ใจหายครับ..ทำไมหลวงตาฯท่านเทศน์อย่างงี้ครับ...

<TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 width="98%" align=center border=0><TBODY><TR align=middle><TD>วันที่ 1 กรกฎาคม. 2551 เวลา 19:00 น.

สถานที่ : วัดเขาใหญ่เจริญธรรม อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ​

​

​

</TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE cellSpacing=1 cellPadding=0 width="95%" align=center border=0><TBODY><TR align=right><TD></TD></TR></TBODY></TABLE>​

นี่ละฟัดกับกิเลสเป็นก็เป็น ตายก็ตาย เอาปวดหนักออกเลย ปวดเบาออกเลย ตั้งแต่เป็นเด็กมันขี้ใส่ตักแม่เป็นส้วมเป็นถานมานานสักเท่าไรแล้ว โตขึ้นมาขนาดนี้ขี้แล้วล้างไม่ได้แล้วเอาไปฆ่าทิ้งเสียมันหนักศาสนา ทีนี้ก็ซัดกันละนี่ก็ดี ฟัง ท่านทั้งหลายให้เป็นคตินะ เราไม่ได้มาพูดเพื่อความโอ้อวดตนเองแต่อย่างใด เราหมดความโอ้อวด ความยกยอสรรเสริญทุกสิ่งทุกอย่างไม่มีในหัวใจนี้พอหมด ธรรมกับใจเป็นอันเดียวกันแล้วสว่างจ้าครอบโลกธาตุ
ท่านทั้งหลายฟังเสียนะ นี่ปฏิบัติธรรมมานี้อายุจะ ๙๕ ปีนี้แล้วก็จะไปล่ะ ไปคราวนี้ไปจะไม่กลับ พูดให้ชัดเจน หัวใจนี่สว่างจ้ามาแล้วได้ ๕๘ ปี ตั้งแต่วันที่ ๑๕ พฤษภาคม ๒๔๙๓ เวลา ๕ ทุ่มเป๋งพอดี หลังวัดดอยธรรมเจดีย์ นั่นละกิเลสได้ขาดสะบั้นลงจากใจโดยสิ้นเชิงไม่มีอะไรเหลือ ตัวของเรานี้ดีดผึงเชียวนะ มันหากเป็นของมันเอง นั่นละที่ว่าฟ้าดินถล่ม คือร่างกายของเรามันดีดตัวอะไรพูดไม่ถูก มันเป็นเองของมันนะ ไม่ใช่เราตั้งใจให้เป็น ดีดผึงเลยทันที นั่นเป็นเวลาที่กิเลสกับจิตขาดสะบั้นจากกันไม่มีเหลือแล้ว ธรรมกระเด็นขึ้นมาทำให้ร่างกายไหวไปหมด​

" จะไปล่ะไปคราวนี้จะไม่กลับ"
คืออะไรหรอครับความหมายท่าน..ท่านจะละขันธ์หรออย่างไรครับ
หรือท่านหมายถึงอะไรครับ​

http://www.luangta.com/thamma/thamma_talk_text.php?ID=5013&CatID=0​

 

_/!\_

หนทางยังมีอยู่
ผู้เดินทางยังไม่ขาดสาย
ลงมือเสียแต่วันนี้
ก่อนที่กระแสลมแห่งกาลเวลา
จะพัดพารอยพระบาทของท่านหายไป
เพราะถึงเวลานั้น
พวกเราก็จะต้องระหกระเหินไร้ทิศทาง
ไปอีกนานแสนนาน

 

ท่านทั้งหลายฟังเสียนะ นี่ปฏิบัติธรรมมานี้อายุจะ ๙๕ ปีนี้แล้วก็จะไปล่ะ ไปคราวนี้ไปจะไม่กลับ พูดให้ชัดเจน


อ นุ โ ม ท น า ส า ธุ

 

โอ้ละหนอ ... จะขาดร่มโพธิ์ร่มไทร ไปอีกคราแล้วหรือ


....

 

ท่านก็พูดความจริงของท่าน

ท่านก็พูดความจริงที่ท่านเป็น จะไปใจหายกับการเทศน์ของท่านด้วยเรื่องอะไร กว่าที่ท่านจะพูดได้อย่างนี้ ท่านก็ต้องเอาชีวิตเข้าแลก ปฏิบัติแบบนั่งสมาธิหามรุ่งหามค่ำ เมื่อได้วิมุตติธรรมมาครอง ก็นำมาแสดงแก่สัตว์ผู้มีนัยน์ตามืดบอดทั้งหลายได้ถือเป็นคติแบบอย่างที่ดี

เราไม่มีญาณไปรู้เห็นจิตท่าน แม้ไม่เชื่อก็อย่าแสดงออกในทางที่ไม่สู้ดี ไม่ใช่วิสัยของคนมีปัญญา คำเทศน์ของท่านอีกมากมายที่แสดงเหตุแห่งการปฏิบัติที่จะได้บรรลุธรรม ไม่เชื่อก็ลองไปศึกษาคำเทศน์เหล่านั้นดูก่อน ว่ามีเหตุผลควรเชื่อได้หรือไม่

แล้วเทียบกับการปฏิบัติของตัวเองดูว่า ทำได้อย่างที่ท่านเทศน์หรือไม่ อย่าเพิ่งไปตัดสินท่านเพียงด้วยคำพูดที่เน้นตัวสีแดงบรรทัดเดียว ท่านเทศน์มากกว่านั้นอีกมากมาย แล้วดูตัวเองดีกว่า ว่ามีข้อปฏิบัติอะไรที่จะเป็นเหตุให้รู้ได้อย่างท่านบ้างหรือไม่

ถ้าข้อปฏิบัติของตัวเองไม่มีอะไรเลย ก็อย่าเพิ่งไปวิจารณ์ธรรมชั้นสูงของท่านเลย มันจะเป็นบาปเป็นกรรมใส่ตัวซะเปล่าๆ ในบรรดาลูกศิษย์สายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ทางคณะสงฆ์ยอมรับกันหมดว่า หลวงตาคือพระอรหันต์องค์หนึ่งในยุคปัจจุบัน ไม่มีใครสงสัยในภูมิธรรมของท่าน ที่ไม่สงสัย เพราะฟังเทศน์ภาคปฏิบัติของท่านแล้ว ก็หาที่ค้านไม่ได้ ว่าท่านจะพูดไม่จริงตรงไหน

ถือเอาคำเทศน์ของท่านที่ควรเป็นประโยชน์ต่อตัวเองมาปฏิบัติจะเป็นมงคล อย่าไปถือเอาสิ่งที่ท่านเทศน์เกินสติปัญญาของตัวเองจะรู้ได้มาวิจารณ์เลย ไม่เป็นไปเพื่อประโยชน์ทั้งต่อตนเองและผู้อื่น

 

ท่านทั้งหลายฟังเสียนะ นี่ปฏิบัติธรรมมานี้อายุจะ ๙๕ ปีนี้แล้วก็จะไปล่ะ ไปคราวนี้ไปจะไม่กลับ พูดให้ชัดเจน

ขอน้อมอนุโมทนาสาธุการ .....
ธรรมใดที่หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน ได้รู้แจ้งเห็นจริงในธรรมนั้นของพระพุทธองค์อันเป็นสมุทเฉทประหานสิ้นกิเลสอยู่จบพรหมจรรย์ ขอให้ข้าพเจ้ารู้แจ้งเห็นจริงในธรรมนั้นของพระพุทธองค์ตามได้ด้วยเทอญ...

 

คุณ pyradej จะมาว่าผมเรื่องอะไรหรอ..คุณเข้าใจผิดนะครับ

เชื่อหลวงตาอย่างจริงใจตลอดมา...แต่ที่ใจหายคือท่านจะละขันธ์ครับ
ไม่ได้วิจารณ์ท่านบรรลุธรรมนะครับ..แต่เข้าใจว่าท่านจะละขันธ์ต่างหากครับ
ขออนุโมทนา

 

ถ้าจะใจหายเพราะท่านละขันธ์
สู้ใจหายที่เรายังไม่เป็นชิ้นเป็นอันดีกว่าไหมครับท่าน..............

 

การยึดติดที่ตัวอาจารย์ ไม่ว่าตัวองค์ท่าน
พระธาตุของท่าน ไม่ใช้ทางที่พระพุทธเจ้าพาดำเนินและองค์ท่านสอนนะครับ
และไม่ใช่ทางหลุดพ้นด้วย

 

มันก็ใช่ครับ..และก็มีผลดีทุกท่านไม่ว่าพระหรืออุบาสกอุบาสิกาเวลาขัดภาวนาอย่างไรก็ถามท่าน..อยากจะขอยืดสังขารท่านไว้อีกนะครับท่านอาจจะลำบากสังขารแต่ผมใจหายนะครับ..มันใจหายจริงๆ..เพราะท่านเป็เสากรรมฐาน....
รักเทิดทูนท่านมากครับ...
ท้ายนี้อย่างไรก็สุดแล้วแต่ท่านหลวงตาฯเห็นสมควรตามขันธ์ท่านครับ...

 

หากชีวิตอันไร้ค่า ของลูกหลาน ในพ่อแม่ครูบาอาจารย์โดยมีหลวงปู่มั่นและหลวงปู่เสาร์เป็นประธาน มีหลวงตาพระมหาบัว เป็นปัจจุบัน ตราบเท่าที่สุด จะสามารถแลกได้เพียงให้พระหลวงตาคงขันธ์ตลอด 120 ปี และมีสุขภาพพลานามัยสมบูรณ์แข็งแรงดี

ลูกหลานขออธิฐานจิตด้วยใจตั้งมั่นเพื่อให้องค์พระหลวงตาให้พระหลวงตาดำรงขันธ์เป็นหลักชัยแก่พระกรรมฐานเพื่อถึงฝั่งพระนิพพาน
บุญใดที่ลูกหลานได้สร้างมาตั้งแต่ชาติแรกที่ตั้งหวังจะเดินตามรอยธรรมแห่งพระบรมศาสดาจนปัจจุบันชาติ

หากแม้นเลือดในกายจะต้องเหือดแห้ง หรือแม้นเนื้อที่ห่อหุ้มกายจิตนี้ต้องสลายไปกับสายลม

ขอบุญทั้งหลายจงรวมเป็นหนึ่งให้เป็นดั่งดวงประทีปปกป้องธาตุขันธ์พระหลวงตา เพื่อแลกกับการรักษาธาตุขันธ์ของพระหลวงตา อีกแม้นเพียง 25 ปี ขอองค์พระหลวงตาอยู่ดำรงคงขันธ์จนครบ 120 ปี
เพื่อชาวไทยเป็นเบื้องต้น ตลอดจนชาวโลกเป็นที่สุด ได้รับรู้ถึงธรรมแห่งพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าด้วยเทอญ

แม้นต้องแลกกับชีวิตของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าก็ยอม เพียงขออย่าให้ลูกหลานที่รักพระหลวงตา ต้องสูญเสีย พ่อแม่ครูอาจารย์ที่รักที่สุดไปเลย

 

เสมือนต้นธรรมใหญ่ล้มลงแล้วเหล่าสัตว์โลกทั้งหลายจะพึ่งใคร

 

รีบปฎิบัติดีกว่าครับ จะได้ไปเจอท่านเร็วๆ จะได้หายตกใจไวไว

 

ขออนุโมทนาบุญกับทุกๆท่านครับ ธรรมใดที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ทรงพบแล้ว ขอธรรมนั้น จงสำเร็จแก่ท่านทั้งหลายโดยเร็วด้วยเถิด สาธุ สาธุ สาธุ
อิทัง ปุญญะผะลัง ผลบุญใด ที่ข้าพเจ้า ได้บำเพ็ญแล้ว ตั้งแต่ต้นชาติ จนถึงปัจจุบันชาติ ข้าพเจ้าขออุทิศส่วนกุศลนี้ ให้แก่เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลาย ที่เคยล่วงเกินมาแล้ว แต่ชาติก่อนก็ดี ชาตินี้ก็ดี ขอเจ้ากรรมนายเวรทั้งหลาย จงโมทนา ส่วนกุศลนี้ ขอจงอโหสิกรรมให้แก่ข้าพเจ้า ตั้งแต่บัดนี้ ตราบเท่าเข้าสู่พระนิพพาน และขออุทิศส่วนกุศลนี้ ให้แก่เทพเจ้าทั้งหลาย ที่ปกปักรักษาข้าพเจ้า และเทพเจ้าทั้งหลาย ทั่วสากลพิภพ และพระยายมราช ขอเทพเจ้าทั้งหลาย และพระยายมราช จงโมทนาส่วนกุศลนี้ ขอจงเป็นสักขีพยาน ในการบำเพ็ญกุศล ของข้าพเจ้าในครั้งนี้ด้วยเถิด และขออุทิศส่วนกุศลนี้ ให้แก่ท่านทั้งหลาย ที่ล่วงลับไปแล้ว ที่เสวยความสุขอยู่ก็ดี เสวยความทุกข์อยู่ก็ดี เป็นญาติก็ดี มิใช่ญาติก็ดี ขอท่านทั้งหลาย จงโมทนาส่วนกุศลนี้ พึงได้รับประโยชน์ ความสุข เช่นเดียวกับข้าพเจ้า จะพึงได้รับ ณ กาลบัดเดี๋ยวนี้เถิด หากท่านทั้งหลายยังไม่มีโอกาสได้อนุโมทนาเพียงใด ขอเทพเจ้าทั้งหลายและพระยายมราชจงเป็นสักขีพยานให้แก่ข้าพเจ้าด้วย เจอเธอเมื่อใด ขอให้เธอได้อนุโมทนาส่วนกุศลนี้ด้วยเถิด ผลบุญใด ที่ข้าพเจ้า ได้บำเพ็ญแล้ว ตั้งแต่ต้นชาติ จนถึงปัจจุบันชาตินี้ ขอผลบุญนี้ จงเป็นปัจจัย ให้ข้าพเจ้า ได้เข้าถึง ซึ่งพระนิพพานในชาติปัจจุบันนี้ด้วยเถิด หากแม้นยังไม่ถึงพระนิพพานเพียงใด ขอคำว่าไม่รู้ ไม่มี ในสิ่งที่ดี จงอย่าได้บังเกิดแก่ข้าพเจ้าเลย ขอผลบุญทั้งหลาย ที่ข้าพเจ้า ได้กระทำแล้ว จงบังเกิดผล ณ กาลบัดเดี๋ยวนี้เถิด
<!-- / message -->

 

น่าใจหายจังคับ คุณ แดนโลกธาตุ ก็คงรู้สึกเดียวกับผม ที่เนื้อนาบุญอันดีของเราชาวพุทธ จะละหายไปจากโลกใบนี้ ยิ่งน้อยลง ก็ยิ่งน่าใจหายคับ

 

สาธุ.....ทุกสิ่งบนโลกล้วนแล้วแต่เป็นของไม่เที่ยงนะคะ

 

วันนี้ผมได้ไปกราบท่าน พร้อมกับร่วมทำบุญผ้าป่า ถวายผ้าป่า ที่สวนแสงธรรมด้วย
ทราบว่าท่านเทศน์อย่างนี้ ก็รู้สึกใจหาย แค่ไปนั่งกราบหลวงตาห่างๆ ยังรู้สึกถึงกระแสความเมตตา ที่แผ่ออกมาอย่างไม่มีประมาณ จริงๆ ว่าแต่หลวงตา อยู่ที่สวนแสงธรรม ถึงวัน ที่ 10 ก.ค.นี่นา ใคร อยากไปกราบหลวงตาร่วมทำบุญ กับหลวงตา ก็ เชิญร่วมอนุโมทนา ได้นะครับ ตอน 06.30 น. ร่วมตักบาตร แล้วฟังเทศน์หลัง ฉันเช้า
เย็น 18.30 น. ที่สวนฯ เลี้ยงข้าวต้ม จากนั้น 19.00 น. หลวงตา จะเมตตาแสดงธรรมโปรด ศิษย์ที่มากราบ ดูแผนที่ไปสวนแสงธรรมได้ที่ www.luangta.com อนุโมทนาบุญกับทุกท่านด้วยครับ

 

ข้าพเจ้าขอร่วมอนุโมทนาในกุศลบุญทั้งหลายของหลวงตามหาบัวด้วยนะครับ

 

ไม่เจตนาว่าใคร แต่เขียนให้คิดในแง่ดีไว้ก่อน

หลวงตาเทศน์ให้ลูกศิษย์ฟังเสมอ ว่าแก่แล้วใกล้จะตายล่ะ ที่ท่านบอกว่าจะไปล่ะ ก็ถือเป็นธรรมดาของธาตุขันธ์ที่ผ่านกาลเวลามาขนาดนี้ จะให้ท่านบอกว่ายังอีกนานกว่าจะไปได้อย่างไร เพื่อให้ลูกศิษย์ไม่ประมาท ใครจะรีบเร่งความเพียรอย่างไร ก็รีบทำเสียแต่ตอนนี้ และที่ท่านว่า ไปคราวนี้จะไม่กลับ พูดให้ชัด ก็หมายความว่า (คาดเดาเอาเอง ไม่อาจเอื้อมไปพยากรณ์จิตใจของท่าน) ขอใช้คำว่า น่าจะหมายความว่า ชาตินี้เป็นชาติสุดท้ายของท่านแล้ว ตายจากนี้แล้วจะไม่กลับมาเกิดอีก

อันที่จริงหลวงตาก็เทศน์อย่างนี้มาหลายกัณฑ์แล้ว หนึ่งเป็นการเตือนลูกศิษย์ไม่ให้ประมาท สองเป็นการยืนยันในธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงตรัสไว้ดีแล้วนั้นว่า ธรรมแท้ย่อมให้ผลตามสมควรแก่ความปฏิบัติ และควรแก่วาสนาบารมีที่สั่งสมมาไม่เท่าเทียมกันในผู้ปฏิบัติแต่ละราย เป็นสันทิฎฐิโกของผู้ปฏิบัติจะพึงรู้ได้เอง เมื่อบรรลุธรรมของจริง ก็พูดได้อย่างอาจหาญ ไม่มีข้อสงสัยใดๆทั้งนั้น ในธรรมที่ตนรู้ตนเห็น และเป็นเครื่องยืนยันว่า มรรคผลนิพพานเป็นของมีอยู่จริง และเป็นสมบัติอันควรแก่ผู้ปฏิบัติทุกคน อย่าพึงท้อแท้หมดอาลัยอาวรณ์ โดยมุ่งหวังจะเอาแต่ผล ไม่ขวนขวายในเหตุ คือความปฏิบัติ อันควรแก่มรรคผลนิพพาน

หลวงตายกการปฏิบัติของท่านให้ลูกศิษย์ดูไว้เป็นอุทธาหรณ์สอนใจ ไม่ได้โอ้อวดเหมือนที่หลายๆคนอาจจะคิด

การปรารถนาอยากให้หลวงตามีอายุยืนเป็นร้อยกว่าปี เป็นเจตนาดีก็จริง แต่มันฝืนความจริง และเป็นสิ่งที่ไม่อาจเป็นได้อย่างใจเราปรารถนา ใครทำความปรารถนาอย่างนั้น ย่อมไม่มีทางสมหวัง และจะต้องประสบทุกข์เมื่อหลวงตาท่านจากไป เพราะความยึดมั่นในธาตุขันธ์ของหลวงตา โดยไม่เหลียวแลธรรมที่หลวงตาอุตส่าห์เทศน์สอน

ถ้ายึดมั่นในคำสอนแล้วเอาไปปฏิบัติ ก็คงไม่ทำความปรารถนาอย่างนี้ แม้พระพุทธองค์ยังทรงดับขันธปรินิพพาน ถึงกระนั้น ก็ยังมีผู้ปฏิบัติจนบรรลุธรรมเห็นธรรมได้ ดูหลวงตาเป็นแบบอย่างสิ มาห่วงอะไรกับธาตุขันธ์หลวงตา ประหนึ่งว่า ถ้าหลวงตาจากไปแล้ว เราจะไม่มีทางปฏิบัติจนได้มรรคผลนิพพาน หลวงตาจากไป ก็ไม่ได้เอามรรคผลนิพพานของใครไปด้วย มรรคผลนิพพานยังคงมีอยู่กับเรา และพร้อมจะให้ผลกับเราอยู่ทุกยุคทุกสมัย ตามควรแก่การปฏิบัติของเราเอง

จงปรารถนาในสิ่งที่ควรจะดีกว่านะ การปรารถนาในสิ่งที่ไม่ควร ก็ไม่มีทางจะสมหวังได้ตลอดกาลนาน นอกจากประสบทุกข์โดยถ่ายเดียวเท่านั้น

หลวงตาจะละขันธ์เมื่อใด ย่อมขึ้นอยู่กับกาลอันควรของธาตุขันธ์ของท่านเอง ไม่มีใครจะไปยืดไปหดอายุธาตุขันธ์ของท่านได้หรอก (แม้องค์ท่านเอง ถึงจะทำได้ ก็ยังไม่ปรารถนาที่จะทำ เพราะต้องฝืนความจริง)

จงถือเอาคำสอนของท่านไปปฏิบัติเถิด ก็เสมือนมีหลวงตาอยู่ภายในใจของเราตลอดไป ตรงกันข้าม แม้หลวงตาจะยังอยู่ แต่เราห่างไกลจากข้อปฏิบัติลิบลับ ก็หามีประโยชน์อันใดไม่

 

คุณแดนโลกธาตุคะ เมื่อวานดิฉันพาลูกสาวไปสวนแสงธรรมมาค่ะ ได้กราบหลวงปู่ผู้เป็นนาบุญอันเลิศ ปลื้มใจทั้งแม่ทั้งลูกค่ะ ตอนท่านจะลุก ต้องมีคนสองคน ถ้าจำไม่ผิด พระ 1 โยม 1 ช่วยกันอุ้มท่านขึ้นมา ท่านบอกว่า ให้ดูเอานะ แก่แล้วก็เป็นแบบนี้แหละ ค่ะ

อดใจหายไม่ได้เลย....

สาธุชนทุกท่านคะ อย่าปล่อยให้วันเวลาผ่านไป แล้วมาเสียใจว่าเราน่าจะไปกราบทำบุญกับท่านตั้งนานแล้ว คิดได้ให้รีบไปค่ะ ฝนตกรถติดก็ให้ตั้งใจมั่นว่าต้องไปให้ได้ ท่านอยู่ถึงอุดรธานี อายุท่านขนาดนี้ ท่านยังกรุณาสัตว์โลก นำพาสังขารที่อิดโรยของท่าน มาโปรดพวกเราชาวกรุงเทพแล้ว อย่ารีรอเลยค่ะ มีเพื่อนฝูง ญาติพี่น้องที่ไหน รีบๆชวนกันไปค่ะ เราเป็นลูกศิษย์ลูกหา เป็นลูกเป็นหลานท่าน มีโอกาสเมื่อไร ให้เราทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุดค่ะ ประโยชน์ที่ได้ก็สำเร็จแก่เราเองแท้ๆ