่ปลายใยของตนเอง แต่เหยื่อจะเข้ามาติดใยเองเพราะหมดบุญหรือถีงที่ตาย ซี่งเมื่อเข้ามาติดในใยแมงมุมแล้วนั่นคืออาหารที่แมงมุมจะกินเพื่อต่อชีวิต แมงมุมจะกินของเหลวในตัว ซากที่เหลือจะทิ้่งลงมาด้านล่างเพื่อเป็นอาหารของมดและแมลงเล็กๆด้านล่าง ไม่เสียเปล่าประโยชน์.....พ่ออาจารย์ท่านว่าวิชานี้สำคัญ มีความหมายลึกซึ้งทุกด้าน นั่นคืออยู่เฉยๆก็มีเข้ามาป้อนถึงปาก ลงแรงครั้งเดียวก็มีเข้ามาเรื่อยๆ มีมาให้กินถึงที่ แม้จะรู้ว่าเป็นกับดักติดแล้วต้องตายก็ยังมีเหยื่อเข้ามาพร้อมที่จะติดตลอดเวลา

    พ่ออาจารย์ท่านปลุกเสกพญาลูติกานี้จนมีชีวิตเคลื่อนไหวได้ในนิมิต เป็นการสำเร็จวิชาแมงมุมชักใยขั้นสูงสุดก่อนนำมาอุดยาดักนี้ ท่านว่าใยแมงมุมนี้ดักจับได้ในธาตุทั้งสี่ไม่ว่าจะเป็นสิ่งมีชีวิตหรือไม่มีก็ตาม เป็นแรงดึงดูดที่แผ่อำนาจออกไปทุกสารทิศ ดุจจุดที่เรายืนอยู่คือมิติของแมงมุม คืออาณาเขตของเรา เปรียบตัวเราเป็นแมงมุมท่านเปรียบเหยื่อกับลาภสักการะ ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนกระทำกิจใด ลาภสักการะย่องไหลหลั่งมาไม่ขาดสายทีเดียว ท่านว่าเมื่อแมงมุมชักใยล่อเหยื่อให้เข้ามาติดกับ แม้จะอยู่ในที่เปิดเผยเห็นได้ชัดเจน ก็ยังมีเหยื่อเข้าติดใยด้วยอำนาจดึงดูดและชักชวนเข้าหาสอดผสมกัน ดุจเราคนใช้ แม้พิจารณาเห็นว่าจะไปทำด้วยเล่ห์และวิธีใดเพื่อประโยชน์ในกิจของชีวิตแต่ละคน ท่านว่าให้เปรียบตัวเราเป็นแมงมุมกินเหยื่อ จะเอาไปใช้ด้านใดทั้งการเจรจา จีบสาว การทำงาน ธุรกิจ การพูดคุยที่มีผลประโยชน์ ทุกคู่สนทนา ทุกคนที่เราเข้าหา เขาทุกคนคือเหยื่อที่ติดใยรอเรากินทั้งหมด ท่านว่าวิชานี้สำคัญเพราะมันได้กินแน่นอน เขาหนีไม่รอดเลย

    ท่านได้อุดแมงมุมด้วยผงยาดักมนุษย์สมบัติ ท่านว่าผงนี้มีคุณอย่างประเสริฐ ถ้าใครหวังเอาดีทางโลก ปรารถนาชีวิตแบบคฤหัสถ์ที่สุขสบายก็ให้ใช้บูชาเถิด บรรพชิตอย่าได้แตะต้องเลย ด้วยผงยาดักนี้จะนำมาซึ่งลาภ ยศ สุข สรรเสริญ อันเป็นเหตุเพิ่มพูนความสำเร็จทุกสิ่ง ปัจจัยความสมบูรณ์แห่งความเป็นมนุษย์มี 8 ประการ คือมนุษย์สมบัติทั้งแปด เรียกว่าสมบัติแห่งความเป็นมนุษย์ที่ทำบุญมาดีแล้ว
    1. รูปร่างหน้าตาสวยงาม ครบบริบูรณ์
    2. มีทรัพย์สมบัติมาก บริบูรณ์ ไม่ขาดแคลน ขัดสน
    3. มียศถาบรรดาศักดิ์ เกิดในตระกูลสูง
    4. มีเกียรติยศชื่อเสียง เป็นเคารพยกย่อง
    5. มีเพื่อนที่ดี มีบริวารมาก
    6. ฉลาด มีสติปัญญาดี แก้ปัญหาเก่ง
    7. มีสุขภาพร่างกายแข็งแรง สมบูรณ์
    8. มีอายุยืนยาว
    มนุษย์สมบัติทั้งแปดประการนั้น แม้ผู้ใดทำมาดีแล้ว มีมาแล้ว ก็จะช่วยให้การใช้ชีวิตสะดวกสบายทั้งนี้เพื่อเป็นจุดเริ่มต้นในการสร้างบารมีต่อไป พ่ออาจารย์ท่านว่าคุณสมบัติทั้งหมดนั้นให้ผลต่อเนื่องกันใครมีครบก็ถือว่าเกิดมามีบุญ เป็นผู้ใหญ่ ทำการณ์ใหญ่ สมบูรณ์ด้วยยศ วาสนา บรรดาศักดิ์ มีอำนาจมาก ไม่ว่าจะหยิบจับอะไรก็เจริญรุ่งเรือง ล้มไม่ได้ พ่ายไม่เป็น แต่หากใครบกพร่องขาดสิ่งใดไปแล้ว บางคนแม้พากเพียรทั้งชีวิตก็ไม่อาจจะมีขึ้นมาได้ซักข้อหนึ่ง ท่านจึงทำผงยาดักมนุษย์สมบัติขึ้นเพื่อเติมเต็มกระบวนการพื้นฐานทุกสิ่งตามที่มนุษย์ขาด ตามที่ควรจะมี ควรจะเป็น

    ผงยาดักมนุษย์สมบัตินี้ นอกจากจะเติมเต็มความบริบูรณ์ทางคุณสมบัติความเป็นมนุษย์แล้ว ยังใช้ได้อีกมากมายหลายทางโดยเฉพาะทางเมตตามหาเสน่ห์ด้วย ถึงขนาดที่พ่ออาจารย์ท่านออกปากว่าถ้าไม่ทำของเปลี่ยนลิขิตฟ้า ผงนี้ควรจะเอาไปกดขุนแผนซักรุ่นเสียจริงๆ ด้วยผงนี้ท่านว่าผู้ใดได้ครองก็นับว่าเป็นเสน่ห์ พกพาไว้ก็มีสง่าราศี จะเจรจาสิ่งใดก็ดี ซื้อง่ายขายคล่อง ยิ่งเฉพาะเพศตรงข้ามหรือแม้แต่เพศเดียวกันล้วนรักใคร่เมตตา ที่ว่าเป็นผงยาดัก นั่นคือผงยาที่มีฤทธิ์รุนแรงทางใจ ทางมายาศาสตร์ ถึงขั้นว่าอยากได้ใครเอาผงนี้แช่กับน้ำมันเพียงเท่านั้น ใช้ป้ายได้ทั้งสิ้น ป้ายไว้ตรงไหน ไม่เลือกว่าจะที่ใด ใครที่เราปรารถนา ใครได้จับ ได้สัมผัส ล้วนมีใจโอนอ่อนผ่อนตามอารมณ์ของเราผู้ต้องประสงค์ คนสมัยเก่ามักจะใช้กันเช่นนี้ ทั้งป้าย ทั้งดีด มีอิทธิคุณยิ่งนัก พ่ออาจารย์ท่านว่าดักได้ทุกสิ่งด้วยมติแห่งครูบาอาจารย์ ท่านเกรงวิชาจสูญไปครั้นจะทำให้ใช้ก็กลัวเป็นบาปกรรม จะเอาไปเล่นทางเสน่ห์ก็กลัวจะเสียของกันไป จึงเอามากดเป็นองค์พระให้หมดสิ้น ผู้ใดได้ครอบครองพระเนื้อผงยาดักมนุษย์สมบัตินี้ ท่านให้ตั้งจิตปรารถนาให้ดี ชีวิตขาดตกบกพร่องอะไร เรียกง่ายๆคือไม่มีอะไร ก็อธิษฐานดักเอา ท่านว่าดักได้ทุกสิ่ง ขาดทรัพย์ก็หมายทรัพย์ ขาดคู่วาสนาก็หมายคู่เรียงเคียงหมอน ขาดมิตรภาพ ขาดบริวาร ขาดวาสนา ขาดบารมี ขาดสุขภาพที่ดี สิ่งใดๆในโลกนี้ล้วนแต่ไม่เกินก็ขาด หากสิ่งใดขาดท่านว่าตั้งจิตปรารถนาบอกเสด็จพระใหญ่ ขออานุภาพยาดักนั้นให้คุณเปลี่ยนแปลงชีวิตเราทางไหนก็ว่าไป ด้วยคุณพระ คุณยา คุณครูบาอาจารย์ดลให้เป็นไปด้วยพุทธานุภาพ ทุกสิ่งย่อมสมแก่ใจ...


    นอกจากจะดักและปรับเปลี่ยนพื้นฐานชีวิตให้อยู่ในความสมควรตามกรอบสูงสุดของมนุษย์สมบัติอันควรจะมีแล้ว ยังแผ่อำนาจออกไปในมหาทิศทั้งสี่กับอีกสี่ทิศย่อยด้วยวิชาแมงมุมชักใยเมื่อส่งเสริมเข้ากับอานุภาพของยาดักแล้ว ท่านว่ามันเป็นสิ่งที่ต้องห้าม นั่นคือข้างบนเขาห้ามไม่ให้เราพูด บอกคร่าวๆได้แค่เป็นวิชาดักซ้อนกับดัก นั่นคือดักได้ทุกสิ่งไม่หลุดรอด ขอเพียงคนใช้ตั้งความปรารถนาดีๆ ท่านว่าขึ้นอยู่กับใจตัวเองนั่นแหละว่าปรารถนาสิ่งใด

    คาถาบูชา
    นะกะรีกะรานังบังเกิด โอมจิตรามณีมหามันตรานัง ปัญจะทานังยะสัง ทาสาทาสีโกมัง ปัสสันติสิเน่หัง มาตาปุตตังวะโอรสัง สัพเพชนา พหูชนา สัพเพปุริสา พหูปุริสา สัพเพอิตถี พหูอิตถี สุวันนะระชะตัง มะหาสุวันนะระชะตัง อังคะตะเศรษฐี มหาอังคะตะเศรษฐี มิคะตะเศรษฐี มะหามิคะตะเศรษฐี ปุริเศษะวา อิตถีวา พราหมมะณีวา มะอะอุ มานิมามา สาวังคุณณังภวันตุเม สาวังคุณณังภวันตุมา


    ท่านว่าวิชาแมงมุมนี้คนที่ใช้ก็กลายเป็นยอดของคน เจริญรุ่งเรืองอยู่ในจุดสูงสุดของอาชีพเขาทั้งสิ้น ก็มีเอาไว้ให้เฉพาะผู้ที่มีปัญญาและวาสนาร่วมกัน เพราะวิชาเช่นนี้ท่านว่าทำไม่ได้บ่อย ทุกอย่างล้วนมีแต่ข้อห้ามเพราะครูท่านไม่อยากให้ทำมาก จึงตั้งใจทำหนนี้ครั้งเดียว ท่านจะอธิษฐานผูกจิตให้ดุจเราคนใช้เป็นแมงมุมที่คอยชักใยล่อเหยื่อ ท่านว่าสุดแต่ใจจะใช้งานคิดว่าอะไรคือเหยื่อก็คือสิ่งนั้นที่จะติดใยหลีกหนีไม่ได้

    * พญาลูติกาชุดนี้เป็นชุดพิเศษ ที่พ่ออาจารย์ท่านลงวิชาไว้พิเศษจริงๆเพื่อให้คนอาราธนาได้มีโชค วาสนาดีเพราะเขาให้คุณแรงกว่า หนักกว่า ท่านว่าทำไว้หนเดียวบูชากันให้ดีชีวิตก็เปลี่ยนได้ง่ายๆ
    วิธีใช้

    - จำเป็นต้องอาราธนาไว้ภายในที่พักอาศัยหนึ่งตนเพื่อแก้เคล็ดปรับเปลี่ยนรูปแบบอำนาจพลังงานต่างๆที่จะมากระทบและให้ผลดีร้ายกับชีวิตเรา
    - อาราธนาไว้ประจำกายหนึ่งตนเป็นสื่อให้เกิดโชคลาภวาสนาเนืองนองแก่การออกไปดำเนินชีวิตของเรา ท่านว่าไว้ต่ำได้ใส่เอวหรือติดกระเป๋ากางเกงได้ตามแต่จะสะดวก
    - ถ้ามีสถานที่ทำงานก็ให้นำไปติดไว้ หรือสถานที่พิเศษที่มีพลังงานลบรุนแรงด้วยหลักฮวงจุ้ย ท่านว่าพญาแมงมุมชุดนี้แก้ไขได้ทั้งสิ้นบอกได้เท่านี้


     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 กันยายน 2019
  18. ธัญญ์นิธิ

    ธัญญ์นิธิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,794
    ค่าพลัง:
    +6,030
    พ่องั่งลอยเคราะห์คลายปมปลดพันธนาการ รุ่น เทพกะซิบ
    (ปะคำเทพวิชามหาสูบ)

    มี 2 องค์สุดท้าย ให้บูชาองค์ละ 800 บาท
    (เลือกได้ครับ)

    ปิดรายการทั้ง 2 องค์ โดยคุณ powernext ครับ

    IMG_20190915_013725.jpg IMG_20190915_013744.jpg

    อ้างอิงจาก
    https://palungjit.org/threads/ร่วมทำบุญบูชา-ตะกรุดพระยมราชผลาญเพชรฆาต-สมใจนึก-เผาคำอธิษฐาน-พ่ออาจารย์พล.548127/page-19#post-10748318

    พ่ออาจารย์ท่านได้รับนิมิตรให้ทำพญางั่ง(อีหง่างโบราณ)ขึ้นมา ท่านว่าวิชานี้แต่เดิมหาคนทำยาก ของเก่าๆบางคนเอาไปใช้เพื่อทำเสน่ห์ทำให้เป็นของต่ำต้องอาถรรพ์ไปก็มาก ท่านจึงจะบูรณาการทำไว้เสียใหม่

    ท่านว่าวิชาพญางั่งนี้ เป็นปางอวตารขององค์พระศิวะเจ้า(ครูพระสยม)ในพระชาติหนึ่ง เพราะเป็นปางอวตารที่จะลงมาเฉพาะเหตุการณ์จริงๆ ถึงแม้พระภาคเต็มก็ไม่สามารถแก้ไขในส่วนของปัญหาได้ ท่านลงมาเพื่อปลดเปลื้องกฏเกณฑ์ต่างๆในสังคมที่กำหนดขึ้นมาทำให้ธรรมชาตินั้นวิปริต จนพระผู้เป็นเจ้าไม่สามารถดำรงค์พระองค์อยู่ได้ต้องลงมาช่วยเมื่อถึงกาลถึงวาระนั้น โดยพญางั่งที่ทำนี้ท่านว่าต้องทำด้วยไศวะศาสตร์ เข้าให้ถึงองค์พระศิวะจะทำโดยวิธีอื่นไม่ได้ มิเช่นนั้นจะเป็นเพียงเครื่องรางธรรมดา ไม่ใช่รูปแบบของมหาบุรุษที่ลงมาเพื่อปลดเปลื้องชะตาชีวิต คลายปม แก้พันธนาการของสรรพสิ่ง เมื่อทำแล้วท่านว่าผู้ใดรู้ตัวว่าโดนกดดัน ไม่ได้รับความเป็นธรรมจากสังคม คือหาความยุติธรรมไม่ได้ในชีวิต โดนกดดัน โดนกดขี่ข่มเหง นี่แหละตรงเรื่องเอาไปใช้เลย เพราะว่าท่านคือผู้ปลดปล่อยสรรพชีวิตออกจากการโดนดูถูกเหยียดหยาม โดนผู้อื่นรังแกอย่างแท้จริง

    ครั้งนี้พ่ออาจารย์ท่านได้ทำโดยลงวิชาอีหง่างโบราณไว้ด้วย ท่านว่าใช้ได้ครอบจักรวาลทั้งยังเป็นเสน่ห์สุดๆ เป็นสัญลักษณ์ของพ่อ เป็นรูปแบบของการกำเนิด ลูกคนใดที่ขาดที่ไม่มี ขอกับพ่อ อะไรก็เกิดขึ้นได้เพราะพ่อยกมือกวักเข้าหาตน พ่ออาจารย์ท่านเป่ากำกับด้วยนะเข้าหา เสมือนพ่อมีทุกสิ่ง ให้ได้ทุกอย่าง ถ้าลูกปรารถนาพ่อย่อมเรียกเข้ามาหามาประเคนให้ได้ทั้งสิ้น เรื่องหญิงสาวคู่ครองนั้นยิ่งกว่าจอมเจ้าชู้ใดๆ แต่หลักใหญ่ที่ท่านทำเพื่อแก้กฏเกณฑ์เวรกรรมต่างๆในชีวิตผู้บูชา

    งั่งชุดนี้เป็นชุดพิเศษ เพราะพ่ออาจารย์ท่านหล่อด้วยแร่เงินยวงเข้ากับธาตุกายสิทธิ์และชนวนตะกรุดลอยเคราะห์ วิชาลอยเคราะห์เป็นวิชาชั้นสูงที่ท่านต้องลงจารเสกเก็บไว้เมื่อถึงกาลถึงวาระจริงๆเท่านั้น เป็นของที่มีอานุภาพมาก ท่านว่าความหมายมันก็ตรงตัว คือลอยอยู่เหนือเคราะห์กรรม คล้ายๆกับการตกตะกอนของน้ำ เคราะห์กรรมอยู่ส่วนหนึ่ง น้ำอยู่ส่วนหนึ่ง ลอยแยกจากกัน เคราะห์กรรมจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับเรา ดุจดั่งว่าเวทย์วิชานี้คือกำแพงที่ขวางกั้นน้ำกับตะกอนเช่นนั้น ที่ว่าสร้างยากนั้นก็เพราะเป็นวิชาที่เกี่ยวกับกฏแห่งกรรม ท่านว่าไม่มีใครอยากจะทำให้กันหรอก ตอนเรียนมาท่านก็ย้ำหนักหนาว่าต้องเลือกคนให้ ไว้ทำยามบ้านเมืองคับขัน ประชาชนเดือดร้อนข้าวยากหมากแพง

    ที่สำคัญเลยพ่องั่งคลายปมนั้น ท่านอธิษฐานจิตจนสำเร็จมีตัวมีตนและกำกับวิชาเทพกะซิบไว้ด้วย เพื่อให้คนที่บูชาเวลาเรียกใช้งานหรือบูชาจะสัมผัสพ่องั่งได้ด้วยจิต เช่นการบอกเหตุล่วงหน้า พกติดตัวช่วยเตือนภัย คุ้มครองป้องกันอันตราย ช่วยเรียกโชคลาภเงินทอง บอกกล่าวค้าขายร่ำรวย บอกโชคลาภเลขหวยนิมิตได้ด้วย หรือจะเสี่ยงโชคก็ช่วยได้เสริมดวงการพนันให้ชนะได้ ซ้ำเป็นเครื่องรางมหาเสน่ห์ ตามหาความรัก ตามของหาย หรือจะบนบอกขอเรื่องการงานก็ได้ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสมาธิของผู้ที่บูชา ท่านว่าเรียกพ่องั่งเทพกะซิบกระซิบมาใช้งานไม่ยากอย่างที่คิดขอเพียงเชื่อมั่นในครูบาอาจารย์ และงั่งรุ่นนี้ *....ท่านว่ายิ่งพูดคุยกับเขาบ่อยๆ พูดเองเออเองถามเองตอบเองเหมือนเลี้ยงกุมารทองยิ่งดียิ่งนัก ตอนทำแรกๆอาจจะไม่รู้สึกแต่พอได้พูดคุยกับเขาแล้วท่านว่ามันจะมีตัวรู้คอยตอบคำถามเราเอง ยิ่งทำบ่อยๆเสมือนได้พูดคุยโต้ตอบกัน จิตสัมผัสเราจะเฉียบคมขึ้น ไปเสี่ยงดวงบนบอกขออะไรกับพ่องั่งก็จะเร็วขึ้น

    ด้านหลังท่านฝังปะคำเทพวิชามหาสูบเอาไว้ เป็นประคำที่ท่านตั้งใจทำเพื่อบรรจุพ่องั่งโดยเฉพาะโดยใช้ผงสิริชมพูนุชอันเป็นสุดยอดวิชาเสน่ห์เมตตาค้าขายมาผสมกับผงเทพวิชามหาสูบผสานกับผงวิชาการทำประคำพระเจ้าคุ้มเรือน

    เกี่ยวกับเทพวิชามหาสูบก็จะพูดถึงรายละเอียดคร่าวๆดังนี้
    เทพวิชามหาสูบวิชานี้มักจะใช้ในการดูด ถ่ายเทพลัง สูบพลังจากสิ่งต่างๆเข้าสู่ตัวตนของผู้ใช้ ทั้งยังสลายพลังอาถรรพ์หรืออวิชชาให้สูญสิ้นไปอีกด้วย ท่านว่าฟังเหมือนง่ายแต่ติดที่ว่ามันใช้ได้ไม่มีข้อจำกัดนี่สิ เรียกว่าใช้ทั้งสูบทั้งสลาย แต่ที่อันตรายก็เพราะความคิดพิเรนทร์เพราะบางคนก็คิดจะใช้สูบมนต์จากครูบาอาจารย์ตนเอง ท่านว่าพิเรนทร์ถึงขนาดที่ว่าพระเกจิบางรูปที่รู้และสำเร็จวิชานี้เคยคิดแม้แต่จะสูบวิชาของพระพุทธเจ้าก็มีมาแล้วแต่ก็ทำไม่สำเร็จ พ่ออาจารย์ท่านจึงว่าวิชานี้ด้วยจิตใจคนนั้นไม่มั่นคงจึงไม่ถ่ายทอดให้กับใคร ให้ใช้แต่เพียงคุณของวิชาที่ลงในไว้เท่านี้ก็พอ จำเพาะเท่านี้ท่านว่าก็เป็นคุณมหันต์ไม่มีข้อจำกัดใดๆแล้ว

    เกี่ยวกับผงมหาสูบวิชานี้ที่น่ากลัวแท้ที่จริงแล้วอยู่ที่เรื่องมหาสูบตามชื่อวิชานอกจากใช้สูบมนต์ สูบวิชาได้ทุกสิ่งแล้ว สิ่งที่สูบมานั้นก็ไม่ได้สูญเปล่า ไม่ได้ทำไว้เพื่อให้เราเอาไปรังแกใคร สูบมาแล้วก็ไม่ได้หายไปไหน ท่านว่าพลังงานที่ให้คุณต่างๆอันสูบมานี้ก็จะมาเสริมส่งเรา เป็นบารมีของเรา

    แต่เดิมนั้นพ่ออาจารย์ท่านว่าคนที่สำเร็จวิชานี้ ที่เอาดีทางอาคมไปลองดีสูบวิชาคนก็มี แต่คนที่เรียนมาเหมือนกันแล้วเขาฉลาดเล่นทางอาคมเอาวิชานี้ไปสูบเงินสูบทองจากปุถุชน สูบบารมีจากคนจากสถานที่ต่างๆจนกลายเป็นเศรษฐีสืบวงศ์ตระกูลมาได้หลายชั่วโคตรก็มี ท่านจึงว่าวิชาเหมือนกันต่างกันที่คนใช้ว่าจะเอาไปใช้ทำอะไร ถ้าใช้เป็น หมายถึงใช้แล้วคิดเป็นก็จะได้ดีเกินคนโดยไม่ยาก

    ตรงนี้ท่านว่าให้ใช้ความคิดมากๆ อย่าสักได้แต่ว่าคาด ยกมือไหว้ขอๆเอาให้พ้นๆไป ท่านว่าคิดซักเล็กน้อย วิชานี้เอาจริงๆยิ่งใช้ยิ่งดี พ่ออาจารย์ท่านว่ายิ่งใช้เป็นมันยิ่งสนุกนะเวลาเราพกอาราธนาตะกรุดนี่ไปตามสถานที่ต่างๆ ตามวัดวาอารามทั้งหลายเราก็นั่งภาวนาอธิษฐานสูบบารมีเข้าไปเพิ่มให้กับตัวเอง คนที่วาสนาต่ำ ดวงตก ดวงแตก ดวงกาลกิณี ติดวิบัติ ติดพระเคราะห์ใดๆก็ตามให้ไปทำเถิด สูบบารมี สูบอำนาจตบะต่างๆของพระอริยะเจ้าที่ท่านเหลือทิ้งไว้ตามสถานที่ของท่าน พ่ออาจารย์ท่านว่าพ้นกรรมกันได้ง่ายๆเลยถ้าใช้เป็น ไปอธิษฐานสูบเอาได้ไม่ต้องกลัวหมด คนที่ฉลาดหน่อยเวลาเขาไปธนาคารไปสถาบันการเงินการคลังก็จะอธิษฐานสูบสัญญาความจำได้หมายรู้ต่างๆเพื่อเปิดวาสนาทางการเงินเข้าไป ให้ดวงเราชีวิตเราผูกพันธ์กับเงิน กับโชคลาภตลอดเวลา ท่านว่ามันอยู่ที่วิธีคิดแล้วเอาไปใช้ ยิ่งคิดมากๆก็ยิ่งใช้ได้หลายทาง ยิ่งใช้เป็นก็ยิ่งสนุก อยากมีวาสนาด้านไหนก็เอาไปสูบเอาตรงนั้น สถานที่นั้นๆ ท่านว่านี่คือคนที่คิดแล้วใช้ให้เป็น ไม่ใช่พกแล้วสูบไปเรื่อย เช่นนี้ชีวิตก็คงที่ ฤทธิ์ บารมีอะไรทั้งหลายมันกินไม่ได้ แต่ถ้าเล่นเป็นตะกรุดนี้นับว่ามีค่าควรเมืองจริงๆ

    พ่ออาจารย์ท่านว่านอกจากสูบวิชา สูบเงิน สูบทอง สูบมหาโชค มหาชัย มหาลาภที่ว่าบันดาลโชค เปิดวาสนา ทำให้ทรัพย์งอกเงย แข่งขันสิ่งใดก็แพ้ไม่เป็นแล้วแล้ว ไม่เพียงพลังงานเหล่านี้จะเกื้อหนุนสูบเข้ามาหาตัวเราตลอดเวลา ท่านว่าเรื่องเหล่านี้เด็กๆไปเลย มนต์วิชามหาสูบนี้แท้จริงแล้วเขาใช้กันได้มากกว่านั้น

    นอกจากการสูบทั่วไปแล้ว ท่านว่าของที่ทำได้ยากเช่นสูบเอาฤทธิ์ เอาตบะ บารมี สูบจนตนเองกลายเป็นร่างกายสิทธิ์ก็ยังทำได้ ตบะบารมีและฤทธิ์เดชเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นจากการบำเพ็ญเพียรอย่างอุกฤติของบุคคลทั้งหลาย เมื่อเราสูบมาสิ่งต่างๆเหล่านี้ก็จะกลายมาเป็นของเรา เสริมส่งตัวเรา นี่คือที่สุดของวิชามหาสูบที่แท้จริง เรียกว่าตัวเราเป็นศูนย์ ไม่มีอะไรซักอย่าง แต่สูบจนมีได้ทุกอย่างในโลก สูบจนตัวเองเป็นกายสิทธิ์เสมอด้วยเทพยดาเช่นนั้น

    ดังที่กล่าวไปพ่ออาจารย์ท่านว่ามันให้คุณมากสำหรับคนที่ใช้เป็นและมันก็น่ากลัวมากสำหรับคนทำผิดคิดชั่ว ครั้นจะปล่อยให้เสื่อมสูญไปก็น่าใจหาย เช่นนี้วิชานี้หลายๆคนจึงไม่ถ่ายทอดและไม่ทำ ครูบาอาจารย์บางคนเขาก็กลัวศิษย์คิดล้างครู พ่ออาจารย์ท่านพิจารณาเห็นว่าหากเราไม่ถ่ายทอด เราก็เพียงนำวิชามาทำไว้ ให้คนอาราธนาเขาได้ใช้คุณวิชา เช่นนี้เค้าก็จะเชิดชูคุณครูบาอาจารย์แต่หนหลัง ไม่ผิดครู ล้างครู เพราะเขาใช้ได้ด้วยมีตะกรุดที่เราเสกด้วยคุณวิชาจนสำเร็จรู้เพียงคาถาเพื่อใช้ส่วนหนึ่งแต่หาได้รู้วิชาจริงๆไม่ เช่นนี้ท่านว่าก็จะได้ใช้กันได้แล้วก็ไม่ต้องกลัวอะไร

    ท่านว่าให้ถือเสียว่าเป็นของคู่ตัว ใครรับไปก็ให้นอบน้อมในคุณเทพ เทวดาและครูบาอาจารย์ ด้วยสิ่งนี้เป็นเทพวิชาที่ลึกลับมาก ต่างจากพุทธคาถาหรือธรรมคาถาใดๆ อันเทพวิชานั้นย่อมใช้ได้และให้คุณไว เห็นผลสัมฤทธิ์ชัดเจนต่างจากอำนาจคุณพระทั้งจุดประสงค์โดยตรงของวิชานี้ก็ชัดเจนยิ่งว่าขัดกับทุกๆหลักการ ดังนั้นคนใช้อาราธนา * สิ่งที่ต้องมีก็คือความเชื่อ ยิ่งเชื่อมากก็ยิ่งใช้ได้เร็วมาก ยิ่งศรัทธามากก็ยิ่งสูบได้มาก การที่เราจะสูบอะไรจะได้มากหรือน้อย ท่านว่าต่อจากนี้ไป มันขึ้นอยู่เพียงแค่ว่าเขามีความเชื่อหรือศรัทธามากแค่ไหนเท่านั้นเอง


    พ่ออาจารย์ท่านได้นำผงวิชามหาสูบมาทำปะคำสำคัญเพื่อฝังพ่องั่งแก้ปมโดยเฉพาะ ท่านว่าลำพังงั่งก็ยอดขลังแล้ว ถ้ารวมกับวิชามหาสูบและเทพกะซิบนั้นจะยิ่งเฮี้ยนและให้คุณมากจนประมาณความสำเร็จใดๆไม่ได้เลย เข้าทำนองว่าเก่งมาก มีฤทธิ์มาก สงเคราะห์ได้มาก ท่านว่าเอาไปกันนะ ให้เอาไปใช้ อย่าเอาไปเก็บ พ่องั่งนี้ยิ่งใช้ยิ่งขลัง ยิ่งสัมผัสเนื้อตัวเราบ่อยเท่าไหร่เขาก็ยิ่งช่วยเราได้มากเท่านั้น

    * วิธีเลี้ยง
    - ให้นำพญางั่งใส่ถ้วยไว้ แล้วตอกไข่ใส่ไป อธิษฐานให้พ่อนั้นเสพย์นั้นกินให้อิ่ม หลังจากนั้นก็ปล่อยทิ้งไว้ซักสองชั่วโมงแล้วนำมาล้างน้ำทำความสะอาด จะทำอาทิตย์ละครั้งหรือเดือนละครั้งก็ได้ พ่ออาจารย์ท่านว่ายิ่งทำท่านยิ่งมีฤทธิ์มาก ยิ่งทำยิ่งขลัง เวลาจะบนอะไรก็ให้บนด้วยไข่นี่แหละ จะของานหรือหมายตาใครก็บอกท่าน ยิ่งใช้ยิ่งแรง
    - พ่ออาจารย์ท่านว่าสิ่งนี้เป็นของกายสิทธิ์ไม่ต้องใช้คาถาใดๆ ทำใจนิ่งบอกล่าวสื่อสารกับท่านด้วยภาษาใจ ขอให้ใช้ ยิ่งใช้ยิ่งแรง จะนำไปทำพวงกุญแจก็ได้หรือพกไว้ในกระเป๋ากางเกงก็ได้ หรือพกในที่ลับก็ได้ เป็นของกลางๆ ไม่จำเป็นต้องห้อยคอ แต่ถ้าพกในที่ลับมันจะกินเสนียดและช่วยล้างความอุบาทว์จัญไรต่างๆที่ติดตัวเรามาแต่ชาติกำเนิดเดิมได้ไวเป็นพิเศษ
    - ท่านสั่งให้บอกเค้ากันสั้นๆ แม้เคราะห์อันเกิดกับมหานคร เกิดแต่สรรพชีวิตหมู่มาก วิชานี้ยังแก้ไขได้ จากตกต่ำแล้วทำให้เจริญได้ นับประสาอะไรกับตัวบุคคล ท่านว่าอย่าอธิบายมากไปกว่านี้ลำพังวิชางั่งนั่งแพะ ท่านว่าตอนท่านเชิญญาณครูบาอาจารย์ต่างๆมาช่วยกันเสกก็ได้รับการยืนยันมากแล้วว่านี่มันพระเจ้าชู้นี่น่า ไม่มีขุนแผนหรือเครื่องรางใดๆจะมีคุณทางเสน่ห์มากไปกว่านี้


    บูชาได้ทั้งหญิงและชาย พ่ออาจารย์ท่านบอกว่าถ้าไม่ปรารถนาจะให้เป็นเสน่ห์ก็บอกกล่าวกับท่าน ว่าขอเพียงมาเกื้อกูลให้ชีวิตลูกดีขึ้นเท่านั้นพอ เพราะดวงจิตท่านไวเราพูดเราบอกอะไรไปท่านรู้หมด

    * วิชางั่งเป็นวิชาที่แปลก ผู้เลี้ยงจะรู้กันดีว่ายิ่งใช้ยิ่งแรง ยิ่งเลี้ยงดูมากๆหลายตนก็ยิ่งสำเร็จมาก จะเห็นได้จากผู้ศรัทธาบางคนเวลาสงัดและอยู่ในชีวิตส่วนตัวจะเอาสายคาดเอวห้อยพ่องั่งทีสามสี่สิบตนมาแขวนไว้รอบเอวเลยก็มี จากคนต่ำชั้นไร้ชื่อไม่ถึงสิบปีเปลี่ยนเป็นเศรษฐีพันล้านมีชื่อเสียงโด่งดังในหลายประเทศก็มีมาให้เห็นแล้วเพราะอานุภาพของพ่องั่ง พ่ออาจารย์ท่านว่าอยู่ที่ความศรัทธา พ่องั่งนี้ยิ่งศรัทธาเขาก็ยิ่งแรง จะห้อยกี่องค์ก็สุดแล้วแต่ความสำนึกรู้ในใจคนใช้ ท่านว่าเคล็ดบางอย่างมันบอกกันได้เท่านี้จริงๆ ที่บอกนี่ก็ยิ่งกว่าชี้โพรงให้กระรอกแล้ว จะใช้อย่างไรแต่เอาว่าเชื่อเถอะวิชานี้สร้างมาให้ใช้เข้ากับศรัทธา เขาแรงจริงๆ ...เพราะงั่งเปลี่ยนชะตาคนได้ จากจัณฑาลวรรณะที่ถูกสาปให้ได้กับเจ้าหญิงกลายเป็นมหาราชายิ่งใหญ่กว่าพระราชาทั้งหลายก็ปรากฏมาแล้ว ท่านว่าเครื่องรางนี้แปลก ยิ่งโดนกดขี่ กดดัน โดนรังแกก็จะยิ่งได้ดีมากขึ้นเป็นเงาตามตัว พ่ออาจารย์ท่านว่ายุคนี้ที่เอางั่งคลายผมออกมาให้บูชานั้น เพราะทุกการงานและสายอาชีพแทบจะโดนกดขี่ ถูกกระทำ รังแกทั้งสิ้น
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 ตุลาคม 2019
  19. ธัญญ์นิธิ

    ธัญญ์นิธิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,794
    ค่าพลัง:
    +6,030
    ตะกรุดบรมครูพรหมบันดาลคนเหนือเมฆ
    (องคุลีแห่งพรหม,มหาพรหมชี้นิ้วเพชร)

    ให้บูชา 800 บาท

    ปิดรายการโดยคุณ powernext

    IMG_20190915_013954.jpg IMG_20190915_014015.jpg IMG_20190915_014035.jpg IMG_20190915_014055.jpg

    อ้างอิงจาก
    https://palungjit.org/threads/ร่วมทำบุญบูชา-ตะกรุดพระยมราชผลาญเพชรฆาต-สมใจนึก-เผาคำอธิษฐาน-พ่ออาจารย์พล.548127/page-19#post-10753227

    เมื่อพูดถึง "นิ้วเพชร" แน่นอนว่าหลายคนที่เล่นเครื่องรางย่อมนึกไปถึงตะกรุดและเครื่องรางประเภทต่างๆ ซึ่งนิ้วเพชรนี้ก็มีด้วยกันหลายตำรับตามแต่ครูบาอาจารย์ท่านจะแปลงวิธีการสร้างให้เหมาะสมกับยุคสมัย หากแต่พ่ออาจารย์ท่านว่าวิชานี้ จริงๆเลยแบบของแท้ดั้งเดิมอาจารย์ผู้ทำต้องไปหาเอาร่างเด็กที่สิ้นในครรภ์มารดาที่ต้องอาถรรพ์ตามตำรามา ใช้ปากของตัวอาจารย์นั้นกัดนิ้วชี้เด็กมาให้ขาด แล้วเอามาทำพิธีลงรักปิดทอง พวกด้วยครั่งพุทรปลุกเสกแล้วเก็บใส่กระบอกเล็กๆ ต้องเลี้ยงในอู่เหมือนเด็กจริง 7 วัน และให้อยู่ไฟอีก 1 เดือน จากนั้นถึงพกติดตัวได้ ด้วยพิธีกรรมที่ยุ่งยากและใช้เวลานานกว่าจะทำได้วิชานิ้วเพชรนี้จึงถูกดัดแปลงไปอีกหลายส่วนกลายเป็นตะกรุดบ้าง ไม้เท้าบ้างทำให้วิชาจริงๆกลายเป็นตำนานไปนั่นเอง

    พ่ออาจารย์ท่านว่าเมื่อพูดขึ้นมาถึงนิ้วเพชร ยุคของเราก็ไม่ได้ทำเอาไว้เช่นกัน หากแต่ในสมัยเจ้าปู่ชัยพรหม วิชาต่างๆคนสมัยนั้นเขาทำกันทุกอย่างเต็มที่จริงๆเพื่อให้ได้ที่สุดแห่งเครื่องรางมาเป็นมงคลประจำกาย นิ้วเพชรนี้พ่อปู่เจ้าท่านก็ได้ทำไว้เช่นกันและพ่ออาจารย์ท่านก็ได้นำใช้มาโดยตลอด จนเมื่อท่านสร้างตะกรุดบรมครูพรหมบันดาลนี้ ด้วยประสงค์ของครูมหาพรหม ท่านว่ามีนิมิตชัดเจนให้ท่านนำนิ้วเพชรที่สืบทอดมาแต่โบราณเก่าก่อน พลีเป็นเครื่องยาอุดตะกรุดไว้


    หากพูดถึงพระพรหม ลำพังแล้วพวกเหรียญพวกรูปหล่อพระพรหมก็ยังพอมีคนสร้างกันบ้าง แต่ในส่วนของวิชาของท้าวมหาพรหมนั้นย่อมแตกต่างกัน เพราะของบางสิ่งพ่ออาจารย์ท่านว่าข้างบนเค้าก็เลือกคนรับ บางอย่างย่อมไม่ปรากฏในโลก หรือไม่มีในคัมภีร์ บางชนิดก็ไม่มีผู้สืบทอด ซึ่งครั้งนี้พ่ออาจารย์ก็ได้ทำตะกรุดดอกน้อยๆไว้ หากแต่ตะกรุดนี้อานุภาพกลับไม่น้อยเลย ด้วยใช้ได้หลายทาง หลายแง่มุม ซ้ำกว่าจะทำให้สำเร็จได้พ่ออาจารย์ท่านต้องสละของใช้ส่วนตัวเพื่อพลีลงในเครื่องมงคลนี้ด้วย ท่านว่าตะกรุดนี้แม้มีแค่วิชาก็ไม่สามารถเสกหรือสร้างได้เต็มวิชา ถ้าท่านไม่อาศัยบารมีครูเก่าที่ทำเครื่องมงคลชิ้นพิเศษซึ่งท่านใช้พกพาประจำ นำมาพลีลงเพื่อให้มีคุณเต็มวิชาแล้ว แน่นอนว่าตะกรุดที่ว่านี้ย่อมเกิดขึ้นมิได้เลย หมดเครื่องยาเหล่านี้ต่อไปก็ทำไม่ได้อีกแล้ว

    ถึงขนาดที่พ่ออาจารย์ท่านกล่าวว่าของนี่ยังไม่ได้ใช้อย่าเพิ่งรีบตาย ถ้าเกิดมาแล้วไม่ทันเห็นถือว่าพลาด ใครที่เขาพลาดเราเสียดายจริงๆ คิดเสียว่าบาปบังตา อุตส่าห์พากเพียรอุตสาหะจนสำเร็จได้ ไม่ทันใช้นี่น่าตีจริงๆ (ก็ไม่รู้จะบรรยายยังไงเพราะท่านพูดแบบนี้ คงหมายความได้อย่างเดียวว่าพลาด ..ถือว่าพลาดมาก) ตะกรุดน้อยๆดอกนี้พ่ออาจารย์เสกเก็บไว้นานมาก ด้วยสภาวะเศรษฐกิจที่ไม่เป็นใจต่อการใช้ชีวิตของคน ประกอบกับหลายคนถามหาของแรงๆ ต้องการอาถรรพ์สูงๆแล้วก็ถามหาครูพรหมสหัมบดี ท่านจึงให้นำวิชาครูพรหมออกมาแก้กันวิกฤติชะตาของคนทั้งหลาย

    หลายคนทราบกันดีอยู่แล้วว่าครูพรหมของพ่ออาจารย์ท่าน คือท้าวมหาพรหมนามว่า "สหัมบดีพรหม" เป็นอธิบดีใหญ่ปกครองพรหมทั้ง 16 ชั้น ทรงพรหมวิหารธรรม บรรลุอมตธรรมรสขั้นอนาคามีพร้อมด้วยสมาบัติชั้นสูง ด้วยประสบการณ์ต่างๆจากที่ท่านเคยออกให้บูชาองค์มหาพรหมสหัมบดีไป ต่างรู้กันว่าพระพรหมของพ่ออาจารย์ท่านมีอานุภาพหรือให้คุณทางความเจริญ ความก้าวหน้า ทำมาค้าขาย ทำมาหากินเป็นพิเศษ พระพรหมของท่านมีอานุภาพแรงและเร็วเพราะพรหมมีอานุภาพมากกว่าเทวดาหลายพันเท่านัก ยิ่งพรหมของพ่ออาจารย์เป็นพรหมอธิบดีผู้เป็นใหญ่กว่าพรหมทั้งปวง เป็นพรหมที่ตรวจดูดอกบัวประจำกัปตอนกำเนิดมหาจักรวาลเพื่อเตรียมการรับรองการตรัสรู้ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า รวมไปถึงอัญเชิญพระผู้มีพระภาคเจ้าแผ่สัจธรรมถึงห้าพระองค์ในภัทรกัปเมื่อเริ่มแรกของการบรรลุอนุตรสัมมาสัมโพธิญาณ จึงเป็นอธิบดีแห่งพรหมที่มีหน้าที่สำคัญและมีอานุภาพมาก


    พ่ออาจารย์ท่านว่าพระพรหมนั้นคือพระผู้ประเสริญ ทรงคุณวิเศษ มีอิทธิฤทธิ์ มีอำนาจและอานุภาพมาก แต่เหนืออื่นใดคือมีเมตตากรุณาเสมอด้วยบิดามารดาเอื้ออาทรณ์แก่บุตร เหมือนพรหมพ่อพรหมแม่ พร้อมทั้งมีบารมีช่วยเหลือเกื้อกูลเราได้สารพัดนึก และการทำวิชาในสายพรหมของพ่ออาจารย์ท่านจะไม่ใช้การเสกพระพรหมธรรมดาทั่วไป แต่ท่านว่าต้องเชิญองค์พระพรหมมาสถิตย์ หรือจะเรียกว่า "แบ่งภาคญาณพระพรหมให้มาสถิตย์ประจำที่เครื่องมงคลนั้น ๆ" ซึ่งการที่จะเชิญพระพรหมได้หรือไม่นั้นก็ขึ้นอยู่กับญาณบารมีของผู้ปลุกเสกหรือผู้เชิญด้วย ท่านว่าถ้าเชิญกันไม่เป็นทำไม่ได้ เครื่องมงคลใดๆที่เป็นรูปพรหมก็จะมีแต่เทพบริวารเข้ารักษานั่นเอง

    ในครั้งนี้พ่ออาจารย์ท่านได้เมตตาใช้วิชาของครูมหาพรหมลงตะกรุดบรมครูพรหมบันดาลไว้ ทั้งเสกทำวิชาเชิญบารมีเทพพรหมบรมครูอยู่หลายวาระ ท่านว่าตะกรุดดอกนี้มีติดตัวผู้ใดจะรุ่งเรืองโดยส่วนเดียว ไม่มีวันตกต่ำเลย จะทำอะไรก็มีคนคอยช่วยเหลืออยู่ตลอด เป็นที่รักและเมตตาแก่คนทั้งโลก * ทุกข์ โศก โรค ภัย อันตรายใดที่เกิดขึ้นกับเรา ท่านว่ามีตะกรุดอยู่ให้อธิษฐานบอกครูพรหมขอฝากไอ้ตัวทุกข์โศกโรคภัยทั้งหลายไว้กับตะกรุด สิ่งอันไม่พึงใจไม่พึงปรารถนาเหล่านี้ก็จะไม่เกิดขึ้นกับเรา

    ทั้งตัวตะกรุดยังเป็นยันต์แห่งโชคลาภ เรียกเงิน เรียกทอง เรียกทรัพย์ มีอานุภาพสูงส่งทางด้านมหาลาภ มหาโภคทรัพย์ บันดาลโชคลาภ เงินทองดีนัก ในขณะเดียวกันก็มีอานุภาพทางด้านมหาเสน่ห์ เมตตามหานิยม ควบคู่กันไปอีกด้วย..ท่านว่าเฉพาะตะกรุดก็เป็นของดีพุทธคุณสูง ที่ควรที่มีไว้บูชาเป็นอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ต้องการเอาดีทางด้านโชคลาภและมหาเสน่ห์เมตตามหานิยมในตัวเดียวกัน โดยปกติอานุภาพของวิชาพรหมทั่วไปจะมีพื้นฐานดังนี้
    1. เป็นเลิศทางเมตตามหานิยมประเสริฐกว่าลงนะเมตตาซักร้อยครั้ง
    2. มหากัน แก้ไขอุปสรรค แคล้วคลาดจากภัยอันตรายทั้งปวง ทุกข์ภัยใด คุณไสย คุณผี หนีไกล อยู่กับตัวเราไม่ได้ ลมเพลมพัด ผีเข้า เจ้าสิง อาถรรพณ์ต่างๆ หายหมด
    3.เปิดทาง เงินทอง เร่งโชคลาภให้ไหลมาเทมาง่ายไม่ติดขัด การงานธุรกิจเจริญรุ่งเรือง ทำมาค้าขายดี เป็นเศรษฐี มั่งมีทรัพย์ ไม่อดอยาก ข้าวปลาอาหารบริบูรณ์
    4.เสริมดวงให้ดวงดีอยู่เสมอ แก้ดวงไม่ดี ดวงตก แก้เคราะห์กรรมอันเกิดจากดวงพระศุกร์เข้าพระเสาร์แทรก กันทุกข์ภัยที่เกิดจากดวงดาว ราศี พระราหูบดบังดวงชะตา และเบญจเพศด้วย


    ท่านว่าที่ผ่านๆมานั้น ชีวิตใครที่มีอุปสรรคขวากหนาม สิ่งไม่ดี ก้าวไม่พ้นความยากความจน ความล้มเหลวสิ้นหวัง ให้เอาวิชาของพระพรหมท่านไปใช้ ท่านว่าจะช่วยส่งสงเคราะห์ให้ความสำเร็จทุกประการง่ายขึ้น สำเร็จเร็ว ก้าวหน้าไว ก้าวผ่านความยากจนล้มเหลวสิ้นหวังทั้งหลายไปได้


    การทำตะกรุดบรมครูพรหมบันดาลคนเหนือเมฆนั้นพ่ออาจารย์ท่านได้ทำผงไว้สองส่วนก่อนนำมาผสมกัน ได้แก่
    - ผงพรหมค้ำดวง ท่านว่าผงนี้พิศดารลงกันเล่นๆไม่ได้เพราะท่านต้องลงดวงแห่งความเจริญรุ่งเรืองผูกเข้ากับชะตาเมือง เวลาเสกต้องตั้งนิมิตเหมือนเสกหน้าพระพรหมค้ำทั้ง 4 ทวีป ท่านว่าใครที่มีผงนี้บูชาเทพพรหมจะคอยให้การอุปถัมภ์ค้ำชู ผู้ที่บูชาผงดวงชะตานี้ต่อไปไม่รู้จักคำว่า"ล้ม" เพราะนี่เป็นผงพรหมค้ำดวงที่ค้ำทั้งสี่ทวีป คนใช้จะมีความเจริญก้าวหน้าพัฒนาอยู่ตลอด ทั้งป้องกันศัตรูและเสนียดจัญไร อันตราย และคนชั่ว ใช้ป้องกันเหตุเภทถัยหมดจดทุกประการ ซ้ำท่านยังอธิษฐานจิตสำเร็จผงให้นำมาซึ่งความอิ่มเอมเปรมใจ สุขกาย สุขใจ ความอุดมสมบูรณ์ เพิ่มพูนทรัพย์สิน ให้ผู้บูชามีพละกำลังยิ่งๆขึ้นไป ผงนี้ท่านว่าเธออธิษฐานเอาตามแต่เธอจะปรารถนาเถอะ จะคิดการสิ่งใด ก็ล้วนสำเร็จเลิศเลอ ประเสริฐยิ่งนัก
    - ผงองคุลีพรหม ท่านได้นำนิ้วเพชรที่สืบทอดมาแต่บูรพาจารย์มาทำผงตำรับองคุลีพรหมหรือมหาพรหมชี้นิ้วเพชร ผงนี้ท่านต้องนำนิ้วเพชรที่เป็นผงพลีไว้มาปั้นเป็นแท่งลงเลขยันต์ทำผงและดวงยันต์ ซึ่งมีอานุภาพทางอิทธิฤทธิ์ ทางมหาอำนาจปราบศัตรู ทำให้ศัตรูเกรงกลัว ไม่คิดต่อสู้ มีอานุภาพแรงถึงขั้นฆ่าศัตรูให้ตายโดยไม่ต้องใช้อาวุธ


    ในตะกรุดนั้นท่านต้องอุดผงสองส่วน ส่วนด้านหนึ่งอุดด้วยผงองคุลีพรหม อีกด้านหนึ่งนำผงพรหมค้ำดวงนั้นมาเข้ากับผงช้องหมูป่า เขี้ยวหมูตัน คดพุทธรักษา ซึ่งมีคุณวิเศษทางเมตตา มหาอุด หนุนความสุขความเจริญ แก้ถอดถอนของมนต์ดำ ต่อชะตาให้มีอายุมั่นขวัญยืน มีโชคลาภ ใช้อธิษฐานรักษาโรคภัยที่เบียดเบียนมนุษย์ ทั้งยังใช้ชี้ถอดถอนคำอธิษฐาน คำสาปแช่งได้

    เมื่อสำเร็จท่านว่าตะกรุดนี้จะมีอานุภาพมากดุจนิ้วเพชรท้าวมหาพรหมที่ใช้ปกาศิตชีวิตสัตว์โลก ทั้งยังใช้ชี้เป็นชี้ตายได้ทั้งสิ้น ท่านได้นำสีแดงมาทาเป็นสัญลักษณ์ไว้อีกด้านหนึ่งเพื่อแยกแยะเวลาใช้
    คำว่า"ชี้ตาย" หมายถึง พลังอำนาจมีเดช มีอำนาจ วาสนาเกิดขึ้นแก่ผู้บูชา ศัตรูพ่ายไปเรียกว่าชี้ตาย
    คำว่า "ชี้เป็น" หมายถึง พลังอำนาจที่ทำให้เกิดเป็นเมตตามหานิยมขั้นสูง เกิดโชคดี มีบารมีแก่ผู้บูชา เรื่องเลวร้ายกลับกลายเป็นดี จึงเรียกว่าชี้เป็น


    ตะกรุดของพ่ออาจารย์นี้ ท่านว่าให้เอาไปใช้เพื่อความเจริญ อย่านำไปใช้ในทางที่ผิด ตะกรุดจะแบ่งเป็นสองด้าน คือ
    - ด้านสีขาว ที่ใช้ชี้ไปทางไหนทางนั้นจะดีจะเจริญรุ่งเรือง
    - ด้านสีแดง ท่านให้ใช้ชี้ไล่เคราะห์กรรมโรคภัยที่มาเบียดเบียน ทั้งยังเอาไว้ชี้ไล่ผี แก้อาถรรพ์ แก้คุณไสย ถูกกระทำย่ำยี ใช้ปลายตะกรุดจี้ไล่ผี ไล่สิ่งไม่ดีออกไป

    *** เวลาเอาตะกรุดไปเลี่ยมพกติดตัว ให้เลี่ยมเอาด้านสีขาวชี้ขึ้นดุจดรรชนีชี้ขึ้นฟ้า สั่งฟ้าไม่ให้ชีวิตตนตกต่ำ ให้มีแต่พุ่งขึ้นเสมอไป ไปไหนให้อาราธนาคุณตะกรุดคุณพระพรหมให้มั่นและเอาด้านสีขาวที่ชี้ขึ้นนี้ชี้ไปทางทิศนั้น ท่านว่ารับรองสะดวก ปลอดภัย สำเร็จ

    วิธีใช้
    เมื่อจะชี้ด้านปลายสีแดง...ในกรณีใดๆตามแต่ที่เห็นสมควร ให้อธิษฐานระลึกถึงพระแม่ธรณีให้มาช่วยกำจัดศัตรูที่เข้ามาเบียดเบียน หากว่าศัตรูผู้รุกรานล่วงล้ำเขตแดนเข้ามา หรือประสงค์ร้ายตั้งใจทำอันตรายแก่เรา ขอให้เขาแพ้ภัย พ่ายแพ้ ให้เจ็บ ให้ตาย หรือมีอันเป็นไปต่างๆ นานา นอกจากนั้นสามารถชี้กำจัด ขับไล่ภูตผีปีศาจ ข้าศึกศัตรูให้มีอันเป็นไป ทั้งยังเป็นมหาอำนาจข่มนาม

    ตะกรุดนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าทำเอาไว้ให้ครั้งเดียว เพราะสูตรนี้ท่านทำให้ใช้แบบเต็มวิชา เป็นอาถรรพ์ของวิชาดรรชนีองคุลีพรหมชี้นิ้วเพชร ชี้นิ้วสั่งปกาศิตมั่นคงเปลี่ยนแปลงไม่ได้ดุจเหล็กเพชรลิขิตแผ่นผา ***หากจะแก้ชะตาสัตว์ที่ติดในบ่วงกรรมท่านว่าให้อาราธนาตะดรุดสี่ดอกเท่าคุณพรหมวิหาร เลี่ยมหันด้านขาวชี้ขึ้นทำเป็นสายสังวาลย์คาดติดไว้ไม่ห่างกาย หากคาดเฉวียงบ่าไม่ได้ท่านก็อณุโลมให้คาดเอวโดยทั้งสี่ดอกนี้ต้องหันหัวด้านสีขาวขึ้นเช่นกัน ถ้าจะอาราธนาเฉพาะคุณตะกรุดก็ให้ใช้เพียงดอกเดียวได้ แต่ถ้าจะใช้แก้ชะตาท่านว่าก้ให้ทำตามนี้

    คาถาบูชา
    (ท่านว่าเป็นของสำเร็จ คาถาไม่ต้องใช้ ให้ระลึกถึงคุณท้าวมหาพรหมแล้วใช้ได้เลย)จองแล้วโดยคุณ powernext
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 กันยายน 2019
  20. ธัญญ์นิธิ

    ธัญญ์นิธิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,794
    ค่าพลัง:
    +6,030
    พระขรรค์เพชรเพลิงมหากาฬ(สุริยะรัศมี)

    ให้บูชา 800 บาท

    ปิดรายการโดยคุณ powernext

    IMG_20190915_014353.jpg IMG_20190915_014419.jpg

    อ้างอิงจาก
    https://palungjit.org/threads/ร่วมทำบุญบูชา-ตะกรุดพระยมราชผลาญเพชรฆาต-สมใจนึก-เผาคำอธิษฐาน-พ่ออาจารย์พล.548127/page-19#post-10766487

    พ่ออาจารย์ท่านว่าในกระบวนการสร้างเทพศาสตรานั้น ที่จะเสกพระขรรค์ให้ศักดิ์สิทธิ์ได้นับว่ายากกว่าการทำมีดหมอมาก ซึ่งในอดีตก็มีครูบาอาจารย์หลายรุ่นที่เมตตาสร้างทั้งพระขรรค์และมีดหมอขึ้นมาไม่ว่าจะหลวงปู่รุ่ง หลวงพ่อเดิม หลวงพ่อโศก หลวงปู่ศุข หลวงพ่อฤาษีลิงดำ ...เมื่อกาลเวลาผ่านไปอิทธิวัตถุเหล่านั้นล้วนเกิดประสบการณ์มากมายทำให้มีค่านิยมสูงขึ้นจนคนปกติไม่อาจจับต้องได้

    ทำไมต้องพระขรรค์ พระขรรค์นั้นมีความสำคัญอย่างไร.... พระขรรค์นับเป็นศาสตราวุธชนิดหนึ่งที่มีความสำคัญมาตั้งแต่สมัยโบราณเพราะใช้ในการประกอบพิธีกรรมสำคัญหลายพิธีด้วยกัน อาทิ พระราชพิธีถือน้ำพระพิพัฒน์สัตยา และ พระราชพิธีบรมราชาภิเษก ฉะนั้นในสมัยโบราณ พระขรรค์จึงถือเป็นศาสตราวุธคู่พระวรกายของพระมหากษัตริย์หรือผู้ปกครองบ้านเมืองที่มีบุญบารมีประดุจเทพเจ้า เนื่องจากแต่เดิมนั้นเชื่อกันมาว่าพระขรรค์เป็นศาตราวุธแห่งเทพเจ้า เป็นอาวุธคู่กายที่ใช้ทั้งในด้านการป้องกันสิ่งชั่วร้าย และการดลบันดาลหรือเนรมิตสิ่งต่างๆได้ตามบุญบารมีของผู้ครอบครอง จะเรียกว่าเป็นเครื่องสูงที่คู่ควรกับคนที่มีบุญญาธิการก็ได้

    โดยเฉพาะพระแสงขรรค์ชัยศรี นับเป็นเครื่องหมายแห่งพระราชอำนาจสูงสุด ซึ่งเป็นอำนาจสิทธิ์ขาดโดยเชื่อว่าผู้ที่ถือครองพระแสงขรรค์นี้จะเป็นผู้ครองอำนาจสูงสุดในแผ่นดิน ซึ่งตำนานพระแสงขรรค์ชัยศรีนั้น เชื่อว่าเทพศาสตราวุธของพระอินทร์ เป็นตัวแทนอำนาจจากเบื้องบนที่ทรงความศักดิ์สิทธิ์ ผู้ที่ถือครองจึงเสมือนเป็นผู้ได้รับอำนาจจากเทวราชเบื้องบน

    ดังนั้นการทำพระขรรค์ขึ้นซักเล่ม พ่ออาจารย์ท่านว่าแม้รูปร่างใครเขาไปหาช่างที่ไหนก็ทำได้ แต่การเสกให้สำเร็จเป็นอาถรรพ์ต้องตามตำรานั้นถือว่ายากนัก พ่ออาจารย์ท่านได้สร้างตามศาสตร์การทำพระขรรค์เทพศาสตรา ของหลวงพ่อรุ่ง วัดหนองสีนวล ในสมัยขอหลวงพ่อรุ่ง พระขรรค์นับเป็นเครื่องรางของขลังที่หลวงพ่อรุ่งท่านได้บรรจงจัดสร้างเอาไว้เพื่อให้เป็นมรดกของแผ่นดินอย่างแท้จริง มีอุปเท่ห์ใช้ในการป้องกันภัยอันตรายที่จะเข้ามาถึงได้ชะงัดนัก

    หลวงพ่อรุ่งรูปนี้ท่านเป็นลูกพี่ลูกน้องกับหลวงพ่อเดิม ท่านอายุแก่กว่าหลวงพ่อเดิม 11 ปี และท่านก็เป็นผู้ริเริ่มสร้างมีดหมอขึ้นมาก่อนเป็นลำดับแรก หลวงพ่อเดิมท่านรู้เข้าก็มาเที่ยวที่วัดหนองสีนวล และมาศึกษาวิชาการทำมีดหมอจากหลวงพ่อรุ่ง แล้วก็นำกลับไปทำของท่านบ้างที่วัดและเริ่มโด่งดังกันมาเป็นลำดับ แต่กล่าวได้ว่ามีดของหลวงพ่อรุ่งซึ่งเป็นต้นตำรับจริงๆนั้น ตัวท่านเองนับว่าทำไว้น้อยอย่างยิ่งจึงทำให้ของหายากกว่าของหลวงพ่อเดิมมาก ในส่วนของพุทธคุณนั้นย่อมเหมือนกันทุกประการ

    พ่ออาจารย์ท่านได้สร้างพระขรรค์เทพศาสตราขึ้นโดยใช้สูตรการทำมีดหมอของหลวงพ่อเดิมที่เรียนต่อมาจากหลวงพ่อรุ่ง โดยสูตรนั้นทำให้ท่านรวบรวมวัสดุต่างๆเพื่อเทเป็นพระขรรค์ขึ้นมาให้เต็มสูตร โดยใช้ตะปูสังขวานรซึ่งเป็นตะปูโบราณที่เอาไว้ยึดเครื่องไม้ในอุโบสถมาหลอมเข้ากับตะปูโลงศพที่ใช้ตรึงโลงไม่ให้ภูติผีวิญญาณหลุดออกมาโดยขอให้สัปเหร่อเก็บไว้ ทั้งยังต้องเข้ากับบาตรแตกหรือบาตรพระที่ชำรุด และเหล็กน้ำพี้ ตลอดจนผาลไถชำรุดอีกด้วย ท่านว่าทำให้เต็มสูตรการสร้างมีดที่มีอาถรรพ์ในตัวเองนับแต่เริ่มตามสูตรบูรพาจารย์ยุคโบราณนั่นทีเดียว

    เมื่อท่านเทพระขรรค์ด้วยชนวนศักดิ์สิทธิ์เข้ากับธาตุกายสิทธิ์แล้ว พ่ออาจารย์ท่านก็ได้นั่งแต่งพระขรรค์ทีละเล่มทั้งเจียและตะไบด้วยตัวท่านเองทั้งหมด ท่านว่าทำยากเพราะเนื้อมันแข็งแทงตะไบไม่ค่อยเข้า เมื่อพ่ออาจารย์ท่านแต่งเสร็จแล้วท่านได้เมตตาลงมนต์มหาปราบสูตรหลวงปู่เทศ วัดสระทะเลไว้ที่พระขรรค์ทีละเล่มอย่างตั้งใจแบบเต็มสูตรอีกด้วย องค์หลวงปู่เทศนี้เป็นพระอาจารย์ของหลวงพ่อเดิมที่มีความเข้มขลังอย่างแท้จริง ว่ากันว่าเหรียญรูปท่าน แม้ไม่ทันท่าน ปั๊มมายังไม่ทันเสกหลวงพ่อเดิมยังว่าไม่ต้องเสกก็ขลังอยู่แล้ว ด้วยสายวิชาในหลวงปู่เทศ วัดสระทะเลนั้นจึงไม่ต้องสงสัยเลยว่าพ่ออาจารย์ท่านตั้งใจทำและเชิญหลวงปู่เทศ หลวงปู่รุ่ง หลวงพ่อเดิมมาช่วยท่านสร้างพระขรรค์ตามเจตนาแรกเริ่มอย่างแน่นอน เพราะท่านบอกว่าพระขรรค์นี้ใช้แทนของเก่าได้ จะใช้ไม่ได้ได้อย่างไรในเมื่อหลวงปู่ หลวงพ่อท่านมาทำให้เองทั้งนั้น

    พระขรรค์ของพ่ออาจารย์แต่ละเล่ม ท่านว่าจะมีพรหม มีเทวดาคุ้มครองดูแลอยู่ ใช้อธิษฐานอาราธนาขอได้ทุกอย่าง เพราะอำนาจแห่งพระแสงขรรค์นั้นนอกจากจะปัดเป่าสิ่งชั่วร้ายทั้งหลายแล้ว ยังใช้เนรมิตสิ่งต่างๆให้เกิดขึ้นได้เช่นอำนาจของเทวราชอีกด้วย ท่านว่าเมื่อทำแล้วก็ต้องทำให้เป็นดั่งแก้วสารพัดนึกทีเดียวจึงจะเป็นที่สุดในศาสตร์การสร้างพระขรรค์อย่างแท้จริง

    พ่ออาจารย์ท่านว่าการจะสำเร็จพระขรรค์ให้มีอานุภาพสูงสุดนั้นต้องใช้ศาสตร์ของพราหมณ์ในการสร้างเทพศาสตราอย่างเต็มที่ ด้วยตามคติบุราณกาลสืบมา เมื่อพระวิษณุกรรมจะสร้างเทพศาสตราทั้งหลายไม่ว่าจะทำตรีศูลให้พระศิวะ ทำวงจักรให้พระนารายณ์ ทำลูกศรให้พระพรหม ทำหอกให้พระขันธกุมาร ทำคฑาให้ท้าวเวสสุวรรณ ทำนัยน์นาวุธให้พระยม...ทำอาวุธสำคัญต่างๆให้กับเทพบดีผู้เป็นเจ้าทั้งหมดทั้งสิ้นนั้น ล้วนใช้รัศมีกายอันร้อนแรงแห่งพระสุริยะเทพนำมาสร้างสรรค์เปลี่ยนรูปเป็นเทพศาสตราทั้งสิ้น จะเห็นว่าเทพศาสตราทั้งหลายนั้นล้วนมีอำนาจทำลายล้างอย่างน่าสะพรึงและมีจิตวิญญาณเป็นเอกเทศน์ในตัวเอง

    เมื่อท่านรู้ดีแก่ใจเช่นนี้ว่าถ้าจะทำพระขรรค์เทพศาสตราวุธให้สำเร็จจนมีอานุภาพสูงสุดนั้นก็ต้องทำเช่นเดียวกัน หลังจากท่านลงอาถรรพ์มหาปราบตำรับหลวงปุ่เทศแล้วพอเริ่มต้นเสกท่านจึงลงวิชาอย่างเต็มที่และบูชาไฟเชิญพระอัคนี ตลอดจนพระสุริยะเทพมาแบ่งกำลังของพระองค์ทั้งรัศมีกายและพระเดชลงสู่เทพศาสตรานั้น พ่ออาจารย์ท่านว่าเราเอาพระขรรค์เหล่านี้จับโยนใส่กองกูณฐ์อัคคีทีละเล่ม ทำพิธีชุบพระขรรค์ให้มีกำลังแรงกล้า แต่น่าแปลกที่เปลวไฟของพิธีไม่สามารถหลอมละลายพระขรรค์ได้ นับเป็นกายสิทธิ์อย่างแท้จริงท่านว่าเมื่อชุบด้วยเปลวอัคคีแล้วจึงถือว่าสำเร็จ

    พระขรรค์เทพศาสตรานี้เหนือกว่าเทพอาวุธอื่นคือไม่มีอะไรคัดถอนของท่านได้ อย่างที่ทราบกันดีนับแต่โบราณในบรรดาคนเล่นของทั้งหลาย ว่าลอยสักอักขระเครื่องรางวัตถุมงคลนั้นย่อมมีการถูกคู่อริคัดถอนได้ทุกสิ่ง ยกเว้นอย่างเดียวคือพระขรรค์ ไม่ว่าจะพระขรรค์ของหลวงปู่ศุข หลวงปู่รุ่ง หลวงพ่อโศก ทั้งนี้เพราะถือว่าเป็นเครื่องสูง เป็นเครื่องบริโภคของเทวราช เป็นเครื่องใช้งานแสดงพระราชอำนาจของพระเจ้าจักรพรรดิ์ ดังนั้นพระรรค์จึงมีเดชมีอานุภาพมากมาแต่โบราณกาล ว่ากันว่าในชั้นหลังแม้พระขรรค์ของหลวงพ่อโศกยังใช้ถอดถอนอาถรรพ์ คัดถอนวิชาของเหล่าเสือร้ายทั้งหลายไม่ว่าจะมีของดีมาจากไหนก็ล้วนแพ้อาถรรพ์ในพระขรรค์ทั้งสิ้น พ่ออาจารย์ท่านว่าด้วยเหตุแห่งการล้างอาถรรพ์คัดของได้ทุกสิ่ง ถ้าไม่ดีจริงย่อมทำไม่ได้ เช่นนั้นแล้วพระขรรค์ที่ท่านตั้งใจสร้างขึ้นจึงมีอำนาจสูงสุดอย่างแท้จริง

    อานุภาพของพระขรรค์เพชรเพลิงมหากาฬ(สุริยะรัศมี)

    - ใช้ป้องกันอันตรายทั้งหลายเมื่ออยู่กับตัวผู้ใช้

    - ทักให้ตกใจเมื่อมีภัยมาเช่นการสั่นหรือกะตุก เพื่อเตือนผู้บูชาให้ระมัดระวังเหตุแห่งอันตราย

    - ผ่อนกรรมหนักเป็นเบา

    - เป็นที่ยำเกรงต่อศัตรู เป็นมหาอำนาจ ป้องกันฟ้าผ่า

    - สยบภูตผีปีศาจ ถอดถอนเสนียดจัญไร

    - แคล้วคลาดปลอดภัยจากภัยพิบัติ ไม่ว่าจะมาจากน้ำมือของเทวดา มนุษย์ และผู้ที่ไม่ประสงค์ดี ก็มลายหายสิ้นอย่างสิ้นเชิง

    - ใช้อาราธนาทำน้ำมนต์แก้คุณไสย แก้เสนียดจัญไรต่างๆลมเพลมพัด ฝังรูปฝังรอย ผีเข้าเจ้าสิง ตลอดจนฝันร้ายต่างๆ ได้

    - ป้องกันอสรพิษแลสัตว์ที่มีเขี้ยว มีงาทั้งหลาย เมื่อมีพระขรรค์เทพศาสตราวุธติดตัว

    - ป้องกันคุณไสย คุณผี คุณมนต์แลอาถรรพ์ลมเพลมพัด กันกระทำย่ำยี

    - เป็นได้ทั้งมหาอำนาจ เป็นเมตตา เป็นแคล้วคลาด เป็นมหาอุตม์ ตามสภาวะจิตการอธิษฐานใช้

    - ป้องกันตัวจากศัตรูที่มุ่งร้าย ดูแลผู้เป็นเจ้าของเทพศาสตราให้พ้นขาดจากศัตรูที่หวังปองร้าย พ้นจากอำนาจที่รุนแรงอันคิดจะทำลายเจ้าของ

    - ใช้ขับไล่ภูตผีปีศาจที่เข้าสิงคน หรือมีผู้ปล่อยมาให้มาเข้าสิงไม่ว่าจะโดยปกติวิสัยหรือมีคนใช้ให้กระทำมา

    - เก็บบูชาไว้ในบ้านป้องกันอัคคีภัยและโจรภัย

    - เมื่ออาราธนาพระขรรค์แล้ว ในยามมีอันตรายจะรู้ตัวก่อนทุกครั้งไป


    - ใช้คัดของถอนของ ถอนอาถรรพ์ที่รุนแรงตลอดจนความคงกระพันต่างๆนาๆได้ แม้ว่าผู้นั้นจะมียันต์สักอยู่เต็มตัวและเป็นยันต์ที่มีความแข็งแกร่งมากเพียงใดก็ดี หรือจะมีเครื่องมงคลวิเศษใดที่ทำให้ผู้นั้นมีความคงกระพัน เทพศาสตรานั้นสามารถทำลายความคงกระพันตลอดจนอาถรรพ์วิชาต่างได้อย่างง่ายดาย แม้จะเป็นอาถรรพ์จากการกินว่านยาหรือวิชาของดีอื่นๆ เมื่อเจอกับเครื่องสูงเช่นเทพศาสตราก็ยังต้องยอมสยบให้ เมื่อผจญด้วยผู้คิดร้ายที่มีวิชาทั้งหลายความขลังเหล่านั้นจะค่อยๆหมดลง

    - เมื่อไปต่างถิ่น ต่างบ้าน ต่างเมือง หรือนอนกลางดินกินกลางทรายในป่าให้เอาปลายพระขรรค์กล่าวขอขมาแม่พระธรณี แล้วขีดลงไปเป็นรูปสี่เหลี่ยมหรือรูปวงกลมรอบๆตัวของผู้ที่นอน มดและสัตว์ต่างๆตลอดจนภูติผีปีศาจจะไม่มาเข้าใกล้

    - เมื่อไปต่างถิ่นแม้จะกินอาหารแต่ไม่แน่ใจว่ามีพิษหรือไม่ ให้เอาพระขรรค์จุ่มลงเสียก่อนเป็นการป้องกันเพื่อล้างอาถรรพ์คุณไสยวิชา ในกรณีที่กินเข้าไปแล้วมีอาการแสลงให้เอาพระขรรค์อาราธนาระลึกตรึกถึงพระพุทธคุณแล้วแกว่งลงไปในน้ำหรือภาชนะที่ใส่น้ำ กินน้ำนั้นเข้าไปจะแก้ยาเบื่อ ยาสั่งได้

    - ถ้าถูกลมเพลมพัดที่ปล่อยมาตามอากาศทำให้มีอาการปูด บวม ตามร่างกาย เดี่ยวบวมที่โน่น เดี่ยวบวมที่นี้ ให้เอาพระขรรค์ทำน้ำมนต์ระลึกถึงบารมีองค์พระแล้วกินเข้าไป จากนั้นจึงเอาพระขรรค์กดไล่ในจุดที่บวม ถ้าเป็นคุณไสยอวิชชาจริงก้อนบวมนั้นจะเคลื่อนหนีได้ ให้ไล่ปลายมีดพระขรรค์ไปเรื่อยๆจนกระทั่งสุดปลายมือหรือปลายเท้าคุณไสยก็จะออกพ้นตัวไป

    - ถ้าจะไปทางน้ำกลัวอันตรายจากสัตว์หรือผีพรายให้เอาพระขรรค์คาบไว้ในปาก เวลาก่อนจะคาบให้เอาพระขรรค์โบกน้ำนำหน้า แม้เดินทางย่อมปลอดภัย

    - เมื่อมีฝีกลัดหนอง ปวดร้าว หรือเพิ่งจะเป็นให้เอาปลายแหลมของพระขรรค์วนเบาๆเป็นวงกลม พร้อมท่องพระคาถาระลึกถึงพุทธคุณถ้าเพิ่งเป็นจะยุบไป แต่ถ้าเป็นนานแล้วฝีจะแตกไม่มีพิษแต่อย่างใดแล้วจะหายภายในสามวัน

    - คนมีลูกเพิ่งคลอด หรือมีเด็กอ่อน เด็กเล็ก ให้เอาพระขรรค์บูชาไว้ตรงที่เด็กนอนหลับ เพราะมีความเชื่อว่าภูตผีปีศาจจะไม่กล้ามารบกวนเด็ก เหากชอบร้องไห้ตอนกลางคืน ไม่หลับไม่นอนเหมือนมีอะไรมารบกวนเด็ก ให้เอาพระขรรค์ไว้ใกล้ที่นอนเด็ก

    - คนที่กลัวผี ให้นำพระขรรค์ปักไว้ที่หน้าบ้าน หน้าประตูบ้าน ภูตผีปีศาจเห็นจะไม่กล้าเข้าใกล้


    พ่ออาจารย์ท่านได้นำพระขรรค์วิเศษนี้ประจุมนต์ตามวิชาเทพศาสตราของท่านตลอดระยะเวลา กล่าวคือเมื่อท่านลุกไปแล้วก็ยังเชิญครูบาอาจารย์และทิพย์กายทั้งหลายมาทำวิชาให้ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันไปตลอดเวลา จนเกิดเหตุฟ้าผ่าใส่เทพศาสตราทั้งหมด พ่ออาจารย์ท่านว่าฟ้าผ่านี้คือการประจุสายฟ้าเป็นเหตุการณ์ทางธรรมชาติที่รุนแรงมาก สายฟ้านั้นเป็นอำนาจทางกายภาพของพระอินทร์ พระขรรค์จึงมีอำนาจการทำลายล้างสูง อีกทั้งยังเป็นเคล็ดที่เชื่อกันว่าผู้ที่ครอบครองพระขรรค์ก็จะไม่ถูกฟ้าผ่าอีกต่อไปนั่นเอง

    ท่านทำพิธีปลุกเสกตามตำรับพราหมณ์เพื่อชุบเทพศาสตราเป็นเวลา 7 อังคารครบสูตรของท่าน ทั้งบูชาไฟ ทั้งบวงสรวงเทพเทวดา อัญเชิญครูบาอาจารย์มาร่วมพิธีปลุกเสกบรรจุเทวานุภาพ จากนั้นจึงอธิษฐานจิตด้วยพุทธมนต์เป็นเวลา 9 วัน 9 คืน ทั้งเชิญเสด็จพระใหญ่และเทพพรหมมาชุมนุมกัน พ่ออาจารย์ท่านว่าทำพระขรรค์หนนี้เสด็จพระใหญ่ท่านเรียกว่าพระขรรค์เพชรพระพุทธเจ้าด้วยนะ ท่านมาทำให้อย่างดี ทั้งยังมาเป็นประธานในหมู่พระพุทธเจ้าและพระอรหันต์ทั้งหลาย ท้าวสหัมบดีพรหมก็รับเป็นธุระเชิญเสด็จเหล่ามหาพรหมสุทธาวาสมาทำให้ แม้องค์อมรินทร์ ท้าวมาลัยท่านก็มาพร้อมด้วยเทพบริษัทมากมาย เรียกได้ว่าพระขรรค์นี้ดีทั้งนอกและดีทั้งใน ดีตั้งแต่พ่ออาจารย์ท่านเริ่มที่จะสร้างด้วยความศรัทธาและอุตสาหะของท่าน

    วิธีใช้…ให้อาราธนาพระพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ พระปัจเจกพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ พระอริยเจ้าทั้งหมด พรหมและเทวดาทั้งหมด ครูบาอาจารย์ มีหลวงพ่อปานวัด บางนมโค และหลวงพ่อฤาษีลิงดำ เป็นที่สุด และท่านท้าวจตุมหาราชทั้ง4
    พุทโธ ปัพพะชายาโน สัพพะศัตรู วินาสสันติ ธัมโม ปัพพะชายาโน สัพพะศัตรู วินาสสันติ สังโฆ ปัพพะชายาโน สัพพะศัตรู วินาสสันติ

    ถ้าใช้รักษาโรค บรรเทาเวรกรรม ให้เอาพระขรรค์เเตะศรีษะแล้วว่าคาถา
    ทุกขา ทุกขัง ปฏิฐิตัง สัมปติฉามิ


    *** พ่ออาจารย์ท่านตั้งใจทำพระขรรค์นี้ให้มีขนาดเล็ก เพื่อเน้นการพกพาและสะดวกต่อการเก็บรักษาและใช้งานอย่างแท้จริง และเหนือสิ่งอื่นใดเลยนั่นก์คือพระขรรค์นั้นเป็นของวิเศษที่มีอานุภาพต่อต้านเวรกรรมได้ ทั้งยังลดทอนขจัดวิบากกรรมของผู้อาราธนาได้ดีพ่ออาจารย์ท่านว่าบอกได้เท่านี้ คนที่เล่นสายพระขรรค์ ที่ตามหาพระขรรค์จริงๆเขาจะรู้กัน ท่านว่าเทพศาสตาที่เราสร้างขึ้น ไม่ได้ทำไว้ให้เหน็บโชว์ใคร หรือเอาไว้ตั้งโชว์ให้ใครมาชื่นชม แต่เราทำให้เอาไว้ใช้งานอย่างแท้จริง พกไปไหนก็ได้ ที่ต้องทำให้เล็กๆเพราะเวลาใช้จะได้ไม่มีคนสังเกตุ ศัตรูจะไม่ตื่นตัวเมื่อเห็นมีดหมอด้ามใหญ่โต
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 กันยายน 2019

แชร์หน้านี้

Loading...