โจรกรรม "มรดกเจ้า" 1,000ชิ้นมูลค่าร้อยล้านรวบแก๊งตีนแมว-คนใน

ในห้อง 'ข่าวทั่วไป' ตั้งกระทู้โดย sithiphong, 19 พฤษภาคม 2006.

  1. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,443
    ค่าพลัง:
    +141,948
    [​IMG]


    วันที่ 19 พฤษภาคม พ.ศ. 2549 ปีที่ 16 ฉบับที่ 5650​

    โจรกรรม "มรดกเจ้า" 1,000ชิ้นมูลค่าร้อยล้านรวบแก๊งตีนแมว-คนใน


    คอลัมน์ สดจากสนามข่าว

    สมชาย จรรยา/กมล แย้มอุทัย/ชูชาติ แก้วเก่า/อดิศร จิตตเสวี เรื่อง/ภาพ

    แล้วแก๊งตีนแมวที่แอบฉก "มรดกเจ้า" ขนสมบัติที่เก็บไว้ในโกดังเก็บทรัพย์สินพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าบริพัตรสุขุมพันธุ์ กรมพระนครสวรรค์วรพินิต และหม่อมเจ้าประสงค์สม (ไชยันต์) บริพัตร ก็จนมุมตำรวจจนได้

    สมบัติเก่าแก่นับพันชิ้นรวมมูลค่ากว่าร้อยล้านหวิดหายไปเพราะฝีมือคนร้ายแก๊งนี้

    ยังดีที่ตำรวจตามจับกุมตัวได้เสียก่อน!?!

    "มรดกเจ้า"ถูกมือดีย่องขโมยไปในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา นายสมภพ พลกุล เป็นตัวแทนผู้รับมอบอำนาจจากสำนักงานบริพัตร ตั้งอยู่เลขที่ 239 ถ.ตะนาว แขวงบวรนิเวศ เขตพระนคร กทม. ซึ่งเป็นสถานที่เก็บสมบัติทั้งหมด เดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวนสน.ชนะสงคราม เมื่อวันที่ 8 พ.ค. ที่ผ่านมา ระบุว่าของมีค่าทั้งหมดหายไปนับพันๆ ชิ้น

    สงสัยว่าคนในจะมีส่วนรู้เห็น

    คดีนี้อยู่ในความสนใจของนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ พล.ต.ท.วิโรจน์ จันทรังษี ผบช.น. สั่งการให้พล.ต.ต.ปราโมช ปทุมวงศ์ ผบก.น.1 ลงมาคุมคดีด้วยตนเอง มอบหมายให้พ.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รอง ผบก.น.1 พ.ต.อ.ธัมรงค์ วงศ์แป้น ผกก.สส.น.1 พ.ต.อ.วิชาญ บริรักษ์กุล ผกก.สน.ชนะสงคราม พ.ต.ท.เอกรัตน์ เปาอินทร์ สว.สส.สน.ชนะสงคราม พ.ต.ท.สมศักดิ์ โปสัยะคุปต์ สว.สส.กก.น.1 จัดกำลังเข้าร่วมคลี่คลายคดี สืบสวนหาตัวคนร้ายโดยเร็วที่สุด เพื่อป้องกันการสูญหายของมรดกที่อาจจะถูกขายทอดตลาดไป

    ตำรวจเริ่มแกะรอยคนร้ายทันที



    เจ้าหน้าที่เดินเกมจากการเช็กประวัติบุคคลที่เข้าข่ายต้องสงสัยในละแวกใกล้เคียงที่เกิดเหตุ เช็กการหมุนเวียนสินค้าในตลาดค้าของเก่า จนได้เค้ามาว่าทรัพย์สินบางอย่างมีการส่งขายทอดตลาดจริงๆ

    ดังนั้น คนร้ายจะเป็นใครไปเสียมิได้นอกจากคนวงในที่รู้ว่าสมบัติถูกเก็บรักษาไว้ที่ไหน

    เท่านี้ตำรวจก็พอจะคลำทางได้แล้ว!

    ทีมสืบสกรีนประวัติบุคคลที่เกี่ยวข้องเน้นไปที่ลูกหลานเจ้าหน้าที่ที่ทำงานในสำนักงานบริพัตร พบว่ามีลูกหลานเจ้าหน้าที่บางคนมีประวัติติดยา จึงตามประกบดูความเคลื่อนไหวทุกระยะ

    หนึ่งในจำนวนนี้มีนายอมรเทพ หรือ "หน่อง" ทักสูงเนิน อายุ 26 ปี เป็นที่น่าสงสัยมากที่สุด เพราะช่วงหลังมีเงินทองใช้จ่ายฟุ่มเฟือย มักจะติดต่อและไปไหนมาไหนกับพวกพ่อค้ารับซื้อของเก่าเป็นประจำ

    โฟกัสจึงจับไปที่ "ไอ้หน่อง"

    ตำรวจได้ข้อมูลมาว่าระยะหลัง "ไอ้หน่อง" คบหาอยู่กับนายวัชรินทร์ หรือ "ปู" กมลทิพย์ อายุ 39 ปี และนายตี๋ ไม่ทราบชื่อและนามสกุลจริง ตามสะกดรอยจนรู้ว่า ทั้ง 3 คนแอบเก็บซ่อนทรัพย์สินมีค่าไว้ที่บ้านพักของนายวัชรินทร์ ย่านนนทบุรี

    บ่ายวันที่ 10 พ.ค. พล.ต.ต.ปราโมทย์ จึงถือหมายศาลเข้าตรวจค้นบ้านนายวัชรินทร์ ที่บ้านเลขที่ 50/92 และ 50/64 หมู่บ้านรรินธร ม.5 ซ.6 ต.บางสีทอง อ.บางกรวย จ.นนทบุรี แต่ไม่พบไอ้ปู เจอเพียงมรดกเจ้าที่ถูกขโมยมานับพันชิ้น อาทิ เครื่องลายคราม งาช้าง เครื่องสังคโลก ไปป์ของรัชกาลที่ 5 ประเมินมูลค่ากว่า 100 ล้านบาท ขณะเดียวกันตำรวจได้เข้าค้นที่บ้านพักของนายอมรเทพ ย่านถนนตะนาว เขตพระนคร สามารถยึดของกลางมาได้อีกจำนวนหนึ่ง

    "ไอ้หน่อง" ยอมรับสารภาพตลอดข้อหา



    "ไอ้หน่อง" ให้การว่า ร่วมกับนายวัชรินทร์และนายตี๋ เข้าไปลักทรัพย์ตั้งแต่ช่วงกลางเดือนมี.ค. โดยตอนแรกตนลงมือคนเดียว เพราะรู้ที่เก็บรักษาสมบัติเก่าเหล่านี้เป็นอย่างดี ได้ของมาจึงเอาไปขายให้นายวัชรินทร์กับนายตี๋ ตอนหลังจึงร่วมมือกันบุกเข้าไปขโมยของทั้งหมด โดยนายวัชรินทร์เป็นคนว่าจ้าง ให้เงินค่าเหนื่อยครั้งละประมาณ 5 พันบาท

    "พวกเราจะลงมือในช่วงตี 1 ถึงตี 3 ในแต่ละครั้งจะนำทรัพย์สินที่ได้ขนใส่ลังออกมา 1-2 ลังใหญ่ๆ ทำมาประมาณ 5-6 ครั้ง ได้ของมาก็จะใช้รถสามล้อเข็นผักเข็นไปเก็บไว้ที่เกสต์เฮ้าส์ของนายวัชรินทร์ที่อยู่ใกล้เคียงกัน" ไอ้หน่องให้การ

    แต่ทว่าตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อว่าผู้ต้องหาทั้งหมดจะเข้าไปลักทรัพย์เพียง 5-6 ครั้ง เพราะของที่ตรวจยึดมาได้นั้นมีจำนวนมาก

    มากเสียจนต้องใช้เวลาขนย้ายนานนับสัปดาห์ ใช้เวลานับนานกว่า 3 วัน เนื่องจากทรัพย์สินแต่ละชิ้นแบ่งเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยมากมายหลายรายการ

    สำหรับ "ไอ้ปู" จนมุมตำรวจกก.สส.บก.น.1 ภายใต้การนำของร.ต.อ.อัครเดช สุริยงค์ รอง สว.กก.สส.บก.น.1 ที่ตามขึ้นไปล่าตัวมันถึงจังหวัดเชียงราย ถูกจับกุมได้ตอนสายวันที่ 12 พ.ค. ที่ผ่านมา ส่วน "ไอ้ตี๋" พนักงานสอบสวนขออนุมัติหมายศาลอาญาธนบุรี เลขที่ 1964/2549 จับกุมในข้อหาร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองทรัพย์ ตำรวจมั่นใจว่าจะได้ตัวในเร็ววันนี้

    ส่วนจะมีคนอื่นเกี่ยวข้องอีกหรือไม่กำลังขยายผลอยู่!



    นายเทียงซ้ง เลิศอักษฎมงคล เจ้าของร้าน "โชคดีวัตถุโบราณ" ผู้เชี่ยวชาญวัตถุโบราณที่เจ้าหน้าที่เชิญมาร่วมตรวจสอบทรัพย์สินของกลาง ระบุว่า อยู่ในวงการวัตถุโบราณมากว่า 60 ปี ตั้งแต่อายุ 10 ขวบ ยังไม่เคยเห็นทรัพย์ที่มีค่ามากมายขนาดนี้มาก่อน แต่ละชิ้นมีอายุไม่ต่ำกว่า 100 ปี และเป็นสมบัติของเจ้านายชั้นสูงที่คนธรรมดาอย่างพวกเราไม่มีทางได้เห็น เช่น พระบรมรูปรัชกาลที่ 4 แกะสลักด้วยหินอ่อนชั้นดีจากประเทศอิตาลี ที่รัชกาลที่ 5 ทรงสั่งทำขึ้นเป็นชิ้นเดียวในโลก มูลค่าประเมินราวๆ 4 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังมีเครื่องทองน้อยที่มีอักษรจปร. ประทับอยู่อีกนับพันชิ้น ภาพพระบรมฉายาลักษณ์ของรัชกาลที่ 7 ที่ทรงลงลายพระหัตถ์พระราชทานแก่พระประยุรญาติในปี พ.ศ.2469 ซึ่งทรัพย์สินที่เจ้าหน้าที่ตรวจยึดได้ในครั้งนี้น่าจะมีมูลค่ามากกว่า 100 ล้าน

    "ของกลางทั้งหมดต้องจ้างบริษัท ฮ่องกง บรรจุพัสดุ มาเป็นคนจัดเก็บ เพราะของแต่ละชิ้นบอบบางและเป็นของหายาก มีคุณค่าและราคาแพงมาก ต้องใช้ผู้ชำนาญการในการจัดเก็บ ของกลางทุกชิ้นมีความเก่ามาก สังเกตจากกระดาษหนังสือพิมพ์ที่ใช้ห่อเป็นหนังสือพิมพ์เมื่อปีพ.ศ.2469 หรือ 80 ปีก่อน" นายเทียงซ้งตั้งข้อสังเกต

    แล้วสมบัติของแผ่นดินก็กลับคืนมาอีกครั้ง
     

แชร์หน้านี้

Loading...