ไปรับขันครู (ครอบครู) มา จะแก้อย่างไร ?

ในห้อง 'หลวงพ่อเล็ก วัดท่าขนุน' ตั้งกระทู้โดย tamsak, 2 มิถุนายน 2008.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. tamsak

    tamsak ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กันยายน 2004
    โพสต์:
    7,857
    กระทู้เรื่องเด่น:
    22
    ค่าพลัง:
    +161,186
    ถาม : มีเพื่อนที่รู้จักเจ้าค่ะ เขาไปทำพิธีครอบองค์ รับองค์น่ะค่ะ แล้วทีนี้มีผู้ที่หวังดีใช้มีดหมอ ช่วยทำให้เขา กะว่าจะให้ครอบนี้หลุด แต่มันไม่หลุดเจ้าค่ะ แล้วทีนี้เราก็ไปนั่งช่วย เหนื่อยมากเจ้าค่ะ ไม่ทราบว่าความหวังดีตรงจุดนี้เราจะช่วยอย่างไร ?

    ตอบ : ช่วยอย่างไร อันดับแรกถ้าขันครูอยู่น่ะ บอกกับเขาบอกว่าที่ครอบมาขออนุญาตคืนจ้ะ แล้วก็ลอยน้ำไปซะก่อน ถ้าขันครูยังอยู่แก้ไม่ได้นะจ้ะ พวกไปครอบครูรับขันรับอะไรมาระวังนิดหนึ่ง เพราะว่าระยะหลังๆ มีพวกหากิน พอเราไปรับของของเขามาเท่ากับว่าเรายอมรับการเป็นบริวารของเขา เขาจะใช้ผีใช้ไสยศาสตร์ควบคุมเราได้ง่ายขึ้น มีพวกหากินทางด้านนี้มากขึ้นไปเรื่อยๆ เพราะฉะนั้นจะรับจะอะไร พิจารณาให้ดี ระวังตัวเอาไว้ด้วยเดี๋ยวจะเสียท่าเขาง่ายๆ ส่วนคนที่รับมาแล้ว ถ้าหากว่าระแวงหรือว่ากลัวขึ้นมาก็อย่างที่ว่านั่้นแหละ บอกเขาว่าที่รับมาขออนุญาตส่งคืน ตอนรับนั่นไม่รู้เรื่องเลยไม่รู้รับมาได้อย่างไร

    ถาม : แล้วตอนขออนุญาตส่งคืนนี่จะต้องทำอย่างไรบ้างเจ้าคะ ?
    ตอบ : เอาลอยน้ำไปจ้ะ

    ถาม : เอาอะไรลอยน้ำเจ้าคะ ?
    ตอบ : ก็ขันครูเขามีอยู่จ้ะ

    ถาม : ที่เขาติดตัวอยู่เหรอคะ
    ตอบ : ที่เขาให้มา ส่วนใหญ่พวกนี้เขาจะให้ขันครูมา อาจจะเป็นขัน ๕ ขัน ๘ เขาจะให้มาแล้วให้เราบูชา แล้วก็จัดดอกไม้ธูปเทียนเป็นประจำ อาจจะทุกวันพระ ทุกวันศุกร์ ทุกวันพฤหัส อะไรอย่างนี้ เอาลอยน้ำไปซะ ถ้าโกรธเขามากก็ลอยน้ำครำไป (หัวเราะ)

    ถาม : แล้วมันจะไปเหรอเจ้าคะ ?
    ตอบ : ถ้าหากว่าทำอย่างนั้นแล้ววิธีแก้มันจะง่ายขึ้น แต่ถ้าหากขันครูเขายังอยู่แก้ยาก เดี๋ยวก็ฟันกันทั้งวันจนกระทั่งเราเองหมดแรงแล้ว มันยังไม่เป็นอะไรเลย พวกนี้อันตรายเหมือนกัน ถ้าหากเราไปสู้รบปรบมือกับเขา จากประสบการณ์ที่เจอมาก็คือว่าถึงกำลังของเราจะสูงกว่าก็จริง แต่เราต้องกินต้องนอน เจ้าพวกนั้นมันไม่ต้องกินไม่ต้องนอน มันตามเล่นเราอยู่ตลอดเวลาเลย เผลอเมื่อไหร่โดน



    สนทนากับพระเล็ก สุธมฺมปญฺโญ
    เดือนสิงหาคม ๒๕๔๔
    ณ บ้านอนุสาวรีย์ฯ



    .
     
  2. jerajajen

    jerajajen เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2008
    โพสต์:
    231
    ค่าพลัง:
    +267
    ถ้ารับองค์รับเทพแล้วไม่มีใครเอาออกได้หรอกครับ การที่เทพมาอยู่กับเรานั้นแสดงว่าท่านต้องมีเหตุใดเหตุหนึ่งที่จะต้องมาอยู่คุ้มครองเรา อาจจะเป็นเพราะว่าดวงตก ลำบากลำบนเป็นต้อน ถ้ามั้นใจว่ารับเทพมาไม่ต้องไปเอาออกครับ ไม่มีใครเอาออกได้แน่นอน ยกเว้นผีออกได้ ใช้เหตุผลในการพิจารณา เทพเทวาไม่พาซวย แต่การกระทำของเราต่างหาก
     
  3. ธนิดาพรหม

    ธนิดาพรหม สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 เมษายน 2008
    โพสต์:
    27
    ค่าพลัง:
    +7
    พูดง่ายเนาะ...ลอยน้ำ...กำลังใจในการถอนคืนสัจจะซิ...น่าจะสำคัญเป็นที่สุดตรงการตั้งจิตแล้วขอพลังพระในการจัดการ...อะไร ๆ ก็จิตสำคัญเป็นอันดับหนึ่งนะเฟ้ย...ท่านทั้งหลาย........
     
  4. ผมยังเลวอยู่มาก

    ผมยังเลวอยู่มาก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มกราคม 2008
    โพสต์:
    187
    ค่าพลัง:
    +539
    ^
    ^
    ^
    ^
    ^
    ท่านหมายถึง อย่างแรกต้องเอาไปลอยน้ำก่อน แล้วค่อยจัดการ ถ้าไม่เช่นนั้นมันจะยาก
    แค่นี้ไม่รู้เรื่องเหอรคับ เหอๆๆๆ

    ปล.
    พระแม่กวนอิม เคยบอกว่า "ลูกแม่บำเพ็ญเองดีกว่านะลูก" อิอิ
     
  5. DevilBitch

    DevilBitch เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มกราคม 2005
    โพสต์:
    9,776
    ค่าพลัง:
    +36,838
    เมื่อตอนยายผีป่าเริ่มเป็นสาวก่อนจะมีประจำเดือน ทีนี้ยายของยายผีป่าแกมีครูเป็นผีธรรม เขาจึงเรียกพวกหมอธรรม คนอีสานจะรับกันมาก จะเป็นขันธ์ ๘ คือมีศีล ๘ ครอบ ยายของยายผีป่าแกกำลังจะละสังขาร(ไปไม่ถึงนิพพานหรอก แต่ก็ไปดีอยู่) แกก็บอกว่า อีนาง(ชื่อยายผีป่าที่ใช้ตอนอยู่บ้านนอก พอมาอยู่ในเมืองเปลี่ยนเป็น คุณเอื้อม หรือ เอมม่า ตามกระแสยุคใหม่)

    แกบอกว่า อยากให้อีนางมันรับขันธ์ เพราะว่ามันมีดีติดมา มันจะได้รักษาคนช่วยคนแทนตอนแกตาย ยายผีป่าก็อยากรับ แต่ทีนี้อยากมีผัวเหมือนกันเพราะเริ่มแตกเนื้อสาวแล้วนี่คะ เลยคิดว่าไม่รับได้ไหม เพราะศีล ๘ ที่ต้องรับนี่มันมีผัวไม่ได้ ถ้ามีผัวก็ต้องธรรมเสมอกัน เป็นผีธรรมเหมือนกัน และห้ามหลับนอนกันในวันโกน วันพระ ยายผีป่าเลยคิดว่า ชาตินี้คงหาผู้ชายเป็นหมอธรรมวัยน้อยๆ มาเป็นผัวไม่ได้ ที่เห็นก๋มีแต่รุ่นตารุ่นยายแล้วเลยไม่รับ แต่รับขันธ์ ๕ เพราะว่าไปรับที่วัดเวลาไปทำบุญและสวดมนต์เช้าที่โรงเรียน(รับศีลห้า) เป็นประจำอยู่แล้ว ยายของยายผีป่าบอกว่า

    เราอยากเจริญต้องมีขันธ์ธรรม(ศีล ๕ หรือ ศีล ๘ เป็นเครื่องยึดไว้) ส่วนเวลาที่เรารับขันธ์แล้วเป็นนั่นเป็นนี่หากเราไม่ทำตาม อันที่จริงผีธรรม(ผีในสมัยเก่า หมายถึงพรหม เทพ เทวดา )ล้วนนับถือพุทธทั้งสิ้น เวลาที่มีท่านมาเป็นอาจารย์อีกทอดแทนพระพุทธเจ้า เป็นเครื่องนำเราไปกราบขอธรรมจากพระพุทธองค์ได้อีกแบบหนึ่ง และบารมีผีธรรมมาสอนให้เรามีพรหมวิหาร ๔ เป็นฐานสำนึกของจิตใจ เราจึงอยากจะช่วยคนตามกำลัง และทำดีเป็นนิจ

    ยายผีป่าไม่เคยได้ยินหลวงตาและบรรพบุรุษบอกว่า ที่ป่วยเพราะผีธรรมลงโทษ เพราะตลอดมาเวลาผีธรรมมารักษาคนป่วย มาสอนธรรม ท่านจะมาสนทนาธรรมผ่านผู้รับขันธ์ เราก็ฟัง และทำให้เรารู้ธรรมอีกนัยยะหนึ่ง รู้เรื่องลี้ลับเกินพิสูจน์ได้อีกแบบด้วยนะคะ

    แต่ ข้างบ้านเขารับผีปอบฟ้าผีอื่นๆ มาเขามีปัญหามาก เขาไม่ไปวัด ไม่ตักบาตร อย่างนี้รับผิด ผีกินข้างในเสียสังขารหมด

    ที่พัทยาเคยมีสองคนผัวเมียบอกเป็นหมอดูแม่นๆ เดินตามอพาตเม้นต์ต่างๆ บอกสาวๆ ตุ๊ดๆ ที่ต้องการรวยกับการมีชาวต่างชาติอุปถัมภ์ ว่า ให้ตั้งขันธ์ครู แกคิดแพงนะคะ หลายพันบาท คนมันอยากได้ดี(มีเงิน มีฐานะดีขึ้น ไม่ใช่ดีทางธรรม) เขายอมเชื่อและจ่ายง่ยดาย ซึ่งยายไม่เห็นว่า แกเก่งเลย ทุกวันนี้ยังเห็นแกนั่งดูหมออยู่เลย ยายเคยไปทักแก เพราะเพื่อนคนหนึงเมื่อหลายปีก่อนเคยให้แกทำ หมดไปเยอะ ยังไม่ไปถึงไหน ยังเป็นบาร์เทนดี้เช่าห้องเล็กๆ อยู่เลย

    เวลาไปรับขันธ์ครูต้องถามว่า ครูนี้คือใคร หากครูคือพระพุทธเจ้า รับไปเลยนะคะ และรับแล้วห้ามทิ้ง

    เพราะท่านให้รับศีลมาเป็ฯเครื่องเตือนตน รับธรรมมาเป็นเครื่องส่งตนให้ได้ดีถึงนิพพานนะคะ
     
  6. tidtou

    tidtou เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กันยายน 2007
    โพสต์:
    61
    ค่าพลัง:
    +442
    เรื่องขันธ์นี่เคยไปรับกับเค้ามาบ้างเหมือนกันครับ เพราะว่าแม่ของผมท่านเป็นพวกนิยมผู้ทรงเจ้าน่ะครับ เค้าว่าที่ไหนแม่นที่ไหนดี ใกล้ไกลแค่ไหนคุณแม่ผมไปหมด แล้วก็มักจะหอบหิ้วเอาผมไปด้วย(ส่วนใหญ่ผมจะเป็นคนหอบหิ้วมากกว่า เพราะมีข้าวของไปบูชามาก) ทั้งเทพ ไทย จีน แขก แม่กับผมนี่ไปหมด พอไปถึงก็มักจะโดนทักประมาณว่า เออ ไอ้หนูนี่มันมีองค์นะ เรียกว่าไปทุกสำนักเจอทักว่ามีองค์หมด ส่วนใหญ่ใครไปก็โดนทักแบบนี้ทั้งนั้น เอ้า เค้าว่ามีองค์ก็มี ก็รับขันธ์มา เรียกว่ารับมาแทบทุกองค์ล่ะครับ ไทย จีน แขก นี่รับมาหมด ที่บ้านผมนี่ไม่มีแค่ขันธ์ 5 ล่ะ ล่อไป 4-50 ขันธ์ เฉพาะผมคนเดียว สมัยก่อนเวลา(ที่เค้ารียกว่า)องค์ลงนั้น ก็ไม่ค่อยจะมีเวล่ำเวลาหรอกครับ อยากมาก็มา สังเกตจากอาการตัวเองโดยเริ่มจากเริ่มรู้สึกหวิวๆ ใจสั่น ร้อนผ่าวๆไปทั้งตัว แล้วก็เริ่มดิ้นเต้นตึงตัง หลังจากนั้นก็จะเริ่มควบคุมตัวเองไม่ได้ ปากก็พูดออกไปต่างๆนาๆโดยที่เราก็ยังมีสติรู้ตัวอยู่แต่ก็เหมือนกับแค่รู้และเฝ้าดูอย่างเดียว เป็นอุปาทานหรือเปล่าก็ไม่ทราบแต่ตอนนั้นยังเด็กมากเรื่องพวกนี้ก็เลยไม่ได้สนใจ คิดแค่เพียงว่าสงสัยองค์ท่านคงมาประทับทรง(องค์ใหนบ้างก็ไม่รู้)แต่ละทีนี่ก็มาไม่เหมือนกัน บางทีมาขอจะเอานู่นเอานี่ บางทีก็มาแบบสอนธรรมมะโดยที่ไม่มีความต้องการอย่างอื่นเลย ก็เป็นแบบนี้มานานล่ะครับ จนโตมาหน่อยได้มีโอกาสฝึกมโนมยิทธิ มีอยู่ครั้งหนึ่งสมัยที่ไปฝึกครั้งแรกๆพอครูฝึกถามว่า ขณะนี้รู้สึกว่ามีใครมายืนอยู่ด้านหน้ามั้ย ไอ้ใจนี่มืดตึ้บล่ะครับข้างหน้าน่ะมองไม่เห็นอะไรเลย แต่ข้างๆนี่ล่ะสิครับ มีใครก็ไม่รู้ตัวดำๆนั่งอยู่เรียกว่านั่งแบบไหล่ชนกันเลยล่ะครับ ก็ตอบครูฝึกท่านไปล่ะครับว่า ไม่เห็นอะไรเลย ครูฝึกท่านก็เลยไปแนะนำคนอื่นต่อไป ปรากฏว่าวันนั้นนั่งฝึกไม่รู้สึกอะไรเลยครับ มืดตึ้บอย่างเดียวเห็นแต่คน(หรือเปล่าไม่ทราบ)ตัวดำๆที่นั่งอยู่ข้างๆตลอดเวลา ก็เก็บความสงสัยไว้ในใจ ก็กลับไปบ้านไปเปิดอ่านหนังสือของหลวงพ่อ ก็พอดีไปเจอหลวงพ่อตอบปัญหาเรื่องของการเข้าทรงพอดี ที่ท่านว่าพวกนี้บางทีมีจริงบ้างไม่จริงบ้าง คือที่ท่านทรงกันจริงๆก็มี พวกที่อาศัยอาชีพนี้หากินก็มาก และมีช่วงหนึ่งที่ท่านบอกประมาณว่า ที่เรียกว่าเข้าทรงน่ะจริงๆแล้วท่านไม่ได้เข้า บางทีท่านก็มานั่งอยู่ข้างๆ เพียงแต่ท่านใช้กำลังใจของท่านกดกำลังใจของเราไว้แล้วท่านก็สื่อสารผ่านเราออกมาเท่านั้นเอง พออ่านถึงตรงนี้ก็ตกใจครับ ว่า เฮ้ย หลวงพ่อท่านว่าไว้ตรงกับเราเลยนี่หว่า(ปกติ ทั้งเทปและหนังสือของหลวงพ่อท่านจะเป็นอย่างนี้ อันนี้เชิญพิสูจน์กันได้เลยครับ พอติดตรงใหน เปิดเทปไปหรืออ่านหนังสือนี่ โดนทุกทีไม่ต้องไปค้นตำรา จะเจอท่านว่าไว้ตรงกับที่เรามีปัญหาทุกที อิอิ ผมว่าหลายท่านคงเจอกันมาหมดแล้วทั้งนั้นล่ะครับ) ก็เลยอ่านต่อ ท่านว่าบางทีพวกนี้เทวดาท่านก็ไม่ได้มาเข้า จะกลายเป็นพวกผีหรือสัมภเวสีมาแทน หากพวกนี้เข้าแล้ว เวลาเทวดาจริงๆท่านมาเจอพวกนี้เข้าท่านก็จะไม่เข้าไปแทรก เพราะท่านถือว่าเค้ามาก่อนไม่ใช่วิสัยที่ท่านจะเข้าแทรก(คงคล้ายๆกับเศรษฐี จะไปแย่งที่กับขอทานมันก็คงไม่ใช่เรื่องล่ะมั้งครับ) และพวกสัมภเวสีเนี่ยจะเข้าได้ก็ต่อเมื่อเราจิตอ่อน อกุศลกรรมเข้า มีเวรเกี่ยวเนื่องกันมา หรือ ไปเปิดทางยอมรับเขาให้เข้ามาเอง เอาล่ะสิครับ พอถึงตอนนี้ไอ้ผมก็ไม่รู้ว่าจะทำยังไงทำอะไรไม่เป็นเลยสักอย่าง ท่านยังบอกต่อไปอีกครับว่า<?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-com:eek:ffice:eek:ffice" /><o:p></o:p>
    ”อิมาหัง ภควา อัตตะภาวัง ตุมหากัง ปริจัจชามิ” ซึ่งแปลเป็นใจความว่า ข้าพเจ้าขอมอบกายถวายชีวิต แด่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เพราะฉะนั้น เวลาที่เราเจริญกรรมฐานหรือทำอะไรก็ตามเรายึดพระพุทธเจ้าเป็นสำคัญ พวกที่เคยไปรับขันธ์อะไรมาก็ให้ตั้งใจตามนี้ ส่วนขันธ์ที่รับมาบูชาเอาไว้ในบ้านก็ให้เอาไปลอยน้ำหรือไปไว้ตามโคนต้นไม้ อย่าเอาไว้ในบ้านเพราะมันเหมือนเครื่องหมายแสดงการยอมรับกันอยู่(คงจะเหมือนกับเราบอกเค้าว่าบ้านนี้ไม่ให้เข้าแล้ว แต่เราไม่ยอมเปลี่ยนกุญแจ ถึงเวลาเค้าก็ไขเข้ามาได้อยู่ดีล่ะมั้งครับ) ก็ปฏิบัติตามนั้นครับ หลังจากนั้นก็อุทิศส่วนกุศลให้แก่ท่านทั้งหลายเหล่านั้นไปโดยที่ตั้งใจว่า หากท่านใดอยากจะมาเข้าทรงกันจริงๆก็ให้ไปขอพุทธานุญาตเสียก่อน เพราะตอนนี้ผมตั้งใจมอบกายถวายชีวิตแด่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าไปแล้ว หากจะมาใช้กันต้องไปขออนุญาตจากท่านก่อน ก็เป็นอันจบเรื่องไปครับ หลังจากนั้นมาอาการทั้งหลายเหล่านั้นในตอนต้นก็ค่อยๆหมดไป(คือบางทีมีอาการเล็กๆน้อยๆบ้างเหมือนกัน ตัวเราเองจะทราบ แต่พอมีอาการนึกจับภาพพระพุทธเจ้าท่านปุ๊บอาการก็จะหายไปในทันที) จนในที่สุดอาการอย่างที่ว่าก็ไม่เคยเกิดขึ้นอีก ก็รู้สึกสบายใจขึ้นมากครับ(อันนี้แล้วแต่ความพอใจของแต่ละบุคคลนะครับ หากบางท่านชอบก็เชิญท่านตามสบายเลยครับ) อันนี้ก็เป็นประสบการณ์เล็กๆน้อยในเรื่องของการรับขันธ์ของผม หวังว่าคงจะพอมีสาระบ้างนะครับ<o:p></o:p>
     
  7. ธนิดาพรหม

    ธนิดาพรหม สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 เมษายน 2008
    โพสต์:
    27
    ค่าพลัง:
    +7
    เข้าใจนะ..ไอ้คุณมงกุฏ แต่ที่พยายามบอกให้ทราบก็คือ กำลังใจหลังลอยไปแล้วเพื่อถอนคืนน่ะ...ไม่ได้ทำได้สะดวกรวดเร็วทุกคนนะสิ...เข้าใจบ่?...(อย่าคิดว่าง่าย ๆ เหมือนกันทุกคนซี...)
     
  8. tamsak

    tamsak ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กันยายน 2004
    โพสต์:
    7,857
    กระทู้เรื่องเด่น:
    22
    ค่าพลัง:
    +161,186


    กรุณาใช้ถ้อยคำให้สุภาพด้วยครับ



    .
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 มิถุนายน 2008
  9. THANAKIM

    THANAKIM เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 เมษายน 2008
    โพสต์:
    115
    ค่าพลัง:
    +1,740
    ขอร่วมแจมด้วยคนนะจ๊ะ ก็ไม่รู้ว่าคนที่ถามเอาขันธ์ไปลอยน้ำหรือยัง เท่าที่มีประสบการณ์มา เห็นว่าจะต้องมีครูบาอาจารย์ทำพิธีสวด-ถอน(ไม่จำเป็นว่าจะต้องเป็นพิธีใหญ่และเสียเงินมาก)และต้องมีผ้าขาวบาง 1 ผืน เมื่อครูบาอาจารย์สวดเสร็จก็จะคว่ำขันธ์โดยคว่ำเพื่อเทสิ่งของทั้งหมดที่อยู่ในขันธ์ลงในผ้าขาวบางและให้นำไปลอยน้ำทันที(ขอเน้นว่า ทันที)ส่วนขันธ์ก็นำไปถวายวัด ที่เห็นเขาทำกันมาเป็นเช่นนี้ผิดถูกประการใดก็ขออภัยจ้า
     
  10. รัศมิ์ภัชสรณ์

    รัศมิ์ภัชสรณ์ สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    2
    ค่าพลัง:
    +1
    กำลังมีปัญหาเรื่องขันธ์ ไม่ทราบว่าจะทำยังไงดี พอดีได้เข้ามาอ่านในทุกๆกระทู้แล้วรู้สึกว่าสบายใจ และคิดออกว่าควรจะทำยังไง จึงมาขออนุโมทนาสาธุกับทุกท่าน...สาธุ
     
  11. นโมโพธิสัตโต

    นโมโพธิสัตโต ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ผู้ดูแลเว็บบอร์ด สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,167
    กระทู้เรื่องเด่น:
    26
    ค่าพลัง:
    +29,754
    โมทนาครับ


    ก่อนรับก็คิดให้ดี

    ในโลกนี้ ไม่มีอะไรฟรีหรอกครับ


    รับแล้วถอนยาก
     
  12. ลิงเมืองละโว้

    ลิงเมืองละโว้ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    709
    ค่าพลัง:
    +1,521
    เรื่องรับขันธ์ผมไม่คิดจะเอาเลย มีแม่ผมที่รับมา สุดท้ายท่านผิดศีลอย่างร้ายแรงจนเดียวนี้ องค์ที่เคยอยู่
    เคยช่วย ท่านหายไปหมด เพราะท่านเป็นฤาษี อันนี้ผมฟังจากพ่อและคนรู้จัก

    ระวังนะครับ เรื่องบนบานศาลกล่าว อีกอัน แค่พูดเล่นก็ไม่ได้นะครับ ท่านพูดไม่คิดแต่สิ่งที่ท่านพูดถึงเค้าเอาจริงนา...
    เจอกันมานักต่อนักแว้ว อย่างน้าผมนั่งรถผ่านพูดเล่นไม่ได้คิดอะไร แล้วได้ตามที่พูดลืมไปว่าตัวเองเคยพูดกับ
    ที่ไหนไว้ เค้าเลยเล่นเอาซ่ะแย่เลย
     
  13. sutthida

    sutthida เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    624
    ค่าพลัง:
    +3,388
    ของเราเวลาไปดูหมอ เขาก็จะบอกว่าเรามีองค์ เร็วๆนี้มีพี่คนนึงดูไพ่พรหมญาณให้ เขาก็ว่าเรามีเทวดาคุ้มครองอยู่ ก็จริงอย่างเขาว่านะ แต่เราไม่เคยคิดจะรับขันธ์ เพราะเราคิดว่าเรามีองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นครูที่ประเสริฐอย่างที่สุดแล้ว ตอนเราเด็กๆ เราฝันเห็นผู้ชายคนนึงรูปร่างสูงใหญ่ใส่ชุดไทยเหมือนพวกหนัง จักรๆ วงศ์ๆ แต่ไม่สวมชฏานะ เราก็ถามว่าเป็นใคร เขาก็ตอบว่าเป็นเทวดา เราก็บอกว่าไม่เชื่อ หาว่าเขาเป็นลิเกอีก บอกว่าถ้าอยากให้เชื่อต้องมีรัศมีสิ ดูในหนังเทวดาเขามีรัศมีด้วย เขาก็ทำให้ดูมีรัศมีสวยมาก เขาถามว่าเชื่อรึยัง เราก็บอกว่าเชื่อแล้ว ก็ถามต่ออีกว่ามาทำไม เขาบอกว่าเขาจะมาอยู่ด้วย จะมาคอยช่วยเหลือ ให้เรารักษาศีล ตั้งใจทำดี เราก็รับปาก พอตื่นขึ้นมา เราได้กลิ่นหอมอ่อนๆ แล้วก็ลมเย็นพัดมาวูบนึง เวลามีปัญหาท่านจะมาช่วยตลอด ในซอยเรามีบ้านนึงไฟไหม้ ท่านก็มาเตือนมาทำให้เห็นในความฝัน แต่เราก็ไม่สนใจ แต่มันเกิดขึ้นจริงนะ อย่างตอนเราโดนผู้ชายทำเสน่ห์ ท่านก็มาบอกว่าคนนี้ทำ ใช้อะไรทำ แล้วก็บอกว่าไม่ต้องกลัวนะมันทำอะไรไม่ได้ มีปัญหาเรื่องงานท่านก็ช่วย อย่างมีหัวหน้าคนนึงเขาไม่ค่อยชอบเรา ชอบแกล้งเรา ปัจจุบันเขาก็โดนเด้งไปแล้ว เวลาคิดจะทำชั่วท่านก็จะมาเตือนไม่ให้ทำ ถ้าเราดื้อไม่เชื่อท่านก็หายไปเลย ขอร้องเท่าไหร่ก็ไม่มา จนกระทั่งเราต้องอธิษฐานว่าจะกลับตัวใหม่นั่นแหล่ะ ท่านถึงจะกลับมา สาธุ ขอให้ท่านอยู่กับเราจนกว่าจะถึงพระนิพพานเถอะ อย่าทิ้งกันนะ
     
  14. เถรี

    เถรี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    326
    ค่าพลัง:
    +6,511
    สำหรับส่วนตัวแล้ว มีคนเคยบอกว่าแม่ของเถรีมีองค์เป็นท้าวชินนะปัญจะระ ที่เป็นพรหมน่ะค่ะ แม่ของเถรีก็เชื่อและรับขันมา แต่ดีที่ไม่ไปเข้าทรงสั่นไปมาแบบคนอื่นเขา -*- แค่พอถึงเวลามีบ้านใครจัดงานไหว้ครู แม่เขาก็จะแต่งชุดขาวไป แล้วก็ไปกราบไหว้พวกเข้าทรงต่างๆ
    พวกร่างทรงเขาจะมีบริวารของเขาที่พากันยกย่องชื่นชมร่างทรงนั้น ทำให้ร่างทรงแลดูมีอำนาจ เรียกคนนู้นคนนี้ว่าลูก แล้วก็เที่ยวทำนายชะตาชีวิตของคนอื่นไปทั่ว คนทั่วไปก็ชอบใจ กราบไหว้และอยากให้ร่างทรงบอกทำนายเรื่องของตนเองบ้าง -*- เถรีเห็นแล้วสลดจริงๆ
    มีครั้งหนึ่งที่แม่ของเถรีพยายามขอเล็บกับเส้นผมของเถรีไป บอกว่าพวกร่างทรงเขาให้เอาของพวกนี้ไปทำพิธีแล้วชีวิตจะเจริญรุ่งเรืองดีขึ้น เถรีก็ไม่ยอม แม่ของเถรีก็จะเอาให้ได้ เถียงกันแบบว่าจนบ้านแทบแตก เถรีก็บอกแม่ไปว่า ถ้าเป็นพระจะเชื่อ นี่ไม่ใช่ เท่าไหร่ก็ไม่ให้ แม่ก็ตื๊อจนสุดท้ายก็เลิกตื๊อไปเอง
    ตอนเด็กๆแม่ชอบพาเถรีไปกราบไหว้ร่างทรง เป็นร่างทรงกุมารทองบ้าง เป็นร่างทรงพระเจ้าตากสินบ้าง ร่างทรงเจ้าแม่กวนอิมบ้าง -*- ตอนนั้นเถรีก็ไหว้ด้วยความเกรงใจและเกรงกลัว เพระตอนนั้นเราไม่รู้ว่าของแบบนี้มีจริงรึป่าว ไม่อยากลบหลู่ แต่ตอนนี้คือ ตาสว่างแล้วค่ะ เพราะคงไม่มีอะไรที่ศักดิ์สิทธิ์และน่าเคารพศรัทธาไปมากกว่า พระพุทธ พระธรรม พระสงฆอีกแล้ว
    สำหรับแม่ของเถรีทุกวันนี้ก็ยังเหมือนเดิม เพราะคนแถวบ้านเขาเชื่อว่าถ้าไม่รับขัน ครอบครัวและชีวิตจะต้องมีอันเป็นไป เจอเรื่องราวที่ไม่ดี เถรีก็ไม่รู้จะตะล่อมบอกยังไง เพราะเขายึดถือกันมาแบบนั้น

    อีกครั้งก็ตอนเรียนที่เชียงใหม่ เพื่อนมันพาไปหาร่างทรงองค์หนึ่ง มันบอกว่าเจ๋ง เถรีก็ไปด้วยความอยากรู้ พอเพื่อนพาเข้าไปที่สำนักของเขา ปรากฏว่าเถรีอยู่ไม่ได้ อยู่แล้วร้อนรนกระวานกระวายใจ ทนไมไหว สุดท้ายต้องเสียมารยาทบอกเพื่อนว่า อยู่ไม่ได้ ขอตัวกลับก่อน เพระอยู่แล้วรู้สึกว่า มันไม่บริสุทธิ์ มันร้อนยังไงก็ไม่รู้ ก็เลยหนีออกมา พอออกมาเลยโล่งเบาสบาย
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 พฤศจิกายน 2008
  15. momogo

    momogo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    570
    ค่าพลัง:
    +1,158
    ตอนนี้ ก็ยังมีอยู่ อยู่บนหลังตู้อยู่เลย ทำไงดีน้า

    ไปคืนที่บ้านเขาเลยได้ไหมคะ
     
  16. cabin

    cabin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    207
    ค่าพลัง:
    +828

    ที่คุณกำลังกล่าวถึงอยู่นะ คือคำสอนของพระอาจารย์เล็ก ท่านเป็นพระสุปฏิปัณโณ ส่วนมนุษย์ขี้เหม็นอย่างเรา ๆ กรุณาระวังวาจาที่ออกมาจากใจ อย่าอวดเก่งกับผี อย่าอวดดีกับพระ ท่านว่าอย่างไรก็ทำตามไปเถอะ จะปลอดภัยและไม่เพี้ยน ไม่เถียงหรอกว่าจิตนะสำคัญผมเห็นด้วย แต่ว่าจิตคุณบริสุทธิ์และมีพลังแค่ไหนต่างหากที่สำคัญ เพราะฉะนั้น ฟังพระท่านสอนและแนะนำดีที่สุด ไม่หลงทาง
     
  17. สิงหนวัติ

    สิงหนวัติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มกราคม 2009
    โพสต์:
    788
    ค่าพลัง:
    +2,107
    คนบางคนรู้สึกว่าตนเป็นคนไม่มีอำนาจ จึงได้พยายามไขว้คว้าที่จะมีอำนาจเหนือผู้อื่น
    การรับขันธ์ เป็นการแสวงหาอำนาจ ที่ผู้รับเห็นว่า ตนจะสามารถมีอำนาจเหนือผู้อื่นได้ จากน้อยก็ทางจิตวิญญาณ โดยมิได้พินิจพิจารณาถึงผลเสียที่จะตามมาเลย เรียกว่า เป็นผู้ฉลาดในการแสวงหา แต่เป็นผู้ไร้ปัญญาทางความคิด โอ้....อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ^^ ทำกันไปได้
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 ตุลาคม 2009
  18. winwinwin

    winwinwin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    336
    ค่าพลัง:
    +1,267
    ครือว่าก้เคยมีคนชวนไปรับขันธ์นะ ผมไม่ได้ไป แต่เอาจริงๆนะผมเคยมีนิมิตเทพท่านมาสอนธรรม พอเช้าเพื่อนที่เป็นร่าง (คนนี้เป็นแต่เด็กเอง เป็นคนมีภาระ) ก็โทรมาหาบอกเรื่องนี่ ผมก็บอกว่าท่านมาแล้วล่ะ....แต่เท่าที่จำความได้กระจ่างจนวันนี้ ท่านก็ไม่ได้บอกให้ไปรับขง รับขัน อะไรเลยนะ ธรรมแห่งพระพุทธองค์ล้วนๆเลยที่สอนและคอยตักเตือนเสมอมา
    ขันธ์ มีอยู่ในตัวยังรักษามันให้พ้น วัฏฏะ ไม่ได้ แล้วจะเอามาเพิ่มให้มันหนักอีกทำไม ถือไว้ทำไมเยอะ แบกไว้ ถือไว้ แล้วจะเอามือไหนเปิดก็อกรองน้ำอาบฮึ ขันเต็มมือไปหมด เมื่อไหร่มันจะได้อาบน้ำให้สะอาดซะทีล่ะ
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...