ไม่เคยฝึกมโนมยิทธิ แต่สิ่งที่ตัวเองสื่อได้ คล้ายๆจะมาทางด้านนี้

ในห้อง 'ประสบการณ์อภิญญา' ตั้งกระทู้โดย Me, myself, 3 มีนาคม 2009.

  1. peenangfa เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    43
    ค่าพลัง:
    +228
    ขอลงเรือลำนี้ด้วยคนนะครับ^^

    วันนี้ทั้งวันผมใช้เวลาในการอ่านกระทู้ แต่ก็ยังไม่หมดนะครับ

    ได้อ่านกระทู้ของทุกคนแล้ว เหมือนกับถูกช่วยเหลือมาจากหลุมดำอีกครั้ง ที่จริงแล้วผมเป็นคนที่ชอบปฏิบัติธรรมมาตั้งแต่อายุ13ปี ตอนนี้22ปีแล้วครับ
    จะมีอยู่ช่วงนึงช่วงที่ผมกำลังจะเข้ามหาลัย ผมได้เริ่มห่างจากการปฏิบัติไปเรื่อยๆ พอเข้ามหาลัยก็หลงทางเลยครับ ผมเดินเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับสิ่งที่ไม่ดีต่างๆนานาและไม่ตั้งใจเรียนด้วย ประมาณ2ปี(อายุ19) ที่ผมทำตัวเหลวไหล จนมีอยู่วันนึง ผมได้โดนตำหนิอย่างหนักจากเบื้องบน วันนั้นทำให้ผมมีสติ กลับมาปฏิบัติได้เหมือนเดิมและยิ่งทำก็ยิ่งดีจนก้าวหน้ามากจนมาถึงปัจจุบันเมื่อประมานเดือนกุมภาพันธ์ ช่วงนั้นอาจารย์สั่งงานเขียนแบบ ผมจึงทำงานจนไม่ค่อยได้ปฏิบัติเลย ไม่มีเวลาจิงๆคับ ผมเขียนทั้งคืนไม่ได้นอนเกือบๆเดือน อาศัยเรียนเสร็จก็กลับมานอนวันนึงประมาน2 ชม.ก็ต้องตื่นมาทำงาน พอหลังจากส่งงานแล้วผมก็กลับมาปฏิบัติ แต่คราวนี้ รู้สึกไม่ดีเลยครับ จิตตกเอามากๆ ทำแล้วจิตไม่ผ่องใส ไม่สบายจิต ทั้งสวดมนต์และนั่งสมาธิครับเป็นมาหลายเดือนมาก จนมาวันนี้ผมไม่รู้นึกยังไงมานั่งอ่านอะไรเล่นในเว็บพลังจิต ซึ่งไม่เคยเข้ามาก่อน และมาเจอกระทู้นี้ พอได้อ่าน จิตผมเบิกบานมากครับเลยนั่งอ่านทั้งวันเลย จนมาถึงตอนเย็นผมก็เข้าไปสวดมนต์ตามปกติ แต่วันนี้จิตใจผมแจ่มใสจริงๆ เหมือนกับดอกไม้ได้น้ำหลังจากที่ขาดน้ำมานานน่ะครับ และทำให้ผมเกิดศรัทธาที่จะปฏิบัติต่อไปครับ



    สุดท้ายอยากจะขอบคุณพี่ๆทุกคนนะครับ ที่เขียนสิ่งดีดีให้อ่าน และคอยนำบุญกุศลมาให้ร่วมอนุโมทนา ผมก็ขออนุโมทนาด้วยทั้งหมดนะครับ^^



    ขอให้บุญกุศลที่ผมได้กระทำมาในอดีตชาติทุกภพทุกชาติจนถึงชาติปัจจุบันนี้ จงสำเร็จแก่พี่ๆและทุกคนในบอร์ด ขอให้มีแต่ความสุขความเจริญ ทั้งทางโลก และทางธรรม และได้เข้าถึงพระนิพพานในชาติปัจจุบันและอนาคตกาลเบื้องหน้าเทอญ สาธุ.
     
  2. Me, myself บุคคลทั่วไป

    ค่าพลัง:
    +0
    พุทโธ อัปปมาโณ - คุณของพระพุทธเจ้าอันหาประมาณมิได้

    วันนี้ก็จะขอเล่าอะไรให้ฟังเพลินๆ สอดแทรกธรรมะอยู่ในตัว อ่านแล้วก็พิจารณากันนะคะ

    เรื่องมีอยู่ว่าดิฉันได้ขายบ้านที่บางบ่อ แล้วก็ต้องหาบ้านเช่าโดยไวเพื่อที่จะต้องรีบขนของออกจากบ้านเก่า เพราะว่าผู้ซื้อต้องการที่จะนำช่างเข้าไปตกแต่งซ่อมแซมบ้าน ขายบ้านครั้งนี้ก็ขาดทุนย่อยยับ แถมเป็นทุกข์ลาภอีก เวรกรรม จะไม่หาเช่าบ้านอยู่ก็ไม่ได้ เพราะว่ามีของที่อยู่บ้านโน้นที่ต้องนำออกมา แล้วก็หมาอีกหนึ่งตัวที่ต้องเอากลับมาเลี้ยง เป็นพันธุ์บางแก้ว อยู่คอนโดห้องเล็กนิดเดียว ไม่มีที่เก็บของแล้วก็เลี้ยงหมาไม่ได้ด้วยค่ะ

    ทีนี้ก็ตระเวณหาดูบ้านเช่าละค่ะ ในระยะเวลาอันสั้น ซึ่งก็ไม่รู้ว่าจะหาได้ทันหรือเปล่า แต่ว่าได้ขอพรพระท่านไว้ว่า อยากได้บ้านที่มีสามห้องนอน เพราะจะทำห้องพระห้องหนึ่ง แต่ถ้าไม่ได้จริงๆก็สองห้องนอนก็ได้ แล้วก็ต้องอยู่ไม่ไกลจากที่เราเคยอยู่ ราคาพอสมควร อยู่ในที่ปลอดภัย ใกล้แหล่งชุมชน เจ้าที่ดีอยู่แล้วดีๆเฮงๆ ฮา เป็นไงขอซะทุกอย่างเลย พระท่านก็ให้พรมาว่าจะช่วยให้ได้ตามที่ต้องการ แล้วให้ดูว่าบ้านที่จะไปเช่า ต้องมีเลข 6 หรือ 7 อยู่ในบ้านเลขที่ด้วย

    ดิฉันกับลูกก็ตระเวณหาๆๆไปหลายที่ จากใกล้จนออกไปไกลกว่าที่เดิม ไปหาดูกันทุกวัน บางที่ที่ราคาถูกๆก็เจอแบบว่าเขาเพิ่งมาเช่าไปเมื่อกี้นี้เองแบบนี้ทุกที ส่วนใหญ่จะราคาแพงมากจนเช่าไม่ไหวค่ะ หาจนเริ่มจะเครียดแระ เพราะว่าคนที่ซื้อบ้านก็จะรีบเอาช่างเข้ามา เราก็ต้องรีบย้ายของออก แล้วตัวเองก็จะไปบวชที่ศูนย์ในวันมาฆบูชาด้วย แต่อะไรๆก็ยังไม่มีวี่แววสักอย่าง เพราะเหลือเวลาแค่อาทิตย์เดียวเอง ทีนี้วันนั้นก็ได้ออกไปหาดูบ้านกับลูกอีก ก็เส้นทางเดิมๆแหละที่เพิ่งมาเมื่อวานนี้เอง ก็ไม่ได้มีอะไร แต่วันนี้ดิฉันเห็นมีป้ายให้เช่าบ้านอยู่แถวๆถนนเฉลิมพระเกียรตินี้เอง ก็เลยได้โทรไปสอบถาม แล้วก็ได้เข้าไปดูบ้านเลย เห็นบ้านแล้วก็โอเคเลยคะ หลังใหญ่ มีสามห้องนอน แถมเจ้าที่ก็ดีด้วย ราคาพอสมควร อยู่ในทำเลที่ใกล้ชุมชนมากๆ ใกล้วัด ใกล้ตลาด และบ้านเลขที่ค่ะ เลขที่ 64 (มีเลข 6 อยู่ ตามที่พระท่านบอกให้หา)

    ก็เลยตกลงเช่าค่ะ ทีนี้ก็ต้องทำการย้ายของ ขอติดตั้งโทรศัพท์ ก็ต้องไปหารถขนของ หาช่างย้ายแอร์ ภายในเวลาแค่ไม่กี่วัน ยังไม่รู้เลยว่าจะไปหาจากไหน เพราะตามป้ายที่ติดไว้ตามเสาไฟฟ้าก็กลัว เพราะว่าเราไม่รู้จัก ก็ได้ขอบารมีพระท่านให้ช่วยด้วย เพราะไม่อย่างนั้นดิฉันก็จะไม่สามารถไปบวชได้ตามที่เคยตั้งใจไว้ แล้วดิฉันก็ลองไปหาพี่ที่รู้จักซึ่งพี่เขาเป็นช่างทำหม้อน้ำรถยนต์ที่ใช้บริการแกมาตลอด พี่เขาจะมีช่าง มีอู่ที่แนะนำแบบราคาถูกๆ ทำให้ไม่โดนช่างฟันหัวแบะเวลารถเสีย แต่ก็ไม่รู้ว่าพี่เขาจะรู้จักใครที่มีรถหกล้อรับจ้างไหม แล้วก็ช่างแอร์ด้วย แต่ก็ลองไปถามดู พอไปถามพี่เขาก็ว่า มีๆๆๆ แล้วก็เอาเบอร์มาให้เลย (โห..ครอบจักรวาลจริงๆ ฮา)

    ดิฉันก็โทรไปนัดช่างแอร์ ช่างก็ว่างวันศุกร์ (ดิฉันต้องไปที่ศูนย์วันเสาร์) แล้วก็โทรไปหารถรับจ้าง เขาก็ถามว่าจะใช้เสาร์-อาทิตย์เหรอ ก็บอกว่าวันธรรมดา เขาก็ถามว่าใช้เมื่อไหร่ ก็ว่า พรุ่งนี้ค่ะ (ฮา ตอนแรกก็คิดว่า เขาคงจะบอกว่าไม่ว่าง ตอนโทรไปก็บ่ายแล้ว) ทางเจ้าของรถบอกว่า ได้ครับ โห..ดีใจสุดๆ แล้วก็ไปขอเบอร์โทรศัพท์ แต่ว่าคู่สายตรงแถวบ้านเต็ม ต้องลากสายมาจากคู่สายอื่น ซึ่งมีเหลืออยู่สองเบอร์ ก็ให้มาติดตั้งวันศุกร์เหมือนกัน พอดีเป็นโปรโมชั่นได้ติดตั้งจานทรูด้วย ก็นัดวันศุกร์เหมือนกัน เพราะทุกอย่างต้องเสร็จในวันศุกร์ ไม่อย่างนั้นดิฉันจะไม่ได้ไปบวช

    ติดต่อทุกอย่างได้ภายในวันเดียวเลย พอวันที่โทรศัพท์มาติดตั้ง วันนั้นในซอยบ้าน มีงานแต่งงาน เขาปิดซอยกางเต้นท์กัน ช่างก็เดินไปดูระยะที่จะลากสายมาจากคู่สายอื่น ไปๆมาๆช่างก็โทรไปศูนย์บอกว่า ลากไม่ได้เพราะต้องลากผ่านเต้นท์ ผ่านอะไรอีกเยอะแยะ ยุ่งยากลำบากมาก ดิฉันก็คิดว่า อ้าว..แล้วทำไงละทีนี้ สุดท้ายช่างบอกว่า โทรไปขอเบอร์สำรองที่เขาเผื่อไว้เวลาคู่สายเสีย แต่ละคู่สายเขาจะสำรองเบอร์ไว้สองเบอร์ เขาไปขอดึงเบอร์สำรองนั้นมาให้เรา คู่สายอยู่หน้าบ้านพอดี (อะไรมันจะง่ายปานนั้น) ไปเล่าให้คุณหนิงฟัง คุณหนิงก็บอกว่า แหม..วีไอพีนะ ปกติอ่ะต้องไปทำเรื่องส่งไปที่สำนักงานใหญ่ก่อน ใช้เวลาเป็นอาทิตย์ๆ แล้วก็ไม่แน่ว่าจะได้หรือเปล่าด้วย (แต่ดิฉันได้มาง่ายๆเลย ฮา) แล้วรู้อะไรไหมคะ หลังจากที่ย้ายเข้ามาอยู่บ้านนี้ได้สามเดือน บ้านตรงข้ามมาถามว่า "พี่ๆ ขอโทรศัพท์กี่วันได้" ก็บอกว่าวันเดียวก็ได้แล้ว เขาว่า "ผมขอมาแปดเดือนแล้วเนี่ย ขอก่อนพี่อีก ยังไม่ได้เลย"

    ทุกอย่างเรียบร้อยหมด เหลือช่างติดตั้งจานทรู เลื่อนนัดตั้งแต่เที่ยงจนจะมืดแล้ว ก็คิดว่าถ้าไม่มาก็ไว้วันหลังละกัน เพราะว่าไม่สำคัญเท่าไหร่ อย่างอื่นเรียบร้อยแล้ว กำลังจะกลับไปที่คอนโด ช่างมาพอดี ก็เลยได้ติดตั้ง ทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยครบตามที่ขอไว้ว่าต้องเสร็จภายในวันศุกร์ ก็เสร็จภายในวันศุกร์จริงๆตอนหนึ่งทุ่มครึ่ง พอวันเสาร์ดิฉันก็ได้ไปบวชที่ศูนย์ตามที่ตั้งใจไว้

    ---------------------------------------------------------------------

    มโนมยิทธิเป็นเรื่องรู้ได้เฉพาะตน โปรดอย่าเชื่อในทันทีตามกฏกาลามสูตร โปรดใช้ปัญญาพิจารณาในการอ่าน
     
  3. LightSeed of Buddha เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    70
    ค่าพลัง:
    +2,492
    อนุโมทนาเช่นกันครับ ดีใจที่ได้พุทธะเพิ่มอีกหนึ่งหน่อเด้อ
     
  4. Me, myself บุคคลทั่วไป

    ค่าพลัง:
    +0
    พุทโธ อัปปมาโณ - คุณของพระพุทธเจ้าอันหาประมาณมิได้ (ต่อ)

    หลังจากกลับมาจากบวชที่ศูนย์แล้ว ก็ได้ย้ายเข้ามาบ้านใหม่ อ้อ ดิฉันเล่าข้ามไปอย่างหนึ่ง ดิฉันอัญเชิญพระเข้าบ้านก่อนค่ะ ก่อนที่จะไปศูนย์ ตอนแรกว่าจะนำพระเข้าวันศุกร์ แต่ไปๆมาๆก็กลายมาเป็นวันพฤหัสแทน พระประธานของที่บ้านจะเป็นหลวงพ่อโสธรรุ่นกระเบื้องหลังคาโบสถ์ แล้วเอาท่านวางไว้ที่โต๊ะหมู่จนองค์ท่านติดกับโต๊ะไปเลยค่ะ เคยพยายามดึงออกหลายครั้งแต่ก็ไม่เคยสำเร็จ กลัวองค์ท่านจะแตกหักเสียหายด้วย ก็เลยไว้อย่างนั้น พอวันที่นำพระเข้าบ้าน จริงๆดิฉันขึ้นไปอัญเชิญสมเด็จองค์ปฐมกับพระศาสดาไว้ก่อนแล้ว พอดิฉันนำองค์หลวงพ่อโสธรออกจากรถ แล้วเศียรของพระท่านไปโดนขอบประตูบิ่นไปหน่อยหนึ่ง ดิฉันก็จิตตก นึกโทษตัวเองว่าไม่ระวัง จะนำพระท่านเข้าบ้านก็ทำท่านเสียหายซะแล้ว แล้วทันใดนั้นสมเด็จองค์ปฐมท่านก็มา ท่านกล่าวว่า "นั่นน่ะ เป็นแค่ตัวแทน นี่ของจริงอยู่นี่ เชิญเข้าบ้านซิ" ดิฉันเลยยิ้มได้ ก็จริงของท่านค่ะ ก็เลยได้กราบอัญเชิญท่านเข้าบ้านเพื่อเป็นสิริมงคล สมเด็จองค์ปฐมและพระศาสดาท่านก็ให้พรมาค่ะ กราบเท้าพระองค์ท่านในความเมตตาด้วยค่ะ

    พอเข้ามาอยู่บ้านแล้ว ถึงได้รู้ว่าบ้านติดกันด้านขวามือเป็นร้านคาราโอเกะ ก็อึ้งไป เพราะตอนมาดูมาดูกลางวัน ไม่รู้ว่ามีร้านคาราโอเกะ ก็ต้องทำใจค่ะ ส่วนด้านซ้ายมือของบ้าน เป็นบ้านที่สร้างไม่เสร็จ ไม่มีประตู แต่มีห้องเล็กๆอยู่ด้านหน้า ส่วนอื่นเขาปิดไว้ ก็มีพวกแก๊งค์เด็กดมกาวแล้วก็ชอบลักขโมยมาสุมหัวอยู่ ดิฉันก็กลุ้มอีก บ้านตรงข้ามเป็นอะไรที่ช่วยให้ฝึกจิตได้มากเลยค่ะ แบบว่าอยู่กันเป็นครอบครัวใหญ่ คือลูกหลานโตแล้วก็ไม่ไปไหน มีครอบครัวแล้วก็ยังอาศัยอยู่ในบ้านเดียวกัน แล้วก็พูดจาภาษาดอกไม้กันทั้งบ้าน ทะเลาะกัน ด่ากัน ตีกัน แล้วก็มีหลานชายหนึ่งคนเป็นหนึ่งในแก๊งค์ดมกาวที่อยู่ข้างบ้าน

    แรกๆก็อึ้งๆไปเหมือนกัน ต้องขึ้นไปถามพระท่านข้างบนว่า

    ดิฉัน - นมัสการพระศาสดาค่ะ

    พระศาสดา - เจิรญพร

    ดิฉัน - พระศาสดาคะ ทำไมให้ลูกมาอยู่บ้านหลังนี้ละคะ

    พระศาสดา - ทำไมละ ไม่ได้ตามที่ขอเหรอ

    ดิฉัน - ก็ได้ตามที่ขอละค่ะ แต่ว่าก็กลัวๆกับเรื่องแก๊งค์ดมกาวลักขโมยนี่แหละค่ะ แล้วบ้านตรงข้ามก็ทะเลาะด่ากันทุกวันเลยเจ้าค่ะ บางทีกำลังนั่งสวดมนต์อยู่ เล่นเปิดสวนสัตว์กันซะงั้น ลากเอาบรรพบุรุษมาด้วยเจ้าค่ะ

    พระศาสดา - แผ่เมตตาให้เขาไป ไม่มีอะไรจะยิ่งใหญ่ไปกว่าการแผ่เมตตาอีกแล้ว ทุกสิ่งทุกอย่างจะสำเร็จลงได้ด้วยการแผ่เมตตา

    ดิฉัน - เจ้าค่ะ แล้วลูกก็พูดคุยกับพวกเขาดีนะคะ มีอะไรก็แบ่งปันค่ะ

    พระศาสดา - ดีแล้ว แสดงความรักต่อเพื่อนมนุษย์ด้วยกันจะทำให้เขารักและเกรงใจเรา

    ดิฉัน - เจ้าค่ะ กราบขอบพระคุณพระศาสดาเจ้าค่ะ

    ดิฉันก็แผ่เมตตาให้พวกเขาบ่อยๆนะคะ เรื่องร้านคาราโอเกะก็ทำใจไป พออยู่มาได้สักสองเดือน วันหนึ่งมีมือดีโยนระเบิดเพลิงเข้าไปในร้านคาราโอเกะค่ะ ไฟไหม้โซฟา เขาก็ช่วยกันดับทันไม่ไหม้บ้านไปด้วย แต่เจ้าของบ้านเขาไม่ยอมให้เช่าต่อค่ะ สุดท้ายร้านคาราโอเกะก็จากไป พอดิฉันรู้ก็เกิดความสงสัยว่า เป็นเพราะว่าบ้านดิฉันมีพระบรมสารีริกธาตุหรือเปล่า ของไม่ดีเลยอยู่ใกล้ไม่ได้ ด้วยความสงสัยก็เลยได้ขึ้นไปถามพระศาสดาค่ะ

    ดิฉัน - นมัสการพระศาสดาค่ะ

    พระศาสดา - เจริญพร

    ดิฉัน - ร้านคาราโอเกะโดนไฟไหม้ค่ะ เจ้าของบ้านเขาไม่ยอมให้เช่าต่อเพราะกลัวว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้อีก เป็นเพราะอะไรคะ ทำไมเขาอยู่มาตั้งนานเพิ่งมาไฟไหม้

    พระศาสดา - เพราะที่บ้านเธอมีพระบรมสารีริกธาตุอยู่ สิ่งไม่ดีทั้งปวงจะอยู่ใกล้ๆไม่ได้หรอก

    ดิฉัน - ร้านคาราโอเกะด้านขวาไปแล้ว แล้วด้านซ้ายละคะ เมื่อไหร่จะไป

    พระศาสดา - อยู่เฉยๆ เดี๋ยวเขาก็ไปเอง

    ดิฉันก็มาคิดว่า ถ้าเป็นพวกเด็กวัยรุ่นที่มาจากที่อื่นน่ะ อาจจะหายไป แต่ว่าหลานชายของบ้านตรงข้ามคงจะไปไหนไม่ได้หรอก เพราะว่าบ้านเขาอยู่ตรงข้ามแต่ว่าคนมันอยู่กันเยอะ เขาก็เลยมายึดห้องที่บ้านข้างๆนอนกับแฟนเขา ดิฉันคิดว่าก็ต้องทำใจอีกละ หลังๆเด็กวัยรุ่นก็ค่อยๆหายไป เหลือแต่หลานบ้านตรงข้ามค่ะ แต่ก็วุ่นวายพอสมควรเพราะว่าพี่น้องลูกหลานคนอื่นก็พากันมาเข้าๆออกๆกันตลอด แล้วทีนี้คืนหนึ่งดิฉันเพิ่งนอนหลับไปตอนเที่ยงคืน พอสักตีสามครึ่งก็ได้ยินเสียงอะไร ก็พยายามฟัง (ดิฉันจะเป็นคนไวต่อเสียงค่ะ) ก็มีความรู้สึกว่า เสียงมันเหมือนบ้านเราเลย แล้วทันใดนั้นก็มีเสียงระเบิดดังขึ้นมาค่ะ ดิฉันรีบลุกเลยค่ะ พร้อมทั้งได้กลิ่นควันไฟเข้ามาในห้อง รีบลงไปข้างล่างเปิดประตูบ้านออกไปดู พร้อมๆกับลูกหลานบ้านโน้นก็วิ่งออกมาเหมือนกัน ดิฉันก็ถามว่า เกิดอะไรขึ้น พวกเขาไม่ตอบค่ะ แต่วิ่งเอาน้ำไปดับไฟตรงข้างบ้านดิฉัน ดิฉันก็เลยไปดู ควันไฟเต็มไปหมดเลยค่ะ ตลอดเวลาที่กำลังดับไฟ มีเสียงฟ้าร้องคำรามตลอดเหมือนฝนจะตก แต่ก็ไม่ตก พอดับไฟหมดแล้วเสียงฟ้าร้องก็หายไปด้วย ฝนก็ไม่ตก ดิฉันคิดว่าถ้าไม่มีคนลุกมาดับไฟ ฝนคงต้องตกแน่ๆ

    พวกนั้นเขาจุดเทียนทิ้งไว้แล้วออกไปไหนกันก็ไม่ทราบค่ะ เทียนก็คงล้มไปโดนเสื่อแล้วก็ไหม้ เขาเอากระป๋องยาฉีดยุงไว้ในนั้นด้วย มันก็เลยระเบิด และนั่นทำให้พวกเราได้ยินเสียงแล้วรีบวิ่งมาดูกัน ถ้าไม่มีกระป๋องยาฉีดยุง ไฟอาจจะลามจากในห้องออกมาข้างนอก ซึ่งจะมีโซฟาเก่าๆหลายตัว มีลังไม้มากมาย มียางรถยนต์ด้วย ไม่อยากคิดเลย แต่ว่าก็ไม่ได้ไหม้ข้างนอกคงไหม้เฉพาะในห้องเล็กๆ แล้วก็ดับทัน จากเหตุการณ์ที่ทำให้ไฟไหม้ครั้งนั้นทำให้พวกนั้นไม่สามารถมาอยู่อาศัยได้อีก ทำให้ดิฉันนึกถึงคำของพระศาสดาที่ว่าให้ดิฉันอยู่เฉยๆ เดี๋ยวเขาไปเอง มันก็น่าแปลกที่สิ่งไม่ดีทั้งสองข้างบ้านอยู่ไม่ได้ แถมจากไปด้วยกรณีเดียวกันเลย คือ ไฟไหม้ เพราะอะไร ถ้าไม่ใช่เพราะคุณของพระพุทธเจ้าอันหาประมาณมิได้หรอกหรือ

    ----------------------------------------------------------------------

    มโนมยิทธิเป็นเรื่องรู้ได้เฉพาะตน โปรดอย่าเชื่อในทันทีตามกฏกาลามสูตร โปรดใช้ปัญญาพิจารณาในการอ่าน
     
  5. konkangwad เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    483
    ค่าพลัง:
    +5,910
    มาช่วยบอกบุญต่อจากคุณหนิงครับ ผมก็คิดว่าจะไปงานหล่อพระเหมือนกันครับทางวัดยังต้องสร้างอีกหลายอย่างครับ(น่าจะแทบทุกอย่างเลย)
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  6. Me, myself บุคคลทั่วไป

    ค่าพลัง:
    +0
    พุทโธ อัปปมาโณ - คุณของพระพุทธเจ้าอันหาประมาณมิได้ (ต่อ)

    บ้านที่ดิฉันมาเช่าอยู่นี่ เจ้าของเดิมรวยมากแต่ล้มละลาย แบงค์ยึดขายทอดตลาดแล้วมีบริษัทไปซื้อมาแล้วให้เช่าค่ะ เจ้าของคนใหม่นับถือศาสนาคริสต์ แรกๆเขาจะรื้อศาลพระภูมิทิ้งค่ะ แต่เจ้าของเดิมบอกว่าไปรื้อได้ไง สุดท้ายก็ไม่ได้รื้อค่ะ พระภูมิที่บ้านนี้มีอยู่หนึ่งท่าน แล้วดิฉันก็เชิญพระภูมิที่บ้านเก่าตามมาให้อยู่ด้วย ที่บ้านเก่ามีสองท่าน ก็เลยเป็นสาม แล้วก็พวกเด็กๆในสังกัดของดิฉันตามมาด้วยอีกสาม ตอนหลังได้เพิ่มมาอีกหนึ่ง ล่าสุดมีมาอีกหนึ่งค่ะ ตอนนี้เลยมีแก๊งค์เด็กเทพอยู่ห้าองค์

    บ้านเป็นบ้านเดี่ยวสองชั้น พื้นบ้านชั้นล่างปูหินอ่อน ข้างบนไม้ปาร์เก้ มีบิวอินทั้งหลัง (จนป่านนี้ยังเช็ดถูไม่ทั่วเลยค่ะ ชั้นบนๆเช็ดไม่ถึงเพราะไม่มีบันได ใครมีบันไดสูงๆมาให้ยืมหน่อยค่ะ) มีสามห้องนอน ตอนที่ดิฉันขอพระท่านว่าขอสามห้องนอนเพราะว่าจะทำห้องพระห้องหนึ่ง แต่ว่าบ้านนี้เขาทำห้องพระไว้ในห้องนอนใหญ่ค่ะ กั้นเป็นสัดส่วนห้องพระ มีมุมส่วนทำงานด้วย ดังนั้นห้องนอนอีกห้องก็เลยว่างไม่ได้ใช้ทำอะไร ก็คิดว่าเผื่อไว้มีญาติๆหรือพวกเพื่อนๆมาเยี่ยมก็นอนได้

    ดิฉันนำยันต์เกราะเพชรไปติดที่เหนือประตูหน้าบ้าน ขอบารมีพระท่านมาสงเคราะห์ตอนติด พร้อมทั้งเอาแผ่นทองที่ไปผ่านพิธีเสาร์ห้าที่วัดท่าซุงไปแปะไว้ด้วย มีร่องรอยการปิดทองของเจ้าของบ้านคนเก่า ดิฉันจึงปิดเหนือขึ้นไปค่ะ เพราะดิฉันคิดว่า แผ่นทองของดิฉันพระพุทธเจ้าท่านเป็นคนทำให้ ดังนั้นจะมาอยู่เท่าที่แผ่นทองเดิมไม่ได้ เพราะถึงพระสงฆ์จะเป็นคนมาทำการปิด แต่ว่าคุณของพระพุทธเจ้าอันหาประมาณมิได้ค่ะ ถ้าใครมาที่บ้านมาสังเกตุได้เลย

    จะว่าไปบ้านหลังนี้มันก็ใหญ่จริงๆนะคะ ดิฉันก็งงๆเหมือนกันว่า ทำไมท่านให้มาอยู่บ้านหลังใหญ่ซะขนาดนี้ แถมชีวิตก็ยังลุ่มๆดอนๆ ลำบากลำบนไปอีก เครียดเป็นประจำ จะดีก็ไม่ดี ตอนแรกคุณหนิงและพวกน้องๆก็ยุให้เปิดบ้านฝึกสอนมโนฯมาตั้งแต่วันที่ย้ายเข้าบ้านแล้ว แต่ก็ยังเฉยๆค่ะ จนสุดท้ายก็โดนน้องๆในกระทู้ที่กลับมาจากต่างประเทศมาเยี่ยม แล้วก็ขอร้อง(แกมบังคับ)ให้ช่วยฝึกมโนฯให้หน่อย ไอ้เราตอนแรกก็ว่าจะไม่ฝึก แต่ก็ต้องตกกระไดพลอยโจน จากหนึ่งคนผ่านไปเป็นสองคน เป็นสาม แล้วก็คิดว่า มันคงจะมีมาอีกแน่ๆ ทีนี้ดิฉันไม่สะดวกเนื่องจากว่าต้องพาทุกคนเดินผ่านห้องนอนไปที่ห้องพระ ดูไม่เหมาะไม่ควร มองไปเห็นห้องว่างๆ ก็รู้สึกว่าสงสัยต้องได้ทำห้องนี้เป็นทีฝึกมโนฯแน่ๆ ก็เลยพูดคุยกับคุณหนิงและน้องๆ ทุกคนก็รีบสนับสนุนทันทีเลย (ทีอย่างนี้สนับสนุนกันอย่างไวเลยนะ แหม) โทรไปขอความเห็นจาก อจ ชนะ ท่านก็ว่าก็ดี อนุโมทนาด้วย ก็เลยคิดว่าคงต้องทำ

    ตอนที่ย้ายเข้ามาบ้าน เคยคุยกับลูกไว้ว่า ถ้าเราได้อยู่บ้าน เราจะทำป้ายชื่อบ้านตามนามสกุลกัน ซึ่งอันนี้คุยกันแค่แม่ลูกไม่ได้บอกใคร ผลปรากฏว่าน้องอ้อย (abodabe) ไปชวนพี่ๆน้องๆในกลุ่มทำชื่อบ้านให้ทั้งๆที่ไม่รู้ว่าดิฉันจะทำป้ายชื่อบ้านว่ายังไง แต่น้องๆทำมาให้ตรงกับที่ดิฉันคุยไว้กับลูกเฉยเลย นั่นก็คือชื่อ "บ้านใจดี" เหตุผลของน้องๆคือ เขามีบ้านสายลมแล้ว มีบ้านสบายใจแล้ว บ้านของดิฉันก็เป็น บ้านใจดีก็แล้วกัน ฮา

    ดิฉันเองมีความคิดว่าอยากได้สมเด็จองค์ปฐม ใจจริงอยากได้เป็นองค์เลย มาไว้บูชา วันหนึ่งไปร่วมทำบุญหล่อพระที่วัดคลอง 14 ตามที่น้องกบชวนมา ที่วัดนี้น้องกบและแฟนน้องกบได้มาสร้างสมเด็จองค์ปฐมไว้ แล้วได้ถ่ายรูปไว้ด้วย แฟนน้องกบเอารูปมาให้ดิฉันเพื่ออนุโมทนา แต่น้องๆคนอื่นไม่ได้ยินที่แฟนน้องกบพูด ต่างก็ซุบซิบกันว่า "นั่นไง ดิฉันได้แล้วสมเด็จองค์ปฐม" ดิฉันก็บอกน้องๆว่า "เปล่า เขาไม่ได้ให้นะ" ดิฉันก็หันไปถามแฟนน้องกบอีกทีว่า "รูปนี่เอามาทำไมนะคะ ให้เหรอ" แฟนน้องกบก็บอกว่า "เปล่าครับ รูปนี่ไม่ได้ให้..แต่ให้ก็ได้ครับ ให้ไปเลย" สรุปได้มาจริงๆ แล้วคุณหนิงก็ขอรับอาสาเอาไปใส่กรอบให้ น้องตู่บอกว่า "พี่อยู่บ้านนี้แล้วดี อยู่ไปเถอะ พี่ดูซิ แค่พี่คิดอยากได้อะไร จะทำอะไร ทุกสิ่งทุกอย่างมันมาให้พี่เลย พี่อยู่เฉยๆไม่ต้องทำอะไรเลยเห็นไหม" นั่นซีนะ

    ---------------------------------------------------------------------

    มโนมยิทธิเป็นเรื่องรู้ได้เฉพาะตน โปรดอย่าเชื่อในทันทีตามกฏกาลามสูตร โปรดใช้ปัญญาพิจารณาในการอ่าน
     
  7. nunattja เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2007
    โพสต์:
    72
    ค่าพลัง:
    +1,035
    ขอบคุณค่ะพี่จินที่ชมว่าหุ่นดี จริงๆ อืดระยะสุดท้ายแล้วค่ะ ภาพมันเล็ก เลยดูผอม อิอิ ตอนเดินทางไปวัด ตื่นเต้นมากเลยค่ะ พอถึงวัด แล้วปลื้มใจ ดีใจจริงๆ เลยค่า ยิ้มแป้นได้ทั้งวัน
     
  8. Me, myself บุคคลทั่วไป

    ค่าพลัง:
    +0
    ตรงด้านหลังบ้านจะมีที่ดินว่างๆอยู่ ยังไม่ได้มาสร้างอะไร แล้วจะมีต้นกล้วยขึ้นอยู่สองสามต้น ใบจะยื่นมาที่บ้านดิฉัน วันแรกๆที่ย้ายเข้าบ้านแล้วทำความสะอาดบ้านจะเจอเม็ดลูกกระสุนพลาสติกสีขาวหล่นอยู่ ก็กวาดไปทิ้ง วันต่อมากวาดพื้นก็เจออีก ก็คิดว่ามันคงมีหลายเม็ดหลงอยู่ตามมุมๆมั้ง แต่พอคราวหลังกวาดอีกก็เจออีก คราวนี้ก็ดูลักษณะเม็ดไว้แล้วก็กวาดไปทิ้งแน่ๆ ชัวร์ เดินกลับมาอีกทีเจออีกแล้วไอ้เม็ดเดิมด้วย เพราะมันมีรอยบุ๋ม ก็เลยเก็บขึ้นไว้มีอยู่สองเม็ด รู้ว่าต้องมีคนทำให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้แต่ก็ไม่ได้ไปดูว่าใคร

    ตอนอาบน้ำสระผม ผมก็หลุดร่วงเป็นธรรมดาแล้วก็ไปอุดตรงร่องน้ำทิ้ง เราก็คิดว่าเดี๋ยวจะเก็บออกไปใส่ถังขยะ อาบน้ำเสร็จก็ลืม ออกไปข้างนอกจนกลับมาบ้านเดินเข้าห้องผ่านหน้าห้องน้ำก็ไม่มีอะไร พอเดินออกจากห้อง เห็นหน้าห้องน้ำมีอะไรก้อนๆอยู่ ก็เลยไปเอาไม้กวาดมากวาดดู ก็เห็นว่าเป็นเส้นผม เลยเดินเข้าไปดูในห้องน้ำตรงท่อน้ำทิ้ง ไม่มีเส้นผมเหลืออยู่เลย ก็คิดว่าใครมาแกล้งละเนี่ย ก็เอาเส้นผมไปทิ้ง แล้วก็มาถามท่านพระภูมิว่าใครทำ ท่านพระภูมิเหรอ ท่านก็ยิ้มๆ บอกว่าไม่ใช่ เราว่าแล้วใครละ ทันใดนั้นก็เห็นผู้หญิงผมยาวทัดดอกไม้ที่หู นุ่งโจงกระเบนสีเขียว ห่มสไปสีเหลืองอ่อน จิตรู้ได้ทันทีว่าเป็นแม่ตานี ก็เลยถามว่า แม่ตานีเป็นคนทำเหรอ เขาก็ว่าใช่ เราก็ว่าทำทำไม เขาก็บอกว่า ก็อยากให้รู้ อยากติดต่อด้วย อยากมาขออยู่ด้วย อยากได้บุญ เราก็ไปถามท่านพระภูมิว่า ทำไมให้เข้ามาได้ละ อย่างนี้ใครก็เข้ามาได้หมดน่ะซิ ท่านก็ว่า แม่ตานีเขาเป็นคนดี ก็เลยให้เข้ามาได้ จริงๆเราก็ไม่ใช่ว่าจะไม่ต้อนรับแม่ตานีหรอกนะ แต่แค่สงสัยว่าเข้ามาได้ไง เพราะว่าต้นกล้วยไม่ได้อยู่ในบ้านอ่ะ ก็เลยอนุญาตให้แม่ตานีมาอยู่ด้วยได้ ก็อุทิศบุญให้เป็นประจำ กลายเป็นเทพของบ้านนี้ไปอีกหนึ่ง แม่ตานีมักจะมาอยู่ที่ห้องนอน ดังนั้นประตูจะเปิดปิดเองบ่อยๆ เราเจอจนชิน

    ทีนี้อยู่มาคืนหนึ่ง เราก็นั่งดูเว็บอยู่ตรงส่วนที่ทำงาน ซึ่งมันก็ดึกแล้วแหละ แล้วก็ได้ยินเสียงประตูค่อยๆเปิดดัง แอ๊ดดดดดด เสียงเหมือนในหนังผีที่ชอบทำอ่ะ เสียงได้ใจมากกกก เราก็คิดว่า คราวนี้ใครมาเล่นอีกละ ไม่ได้กลัวนะ เจอจนชินแล้ว ก็ลุกเดินมาจะปิดประตู มองเห็นไฟห้องน้ำเปิดอยู่ก็เลยว่า เปิดไฟห้องน้ำด้วยเหรอนี่ ก็ว่าจะไปปิด เห็นลูกชายก็เลยเดินกลับมา ก็นึกว่าที่ประตูเปิดเมื่อกี้อาจจะเป็นลูกชายเข้ามาเอาอะไรในห้อง ดิฉันก็เดินกลับมา สักพักลูกชายตะโกนถามว่า "เมื่อกี้แม่ออกมาเหรอ" ก็ตอบว่าใช่ ลูกชายก็ว่า "แหม เปิดประตูซะเสียงดังน่ากลัวเชียว เข้าห้องน้ำอยู่ ไม่กล้าหันมามองเลย" ก็เลยว่า "อันนั้นอ่ะไม่ใช่ เพราะได้ยินเสียงเลยลุกมาจะปิดนี่ไง" ลูกบอกว่า "ตลกแระแม่ อย่ามาตลก" ก็เลยว่า "ตลกอะไร ไม่ได้ตลก พูดจริง" ลูกก็ว่า "อ้าว แล้วใครเปิดละเนี่ย หลอนเลย" เลยว่า แม่ตานีมั้ง วันหลังๆลูกก็มาบอกอีกว่า หลอนอีกแล้วแม่ เห็นมีมือยื่นมาข้างหลังบ้างละ แล้วเหมือนมีใครมานอนหายใจข้างๆบ้างละ ก็เลยว่าก็บอกเขาไปซิว่าอย่ามาแกล้ง กลัว ลูกก็ว่าไม่ได้กลัวหรอก เพราะรู้ว่าในบ้านมีแต่ของดีๆ แต่บางทีมันตกใจ ฮา

    เข้าใจว่าแม่ตานีไม่ค่อยชอบให้สกปรก เรื่องผมในท่อน้ำทิ้ง โดนไปสองหน ล่าสุดเมื่อสองวันก่อน ถังขยะในห้องน้ำเต็มแล้ว แฟนลูกขัดห้องน้ำแล้วก็เอาไปตั้งไว้หน้าห้องน้ำ เราก็นึกว่าจะเอาไปทิ้ง สุดท้ายเขาก็ไม่ได้เอาไปทิ้ง เอากลับเข้าไปเก็บในห้องน้ำเหมือนเดิม พอพวกนี้ไปเรียนแล้ว เราอยู่บ้านก็ทำงานบ้าน ทำอะไรไป เดินขึ้นมาข้างบนแล้วก็ลงไปข้างล่าง แล้วก็กลับขึ้นมาข้างบนอีกทีในเวลาไม่นาน คราวนี้หน้าห้องน้ำขยะในถังขยะมันออกมากระจายเต็มหน้าห้องน้ำเลย เราก็คิด เอาอีกแล้ว ก็เลยเก็บกวาดแล้วก็เอาขยะไปทิ้งที่ถังขยะนอกบ้าน แล้วก็มาเล่าให้ลูกฟังว่า เห็นเอามาวางหน้าห้องน้ำแล้วนึกว่าจะเอาไปทิ้งกัน ยังเอาเข้าไปเก็บอีก แม่ตานีเขาไม่ชอบสกปรกนะ

    แฟนลูกนี่เขาก็กลัวๆพอรู้ว่ามีอะไรบ้างในบ้าน ฮา เขาเล่าว่ามีอยู่คืนหนึ่งเดินเข้าบ้านได้ยินเสียงพระสวดมนต์ ก็มาถามลูกชายว่าได้ยินไหม วันก่อนดิฉันคุยกับแฟนลูกอยู่ข้างล่าง ลูกชายอยู่ข้างบนก็บอกว่าได้ยินเสียงเด็กคุยกันด้วย ก็คงเป็นพวกน้องเล็กแล้วก็เทพอื่นๆ บางวันดิฉันยังได้ยินเสียงเหมือนคนอาบน้ำอยู่บนห้องน้ำชั้นบนเลยตอนที่ดิฉันอยู่ข้างล่าง จะว่าไปที่บ้านนี้เทพ เทวดาเยอะ เพราะดิฉันไปขอให้ท่านพ่อเวชสุวรรณส่งบริวารมาดูแลด้วย คือเมื่อก่อนกลัวพวกแก๊งค์ดมกาว เข้ามาลักขโมย ตอนหลังท่านพ่อว่า ใครที่ไหนจะเข้าบ้านเจ้าได้ ทั้งครุฑ ทั้งนาค ทั้งเทพ เต็มไปหมด ดิฉันก็ว่า มีครุฑด้วยเหรอ แล้วก็เห็นครุฑจริงๆด้วย ท่านพ่อว่า อ้าว ก็เวลาอุทิศบุญก็เห็นให้เหล่าครุฑ นาค ไม่ใช่เหรอ ก็บอกท่านว่าใช่ ท่านก็ว่า นั่นแหละเขาก็มาช่วยดูแลไง ตอนนี้เลยมีเพียบเลย เล่าไปแล้วจะมีใครกล้ามาบ้านเราไหมเนี่ย ฮา

    -----------------------------------------------------------------------

    มโนมยิทธิเป็นเรื่องรู้ได้เฉพาะตน โปรดอย่าเชื่อในทันทีตามกฏกาลามสูตร โปรดใช้ปัญญาพิจารณาในการอ่าน
     
  9. LightSeed of Buddha เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    70
    ค่าพลัง:
    +2,492
    เช้านี้ใส่บาตรเหมือนเคย โจ๊กไก่ใส่ไส้กรอกหั่นเป้นชิ้นๆ 1 ถุง ขนมซอฟท์เค้กกล้วยหอม 1 ถุง และนมกล่อง ไงบอกบุญ อนุโมทนากันด้วยนะครับ
     
  10. nuttadet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    1,892
    ค่าพลัง:
    +6,454
    อนุโมทนาสาธุ ครับ

    ขออนุญาตินำรูป ไปกระจายข่าวบุญต่อนะครับ

    มีเพื่อนๆ สมาชิกในเวปพลังจิต ก็จะไปร่วมงานหล่อพระที่นี่เหมือนกัน
     
  11. ต้องตา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    213
    ค่าพลัง:
    +1,282
    ขออนุโมทนาสาธุกับทุกท่านครับ เรียนท่านกัลยาณมิตรทางธรรมทุกท่านเนื่องด้วยวันที่ 20 กรกฎาคม 2553นี้ผมจะบรรพชาอุปสมบท ที่วัดคงคาวง จังหวัดนครศรีธรรมราช และเข้าพรรษาที่วัดคงคาวง
    กรรมใดที่ข้าพเจ้าได้กระทำล่วงเกินต่อทุกท่าน ไม่ว่าด้วยกาย วาจา ใจ จะตั้งใจหรือไม่ตั้งใจก็ดี ข้าพเจ้าขออโหสิกรรม โปรดอโหสิกรรมให้แก่ข้าพเจ้าด้วย ผลบุญอันใดที่จะบังเกิดแก่ข้าพเจ้าขอบุญนั้นจงได้แก่ท่านกัลยาณมิตรทางธรรมทุกท่าน ขอให้ทุกท่านเจริญทางธรรมยิ่งๆขึ้นไป เพื่อผลคือพระนิพพาน ขอบคุณครับ
     
  12. Me, myself บุคคลทั่วไป

    ค่าพลัง:
    +0

    ขออนุโมทนาด้วยค่ะ และขออโหสิกรรมด้วยเช่นกันค่ะ หากว่าได้ล่วงเกินไว้ ไม่ว่าด้วยกาย วาจา ใจ จะตั้งใจหรือไม่ตั้งใจก็ตามค่ะ สาธุ
     
  13. Doughnut เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    697
    ค่าพลัง:
    +15,615
    _/\_ กราบพระบาทสมเด็จองค์ปฐม พระพุทธเจ้าทุกๆ พระองค์

    พุทโธ อัปปมาโณ - คุณของพระพุทธเจ้าอันหาประมาณมิได้


    เข้ามาขอบคุณ คุณคนข้างวัดค่ะ หนิงเขียนชื่อในแผ่นทองที่จะไปร่วมหล่อองค์พระประธานแล้วค่ะ

    อนุโมทนาบุญด้วยค่ะ


    ขออนุโมทนาบุญกับคุณต้องตาด้วยค่ะ อโหสิกรรมค่ะ

    และหนิงขออโหสิกรรมในสิ่งที่เคยพลาดพลั้งล่วงเกินคุณต้องตาด้วยค่ะ ทั้งในอดีตชาติ และปัจจุบันชาติ จะด้วยรู้ก็ดี ไม่รู้ก็ดี ระลึกได้ก็ดี ทั้งหมดทั้งมวลที่ผ่านมา หนิงขออโหสิกรรมด้วยค่ะ
     
  14. Doughnut เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    697
    ค่าพลัง:
    +15,615
    ยินดีต้อนรับสู่ธรรมะนาวาลำน้อยค่ะ น้อง '[nJY (ตั้งใจใช้ชื่อนี้หรือพิมพ์ผิดเนี่ย..ฮา.. อ่านว่ารัยอ่ะ บอกด้วยจิ)

    อนุโมทนาด้วยค่ะ ปฎิบัติธรรมมาตั้งแต่อายุ 13 ปี ปัจจุบัน 22 ปี โห.. เมื่อ 9 ปีที่แล้ว พี่หนิงยังเถิดเทิงอยู่ใต้ทะเลและแหล่งท่องเที่ยวอยู่เลยค่ะ ฮา..

    ตอนพี่อายุ 13 ยังใช้ชีวิตวัยรุ่น ที่ไม่เคยมุ่งเรื่องธรรมะ ยังเห็นเรื่องการปฎิบัติเป็นเรื่องใกล้ตัว ทำให้ปัจจุบันนี้ นึกเสียดายเวลาที่ผ่านมา มัวแต่ไร้สาระ

    แต่ที่ผ่านมาแล้วก็ให้ผ่านไปค่ะ ปัจจุบันเรา "รู้" แล้วว่าเราควรทำสิ่งใดดีกว่า อดีตย้อนกลับไปแก้ไขไม่ได้ แต่เราสามารถเลือกวางตัวเราในอนาคตที่จะมาถึงได้

    ส่วนเรื่องที่ว่า น้องได้รับการตำหนิอย่างหนักจากเบื้องบน ท่านคงไม่ได้ตำหนิหรอกค่ะ น่าจะเป็นการเตือนสติให้กลับมาปฎิบัติ ไม่ให้หลงไปในสิ่งที่ไม่ควรมากกว่า พระท่านไม่เคยตำหนิใครค่ะ

    เมื่อมาพบเจอกัณยาณมิตรในเส้นทางเดียวกันแล้ว เราเดินไปด้วยกันดีไหมค่ะ ไม่มีคำว่า ช้า หรือเร็ว ค่ะ ธรรมะเป็นสิ่งที่ถือปฏิบัติได้ตลอดเวลา

    อนุโมทนาด้วยค่ะ
     
  15. RMX เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    153
    ค่าพลัง:
    +2,666
    ขออนุโมทนาในบุญใหญ่ของคุณต้องตาด้วยนะครับ

    และ ขออโหสิกรรมด้วยครับ หากมีสิ่งใดที่เคยได้ล่วงเกินไม่ว่าจะด้วยกาย วาจา ใจ ไม่ว่าจะเป็นกรรมจากชาติภพใดที่เคยเป็นมา ขอให้กรรมทั้งหลายที่มีต่อกันจงเป็นอโหสิกรรมไปทั้งหมดทั้งสิ้นด้วยครับ
     
  16. เดือนยี่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    783
    ค่าพลัง:
    +1,378
    ขออนุโมทนาด้วยค่ะ และขออโหสิกรรมที่ได้เคยล่วงเกินคุณต้องตาไว้ ไม่ว่า จะด้วยกาย วาจา ใจ ทั้งในอดีตชาติ และปัจจุบันชาติ ด้วยนะค่ะ
     
  17. squrez เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    187
    ค่าพลัง:
    +2,987
    อนุโมทนาบุญด้วยนะครับ
    และ ขออโหสิกรรม ในกรรมที่ล่วงเกินมาแล้วทั้งหมดทั้งสิ้น ต่อคุณต้องตา
    ผมขออโหสิกรรมด้วยครับ
     
  18. LightSeed of Buddha เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    70
    ค่าพลัง:
    +2,492
    ขออโหสิกรรมกันและกัน ถ้าเราได้มีเวรต่อกันและกันครับ และขออนุโมทนาถึงซึ่งความตั้งใจนี้ ขอผลบุญที่ท่านจะได้ ส่งเสริมให้ท่านได้ดวงตาแห่งธรรม และ เจริญต่อไปในทางชีวิตนับจากนี้ครับ
     
  19. ลูกเรือ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    87
    ค่าพลัง:
    +797
    ขออนุโมทนาด้วยครับ และขออโหสิกรรมด้วยครับหากมีสิ่งใดที่เคยได้ล่วงเกินไม่ว่าจะด้วยกาย วาจา ใจ ไม่ว่าจะเป็นกรรมจากชาติภพไหนก็ตามที่เคยเป็นมา ผมขออโหสิกรรมด้วยครับ
     
  20. kkookk เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    345
    ค่าพลัง:
    +1,326
    อนุโมทนากับท่านกัปตันด้วยนะครับ....
     

แชร์หน้านี้