นี่ก็ปี 2010 แล้ว ไม่รู้ว่ามีคนเห็นดาวเคราะห์ยักษ์นี้บ้างหรือยัง หรือว่ามันเป็นเพียงแค่เรื่องแหกตาอีกเรื่องหนึ่งเท่านั้น:boo:
ไม่รู้ว่ามีใครเห็น Planet X หรือยัง?
ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย 21.12.2012=11, 17 สิงหาคม 2010.
หน้า 1 ของ 249
-
-
มีแล้วครับ....ผมดูคลิปแล้ว..ทำให้อึ้งไปเลย....
-
จริงอ่ะเปล่าครับ ผมเข้าไปดูในยูทูปเห็นแต่ของปลอมทั้งน้านอ่ะครับ -
เคยเห็นครับ แต่ไม่รู้ว่าใช่ nibiru หรือ planet X หรือเปล่า แต่ที่แน่ๆผมอายุจะเลขสามแล้วยังไม่เคยเห็นดาวที่ใหญ่ขนาดนี้มาก่อนครับ ใหญ่กว่าดาวประจำเมืองที่เห็นอยู่ทุกๆวันในช่วงค่ำ กล่าวง่ายๆคือเล็กกว่าดวงจันทร์ในเวลากลางคืนเท่านั้นเองครับ ถ้าอยากเห็นให้ท่านหาวันที่ฟ้าโปร่ง แล้วตื่นนอนซักราวๆ ตี 3 - 5 นะครับแล้วลองสังเกตุท้องฟ้าเยื้องไปทางทิศเหนือตอนนั้นดูเชื่อว่าท่านน่าจะเห็นดาวที่ผมว่านั่น ขอย้ำอีกครั้งว่าใหญ่กว่าดาวประจำเมืองและดาวประกายพรึกอย่างแน่นอน
ดาวประจำเมืองหรือดาวประกายพรึก
ดาวศุกร์ - วิกิพีเดีย -
ผมเหนจากเนตแล้ว
ใหญ่พอๆกับดาวเสาร์
-
คำตอบคือ.......
-
-
-
ตอบหน่อยครับมันเพราะอะไร ผมงงมากครับ -
-
คุณเจ้าของกระทู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับพวกสูตรคำนวณตามเสาต่างๆในกรุงเทพฯมั้ยคะ ?? ^^
เห็นเคยมีคนมาถามไว้อ่ะค่ะ กระทู้ไหนไม่รู้ ^^ -
-
เส้นผ่าศูนย์กลางกี่กิโลเมตรครับ ?
-
ใช่ มัน ไม่ ไม่ ใช่ดาว ~
-
เคยมีคนมาโพสว่าดาวนิบิรุโดนทำลายไปแล้วครับ เหลือแต่ยานอวกาศรูปทรงกลมเหมือนดาวเท่านั้น
-
คงยังกระมังครับ นักดาราศาสตร์ยังไม่เห็นบอกไรเลย
หรืออาจไม่มี.... -
ไม่มี Nibiru แต่มียานอวกาศรูปร่างใหญ่มาก ผมไม่แน่ใจว่ามันใช่ดาวมั้ย เพราะมันใหญ่แบบเหลือเชื่อแต่ล่องหนได้ด้วยเทคโนโลยี สามารถหยุดนิ่งกับที่ได้ และมันน่ามีแรงดึงดูดด้วย หรืออาจจะเป็นการดัดแปลงดาวบางดวงให้เป็นยานอวกาศครับ มันสามารถเปล่งรัศมีได้เป็นออร่าสีแดงเข้มแผ่กระจายรอบตัวยานด้านนอก เป็นเสมือนเกราะสะท้อนรังสีต่างๆจากอวกาศครับ เพราะยานพวกนี้ส่วนใหญ่จะล่องลอยอยู่ในอวกาศและกระโดดไปมาระหว่างมิติที่เป็นแผ่นรอยเชื่อมของพลังงานมืดแต่ละแผ่นซึ่งเปรียบเสมือนพื้นโลกที่มีหลายแผ่นมาบรรจบกันน่ะแหละครับ (ตอนนี้นักวิทย์ยังไม่สามารถเข้าใจและอธิบายเกี่ยวกับพลังงานมืดได้นะครับ)
-
ในอดีต ยานพวกนี้ถูกใช้ขนาบโลกเพื่อใช้แรงดึงดูดดึงน้ำให้ไหลท่วมไปตามทวีปต่างๆทั่วโลก และนั่นคือยุคของโนอาห์นั่นเอง ยุคน้ำท่วมโลกในสมัยพระคำภีร์ไบเบิ้ล
-
เพื่อนบ้านของโลกมาเยือนทุกๆรอบ 13,000 ปีของจริงที่กำลังมาปรากฏให้เห็นด้วยตา เป็นดาวฤกษ์ดวงหนึ่งที่ ทางองค์การนาซ่าตรวจพบเมื่อ ค.ศ.1982 และติดตามสังเกตการณ์เรื่อยมา จนข้อมูลมาต่อเชื่อมกับดาวดวงเดียวกันกับที่ชาวสุเมเรียลได้บันทึกเอาไว้ในอดีต หลายพันปี ปัจจุบันนี้ชาวออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ ได้เห็นดาวสีส้มโตเท่าลูกกอล์ฟขึ้นทางทิศใต้เป็นปกติ นั่นคือ ดาวนิบิรุ ที่มีลักษณะรีคล้ายลูกรักบี้เป็นดาวฤกษ์ใหญ่กว่าดาวพฤหัสบดีประมาณ 2 เท่า โคจรเป็นวงรีควง 2 กาแลกซี่รอบดวงอาทิตย์ 2 ดวง ในเพลนทะแยงมุม 30 องศากับระนาบวงโคจรของโลกและดาวเคราะห์อื่นๆในระบบสุริยะ
เราลองแวะดูข่าวสารข้อสรุป ของ AndrosEnigmaxในวิดีโอนี้ เพื่อเสริมสร้างสติปัญญาของเรา ที่ชาวโลกได้เริ่มมองเห็นดาวดวงนี้ด้วยตาเปล่ากันมากขึ้นแล้ว ช่วงระยะที่ ดาวนิบิรุ ทำยูเทิร์นดวงอาทิตย์ด้วยวงรีจะเร่งอัตราความเร็วเนื่องจากอยู่ในโค้งข้อศอก และเป็นขณะเดียวกับโลกโคจรรอบดวงอาทิตย์เข้าไปในระหว่างระยะทางของนิบิรุและดวงอาทิตย์พอดี ช่วงนั้นพลังเส้นแรงแม่เหล็กของดาวนิบิรุและดาวบริวารอีก 5 ดวง ซึ่งมีขนาดใหญ่พอๆกับโลก จะเหนี่ยวนำให้ขั้วเหนือแม่เหล็กโลก เคลื่อนโน้มลงประมาณ 90 องศา
นักดาราศาสตร์คาดการณ์เอาไว้ว่าจะเกิดขึ้นประมาณ 14 ก.พ. 2013 ดาวนิบิรุ เป็นดาวฤกษ์ที่มีขนาดพอๆกับดาวพฤหัสฯ มีผงฝุ่นฟุ้งกระจายอยู่รอบตัวและมีส่วนหางยาว ดังนั้นประมาณ กลางปี 2011 เป็นต้นไปช่วงที่โลกโคจร รอบดวงอาทิตย์ และเข้าไปอยู่ใต้ดาวดวงนี้ซึ่งมีระนาบโคจรทะแยงมุมกับระนาบโคจรของสุริยะจักรวาลประมาณ 30 องศา โลกจะได้รับปรากฏการณ์ฝนดาวตก ลงมาจากผงฝุ่นและส่วนหางของดาวนิบิรุ ซึ่งอาจมีโลหะหรือของแข็งที่ไหม้ไม่หมด ในชั้นบรรยากาศของโลก หลุดรอดลงมาถึงพื้นโลกได้
ซึ่งได้ทราบเพิ่มเติมจากญาณทัสสนะของ พระอาจารย์รัตน์ ว่า ขั้วเหนือใหม่จะไปอยู่ที่สฟิงซ์ที่ประเทศอียิปต์ ในช่วงเวลานี้ที่จะมีปรากฏการณ์ธรรมชาติมากมายเกิดขึ้นแก่โลก ที่อาจเรียกว่าเป็นการร่อนตะแกรงครั้งสุดท้ายของธรรมชาติ ที่มนุษย์ชาติที่เหลือรอดตายประมาณ 10 % ตามพุทธทำนาย ส่วนผู้เตรียมวิดีโอนี้ ได้สรุปไว้ว่า ประชากรของโลกจะสูญเสียรอบแรกไป 2 ใน 3 ส่วนที่เหลือจะอดอยากและเผชิญความแร้นแค้นในระยะ 6 เดือนไปอีก 2 ใน 3 ทั้ง 2 ช่วง ก็จะมีประชากรโลกรอดชีวิตอยู่ประมาณ 10 %
มีความเห็นจาก skywatchMedia ต่อดาว นิบิรุ ที่จะเริ่มโคจรสวนทางแทรกกลางระหว่างโลกและดวงอาทิตย์ในวันที่ 21 ค.ศ. 2012 นั้น
- a week before the passage, the Earth stops rotation and the world waits....
- then...in one hour the Earth rotates 90 degrees as it realigns the Poles to the magnetic pull of Nibiru, the 12th Planet, as it passes between the Earth and the Sun.
- Money....becomes meaningless to All.
- As the red planet passes, jiant waves watch over Earth, volcanoes erupt worldwide, and earthquakes destroy All Cities.
- Dying comes Easy, and living comes Hard. 90% of Mankind is Dead or Dying. Mighty Nations are No More.
- Soon after passes, the Earth resumes rotation. Herricane force winds sweep the World. Volcanic ash darkens the Skies.
- The struggle for Life on Planet Earth begins Anew....
[ame="http://www.youtube.com/watch?v=mkv4chj47XY"]YouTube - Nibiru-Planet of the Crossing[/ame]<table class="tborder" style="margin: 10px 0px;" 425="" cellpadding="6" cellspacing="1"><thead><tr><td class="tcat" style="text-align: center;" colspan="2">
</td></tr></thead><tbody><tr><td class="panelsurround" align="middle">
</td></tr></tbody></table><table class="tborder" style="margin: 10px 0px;" 425="" cellpadding="6" cellspacing="1"><thead><tr><td class="tcat" style="text-align: center;" colspan="2">
</td></tr></thead><tbody><tr><td class="panelsurround" align="middle">
</td></tr></tbody></table>
ดาวนิบิรุจะโคจรมาทำยูเทิร์นกับดวงอาทิตย์ของระบบสุริยะ กินเวลาประมาณ 2 ปี โดยมี ดาว นิบิรุ โคจรอยู่ระหว่างดวงอาทิตย์และโลก เป็นเวลา ประมาณ 2 ปี นั้น ชาวโลกที่ยังมีชีวิตอยู่จะได้เห็นพระอาทิตย์ขึ้น 2 ดวง จนดาว นิบิรุเริ่มตีวงจากไกลดวงอาทิตย์ออกไป ทั้งนี้มีความเห็นจากนักดาราศาสตร์ไว้ว่า ต้นปี 2012 ที่ นิบิรุ ได้เริ่มโคจร เข้าใกล้โลก จะมีฝนดาวตกจากเศษดาว นิบิรุ ลงมาที่โลก และอาจมีวัตถุก้อนใหญ่ๆ ที่อาจไหม้ในบรรยากาศของโลกไม่หมดจะตกลงมาเป็นอันตรายต่อชาวโลก
ผลดีของการมาของดาว นิบิรุ ในรอบนี้ จะช่วยปรับย้ายระบบสุริยะและโลก ไปสู่แรงดึงดูดของกาแลกซี่ ไตรแอง กุลัม หรือกาแลกซี่เบาทางด้านทิศตะวันออก โลกจะได้รับพลังคลื่นสีขาว เหลือง หรือพลังดี เป็นพลังปราณ และพลังมโนธาตุและธาตุว่างอย่างเต็มที่ ตรงกันข้ามกับธาตุหนักของกาแลกซี่ทางช้างเผือก เป็นการนำโลกไปสู่ยุคใหม่ใต้อิทธิพลของกาแลกซี่นี้ไปอีก 13,000 ปี แล้วจึงจะสลับกลับมาสู่กาแลกซี่ทางช้างเผือกอีก 13,000 ปี เป็นวัฏจักรของสุริยะจักรวาล และกาแลกซี่อื่นๆที่ครอบสุริยะจักรวาลอยู่
สำหรับหลายๆท่านยังต้องการจะรู้จักดาวดวงนี้ให้ละเอียดละออยิ่งขึ้น ก็ลองแวะที่นี่ได้..2012 - Planet X - Nibiru - Hundreds of Pages, Videos and Audios For Free
การที่ระบบสุริยะจักรวาลทั้งหมดจะย้ายที่ได้นั้น ย่อมต้องการทั้งแรงดูดและแรงผลักในอวกาศเกิดขึ้นทั้ง 2 อย่าง แรงดูดนั้นปัจจุบันกาแลกซี่ไตรแองกุลัมได้ดูดสุริยะจักรวาลเข้ามาใกล้ขอบแล้ว ยังขาดแต่แรงผลักจากกาแลกซี่ทางช้างเผือกเท่านั้น ซึ่งคาดว่าจะเกิดขึ้นในปลายปี 2012 เป็นต้นไป ลั่นไกเมื่อดาวทุกดวงในระบบสุริยะและดาวนิบิรุมาเข้าแถวอยู่ในระนาบเดียวกันเป็นเส้นตรง ส่งเชื่อมพลังสนามแม่เหล็ก บวก-ลบ ๆ เพิ่มกำลังแรงแม่เหล็กเต็มที่ ส่งพลังไปยังศูนย์กลางของกาแลกซี่ทางช้างเผือก จุดประกายขึ้นทั่วจักรวาล ทั้งแสงและเสียง ส่งพลังคลื่นแม่เหล็กสะท้อนกลับมายังดาวต่างๆ ที่เข้าแถวอยู่ให้เคลื่อนตัวไปสู่กาแลกซี่ไตรแองกุลัม เริ่มขบวนการเปลี่ยนแปลงตั้งแต่กลางดึกของ 21-12-2012
คัดมาบางส่วน อ่านทั้งหมดได้ที่นี่
http://ainews1.com/article286.htmlข้อมูลอื่นๆที่น่าสนใจ<!-- google_ad_section_end -->
นี่คือความลับของPlanetX (ดาวปริศนาNibiru)และความเกี่ยวข้องกับปี 2012<!-- google_ad_section_end --> -
หรือว่าคนๆนี้เคยไปเยือนยานอวกาศบนนั้นมาแล้ว ???
ผมฝันแปลกๆว่าผมติดต่อกับคนบนโลกอื่นครับ ???
หน้า 1 ของ 249