ไปเที่ยวเวียนนากัน....

ในห้อง 'ท่องเที่ยว - อาหารการกิน' ตั้งกระทู้โดย ฐาณัฏฐ์, 27 มิถุนายน 2008.

  1. ฐาณัฏฐ์

    ฐาณัฏฐ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2008
    โพสต์:
    6,199
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,075
    นอกจากจะเป็นที่รู้จักโด่งดังทั่วโลก ในฐานะบ้านเกิดของนักประพันธ์ดนตรีคลาสสิคแล้ว คนส่วนมาก ถ้านึกถึง ออสเตรีย ก็คงนึกถึง อาร์โนล์ ชวาเสน็กเกอร์ ! อาจจะเป็นชาวออสเตรียคนเดียวในยุคนี้ที่ดังทั่วโลก หรืออาจจะนึกถึงภูเขาหิมะ ที่เหมาะกับการเล่นสกี คนออสเตรียเล่นสกีกันแทบทุกคน หากเด็ก ๆ บ้านเราต้องไปเที่ยวทะเลเล่นน้ำฉันท์ใด เด็ก ๆ ออสเตรียก็ไปเล่นสกีฉันท์นั้น เล่นกันตั้งแต่ 4-5 ขวบ
    เนื่องจากเวียนนาเป็นนคร
     
  2. ฐาณัฏฐ์

    ฐาณัฏฐ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2008
    โพสต์:
    6,199
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,075
    เค้ก เป็นอีกอย่างที่เวียนนาขาดไม่ได้ โรงแรมใหญ่สองเจ้าในเวียนนา เคยทำสงครามเพื่อแย่งชิงการเป็นเจ้าของสูตรเค้ก Sacher Torte (เค้กช็อกโกแลตไส้แยมแอปริคอต เสิร์ฟพร้อมวิปครีม) มาแล้ว ถึงขนาดที่เถียงกันหน้าดำหน้าแดงว่าตกลง แยมแอปริคอต มันควรจะอยู่ชั้นไหนของเค้ก! และถึงขนาดที่ว่ามีข่าวออกมาว่า ญี่ปุ่นส่งสปายมาขโมยสูตรกันเลยทีเดียว
    ฉันได้ลองกินเจ้า Sacher Torte เมื่อวานนี้ (ลองมาทั้งหมด 3 ร้าน.. บ้ามาก ทำไปได้ไง) เนื้อเค้กค่อนข้างนุ่มและโปร่ง ๆ มีช๊อคโกแลตสอดไส้แยมแอปริคอต และด้านนอกของเค้กฉาบด้วยช็อคโกแลตแท้ ๆ อีกชั้น ซึ่งมันก็อร่อยดี แต่ถามว่าอร่อยแบบยอมตายเลยไหมมันก็ไม่ขนาดนั้น เค้กที่เมืองไทย หลาย ๆ ร้านก็ทำได้อร่อยไม่แพ้ Sacher Torte ของเวียนนา นะจะบอกให้ ไม่ได้โกหก!
    [​IMG]
     
  3. ฐาณัฏฐ์

    ฐาณัฏฐ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2008
    โพสต์:
    6,199
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,075
    ถ้าดูโปรแกรมทัวร์จากเมืองไทย เวียนนา ส่วนมากก็คงไม่พ้น วิหารเซ็นต์สตีเฟ่น (หรือ สเตฟานส์ดอม ยังไงๆ ก็ต้องเห็น ถ้าไปเดินเล่นแถว ๆ นั้น), อนุสาวรีจักรพรรดินีมาเรียเทเรเซีย (ไม่ได้ไปกะเค้าหรอก), จตุรัสพลาท์อัทฮอฟ โบสถ์คาลส์เคร์ซ (ไม่ได้ไปอีกนั่นแหละ), พระราชวังเซินบรุนน์ (อันนี้ไปเดินผ่านมาหน่อยนึง), อนุสาวรีย์โยฮันซ์สเตร้าส์ (อันนี้ได้ไป เพราะอยู่ระหว่างทางพอดี) ฯลฯ ซึ่งจริง ๆ มันก็สวยดีอย่างที่เค้าว่า แต่โดยส่วนตัวแล้ว บางครั้งฉันเหนื่อยกับการที่ต้องมาเที่ยวแบบ “เก็บแต้ม” กับ check list ทั้งหลายที่เค้าว่า “must see” อะไรทำนองนั้น
    ฉันเลยค่อนข้างจะมีความสุขมากกว่ากับการนั่งรถรางไปเรื่อย ๆ มองดูผู้คนตามท้องถนน (บางทีนั่งมองนาน ๆ กลัวเค้าหาว่าโรคจิตเหมือนกัน) และอาจจะเข้าไปดูงานศิลปะดี ๆ ที่ราคาค่าเข้าชมไม่แพงนัก นั่งดื่มกาแฟหอม ๆ ซักถ้วยตามคาเฟ่เล็ก ๆ แค่นี้ก็สุขเกินพอ
    ส่วนพระราชวัง เครื่องเพชรเครื่องพลอยต่าง ๆ นานานั้น ก็ไป “เดินผ่าน” กับเขามาเหมือนกันนะ แต่ไม่ได้เสียเงินซื้อตั๋วเข้าไปดูกับเค้า เพราะดูแล้วไม่อิน มันก็แค่ตึกยาว ๆ ที่มีหินสีมีค่าประดับอยู่บนมงกุฎ ฉันดูเอาจากรูปก็ไม่ได้รู้สึกแตกต่างกับการไปดูของจริง เพียงแค่มันใกล้กว่าก็เท่านั้น ลางเนื้อชอบลางยา
    [​IMG]

    การเดินทางสัญจรในเวียนนา เจ้ารถเลื่อนแบบนี้ไม่ใช่แค่เด็ก ๆ ที่ใช้ ผู้ใหญ่ก็ใช้กันหลายคน ทางเดินเท้าเค้าเรียบ จะไถลจากบ้านไปทำงานก็ยังได้</PRE>ตั้งแต่มาถึงเวียนนาฉันก็รู้สึกประทับใจและทึ่งปนอิจฉา กับระบบการคมนาคมของที่นี่ ถนนทุกสายมี U-bahn (อู บาห์น) วิ่งผ่าน และ ถนนย่อยที่ U-bahn ไม่ผ่านซะทีเดียว ก็มี Tram หรือรถราง ต่อจากสถานี U-bahn ไปจนถึงที่ที่ต้องการไป ส่วนถนนที่เล็กกว่านั้นอีก ก็มีรถเมล์วิ่งผ่าน “ทุกถนน” ส่วนแถบชานเมืองจะเป็น S-Bahn หรือรถไฟฟ้าความเร็วสูง เชื่อมต่อจากสถาน U-Bahn อำนวยความให้คนที่ทำงานในเมืองแต่บ้านอยู่ชานเมือง และ S-Bahn นี้ยังเชื่อมไปถึงสนามบินด้วย
    แม้ระบบจะดีเลิศจขนาดนี้ แต่ตั๋วโดยสารนั้นถูกแสนถูก ตั๋วแบบ weekly นั้นราคาแค่ 14 ยูโร และใช้ได้ไม่จำกัดจำนวนครั้ง ใช้ได้กับ U-bahn, S-bahn, รถราง และ รถเมล์ ! เรียกว่าไม่ต้องจ่ายค่ายานพาหนะใด ๆ อีกเลยตลอดเวลาที่อยู่ที่นี่
    รายละเอียดเกี่ยวกับราคาตั๋วโดยสาร เข้าชมได้ที่เว็บไซต์ ของ Wiener Linien: http://shop.wienerlinien.at/en/index.php
    ระบบตั๋วนั้นใช้ความเชื่อใจ ได้ตั๋วมาใหม่ ต้องเอาไปสอดในกล่องสีน้ำเงินที่มีอยู่ที่ทางลงทุกสถานี สอดครั้งเดียว แล้วใช้ไปตลอดอายุตั๋ว นาน ๆ ทีจะมีพนักงานมาสุ่มตรวจ ถ้าเค้าเจอว่าไม่มีตั๋ว ก็ปรับกันไป มันคงจะน่าอายมากถ้าโดนจับแบบนั้น เพราะราคาตั๋วไม่ได้แพงเลย (ตั๋ววันไม่ถึง 6 ยูโร ใช้ได้ไม่จำกัดเที่ยว ตลอด 24 ชั่วโมง ส่วนแบบ one week ticket คือ 14 ยูโร ใช้ได้ไม่จำกัดเที่ยวเหมือนกัน ) คือระบบก็สุดแสนจะสะดวก เชื่อใจก็เชื่อใจแล้ว ถูกก็ถูก ยังจะโกงอีก มันก็น่าอะนะ…
     
  4. ฐาณัฏฐ์

    ฐาณัฏฐ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2008
    โพสต์:
    6,199
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,075
    [​IMG]

    แถว ๆ Karlsplatz</PRE>วันก่อนฉันเลยนั่ง u-bahn ไปนั่นมานี่เป็นว่าเล่น จะไปไหนก็ได้ในเวียนนา ฉันเลยไปโผล่ที่ คาร์ลสพลาสซ์ (Karlsplatz) แล้วเดินทะลุถนนนั้นถนนนี้ (จริง ๆ มีหลง มีหลง) ดูตลาดโคห์ล-มาร์กท์ (Kohlmarkt)และย่านกราเบน (Graben) - สมัยก่อนเป็นตลาดขายถ่าน
    ดูโบสถ์ ผ่านหน้าพระราชวัง พิพิธภันฑ์อัลเบอร์ติน่า (Albertina) (แต่ยังไม่ได้เข้า วันนี้จะไปดูข้างใน) ดูคนนั่งรถม้า เข้าไปฟังออร์แกนในโบสถ์ แบบไม่ต้องเสียกะตังค์แต่อย่างใด ปิดท้ายด้วยการไปนอนเล่นบนพื้นแถว ๆ อนุสาวรีย์ใครซักคน ซึ่งเพิ่งมารู้ทีหลังว่ามันคือหน้า วังจักรพรรดินีมาเรียเทเรเซีย ก่อนที่ถูกแก๊งค์สาวชาวอเมริกัน มาทำลายความสงบด้วยการพูดคุยอันดังลั่น ทำให้ต้องย้ายไปนั่งฟังเพลงฟรีในโบสถ์เซนต์โจเซฟอีกรอบ
    มาถึงเมื่อวานฉันนั่ง U-bahn ไปลงที่สถานีสตาร์ดพาร์ค (Stadtpark) ที่เป็นที่ตั้งของ อนุสาวรีย์โยฮันซ์สเตร้าส์ (Johann Strauss) ใครมาเวียนนาก็ต้องมาถ่ายรูปคู่กับอนุสาวรีย์นี้แหละ พอลงมาจาก U-bahn แล้วก็ตาม ป้าย Stadtpark ไป จะเห็นพ่อแม่พาลูก ๆ มาเล่นที่สนามเด็กเล่นเยอะแยะเลย เดินผ่านสนามเด็กเล่นไป ก็จะมีสะพานข้ามคลอง ที่เป็นสายที่แยกออกมา จากแม่น้ำดานูบ (แต่ตอนฉันไป ไม่ยักกะมีน้ำ มีแต่รถบรรทุกจอดอยู่ด้านล่าง เหมือนกำลังก่อสร้างอะไรกันอยู่ซักอย่าง) พอข้ามสะพานไป มองไปรอบ ๆ รับรองว่าไม่มีทางไม่รู้ว่าอนุสาวรีย์อยู่ตรงไหน เพราะท่านจะได้เห็นกลุ่มนักท่องเที่ยวพากันมุงอนุสาวรีย์ เพื่อผลัดกันถ่ายรูปเป็นการใหญ่ ฉันเดินเข้าไปดูกับเขาเหมือนกัน อ่อ นี่เอง อนุสาวรีย์โยฮันซ์สเตร้าส์.. ได้เห็นแระ แค่นี้แหละ ไปเดินเล่นต่อดีกว่า
     
  5. ฐาณัฏฐ์

    ฐาณัฏฐ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2008
    โพสต์:
    6,199
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,075
    [​IMG]

    รูปปั้น Johann Strauss ใน Stadtpark และบรรยากาศรอบ ๆ สวน</PRE>Stadtpark (สตาดท์ปาร์ค) หรือ city park นี้กินพื้นที่กว้างขวาง เหมาะกับการมาออกกำลังกาย นั่งเล่นพักผ่อน ดูเป็ดว่ายน้ำ หรือจะมานั่งเซ็งเป็ดก็ได้ มีให้เซ็งหลายตัว ถ้าอากาศดี ฝนไม่ตก อาจจะนั่ง ๆ นอน ๆ อยู่ที่นี่ได้ทั้งวัน เดินทางมาก็ง่ายแสนง่าย
    จาก Stadtpark ฉันนั่ง U-bahn สาย U4 สีเขียวสายเดิม ต่อไป พระราชวังเซินบรุนน์ (Schönbrunn) ซึ่งจะเอาให้ง่ายเลยนะ ก็ลงที่สถานี Schönbrunn นั่นแหละ โผล่มาเจอกำแพงวังพอดี และเป็นประตูทางเข้าหลักด้วย แต่เนื่องจากฉันเป็นคนไม่ค่อยปรกติ ก็เลยนั่งเลยไปอีกสถานีหนึ่ง ไปลงที่สถานี ฮ​ีตซิง (Hietzing)
    จากสถานี Hietzing ก็ตามป้าย Hietzinger Hauptstrasse (ถนนฮีตซิงเกอร์ ฮอปท์) ไปโผล่บนถนนข้าง ๆ วังพอดี ฉันแวะซื้ออาหารกลางวัน คือ Durum (3 ยูโร 30 เซ็นต์) ที่เป็นอาหารสไตล์ตะวันออกกลาง มีเนื้อ ผัก ซอส กับพริกป่น ม้วนด้วยแป้ง ออกมาหน้าตาคล้ายโรตี อันใหญ่พอที่จะทำให้อิ่มไปได้หลายชั่วโมง แล้วเดินถืออาหารกลางวันราคาประหยัดแต่อิ่ม เดินตรงขึ้นไปทางเข้าวัง (ข้าง ๆ วัง)
    ประตูทางเข้าเหมือนประตูสวนสาธารณะทั่วไป ใคร ๆ ก็เข้าไปได้ ไม่ต้องเสียเงิน เข้าประตูไปเป็นถนนตรง ๆ มีต้นไม่ตัดแต่งไว้สวยงามประดับสองข้างทาง ยาวไปจนสุดถนน ฉันเลือกมานั่งใต้ต้นไม้เพื่อกินอาหารกลางวัน กินไป ก็ต้องระแวงเหล่ากองทัพอีกา ไป เพราะเยอะเหลือเกิน แล้วชอบมายืนมุงรอกดดันด้วยนะ เหมือนมันรู้ว่าเรามีของกิน ได้อารมณ์เหมือนมีอีแร้งรอกินเราอยู่ แง….
    ฉันกินไปเกือบหมดก็อิ่มพอดี อีกาแถวนั้นเลยลาภปาก ได้กินต่อ แต่ต้องไปตบตีแย่งกันเอง ฉันเลยรีบถอยฉาก พาตัวเองออกมาจากวงอีกาก่อนที่มันจะเริ่มเปิดฉากถล่มกัน
     
  6. ฐาณัฏฐ์

    ฐาณัฏฐ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2008
    โพสต์:
    6,199
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,075
    [​IMG]

    เดินเข้าประตูด้านหลังของพระราชวังเซินบรุนด์ เข้าไปเดินผ่านมารอบนึง</PRE>เดินวนเข้าไปดูบ้านสวนปาล์มแต่ไม่ได้เข้าหรอกนะ (รู้กันอยู่แล้วใช่มั้ย) เพราะปาล์มสำหรับฝรั่ง มัน exotic สำหรับเขา แต่สำหรับคนที่มีปาล์ม 5 ต้นอยู่ที่บ้าน กับต้นมะพร้าวอีก 2 ต้นอย่างเรา ไม่รู้จะเสียค่าเข้า 4 ยูโรไปดูกับเขาทำไม .. ที่นี่มีสวนสัตว์ด้วยนะ แต่ก็ไม่เข้าอีกนั่นแหละ เพราะดู ๆ แล้ว สัตว์ที่เป็น ไฮไลท์เลยคือ หมีแพนด้า (ไปดูที่เชียงใหม่มาแล้วอ่ะ) แถมค่าเข้าก็ค่อนข้างแพง ก็เลยเดินไปดูวังแทน
    โผล่มาเจออาคารใหญ่โตสีเหลืองมัสตาด อ้าว นี่มันวังเชินบรุนน์ นี่หว่า ตลกดี เดิน ๆ มาก็เจอตั้งอยู่ตรงนั้น ตรงข้ามกับวังเป็นภูเขามีรูปปั้นและน้ำพุประดับอลังการ แต่เดินกว่าจะถึงนะ อยากได้ตุ๊ก ๆ หรือลูกหาบมากเลย จะให้ขับหรือหามไปส่งบนยอดเขา! คิดว่ากษัตริย์ฮับสเบิร์ก ท่านคงจะมีม้าส่วนพระองค์ สามารถขี่ขึ้นเขาไปได้ เพราะระยะทางจากวังไปนี่เดินกันเกิน 20 นาทีเป็นอย่างต่ำ ฝนก็ดันมาตกตอนนี้อีก ..(ควักเอาเป็ดที่เก็บมาจากสวน Stadtpark เมื่อเช้าออกมาเซ็งอีกรอบ)
     
  7. ฐาณัฏฐ์

    ฐาณัฏฐ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2008
    โพสต์:
    6,199
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,075
    [​IMG]

    อาหารกลางวัน (3.30 ยูโร), บรรยากาศรอบ ๆ พระราชวัง</PRE>ฉันเดินดูนั่นดูนี่ บางคนเค้าก็เขาไปใน Maze หรือเขาวงกต กัน เป็นพุ่มไม้สูงท่วมหัว ค่าเข้าไปหลงคือ 4 ยูโร ฉันนั่งดูอยู่นาน คนที่เข้าไปตอนแรก ผ่านไปครึ่งชั่วโมงแล้วยังไม่ออกมาเลย ฉันเลยไม่เข้าดีกว่า กลัวต้องนอนในวัง
    สรุปแล้ว ไม่ได้จ่ายตังค์ซํกกะเซ็นต์เดียว (บางคนอาจจะคิดว่า แล้วมันไปของมันทำไมล่ะนั่น นั่นน่ะซิ ไปทำไมฟระ งงตัวเอง) เดินทะลุวังถ่ายรูปมาขำ ๆ แล้วก็นั่ง U-bahn กลับมาที่่ Karlsplatz เพื่อไปที่ Secession ที่มีภาพเขียนเฟรสโก​​ (เทคนิคเขียนภาพบนปูนเปียก ทำให้สีติดทนอยู่นาน) ของ กุสตาฟ คลิมท์ (Gustav Klimt) ค่าเข้าชม 6 ยูโร
    ภาพเขียนของ คลิมป์ เป็นแนวที่ยังใหม่ในสมัยนั้น ที่ยังนิยมภาพวาดสัจจนิยม หรือ ​Realism กันอยู่ แต่คลิมท์ขียนภาพแบบตัวคนก็ยืด ๆ ยาว ๆ ยังกะหนังสติ๊ก แขนก็ยาว ขาก็ยาว แล้วผู้หญิงก็ไม่ค่อยชอบใส่เสื้อผ้า บางคนจะใส่ก็เป็นเสื้อทูนิคย้วย ๆ ดูฝัน ๆ ฟุ้ง ๆ ถ้ามาเกิดในสมัยนี้ต้องเรียกว่าเป็น Illustration Artist ที่สไตล์กำลัง​”อิน”มาก ๆ
     
  8. ฐาณัฏฐ์

    ฐาณัฏฐ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2008
    โพสต์:
    6,199
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,075
    [​IMG]
    Secession เมื่อแรกสร้าง และ ​Secession ในปัจจุบัน
    งานที่ดังมาก ๆ ของคลิมป์คือชิ้นที่ทำเพื่ออุทิศแด่ บิโธเฟน เป็น serie บนกำแพงยาวต่อกัน 3 กำแพง ชื่อ Beethovenfries คอนเซ็ปต์คือมวลมนุษย์ที่ ที่เดินไปเข้าไปหาสิ่งชั่วร้ายและปีศาจ ความร่ำรวยแบบจอมปลอมที่แทนด้วยภาพวาดรูปผู้ชายในชุดคล้ายพวกขุนนาง มีหญิงชายคู่นึงกำลังคุกเข่าลงเหมือนกำลังอ้อนวอน, ซาตานและลูกสาวทั้งสามอันได้แก่ ความบ้า ความเจ็บป่วย ความตาย … มนุษย์ได้จำนนให้กับสิ่งเหล่านั้น จนกระทั้งได้มาพบกับ บทกวี และดนตรี ทำให้ในที่สุดก็มาถึงดินแดนที่มีแต่ความ รักแท้ ความซาบซึ้ง และความสุขสงบอันเป็นนิรันด์
    ทุกภาพแทนด้วยภาพมนุษย์ที่อ่อนช้อยงดงาม และ ออกจะหลอน ๆ ฟุ้ง ๆ และตกแต่งประดับประดาด้วยสีทอง หินสี ฯลฯ เป็นสไตล์การเพนท์ของคลิมท์ กลางกำแพงนั้นเคยมีรูปปั้น บิโธเฟน อยู่ด้วย แต่ปัจจุบันไม่อยู่แล้ว ไม่รู้ไปเที่ยวที่ไหน
    ฝนยังคงโปรยปรายอยู่ตอนฉันเดินออกมาจา secession
    เดินเลี้ยวขวาขึ้นไปหน่อยเดียว ก็จะเจอกับ ตลาด Naschmarkt (แนชท์มาร์คท์) ที่เป็นที่รู้จักโด่งดังที่สุดของเวียนนา ตลาดนี้อารมณ์คล้าย อตก. แฮะ ร้านค้าเรียงรายตลอดทาง เท่าที่สังเกตุดู ส่วนมากจะเป็นร้านที่พี่ๆ แขกขาวเป็นเจ้าของ มีร้านอาหารอยู่บ้างประปราย คนนิยมมานั่งดิ่มกันซะมากกว่า หรือไม่ก็มากินอาหารจีนที่ทำใหัสด ๆ ฉู่ฉ่า ฉู่ฉ่า กันต่อหน้า (ส่วนเรานั่นเฉย ๆ เพราะกระเพราไก่ที่บ้านก็ทำกัน ฉู่ฉ่า ฉู่ฉ่า สด ๆ เหมือนกันเป็นประจำ ตั้งแต่เดินไปกินข้าวหน้าปากซอยด้วยตนเองได้ตั้งแต่ 7 ขวบก็หายตื่นเต้นไป) ที่แปลกใจมากคือบางร้านมี “เบียร์ช้าง” ขายด้วย ขวดเล็กขายกันที่ขวดละ 99 เซ็นต์ ประมาณ 40 กว่าบาท จริงๆ แล้วก็ถูกนะนั่นน่ะ ถูกกว่าซื้อเบียร์ลาวกินที่ถนนข้าวสารอีก
    ก่อนที่นอกเรื่องไปกันใหญ่ ตลาด Naschmarkt นี้ตั้งมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 16 เลยนะ ในเวลานั้นเป็นตลาดที่ค้านมสดบรรจุขวดเป็นหลัก ชื่อตลาดก็มาจากคำว่า Asch ที่แปลว่าขวดบรรจุนม) จนกลายมาเป็น Naschmarkt นี่แล
     
  9. ฐาณัฏฐ์

    ฐาณัฏฐ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2008
    โพสต์:
    6,199
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,075
    [​IMG]
    ฟ้าเริ่มมืดแล้ว ฉันต้องกลับไปโรงแรม เพื่ออาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าไปกินบุฟเฟ่ต์ที่ทางเจ้าภาพที่จัดงาน Perl เค้าจัด (แต่คิดตังค์คนละ 50 ยูโร ถ้าจำไม่ผิด รู้แต่ว่า ไม่ค่อยถูกเท่าไหร่) ฉันนั่ง U-bahn ไปที่มหาวิทยาลัยเวียนนา ที่เป็นจุดนับพบ จากที่นั่นก็มีรถบัสหลายคนถูกจัดมารับโปรแกรมเมอร์ทั้งหลาย ไปที่ร้านอาหารที่ทางเจ้าภาพได้จองไว้แล้ว พ่อแก้วแม่แก้วเอ๋ย ร้านนี้มันช่างไกลอะไรปานนี้ เรานั่งรถไปจนเมื่อยแก้มก้น ฝนก็ตกปรอย ๆ หลายคนเริ่มบ่นหิว
    ไปถึงที่ร้าน โต๊ะจานชามถูกจัดไว้เรียบร้อยแล้ว ทุกคนก็แยกย้ายไปนั่งเป็นกลุ่ม ๆ ตามโต๊ะ ผ่านไปยี่สิบนาที อาหารยังไม่มา ทุกคนหิวกันจนตาลาย แทบจะกินกันเองแล้ว ฉันเองก็งงว่าเค้าไม่รู้หรือว่าวันนี้จะมีคนมากี่คน แล้วไม่ได้เตรียมอะไรล่วงหน้าไว้เลยเหรอเนี่ย ครึ่งชั่วโมงผ่านไป อาหารเริ่มทยอยมา พอทางเจ้าภาพพูดจบ ทุกคนก็รี่เข้าไปต่อแถวตักอาหารกัน (ถ้าเป็นเมืองไทย ลืมเรื่องแถวไปได้เลย)
    แล้วมันก็กร่อยอีกรอบ เพราะบางคนที่รอให้คนเริ่มซาก่อน ค่อยไปต่อแถว ต่อไปราวๆ 10 นาที พอมาถึงโต๊ะที่วางอาหาร อาหารหมดไปต่อหน้าต่อตา! มีคนนึงได้เค้กแบน ๆ ไปชิ้นหนึ่ง เห็นเดินคอตกออกไปอย่างยอมรับชะตากรรม
     
  10. ฐาณัฏฐ์

    ฐาณัฏฐ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2008
    โพสต์:
    6,199
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,075
    [​IMG]
    ฉันนึกว่าวันรุ่งขึ้น ที่เป็นวันปิดประชุม ต้องมีคนโวยเรื่องนี้แน่นอน เพราะประมาณ 20% ของคนทั้งหมด (ประมาณ 200 คนได้) แทบจะไม่ได้กินอะไรเลย ในขณะที่ก็ต้องจ่ายคนละ 50 ยูโร แต่ผิดคาด ที่ไม่มีใครบ่นหรือเอาเรื่องนี้ขึ้นมาพูดเลย คุณเบิร์ตบอกว่า เงินที่ได้จากบุฟเฟ่ต์ หักค่าใช้จ่ายแล้ว เค้าจะเอาเก็บไว้ใช้ในการประชุมครั้งหน้า วันสุดท้ายเค้ามีการประมูลของกันด้วย ได้เงินเยอะพอดู ก็เก็บไว้ใช้จัดงานคราวหน้าเหมือนกัน
    เรายังมีเวลาอีกวันในเวียนนา พรุ่งนี้เราจะไปเที่ยวกันต่อ
     
  11. ฐาณัฏฐ์

    ฐาณัฏฐ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2008
    โพสต์:
    6,199
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,075
    บันทึกคราวที่แล้วยังไม่ทันจะเสร็จเลย ขอข้าม shot มาเวียนนาก่อน เพราะตอนนี้ยังพิมพ์สดอยู่ที่นี่ สด สดจริง ๆ ไหม่ได้โม๊!
    แอร์โฮสเตสในชุดสีแดงแจ๊ด ตั้งแต่หัวจรดเท้า เข็นรถบริการหนังสือพิมพ์มาตามทางเดิน บนเครื่องบินของสายการบินออสเตรียนแอร์ไลน์
    “รับหนังสือพิมพ์มั้ยคะ” แอร์สาวสวยผมสีทอง ยิ้มละไมอย่างที่ถูกเทรนมาอย่างดี
    “มีหนังสือภาษาอังกฤษมั้ยคะ” ฉันมองหาหนังสือที่น่าอ่านฆ่าเวลาบนเครื่อง น้องแอร์เหลือบไปดูที่รถเข็น แล้วก็ยิ้มเจื่อน ๆ บอกว่ามีแต่ วอลล์สตรีทเจอร์แนล ที่เป็นภาษาอังกฤษ นอกนั้นเป็นภาษาเยอรมันหมด เอาวะ วอลล์สตรีท ก็ วอลล์สตรีท
    นั่งทนอ่านไปได้ 3 นาที แทบปิดไม่ทัน หนังสือพิมพ์อะไรช่างซีเรียส และน่าเบื่อปานนี้หว่า
    นั่งไปหาวไปจนน้ำตาเล็ด จากกรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยี่ยม ใช้เวลาบินหนึ่งชั่วโมง ยี่สิบนาที ทำให้มีเวลาเสิร์ฟอาหารจำกัด อาหารที่เสิร์ฟเลยเป็น snack ถาดเล็ก ๆ (ลาซานญ่าผักโขมอบชีส) ขนมปังคนละก้อน (น้องแอร์เดินถือตะกร้าขนมปังมาให้หยิบกันเองเลยนะ อุ่นๆ) กับเครื่องดื่มหนึ่งแก้ว
    [​IMG]
    ในที่สุด พี่กัปปิตัน ก็พาเรามาถึงสนามบิน Flughafen Wien ของกรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย ตอนนี้เกือบบ่ายสองพอดี
    เนื่องจากเป็นทริปธุรกิจ(ของชาวบ้านเขา) เราได้แต่อาศัยมาเที่ยวด้วย บริษัทคุณเบิร์ตจ่ายค่าที่พักให้ สบายไป เราได้ห้องพักที่ โรงแรมวิลเฮล์มสฮอฟ เกิดมาไม่เคยพักโรงแรมหรูขนาดนี้ ให้ตายเถอะโดเรม่อน ! จริงๆห้องที่จองไว้เป็นห้องธรรมดา แต่ด้วยความจำเป็น โรงแรมได้ให้ห้องของเรากับแขกคนอื่นไปแล้ว ห้องธรรมดาเต็มหมด เราเลยได้ห้องใหญ่กว่าที่จองไว้แทน แบบนี้ไม่บ่นอยู่แล้ว อิอิ
    สนนราคาห้องพัก (ซูพีเรีย) ที่นี่คือคืนละ 150 ยูโร!! (โอ มายพระพุทธเจ้า เงินขนาดนั้น ฉันอยู่ได้ประมาณสองอาทิตย์ที่ยุโรป) แต่ไม่ได้จ่ายเอง ก็โอเคอะนะ
    โรงแรมนี้อยู่ใกล้ พราเตอร์ (Prater) ที่ก็คือสวนสาธารณะขนาดใหญ่ ที่เป็นแหล่งพักผ่อนหย่อนใจของชาวเวียนนามาช้านาน เมื่อก่อนเคยเป็นที่สำหรับล่าสัตว์สำหรับพวกเชื้อพระวงศ์ด้วย แม้แต่โมสาร์ทก็ยังมาชอบนั่งเล่น ชิว ชิว ที่นี่
    ช่วงเทศกาลใหญ่ ๆ อย่างอีสเตอร์ หรือ คริสต์มาสต์ ชาวเวียนนากว่าครึ่งของทั้งเมืองก็ว่าได้ มักจะมารวมตัวกันที่นี่ คงจะเหมือนที่คนไทยชอบไปลานเซ็นทรัลเวิร์ลด์พลาซ่า ไม่รู้ทำไม
    นอกจากจะเป็นสวนสาธารณะแล้ว พราเตอร์ ยังเป็นสวนสนุกกลางแจ้ง มีเครื่องเล่นมากกว่า 200 ชนิด ตั้งแต่สิว ๆ เช่น รถบั๊มบ์ ม้าหมุน บ้านผีสิง ไปจนถึงเครื่องเล่นอลังการอย่างโรลเลอร์โคสเตอร์ สุดยอดซูเปอร์เกลียวตีลังกาพันแปดร้อยสี่สิบเอ็ดรอบ (มั่ว มั่ว) มีสํญลักษณ์ที่เห็นได้แต่ไกลคือ ไอ้เจ้าชิงช้าสวรรค์ขนาดใหญ่ อายุเก่าแก่อยู่คู่เวียนนามาตั้งแต่ปี คศ 1879 ที่ดูยังไงก็เหมือนล้อจักรยานยักษ์ ที่มีตู้คอนเทนเนอร์สีแดงแขวนไว้รอบ ๆ ฉันไม่ได้ขึ้นกะเขาหรอก เพราะไม่ชอบความสูง เหอๆๆๆๆ แต่ถ้าจะขึ้นก็ซื้อตั๋วได้ในราคา 9 ยูโร ต่อหนึ่งรอบ ส่วนเครื่องเล่นอื่น ๆส่วนมากค่าตั๋วจะอยู่ประมาณ 3-4 ยูโร
    เรานั่งรถไฟใต้ดิน หรือ U-Bahn สาย U1 จาก สถานี Praterstern ไปที่สถานี Stephanplatz ที่เป็นที่ตั้งของวิหารเป็นที่รู้จักโด่งดังที่สุดของเวียนนา คือ Stephansdom ที่นี่เป็นที่ที่โมสาร์ทเข้าพิธีแต่งงาน และ สุดท้าย ก็เป็นที่ทำพิธีศพของเขาด้วย…
    Stephansdom หรือ วิหารเซนต์สตีเฟ่น ถ้าออกเสียงเป็นภาษาอังกฤษ.. สร้างขึ้นในปี คศ 1147 สร้างไป ต่อเติมไป ไป ๆ มา ๆ ก็ปาเข้าไปหลายร้อยปี ! การบูรณะต่อเติมครั้งใหญ่คือช่วงปี คศ 1511 การสร้างโบสถ์ที่มีรายละเอียดอลังการ มักกินเวลามากและค่าใช้จ่ายก็แพงมากด้วย และด้วยรายละเอียดในที่อัดแน่นอยู่ในทุกอณูของโบสถ์แล้ว จึงไม่น่าแปลกใจที่จนถึงทุกวันนี้ Stephansdom ก็ยังไม่เสร็จสมบูรณ์ร้อยเปอร์เซ็นต์ จุดเด่นของ Stephansdom คือหลังคา ที่มีลวดลายสีสันสดใส เขาบอกมาว่า ได้แรงบันดาลใจมาจากลายพรม ซาราเซ็น ของอาหรับ
    [​IMG]
    การมาเยือนเวียนนา แทบทุกคนต้องไปเยือน Stephansdom แห่งนี้ การเข้าชมนั้นเข้าฟรี แต่เข้าได้เฉพาะบริเวณที่กั้นไว้สำหรับนักท่องเที่ยว ถ้าจะเดินชมด้านใน พร้อมไกด์ ก็มีบริการที่ด้านในของโบสถ์ นอกจากจะเป็นแหล่งดึงดูดนักท่องเที่ยวแล้ว Stephansdom ยังคงเป็นแหล่งพึ่งพิงทางใจ ของชาวคริสเตียนในเวียนนาเหมือนวัดพระแก้วของเรา ฉะนั้นเวลาเข้าไปเยี่ยมชมก็ควรสำรวมนิดนึง
    เมื่อวานยังไม่ได้เข้าไปทัวร์กะเค้า เลยได้แต่เดินดูด้านใน ถ้ามีเวลา (และมีตังค์) จะพาไปดูด้านในแบบเจาะลึกซักรอบ
    ลานด้านหน้า Stephansdom นั้นโล่งกว้าง เหมาะแก่การเตะตะกร้อเป็นอย่างยิ่ง แต่ตะกร้อคงยังไปไม่ถึงออสเตรีย เลยไม่เห็นใครเล่น [​IMG] แต่บริเวณนี้ก็ยังมีกิจกรรมหลากหลาย ตั้งแต่คาเฟ่รอบ ๆ ที่มีโต๊ะเรียงราย เหมาะแก่การนั่งจิบกาแฟ มองดูผู้คนเดินขวักไขว่ไปมา เนื่องจากเป็นแหล่งรวมนักท่องเที่ยว เลยทำให้ลานนี้ดึงดูดนักแสดงข้างถนนทั้งหลาย มาแสดงเปิดหมวกกันอีกด้วย มีตั้งแต่การแสดงแบบเบสิค เช่น การทาหน้าทาตาด้วยสีขาว หรือทอง บางคนก็ทำเป็นสีเขียวสนิม ๆ (ตั้งใจทำมาจากบ้านเลยนะเนี่ย) แล้วยืนแข็งทื่อเป็นหุ่นให้นักท่องเที่ยวถ่ายรูป หุ่นบางตัวแต่งตัวเป็นโมสาร์ท (หนีบไวโอลินมาเองด้วยนะเฮ้ย) บางตัวก็เป็นสฟิงส์ (ไม่ค่อยจะเกี่ยวกะออสเตรียเท่าไหร่มั้ง)
    [​IMG]
    แต่ละคนยืนได้นิ่งบ้างไม่นิ่งบ้าง แต่ลองไปทำแบบนี้หน้าวัดพระแก้วดิ คงต้องหามส่งโรงพยาบาลศิริราชกันตั้งแต่ยืนได้แต่ 10 นาทีแล้ว เพราะเป็นลมแดดซะก่อน [​IMG]
    หากเดินเตร็ดเตร่รอบ ๆ สเตฟานส์ดอม อย่าเดินเหม่อ อาจถูกม้าเหยียบได้ (แต่ไม่ต้องกลัวเหยียบขี้ม้า เพราะไม่มีให้เห็นตามพื้นถนนเลย สะอาดมาก) เพราะบริเวณนี้รถม้าที่มีไว้สำหรับให้บริการนักท่องเที่ยว วิ่งกันให้ครึ่ก (นี่มันก๊อปเมืองลำปางมาเห็น ๆ เลยนี่หว่า) รถม้าที่นี่เรียกว่า Fiaker (เฟียะเกอร์) ค่าขึ้นไปนั่งเล่นชมเมือง 20 นาที ประมาณ 40 ยูโร บวกทิปอีกนิดหน่อย แล้วแต่ความพอใจ
    นอกจากจะอุดมไปด้วยรถม้าแล้ว ท่านจะได้เดินกระทบไหล่กับโมสาร์ท (รับรองว่าได้กระทบมากกว่าสี่คน แถว ๆ นั้น) คือเค้ามาโปรโมทตั๋วคอนเสิร์ตดนตรีคลาสสิค ซึ่งซื้อกับเค้าที่นี่ หรือไปซื้อที่ที่แสดงเลย ก็ราคาเท่ากัน
    [​IMG]
    เวียนนาไม่เป็นสองรองใครเรื่องดนตรีคลาสสิค ออสเตรียเป็นบ้านเกิดของนักประพันธ์ระดับโลกมากมาย เช่น โมสาร์ท, บราห์ม, ชูเบิร์ต, โยฮันสเตราส์ ฯลฯ ทำให้การเข้าไปนั่ง (หรือยืน) ฟังและชมดนตรีคลาสสิคดี ๆ ที่เวียนนาเป็นเรื่องที่เข้าถึงได้สำหรับคนทุกระดับ ไม่ใช่ว่าจัดเฉพาะเป็นการกุศล เพื่อให้คุณหญิงคุณนายใส่เครื่องเพชรมาโชว์กันในงานกะลาดินเนอร์ ที่มีดนตรีคลาสสิคแกล้มนิด ๆ หน่อย ๆ เหมือนบางประเทศ (เอ๊ะ ประเทศไหนฟระ ? คิดไม่ออก)
    ตั๋วคอนเสิร์ตที่นี่มีตั้งแต่ราคาไม่ถึง 3 ยูโร ซึ่งเป็นตั๋วยืน ไปจนถึงราคาหลายร้อยยูโร แต่สิ่งหนึ่งที่ทุกคนได้รับเหมือนกันคือ การได้ฟังดนตรีคลาสสิคระดับโลก ได้สัมผัสโอเปร่าแท้ ๆ ที่เล่นกันสด ๆ แต่ก็เนี้ยบมากราวกับออกมาจากเครื่องเล่นซีดี ! นักร้องโอเปร่าไม่มีการใช้ไมค์ แต่ร้องกันสด ๆ และผู้ชมหลายพันคนในคอนเสิร์ตฮอล์ก็สามารถได้ยินทั่วถึง ไม่รู้เขาทำได้ยังไง
    การซื้อตั๋วยืน ไปซื้อได้หนึ่งชั่วโมงก่อนเปิดม่าน ส่วนมากที่จัดแสดงจะมีออฟฟิศขายตั๋วอยู่ด้านหน้า (หรือด้านข้างอาคาร) การเข้าไปยืนนั้นก็ไม่ใช่ว่า เข้าไปยืนเบียด ๆ กัน ชะเง้อกันอย่างกับคอนเสิร์ตงานแฟตแต่อย่างใด แต่บริเวณ “ยืน” นั้นถูกจัดไว้อย่างเป็นสัดส่วน และเป็นขั้นบันได ลดหลั่นกันไป ทำให้ทุกคนได้เห็นการแสดงชัด ๆ กันทุกคน ไม่ว่าราคาตั๋วของคุณจะ 3 ยูโร หรือ ร้อยยูโร
    [​IMG]
    นี่คือข้อดีของเวียนนา ที่คนทุกระดับสามารถเข้าถึงดนตรีคลาสสิคได้แบบไม่ยากเย็น หลังจบคอนเสิร์ต เราจะได้เห็นกลุ่มผู้ชมทยอยออกจากฮอลล์ ด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม บางกลุ่มแต่งตัวไฮโซ ชุดเดรสสีดำเรียบหรู แต่ก็เดินปะปนกันแบบไม่ขัดเขินกับนักเรียนดนตรี ที่มาในชุด รองเท้าผ้าใบ กางเกงยีนส์ เสื้อยืด..
    ถึงมีงบการเงินจำกัด เวียนนาไม่เคยใจร้ายกับคนรักดนตรีคลาสสิค
    เรามีโอกาศได้เข้าไปชมคอนเสิร์ต State Opera House and Musikverein. Mozart and Strauss music ที่จัดที่โอเปร่าเฮาส์ของเวียนนา ซึ่งราคาตั๋วมีตั้งแต่ 39 - 72 ยูโร (และ 220 ยูโร สำหรับตั๋ว V.I.P) และอย่างที่บอกไว้ข้างบน เวียนนาไม่เคยทำให้คนงบน้อยต้องผิดหวัง เราซื้อตั๋วยืนมาสองใบในราคาใบละ 19 ยูโร ซึ่งถือว่าไม่แพงสำหรับการแสดงที่ค่อนข้างใหญ่
    นักดนตรีทยอยออกมาบนเวทีตรงตามเวลา ทุกคนอยู่ในเครื่องแต่งกายแบบโบราณ เลียนแบบมาจาก ศตวรรษที่ 17 เสื้อมีระบายตรงช่วงคอลงมา เสื้อนอกหางยาว กางเกงยาวถึงแค่เข่า ที่สอดทับด้วยถุงเท้าสีขาว และ ใส่วิกผมยาวสีขาว รวบไว้ที่ท้ายทอยและผูกโบว์แบบที่นิยมกันในยุคของโมสาร์ท
    คอนเสิร์ตใช้เวลาแสดง 2 ชั่วโมง … 2 ชั่วโมง กับเพลงที่ประพันธ์โดยอัจฉริยะด้านดนตรีอย่างโมสาร์ท รีเควียม, โอเปร่าที่เราคุ้นหูกันดี ถูกทยอยนำมาแสดงชนิดที่ว่าดูกันคุ้มไปเลย ตอนหนึ่งเป็นการแสดงที่ชื่อ Die Zauberflöte หรือ The Magic Flute ที่ฉันเคยได้เข้าไปชมครั้งหนึ่งที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่นักแสดงเป็นชาวไทยทั้งหมด แต่ร้องเป็นภาษาเยอรมัน ซึ่งถึงไม่ใช่แฟนพันธุ์แท้โอเปร่า ก็อดขนลุกไม่ได้ เพราะแต่ละคนเสียงมีพลังมาก ๆ
    การแสดงดนตรีคลาสสิค มักจะออกไปทางน่าเบื่อ ถ้าไม่ได้ชื่นชอบขนาดเข้าขั้นจริง ๆ Conductor หรือวาทยากร รวมไปถึงนักดนตรีมักจะดูเคร่งขรึม ซีเรียสกับการบรรเลงดนตรี เล่นกันจนเหงื่อไหลไคลย้อย คิ้วชนกันตลอด แต่คอนเสิร์ตนี้ไม่เป็นแบบนั้น ค่อนข้างจะสนุกทีเดียว วาทยากร หันมาเล่นกับผู้ชมเป็นระยะ ผู้ชมได้มีส่วนร่วมในการปรบมือตามจังหวะ ตบเบา ๆ ตบแรง ๆ แล้วแต่วาทยากจะหันมาเล่น บางคนตบเกิน ก็ได้ฮากันทั้งฮอล์ อาจจะเป็นเพราะ เป็นการแสดงที่อุทิศให้กับโมสาร์ท ถ้าลองฟังโน้ตในบทประพันธ์หลาย ๆ ชิ้นของเขา จะได้ยินลูกเล่น จิ๊ก ๆ จั๊ก ๆ แบบคนขี้เล่น แทรกอยู่ตลอด ขนาดพระเจ้าโจเซฟที่สองยังเคยตรัสกับโมสาร์ทว่า
    “ดนตรีของเจ้านี่ช่างสวยงามเกินกว่าหูเรากระมัง ตัวโน้ตนั้นก็ช่างมากมายยุ่งขิง โมสาร์ทเอ๋ย”
    ซึ่งโมสาร๋ทก็ทูลกลับว่า
    “หามิได้พ่ะยะค่ะ ตัวโน้ตพวกนี้ หม่อมฉันตั้งใจใส่เท่าที่จำเป็นเท่านั้น ฝ่าพระบาท”
    ฉันจินตนาการหน้าของโมสาร์ที่กำลังยิ้มกรุ้มกริ่มได้ชัดเจน หากใครยังไม่ได้ดูหนังเรื่อง Amadeus แนะนำให้ไปหามาดู และจะอดหัวเราะ และร้องไห้ไปกับโมสาร์ทไม่ได้ น่าเสียดาย ที่อัจฉริยะ มักจะอายุไม่ยืน…
    และแน่นอนว่าคอนเสิร์ตนี้ ปิดท้ายด้วย บลูดานูป ของสเตราส์ ที่ทุกคนคงเคยได้ยินผ่าน ๆกันมาบ้าง (ลองฟังไฟล์แบบ midi ที่นี่)
    [​IMG]
    คืนนี้อากาศไม่เย็น เราเดินกันสบาย ๆ ในเสื้อยืด กางเกงยีนส์ แวะกินซูชิราคาประหยัด (ถาดละ 5 - 7 ยูโร) ที่สถานีรถไฟใต้ดินติดกับโอเปร่าเฮาส์ ที่ฮาคือติด ๆ กันกับร้านซูชิ มีบริการห้องน้ำสาธารณะ Opera Toilet ! มันก็คือห้องน้ำธรรมดานี่แหละ ที่เวลาจะเข้าไปใช้ต้องหยอดเหรียญแล้วดันที่กั้นเข้าไปด้านใน ห้องน้ำสาธารณะปรกติ ค่าใช้จะประมาณ 30 เซ็นต์ แต่นี่มันคือ Opera Toilet ! ที่คุณสามารถทำธุระไปด้วย และฟังโมสาร์ทขับกล่อมไปด้วยพลาง ๆ อาาาาา …. คุณได้มาถึงเวียนนาแล้วจริง ๆ แม้แต่ส้วม ยังมีดนตรีคลาสสิค !
    แต่ประทานโทษนะ ห้องนึง เปิดเข้าไป .. ใครไม่รู้ เข้าส้วม (หนักด้วยอะดิ) แล้วไม่กดน้ำ แบบนี้ต่อให้โมสาร์ทก็ โมสาร์ท เหอะ ขุดเอาโอเปร่าไหนมาก็เอาไม่อยู่ อ้วกแทบพุ่ง
    ปล. รูปจะตามมา (อีก) เร็ว ๆ นี้หนิ ตอนนี้ยังไม่ได้ export จ้ะ ขอตัวออกไปกินข้าวกลางวันก่อน แล้วจะพาเที่ยวเวียนนาต่อจ้า



    ที่มา
    บันทึกการเดินทางแบกเป้
    รายได้ต่ำแต่กระแดะแบกเป้บ่อย
    http://images.google.co.th/imgres?imgurl=http://farm2.static.flickr.com/1165/1261519050_ad6ad48613_o.jpg&imgrefurl=http://beebah.wordpress.com/tag/%25E0%25B8%25A2%25E0%25B8%25B8%25E0%25B9%2582%25E0%25B8%25A3%25E0%25B8%259B/&h=438&w=496&sz=46&hl=th&start=2&um=1&tbnid=fdsXhpJLlK1tuM:&tbnh=115&tbnw=130&prev=/images%3Fq%3D%25E0%25B9%2580%25E0%25B8%25A7%25E0%25B8%25B5%25E0%25B8%25A2%25E0%25B8%2599%25E0%25B8%2599%25E0%25B8%25B2%26um%3D1%26hl%3Dth%26sa%3DN
     
  12. ฐาณัฏฐ์

    ฐาณัฏฐ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2008
    โพสต์:
    6,199
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,075
    <TABLE class=tborder cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=thead>ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 3 คน ( เป็นสมาชิก 2 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน ) </TD><TD class=thead width="14%"></TD></TR><TR><TD class=alt1 width="100%" colSpan=2>ฐาณัฏฐ์, สันโดษ+ </TD></TR></TBODY></TABLE>
    หุหุ ติดรถมาด้วยหรอ
     
  13. สันโดษ

    สันโดษ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    9,940
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +16,870
    <object width='315' height='80'><param name='movie' value='http://www.ijigg.com/jiggPlayer.swf?songID=V2DGG0PA0&Autoplay=1'><param name='scale' value='noscale' /><param name='wmode' value='transparent'><embed src='http://www.ijigg.com/jiggPlayer.swf?Autoplay=1&songID=V2DGG0PA0' width='315' height='80' scale='noscale' wmode='transparent'></embed></object><div style='width:300px;padding:4px;background:white;font-family:Arial,Tahoma;text-align:center;'><font size='3'><a href='http://www.ijigg.com/songs/V2DGG0PA0'>My Music - SI NO ESTAS</a></div>
     
  14. ฐาณัฏฐ์

    ฐาณัฏฐ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2008
    โพสต์:
    6,199
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,075
    [​IMG]

    ขอแสดงความเห็นหน่อย
    เวียนนา ไม่ใช่เวียนนาม แน่นอน ขอบอกครับ หุหุ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 มิถุนายน 2008
  15. คีตเสวี

    คีตเสวี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มกราคม 2007
    โพสต์:
    980
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +750
    สวยมาก น่าไป จัง
     
  16. AddWassana

    AddWassana เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    11,698
    ค่าพลัง:
    +21,186
    ขอชื่นชมว่าเป็นบทความที่มีสาระประโยชน์ในการท่องเที่ยวดีมากค่ะ
    ภาพสวย เพลงเพราะ

    ถ้าไม่ขอมากเกินไป ขอไปเที่ยวปารีสได้ไหมคะ และจะดีสุดๆ
    ขอเพลงภาษาฝรั่งเศสประกอบ...
    ขับร้องโดย Celine Dion ก็ได้ค่ะ อยาก(ไป)เห็นมากเลย....

    ขอบคุณมากค่ะ เรารู้...คุณๆ...ทำได้....
     
  17. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,443
    ค่าพลัง:
    +141,948
  18. AddWassana

    AddWassana เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    11,698
    ค่าพลัง:
    +21,186
    [​IMG]

    เข้ามาฟังเพลงเพราะอีกค่ะ ใช่ของสเปนไหม?
     
  19. สังขารไม่เที่ยง

    สังขารไม่เที่ยง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    5,943
    ค่าพลัง:
    +24,697
    สวยดีค่ะ.....
     
  20. ฐาณัฏฐ์

    ฐาณัฏฐ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2008
    โพสต์:
    6,199
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,075
    ผมว่าคุณขอมากไปแล้ว
    พรุ่งนี้จะพาไปลาว ไปทานส้มตำปลาร้า จะไปกับผมไหมครับ หุหุ
    สะบายดี สะบายดี หุหุ

    (f)
     

แชร์หน้านี้

Loading...