แปลกอัศจรรย์ !!! ภูทอก พระอาจารย์จวน สร้างได้ไง วิศวะยังยอม ! ชมวัดภูทอกได้เลยครับ

ในห้อง 'หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต' ตั้งกระทู้โดย แดนโลกธาตุ, 29 กันยายน 2006.

  1. แดนโลกธาตุ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2006
    โพสต์:
    3,464
    กระทู้เรื่องเด่น:
    7
    ค่าพลัง:
    +23,976
    " บรรยากาศวัดเจติยาคีรีวิหาร (วัดภูทอก )
    สิ่งมหัศจรรบย์ที่สุดในบรรดาสิ่งก่อสร้างทั้งหลาย
    เป็นวัดของท่านพระอาจารย์จวน (พระผู้เป็นอรหันต์สร้าง )
    วิศวะยังยอมแพ้ในการก่อสร้างว่าท่านพระอาจารย์จวนสร้างบรรไดเวียนวนไปมารอบภูทอก 7 ชั้น ได้อย่างไงแปลกเหลือเกิน นั้นเป็นแค่เพียงแค่สมาธิธรรม บารมีอภิญญาท่านในการก่อสร้าง
    คนธรรมดาก่อสร้างไม่ได้แน่นอน "
    ----------------------------------------------------------

    พระอาจารย์จวน กุลเชฏโฐ
    พ.ศ. ๒๔๖๓ - พ.ศ. ๒๕๒๓

    วัดเจติยาคิรีวิหาร (ภูทอก) หมู่ที่ 6 ต.นาแสง อ.ศรีวิไล จ.หนองคาย





    อัศจรรย์ภาพนี้ท่านอาจารย์จวน มานั่งตรงนีได้อย่างไร ในขณะที่ตรงนี้ไม่มีบรรไดปีนป่ายขึ้นเลย สูงชันมาก
    --------------------------------------------------------



    ภาพนี้ก็อัศจรรย์เหมือนกันท่านมาอยู่ที่นี้ได้อย่างไร

    ท่านเป็นพระป่าสายกรรมฐาน ศิษย์พระอาจารย์มั่น ในยุคก่อนโน้น มรณภาพไปนานแล้ว ( ท่านตกเครื่องบิน ถ้าท่านจะเหาะท่านก็เหาะได้แต่เป็นธรรดาของการตาย ท่านเคยบอกล่วงหน้า )
    ----------------------------------------------------------




    ภายหลังมรณภาพจากที่ท่านตกเครื่องบิน ที่ทุ่งรังสิต จ.ประทุมธานี ขณะที่กำลังมาจากไปเจริญพุทธมนต์ในพระบรมมหาราชวัง
    ภายหลังประชุมเพลิงอัฐิท่านได้แปรเป็นพระธาตุ
    ----------------------------------------------------------



     
  2. แดนโลกธาตุ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2006
    โพสต์:
    3,464
    กระทู้เรื่องเด่น:
    7
    ค่าพลัง:
    +23,976



    เจดีย์พิพิธภัณฑ์ท่านพระอาจารย์จวน กุลเชฏโฐ
    ที่บรรจุอัฐบริขาร ในสมัยบำเพ็ญสมณธรรม และเก็บอัฐิธาตุท่าน
    และรูปปั้นขนาดเท่าองค์จริงของท่าน
    ------------------------------------------------------------




    เจดีย์ท่านถ่ายจากชั้นที่ 7 บนวัดภูทอก ในเวลายามค่ำคืนประดับประดาด้วยแสงไฟ สว่างไสวงดงาม ทีเดียว
    ------------------------------------------------------------------



    ภาพถ่ายเจดีย์บรรจุอัฐิธาตุ ในเวลากลางวัน ข้าสระน้ำ วัดภูทอก
    ----------------------------------------------------------------​
     
  3. แดนโลกธาตุ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2006
    โพสต์:
    3,464
    กระทู้เรื่องเด่น:
    7
    ค่าพลัง:
    +23,976


    มองเห็นเจดีย์บรรจุอัฐิธาตุท่าน
    ---------------------------------------------------------




    สวยงามมากบรรยากาศภาพถ่ายวัดภูทอก มองเห็นบรรไดเวียนวน ถึงชั้นที่ 7
    ที่ท่านพระอาจารย์จวนสร้างขึ้น
    -----------------------------------------------------------





    ศาลาการเปรียญหลังใหญ่ อยู่หน้าทางขึ้นวัดภูทอก เพื่อต้อนรับแขกพระเถรานุเถระพ่อ
    แม่ครูบาอาจารย์ที่มาเยี่ยมเยียน
    ---------------------------------------------------------------



    ทางขึ้นวัดภูทอก
    ---------------------------------------------------------------




    บรรไดที่พระอาจารย์จวนสร้าง สมัยที่ท่านยังดำรงขันธ์อยู่
    นี่เป็นชั้นที่ 1 เป็นบรรไดไม้
    ---------------------------------------------------------











    ถ้าใครกลัวไม่อยากปีนป่ายตาม ทางบรรไดเวียนวน ก็มาทางลัดภายในถ้ำ
    เพื่อขึ้นชั้น 7 ก็ได้ แต่มาทางนี้ระวังเจอโครงกระดูกที่ปลงอสุภะกรรมฐาน
    และทางนี้ระวังหลวทาง ต้องมากันเยอะ แต่ให้เงียบ
    พระท่านปฏิบัติธรรม ถ้าป้ายเห็นเขตพระห้ามเข้าไปเด็ดขาด
    ------------------------------------------------------------

     
  4. แดนโลกธาตุ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2006
    โพสต์:
    3,464
    กระทู้เรื่องเด่น:
    7
    ค่าพลัง:
    +23,976


    ทางลัดต่อจากภาพที่แล้ว ก็จะโผล่มาถึง ชั้นต่อไป ระวังงู ก็แล้วกัน
    --------------------------------------------------------------------




    เดินไปเดินมาก็จะเห็นศาลาปฏิบัติธรรม ที่ชุ่มเย็นภายในหลืบหิน ที่สะอาดสะอ้าน ภายมีพระพุทธรูป และรูปพ่อแม่ครูบาอาจารย์ เช่น หลวงปู่มั่น หลวงปู่ขาว หลวงตาบัว หลวงปู่แหวน หลวงปู่คำพอง ติดอยู่ผนังถ้ำ
    (อย่าลืมมาแล้วเข้าไปกราบ พระประทานกันก่อน
    ศักสิทธิ์มากครับ )
    --------------------------------------------------------------

     
  5. แดนโลกธาตุ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2006
    โพสต์:
    3,464
    กระทู้เรื่องเด่น:
    7
    ค่าพลัง:
    +23,976


    เมื่อเดินไปตั้งสติไปตลอดทางดี ๆ ถ้าใครกลัวความสูงอย่ามองลงไปเด็ดขาดนะครับ จุดนี้ท่านสามารถเห็นวิวบนวัดภูทอก อย่างวสยงามมากเลยทีเดียวครับ
    จะสังเกตเห็นบรรไดเวียนวน ล่างล่างหน้าหวาดเสียวเหมือนกัน
    ถ้าตกลงไปคง.. ระวังดีดีครับ

    -------------------------------------------------------------------






    ภาพนี้มองลงไป แทบขาสั่นก็มีบางคน ที่กลัวความสูง
    ------------------------------------------------------------




    สุดยอดไหมล่ะครับ ทิวทัศน์บนหน้าผาสูงมากเลยทีเดียว ถ้ามีกล้องมาด้วยจะดีมาก ครั้งหนึ่งว่าเราเคยมากราบ มาเที่ยว บนสถานธรรมของท่าน
    จะทำบรรไดเวียนไปเรื่อยๆ จนถึงชั้น 7 บรรไดจะแนนชิดไปตามหน้าผาสูงชัน
    ----------------------------------------------------------------



    บางคนเดินมาตรงยุดนี้อาจะหยุดเดินถอยกลับ เพราะกลัวความสูง
    ที่ลัดเลาะโค้งไปตามหลืบผาสูงชัน
    แปลกไหมละครับท่านสร้างได้อย่างไร ท่านคงไม่ใช่พระธรรดาแน่นอน!!
    ( มองลงไปแทบขาสั่น ระริกๆๆ เลยแหละครับ )

    ----------------------------------------------------------------




    สวยงามมากครับทิวทัศน์รอบวัดภูทอก ของพระอาจารย์จวน
    จะเห็นแมกไม้นานาพันธ์ขึ้นตามทางเดิน ทั้งนก ทั้งลิง และดอกไม้ป่าที่หอม มาก ครับ
    ----------------------------------------------------------------------

     
  6. แดนโลกธาตุ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2006
    โพสต์:
    3,464
    กระทู้เรื่องเด่น:
    7
    ค่าพลัง:
    +23,976


    ภาพทิวทัศน์ที่ถ่ายได้ครับ เห็นสภาพแวดล้อม ในอำเภอศรีวิไล งดงามมาก เมื่อมองลงมาจากภูทอก ทั้งเดินทั้งถ่ายครับ
    -------------------------------------------------------------------




    เมื่อเดินไปเดินมา จะมาเจอพุทธวิหารของท่านพระอาจารย์จวน
    และท่านยังมองเห็น ที่ปฏิบัติธรรมท่านพระอาจารย์จวน
    ที่มีลักษณะก้อนหินขนาดใหญ่วางเป็นหลังคา ปฏิบัติกรรมฐานท่าน

    ---------------------------------------------------------------



    เมือนอยู่สวรรค์เลยครับ นี่แหละที่เป็นสมญานาม ภูทอก ว่า สรรค์เจ็ดชั้น
    โอ้โห สูงมากเลยครับ (ใจเต้นนิดหน่อย )

    ------------------------------------------------------------





    เดินขึ้นไปประมาณชั้นที่ 5 ของภูทอก จะเห็นพุทธวิหาร ที่เราพึ่งผ่ามาตะกี้และมองเห็นอาณาบริเวณเขตวัด ข้างล่าง
    และเห็นชั้นถัดมาที่เราเดินผ่านมาแล้ว ครับ และเห็นทิวทัศน์เมือง ศรีวิไล
    และท้องไร่ท้องนาชาวบ้านอีกด้วย
    ----------------------------------------------------------------




    จะเห็นศาลาการเปรียญปฏิบัติธรรม บนหน้าผาสูงชัน (หลังสีขาว )
    ดูสภาพไม่น่าจะแข็งแรงแต่ขอโทษบรรจุคนได้ถึง 100 คนเลยแหละครับ

    --------------------------------------------------------------------

     
  7. surad เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มกราคม 2006
    โพสต์:
    386
    ค่าพลัง:
    +1,287
    สวยงามจริงๆครับ ขอบคุณที่เอื้อเฟื้อภาพครับ
     
  8. แดนโลกธาตุ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2006
    โพสต์:
    3,464
    กระทู้เรื่องเด่น:
    7
    ค่าพลัง:
    +23,976



    จะพาย้อนลงมาชมภายใน พุทธวิหาร ท่านพระอาจารย์จวน ครับ
    จะเห็นชัดเจนเลย มีทางเดินจงกรม ทำด้วยไม้ เป็นสะพาน
    นี่แหละที่นั่งภาวนาของท่าน ในคราวสมัยนั้น

    -----------------------------------------------------------------





    เดินต่อมาจะเห็นหินสีแดง ๆๆๆ เต็มไปหมดเลยครับ หน้าผาสูงชัน
    พกยาดม ไปด้วยก็คงจะดีน่ะครับ
    (ทุกชั้น เวลาเดินขอความกรุณราอย่าคิดอกุศล ลบหลู่ น่ะครับ )

    ------------------------------------------------------



    โอย !!! ไม่ไหวแล้วยิ่งเดินยิ่งขาสั่น
    พุทธโธ ธัมโม สังโฆ พ่อแม่ครูบาอาจารย์สาธุ
    --------------------------------------------------------




    นี่เป็นจุดที่ตั้งวิหารใหญ่บนภูทอก ตรงข้ามจะเห็นภูเขาต่าง ๆ ล้อมรอบ วัดภูทอก
    แมกไม้นานาพันธ์

    -----------------------------------------------------------------


     
  9. แดนโลกธาตุ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2006
    โพสต์:
    3,464
    กระทู้เรื่องเด่น:
    7
    ค่าพลัง:
    +23,976



    เห็นไหมละครับ ว่าสวยงามขนาดไหน เชิญมาสัมผัสได้ และกราบพ่อแม่ครูบาอาจารย์ได้ เจ้าอาวาส คือพ่อแม่ครูจารย์ท่านพระอาจารย์แยง สุขกาโม
    ผู้ประพฤติตามธรรม ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ตาม
    สายหลวงปู่มั่น ของเรา

    ------------------------------------------------------------





    บรรไดมีทั้งทำด้วยไม้และ ทางหิน สลับกันไปสลับกันมา ดังภาพ

    -----------------------------------------------------------




    พุทธวิหารครับ สถานปฏิบัติธรรมสมาธิภาวนาอย่างเอาเป็นเอาตาย ของท่านพระอาจารย์จวน กุลเชฏโฐ ของเรา

    -----------------------------------------------------------

    พระอาจารย์จวน เป็นผู้มาบุกเบิกภูทอกแห่งนี้ ให้มีความเจริญ และให้เป็นที่ปฏิบัติธรรมของพระและฆราวาส เดิมที ได้มีพญานาค ณ ที่แห่งนี้ ได้รับพระธรรมจากพระอาจารย์จวน และพญานาคได้ขอให้ท่านอยู่ ณ ที่แห่งนี้ และขอให้บอกกับประชาชนว่า ณ วัดภูทอกแห่งนี้ทั้งส่วนที่อยู่พื้นล่างและภูเขา โปรดอย่าถ่มน้ำลายลงพื้น อย่าทิ้งขยะ อย่าส่งเสียงดัง นะครับ



    ------------------------------------------------------------------​
     
  10. หลับตา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    717
    ค่าพลัง:
    +3,151
    พยายามคิดตามไป ได้อารมณ์ขาสั่นไปด้วย พอมีประวัติไหมครับท่านสร้างอย่างไร กี่ปี ใช้คนงานเท่าไหร่
     
  11. แดนโลกธาตุ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2006
    โพสต์:
    3,464
    กระทู้เรื่องเด่น:
    7
    ค่าพลัง:
    +23,976
    ปิดท้ายด้วย แผนที่​


    -------------------------------------------------------------​

    คำตอบที่ 36
    ปิดท้ายแล้วจริง ๆ แผนที่



    แผนที่จังหวัดหนองคาย เผื่อท่านแวะมากราบ นมัสการเจดีย์และกราบอัฐิธาตุ ท่าน และชมสวรรค์ 7 ชั้น ภูทอก ที่ขึ้นชื่อของหนองคาย และจังหวัดใกล้เคียง
    (ก่อนมาต้องไปกราบหลวงปู่แยง เจ้าอาวาสก่อนน่ะครับ )​

    ขอความกรุณา อย่าบ้วนน้ำลายเด็ดขาด ถือว่าลบหลู่สถานที่ศักสิทธิ์
    ผุ้หญิงอย่าใส่กระโปรงเขิน สายเดี่ยว เขิน ๆ ขึ้นมาห้ามเด็ดขาด
    เป็นไรมาไม่รับผิดชอบ และอย่าเอาของพนันสุรา ขึ้นมา ไม่เช่นนั้น
    จะหาว่าไม่เตือน น่ะครับ และคนเมาอย่านำขึ้นมา กับคนบ้า ครับ​

    ด้วยความหวังดี ............... ( ศิษย์วัดภูทอก )


























     
  12. chatyamn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    664
    ค่าพลัง:
    +4,056
    อนุโมทนาบุญครับ.....ได้มีโอกาสไปกราบอัฐิธาตุท่านหกครั้งแล้ว....ชื่นใจครับ.....ขึ้นไปไม่ถึงข้างบนสักที โรคกลัวความสูงจับจิตใจ ไปได้แค่ครึ่งทาง.....แต่ทิวน์ทัศสวยงามมาก....มองไปสุดลูกตาแล้วสบายใจ.
     
  13. mariam เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2006
    โพสต์:
    31
    ค่าพลัง:
    +106
    Satu satu...I ever been at Nongkai but never go there,I wish to go there once in my life
     
  14. แดนโลกธาตุ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2006
    โพสต์:
    3,464
    กระทู้เรื่องเด่น:
    7
    ค่าพลัง:
    +23,976


    (แดนสวรรค์เจ็ดชั้น )

    (วัดเจติยาคีรีวิหาร ) วัดภูทอกแดนมหัศจรรย์

    เป็นภูเขาหินทราย เป็นภูเขาโทนลูกเดียวท่ามกลางที่ราบอันกว้างใหญ่ มีสะพานเวียนรอบเขาสูงชันขึ้นสู่ภูทอก สูงถึง 7 ชั้น สร้างขึ้นด้วยวิธีแบบชาวบ้านโดยไม่มีวิศวกรและเครื่องจักรใดในการก่อสร้าง เป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมและปฏิบัติศาสนกิจของชุมชนในยามเทศกาลต่าง ๆ








    เริ่มต้นเช้าวันเสาร์กับ กิจกรรมสุดโหด ที่รออยู่เบื้องหน้า...

    ป่ะ ...ไปขึ้นภูทอก กัน ^_^



    ภาพส่วนใหญ่เป็นภาพวิว ในมุมที่คล้ายๆกัน
    เลยขอไม่แปะให้ดูนะครับ...

    ป่ะ เราไปที่อื่นกันต่อดีกว่า....

    ก่อกๆๆ...จอดรถก่อนคร๊าบบบบบ.....
    จอดทำไม? ต้องถามคุณไอ้ลูกทุ่งดูเอง?







    มุมมองจากบนภูทอก แต่ต่างกันตรงที่มองจากชั้น 6

    ภูทอกมีทั้งหมด 7 ชั้น ชั้นสุดท้ายเป็นเพียงป่ารก




    ทางเดินเท้าที่ทำด้วยไม้ด้วยฝีมือของมุนษย์ที่เป็นเพียงแค่พระเณร ล้อมรอบเขาหินทรายที่เป็นผาสูง


    เชื่อไหมครับหมู่บ้านเล็กที่อยู่เบื้องหน้าภูทอกเนี๊ย ถ้าเราเข้าไปแล้ววกซ้ายวนขวาเข้าหน่อย เป็นอันหลงเลยทีเดียว


    รู้สึกโหวงๆ เสียวหว่างขา บางครั้งเซเล็กๆ เมื่อเดินไปตามทางที่ทอดไป




    มุมมองจากภูวัว จากซ้ายไปขาว ภูทอก ภูทอกใหญ่ ภู? ภูสิงห์


    ชอบจริงๆ มุมนี้

    จากที่ยืนอยู่เป็นลานหินกว้างๆ สลับกอหญ้าแห้งๆ

    ถัดไปเป็นผาสูง ตรงกลางเป็นธารน้ำและน้ำตกไหลหลาก

    อีกด้านก็จะเป็นผาสูงที่ประดับด้วยไม้ใหญ่มากมาย



    ผาผึ้ง








    <!-- แสดง ชื่อ - เวลา --><!-- แสดง ชื่อ - เวลา -->
     
  15. แดนโลกธาตุ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2006
    โพสต์:
    3,464
    กระทู้เรื่องเด่น:
    7
    ค่าพลัง:
    +23,976
    <TABLE cellSpacing=4 cellPadding=4 border=8><TBODY><ROWS><TR><TD> </TD></TR></ROWS></TBODY></TABLE>

    เจดีย์หลวงปู่น่ะครับ (ถ่ายตอนเช้า )
    เมื่อเดินทางมาถึงสิ่งแรกเลยคือ ขึ้นไปกราบนมัสการ
    เจดีย์บรรจุอัฐิธาตุท่านพระอาจารย์จวนก่อน
    แล้วค่อยไปกราบเจ้าอาวาส หลวงปู่แยง แล้วค่อยเดินขึ้นไปชมบนภูทอก

    -----------------------------------------------------------------------




    เจดีย์หลวงปู่ (ถ่ายตอน ฤดูหนาว )
    จะเห็นว่าบนภูทอกจะมีหมอกปกคลุมมาก


    หน้าผาสูงชันเห็นแล้วหวาดเสียว
    ----------------------------------------------------------------


    <CENTER>
    ภาพที่ 1</CENTER>ริมแม่น้ำโขงที่นั้นสวยมาก น่าตกปลา มากคับ แต่เสียได้ ผมไม่ได้เอาคันเบ็ดไป
    <CENTER>
    ภาพที่ 2</CENTER>ภูทอก คนแถวนั้นเรียกว่าภูทอกคับ เป็นวัดบนเขา ไปเห็นเองแล้วจะตกใจ เพราะแค่เราเดินยังเสียวตกเลยคับ
    <CENTER>
    ภาพที่ 3</CENTER>​
     
  16. แดนโลกธาตุ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2006
    โพสต์:
    3,464
    กระทู้เรื่องเด่น:
    7
    ค่าพลัง:
    +23,976



    ใครขึ้ไปถึงจุดสุดท้าย ก็จะปรากฏเห็นสวรรค์ทันที คือชั้นที่ 7 ชั้นสุดท้าย จะมีทุ่งดอกไม้ ชึ่งเป็นหญ้า หลากหลายสีมากบานสะพรั่งสวยงามมากเลยทีเดียว ครับ ในบางครั้งบริเวณนี้สูงมาก ก็จะมีหมู่ก้อนเมฆ ก็จะลอยมาชนตัวคุณ คุณจะรู้สึกว่าเย็นวืบ ๆๆ สักพักครับ
    (ห้ามนำอาหาร เครื่องดื่มมึนเมา ขึ้นมา น่ะครับ ห้ามเด็ดขาด เว้นน้ำดื่ม )

    --------------------------------------------------------------------



    บนชั้น ที่ 6 ครับ จะมีผลไม้ ชมพู่ จำปาสีชมพูหอม หลายต้น ครับ

    (ต้องขออนุญาติท่านอาจารย์นำกระเป๋าขึ้นมา ไม่จำเป็นไม่ต้องเอาเป้ใหญ่ขึ้นมา นะครับ )

    --------------------------------------------------------------------


    ต้นหม้อข้าวหม้อแกงลิง ครับ
    -----------------------------------------------------------




    ดอกไม้ป่า และดอกหญ้า บนภูทอก
    หญ้าข้าวก่ำ ขึ้นอยู่ข้างทาง เก็บภาพไว้ก่อน เคยเจอที่หลังแปบนภูหลวงตอนขึ้นภูขวาง ดอกใหญ่มาก ไว้จะหาโอกาสไปอีก รอให้รองเท้านารีบนภูขวางออกดอกก่อน ค่อยขึ้นไปใหม่ แต่คงไม่มีเปราะภูให้ดูแล้ว ได้อย่างเสียอย่างแบบนี้เสมอ..............

    ------------------------------------------------------------------



    ถ่ายมาไม่สวย เก็บมาเป็นบันทึกการเดินทางมาเล่าสู่กันฟังเท่านั้น อย่าว่ากันนะพี่............

    -------------------------------------------------------------------------------------------





    กล้วยไม้จำพวกเอื้องยังมีให้เห็นอยู่บ้าง ในภาพเป็นเอื้องชนิดหนึ่งดอกสีขาวขึ้นอยู่บนคาคบของต้นก่อ ชื่อว่า เอื้องนางชี

    --------------------------------------------------------------



    พวก โฮย่า นี่ก็มีเยอะ แต่ไม่มีดอก................

    ------------------------------------------------------------------





    ด้านซ้ายมือ มองเห็น ภูวัว กับภูสิงห์ ทอดแนวอยู่ไกลๆ
    ----------------------------------------------------------------



    ฉากหน้าเป็นดอกไม้ป่า แบล็กกราวด์เป็น ........จนท.........

    --------------------------------------------------------------------------------------


    ต้นไม้แซมกันขึ้นอย่างหนาแน่นเขียวขจี อุดมสมบูรณ์มากเลยทีเดียว
    ----------------------------------------------------------------------------------



     
  17. แดนโลกธาตุ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2006
    โพสต์:
    3,464
    กระทู้เรื่องเด่น:
    7
    ค่าพลัง:
    +23,976


    <TABLE cellSpacing=1 cellPadding=0 width="100%" align=center bgColor=#ff9900 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center bgColor=#ffffef height=24>
    วัดเจติยาคิรีวิหาร (วัดภูทอก)
    </TD></TR><TR><TD vAlign=center bgColor=#ffffef height=24>
    วัดสายพระป่า โดย พระอาจารย์จวน กุลเชฏโฐ
    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    ---------------------------------------------------------------------


    พุทธวิหาร
    -------------------------------------------------------------------



    พระประธาน ที่วิหารชั้นที่ ๕
    นอกจากนั้น กองทัพอากาศดอนเมืองได้ถวายเครื่องไฟฟ้าแรงสูง สำหรับใช้ ภายในวัด 1 เครื่อง กรมวิเทศสหการได้ถวายพระพุทธรูป หล่อขนาดใหญ่เป็นประธาน 1 องค์ ไว้ที่วิหารชั้น 5 และบรรดาญาติโยมได้ช่วยกันสมทบทุนสร้างโรงฉัน และศาลาที่ชั้น 1 หลัง พร้อมกับการก่อสร้างสะพานลอยฟ้าไปรอบ ๆ ภูทอกในชั้นที่ 5 และชั้นที่ 6 และได้สร้างสถานที่บำเพ็ญเพียรภาวนา แทรกไว้ตาม จุดต่าง ๆ โดยรอบหน้าผา สิ้นค่าก่อสร้าง 45,000 บาท ซึ่งการก่อสร้างเป็นไปด้วยความยากลำบาก เพราะเป็นการเจาะหินทำนั่งร้านด้วยไม้ เนื้อแข็ง 2 ท่อน ผูกติดกับเสาที่ปักไม้เท้าแขนลงไปแล้วจึงพาดไม้กระดานเป็นสะพานที่ละช่วง ๆ ละประมาณ 1 เมตรเศษ ระหว่างคาน จะมีคานรองรับอีกชั้นหนึ่ง จึงทำให้สะพานแข็งแรงมาก นับว่าเป็นสิ่งมหัศจรรย์แก่ผู้พบเห็นอย่างยิ่ง และเมื่อวันที่ 27 เมษายน พุทธศักราช 2523 พระอาจารย์จวน กุลเชฎโฐได้รับนิมนต์ไปกรุงเทพฯ และได้ประสพอุบัติเหตุเครื่องบินตก ถึงแก่มรณภาพ สิริรวมอายุได้ 59 ปี 9 เดือน 18 วัน 38 พรรษา
    ------------------------------------------------------------------------------------------------
     
  18. แดนโลกธาตุ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2006
    โพสต์:
    3,464
    กระทู้เรื่องเด่น:
    7
    ค่าพลัง:
    +23,976



    โอ้โห !!! ตรงนี้ทั้งสวย ทั้งแฝงความขาสั่น มาด้วย หลายรูปแบบ มากเลยครับ ท่านพระอาจารย์จวน ท่านขึ้นไปทำสะพานได้ไง หล่ะนี้
    ---------------------------------------------------------------------




    จะเห็นก้อนเมฆ ละอองน้ำมากมาย บนชั้นสูงสุด ทำให้ผู้ไปชมเย็นฉ่ำทั่วกัน

    ----------------------------------------------------------------



    ภาพสะพานทำด้วยไม้ ภูมิปัญญาท่านพระอาจารย์จวน ผู้สร้างสะพาน เพื่อเดินขึ้นบน ภูทอก

    ----------------------------------------------------------------------




    โอย ๆๆ !!! หน้าผาเดินมาเห็นอีกแล้ว เหรอ นิ้

    วัดเจติยาศีรีวิหาร หรือ ภูทอก ตั้งขึ้นเมื่อปีพุทธศักราช 2483 โดยพระอาจารย์จวนกุลเชฎโฐ ได้มาบำเพ็ญเพียรอยู่ที่ภูวัว อำเภอเซกา จังหวัดหนองคาย คืนหนึ่งได้เกิดนิมิตรขึ้นเห็นปราสาท 2 หลัง ลักษณะสวยงามมากอยู่ทางด้านภูทอกน้อย ดังนั้นพระอาจารย์จวนกุลเชฎโฐ จึงได้เดินทางมาพิสูจน์ตามที่เกิดนิมิตร และได้พบลักษณะภูมิประเทศที่สวยงานร่มรื่น เหมาะที่จะปฏิบัติธรรม จึงได้สำรวจ และปักกรดอยู่ที่ ถ้ำบนภูทอก ทางเดินขึ้น ทำจากไม้ทิ่มไปตามหน้าผา ไม่มีเสา ทางขึ้นจะเป็นหน้าผาตลอดวนขึ้นไปเรื่อยๆ ทิวทัศน์สวยงามมากๆ เตรียมถ่ายรูปไว้เยอะ เลยแระกานอะ 5555

    -----------------------------------------------------------



    ดูซิครับ ภาพ สะพานซ้อนสะพาน จากชั้นที่ แล้ว ขึ้นมาได้อย่างไร ก็ไม่รู้
    ประวัติศาสตร์ มาก ใครไม่ถ่ายภาพไว้ น่าเสียดายมากเลยครับ
    โอกาสแบบนี้หาได้ยากมากเลย

    ---------------------------------------------------------------



    ไหน ๆๆ ก็มาแล้วครึ่งทาง ตรงนี้มาวัดใจกันสักตั้งหน่อย ดีกว่า !!!!

    --------------------------------------------------------------




    ภาพถ่ายจากเครื่องบิน ครับ จะมองเห็นแต่ละชั้น สวยงามมากเลย ครับ

    ----------------------------------------------------------------------






    นี่หละหนา ที่เขาเปรียบ เสมือน สรวงสวรรค์ เจ็ดชั้น ภูทอก
    -----------------------------------------------------------------------


     
  19. แดนโลกธาตุ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2006
    โพสต์:
    3,464
    กระทู้เรื่องเด่น:
    7
    ค่าพลัง:
    +23,976




    โอ !!! พ่อแก้วแม่แก้ว ช่วยลูกด้วย ครับ​

    -----------------------------------------------------------------------​



    ทอกเป็นภูเขาโดดเดี่ยวกลางทุ่ง ตั้งอยู่ ณ อำเภอศรีวิไล ห่างจาก
    ตัวเมืองจังหวัดหนองคายประมาณ 160 กม ขับรถไปกลับจาก
    ตัวเมืองเมื่อยขาเลยครับงานนี้ ​

    ------------------------------------------------------​



    จริง ๆ แล้วภูทอก คือ วัดภูทอกครับ สมัยก่อนมีสัตว์ป่าชุกชุม
    แต่สมัยนี้คงไม่มีแล้วอ่ะ ใช้เวลาในการก่อสร้างบันไดจากพื้นถึง
    ยอดประมาณ 5 ปีจ้า ไม่ใช่สร้างง่าย ๆ น้า อิอิ​

    --------------------------------------------------------​



    อีกมุมหนึ่ง เมื่อมองลงมาจากภูทอกชั้นที่ 6 ถ้าท้องฟ้าโล่งอาจจะมอง
    ไกลไปถึงฝั่งลาวเลยนะครับ
    ตอนกลางคืน ท้องฟ้าจะเต็มไปด้วยดาวเมื่อมองจากชั้น 5
    เหมาะสำหรับไปนั่งสมาธิ
    ชั้น 5 จะมีศาลาใหญ่ ภายในมีพระพุทธรูป
    ชั้น 5 และชั้น 6 มีทางเดินรอบเขา
    ชั้น 7 จะใกล้ยอดเขา เป็นป่าสมุนไพร​

    ------------------------------------------------------------​

    ท่าจะไปจริง ๆ ต้องเตรียมตัวหน่อยนะครับ เพราะทางที่ไปเนี่ย
    ป้ายบอกแทบไม่มีเลย ผมหลงอยู่ตั้งหลายทีกว่าจะถึง
    การเดินขึ้นสู่ยอดภูทอกมีทั้งหมด 7 ชั้น จะมีทั้งบันได เดินขึ้น และ
    สะพานเดินรอบเขา ผสมกันไปครับ ผมว่าถ้าไปควรไปถึง เช้า ๆ
    จะได้ไม่ร้อน อีกอย่างอากาศตอนเช้าน่าจะดีมาก ๆ เลยครับ
    และถ้าเป็นไปได้ถ้าได้ดูพระอาทิตย์ขึ้นที่ภูทอกอาจจะเป็นอีกที่
    พระอาทิตย์ขึ้นสวยงามที่สุดแห่งหนึ่งเลยนะครับ ​

    ------------------------------------------------------------------​

    วัดเจติยาคิรีวิหาร หรือ ภูทอก ตั้งขึ้นเมื่อปีพุทธศักราช 2483 โดยพระอาจารย์จวน กุลเชฎโฐ ได้มาบำเพ็ญเพียรอยู่ที่ภูวัว อำเภอเซกา จังหวัดหนองคาย คืนหนึ่งได้เกิดนิมิตรขึ้นเห็นปราสาท 2 หลัง ลักษณะสวยงามมากอยู่ทางด้านภูทอกน้อย ดังนั้นพระอาจารย์จวนกุลเชฎโฐ จึงได้เดินทางมาพิสูจน์ตามที่เกิดนิมิตร และได้พบลักษณะภูมิประเทศที่สวยงานร่มรื่น เหมาะที่จะปฏิบัติธรรม จึงได้สำรวจ และปักกรดอยู่ที่ ถ้ำบนภูทอก กับพระครูศริธรรมวัฒน์ ต่อมาชาวบ้านคำแคนเห็นพระอาจารย์จวน ธุดงภ์มาอยู่ที่ภูทอก จึงพร้อมใจกันอารธนาให้สร้างวัด ขึ้นที่ภูทอก

    ในปีพุทธศักราช 2512 ชาวบ้านนาคำแคนได้มาช่วยกันสร้างบันได้ขึ้นภูทอก จนถึงชั้นที่ 5-6 และได้ปลูกสร้างเสนาสนะสำหรับพระสงฆ์อยู่ถึง 2 เดือน 10 วัน จึงเสร็จ

    ในปีพุทธศักราช 2513-2514 พระอาจารย์จวน กุลเชตุโฐ ได้ชักชวนชาวบ้าน สร้างทำนบกั้นน้ำขึ้น 2 แห่ง เพื่อใช้เก็บกักน้ำ และจัดระบบน้ำประปาขึ้นภายในวัดภูทอก

    นอกจากนั้น กองทัพอากาศดอนเมืองได้ถวายเครื่องไฟฟ้าแรงสูง สำหรับใช้ ภายในวัด 1 เครื่อง กรมวิเทศสหการได้ถวายพระพุทธรูป หล่อขนาดใหญ่เป็นประธาน 1 องค์ ไว้ที่วิหารชั้น 5 และบรรดาญาติโยมได้ช่วยกันสมทบทุนสร้างโรงฉัน และศาลาที่ชั้น 1 หลัง พร้อมกับการก่อสร้างสะพานลอยฟ้าไปรอบ ๆ ภูทอกในชั้นที่ 5 และชั้นที่ 6 และได้สร้างสถานที่บำเพ็ญเพียรภาวนา แทรกไว้ตาม จุดต่าง ๆ โดยรอบหน้าผา สิ้นค่าก่อสร้าง 45,000 บาท ซึ่งการก่อสร้างเป็นไปด้วยความยากลำบาก เพราะเป็นการเจาะหินทำนั่งร้านด้วยไม้ เนื้อแข็ง 2 ท่อน ผูกติดกับเสาที่ปักไม้เท้าแขนลงไปแล้วจึงพาดไม้กระดานเป็นสะพานที่ละช่วง ๆ ละประมาณ 1 เมตรเศษ ระหว่างคาน จะมีคานรองรับอีกชั้นหนึ่ง จึงทำให้สะพานแข็งแรงมาก นับว่าเป็นสิ่งมหัศจรรย์แก่ผู้พบเห็นอย่างยิ่ง และเมื่อวันที่ 27 เมษายน พุทธศักราช 2523 พระอาจารย์จวน กุลเชฎโฐได้รับนิมนต์ไปกรุงเทพฯ และได้ประสพอุบัติเหตุเครื่องบินตก ถึงแก่มรณภาพ สิริรวมอายุได้ 59 ปี 9 เดือน 18 วัน 38 พรรษา

    ปีพุทธศักราช 2513 ได้ปรับปรุงการสร้างสะพานใน ชั้นที่ 5 โดยทำทางเดินให้เสมอกันและ ขยายให้กว้างขึ้น

    ปีพุทธศักราช 2517 ได้ปรับปรุงสะพานในชั้นที่ 6 และทำสะพานในชั้นที่ 4 ให้อยู่ในสภาพที่ ใช้การได้ดี

    ปีพุทธศักราช 2519 ได้จัดทำนบกั้นน้ำในเขตวัดและจัดทำถังน้ำบนภูเขาในชั้นที่ 5 และกุฎิ พระภิกษุ สามเณร กุฎิแม่ชี บนชะง่อนเขาในชั้นที่ 5 เพื่อให้ญาติโยมได้พักอาศัยด้วย



    ปีพุทธศักราช 2523 ได้จัดทำถนนรอบภูเขา 3 ลูก คือ ภูทอกน้อย ภูทอกใหญ่ และภูสิงห์น้อยเพื่อ เป็นการกั้นเขตแดนวัด

    ศักยภาพด้านการท่องเที่ยว

    วัดเจติยาคิีรีวิหาร หรือภูทอก อยู่ห่างจากตัวจังหวัดหนองคาย 186 กิโลเมตร ตามเส้นทางหลวง จังหวัด หมายเลข 212 หนองคาย - บึงกาฬ - ศรีวิไล เป็นสถานที่จัดการเรียนการสอนพระปริญัติธรรม แผนกธรรม ตั้งแต่ปีพุทธศักราช 2525 และเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญแห่งหนึ่งของจังหวัดหนองคาย ที่มีประชาชนทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศเดินทางไปท่องเที่ยว เป็นจำนวนมาก

    นอกจากนั้นยังมีเจดีย์พระอาจารย์จวน กุลเชฏโฐ สร้างด้วยคอนกรีต เสริมเหล็กประดับด้วยหินอ่อนขนาดกว้าง 16 เมตร สูง 31 เมตร สร้างเมื่อปีพุทธศักราช 2529





















    ภาพระหว่างทางเดิน กับ กุฎิ พระอาจาริย์ จวน ที่*งออกไป โน่น ไม่รู้ไปสร้างได้อย่างไร ให้งง ๆ ซะจริง ๆๆ ดูสิ ภาพเล็ก ๆ น่ะ




    นี่งัย............... ภาพกุฏิ อาจาริย์จวน บนภูทอก




    ดอาไม้ สีเหลือง ๆ นี่ดอก อาราย น้า สวย.....จัง เลย




    บนภูทอก ...นั้น มีพระบูชาให้กราบไหว้ อากาศร่มเย็น ลมพัดผ่านสบาย





    รูปหล่อ หลวงปู่จวน พระสายอาจารย์มั่น สมาธิจิต ดีมากรู้ๆว่าจะต้องไปตาย ก้อไป ตาย เพื่อชดใช้กรรม พระแบบนี้หายาก จริงๆๆ




    สิ่งที่พระอาจารย์จวน ใช้พิจารณา คนเราเอาอารายไปไม่ได้หรอก สังขารยังต้องทิ้ง ๆ ไว้แบบนี้แหละ หาความสุขใส่ตัวไว้เถอะ อย่าหาบาป หาเหาใส่ตัวเลยนะ เพื่อน ๆๆ อารายที่เป็นความสุข ก้อรักษา เอาไว้ สิ่งที่ทำให้ใจเป็นทุกข์ ก้อ ทิ้ง ๆมันซะ ขอให้ทุกคนมีความสุข ทุกๆคน หลังจากอ่านจบ คงจะช่วยให้แนวทางชีวิต สดใส ยิ่งๆขึ้นๆ ไปอีก นะ..ทุก ๆคน



    ไม่รู้สพานที่ทอดไปยังกุฎิ และ ตัว กุฎิ สร้างกันอย่างไร ก้อไม่รู้สิ ไม่มีทางลง เป็นหน้าผา อย่างเดียว เลยอะ สงสัยคงต้องหานักไต่ผา ไว้ต้องถามคุณ บัญญัติ ดีกว่า ว่า เขา ทำสะพาน ข้ามกันได้อย่างไร อะ 55555





     
  20. แดนโลกธาตุ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2006
    โพสต์:
    3,464
    กระทู้เรื่องเด่น:
    7
    ค่าพลัง:
    +23,976
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="94%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=postbody vAlign=top>ประวัติพระอาจารย์จวน กุลเชฎโฐ
    วัดเจติยาคิรีวิหาร (ภูทอก)
    บ้านนาคำแคน ต.นาสะแบง
    อ.ศรีวิไล จ.หนองคาย


    พระอาจารย์จวน กุลเชฎโฐ เกจิฯ สายพระป่า "หลวงปู่มั่น"

    พระอาจารย์จวน กุลเชฎโฐ เป็นพระเถระสายวิปัสสนากัมมัฏฐานอีกรูปหนึ่งแห่งภาคอีสาน ที่มีวัตรปฏิบัติเป็นที่น่าเลื่อมใสของชาวพุทธยิ่งนัก

    อัตโนประวัติ พระอาจารย์จวน กุลเชฎโฐ เกิดในสกุล นรมาส เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ.2463 ที่บ้านแหล่งมันแกว หมู่ 12 ต.ดงมะยาง อ.อำนาจเจริญ จ.อุบลราชธานี (ในขณะนั้น) โยมบิดา-มารดา ชื่อนายสา และนางแหวะ นรมาส

    ในวัยเด็กได้เข้าศึกษาที่โรงเรียนบ้านโคกกลาง ต.มะยาง อ.อำนาจเจริญ และเข้าไปศึกษาในระดับมัธยม ที่โรงเรียนประจำจังหวัดอุบลราชธานี ชีวิตการเรียนของท่าน สอบได้ที่ 1 มาตลอด

    เมื่อเรียนจบชั้น ม.6 ท่านได้สมัครเข้ารับราชการที่กรมทางหลวงแผ่นดินอยู่นานถึง 4 ปี จนอายุครบ 21 ปี ได้เข้าพิธีอุปสมบทเป็นพระภิกษุฝ่ายมหานิกาย ที่วัดเจริญจิต บ้านโคกกลาง ต.ดงมะยาง อ.อำนาจเจริญ โดยมีหลวงพ่อบุ เป็นพระอุปัชฌาย์ และพระมหาแจ้งเป็นอาจารย์คู่สวด ได้รับฉายาว่า "กลยาณธมโม"

    อุปสมบทได้ 1 พรรษา ท่านสามารถสอบไล่ได้นักธรรมชั้นตรี ก่อนลาสิกขาบทออกมาเป็นฆราวาส ได้ประกอบอาชีพเป็นช่างเย็บผ้า ทำงานขยันขันแข็งหามรุ่งหามค่ำจนล้มป่วยหนัก เมื่อหายป่วยท่านได้เข้าพิธีอุปสมบทอีกครั้ง ที่วัดสำราญวิเวก อ.อำนาจเจริญ

    พระอาจารย์จวนได้เริ่มปฏิบัติกัมมัฏฐาน โดยบริกรรมด้วยคำว่า "พุทโธ" และงดฉันอาหารประเภทเนื้อสัตว์ทุกชนิด ฉันแต่มังสวิรัติอย่างเดียว ด้วยเป็นอาหารธรรมชาติ ทำให้จิตใจเบาสบาย คลายความกำหนัดในกามคุณ ไม่ตกเป็นทาสของลิ้น

    ต่อมา พระอาจารย์จวนได้ออกเดินธุดงค์ไปยังมุกดาหารและไปนมัสการพระธาตุพนม ระหว่างทางได้อาศัยศพที่พบเห็นเจริญอสุภกัมมัฏฐาน ได้พิจารณาเห็นความจริงในเรื่องเกิด แก่ เจ็บ ตาย อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา เกิดขึ้นตามลำดับ และเดินทางแสวงวิเวกไปเรื่อย หยุดพักตามป่าช้าแต่เพียงลำพัง ด้วยจิตใจอันกล้าหาญ

    ในช่วงระหว่างจำพรรษาที่วัดบ้านนาจิกดอนเมย บ้านหนองปลิง ต.นาจิก อ.อำนาจเจริญ ท่านได้ปฏิบัติกัมมัฏฐานด้วยการไม่หลับนอนตลอดระยะเวลา 3 เดือน และฉันอาหารมังสวิรัติ ปรากฏว่าทำได้สำเร็จได้ผลดีในทางกำลังใจและมีสติสัมปชัญญะเข้มแข็ง สามารถใช้สติควบคุมจิตได้ดีขึ้นตามหลักมหาสติปัฏฐาน นอกจากนี้ ยังได้ออกเที่ยวแสวงวิเวกบำเพ็ญเพียรตามป่าเขาลำเนาไพรแถบเทือกเขาภูพานได้ธุดงค์ขึ้นไปทางเชียงใหม่และเชียงตุงด้วย

    เจ้าคุณอริยคุณาธาร (ปุสโส เส็ง) ได้พาพระอาจารย์จวนมาฝากไว้กับหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ซึ่งจำพรรษาอยู่ที่วัดป่าบ้านหนองผือ อ.พรรณานิคม จ.สกลนคร หลวงปู่มั่นได้อบรมสั่งสอนพระอาจารย์จวนว่าการปฏิบัติกัมมัฏฐานต้องมุ่งมรรคผลนิพพาน ต้องมีความเพียร ตั้งสัจจะทำจริงอย่างเด็ดเดี่ยว

    หลวงปู่มั่นยังสอนให้พิจารณากายคตาสติ คือ ให้ใช้สติ เพ่งพิจารณาในร่างกายมีผม ขน เล็บ ฟัน หนัง เนื้อ เอ็น กระดูก เป็นต้น ให้เห็นว่าเป็นสิ่งปฏิกูลน่าเกลียด ต้องคอยบำรุงรักษาอยู่ตลอดเวลา พระอาจารย์จวนได้ปฏิบัติตามคำแนะนำของหลวงปู่มั่น สามารถรวมจิตใจให้สงบลงได้คล่องแคล่วรวดเร็วถูกนิสัย นั่งสมาธิได้ตั้งแต่หัวค่ำยันสว่าง จนจิตผ่องใสสว่างโพลงเป็นปรากฏมหัศจรรย์ยิ่ง

    พระอาจารย์จวนได้ออกธุดงค์เข้าสู่กลางดงศรีชมภู อ.โพนพิสัย จ.หนองคาย เป็นดินแดนอันสงบสงัดวังเวงใจ สภาพที่เห็นคล้ายซากเมืองโบราณ มนุษย์ถือว่าเป็นถิ่นอาถรรพ์มีภูติผีปีศาจสิงอยู่มากมาย เมื่อธุดงค์เข้าไปอยู่ในถ้ำจันทร์ พระอาจารย์จวนได้ฝึกจิตให้เข้าสู่ร่องรอยของพระโยคาวจร นั่งสมาธิปากเหวลึกให้จิตสงบ สร้างตบะให้แก่กล้า

    หลังอยู่จำพรรษาที่ถ้ำจันทร์นาน 4 ปี พระอาจารย์จวนได้แสวงวิเวกมาทางภูสิงห์ อ.บึงกาฬ จ.หนองคาย บำเพ็ญเพียรอยู่ได้ 1 พรรษา ก่อนมุ่งหน้าไปยังภูวัว

    พ.ศ.2512 พระอาจารย์จวนได้อยู่ภูทอก อ.เซกา จ.หนองคาย โดยปักกลดอยู่ที่ถ้ำเชิงเขา จากนั้นได้เริ่มพัฒนาภูทอกน้อย เป็นวัดภูทอก โดยทำสะพานขึ้นลงบนยอดเขาให้สามารถเดินขึ้นลงโดยสะดวก

    พระอาจารย์จวนเป็นพระอริยะชั้นสูง ท่านมีญาณล่วงรู้เหตุการณ์ในอดีต ปัจจุบันและอนาคต ล่วงรู้จิตใจคน มีหูทิพย์ ตาทิพย์

    กาลต่อมา พระอาจารย์จวนได้ประสบอุบัติเหตุเครื่องบินตกระหว่างการเดินทางจากเมืองอุดรธานี เข้าสู่กรุงเทพฯ สร้างความเศร้าสลดแก่คณะศิษยานุศิษย์เป็นยิ่งนัก

    แม้ทุกวันนี้ จริยวัตรอันน่าเลื่อมใสศรัทธาของท่าน ยังคงปรากฏอยู่ในความทรงจำของชาวพุทธได้หวนรำลึกและดำเนินตามรอยธรรมของพระอาจารย์จวนต่อไป


    ที่มา : นสพ.ข่าวสด หน้า 29
    คอลัมน์ คอลัมน์ อริยะโลกที่ 6 โดย ประภาพร สอนราช
    วันที่ 22 มกราคม พ.ศ. 2549 ปีที่ 15 ฉบับที่ 5533

    ................................................................

    ประวัติและปฏิปทาหลวงปู่จวน กุลเชฏโฐ
    http://www.dhammajak.net/board/viewtopic.php?t=7754

    --------------------------------------------------------------




    เจ้าอาวาสท่านพนระอาจารย์แยง สุขกาโม วัดเจติยาคีรีวิหาร ( ภูทอก ) รูปปัจจุบัน
    ที่ท่านสืบสาน การดูแลวัดภูทอก ต่อท่านพระอาจารย์จวน กุลเชฏโฐ

    -----------------------------------------​

    </TD></TR><TR><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE>​
     

แชร์หน้านี้