ในพรรษาควรมีข้อวัตรปฏิบัติประจำตน หลวงตามหาบัว

ในห้อง 'หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต' ตั้งกระทู้โดย aprin, 8 กรกฎาคม 2009.

  1. aprin

    aprin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    7,492
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +22,514
    เทศน์อบรมฆราวาส ณ ศาลาใหญ่วัดป่าบ้านตาด


    เนื่องในวันอาสาฬฆบูชา<O:p</O:p


    เมื่อเช้าวันที่ ๗ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๕๒
    <O:p</O:p


    ในพรรษาควรมีข้อวัตรปฏิบัติประจำตน
    <O:p</O:p


    <O:p</O:p

    วันนี้เป็นวันรวมอาสาฬหะ วันรวมจะเข้าพรรษา วันพรุ่งนี้ก็เป็นฤดูฝน วันเข้าพรรษาของพระ พระท่านมีข้อวัตรปฏิบัติอย่างไรท่านก็เข้มงวดกวดขันในข้อวัตรปฏิบัติของท่าน เราเป็นฆราวาสลูกศิษย์พระพุทธเจ้าก็ให้ตั้งหน้าตั้งตาปฏิบัติตนอยู่ในขอบเขตแห่งศีลธรรมของชาวพุทธเรา อย่าได้ปล่อยตัวตลอดมาตั้งแต่วันเกิด ปล่อยเรื่อยๆ ไปจนกระทั่งจมลงไม่มีเหลือใช้ไม่ได้นะ ถึงวันกำหนดกฎเกณฑ์ที่จะบังคับขับไสเจ้าของเข้าสู่ศีลธรรมก็ให้ตั้งใจปฏิบัติตน วันพระวันโกนหรือวัน ๑๔ ๑๕ ค่ำ ซึ่งเป็นสำคัญทางพุทธศาสนา เป็นวันที่ชาวพุทธเราจะหันหน้าเข้าสู่ศีลสู่ธรรม สร้างความสงบให้แก่ใจ ไม่ใช่จะเป็นวันปล่อยตัวไปตลอดเวลาใช้ไม่ได้ พากันตั้งอกตั้งใจ
    <O:p</O:p
    เวลาตายแล้วมีอะไรที่จะติดเนื้อติดตัวเรา ตาโลกทั้งหลายเห็นแต่สมบัติเงินทองข้าวของวัตถุศฤงคารบริวารเป็นเครื่องส่งเสริมกันให้ลืมตัวอีกด้วยซ้ำ แต่ทางศีลธรรมให้มีคุณธรรมภายในใจ สร้างบุญสร้างกุศลให้พอตัว เวลาไปแล้วบุญกุศลนี้จะตามส่งเสียเราไปสู่จุดที่หมาย ส่วนบาปนั้นจะขับไล่ไสส่งลงไปสู่ทางต่ำมีนรกเป็นต้น ให้เราคัดเลือกเสีย
    <O:p</O:p
    วันนี้เป็นวันรวมเข้าพรรษา ให้ต่างคนต่างให้มีข้อวัตรปฏิบัติประจำอุบาสก-อุบาสิกาของเรา พระท่านก็ปฏิบัติตามหน้าที่ของพระผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ท่านจะปฏิบัติตนให้เป็นไปเพื่อความสงบร่มเย็นแก่ท่านเอง มันถึงเรียกว่ามีวันนั้นวันนี้ สำหรับวันจริงๆ เขาก็มีแต่มืดกับแจ้ง ส่วนที่ดีที่ชั่วจริงๆมันอยู่กับคน มันไม่ได้อยู่กับมืดกับแจ้งนะ อยู่กับคน คนทำชั่วทั้งที่มืดและที่แจ้งอะไรก็เป็นอันทำ ทำดีเป็นดี ทำชั่วเป็นชั่ว
    <O:p</O:p
    ระยะนี้ในพรรษาควรจะมีข้อวัตรปฏิบัติประจำตน เช่นอย่างวันเข้าพรรษานับแต่วันพรุ่งนี้ไปให้มีข้อวัตรปฏิบัติ ใครจะทำสัจจะวาจาบังคับจิตใจของตนให้เข้าสู่ศีลธรรมตามวันเวลาที่กำหนดไว้แล้วว่า..เช่นวันหนึ่งๆ เราใส่บาตรไม่ให้ขาด อย่างน้อยให้ได้ใส่บาตรพระองค์หนึ่งก็ยังดี นี่ก็เป็นคำสัตย์คำจริงอันหนึ่ง วันศีลวันธรรมเช่นนี้เข้าสู่วัดสู่วาฟังธรรมจำศีล เสร็จเรียบร้อยแล้วไปทำความสงบตนอยู่ภายในจิตใจ ไม่ไปทำเสียหายแต่อย่างใด ท่านเรียกว่าเป็นวันของชาวพุทธเรา
    <O:p</O:p
    วันชาวพุทธเป็นวันฟุ้งเฟ้อเห่อเหิมใช้ไม่ได้ วันชาวพุทธต้องเป็นวันจิตใจเข้าสู่ศีลธรรมเพื่อความสงบร่มเย็น นี่ท่านเรียกว่าชาวพุทธ เช่นอย่างวันนี้รวมเข้าพรรษาก็รวมกันแล้ววันนี้เห็นกันอยู่ชัดเจน วันพรุ่งนี้ก็เป็นวันเข้าพรรษา เพราะเป็นวันฤดูฝนในวันพรุ่งนี้ วันนี้ยังเป็นวันฤดูร้อนอยู่ จากนั้นเข้าเป็นฤดูฝน พรรษาๆ คือพวกฤดูฝนนั่นละ
    <O:p</O:p
    ระยะนี้เราก็ให้ปฏิบัติตนของเราให้ดี ใครจะตั้งคำสัตย์คำจริงไว้สำหรับตัวในเวลามีชีวิตอยู่นี้ให้บังคับไว้เสีย ตายแล้วให้กิเลสตัณหาความชั่วช้าลามกบังคับก็ไสลงสู่ทางต่ำตกนรกอเวจีไปหมด หาผู้ที่ขึ้นสวรรค์ชั้นพรหมตลอดพระนิพพานจะไม่มีติดใจติดตัวของชาวพุทธเลยอย่างนี้ใช้ไม่ได้ ให้ตั้งใจปฏิบัติ การทำบุญทำกุศลทำให้จริงให้จัง เขาทำบาปไม่ได้ตั้งใจทำ หรือตั้งใจทำก็ตามก็เป็นบาปด้วยกันทั้งนั้น เราตั้งใจทำกุศลนี้ยิ่งเป็นความตั้งอกตั้งใจทำอย่างแท้จริงแล้วก็เป็นบุญเป็นกุศลสำหรับตัวของเรา คนมีศีลธรรมมีความสง่างามภายในใจ
    <O:p</O:p
    เริ่มตั้งแต่การให้ทานไม่เป็นคนคับแคบตีบตันอั้นตู้ ไปที่ไหนคบค้าสมาคมกับใครไม่ได้ เพราะความเห็นแก่ตัว ความเห็นแก่ตัว มันกีดกั้นทางเดินเพื่อสังคมให้เป็นความร่มเย็นเป็นสุข มีแต่สังคมเป็นฟืนเป็นไฟ พูดกันชวนกันมีแต่เข้าโรงเหล้าเมาสุราอย่างนี้ใช้ไม่ได้นะ ชวนกันเข้าวัดเขาวาจำศีลฟังธรรมนี่ละที่จะติดตัวของเราไปในภพหน้าชาติหน้า เรื่องภพเรื่องชาตินี้เกิดแน่นอนไม่สงสัยไม่ว่าสัตว์ตัวใด เราตายแล้วต้องหาที่เกิด ที่เกิดนั้นต้องมีวิบากกรรม ถ้าวิบากกรรมอันดีก็พาไปเกิดในสถานที่ดี คติที่สมมักสมหมาย ถ้าไม่ได้ทำความดีไว้ สร้างแต่ความบาปหาบแต่กรรมแล้วตายลงไปแล้วตัวเองนั้นละเป็นภัยต่อตัวเอง พาให้จมลงนรกหมกไหม้ มีแต่พวกกล้าหาญชาญชัย ทำบาปลบล้างบาปบุญไม่มีนรกสวรรค์ไม่มี คำสอนของพระพุทธเจ้าไม่จริงเหลาะแหละ พวกนี้พวกจะพากันจมทั้งหมด
    <O:p</O:p
    ไม่มีใครที่จะพูดได้ถูกต้องแม่นยำยิ่งกว่าศาสดาองค์เอก พระพุทธเจ้ารับสั่งคำใดออกไปแล้วถูกต้องหมด แต่พวกเรานี้เคลื่อนไหวไปไหนมาไหน มีแต่ความผิดความพลาด หาความเป็นสาระแก่ตนไม่ได้ จึงต้องอาศัยธรรมมาเป็นเครื่องบังคับ มันอยากทำชั่วเราก็บังคับอย่าให้ทำ ไม่ให้มันทำ ให้ทำแต่ความดีงาม อยู่ในโลกนี้ก็เย็น ตายไปแล้วก็มีบุญมีกุศลที่เราอุตส่าห์สร้างมานี่ละเป็นเครื่องสนับสนุน ให้เราไปสู่สถานที่ดีสำหรับคนมีบุญ สำหรับคนมีบาปก็นรกเป็นที่อยู่ คนมีบุญสวรรค์ชั้นพรหมขึ้นไปจนกระทั่งนิพพานเป็นที่อยู่
    <O:p</O:p
    เวลามีชีวิตอยู่นี้ให้พากันตั้งอกตั้งใจ อย่าสักแต่ว่าทำใช้ไม่ได้ ทำด้วยความตั้งอกตั้งใจเป็นบุญเป็นกุศลทั้งนั้นละ ขอให้พี่น้องทั้งหลายตั้งอกตั้งใจ เวลานี้เป็นเวลาเข้าพรรษาถึงวันออกพรรษาสามเดือน เราจะมีข้อบังคับตัวเองเข้าสู่ศีลธรรมในข้อใดก็ให้พยายามทำ เช่นตื่นขึ้นมาตอนเช้าให้ได้ใส่บาตรทุกวันๆ ไม่ให้ขาดวรรคขาดตอน ไป แม้ที่สุดได้ใส่บาตรองค์เดียวก็ยังดี เป็นเครื่องหมายของผู้มีสัจจธรรมคือความจริงใจต่อศีลต่อธรรม ถ้าเหลาะๆแหละๆ ตั้งแต่เกิดมาเหลาะแหละจนกระทั่งวันตายก็เหลาะแหละอย่างนี้ใช้ไม่ได้เลยนะ
    <O:p</O:p
    เข้าทำนองที่ธรรมท่านแสดงไว้ ตโมตมปรายโน เวลาเกิดขึ้นมาก็มืดบอด เกิดขึ้นมาแล้วก็มืดบอด หาความสว่างไสวความรักใคร่ใฝ่ธรรมไม่มี สร้างแต่บาปแต่กรรม ตโมตมคือเบื้องต้นก็มืด มีชีวิตอยู่จนกระทั่งถึงวันตายก็มืด มืดบอด หาความเจริญรุ่งเรืองใส่ตัวเองไม่ได้ นี่ผิด ถ้าพูดให้ถูกต้องตามครองธรรมก็ว่า ตโมโชติปรายโน เบื้องต้นเราเกิดมาไม่ได้ศึกษาอบรมก็ต้องผิดบ้างถูกบ้างเป็นธรรมดา แต่เวลาได้รับการศึกษาอบรมแล้วพยายามนำธรรมนั้นเข้ามาอบรมแก่ตัวเอง อบรมให้เป็นคนดีขึ้นเป็นลำดับๆ นี่เรียกว่าตโมโชติปรายโนเวลาเกิดมามืดบอดครั้นต่อไปมีความสว่างไสวด้วยกันฝึกเนื้อฝึกตัวจนเข้าสู่ศีลธรรม เข้าไปสู่ความสุขความเจริญได้ ให้พี่น้องทั้งหลายจำเอาให้ดีนะ
    <O:p</O:p
    หลวงตาก็แก่แล้วเวลานี้ เทศนาว่าการไม่ได้เรื่องได้ราวอะไรก็อุตส่าห์เทศน์ด้วยความเมตตา เพราะอันนี้เป็นทางที่ถูกที่ดีของเราเป็นมนุษย์และเป็นชาวพุทธด้วย ให้นำไปปฏิบัติ คนคนหนึ่งเป็นสัตว์ทั้งตัวตั้งแต่เกิดจนกระทั่งวันตายใช้ไม่ได้นะ คนคนหนึ่งมันมีแต่สักแต่ว่าคน ศีลธรรมไม่มีก็กลายเป็นสัตว์ไปหมด ให้มีศีลมีธรรมประจำตนบ้างตามกำลังความสามารถ อย่าได้ปล่อยเนื้อปล่อยตัว การปล่อยเนื้อปล่อยตัวไม่เป็นของดี มันเป็นคนเศษคนเดนไป ไม่ใช่เป็นคนมีราค่ำราคาอะไร ถ้าคนมีคุณงามความดีติดเนื้อติดตัวก็เรียกว่าเป็นคนมีคุณค่า มีสาระภายในตัวของเราเอง
    <O:p</O:p
    เพราะอย่างนั้นจึงให้พี่น้องทั้งหลายจดจำแล้วนำไปประพฤติปฏิบัติ ทำอะไรให้จริงจัง อย่าเป็นนิสัยเหลาะๆ แหละๆ ถ้าว่าเชื่ออรรถเชื่อธรรมเชื่อแต่ปาก หัวใจไม่เชื่อ การกระทำไม่เชื่อธรรม เชื่อแต่ความเห็นของตนที่มีตั้งแต่มูตรแต่คูถสกปรกเต็มหัวใจ แสดงออกมาเป็นมูตรเป็นคูถไปหมด ผู้ได้ยินได้ฟังก็ฟังแต่เรื่องมูตรเรื่องคูถมันใช้ไม่ได้ ให้ตั้งใจปฏิบัติตัวให้ดี ถ้าตั้งใจปฏิบัติตัวให้ดี ดีไม่สงสัย พระพุทธเจ้า-พระอรหันต์ท่านขึ้นสู่นิพพานมีจำนวนมากขนาดไหน ล้วนแล้วแต่ท่านได้ฝึกอบรมตนเต็มกำลังความสามารถ ไม่ใช่อยู่ๆไปสวรรค์ได้ ไปนิพพานได้ แล้วตกนรกได้ไม่มี
    <O:p</O:p
    การตกนรกเป็นความจงใจของผู้ทำชั่ว การไปสู่ความดีก็เป็นความจงใจของผู้สร้างความดี เมื่อสร้างความดีแล้วความดีก็เป็นเครื่องสนับสนุนให้มีความสง่างามเย็นอกเย็นใจจนกระทั่งวันตาย ตายแล้วไปเกิดในสถานที่ของคนมีบุญไปเกิด เช่นอย่างสวรรค์ อย่างน้อยก็มนุษย์ ไปสวรรค์ พรหมโลก นิพพาน นี่คนทำดีไปทางแถวนี้ แต่คนทำชั่วอบายมุข-อบายภูมิเหมาเอาหมด ตกนรกอเวจียังไม่แล้ว จมลงไปๆ ท่านว่านรก เปรต อสูรกาย สัตว์เดรัจฉาน นี่จะว่าเป็นสมบัติคือเครื่องเสวยมันก็มีแต่ความชั่วมาทำให้ตัวได้รับความเดือดร้อนมันก็ไม่ใช่สมบัติ ถ้าสมบัติเป็นเครื่องเสวยก็คือการสร้างความดีงามเอาไว้ก็จะมีความเย็นอกเย็นใจ
    <O:p</O:p
    เอาล่ะวันนี้ไม่เทศน์มากอะไร วันพรุ่งนี้ท่านก็จะอธิษฐานเข้าพรรษากันละพระ พระที่เข้าพรรษาสำหรับท่านผู้ตั้งอกตั้งใจปฏิบัติในศีลในธรรมจริงๆ ท่านจะมีความเข้มข้นหนักแน่นในข้อวัตรปฏิบัติผิดปรกติอยู่มาก ในเข้าพรรษาเป็นเครื่องดัดแปลงตัวเองเป็นกาลเป็นเวลาท่านก็ดัดแปลงให้เต็มความสามารถของท่าน ผู้ที่ปล่อยเนื้อปล่อยตัวไม่มีวันเข้าพรรษาออกพรรษา วันไหนก็มีแต่มืดกับแจ้ง ตัวบุคคลก็เป็นบุคคลโมฆะหาสาระแก่นสารแก่ตัวไม่ได้ ตั้งแต่วันเกิดมาจนกระทั่งถึงวันตายสร้างแต่ความชั่วช้าลามก เมื่อสร้างเต็มที่แล้วตายก็จมไปเลย ไม่ยากเย็นอะไร จมได้ง่าย
    <O:p</O:p
    แต่การฟื้นฟูตัวเองให้เข้าสู่ความดีงามต้องมีการฝึก การทรมานตนย่อมมีทุกข์มาก ทุกข์ก็ทุกข์เถอะ ทุกข์เพื่อความสุขไม่เป็นอะไร ท่านว่า ทุกฺขสฺสานนฺตรํ สุขํ ก่อนที่จะมีความสุขนั้น ต้องดัดแปลงตัวทุกสิ่งทุกอย่างซึ่งเป็นความทุกข์ผ่านไปก่อน ความสุขที่จะเป็นผลทีหลังก็เกิดตามๆกันขึ้นไป ทุกฺขสฺสานนฺตรํ สุขํ นี้ละท่านว่าทุกข์เสียก่อนความสุขจะตามมาเอง สุขสฺสานนฺตรํ ทุกฺขํ อะไรก็มีแต่ความสุกเอาเผากิน สุกเอาเผากิน เป็นคนเรียกว่าจับจด ทำอะไรไม่จริงไม่จัง เป็นคนเหลาะแหละ หาสาระไม่ได้ นี่เรียกว่าเป็นคนจับจดหาสาระไม่ได้ ท่านว่าคนคนนี้หาบตั้งแต่บาปตั้งแต่ความทุกข์ทรมาน ความผิดพลาดมาสังหารตนตลอดเวลาไม่สมควรแก่เราเป็นมนุษย์ จึงขอให้ท่านทั้งหลายนำไปฝึกฝนอบรม
    <O:p</O:p
    พระท่านอยู่ในวัดท่านไม่ได้ทำไร่ทำนา แต่ท่านฝึกฝนทรมานตนยิ่งหนักกว่างานเหล่านั้น เพราะทุกวันทุกเวลาฝึกตัวเอง เคลื่อนไหวไปมา คิดพูดออกมาเป็นความถูกต้องดีงามอย่างไรหรือไม่ต้องกลั่นกรองเสียก่อน ค่อยพูดออกไปแต่เรื่องที่เป็นศีลเป็นธรรม ถ้าอุตส่าห์พยายามรักษาก็เป็นคนดีไปเรื่อยๆ ถ้าไม่รักษาไม่เกิดประโยชน์ อะไรนะ ขอให้ท่านทั้งหลายจำเอาไว้ วันนี้พูดเพียงเท่านี้ละ เหนื่อย ต่อไปนี้จะให้ศีลให้พรแก่พี่น้องทั้งหลาย
    <O:p</O:p
    <O:pรับชมรับฟังพระธรรมเทศนาของหลวงตา ได้ที่<O:p</O:p
    www.luangta.com หรือ www.luangta.or.th<O:p</O:p

    และทางสถานีวิทยุเสียงธรรมเพื่อประชาชน FM 103.25 MHz<O:p</O:p

    พร้อมเครือข่ายทั่วประเทศ


    Luangta.Com - ��ǧ����Һ�� �ҳ����ѹ��
     

แชร์หน้านี้

Loading...