นอกจากปัจจัยสี่เราซื้อเครื่องเขียน
แบบเรียนได้
ซื้อมาทำลายอวิชชา
ดินสอเขียนคิ้ว กลูต้า ฉีดกิน แอพหน้าเรียว
คือเครื่องเขียน
โอวาทปาติโมกข์
ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย ตั้งฉาก, 9 กุมภาพันธ์ 2015.
หน้า 4 ของ 13
-
-
ไอโฟน แอเมส
มีไว้เพื่อให้รู้เท่าทัน
ทำลายอวิชชาได้
แต่มีได้ทีละอัน
อย่าให้มันล้อมกันเข้ามาไม่มีสาเหตุ -
-
เราก็ต้องแอ๊พโง่เอา
เป้ฯอุปปาทานในโง่
คนเราต้องโง่จริงไม่มีสลิง ไม่มีสตั๊นแมน
โง่เป็ฯแค่ความคิด เฉยๆ
เฉยๆก็เป็ฯแค่ความคิด
เอาไว้เป็ฯเราไม่ได้ เราเฉยๆก็ไม่ได้นะ
ให้คนอื่นเฉยๆก็ไม่ได้
รับไว้เฉยเองก็ไม่ได้ ยัดให้ใครเฉยก็ไม่ได้
เป็ฯอุปปาทานในเฉย -
เห็ฯคนอื่นโง่ ซื้อไอโฟนเลี่ยมทอง
ซือแอเมส
เราก็ต้องไปโง่เป้ฯเพื่อนร่วมทุกข์
เห็นเพื่อนทุกข์เราไปทุกข์แทนเพื่อนก็ไม่ได้
มันอุปปาทาน -
-
ิ์Fist of the North Star เป็นที่รู้จักกันดี
คอมพิวเตอร์ โน็ตบุ๊ค มือถือ ที่นั่งพิมพ์ตอบกระทู้อยู่นี่
แล้วเพื่อประโยชน์อะไรครับ?
ไม่ใช่หนีไม่ใช้ ไม่เอาเดี๋ยวจิตปรุงแต่ง
แค่ไม่เข้าไปพอใจกับมัน แค่นั้นก็พอนี่ครับ
อย่างนั้นผมไปที่ห้างเห็นเห็นยาสีฟันลดราคา ก็ไม่ต้องซื้อ
เพราะจิตมันเกิดความโลภ แล้วเดินออกจากห้าง
ผมก็ไม่ต้องแปรงฟัน พอเพื่อนได้กลิ่น
ก็บอกเพื่อนว่า "เราเห็นความโลภตอนจะซื้อ" ก็เลยไม่ซื้อมาแปรง
อย่างนั้นหรือเปล่าครับ
-
ไม่นับ
นับโง่ในปัจจุบัน -
-
-
ห้องฉุกเฉิน ด่วนเลย
รอคิว ก่อน รายนี้ หนัก -
-
-
ิ์Fist of the North Star เป็นที่รู้จักกันดี
-
จริงๆนะเมื่อความจริงที่เรายอมรับว่าเรายึดว่าเราโง่ปรากฏ
จะเกิดบุญชนิดพิเศษ ที่ทำให้ศัตรูเข้ามาได้ทีละคนเกิดแก่เรา
แต่นั้นก็เกิดจากอุปปาทานในบุญ กองเชียร์ก็จะเข้ามาหาเราได้ทีละคน
ได้อย่าง เสียอย่าง
แต่ไม่เกิดขึ้นพร้อมกัน
จะมีหนึ่งในสองอย่างกระทบก่อน
ทำบ่อยเราจะเกิดชิน เป็นฌานใช้งาน -
เนียะพอจับภาพพระ
เราแค่เข้าใจว่าภาพมืดๆหรืออื่นๆมาแทนภาพพระ
ก็เพราะมันเข้ามาได้ทีละภาพ
การที่เราจับภาพพระไม่ได้เพราะจิตเราอุปปาทานไปว่า
เราไม่คู่ไม่ควรกะภาพพระอะไรงี้
เราไปได้ไปอุปปาทานว่าเราบาปเกินไปไรงี้
รู้ว่าอุปปาทานอุทิศกุศลได้
เด๊่ยวบางที่ภาพพระแว๊บมา
มาเองไม่ต้องกำหนด แค่จะมาได้ทีละภาพ -
-
ไม่ใช่สติอัตตโนมัตินะ
เป็ฯสภาพที่แท้จริง ของมะโน
ที่รูปที่จะเข้าทานอายตนะตา
มันหลุดเข้ามาทางมะโน
บางทีธรรมารมณ์ ไปเข้าตาแทน
เค้าเรียกร้อยรัดด้วยอวิชชา
คือรูปราคะ
มันส่งกำลังทะลุอายตนะ -
ถ้าจะให้เหมือน ก็ต้อง บอกว่า พึ่งเริ่มต้น พึ่งอนุบาล
ในการกำหนดรู้ "ธรรมเกิด ธรรมดับ"
แล้วก็ เพียรต่อไป
แม้นว่า สำเร็จแล้ว ก็ต้อง สมาทานต่อ เป็น " อริยวินัย "
งง ไหม
คำว่า เป็น อริยวินัย ไม่ใช่ คำอวดตัว อวดวินัย
ภาษาไทยเนี่ยะ เขาหมายถึง " ทำตัวเป็นแบบอย่างให้อนุชนเห็น "
เช่น พระมหากัสสปะ สำเร็จธรรมแล้ว ก็ ทำ ธุดงควัตรต่อไป เป็น อริยวินัย
อรหันต์อื่นๆ ส่วนมากก็ ทำอานาปานสติ กำหนดรู้ลมหายใจเข้า ลมหายใจออก
ไม่หลงลืมกาย พิจารณารู้ลงที่กาย ไม่ลืมกาย เน้นนะว่าไม่ลืมกาย
เพื่ออะไร เพื่อ แสดงธรรมะอนุบาล เป็นตัวอย่างให้คนเขาเห็น เป็นสำคัญ
ถ้าไม่ต้อง อธิษฐาน หรือ มีวิบาก วาสนา อยู่ทำเป็นตัวอย่างให้เห็น ก็ไม่ต้อง
หายใจ ฮะเออ มาตรงนี้ งง อีกคิดว่า เรื่องอัตตวินิบาติกรรม
นะ
ถ้าสำเร็จแล้ว แล้วโยนทิ้ง ไม่ต้องทำสิกขาแล้ว ร้อยละร้อย สร้างทิฏฐิ ตั้งไว้ แล้วเกาะ
จนแน่น ขันธ์5กูพ้นของกู พอและ
คนละอย่างกับ ขันธ์5 ของผู้มีธรรม ที่เขาแผ่เป็น นาบุญ ตามความเป็นจริง ทิ้งไว้
กับโลกตลอดเวลา -
ิ์Fist of the North Star เป็นที่รู้จักกันดี
แต่คุณ bigtoo บอกเป็น "สถานที่หนึ่งว่าง"
เอ๊ะ!! มันยังไงครับ
หน้า 4 ของ 13