แฟนเพจ คำสอนหลวงพ่อฤาษี (ลิงดำ)

ในห้อง 'หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ' ตั้งกระทู้โดย ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง, 2 กันยายน 2017.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง

    ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    4,338
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +121
  2. ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง

    ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    4,338
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +121
    หลวงพ่อฤาษีลิงดำ ตอบปัญหาธรรม ตอน อานิสงส์บริจาคโลหิตเป็นทาน
    โดย พระเดชพระคุณหลวงพ่อพระราชพรหมยาน (หลวงพ่อฤๅษี วัดท่าซุง)

    ผู้ถาม :- “ทีนี้การ บริจาคโลหิตเป็นทาน นั้น อยากจะเรียนถามว่าเป็นทานขั้นไหนครับ…?”

    หลวงพ่อ :- “เขาเรียกว่า “ทานภายใน” นะ จะถือว่าเป็นปรมัตถทานก็ยังไม่ได้ เขาเรียกทานภายใน คือให้ของภายในกายนี่เป็น “ทานภายใน” ให้ของนอกกายเขาเรียก “ทานภายนอก” นะ ยังจะถือว่าเป็นปรมัตถทานไม่ได้นะ ถ้าเป็นปรมัตถทานต้องอย่างที่พระพุทธเจ้าท่านทำ”

    ผู้ถาม :- “เป็นยังไงครับหลวงพ่อ…?”

    หลวงพ่อ :- “เชือดเนื้อเอาไปเลี้ยงเขาเลย”

    ผู้ถาม :- “ถึงขนาดนั้นเชียวหรือครับ…?”

    หลวงพ่อ :- “ใช่ นั่นเป็น “ปรมัตถทาน” เราถือว่าเป็นปกติทานก็แล้วกัน แต่เป็นทานภายในเพราะอานิสงส์สูงมาก อาจจะสูงกว่าทานภายนอกสักหน่อยหนึ่งนะ”

    ผู้ถาม :- “แล้ว การบริจาคโลหิต กับ การอุทิศร่างกายให้กับโรงพยาบาล เป็นทาน อันไหนมีอานิสงส์มากกว่ากันครับ…?”

    หลวงพ่อ :- “อุทิศเลือดให้ขณะยังไม่ตายมีอานิสงส์สูงกว่าเมื่อตายแล้ว ตายแล้วเหมือนของเขาทิ้งแล้ว ร่างกายใช้อะไรไม่ได้ มีประโยชน์เพียงแค่วัตถุทาน จะให้มีอานิสงส์สูงเท่ากับให้เลือดตอนมีชีวิตอยู่นั้นไม่ได้แน่ ใช่ไหม…

    ดูอย่างพระพุทธเจ้าเมื่อสมัยเป็นพระเวสสันดร ตอนนั้นที่คนเขามาขอช้างหรือของต่าง ๆ พระองค์ก็คิดว่าทำไมไม่ขอดวงตา ถ้าขอท่านก็จะให้ ไม่ว่าจะเป็นแขนซ้ายหรือแขนขวาก็จะให้ นี่ท่านตั้งใจให้ตอนมีชีวิตอยู่ ไม่ใช่ตอนตายแล้ว ฉะนั้นถ้าให้ได้ก็เป็นปรมัตถบารมี

    ผู้ถาม :- “ทีนี้ถ้าจะบริจาคร่างกายให้นักศึกษาแพทย์เขาศึกษาต่อเมื่อเราตายแล้ว แต่อธิฐานไว้ว่า “ตายเมื่อไรขอพ้นจากวัฏฏสงสาร” อย่างนี้จะมีโอกาสไม่ให้มาเกิดอีกใช่หรือเปล่าครับ…?”

    หลวงพ่อ :- “ถ้าเวลาจะตายนะ จิตตัดกิเลสแน่นอน ไม่อยากมาเกิดอีก หรือเมื่อนั้นเมื่อเวลาจะตาย จิตตัดความรักในระหว่างเพศ ตัดความโกรธ ก็ไม่มาเกิดอีก มันไม่แน่นะ เดาส่งไม่ได้ มันเฉพาะจิตใช่ไหม…จะเดาไม่ได้ แต่บังเอิญก่อนที่จะตาย เวลานี้ทรงอารมณ์ของพระโสดาบันได้นะ และก็ตัดสินใจไว้เสมอทุกเช้าว่า “ร่างกายนี้ตายเมื่อไร ขอไปนิพพานเมื่อนั้น” อันนี้จิตทรงตัวแน่นอน อย่างนี้ไปได้ทันที”

    จากหนังสือ หลวงพ่อตอบปัญหาธรรม ฉบับพิเศษ เล่ม ๔ หน้า ๗๖-๗๗
    พระเดชพระคุณหลวงพ่อพระราชพรหมยาน (หลวงพ่อฤๅษี วัดท่าซุง)

    36187867_1895379447149597_6505104342071115776_n.jpg

    ที่มา คำสอนหลวงพ่อฤาษี (ลิงดำ)
     
  3. ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง

    ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    4,338
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +121
  4. ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง

    ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    4,338
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +121
    1530084730_680_hqdefault.jpg

    ความจริงเรื่องพระองค์ที่ 10
    ความจริงเรื่องพระองค์ที่ 10 – โดย หลวงพ่อฤาษีลิงดำ

    ที่มา คำสอนหลวงพ่อฤาษี (ลิงดำ)
     
  5. ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง

    ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    4,338
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +121
  6. ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง

    ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    4,338
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +121
  7. ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง

    ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    4,338
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +121
  8. ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง

    ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    4,338
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +121
    การโมทนาบุญ โดยหลวงพ่อฤาษีลิงดำ

    ผู้ถาม : มีคนฝากให้มาถามหลวงพ่อว่า พ่อแม่ไม่ค่อยทำบุญแต่เป็นคนดี คนซื่อ ถ้าบุตรหลานทำให้แล้วจะใส่ชื่อเขาด้วย อยากทราบว่า ท่านจะได้หรือไม่ครับ

    หลวงพ่อ เขาโมทนาด้วยหรือเปล่า ถ้าลูกไปบอกว่า “พ่อ(หรือแม่) ฉันทำบุญให้แล้ว ถ้าท่านยินดีด้วย ท่านได้แน่นอน ถ้าบอก กูไม่รู้โว้ย ด่าตะเพิด อันนี้ไม่ได้แน่

    ผู้ถาม : อย่างเวลาเลิกพระกรรมฐานแล้ว ก็มีคนไปถวายสังฆทานกับหลวงพ่อ แต่หนูไม่มีของก็ยกมืออนุโมทนาด้วย อย่างนี้จะมีอานิสงส์ไหมคะ…?

    หลวงพ่อ อานิสงค์ที่จะพึงได้ก็คือ ปัตตานุโมทนามัย เป็นผลกำไรจากการเจริญพระกรรมฐานไม่ต้องลงทุน ถ้าตั้งใจจริงถึง 90 เปอร์เซ็นต์ เจ้าของได้ 100 เปอร์เซ็นต์ เราได้ครั้งละ 90 ผ่านไป 10 คนเราได้ 900 มากกว่าเจ้าของ เอ้า! เยอะจริงๆ มันทำบารมีให้เต็มเร็ว เร็วมาก

    การโมทนา เขาแปลว่า ยินดีด้วย ต้องยินดีด้วยความจริงใจนะ สักแต่ว่า สาธุ มันไม่ได้อะไร คำว่า “สาธุ” ไม่จำเป็นต้องออกเสียง ไม่จำเป็นต้องยกมือไหว้ก็ได้ เอาใจยินดีใช้ได้เลย
    และการแสดงความยินดีมันก็คือ มุทิตา เป็นตัวหนึ่งใน พรหมวิหาร 4 นี่บุญตัวใหญ่ ที่พระพุทธเจ้าบอกว่า “จิตเต อสังกิลิฏเฐ สุคติ ปาฏิกังขา” ถ้าก่อนตายจิตผ่องใส ก็ไปสู่สุคติ หมายถึง สวรรค์ ก็ได้ พรหมก็ได้ นิพพานก็ได้ สุดแล้วแต่กำลังใจเรา

    และการโมทนานี่ทำให้ชุ่มชื่นใจ ใช่ไหม….เขาทำดีเรายินดีด้วย ยินดีกับความดีของเขา ไม่ช้าเราก็ดีตามเขา เพราะเราเห็นเขาดี เราก็ชอบดีใช่ไหม… แต่อย่าไปชอบดีเฉยๆ นะ ต้องทำดีด้วยนะ ทำบุญด้วยตนเองบ้าง

    ผู้ถาม : หลวงพ่อครับ ปัตตานุโมทนามัย กับ ไวยาวัจจมัย นี่เหมือนกันไหมครับ

    หลวงพ่อ ไวยาวัจจมัย เขาแปลว่า ขวนขวายในกิจการงาน เช่น เขาส่งสตางค์มาทำบุญ เราช่วยส่งต่อ หรือพวกที่ช่วยขนสังฆทานนี่ ก็พลอยได้บุญไปด้วย มีอานิสงส์ต่ำกว่าบวรเณรนิดหนึ่ง ไม่เบานะ
    แต่ ปัตตานุโมทนามัย ไม่ต้องลงทุน แต่พวกถือมานี่ ยังต้องออกแรงนะ พวกโมทนานี่ไม่ต้องออกแรงเลย แต่อย่าลืมนะเอาแค่โมทนาอย่างเดียวไม่ดีนะ ต้องอาศัยคนต้นตลอด ถ้าไม่ได้อาศัยคนต้นจริงๆ จะสำเร็จมรรคผลไม่ได้ เช่นเดียวกับ พระนางพิมพา ต้องอาศัยพระพุทธเจ้าตลอด

    16681566_1382761891744691_2453970315642359278_n.jpg
    การโมทนาบุญ โดยหลวงพ่อฤาษีลิงดำ

    ผู้ถาม : มีคนฝากให้มาถามหลวงพ่อว่า พ่อแม่ไม่ค่อยทำบุญแต่เป็นคนดี คนซื่อ ถ้าบุตรหลานทำให้แล้วจะใส่ชื่อเขาด้วย อยากทราบว่า ท่านจะได้หรือไม่ครับ

    หลวงพ่อ เขาโมทนาด้วยหรือเปล่า ถ้าลูกไปบอกว่า “พ่อ(หรือแม่) ฉันทำบุญให้แล้ว ถ้าท่านยินดีด้วย ท่านได้แน่นอน ถ้าบอก กูไม่รู้โว้ย ด่าตะเพิด อันนี้ไม่ได้แน่

    ผู้ถาม : อย่างเวลาเลิกพระกรรมฐานแล้ว ก็มีคนไปถวายสังฆทานกับหลวงพ่อ แต่หนูไม่มีของก็ยกมืออนุโมทนาด้วย อย่างนี้จะมีอานิสงส์ไหมคะ…?

    หลวงพ่อ อานิสงค์ที่จะพึงได้ก็คือ ปัตตานุโมทนามัย เป็นผลกำไรจากการเจริญพระกรรมฐานไม่ต้องลงทุน ถ้าตั้งใจจริงถึง 90 เปอร์เซ็นต์ เจ้าของได้ 100 เปอร์เซ็นต์ เราได้ครั้งละ 90 ผ่านไป 10 คนเราได้ 900 มากกว่าเจ้าของ เอ้า! เยอะจริงๆ มันทำบารมีให้เต็มเร็ว เร็วมาก

    การโมทนา เขาแปลว่า ยินดีด้วย ต้องยินดีด้วยความจริงใจนะ สักแต่ว่า สาธุ มันไม่ได้อะไร คำว่า “สาธุ” ไม่จำเป็นต้องออกเสียง ไม่จำเป็นต้องยกมือไหว้ก็ได้ เอาใจยินดีใช้ได้เลย
    และการแสดงความยินดีมันก็คือ มุทิตา เป็นตัวหนึ่งใน พรหมวิหาร 4 นี่บุญตัวใหญ่ ที่พระพุทธเจ้าบอกว่า “จิตเต อสังกิลิฏเฐ สุคติ ปาฏิกังขา” ถ้าก่อนตายจิตผ่องใส ก็ไปสู่สุคติ หมายถึง สวรรค์ ก็ได้ พรหมก็ได้ นิพพานก็ได้ สุดแล้วแต่กำลังใจเรา

    และการโมทนานี่ทำให้ชุ่มชื่นใจ ใช่ไหม….เขาทำดีเรายินดีด้วย ยินดีกับความดีของเขา ไม่ช้าเราก็ดีตามเขา เพราะเราเห็นเขาดี เราก็ชอบดีใช่ไหม… แต่อย่าไปชอบดีเฉยๆ นะ ต้องทำดีด้วยนะ ทำบุญด้วยตนเองบ้าง

    ผู้ถาม : หลวงพ่อครับ ปัตตานุโมทนามัย กับ ไวยาวัจจมัย นี่เหมือนกันไหมครับ

    หลวงพ่อ ไวยาวัจจมัย เขาแปลว่า ขวนขวายในกิจการงาน เช่น เขาส่งสตางค์มาทำบุญ เราช่วยส่งต่อ หรือพวกที่ช่วยขนสังฆทานนี่ ก็พลอยได้บุญไปด้วย มีอานิสงส์ต่ำกว่าบวรเณรนิดหนึ่ง ไม่เบานะ
    แต่ ปัตตานุโมทนามัย ไม่ต้องลงทุน แต่พวกถือมานี่ ยังต้องออกแรงนะ พวกโมทนานี่ไม่ต้องออกแรงเลย แต่อย่าลืมนะเอาแค่โมทนาอย่างเดียวไม่ดีนะ ต้องอาศัยคนต้นตลอด ถ้าไม่ได้อาศัยคนต้นจริงๆ จะสำเร็จมรรคผลไม่ได้ เช่นเดียวกับ พระนางพิมพา ต้องอาศัยพระพุทธเจ้าตลอด

    ที่มา คำสอนหลวงพ่อฤาษี (ลิงดำ)
     
  9. ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง

    ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    4,338
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +121
    กลิ่นธูป ควันเทียน
    ผู้ถาม หลวงพ่อคะ เวลาคนที่ตายแล้ว เราก็ไปกราบศพแต่ได้กลิ่นธูป หรือควันเทียน อย่างนี้หมายความว่าอย่างไรคะ
    หลวงพ่อ นั่นเขาแสดงปรากฏเป็นกลิ่นธูป ควันเทียน ถ้าเป็นกลิ่นธูปก็แสดงว่าอยู่สูง ถ้าเป็นกลิ่นธูปหอมนะ ก็แสดงว่าอยู่สูงมาก ถ้าเป็นกลิ่นกระแจะหรือน้ำหอมธรรมดาก็ไม่ใช่ กลิ่นดอกไม้ก็ไม่เชิง มันผสมผสานกัน อันนี้อยู่ชั้นกามาวจร ถ้าเป็นกลิ่นธูปจัดหน่อยก็ต้องนับเป็น ๒ จุด คือ พรหมกับนิพพาน พรหมกับนิพพานนี่กลิ่นคล้ายคลึงกันมาก
    ผู้ถาม แต่เคยได้กลิ่นเหล้าฉุนๆ อยากทราบว่า เป็นช้นไหนครับ
    หลวงพ่อ โลหะกุมภี…เทวดาชั้นนี้แข็งแรงมาก ใจดีที่สุด ถ้าไปที่นั้นไม่ต้องซื้อข้าวกิน กรอกใส่ปากเลยทนไม่ไหว จับนอนกรอกปากอีก แหม…ไอ้กลิ่นเหล้านี่น่าจะเป็นเทวดาบางยี่ขัน กลิ่นแปลกจริงๆนะ นี่ต้องพิจารณากันก่อนนะ ถ้าหากคนที่เคยเคารพนับถือก็ดี คนที่ไม่เคารพนับถือก็ดี ที่ติดเหล้าแล้วตายไปมีไหม…ต้องนึกถึงคนนั้นก่อน บางทีเขาอาจจะเป็นเทวดา เวลาเขามา เขาอาจจะแสดงกลิ่นเหล้าให้ปรากฏ จะได้ทราบว่าท่านมาแล้ว อย่าไปโทษว่าเขาเป็นสัตว์นรกเสมอไปไม่ได้นะ
    ผู้ถาม ถ้าหากว่าเราได้กลิ่นอย่างนี้ เอากลิ่นเป็นอนุสติเราตายแล้วจะเป็นอย่างไรครับ
    หลวงพ่อ ก็สบาย…ไปอยู่โลหะกุภี ดีจริงๆ เลย ตั้งเป็นฌานไว้นะ ไม่ไปไหนเลย ดิ่ง…ป๋อง…ลงท่อทองแดง!
    ผู้ถาม ยังงั้นเปลี่ยนใหม่ดีกว่า เอาเป็นกลิ่นธูปควันเทียนก็แล้วกันครับ
    หลวงพ่อ เอาอย่างนี้ดีกว่า เอากลิ่นเย็นๆดีไหม…จะได้ลงโลกันตนรกเลย
    ผู้ถาม ที่นี้มีผู้หญิงอีกคนหนึ่งแกมาเล่าให้ฟังว่าเวลาสวดมนต์เห็นแม่ที่ตายไปแล้วมานั่งอยู่ข้างๆ และได้กลิ่นธูปเสมอ เขาสงสัยว่า แม่ยังห่วงอะไรอยู่หรือเปล่าครับ
    หลวงพ่อ กลิ่นสูงหรือกลิ่นต่ำ
    ผู้ถาม เอ…ไม่ยักบอก เอ๊ะ! หลวงพ่อกลิ่นสูงกลิ่นต่ำเป็นยังไงครับ
    หลวงพ่อ ไอ้กลิ่นต่ำน่ะ กลิ่นมากหน่อย กลิ่นสูงน่ะ กลิ่นธรรมดา เราเคยสัมผัสอยู่เสมอ
    ผู้ถาม อย่างกลิ่นธูปควันเทียนน่ะหรือครับ
    หลวงพ่อ ถ้าอย่างนั้นดี ไม่เหมือนกลิ่นปุ๋งๆ
    ผู้ถาม (หัวเราะ)
    หลวงพ่อ ข้อนี้ตอบไม่ยากเลย ที่มาให้เห็นนั่นแสดงว่า ท่านสบายมากแล้ว ถ้าไม่สบายมากท่านจะมาให้เห็นภาพไม่ได้ ถ้าแสดงให้เห็นปรากฏแสดงว่าเขามีความสุขมาก เมื่อเขาเป็นเทวดาหรือพรหมเขาก็ห่วงลูกหลานจะตกนรก ถ้านึกถึงพ่อแม่เป็นความกตัญญูรู้คุณ เป็นเทวดาได้นะใช่ไหม…แล้วยิ่งสวดมนต์อยู่อย่างนั้น ได้กลิ่นแม่ด้วย มีความรู้สึกว่าแม่มาด้วย อันนี้ดีมาก แต่สงสัยว่าตอนนั้นแกสวดแม่หรือเปล่า ถ้าไม่สวดแม่นะ และแกใจดีนะ เห็นว่าแม่มาด้วย อันนี้เป็นความกตัญญูรู้คุณ แค่ตัวเดียวนี่ไปสวรรค์จิตเป็นอุปจารสมาธิพอดี ถ้าจิตเป็นอุปจารสมาธิจิตมันก็เป็นทิพย์สามารถจะเห็นได้

    (หลวงพ่อตอบปัญหาธรรม ฉบับพิเศษ เล่ม ๗ หน้า ๑๐๕-๑๐๗)

    36915075_1916050871749121_3952310278229590016_n.jpg

    ที่มา คำสอนหลวงพ่อฤาษี (ลิงดำ)
     
  10. ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง

    ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    4,338
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +121
    พระอริยสงฆ์ เป็นเนื้อนาบุญของโลก ไม่มีเนื้อนาบุญอื่นยิ่งกว่า

    เรื่องที่ ๑๕๗ตายจากคน (ผู้หญิงแขก-มุสลิม)ไปเกิดเป็นเปรต มาขอบุญอาตมาแล้วไปเกิดบนสวรรค์ชั้นดาวดึงสเทวโลก

    “..อาตมาเดินทางไปภาคใต้เมื่อวันที่๑๑มิถุนายนพ.ศ.๒๕๑๗ได้ไปพักที่บ้านพักของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตที่อำเภอหาดใหญ่จังหวัดสงขลา ก่อนจะนอน อาตมาก็บูชาพระคือบูชาความดีขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เมื่อบูชาพระแล้วก็นอน เมื่อนอนลงไปแล้วก็คิดถึงการเดินทางมาสายใต้คราวนี้ อารมณ์จิตก็น้อมนึกถึงคุณความดี ของพระพุุทธเจ้า และนึกถึงความดีของท่านผู้มีพระคุณ คือบรรดาท่านบุพการีทั้งหลายที่ได้ปกป้องคุ้มครองรักษาผืนแผ่นดินไทยนี้ไว้ ให้พวกเราได้อาศัยมาจนถึงปัจจุบันนี้ และคิดถึงองค์สมเด็จพระบรมครู ทรงกล่าวว่า “โลกนี้ไม่มีอะไรทรงตัว” ทุกชาติทุกภาษา ทุกกาลทุกสมัย ต้องตายไปหมด แม้แต่ในสมัยที่องค์สมเด็จพระจอมไตรทรงพระชนม์อยู่ก็เหมือนกัน พอคิดอย่างนี้ใจก็สบาย เห็นว่าร่างกายของเรานี้ ไม่ช้าไม่นานเท่าไร มันก็จะสิ้นไป

    ทำท่าว่าจะหลับปรากฏว่าพบผีผู้หญิงแขก ประมาณ ๓๐-๔๐ คน แต่งตัวเป็นสาวแขกธรรมดา เป็นพวกนับถือศาสนาอิสลามหัวหน้ายกมือไหว้ ทั้งหมดก็ยกมือไหว้ จึงถามว่า “เมื่อเธอนับถือศาสนาอิสลามแล้ว มาไหว้พระในพระพุทธศาสนานี่ ไม่เป็นการผิดระเบียบของศาสนาเธอหรือ” เธอตอบว่า “เป็นผีไม่ผิด เพราะว่าผีต้องการอย่างเดียว คือความดี ของผู้ที่เราจะเข้าไปไหว้” จึงถามว่า”อาตมามีความดีอะไร” ธอตอบว่า “ความดีที่เห็นง่ายๆ ก็คือ ผีมาท่านเห็นได้” ก็บอกว่า”ก็เธอทำให้ฉันเห็นนี่ ฉันก็เห็นซิ ถ้าเธอไม่ทำให้ฉันเห็น ฉันจะเห็นได้อย่างไร”เธอตอบว่า “คนทั้งหลายทำให้เห็นมามาก
    แล้วไม่มีใครเห็น พระในพระพุทธศาสนาก็มากมาย แสดงให้ปรากฏก็ไม่ยอมเห็น บรรดาแขกด้วยกันแสดงให้ปรากฏก็ไม่เห็น”

    ถามว่า “พวกเธอไม่ได้ตกนรกรึ ศาสนาของเธอ แนะนำให้ลงนรกมากกว่าไปสวรรค์ เพราะว่าการจะกินอะไร ก็ต้องฆ่าด้วยมือเอง ถือว่าสัตว์เป็นอาหารของชาวบ้าน” เธอตอบว่า “กิจการฆ่านั้นส่วนใหญ่เป็นเรื่องของผู้ชาย ไม่ใช่เรื่องของผู้หญิง ผู้ชายเขาทำและผู้หญิงก็ทำต่อฉะนั้นพวกฉันจึงเลียบๆเคียงๆ อยู่ใกล้นรก” แสดงว่าพวกเธอแต่ว่าเป็นเปรตระดับเบา เพราะไม่ได้ลงมือฆ่าสัตว์เอง ได้ถามว่า “พวกเธอมาเพื่อประสงค์อะไร”เธอตอบว่า “เธอตั้งใจจะมาขอบุญกุศล”จึงถามว่า “บุญในศาสนาพุทธจะเข้าไปถึงคนในศาสนาอิสลามได้อย่างไร” เธอตอบว่า “ศาสนาไหนไม่สำคัญ เป็นผีแล้วรับได้หมด แม้แต่นรกสวรรค์ ก็ไม่ได้แยกนรกแขก นรกไทย จะเป็นศาสนาไหนก็ตามลงนรกเดียวกัน ขึ้นสวรรค์ก็เขตเดียวกัน เป็นพรหมก็เหมือนกัน ถ้าบุญถึง”อาตมาเห็นหน้าพวกเธอเศร้าๆ เลยเห็นใจ บอก่า”ถ้าอย่างนั้นละก็อย่าพูดมากเลย เดี๋ยวเธอจะอยู่ไม่ได้นาน ให้ตั้งใจโมทนา”

    อาตมาจึงได้อุทิศส่วนกุศลว่า “ผลบุญใดพึงให้ประโยชน์ความสุขแก่เราเพียงใด ขอเธอทั้งหลายจงโมทนาส่วนกุศลนี้ และจงได้รับประโยชน์และความสุขเช่นเดียวกับเรา จะพึงได้รับ นับตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป”

    บรรดาสาวแขกทั้งหลายก็พากันกราบ ๓ ครั้ง กราบครั้งแรกเงยหน้าขึ้นมาเห็นภาพเดิม กราบครั้งที่สองก็เห็นภาพเดิม พอกราบครั้งที่สามเงยหน้าขึ้นมา คราวนี้แพรวพราวไปด้วยเครื่องประดับ อาตมาถามว่า”เธอจะไปไหน” เธอตอบว่า “ไปเป็นบริวารเขา ที่สวรรค์ชั้นดาวดึงส์ก็ยังดีกว่าเป็นสัตว์นรก และเป็นบริวารของเทวดา ก็ดีว่าเป็นหัวหน้าของคน ในเมืองมนุษย์” เธอบอกอีกว่า “จากนี้ไปเธอมีความสุข”

    ในเมื่อบรรดาสาวน้อยและสาวใหญ่ทั้งหลายเปลี่ยนกายจากคน เป็นเทวดาด้วยอำนาจปัตตานุโมทนามัย เป็นการพิสูจน์ว่าคำสั่งสอนขององค์สมเด็จพระทศพลบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าไม่ไร้ผล เพราะพระองค์ทรงกล่าวว่า “บุญย่อมเกิดขึ้นได้ด้วยอำนาจปัตตานุโมทนามัยคืออนุโมทนาในความดี ยินดีกับความดีที่บุคคลอื่นทำแล้ว เป็นกิริยาที่ทำให้เกิดบุญและเป็น ๑ ในพรหมวิหาร ๔คือตัวมุทิตา

    เป็นอันว่าทุกคนที่เกิดมาในโลกมนุษย์ ถึงแม้จะมีเชื้อชาติ รูปร่างหน้าตา ผิวพรรณ ภาษา แตกต่างกันไปก็ตาม จะเป็นชนชาติใด ภาษาใด ก็ตาม ในที่สุดก็ต้องตายเหมือนกันหมด เมื่อตายแล้วก็ต้องไปเกิดใหม่ทุกคน ดังที่องค์สมเด็จพระบรมครูตรัสไว้ว่า”ตายแล้วไม่สูญ”และแดนต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นแดนนรก แดนสวรรค์ แดนพรหม และแดนพระนิพพาน ก็เป็นที่เดียวกัน ไม่มีการแยกนรกแขก นรกไทย สวรรค์ก็เขตเดียวกัน เป็นพรหม ก็เหมือนกัน ถ้าบุญถึงเขตนั้น..”

    หนังสือ ตายแล้วไม่สูญ…แล้วไปไหน

    36903133_1917523668268508_4377540709440290816_n.jpg

    ที่มา คำสอนหลวงพ่อฤาษี (ลิงดำ)
     
  11. ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง

    ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    4,338
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +121
    พระโสดาบันไม่ใช่ของสูง เป็นของธรรมดา ความจริงพระโสดาบันไม่ใช่ของสูง เป็นของธรรมดา ที่เรียกกันว่า ชาวบ้านชั้นดี ถ้าพระอริยะเบื้องสูงซึ่งกล่าวว่าพระโสดาบัน คือธรรมที่จะทำให้คนเป็นพระโสดาบันเหมือนกับของเด็กเล่น คือ เป็นของทำง่ายๆ มีพรหมวิหาร ๔ ประจำใจ เราก็เป็นพระโสดาบันได้แบบสบายถ้าเรามีความฉลาด
    ที่มา : ทางสายเข้าสู่พระนิพพาน หน้า ๔

    37234330_1927048783982663_1239204816308142080_o.jpg

    ที่มา คำสอนหลวงพ่อฤาษี (ลิงดำ)
     
  12. ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง

    ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    4,338
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +121
  13. ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง

    ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    4,338
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +121
    “การโมทนา” เขาแปลว่า ยินดีด้วย
    ต้องยินดีด้วยความจริงใจนะ
    สักแต่ว่าสาธุ มันไม่ได้อะไร
    คำว่า “สาธุ”
    ไม่จำเป็นต้องออกเสียง
    ไม่จำเป็นต้องยกมือไหว้ก็ได้
    เอาใจยินดีใช้ได้เลย

    14138107_1184633898224159_1501580837740045784_o.jpg
    “การโมทนา” เขาแปลว่า ยินดีด้วย
    ต้องยินดีด้วยความจริงใจนะ
    สักแต่ว่าสาธุ มันไม่ได้อะไร
    คำว่า “สาธุ”
    ไม่จำเป็นต้องออกเสียง
    ไม่จำเป็นต้องยกมือไหว้ก็ได้
    เอาใจยินดีใช้ได้เลย

    ที่มา คำสอนหลวงพ่อฤาษี (ลิงดำ)
     
  14. ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง

    ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    4,338
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +121
  15. ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง

    ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    4,338
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +121
    ก่อนที่จะทำ ก่อนที่จะพูดน่ะ ใคร่ครวญเสียก่อน อย่าไปคิดเห็นบุคคลอื่นเขาเลว เห็นคนอื่นเลวนี่ก็กลายเป็นสร้างความเลวให้เกิดขึ้นแก่ใจเรา องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า สอนให้กล่าวโทษโจทย์ความผิดตัวเอง ว่ามันเลวไว้เสมอ หาจุดความเลวของกาย หาจุดความเลวของวาจา หาจุดความเลวของใจ อย่าไปหาจุดความดี ถ้าพบจุดความเลวจุดไหน ทำลายความเลวจุดนั้นให้หมดไป แล้วความดีมันก็ปรากฏเอง

    39581328_1987736191247255_9163017653172830208_o.jpg

    ที่มา คำสอนหลวงพ่อฤาษี (ลิงดำ)
     
  16. ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง

    ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    4,338
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +121
  17. ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง

    ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    4,338
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +121
    -ขอเชิญร่วมงาน.jpg

    แจ้งข่าว…ขอเชิญร่วมงานพิธีเททองหล่อรูป ท่านอินทกะ ทั้ง๔
    ในวันเสาร์ที่ ๒๙ กันยายน พ.ศ.๒๕๖๑ ทำพิธีหลังจากเสร็จงานในวิหารแก้ว ๑๐๐ เมตร ช่วงค่ำ
    เวลา ๑๙.๓๐ น. งานพิธีเททองหล่อรูป “ท่านอินทกะ” ทั้ง ๔ คือ ท่านมหานาคา, ท่านปิยะยาวี, ท่านศิริโภคา, ท่านมหาลาโภ เพื่อนำไปประดิษฐานในมณฑปทั้ง ๔ ทิศของเมรุลอย
    ที่มา คำสอนหลวงพ่อฤาษี (ลิงดำ)
     
  18. ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง

    ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    4,338
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +121
    37978026_1888892731191829_8152938346990010368_n.jpg

    วันอาทิตย์ที่ ๒ กันยายน ๒๕๖๑ ช่วงเช้า ท่านพระครูปลัดสมนึก สุธมฺถิรสทฺโธ เจ้าอาวาสวัดท่าซุง รับสังฆทาน ที่บ้านสายลม กทม
    วันนี้มีฝึกกรรมฐาน มโนมยิทธิฯ เวลา ๑๒.๓๐ น.
    ที่มา คำสอนหลวงพ่อฤาษี (ลิงดำ)
     
  19. ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง

    ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    4,338
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +121
  20. ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง

    ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    4,338
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +121
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...