-
ท่านอาจาร์สอนในส่วยพิจารณากายทั้งปวง ส่วนเรื่องเราจะทำกายสังขารให้ระงับหลวงพ่อท่านสอนต่อยอดให้ไม่ต่างกันเพราะการพิจารณากายทั้งปวงก็เหมือนกัน และได้ผลดีมากกว่าเดิมที่เคยฝึกจากท่านอาจารย์โกเอ็นก้ามา
-
นั้น อ้างนู้นอ้างนี้ ถ้าหายใจยาวๆๆกลั้นไว้ได้ญาณ เด็กมันดำน้ำมันก็ได้ไปนานแล้วลุง
ตามพระสูตรตรงไหน มั่วนิ่มจริง
-
<table width=60%><tr valign=top><td><img src='http://www.dailynews.co.th/sites/default/files/imagecache/620x245/photos/223437/4.jpg' width=150></td><td>เรียนท่านประทานที่เคารพ ผ่านไปยังท่านสมาฉิบ
อ้ายกระผม หลานปู่สับสน วงน้องใบเตย
มีความเห็นว่า
" บางที
ปล่อยให้พวกสอนผิด
แสดง มรรคที่ผิดอย่าง
ประเจิดประเจ้อ นั้นเป็นการดี
เพราะ ลูกเล็กเด็กแดง อ่านแล้วยังรู้เลยว่า ฮานาก้า !!!"
</td></tr></table>
-
ผมนะปฎิบัติแนวนี้มาสิบกว่าปีแล้ว เพียงแต่ต่อยอดเพิ่มไม่มีขัดกันครับต้องตรงตามพระสูตร ส่วนความหมายใครจะเข้าใจอย่างไรแล้วแต่บุคคลห้ามกันไม่ได้จริง แต่ขอย้ำได้ฌานแน่นอน
-
คุณอย่าเอาอะไรมาเปรียบเทียบแบบไร้สาระมันบ่งบอกถึงกึ๋น นี่เป็นการระงับลมพร้อมกับหายใจสลับไม่ได้กันให้มันตาย ตามพระสูตรครับ
-
อะไรของคุณ โกเอ็นก้าสก็สอนครบทุกหมวด 16 ขั้น ไม่ได้สอนถึงขั้น3 แล้วเลิก ให้หลวงพ่อคุณมาสอนต่อ
ตามแนวของสติปัฏฐานแบบพม่า
อะไรของคุณ
การทำกายสังขาร ให้รำงับหายใจเข้า หรือออก ก็คือ อานาปานสติ ขั้นที่ สี่
เนื่องจากในขั้นที่สาม เรารู้แล้วว่า ลมหายใจเป็นสิ่งที่เนื่องกันอยู่กับร่างกายอย่างใกล้ชิด ในฐานะเป็นสิ่งที่ปรุงสิ่งต่างๆ ที่เนื่องกับร่างกาย
ดั้งนั้นขั้นที่สี่ก็คือ การกำหนดรู้ว่า การบังคับร่างกาย ก็คือการบังคับลมหายใจ การบังคับลมหายใจ ก็คือการบังคับร่างกายพร้อมกันไปในตัว. เมื่อลมหายใจละเอียดหรืออยู่ในภาวะที่ละเอียด ร่างกายก็สุขุมละเอียดไม่กระด้าง ไม่เมื่อยขบ และไม่ระส่ำระสายอย่างอื่นๆ
สรุป คือ
เป็นการทำความเข้าใจว่า
ลมหายใจที่เป็นอยู่ตามธรรมชาตินั้นจัดเป็นของหยาบ
แต่ว่าไม่ปรากฏว่าเป็นงี้ เพราะมิได้กำหนด ครั้นพอสักว่าไปกำหนดเข้าเท่านั้น ความหยาบก็จะปรากฏขึ้นมาทันทีอย่างรุนแรงแล้วก็จะเริ่มเปลี่ยนไปในทางที่จะละเอียดหรือสงบรำงับลงนั้นเอง
-
มั่วนิ่มภิกษุนั้น ย่อมทำในบทศึกษาว่า เราเป็นผู้ทำกายสังขารให้รำงับอยู่ จักหายใจเข้า ดังนี้ ; ย่อมทำในบทศึกษาว่า เราเป็นผู้ทำกายสังขารให้รำงับอยู่ จักหายใจออก ดังนี้”.
คือกำหนดรู้ว่า
เราเป็นผู้ทำกายสังขารให้รำงับอยู่ แล้วจากนั้นก็หายใจเข้า กำหนดรู้ว่า
เราเป็นผู้ทำกายสังขารให้รำงับอยู่ แล้วจากนั้นก็หายใจออก
-
คุณก็มีแต่ความคิดเก่าๆแค่รู้กายทั้งปวงท่านก็ยังรู้แบบผิดๆ ผมรู้ของจริงคือสภาวะทั่วร่างกายนี้นั้นมันมีแต่แรงสั่นสะเท่อนเท่านั้นมันทำให้รู้ความจริงถึงความรู้สึกไม่ใช่ลมๆแล้ง อย่างนั้นนึกเอาก็รู้แล้ว มานั่งทำไม ท่านเคยข้ามเส้นความคิดเข้าสู้สภาวะหรือยัง คงยังซินะถึงไม่เข้าใจ เข้าใจแต่สัญญาที่อ่านมาและก็ความรู้เล็กๆน้อย เข้าถึงสภาวะหลอมละลายทั้งร่างกายหรือยังคงยัง ซินะ เข้าคอร์สัก10คอร์สเถอะแล้วจะรู้จริง มันมีอะไรที่คุณไม่เข้าใจอีกเยอะน่า เชื่อผม
-
นั้นพูดมาก็ปล่อยไก่ บอกเองเลยว่าตัวเองทำผิดวิธีแล้ว ผิดแล้ว ไง
พระสูตรว่าอย่างช้า 7 ปี
คุณต้องเป็นพระอนาคมีขึ้นไป แต่นี่สิบกว่าปี คุณยังไม่ได้เป็นเลย
ยังละสังโยชน์ข้อ กามราคะขั้นสกทาคามีไม่ได้ คุณบอกผมเอง
ก็แสดงว่าทำผิดแล้ว ยังไม่ยอมรับ
-
มั่ว นิ่มและก็แถ ครบสูตร .......พอจนมุมก็อ้างว่าเขาอ่านมาไม่เคยปฏิบัติเหมือนตัวเลยไม่รู้เหมือนตัว แล้วตีชิ่งแบบเนียนๆๆ
-
กายสังขารไม่ใช่ลมเหรอ เราเป็นผู้ทำกายสังขารให้รำงับของคุณทำอย่างไรหรอ
-
ลองดูแล้วจะรู้ผมนะมีเพื่อนฝูงมากมายเอาเป็นอันว่าทุกสำนักในโลกที่พวกเขาเข้ามาหมด ยอมรับที่นี้สุดยอดกแล้วกันลองดูนะเจมจิ
-
จะสื่ออะไรของคุณครับ ผมบอกคุณไปแล้วนะว่า “กายสังขาร” หมายถึง ลมหายใจ ซึ่งในขั้นที่สี่เขาให้เรารู้ว่า “กายสังขาร” หมายถึง ลมหายใจ ในเมื่อทำหน้าที่ปรุงแต่งมหาภูตรูป อันเป็นที่ตั้งแห่งเวทนาเป็นต้นอ่านไหมเนี่ย ผมถึงได้พูดว่าลมหายใจที่เป็นอยู่ตามธรรมชาตินั้นจัดเป็นของหยาบ แต่ว่าไม่ปรากฏว่าเป็นงี้ เพราะมิได้กำหนด ครั้นพอสักว่าไปกำหนดเข้าเท่านั้น ความหยาบก็จะปรากฏขึ้นมาทันทีอย่างรุนแรงแล้วก็จะเริ่มเปลี่ยนไปในทางที่จะละเอียดหรือสงบรำงับลงนั้นเอง นี่เข้าใจแต่ตัวอักษร
-
-
เราจะทำกายสังขารให้ระงับ ทำอย่างไร เรื่องการรู้ว่าปรุงแต่งมหาภูตนั้นเรียนก็รู้ ถามคุณว่าเราจะทำกายสังขารให้ระงับทำอย่างไร
-
ก็ในขณะหายใจเข้าออกในครั้งที่สี่ คุณทำอะไรล่ะ คุณกำหนดรู้ลมหายใจ พอคุณกำหนดมันมันก็ความหยาบของลมหายใจตามธรรมชาติของคุณนะ ก็จะเริ่มเปลี่ยนไปในทางที่จะละเอียดหรือสงบรำงับลงอย่างเป็นธรรมชาติ นี่เรียกว่า ทำกายสังขารให้ระงับ คือกำหนดรู้มัน
ถามได้ นี่เรียกว่าเข้าใจแต่ตัวอักษร เจมส์จิตอบครั้งที่สาม-สี่แล้วนะนิว5555
-
มั่วได้ใจใครเขาสอนยุบหนอพองหนอ 555+++เข้าไปตั้งสิบกว่าครั้งไม่เคยได้ยินเลย
-
เหอๆๆ ไม่รู้อะไรซะแล้ว โกเอ็นก้าเขาสอนสติปัฏฐานแบบพม่าในแนวทางของท่านอาจารย์อูบาขิ่น
มันดังมาจะร้อยปีแล้ว พ่อเขาเป็นอินเดียที่ไปอยู่ในพม่า อ.เขาก็เรียนมาเพราะโตที่นั้น
แล้วนำมาเผยแพร่ต่อที่อินเดีย เข้าสิบครั้งมันไม่รู้ได้ไงว่ะ
-
แล้วเมื่อไหร่จะระงับล่ะ ในเมื่อท่านบอกว่าเพียงในช่วงหายใจเข้าออกเท่านั้น เราจะทำกายสังขารให้ระงับ มันระงับตอนไหน ไอ้ที่ละเอียดก็ยังไม่ใช่ระงับ ที่ผมเข้าถึงสภาพลมหายใจระงับดับไปหมดบอกว่าไม่เชื่อจะเอายังไง ที่สุดของการฝึกนี้นั้นคือสังขารทั้งหลายระงับเข้าใจมั้ยเจมจิ ผมนะทำมาแล้วไม่เชื่อกันก็เลิกคุยกับผมเถอะคุณไม่ได้ประโยชนืในการคุยเสียวลาป่าวน่า และสายอาจารย์โกเอ็นก้าที่ดังระดับโลกสูงสุดกสอนให้ได้แค่อายตนะดับหมดเท่านั้นผมก็ถึงมาแล้วครับ
-