<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=526 align=left border=0><TBODY><TR><TD align=left width=526 colSpan=3>แยมกล้วย
</TD><TR><TD align=left width=526 colSpan=3>โดย ศ. ชวนชม จันทระเปารยะ</TD><TR><TD align=left width=426 colSpan=3>
แยมโฮมเมดสูตรนี้ หาทานที่ไหนไม่ได้หรอกค่ะ นอกจากทำเอง หากไม่ชอบหวานอาจลดน้ำตาลได้บ้าง แต่ระยะเวลาที่เก็บอาจสั้นลง คือ ถ้าเก็บในตู้เย็น จะอยู่ได้ประมาณ 1-2 สัปดาห์ หลักอย่างหนึ่งในการทำแยม คือ หากเนื้อผลไม้ที่ใช้ทำรสไม่จัดพอ มักจะนิยมเติมน้ำมะนาว หรือน้ำส้ม เพื่อให้รสแหลมขึ้น และเพิ่มความเป็นวุ้นให้กับแยมด้วยค่ะ
ส่วนผสม
</TD><TD align=middle width=100></TD><TR><TD align=left width=326> กล้วยหอมห่าม
</TD><TD align=middle width=100>12
</TD><TD align=middle width=100>ผล
</TD><TR><TD align=left width=326> มะนาว
</TD><TD align=middle width=100>4
</TD><TD align=middle width=100>ผล
</TD><TR><TD align=left width=326> น้ำตาลทราย ประมาณ
</TD><TD align=middle width=100>1
</TD><TD align=middle width=100>กิโลกรัม
</TD><TR><TD align=left width=326> ส้มเกลี้ยง
</TD><TD align=middle width=100>6
</TD><TD align=middle width=100>ผล
</TD><TR><TD align=left width=526 colSpan=3>
วิธีทำ
</TD><TR><TD vAlign=top colSpan=3>
<TR><TD vAlign=bottom colSpan=3>
- ปอกเปลือกกล้วย หั่นเป็นชิ้นบางๆ แต่ให้คงเป็นแว่นรูปกล้วยไม่แตกจากกัน
- ตวงน้ำตาลในอัตราส่วนกล้วย 1 ก.ก. ต่อน้ำตาลทราย 1 1/2 ก.ก.
- ปอกเปลือกส้มเกลี้ยงเอาแต่เนื้อ หั่นเป็นชิ้นเล็กๆ
- คั้นมะนาว แล้วผสมน้ำมะนาว กล้วย ส้มเกลี้ยง เข้าด้วยกัน นำไปต้มโดยใช้ไฟอ่อนๆ นานประมาณ 15 นาที ใส่น้ำตาลทราย หมั่นคนจนน้ำตาลละลายดี และส่วนผสมเหนียวได้ที่ ปิดไฟ บรรจุลงขวดที่ทำความสะอาดไว้แล้ว ปิดฝาผนึก
</TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE cellSpacing=20 cellPadding=0 width=701 align=left border=0><TBODY><TR><TD width=175></TD></TR></TBODY></TABLE>
แยมกล้วย
ในห้อง 'เมนูอาหารและวิธีการทำอาหาร' ตั้งกระทู้โดย NoOTa, 22 มีนาคม 2006.
-
-
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=526 align=left border=0><TBODY><TR><TD align=left width=526 colSpan=3>แยมมะนาว
</TD><TR><TD align=left width=526 colSpan=3>โดย คุณวราพรรณ ชัยชนะศิริ</TD><TR><TD align=left width=426 colSpan=3>
แยมโฮมเมดสูตรนี้ อาจทำยากนิดหน่อย เพราะต้องจัดการกับผิวมะนาว ให้คลายความขมลง แต่ให้ผลลัพท์เป็นความอร่อย สำหรับใครที่ชอบมะนาว แยมสูตรนี้น่าสนใจทีเดียว หากอยากให้สีสวยอาจเติมสีผสมอาหารนิดหน่อย เพราะอย่างว่าแหละ สีมะนาวออกจะจืดชืดไปสักนิด
ส่วนผสม
</TD><TD align=middle width=100></TD><TR><TD align=left width=326> ผิวมะนาว
</TD><TD align=middle width=100>10
</TD><TD align=middle width=100>ผล
</TD><TR><TD align=left width=326> น้ำมะนาว
</TD><TD align=middle width=100>1/2
</TD><TD align=middle width=100>ถ้วย
</TD><TR><TD align=left width=326> น้ำตาลทราย
</TD><TD align=middle width=100>1
</TD><TD align=middle width=100>ถ้วย
</TD><TR><TD align=left width=326> น้ำ สำหรับปั่นผิวมะนาว
</TD><TD align=middle width=100>1
</TD><TD align=middle width=100>ถ้วย
</TD><TR><TD align=left width=326> น้ำ สำหรับผสมผงเยลาติน
</TD><TD align=middle width=100>1/2
</TD><TD align=middle width=100>ถ้วย
</TD><TR><TD align=left width=326> ผงเยลาติน
</TD><TD align=middle width=100>1/4
</TD><TD align=middle width=100>ถ้วย
</TD><TR><TD align=left width=326> เกลือ
</TD><TD align=middle width=100>5
</TD><TD align=middle width=100>ช้อนโต๊ะ
</TD><TR><TD align=left width=526 colSpan=3>
วิธีทำ
</TD><TR><TD vAlign=top colSpan=3>
- หั่นผิวมะนาวเป็นฝอยๆ ต้มในน้ำเดือด 1 ครั้ง แช่ในน้ำทิ้งไว้ประมาณ 2 ชั่วโมง แล้วนำไปขยำเกลือ ล้างด้วยน้ำสะอาด
- ต้มผิวมะนาวในน้ำเดือดอีกครั้ง ประมาณ 5 นาที แช่น้ำทิ้งไว้ 2-3 ชั่วโมง ให้ผิวมะนาวจืดลง
- แยกผิวมะนาวออกมาส่วนหนึ่ง นำมาซอยเป็นชิ้นเล็กๆ ส่วนที่เหลือปั่นพร้อมน้ำให้ละเอียด นำไปเคี่ยวกับน้ำตาลทราย และผิวมะนาวที่แยกเก็บไว้ ให้เป็นยางมะตูม ใส่ผงเยลาติน เคี่ยวต่อจนเดือด พักไว้ให้เย็น ก่อนบรรจุขวด
</TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE cellSpacing=20 cellPadding=0 width=701 align=left border=0><TBODY><TR><TD width=175></TD></TR></TBODY></TABLE> -
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=526 align=left border=0><TBODY><TR><TD align=left width=526 colSpan=3>แยมสตรอเบอรี่
</TD><TR><TD align=left width=426 colSpan=3>
แยมผลไม้ที่เราคุ้นเคย จะมีลักษณะเป็นวุ้นใส มีเนื้อผลไม้นิดหน่อย ต่างจากแยมสูตรนี้ ที่อาจไม่มีวุ้น เพราะเราไม่ได้ใส่ผงเพคติน ซึ่งเป็นสารที่ทำให้เกิดวุ้น โดยปกติเพคตินมีอยู่ในผลไม้อยู่แล้ว ที่มีมากหน่อยก็เช่น กระเจี๊ยบ สัปปะรด ส้ม สตรอเบอรี่ โดยในการทำแยม เราจะให้ความร้อนกับผลไม้ เพื่อกระตุ้นให้เกิดเพคตินมากขึ้นค่ะ
ส่วนผสม
</TD><TD align=middle width=100></TD><TR><TD align=left width=326> สตรอเบอรี่
</TD><TD align=middle width=100>200
</TD><TD align=middle width=100>กรัม
</TD><TR><TD align=left width=326> น้ำตาลทราย
</TD><TD align=middle width=100>1
</TD><TD align=middle width=100>ถ้วย
</TD><TR><TD align=left width=526 colSpan=3>
วิธีทำ
</TD><TR><TD vAlign=top colSpan=3>
- ล้างสตรอเบอรี่ให้สะอาด แกะขั้วออก หั่นเป็นชิ้นเล็กๆ พักให้สะเด็ดน้ำ
- นำสตรอเบอรี่ใส่ภาชนะก้นหนา เช่น กระทะทอง หรือหม้อสเตนเลส ยกขึ้นตั้งไฟอ่อนๆ ประมาณ 10 นาที (ไม่ต้องให้เดือด)
- ค่อยๆ เทน้ำตาลลง เร่งไฟขึ้นเล็กน้อย คนด้วยพายไม้อย่างสม่ำเสมอ จนน้ำตาลละลายหมด เร่งไฟขึ้น จนส่วนผสมเดือด 1-2 นาที ตักดูส่วนผสมหนืดขึ้น ตักแล้วไม่หยดลงมา ดับไฟ คนไปเรื่อยๆ จนส่วนผสมอุ่น และข้นขึ้น เทใส่ขวดที่ต้มฆ่าเชื้อแล้ว และแห้งดี ปิดฝา รอเย็น เก็บเข้าตู้เย็น ใช้ทานกับขนมปัง
-
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=526 align=left border=0><TBODY><TR><TD align=left width=526 colSpan=3>แยมสับปะรด
</TD><TR><TD align=left width=426 colSpan=3>
แยมสูตรนี้จะมีลักษณะเป็นวุ้น เพราะมีส่วนผสมของผงเพคติน ซึ่งหาซื้อได้จากร้านขายอุปกรณ์เบเกอรี่ทั่วไป ผงเพคตินสกัดมาจากผลไม้ที่มีเพคตินมาก จึงใช้ได้อย่างปลอดภัย และไม่ทำให้รสชาติแยมเสียไป โดยในการใช้ ต้องพยายามให้เพคตินละลายให้หมดก่อนน้ำตาล ช่วงที่ใส่เพคตินจึงควรใช้ไฟอ่อน เมื่อเพคตินละลายหมด จึงค่อยเร่งไฟขึ้น
ส่วนผสม
</TD><TD align=middle width=100></TD><TR><TD align=left width=326> เนื้อสับปะรดสับละเอียด
</TD><TD align=middle width=100>300
</TD><TD align=middle width=100>กรัม
</TD><TR><TD align=left width=326> น้ำสับปะรด
</TD><TD align=middle width=100>700
</TD><TD align=middle width=100>กรัม
</TD><TR><TD align=left width=326> น้ำตาลทราย
</TD><TD align=middle width=100>800
</TD><TD align=middle width=100>กรัม
</TD><TR><TD align=left width=326> น้ำเปล่า
</TD><TD align=middle width=100>150
</TD><TD align=middle width=100>กรัม
</TD><TR><TD align=left width=326> กรดซิตริก
</TD><TD align=middle width=100>1
</TD><TD align=middle width=100>ช้อนโต๊ะ
</TD><TR><TD align=left width=326> ผงเพคติน
</TD><TD align=middle width=100>7
</TD><TD align=middle width=100>ช้อนโต๊ะ
</TD><TR><TD align=left width=526 colSpan=3>
วิธีทำ
</TD><TR><TD vAlign=top colSpan=3>
- ผสมเนื้อสับปะรด น้ำสับปะรด น้ำเปล่า น้ำตาลทราย 400 กรัม ยกตั้งบนไฟกลางจนเนื้อสับปะรดสุกใส
- ผสมน้ำตาลทราย 400 กรัมกับเพคติน หรี่ไฟให้อ่อนลง เติมน้ำตาลลงในสับปะรด ใส่กรดซิตริกคนให้ละลาย
- เร่งไฟขึ้นเล็กน้อย คนด้วยพายไม้อย่างสม่ำเสมอ จนส่วนผสมเดือดประมาณ 1-2 นาที ตักดูส่วนผสมหนืดขึ้น ตักแล้วไม่หยดลงมา ปิดไฟ คนไปเรื่อยๆ จนส่วนผสมอุ่น และข้นขึ้น เทใส่ขวดที่ต้มฆ่าเชื้อแล้ว และแห้งดี ปิดฝา รอเย็น เก็บเข้าตู้เย็น ใช้ทานกับขนมปัง
</TD></TR></TBODY></TABLE>