ไอเดียเจ๋ง ใช้ 'เทคโนโลยี' ปราม แท็กซี่ โหด หื่น...สาวๆชอบใช่ไหม !!

ในห้อง 'ข่าวทั่วไป' ตั้งกระทู้โดย titawan, 13 พฤศจิกายน 2010.

  1. titawan

    titawan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มกราคม 2008
    โพสต์:
    2,290
    ค่าพลัง:
    +5,139
    <IFRAME style="Z-INDEX: 100000; BORDER-BOTTOM: 0pt; POSITION: absolute; BORDER-LEFT: 0pt; WIDTH: 1px; HEIGHT: 1px; BORDER-TOP: 0pt; TOP: 0pt; BORDER-RIGHT: 0pt; LEFT: 0pt" id=_atssh317 src="http://s7.addthis.com/static/r07/sh27.html#"></IFRAME>
    ไอเดียเจ๋งโคตร ใช้ ' เทคโนโลยี' ปราม แท็กซี่ โหด หื่น...สาวๆ ชอบ ชิมิ !!

    <SCRIPT type=text/javascript> var omitformtags=["input", "textarea", "select"]; //var message="You may not right mouse click this page."; /* Disable Right Click */ if (navigator.appName == 'Microsoft Internet Explorer'){ function NOclickIE(e) { if (event.button == 2 || event.button == 3) { alert(message); return false; } return true; } document.onmousedown=NOclickIE; document.onmouseup=NOclickIE; window.onmousedown=NOclickIE; window.onmouseup=NOclickIE; } else { function NOclickNN(e){ if (document.layers||document.getElementById&&!document.all){ if (e.which==2||e.which==3){ //alert(message); return false; } } } if (document.layers){ document.captureEvents(Event.MOUSEDOWN); document.onmousedown=NOclickNN; } document.oncontextmenu=new Function("return false") } /* ห้ามคลุมดำ */ function disableselect(e){ for (i = 0; i < omitformtags.length; i++) if (omitformtags==(e.target.tagName.toLowerCase())) return; return false } function reEnable(){ return true; } function noSelect(){ if (typeof document.onselectstart!="undefined"){ document.onselectstart=new Function ("return false") if (document.getElementsByTagName){ tags=document.getElementsByTagName('*') for (j = 0; j < tags.length; j++){ for (i = 0; i < omitformtags.length; i++) if (tags[j].tagName.toLowerCase()==omitformtags){ tags[j].onselectstart=function(){ document.onselectstart=new Function ('return true') } tags[j].onmouseup=function(){ document.onselectstart=new Function ('return false') } } } } } else{ document.onmousedown=disableselect document.onmouseup=reEnable } } window.onload=noSelect; </SCRIPT>[​IMG]

    ถ้ามีคนบอกว่า ต่อไปนี้ สาวๆ ที่จะต้องใช้บริการรถแท็กซี่เป็นประจำ ไม่ต้องกังวลเรื่องความไม่ปลอดภัยแล้วคุณว่าไอเดียนี้น่าสนใจไหมละ...!

    ไทย รัฐออนไลน์ ได้คุยกับ นางสาวเฟื่องฟ้า เป็นศิริ อาจารย์ผู้สอนนักศึกษาในระดับมหาวิทยาลัยและกำลังศึกษาปริญญาเอกคณะสถิติ ประยุกต์ สาขาวิทยาการคอมพิวเตอร์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (NIDA) เจ้าของไอเดียป้องกันภัยจากแท็กซี่ด้วยมือถือหนึ่งเครื่องเดียว 1 ในผู้เข้ารอบรายการ “ไอเดียประเทศไทย” ที่คัดเอาความคิดเจ๋งๆ จากประชาชนทั่วประเทศมาใส่ตะแกรงร่อนให้เหลือผู้ชนะ 5 คน ในช่วงโค้งสุดท้าย เล่าว่า ภัยที่เกิดจากการใช้และให้บริการแท็กซี่เป็นภัยสังคมรายวันที่เกิดขึ้นบ่อย ครั้ง ไม่เว้นว่าจะเป็นคนขับและผู้โดยสาร เนื่องจากรถแท็กซี่นั้นมีปัจจัยที่เอื้อต่อการก่อเหตุร้าย เพราะเป็นสถานที่ที่ลับตาคน มีพื้นที่จำกัด และเคลื่อนที่ไปตามที่ต่างๆได้ ทั้งเพื่อหลบหนีและหาที่ก่อเหตุ และเมื่อเหตุร้ายเกิดขึ้นความเสียหายที่ผู้ถูกกระทำหรือผู้ที่เป็นเหยื่อได้ รับนั้น มักรุนแรง และยากที่จะกลับไปแก้ไขให้เหมือนเดิมได้ จึงได้คิดไอเดียที่นำเทคโนโลยีสารสนเทศ และเทคโนโลยีโทรคมนาคมเข้ามาช่วยเพื่อเป็นการป้องกันให้ผู้ประสบเหตุได้สื่อ สารให้บุคคลภายนอกรถแท็กซี่ได้ทราบทันทีว่า ขณะนี้มีเหตุร้ายเกิดขึ้นภายในรถแท็กซี่ โดยบุคคลภายนอกสามารถทราบได้ว่าผู้ที่ประสบเหตุคือใคร อยู่ในรถแท็กซี่ทะเบียน ยี่ห้อ สีใด รถแท็กซี่อยู่จุดใด เพื่อที่จะสามารถส่งคนเข้าไปช่วยเหลือได้ทันสถานการณ์

    คำถามก็คือถ้าจะต้องเอาไปใช้จริงๆ เทคโนโลยีวันนี้ประเทศไทยพร้อมแล้วหรือยัง .....?

    “พร้อม ค่ะ, เพียงแค่ใช้โทรศัพท์มือถือประจำตัวของแต่ละคนเป็นอุปกรณ์สำคัญในการแจ้งภัย ไปยังศูนย์ฯ โดยการบันทึกข้อมูลที่ได้จากระบบและอุปกรณ์เทคโนโลยีบางอย่างที่ติดตั้งไว้ ในรถแท็กซี่ ได้แก่เครื่อง GPS, ป้าย RFID (RFID Tag) และรหัส 2 มิติ (QR Code) สามารถอาศัยเทคโนโลยีเข้ามาช่วยได้ ถ้าทำระบบแจ้งภัยจะสามารถช่วยแก้ปัญหาภัยแท็กซี่และเป็นการใช้เทคโนโลยีที่ มีอย่างคุ้มค่า โดยเพียงแค่เราใช้เทคโนโลยีสร้างสวัสดิภาพให้เกิดขึ้นกับประชาชน”

    สำหรับวิธีการดำเนินการถ้าจะให้สัมฤทธิ์ผลนั้น เฟื่องฟ้า บอกว่า ต้องการความช่วยเหลือจากรัฐบาลเป็นอย่างมาก

    “โดย เฉพาะกระทรวงไอซีที ในประสานงานกับผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือ และให้กรมการขนส่งทางบกประสานงานกับสหกรณ์แท็กซี่ เพื่อจัดทีมงานและอุปกรณ์สำหรับการทดลอง และคัดเลือกสหกรณ์แท็กซี่สำหรับใช้เป็นกลุ่มที่เริ่มทดลอง แบบนำร่อง จากนั้นติดตั้งอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์และซอฟแวร์ RFID Reader ลงในโทรศัพท์มือถือที่ใช้ในการทดลอง และ ติดตั้งระบบ GPS, RFID Tag, และ QR Code ภายในแท็กซี่ แล้วทำการทดสอบการประสานการทำงานทั้งของเทคโนโลยีทั้งระบบกับหน่วยงานที่ เกี่ยวข้องทั้งหมด ได้แก่ ศูนย์รับแจ้งเหตุและสถานีตำรวจ ซึ่งผลที่คาดว่าจะได้รับนั้น เราได้มองทั้งระยะสั้น-ยาว ซึ่งระยะสั้นคือ ภัยอันเนื่องมาจากการใช้และให้บริการรถแท็กซี่ลดลง, ผู้ใช้และผู้ขับขี่แท็กซี่มีความมั่นใจในการใช้และให้บริการมากขึ้น ในด้านของเจ้าหน้าที่ตำรวจก็จะสามารถจับกุมและดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดได้ ง่ายและรวดเร็วขึ้น”

    ส่วนในระยะยาวนั้น หากโครงการนี้สำเร็จและสามารถปฏิบัติได้เป็นอย่างดีจะลบภาพลักษณ์ที่ติดลบ ของการให้บริการรถแท็กซี่ รวมทั้งสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้แก่ประเทศ แล้วยังเป็นโครงการที่สามารถต่อยอดและนำร่องเพื่อนำระบบนี้ไปใช้ประโยชน์กับ ยานพาหนะส่วนตัวหรือรถโดยสารสาธารณะประเภทอื่น ภายในประเทศได้” เฟื่องฟ้ากล่าวสรุป

    เทคโนโลยีก็เหมือนกับเหรียญมี 2 ด้านเสมอ นอกจากคุณจะใช้มันไปในทางไหน อย่างไรแล้ว ภาครัฐ หรือแม้กระทั่งเอกชนก็น่านำไอเดียดีๆ ไปต่อยอดได้มากมาย เพียงแค่ว่า “มีวิสัยทัศน์” หรือไม่...? เท่านั้นเอง



    ไทยรัฐออนไลน์

    • โดย ทีมข่าวไลฟ์สไตล์
    • 13 พฤศจิกายน 2553, 06:00 น.
    [​IMG]
     
  2. ผ่อนคลาย

    ผ่อนคลาย Super Moderator ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    5,774
    ค่าพลัง:
    +12,932
    น่าทำ น่าพัฒนาเพื่อความเจริญต่อไป
     

แชร์หน้านี้

Loading...