เวลาเหมือนอยู่ในภวังค์ให้ภาวนาครับ เช่นหลวงพ่อฤาษีลิงดำท่านก็ให้สวดว่า
พุทธังเมฆะนิมิตจิตตังสมาธิยามิ มะอะอุ
ธัมมังเมฆะนิมิตจิตตังสมาธิยามิ อุอะมะ
สังฆังเมฆะนิมิตจิตตังสมาธิยามิ อะมะอุ
กล่าวสามคาบ ทบทวนว่าท่องตรงใหม แล้วดูว่าภวังค์นั้นหายไปใหม ถ้ายังอยู่
ก็แสดงว่าสติเรายังดีอยู่ ถ้าท่องไม่ตรงหรือจำคำภาวนาไม่ได้ภวังค์นั้นก็ไม่ใช่
ถ้าท่องได้ นิมิตยังอยู่พร้อมก็ให้ดูสภาพนั้น ทั้งสภาวะ แสงสว่าง อารมณ์
และสภาพทางกาย เหมือนเราสำรวจบ้านนั่นล่ะ
แต่การเข้าไปสภาพของสมาธิแบบฌาณแบบนี้ อย่าเข้าบ่อยในขณะที่เราไม่
ได้นั่งสมาธิเพราะถ้าเราทำขณะยืนนั้นจะทำให้ร่างกายเราอ่อนแอลง ใจเราจะ
ไม่สว่างด้วยอำนาจฌาณกดใว้ สติปัญญาในการพิจารณาธรรมจะพร่อง
มันจะดึงใจเราให้ไปสู่อุเบกขาวางเฉยไปซะงั้น ธรรมหมวดไหนมา
สภาวะธรรมใดๆมาก็จะกลายเป็นอุเบกขาไป ไม่อาจเกิดปัญญารู้แจ้งได้
การเข้าแบบนั้นให้ทำตอนนั่ง ส่วนตอนทำงานปกติด้วยเราไม่ใช่พระจึง
กำหนดใว้ว่าให้เข้าแค่ฌาณหนึ่งเพื่อรองรับสภาวะธรรมรวมถึงกิเลสต่างๆ
ที่มาตามวาระเพื่อการลดละวางอย่างใช้ปัญญาในการวางไม่ใช่ใช้ฌาณกดใว้
ถ้าสงสัยอะไรก็นั่งสมาธิใช้อำนาจฌาณเข้าไปดูปฐมมูลเหตุของเรื่องนั้นๆ
เช่นข้อสงสัยของเราว่าเขาทำกรรมอะไรทำไมจึงเป็นเช่นนั้น ทั้งๆที่บางคน
อาจเป็นคนดีในสายตาเราแต่ทำไมรับกรรมเช่นนั้น เราอาจเห็น รู้ในส่วนที่เรา
ข้องใจ เพื่อคลายความสงสัยในธรรม ตัดวิจิกิจฉาในธรรมได้.
โดนขังวิญญาณ
ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย ainteerati, 14 สิงหาคม 2010.
หน้า 49 ของ 218
-
ขอบคุณมากครับ พี่จิ-โป ขออนุญาติเรียกนะครับ
อยากให้ พี่จิ-โป ครับพี่ainteerati นำประสบการณ์มาเล่าให้ฟังบ่อย ๆ ครับ
ชอบฟังมาก :cool: ฟังแล้วก็ได้คิดตามเป็น ธรรมทาน อย่างดี
ขอบคุณครับ -
เมื่อกี้ไปวัดมาเห็นสิ่งหนึ่งหัวเป็นงู ตัวเป็นงู มีแขน มีขา คล้ายๆมังกรนั่นล่ะแต่ไม่ใช่
ปรากฏว่าเป็นลูกครึ่งราชธิดาของพญานาคราชกับพญางู เห็นครั้งแรกนึกว่ามนุษย์ต่างดาว
การเห็นแบบนี้ทำให้ผมรู้ว่ายังมีสิ่งที่เรายังไม่รู้อีกมากมาย ประสบการณ์ของผมยังน้อยนัก
เอามาเล่าคงจะไม่สนุกครับ -
-
มาตลอด
อยากเก่งได้สัก 1/2 ของพี่จิ-โป จะได้ท่องผจญภัยในสิ่งที่อยากรู้ อยากรู้เรื่องของจักวาล อิอิ -
แต่ยังคงใว้ซึ่งพิษแห่งพญานาคราชเพียบพร้อม เพียงแต่เขาไม่ค่อยมีคนเอ่ย
ถึงเพราะเขาไม่ค่อยแสดงตัวออกมา เคยได้ยินเขาเรียกว่า สางห่า แต่จริงๆ
แล้วก็คือพญานาคราชจำพวกหนึ่งนั่นเอง ผมออกจะชอบเขามากกว่า
พญานาคราช เพราะมองพญานาคแล้วเหมือนมองผู้ใหญ่ แต่มองสางแล้วเหมือน
มองเพื่อนๆออกจะใจดีกว่า ไม่มีพิธีรีตองอะไร -
ดีนะที่พี่จิ-โป บอกเรื่องนิมิตและการท่องคาถา ไม่งั้นไปทำตอนไม่ได้นั่งสมาธิบ่อย ๆ หล่ะแย่เลย โดนฌานกดไว้ มองไม่เห็นไตรลักษณ์พอดีกัน
ทีโอ ตอนนี้ห่างจากสุภาพมาก ไม่ได้โทรหรือติดต่อกันอีกเลย ถ้านั่งสมาธิแล้วเราเข้าไปดูเพื่อคลายปมสงสัยลงคงไม่เป็นไรมั้งคะ แต่ว่าแต่ละคนเค้าก็มีเทวดาคุ้มครองอยู่ แบบนี้จะโดนเค้าเล่นเอาหรือเปล่าคะเนี่ย -
มาช่วยยืนยันอีกคน ว่าชอบฟังที่ คุณจิ-โป เล่าเรื่องต่างๆให้ฟังคะ...เห็นเปล่า ..มีแฟนคลับแยะเยอะเลย....(rose)
-
<TABLE class=tborder border=0 cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%"><TBODY><TR><TD class=thead>ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 2 คน ( เป็นสมาชิก 2 คน และ บุคคลทั่วไป 0 คน ) </TD><TD class=thead width="14%"><CENTER">[ แนะนำเรื่องเด่น ] </TD></TR><TR><TD class=alt1 width="100%" colSpan=2>to2504, จิ-โป </TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE class=tborder border=0 cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%"><TBODY><TR><TD class=thead>ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 2 คน ( เป็นสมาชิก 2 คน และ บุคคลทั่วไป 0 คน ) </TD><TD class=thead width="14%"><CENTER">[ แนะนำเรื่องเด่น ] </TD></TR><TR><TD class=alt1 width="100%" colSpan=2>to2504, จิ-โป </TD></TR></TBODY></TABLE>
แป่ว! เพิ่งเห็น -
เรียน ถามท่านผู้รู้ทุกท่านในห้องนะครับ
1 เทวดาประจำตัวนี่มีทุกคนหรือบางคนครับ
2 มีผ้ายันต์ท้าวเวสสุวรรณได้จากงานสวดภาณยักษ์หลายปีแล้ว ไว้อยู่ห้องนอนครับ อย่างนี้จะกระทบกระเทือนต่อวิญญาณที่ติดตามหรือเจ้ากรรมนายเวรไหมครับ เกรงว่าท่านจะโกรธเรามากขึ้นหรือไม่ โดยเรามิได้เจตนาเบียดเบียนท่าน เพียงแต่มีไว้ป้องกันสิ่งที่จะมาจากที่อื่นที่เราไม่ได้รู้จักมาก่อน เป็นคนตาขาวครับ ขนาดห้องนอนตัวเองยังแอบกลัว ^_^" -
พอดีอยู่ดึกถึงเช้ายังไม่ได้นอนครับ ทำงานไป อ่านกระทู้ห้องต่างๆไป มีทั้งเศร้า ทั้งสนุกปนกันไป เลยเข้ามาสวัสดีตอนเช้าทุกท่านนะครับ
-
ถ้าจะยังมีตามอยู่นั่นก็เป็นเจ้ากรรมนายเวรครับไม่ใช่เทวดาที่ไหน
ท้าวเวสสุวรรณท่านไม่ทำอะไรที่ยุ่งกับกรรม แม้ขอท่านท่านก็ไม่ช่วย
แต่ถ้านอกเหนือกรรมท่านช่วยตลอด เพราะฉะนั้นแล้วแม้วางรูปท่านใว้
เจ้ากรรมนายเวรติดตามแค่ไหนท่านก็เฉยเสีย เหมือนกวางเดินผ่านหน้าเสือ
ย่อมรู้ว่าเสือไม่หิวยังไงก็ไม่ฆ่ามัน มันก็เดินผ่านปกติ
แต่ถ้าเมื่อใดหมดกรรมแล้ววิญญาณยังไม่ไปยังวนเวียน นั่นล่ะเสือเริ่มหิวแล้ว
เดินผ่านเมื่อไหร่เป็นโดนท่านลากลงนรกไปหมด กรรมนั้นคือใจเราเองเมื่อเรา
ปฏิเสธมัน วางมันได้ย่อมหมดกรรม แต่ถ้าเรายังคงพอใจอยู่ กรรมนั้นก็ยัง
ไม่หมดวิญญาณก็ยังคงเดินตามเราต่อไป ท่านเวสสุวรรณก็ยืนยิ้มดูต่อไป -
มีเรื่องมาถามครับ ที่เป็นข่าวอยู่ตอนนี้
กับเรื่องแบบนี้ มีหลายท่านบอกว่า น่าจะเป็นพวก ผีหรืออะไรก็ตาม
ก็เลยเกิดความสงสัยครับ ว่าเป็นจริงดังคำกล่าวอ้างหรือเปล่า แต่ถ้าไม่เป็นจริง
คนที่วิพากษ์วิจารณ์แบบเสียหายหรือ แบบตลกป่นฮา แบบนี้จะบาป หรือเปล่าครับ -
การเขียนว่า"บ้านนี้ไม่มีคนแก่มีแต่เด็ก" เป็นการสร้างกำลังใจของคนไปเอง
เพราะท่านพญายมน่ะท่านรู้ทุกขณะจิตว่า เวลานั้นวินาทีนั้นๆคิดอย่างไรรู้ทุกๆคน
ชีวิตคนเราเหมือนโรงละคร ชีวิตหนึ่งๆท่านรู้ตั้งแต่เกิดมาจนตายเพราะท่านมีวิธี
เพราะฉะนั้นเขียนหลอกๆใว้หน้าบ้านมันไม่มีผลกับท่านหรอก
และพญายมท่านไม่ว่างมาเองครับ ทำงานทั้งหลายเห็นมีแต่ลูกน้องไปกันคราละ
สองคนบ้าง สามคนบ้าง ท่านพญายมท่านไม่ไปหรอก ส่วนการบาปหรือไม่ถ้าไม่ใช่
ฝีมือท่านพญายมนั่นก็แล้วแต่ กายกรรม วจีกรรม มโนกรรมครับ ถ้าครบองค์นี้แล้วไซร้
โทษนั้นไม่หนักเพียงกรอกน้ำร้อนลงไปในปากซัก 300ตายก็พอ(จริงรึเปล่าไม่รู้นะ
เขาบอกมายังงั้น) ตายครั้งนึงกรอกกี่ทีไม่รู้จนใจขาดตายล่ะ จนครบ 300 ตาย
ถ้าไม่ครบองค์สามก็ไม่เป็นไร ไม่ถือ(ใจดีมากนะนี่) -
ขออีกซักหน่อยครับ สงสัยมานาน เมื่อตอนเด็ก ๆ พ่อกับแม่ เคยพาไปเที่ยว
วัดอะไรจำไม่ได้ อยู่ที่ลพบุรีมั้งครับ เค้าพาไปดู มักกะลีผล และได้ซื้อรูปภาพ
มาไว้ที่บ้าน มีคาถาบูชา บอกของที่จะใช้ไหว้เพื่อบูชา
เลยสงสัยครับว่าตกลงมีจริงหรือเป็นเรื่องที่แต่งขึ้นครับ
-
เป็นคำถามที่น่าสนใจครับ เรื่องมักกะลีผล กับ นางเงือก ได้ยินมานานตั้งแต่เด็กๆ แต่ไม่ได้สนใจที่ว่าเป็นสาวๆสวยๆนะครับ แค่คิดถึงว่าเป็นวรรณกรรมไทย แล้วจะมีจริงไหม อย่างรามเกียรติ์กับไซอิ๋ว นี่ก็วรรณกรรมต่างชาติไม่ทราบเหมือนกันว่ามีจริงไหม
-
ท่านจิโปครับ
โดยส่วนใหญ่ท่านจิโปจะสอบถามท่านผู้รู้เป็นท่านใดหรือครับ (ถ้าเอ่ยถึงได้)
ในโลกทิพย์มีฟังธรรมไหมครับ และเคยมีการแนะนำแนวทางใดๆบ้างไหมครับในทางธรรม ถ้ามีธรรมใดที่ได้รับฟังมาอยากให้แสดงธรรมนั้นต่อครับ อยากฟังครับ
บางอย่างหากห้ามหรือไม่ควร หรือจะมีผลกระทบตามมาในทางไม่ดี
แล้วผมถามมากไปด้วยความอยากรู้อยากเห็น ขอความกรุณาบอกตรงๆนะครับ
ผมมิได้มีเจตนาลบหลู่ปรามาสล่วงเกินสิ่งศักดิ์สิทธิ์ท่านใด
ผมขอขมาลาโทษไว้ ณ ที่นี้ด้วยครับ -
ย้อนกลับไปอ่านกระทู้หน้าแรกๆใหม่อีกครั้ง (น่าสนใจอ่านแล้วไม่เบื่อครับ)
1 ท่านเจ้าของห้อง Ainteerati ครับ อ่านแล้วกลัวครับ อย่างนี้ถ้าใครจะบวชพระนี่แสดงว่า บางอย่างเขาไม่ได้กลัวจีวรใช่ไหมครับ ดูหนังตอนเด็กๆนึกว่าทุกอย่างเขากลัวจีวร ถ้าไม่กลัว แล้วไปบวชวัดชนบทแล้วกุฏิยังมีประวัติอีก ขนาดในวัดก็ไม่ปลอดภัยเช่นนี้น่ากลัวจังครับ หวั่นใจถ้าจะบวช
2 ท่านจิโปเคยกล่าวถึงสายปราบสลายวิญญาณปอบได้ถ้าได้รับอนุญาตและไม่กลัวกรรม การสลายวิญญาณคืออะไรครับ หมดสิ้นตัวตนผู้นั้นหรือครับ แล้วเขาจะเป็นอย่างไรถ้าถูกสลายวิญญาณครับ จิตนั้นต้องรับผลแห่งกรรมทั้งดีและชั่วคือไปสวรรค์ โลก นรก เช่นนี้ถ้าสลายจะเป็นอย่างไรครับ -
ถามมายังงี้ต้องตอบกันเป็นเล่มๆแบบเขียนหนังสือนวนิยายกันทีเดียวครับ
การฟังธรรมในสมาธิของคนอื่นผมไม่รู้แต่ของผมไม่มีครับ ท่านไม่เคยเทศนาเลย
มีเพียงบอกข้อธรรมเวลาจิตเราติดขัดสั้นๆให้เราพิจารณาเอง โดยมากแล้วการสงสัย
ในข้อธรรมผมไม่ค่อยมีแต่ถ้ามีท่านก็ทำเหตุการณ์นั้นๆให้ดูว่าธรรมข้อมีเหตุอะไรจึง
บัญญัติใว้แบบนั้น หรือบางทีมองไปเห็นวิญญาณแปลกๆท่านก็บอกมาเพียงว่า
บาลีประโยคสั้นๆใจผมก็ปรับลงมาตามความหมายของบาลี สงสัยท่านทั้งหลายจะกลัว
ผมติดกับรสแห่งธรรม แห่งการเทศนาเพราะครั้งหนึ่งผมเคยฟังพญานาคราชสวดมนต์
ก็บทอิติปิโสที่มนุษย์เราสวดนี่ล่ะ แต่เสียงสวดมันมีเอคโค่และสำเนียงพิสดาร คล้ายแว่ว
คล้ายชัดเจน คล้ายเข้าใจคล้ายไม่เข้าใจแต่ยังจับการเข้าใจได้ว่าเป็นอิติปิโส จากนั้นมา
เวลาท่องอิติปิโสผมนึกถึงเสียงแบบนั้นตลอด พระไหนๆมาสวดก็ไม่ทำให้ใจผมเกิดปิติได้
ท่านเลยไม่เทศนาแบบยาวๆในสมาธิกลัวผมไม่รับการสั่งสอนจากคนธรรมดากระมัง
ท่านที่ผมถามผมไม่กำหนดครับ ใครโผล่มาให้เห็นผมก็ถามเลย แต่ถ้าจะให้ช่วยจริงๆ
ก็ขอท่านปู่โคเปติสสะและท่านท้าวเวสสุวรรณเท่านั้น ธรรมมะนั้นไม่ว่าใครก็รู้และเข้าใจ
ตรงกันหมดไปทุกคนในทางทิพย์มันเหมือนกฏหมายที่ต้องรู้เพราะฉะนั้นแค่ข้อธรรมและ
สิ่งที่ไม่ขัดกับกฏแห่งกรรมท่านทั้งหลายที่ผมมองเห็นเขารู้หมด ถามได้ทุกคนส่วนมาก
ผมไม่ถามชื่อเขาเลยแม้มายืนยิ้มก็ตาม ผมถามเสร็จแล้วอนุโมทนาก็พอเลยไม่อาจบอก
ได้หมดว่าท่านทั้งหลายที่ผมถามนั้นชื่ออะไร
มีข้อสังเกตุอยู่อย่างเดียวคือเทวดานั้นส่วนมากจะบอกบาลีให้เราคิดใช้ปัญญา
แต่พระเช่นหลวงปู่มั่น หลวงปู่ทองทิพย์ นั้นจะมาแบบสงบนิ่งให้เราดูอารมณ์ของ
ท่านและปรับใจเราให้เป็นตามท่าน ไม่ว่าจะเป็นเหตุการณ์ไหนๆท่านก็ไม่พูดเลย
การสลายวิญญาณไม่เหมือนกันกับการสบายแบบที่เรียกว่านิพพาน ไม่ใช่วิญญาณ
จะสลายแล้วไม่เกิดไม่ตาย แต่จะทรมาณมาก มันเหมือนอณูของแสงที่เล็กที่สุดจะเป็น
ละอองหรือเรียกว่าอะตอม จะกอบเป็นร่างไม่ได้ ไปไหนก็ไม่ได้ เหมือนคนโดนมัดใว้
หิวแต่ไม่ตายอยากเดินก็เดินไม่ได้ ร้อนจัดเย็นจัดก็ขยับหลบไม่ได้ ไม่รู้จะนานแค่ไหน
อะตอมนั้นๆจะรวมมาเป็นรูปได้อาจเท่าอายุของพระพรหมก็เป็นได้ คิดดูว่าทรมาณยิ่ง
กว่าตกนรกอีก ตกนรกยังมีเวลาพักแต่สลายวิญญาณทรมาณตลอดไม่ได้พักพอร่างนั้น
รวมตัวจากการสลายวิญญาณได้แล้วก็ค่อยมารับกรรมนั้นๆไม่ว่าดีหรือชั่วอีกทีครับ
การสลายวิญญาณเลยเป็นกรรมหนักมาก ถ้าวิญญาณไม่เลวมากท่านไม่สลายวิญาณ
เล่นๆหรอกครับ -
อยู่ข้างฝาแต่ไม่ได้เอาใว้บูชา เอาใว้มองแล้วเตือนตัวเองว่ารูปที่ว่าสวยนัก
ทั้งเทวดาและคนธรรพ์แย่งกันนักหนาก็ยังเหี่ยว มองไปให้สลดสังเวสในกิเลส
ที่เกิดเพียงชั่วครั้งชั่วคราว แม้สวยในสายตาของอีกมิติหนึ่งแต่ก็ให้สังเวสใน
อีกมิติหนึ่งตามระดับชั้นของธรรม (เกิดมาเป็นคนมีกรรมนักเห็นของสวยงามก็
ชอบก็รักเฮ้อ ก็พอๆกันกับเทวดาน่ะหล่ะ)
หน้า 49 ของ 218