ใครถึงนิพพานมาเป็นอาจารยํลุงที

กระมู้ว์นี้ไม่มีใครมาซื่อๆเซ่อเซ่อ
หรอกปังปลอมเอ๊ย
นิพพาน หาคนพาไปนิพพานฮับ
555

 

อย่าลืมพกผ้าขาวไปด้วย

เอ้า กราบ !

 

นิพพานยังมีหลายแบบเลยถ้าเจาะลึก อย่าไปคิดมากฮับ เราไม่ใช่พระพุทธเจ้าก็พยายามกันต่อไป

 

อ่านเรื่องอะไร ก็บ้าไปกับเขาหมด
แล้วยังมีหน้ามาบอกคนอิ่นว่า อย่าคิดมาก
ทำไมไม่บอกกับตัวเองมั่งว่า อย่าบ้า อย่าคิดมาก อย่าเพ้อเจ้อ
ให้สงบๆแผ่เมตตา

 

แค่รู้ซื่อๆ หรือสักกะว่ารู้
ไม่คาดหวัง ไม่หวังผล
จะได้อะไร จะไม่ได้อะไร
หลางตาฯ ท่านว่ามาแบบนี้ฮับ

 

พอเห็นทางแล้วฮับ เริ่มด้วยทางปัญญา
หรือด้วยความเข้าใจ
หรือทางญาณทัศนะ ทั้งนี้ทั้งนั้น
สิ่งที่ขาดไม่ได้คือ
ต้องมีอริยมรรค 8 เป็นปัจจัยหลัก ฮับ

 

คือท่านบอกให้มีสติอยู่กับรู้ตลอดเวลา
แต่เป็นการรู้แบบเฉยๆ ( ไม่ต้องไปคิด
ไปปรุงหรือไปวาง หรือไปทำคาดหวัง
ใดๆ รู้เฉยๆฃื่อๆ ตลอดสาย)
และโดยวางตัวผู้รู้เสียด้วยเอ้อ....ทำกันด้าย
ม้ายฮับ มันก็ต้องมีกรรมฐานด้วยละเนาะ
ถึงจะตลอดเวลาได้ฮับ

 

เก็บตัวห้ามมีกรรมกับอะไรเด็ดขาด ปิดกั้นจิต ปิดตัวรู้ คอยตามดูจิต มันทำอะไรพลาดคอยดึงกลับมา จ้องไปที่อนาคตสิทธัตถะเท่านั้น เพื่อเป็นพระพุทธเจ้าองค์ถัดๆๆๆๆๆไป

 

ไม่ปิดกั้น ไม่ดึงกลับ ไม่ไหลตามจิต
ไม่จดจ่อ ไม่จดจ้อง
รู้ เฉยๆ โดยไม่เอาไม่มีเราไปเป็นผู้รู้
เพราะความจริงไม่มีตัวเรา ถ้าเอาตัวไปรู้
ก็ยังมีตัวเราซึ่งอวิชชากำลัง
หลอกต้มเราฮับ
ฉะนั้น มีสติรู้เฉยๆ รู้อะไรเฉยๆ อ้าว.. ก็รู้อาการของจิตงัยฮับ
รู้เฉยๆ ไม่ไปคาดไปหมายให้มันเป็นอะไร
ไม่เป็นอะไร แค่รู้เฉยๆ โดยไม่มีตัวเราไปรองรับ
อาการรู้นั้น
เฮ้อ.... งงอ่ะจิ่ งงหรือยังฮับ

 

กระซิบฮับ.กระซิบ จุ๊ย์จุ๊ยํ
ถ้าใครอยากทราบว่าหลวงตาฯไหนสอนแบบ
นี้จริงไหม?? หลังไมค์ จะไม่ผิดหวัง
บางทีอาจจะ
เก็ตกว่าลุงแมวซะอีก ถ้าบุญ
บารมีเก่ามีมากกว่า
ฮับ

 

ใครที่สอนให้พวกท่าน ปล่อยวางอารมณ์ ได้
ท่านจงเรียกพวกเค้าเหล่านั้นว่า
พระอาจารย์ของท่านเถิด
ถึงแม้ว่าจะไม่รู้จักกัน แต่ถ้าหากเค้าสอนท่านได้
ท่านก็เรียกเค้าว่า พระอาจารย์ในใจ ได้

 

ศีล ก็คือ เครื่องวัดชนิดหนึ่ง เหมือนกัน
แต่ไม่ใช่ว่า พอศีลขาดแล้ว ไปต่อไม่เป็น
ทำอะไรไม่ถูกเลย ศีลไม่ใช่สัมภาระ
ไม่จำเป็นจะต้องแบกมัน ถือมันเบาๆก็พอ
ไม่ใช่ว่า อะไรก็ถือศีล พอศีลขาดก็เสียอกเสียใจ
จนไม่เป็นอันทำอะไรเลย

หลักการถือศีลที่ดีคือ ศีลขาดได้ ก็ต่อได้ด้วยเช่นกัน
แต่ไม่ใช่ว่า ถือศีลจนทำอะไรในชีวิตไม่ได้เลย
วิธีแบบนั้น จะเรียกว่า ถือหนักเกินไป

ให้ถือศีลที่ใจ ไม่ใช่ที่หัวข้อ
ไม่ใช่ว่าถือศีลได้มากเท่าไหร่
แต่ต้องถือเพราะ ไม่อยากจะเบียดเบียนผู้อื่น

 

การปฏิบัติ ทำได้อย่างถูกต้องแล้วครับ
ส่วนการ แผ่เมตตา หลังจากการปฏิบัติธรรม
จะเป็นแบบเดียวกันกับท่าน
เพราะว่า เมื่อเราแผ่เมตตา เราก็จะต้องยก
ของๆเราที่มี ยกให้เค้าไป คนที่เค้าเป็น
เจ้ากรรมนายเวรของเรา เมื่อเค้าได้โอกาส
ตอนที่เราแผ่เมตตาให้ เค้าก็จะต้องยึดเอาของเรา
ไปให้หมดหน้าตักนั่นเอง
แต่ก็ดีที่เค้า จะไม่เอาเราถึงตายแล้วตอนนี้
เพราะเค้าเริ่มยกโทษให้เราแล้วนั่นเอง

ต่อไปก็ให้แผ่เมตตาไปเรื่อยๆ
เดี๋ยวก็ชิน ต่อไปก็จะรับได้เอง

 

ตัวเอง ทำไม่ถูกเอง แล้วไปบอกว่า
ทางของ พระอริยะเจ้า มันง่ายไป
ความจริงไม่มีอะไรง่ายๆ ในการบรรลุธรรม
แต่เป็นเพราะว่า พระอริยะเจ้า ท่านสอนดี
ท่านสอนเก่ง จนดูเหมือนว่า จะทำได้ง่ายๆ
แต่ความจริง ก็ทำได้ไม่ง่ายเลย
เพราะ ส่วนมาก ไม่ค่อยทำจริง
ไม่ลงมือทำ ทำไปได้นิดหน่อยก็ขี้เกียจ
แล้วก็เลิกทำ

สุดท้ายก็ชวนคนอื่น ให้เลิกทำตาม ตนเอง ด้วย
ก็กลับมา วนเวียน อยู่ที่วัฏฏะเดิมๆ เก่าๆ เพราะ
ขี้เกียจแบบเดิมๆ

 

ตรงนี้สอนดีครับให้เฝ้าดู มรณะสติ หรือ ความตาย
ให้เกิดเป็น นิสัยถาวร คือ ไม่ว่าจะทำอะไร ไปที่ไหน
อยู่ที่ไหน อยู่กับใคร ประสพพบเจอเรื่องราวใด
ก็ให้นึกถึง ความตายเฉพาะหน้า เอาไว้
ฝึกภาวนาว่า ไม่ใช้เราก็ตาย จะตักตวงอะไรหนักหนา
ยกให้คนอื่นมั่งดีกว่า จะได้ไม่หนักตัวเราตอนที่ตาย
จะได้ไม่ห่วงอาลัย แล้วกับมาเกิดกับสิ่งเหล่านั้นอีก
เราจะสละให้คนอื่นจนไม่เหลืออีก

 

อธิษฐานแค่นี้ ระวังจะไป อรูปพรหม นะท่าน
ต้องอธิษฐานว่า ตัวเรานี้ ขอปล่อยวางทุกสิ่ง
ไม่ใช่ไม่เอาทุกสิ่ง ไม่เอาอะไรเลย

 

ท่านฝึก อรูป ชั้นอากาส มากไป ระวังเป็น ผีเทวดา

ท่านต้องฝึก มองความเป็นจริงสามอย่าง ให้ออก
ซึ่งก็คือ ความเที่ยงไม่เที่ยง เป็นสุขทุกข์ เป็นของเรา
และไม่ใช่ของเรา หกอย่างนี้ ต้องฝึกพิจารณาให้คล่อง
เมื่อจิตไปเล่นเพลินอยู่ที่ไหน ก็ต้องฝึกให้นึกให้ออกว่า
ทุกสิ่งที่เราเพลินนั้น เป็นเพียงแค่สิ่งสมมุติ เท่านั้น
ไม่มีอะไรจริงแท้ สักอันเดียว ฝึกให้มันรู้สึกเบื่อให้ได้
ความเบื่อ คือ นิพพิทาญาน จะนำทางให้ท่านพ้นทุกข์

 

ต่อให้เดินไปถึง อรูปพรหม ได้
แต่ใจยังไม่ปล่อยวาง ก็ไม่เรียกว่า เดินดง
ปล่อยวางได้ ที่บ้าน ก็บรรลุธรรมได้เหมือนกัน

 

ท่านสละออกหมด หรือยัง
สละออกหมดเมื่อไหร่
บริจาคออกหมดตัวเมื่อไหร่
เมื่อนั้นก็ นิพพาน ได้ ไม่ติดค้างอะไรอีก

แต่ตอนนี้ พวกท่าน มีแต่ สะสมเพิ่มเติม
จะเอามากกว่าเดิม จะเอาจากคนอื่นท่าเดียว
แล้วจะบอกว่า ท่านบรรลุได้แล้ว จริงหรือ
ลองพิจารณาดู

 

แอร๊ะ... ดึงกลับมาที่วัตถุธรรมได้อีก
เอารถเมอร์ซิเดส รุ่นล่าสุด เหมือนโรบอท
มาให้ขับฟรีๆ
แต่มีข้อแม้ว่าห้ามฟังธรรมะ ตลอดชีวิต
ผมจะไม่เอาเด็ดขาด
ฟังธรรมะขับรถบิ๊ก M ติดแก๊สสนุกกว่า
เหนื่อยใจน้อยกว่า 555