บ่งบอกว่าไม่ได้อ่าน ตาบอดไปแล้วรึเนี่ย
โกรธจนตาบอดเลย จะสงสาร หรือ สมน้ำหน้า ดีนะเนี่ย
สาธุครับ
ให้ดูที่ " จิต "
ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย oatthidet, 3 เมษายน 2013.
หน้า 13 ของ 14
-
ผู้ที่ไม่มีตัวตน ย่อมไม่สามารถรับรู้ในสิ่งเหล่านี้ได้ เพราะไม่มีความหมายอีกแล้ว
ไม่มีความอาลัยอาวรณ์ต่อชาติภพ ไม่มีการกลับมาเกิดอีก จึงไม่จำเป็นต้องสนใจ
ใครจะด่า จะว่า จะทำอย่างไร ก็ไม่โกรธ ไม่โมโห ไม่ชื่นชมยินดีกับคำชมต่างๆ
แต่หากยังมีอารมณ์เหล่านี้ ที่โกรธ โมโห ชื่นชอบ ชื่นชม ยินดี ดีใจ เสียใจ
นี่คือ การหลอกตนเองว่า ไม่มีตัวตน
ถามครั้งที่หก ให้ตอบแค่ ใช่ หรือ ไม่ใช่ อย่างอื่นไม่ต้องตอบ
เอางี้ๆ ผมถามสั้นๆ ง่ายๆ นะ oatthidet ไม่ต้องมั่ว ไม่ต้องแถ ไม่ต้องลากยาว ไม่ต้องเบี่ยงประเด็น ตอบแค่ ใช่ หรือ ไม่ใช่
oatthidet คิดว่า ผู้ที่บรรลุแล้ว สามารถรับรู้อารมณ์ได้หรือไม่?
ให้ตอบแค่ ใช่ หรือ ไม่ใช่ เท่านั้นพอ ไม่ต้องตอบอย่างอื่นมา -
ใช่ หรือ ไม่ใช่
พอใจแล้วใช่ไหมครับ
สาธุครับ -
ผู้ที่ไม่มีตัวตน ย่อมไม่สามารถรับรู้ในสิ่งเหล่านี้ได้ เพราะไม่มีความหมายอีกแล้ว
ไม่มีความอาลัยอาวรณ์ต่อชาติภพ ไม่มีการกลับมาเกิดอีก จึงไม่จำเป็นต้องสนใจ
ใครจะด่า จะว่า จะทำอย่างไร ก็ไม่โกรธ ไม่โมโห ไม่ชื่นชมยินดีกับคำชมต่างๆ
แต่หากยังมีอารมณ์เหล่านี้ ที่โกรธ โมโห ชื่นชอบ ชื่นชม ยินดี ดีใจ เสียใจ
นี่คือ การหลอกตนเองว่า ไม่มีตัวตน
ถามครั้งที่เจ็ด ให้ตอบแค่ ใช่ หรือ ไม่ใช่ อย่างอื่นไม่ต้องตอบ
เอางี้ๆ ผมถามสั้นๆ ง่ายๆ นะ oatthidet ไม่ต้องมั่ว ไม่ต้องแถ ไม่ต้องลากยาว ไม่ต้องเบี่ยงประเด็น ตอบแค่ ใช่ หรือ ไม่ใช่
oatthidet คิดว่า ผู้ที่บรรลุแล้ว สามารถรับรู้อารมณ์ได้หรือไม่?
ให้ตอบแค่ ใช่ หรือ ไม่ใช่ เท่านั้นพอ ไม่ต้องตอบอย่างอื่นมา -
ตอบแล้วนะ ยังไม่พอใจอีก
สาธุครับ -
ผู้ที่ไม่มีตัวตน ย่อมไม่สามารถรับรู้ในสิ่งเหล่านี้ได้ เพราะไม่มีความหมายอีกแล้ว
ไม่มีความอาลัยอาวรณ์ต่อชาติภพ ไม่มีการกลับมาเกิดอีก จึงไม่จำเป็นต้องสนใจ
ใครจะด่า จะว่า จะทำอย่างไร ก็ไม่โกรธ ไม่โมโห ไม่ชื่นชมยินดีกับคำชมต่างๆ
แต่หากยังมีอารมณ์เหล่านี้ ที่โกรธ โมโห ชื่นชอบ ชื่นชม ยินดี ดีใจ เสียใจ
นี่คือ การหลอกตนเองว่า ไม่มีตัวตน
ถามครั้งที่แปด ให้ตอบแค่ ใช่ หรือ ไม่ใช่ อย่างอื่นไม่ต้องตอบ
เอางี้ๆ ผมถามสั้นๆ ง่ายๆ นะ oatthidet ไม่ต้องมั่ว ไม่ต้องแถ ไม่ต้องลากยาว ไม่ต้องเบี่ยงประเด็น ตอบแค่ ใช่ หรือ ไม่ใช่
oatthidet คิดว่า ผู้ที่บรรลุแล้ว สามารถรับรู้อารมณ์ได้หรือไม่?
ให้ตอบแค่ ใช่ หรือ ไม่ใช่ เท่านั้นพอ ไม่ต้องตอบอย่างอื่นมา -
หลังจากนี้ ผมจะไม่ตอบคำถามคุณอีก
ขอให้จากกันด้วยดีครับ ทางเดินมีหลายสาย อยู่ที่ตนเองเลือกเดิน
ใช่ หรือ ไม่ใช่
สาธุครับ -
อ้างอิง:
ผู้ที่ไม่มีตัวตน ย่อมไม่สามารถรับรู้ในสิ่งเหล่านี้ได้ เพราะไม่มีความหมายอีกแล้ว
ไม่มีความอาลัยอาวรณ์ต่อชาติภพ ไม่มีการกลับมาเกิดอีก จึงไม่จำเป็นต้องสนใจ
ใครจะด่า จะว่า จะทำอย่างไร ก็ไม่โกรธ ไม่โมโห ไม่ชื่นชมยินดีกับคำชมต่างๆ
แต่หากยังมีอารมณ์เหล่านี้ ที่โกรธ โมโห ชื่นชอบ ชื่นชม ยินดี ดีใจ เสียใจ
นี่คือ การหลอกตนเองว่า ไม่มีตัวตน
ถามครั้งที่เก้า ให้ตอบแค่ ใช่ หรือ ไม่ใช่ อย่างอื่นไม่ต้องตอบ
เอางี้ๆ ผมถามสั้นๆ ง่ายๆ นะ oatthidet ไม่ต้องมั่ว ไม่ต้องแถ ไม่ต้องลากยาว ไม่ต้องเบี่ยงประเด็น ตอบแค่ ใช่ หรือ ไม่ใช่
oatthidet คิดว่า ผู้ที่บรรลุแล้ว สามารถรับรู้อารมณ์ได้หรือไม่?
ให้ตอบแค่ ใช่ หรือ ไม่ใช่ เท่านั้นพอ ไม่ต้องตอบอย่างอื่นมา -
คุยอะไรกันเหรอ...เอาภาษาบัญญัติมาพูดกันคนหนึ่งรู้อย่างหนึ่งคนหนึ่งรู้อย่างหนึ่ง แต่ที่แน่ๆทั้งสองคนต้องรู้แน่ๆว่า กำลังทำอะไรกันอยู่ ทั้งคุณโอและคุณอิน ถามในสิ่งที่ควรถามมักได้ประโยชน์ทั้งสองฝ่าย เดาว่าต่างฝ่ายคงรู้จุดบกพร่องของผู้อื่นและตนเองเป็นอย่างดี จึงมีการส่งคำถามและคำตอบตามสมมุติบัญญัตินั้นแก่กันและกัน...อนุโมทนาทั้งคู่เลยเพราะว่า อยู่ดีๆก็มีก็มีเรื่องราวให้ได้พิจารณา นับว่าเป็นเรื่องดีแก่ผู้อื่นและท่านทั้งสอง
สาธุคั๊บ -
บรรลุกันคราวนี้แหล่ะ
-
เห็นตอนแรก oatthidet บอกว่า ไม่มีตัวตน รับรู้อะไรไม่ได้
แต่หลวงปู่ดูลย์ท่านบอกว่า รับรู้เป็นปกติ
ถามไปถามมา ไม่ยอมตอบซะแบบนั้น ก็ขำดี... ไม่รู้ปฏิบัติธรรมภาษาอะไร ถามแค่ว่า ถูกต้องตามที่ครูบาอาจารย์ท่านสอนหรือไม่ กลับไม่ยอมตอบ
แต่ที่เห็นเหมือนไม่มีสาระ นี่ จริงๆ ผมแฝงสาระเอาไว้นะ
เพราะถ้านิพพาน ที่ oatthidet เห็น มันดันเป็นคนละอย่างกับ นิพพาน ที่ หลวงปู่ดูลย์ ท่านเข้าถึง มันก็บรรลัยหนะซี่...
ถ้าเห็นจุดหมายปลายทาง เป็นคนละที่ กับพระอริยเจ้า ที่อัฐิเป็นพระธาตุแล้ว เดินทางให้ตายกี่ชาติยังไง มันก็ไม่ถึงหนะซี่... -
อย่ารีบจนร้อนสิ ... ตามพระไตรปิฎก นิพพานไม่ได้มีแบบเดียวสักหน่อย มีสอุปาทิเสสนิพพาน กับอนุปาทิเสสนิพพาน จุดเล็กๆอย่างนี้คนชำนาญในตำราไม่น่าจะพลาด ยกเว้นละเลยส่วนของตัวเองเสีย ... ผมก็ ไม่แน่ใจจุดประสงค์ของคุณโอ๊ตในการกล่าว เรื่องสภาวะนิพพาน ไม่ทราบว่านี่ทำเพื่อให้มีกำลังในการปฏิบัติ หรือ ทำให้เกิดอกุศลต่อกันกันแน่... น่าจะกล่าววิธีการ มากกว่าผล จะดูฉลาดกว่า.
-
ผมอธิบายให้ฟังถึงความมีตัวตน และ ไม่มีตัวตน
ขณะที่หลวงปู่กล่าวนั้น มีตัวตนอยู่ไหมครับ
ในขณะนี้ หลวงปู่มีตัวตนอยู่ไหมครับ
ตัวตน ที่รวมเอาจิตด้วย ไม่ใช่ ตัวตนที่เป็นแค่ร่างกาย
คุณ อินทรบุตร จะบังคับให้ผมตอบ แต่ผมถามเขาไม่รู้กี่ครั้ง กลับไม่ตอบ
เหมือนเด็กที่เล่นขายของเลย ที่เอาแต่ใจตนเอง
ผมได้อธิบายแล้ว หากยังไม่เข้าใจ ผมคงไม่มีคำอธิบายครับ
สาธุครับ -
ผู้ที่ไม่มีตัวตน ย่อมไม่สามารถรับรู้ในสิ่งเหล่านี้ได้ เพราะไม่มีความหมายอีกแล้ว
ไม่มีความอาลัยอาวรณ์ต่อชาติภพ ไม่มีการกลับมาเกิดอีก จึงไม่จำเป็นต้องสนใจ
ใครจะด่า จะว่า จะทำอย่างไร ก็ไม่โกรธ ไม่โมโห ไม่ชื่นชมยินดีกับคำชมต่างๆ
แต่หากยังมีอารมณ์เหล่านี้ ที่โกรธ โมโห ชื่นชอบ ชื่นชม ยินดี ดีใจ เสียใจ
นี่คือ การหลอกตนเองว่า ไม่มีตัวตน
ถามครั้งที่สิบ ให้ตอบแค่ ใช่ หรือ ไม่ใช่ อย่างอื่นไม่ต้องตอบ
เอางี้ๆ ผมถามสั้นๆ ง่ายๆ นะ oatthidet ไม่ต้องมั่ว ไม่ต้องแถ ไม่ต้องลากยาว ไม่ต้องเบี่ยงประเด็น ตอบแค่ ใช่ หรือ ไม่ใช่
oatthidet คิดว่า ผู้ที่บรรลุแล้ว สามารถรับรู้อารมณ์ได้หรือไม่?
ไม่ต้องมายอกย้อน ว่ามีตัวตน หรือ ไม่มีตัวตน เอาแค่ ผู้ที่บรรลุแล้ว รับรู้อารมณ์ได้หรือไม่
ให้ตอบแค่ ใช่ หรือ ไม่ใช่ เท่านั้นพอ ไม่ต้องตอบอย่างอื่นมา -
การละสังขาร ของหลวงปู่ดูลย์ หมายถึงการละตัวตน หรือยังไง?
หลวงปู่ดูลย์ ท่านหมดตัวตนตอนละสังขาร หรือหมดตัวตน ตอนสมุทเฉทธรรมทั้งปวง? -
โกรธน่ะมี แต่ไม่เอา บ่งบอกว่ามีการรับรู้
รับรู้ความรู้สึก แต่ไม่ยึดเอาความรู้สึก
ตัดก่อน ละก่อน ที่จะเกิดการปรุงแต่ง
นี่คือ อาการแยก จิตออกจากใจ โดยสมบูรณ์
การปฎิบัติ ด้วยการแยก กาย ใจ จิต มีผลเป็นเช่นนี้
เมื่อยังมี กาย ใจ จิต ย่อมรับรู้ไม่ต่างจากคนธรรมดาสามัญ
แต่สามารถก้าวข้ามการปรุงแต่งไปได้ ด้วยการไม่สนใจ การเพิกเฉย
แต่เมื่อ ละสังขารไปแล้ว จิต จะอยู่โดยลำพังไม่ได้
ซึ่ง สังขาร ที่กล่าวนี้ คือ การปรุงแต่งของ กาย ใจ จิต ที่ร่วมตัวกันขึ้นมา
ฉนั้น เมื่อยังมีอยู่ครบ ย่อมรับรู้เฉกเช่น ปุถุชน ไม่แตกต่าง แต่ไม่ตอบสนอง
สาธุครับ -
๙ ครั้ง ที่ให้ถาม เพราะเมื่อเกิดการถาม บ่งบอกถึงความต้องการ
ซึ่งตนเองจะเห็นการปรุงแต่งอย่างชัดเจน
เป็นการสนใจตนเอง และ ตั้งใจ อย่างยิ่งยวด
แต่ ๙ ครั้ง ผ่านไป ไม่มีอะไรเกิดขึ้น จึงได้กล่าวว่าหมดโอกาศแล้ว
เมื่อมองแต่ผู้อื่น โดยไม่มองตนเองแม้แต่น้อย ไม่ควรสนทนาด้วยอีก
ปัญญา ไม่มี ควรฝึกฝนให้มาก ดีกว่าอวดรู้ อวดฉลาด มันเสียเวลา
สาธุครับ -
-
เข็นไม่ขึ้นจริงๆ คุณอย่ามาสนทนากับผมจะดีกว่า
จากนี้ ผมจะไม่สนทนากับคุณอีก
สนใจแต่จะชนะอย่างเดียว ผมรู้อยู่แล้วว่าตอบแล้วจะเป็นยังไง
นิสัยคุณมันบอก แต่กลับไม่อ่านให้เข้าใจ
เสียเวลา -
อินทรบุตร's Avatar
วันที่สมัคร: Jun 2012
ข้อความ: 1,970
Groans: 34
Groaned at 1,394 Times in 1,265 Posts
ได้ให้อนุโมทนา: 4,912
ได้รับอนุโมทนา 4,432 ครั้ง ใน 1,238 โพส
พลังการให้คะแนน: 504
อินทรบุตร has a reputation beyond reputeอินทรบุตร has a reputation beyond reputeอินทรบุตร has a reputation beyond reputeอินทรบุตร has a reputation beyond reputeอินทรบุตร has a reputation beyond reputeอินทรบุตร has a reputation beyond reputeอินทรบุตร has a reputation beyond reputeอินทรบุตร has a reputation beyond reputeอินทรบุตร has a reputation beyond reputeอินทรบุตร has a reputation beyond reputeอินทรบุตร has a reputation beyond repute อ้างอิง:
ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ newamazing อ่านข้อความ
ใครเหรอที่บรรลุแล้ว ท่านอินเองหรือเปล่าครับที่บรรลุครับ
อย่าเพิ่งเอากิเลสตนเองมาปน พิจารณาให้ดีๆ ก่อน ท่าน newamazing
เข้าใจสิ่งที่ท่าน newamazing อยากจะทำทั้งหมดในตอนนี้นะ เป็นความหวังดี แต่ก็ยังเจือด้วยความคิดอยู่เยอะ
ให้พิจารณาก่อนว่า ทำแล้ว จะเกิดประโยชน์กับ oatthidet แน่หรือเปล่า oatthidet จะอ่านหรือไม่อ่าน ลองพิจารณาก่อน
__________________
มองไม่เห็นว่าเกิดประโยชน์กับผมตรงไหน
กลับคำว่า หน้าไหนมันบอกว่า ไม่มีการรับรู้
โกหกตนเองยังโกหกได้ โกหกคนอื่นคงไม่ใช่เรื่องยาก
คิดได้แค่นี้เอง คนเรา
หน้า 13 ของ 14