๑๗ มกราคม วันละสังขารหลวงปู่ดู่ เซฟรูปหลวงปู่พร้อมคาถาจักรพรรดิ์

ในห้อง 'แจกฟรี' ตั้งกระทู้โดย SPARTANS, 17 มกราคม 2011.

  1. SPARTANS

    SPARTANS เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    3,380
    ค่าพลัง:
    +2,986
    ขอเชิญเซฟรูปหลวงปู่พร้อมกับบทบูชาคาถามหาจักรพรรดิ์
    รวมถึงรูปหลวงปู่ที่ได้ผ่านการอธิษฐานจิตขอบารมีหลวงปู่
    สามารถอัดแล้วอาราธนาพกพาติดตัวได้เลยครับ
    พร้อมใจร่วมกันสวดคาถาเพื่อระลึกถึงคุณหลวงปู่ ทุกคืนเริ่ม
    สองทุ่มครึ่ง เป็นต้นไปครับ...

    นะโม โพธิสัตโต พรหมปัญโญ


    ประวัติ หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ วัดสะแก จ.พระนครศรีอยุธยา<O:p</O:p
    <O:p</O:p
    ชาติภูมิ<O:p</O:p
    <O:p</O:p
    หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ ท่านเกิดเมื่อวันที่ ๑0 พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๔๗ ตรงกับวันศุกร์ขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๖ ปีมะโรง เป็นวันเพ็ญวิสาขปุรณมี ณ บ้านข้าวเม่า ตำบลข้าวเม่า อำเภออุทัย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โยมบิดาชื่อ พุด โยมมารดาชื่อ พ่วง นามสกุล หนูศรี มีพี่น้องร่วมมารดาเดียวกัน ๓ คน ตัวท่านเป็นคนสุดท้อง เมื่อหลวงพ่อถือกำเนิดได้ไม่นาน มารดาของท่านก็เสียชีวิต และเมื่อท่านอายุได้ ๔ ปี บิดาของหลวงพ่อก็เสียชีวิตอีก ทำให้หลวงพ่อกำพร้าตั้งแต่วัยเยาว์ ท่านจึงได้อาศัยอยู่กับยาย และ พี่สาวชื่อ สุ่ม เป็นผู้ดูแลเอาใจใส่ เมื่อท่านถึงวัยที่ต้องศึกษา ก็ได้ศึกษาเล่าเรียนที่ วัดกลางคลองสระบัว วัดประดู่ทรงธรรม และวัดนิเวศธรรมประวัติ ตามลำดับ<O:p</O:p
    <O:p</O:p
    เมื่อตอนที่ท่านยังเป็นทารกมีเหตุอัศจรรย์ที่ทำให้เชื่อว่าท่านจะต้องเป็นผู้มีบุญวาสนามาเกิด คือในช่วงหน้าน้ำหลาก คืนหนึ่งขณะที่บิดาและมารดากำลังทำขนมอยู่นั้น มารดาท่านได้วางตัวท่านไว้บนเบาะนอกชานบ้าน แต่ไม่ทราบด้วยเหตุใดตัวท่านได้กลิ้งตกลงไปน้ำ แต่เป็นที่น่าอัศจรรย์ที่ตัวท่านกลับไม่จมน้ำ กลับลอยน้ำไปติดอยู่ข้างรั้ว กระทั่งสุนัขที่บ้านเลี้ยงไว้ มาเห็นเข้าจึงเห่าและวิ่งกลับไปกลับมา มารดาท่านจึงสงลัยว่าคงจะมีเหตุการณ์ผิดปกติ จึงได้ตามสุนัขออกมาดู ก็พบท่านลอยน้ำอยู่ติดกับข้างรั้ว<O:p</O:p
    <O:p</O:p
    อุปสมบท<O:p</O:p
    เมื่อท่านอายุได้ ๒๑ ปี ก็ได้บรรพชาอุปสมบท เมื่อวันที่ ๑0 พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๖๘ ตรงกับวันอาทิตย์แรม ๔ ค่ำ เดือน ๖ ณ อุโบสถวัดสะแก ตำบลธนู อำเภออุทัย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยมี หลวงพ่อกลั่น วัดพระญาติการาม เป็นพระอุปัชฌาย์ หลวงพ่อแด่ เจ้าอาวาสวัดสะแก เป็นพระกรรมวาจาจารย์ หลวงพ่อฉาย วัดกลางคลองสระบัว เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับ ฉายาว่า พรหมปัญโญ <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    ศึกษาธรรม<O:p</O:p
    ในพรรษาแรกๆ นั้น หลวงปู่ดู่ได้ศึกษาพระปริยัติธรรมที่วัดประดู่ทรงธรรม (ในสมัยนั้นเรียกว่าวัด ประดู่โรงธรรม) โดยศึกษากับ ท่านเจ้าคุณเนื่อง พระครูชม หลวงพ่อรอด (เสือ) เป็นต้น<O:p</O:p
    <O:p</O:p
    ในด้านการปฏิบัติ วิปัสสนากรรมฐานนั้น หลวงปู่ดู่ได้ศึกษากับหลวงพ่อกลั่น วัดพระญาติการาม ผู้เป็นพระอุปัชฌาย์ และ หลวงพ่อเภา ซึ่งเป็นศิษย์องค์สำคัญของหลวงพ่อกลั่นและมีศักดิ์เป็นอาของท่าน เมื่อท่านบวชได้พรรษาที่ ๒ ประมาณปลายปี พ.ศ. ๒๔๖๙ หลวงพ่อกลั่นก็ได้มรณภาพ ท่านจึงได้ศึกษากับหลวงพ่อเภาเป็นหลัก นอกจากนี้ยังได้ศึกษาจากตำราที่มีอยู่ จากชาดกบ้าง ธรรมบทบ้าง และด้วยความที่ท่านเป็นผู้รักการศึกษา ท่านจึงได้เดินทางไปศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมจากพระอาจารย์อีกหลายท่านที่จังหวัดสุพรรณบุรี สระบุรี ฯลฯ<O:p</O:p
    <O:p</O:p
    เมื่อพ.ศ. ๒๔๘๖ ครั้นออกพรรษาแล้ว หลวงพ่อก็ออกเดินธุดงค์จากวัดสะแก มุ่งหน้า สู่ป่าเขาแถบจังหวัดกาญจนบุรี ในระหว่างทาง ก็แวะนมัสการสถานที่สำคัญต่างๆ ทางพุทธศาสนา<O:p</O:p
    <O:p</O:p
    นิมิตธรรม<O:p</O:p
    ในคืนหนึ่ง ในช่วงก่อน ปี พ.ศ.๒๕00 เล็กน้อย หลังจากที่ท่านสวดมนต์ทำวัตรเย็นและเข้าจำวัดแล้วนั้น เกิดนิมิตไปว่าได้ฉันดาว ที่มีแสงสว่างมากเข้าไป ๓ ดวง ขณะที่ฉันนั้นรู้สึกว่า กรอบๆ ดี เมื่อฉันหมดก็ตกใจตื่น ท่านจึงได้พิจารณานิมิตที่เกิดขึ้น ก็เกิดความเข้าใจในนิมิตนั้นว่า ดาวสามดวง ก็คือ ดวงแก้วไตรสรณาคมน์ นั้นเอง ท่านจึงท่อง<O:p</O:p
    <O:p</O:p
    พุทธัง สรณัง คัจฉามิ ธัมมัง สรณัง คัจฉามิ สังฆัง สรณัง คัจฉามิ ก็เกิดปิติขึ้นในจิตท่านอย่างท่วมท้น เกิดความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง และมั่นใจว่า การยึดมั่นพระไตรสรณาคมน์เป็นวิธีที่เข้าสู่แก่นแท้ เป็นรากแก้วของพระพุทธศาสนา ท่านจึงกำหนดเอาพระไตรสรณาคมน์ เป็นองค์บริกรรมภาวนา<O:p</O:p
    <O:p</O:p
    เมตตาธรรม<O:p</O:p
    หลวงปู่ดู่ ท่านให้การต้อนรับแขกอย่างเสมอเท่าเทียมกันหมด ไม่มีการแบ่งชั้นวรรณะ ท่านจะพูดห้ามปรามหากมีผู้เสนอตัวเสนอหน้าคอยจัดแจงเกี่ยวกับแขกที่มาหาท่าน เพราะท่านทราบดีว่ามีผู้ใฝ่ธรรมจำนวนมากที่อุตสาห์เดินทางมาไกล เพื่อนมัสการและซักถามข้อธรรมจากท่าน หากมาถึงแล้งยังไม่สามารถเข้าพบได้โดยสะดวก ก็จะทำให้เสียกำลังใจ เป็นเมตตาธรรมอย่างสูงที่หลวงพ่อมีให้ศิษย์ทั้งหลาย และหากมีผู้สนใจการปฏิบัติกรรมฐาน มาหาท่าน ท่านจะเมตตาสนทนาธรรมเป็นพิเศษอย่างไม่เห็นแก่เหน็ดเหนื่อย<O:p</O:p
    <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    <O:p</O:pหลวงปู่ทวด<O:p</O:p
    <O:p</O:pท่านให้ความเคารพในองค์หลวงปู่ทวด วัดช้างไห้ เป็นอย่างมากทั้งกล่าวยกย่อง ว่าหลวงปู่ทวดท่านเป็นผู้ที่มีบารมีธรรมเต็มเปี่ยม เป็นโพธิสัตว์จะได้มาตรัสรู้ ในอนาคต ให้บรรดาลูกศิษย์ทั้งหลาย ยึดมั่น และระลึกถึง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อติดขัดในระหว่างการปฏิบัติธรรม หรือประสบปัญหาทางโลก ท่านว่า หลวงปู่ทวดท่านคอยที่จะช่วยเหลือทุกคนอยู่แล้ว แต่ขอให้ทุกคนอย่าท้อถอย หรือละทิ้งการปฏิบัติ<O:p</O:p
    <O:p</O:p
    สร้างพระ<O:p</O:p
    หลวงพ่อดู่ ท่านมิได้ตั้งตัวเป็นเกจิอาจารย์ การที่ท่านสร้าง หรืออนุญาตให้สร้างพระเครื่องหรือพระบูชา ก็เพราะเห็นว่า บุคคลจำนวนมากยังขาดที่ยึดเหนี่ยงทางด้านจิตใจ เพราะศิษย์ หรือ บุคคลนั้น มีทั้งที่ใจใฝ่ธรรมล้วนๆ กับ ยังต้องอิงกับวัตถุมงคล ท่านเคยพูดว่า ติดวัตถุมงคลยังดีกว่า ที่จะไปให้ติดวัตถุอัปมงคลแม้ว่าหลวงปู่ดู่ท่าน จะรับรองในความศักดิ์สิทธิ์ของพระเครื่องที่ท่านอธิฐานจิตให้ แต่สิ่งที่ท่านยกไว้เหนือกว่านั้นก็คือการปฏิบัติ การภาวนา นี้แหละ เป็นสุดยอดแห่งเครื่องรางของขลัง บางคนมาหาท่านเพื่อต้องการของดีเช่นเครื่องรางของขลัง ซึ่งมักจะได้รับคำตอบจากท่านว่า ของดีนั้นอยู่ที่ตัวเรา พุทธัง ธัมมัง สังฆัง นี่แหละของดี ”<O:p</O:p
    <O:p</O:p
    ปัจฉิมวาร<O:p</O:p
    นับตั้งแต่ พ.ศ. ๒๕๒๗ เป็นต้นมาสุขภาพหลวงพ่อเริ่มทรุดโทรม เนื่องการพักผ่อนที่ไม่เพียงพอ ด้วยเหตุจากการที่ต้องต้อนรับแขก และบรรดาศิษย์ทั่วทุกสารทิศ ที่นับวันก็ยิ่งหลั่งไหลกันมานมัสการท่านมากขึ้นทุกวัน แม้บางครั้งจะมีโรคมาเบียดเบียนอย่างหนัก ท่านก็อุตส่าห์ออกโปรดญาติโยมเป็นปกติ พระที่อุปัฏฐากท่าน เล่าว่า บางครั้งถึงขนาดที่ท่านต้องพยุงตัวเองขึ้นด้วยอาการสั่น และมีน้ำตาคลอเบ้า ท่านก็ไม่เคยปริปากให้ใครต้องเป็นกังวลเลย ภายหลังตรวจพบว่า หลวงพ่อ(ดู่)เป็นโรคลิ้นหัวใจรั่ว แม้ว่าทางคณะแพทย์ จะขอร้องท่านให้เข้าพักรักษาตัวที่โรงพยาบาล แต่ท่านก็ไม่ยอมไป<O:p</O:p
    <O:p</O:p
    ประมาณปลายปี พ.ศ.๒๕๓๒ หลวงปู่ดู่พูดบ่อย ครั้ง เกี่ยวกับการที่ท่านจะละสังขาร ซึ่งในขณะนั้นหลวงปู่ดู่ท่านได้ใช้หลักธรรม ขันติ คือความอดทนอดกลั้นระงับ ทุกขเวทนาที่เกิดขึ้นจากโรคภัย จิตของท่านยังทรงความเป็นปรกติสงบเย็น จนทำให้คนที่แวดล้อมท่านไม่อาจสังเกตเห็นถึงปัญหาโรคภัยที่คุกคามท่านอย่างหนัก<O:p</O:p
    <O:p</O:p
    วันอังคารที่ ๑๖ มกราคม พ.ศ. ๒๕๓๓ ช่วงเวลาบ่ายนั้น มีนายทหารอากาศผู้หนึ่งมากราบท่านเป็นครั้งแรก หลวงพ่อท่านได้ลุกขึ้นนั่งตอนรับ ด้วยใบหน้าที่สดใสราศีเปล่งปลั่งเป็นพิเศษ จนบรรดาศิษย์เห็นผิดสังเกต หลวงพ่อยินดีที่ได้พบกับศิษย์ผู้นี้ ท่านว่า ต่อไปนี้ ข้าจะได้หายเจ็บไข้เสียที คืนนั้นมีคณะศิษย์มากรายท่าน ท่านได้พูดว่า ไม่มีส่วนใดในร่างกายที่ไม่เจ็บปวดเลย ถ้าเป็นคนอื่นคงเข้าห้อง ICU ไปนานแล้ว พร้อมทั้งพูดหนักแน่นว่า ข้าจะไปแล้วนะและกล่าวปัจฉิมโอวาทย้ำให้ทุกคนตั้งอยู่ในความไม่ประมาท ถึงอย่างไรก็ขอให้อย่าได้ละทิ้งการปฏิบัติ ได้ชื่อว่าเป็นนักปฏิบัติ ก็เหมือนนักมวย ขึ้นเวทีแล้วต้องชก อย่ามัวแต่ตั้งท่า เงอะๆงะๆหลังจากคืนนั้นหลวงพ่อก็กลับเข้ากุฏิ และละสังขารไปด้วยอาการสงบด้วยโรคหัวใจ ในกุฏิท่านเมื่อเวลาประมาณ ๕นาฬิกา ของ วันพุธที่ ๑๗ มกราคมพ.ศ. ๒๕๓๓ รวมสิริอายุได้ ๘๕ ปี ๘ เดือน ๖๕ พรรษา ยังความเศร้าโศกและอาลัยแก่ศิษยานุศิษย์เป็นอย่างยิ่ง อุปมาดั่งดวงประทีปที่เคยให้ความสว่างดับไป แต่เมตตาธรรมและคำสั่งสอนของท่านยังปรากฏอยู่ในดวงใจของศิษยานุศิษย์ตลอดไป<O:p</O:p
    <O:p</O:p
    ท่านเคยกล่าวเอาไว้ว่า...<O:p</O:p
    ตราบใดก็ตาม ที่แกยังไม่เห็นความดีในตัวเอง"<O:p</O:p
    ก็ยังไม่นับว่า แกรู้จักข้า<O:p</O:p
    แต่ถ้าเมื่อใด แกเริ่มเห็นความดีในตัวเองแล้ว<O:p</O:p
    เมื่อนั้นข้าว่า แกเริ่มรู้จักข้าดีขึ้นแล้วล่ะ”<O:p</O:p
    <O:p</O:p
    "แกนึกถึงข้า ข้าก็นึกถึง แกไม่นึกถึงข้า ข้าก็ยังนึกถึงแก"<O:p</O:p
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 มกราคม 2011
  2. boy13000

    boy13000 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มกราคม 2009
    โพสต์:
    133
    ค่าพลัง:
    +176
    ขอบคุณครับ...................
     
  3. yokey_up

    yokey_up เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    139
    ค่าพลัง:
    +160
    งามมากสาธุ...
    อนุโมทนา...
    พอดีผมทำเป็นไฟล์ word สามารถโหลดได้นะครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 มกราคม 2011
  4. พลศิล

    พลศิล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 เมษายน 2009
    โพสต์:
    442
    ค่าพลัง:
    +1,265
    อนุโมทนาสาธุ

    นะโม โพธิสัตโต พรหมปัญโญ<!-- google_ad_section_end -->
     
  5. ongdai

    ongdai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    243
    ค่าพลัง:
    +346
    ขออนุโมทนาบุญครับ

    ขอให้ท่านสมหวังในสิ่งที่ปรารถนาทุกประการเทอญ.
     
  6. poomdunn

    poomdunn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    270
    ค่าพลัง:
    +380
    นะโม โพธิสัตโต พรหมปัญโญ
    ขอโมทนาบุญด้วยค่ะ สาธุ<!-- google_ad_section_end --> สาธุ สาธุ กราบแทบเท้าหลวงปู่ดู่
    นับถือเคารพหลวงปู่เป็นที่สุด<!-- google_ad_section_end --> <!-- google_ad_section_end -->
     
  7. wasin45

    wasin45 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    332
    ค่าพลัง:
    +305
    ถ้าทำเป็น โปสเตอร์ ตกแผ่นละกี่บาทครับ
     
  8. SALEEN

    SALEEN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    106
    ค่าพลัง:
    +130
    ขออนุโมทนาบุญอย่างสูงครับ
    ขออนุโมทนาบุญอย่างสูงครับ
    ขออนุโมทนาบุญอย่างสูงครับ
    ขออนุโมทนาบุญอย่างสูงครับ
    ขออนุโมทนาบุญอย่างสูงครับ
     
  9. avatar7

    avatar7 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    313
    ค่าพลัง:
    +116
    สาธุ


    สพฺพทานํ ธมฺมทานํ ชินาติ
    การให้ธรรม ย่อมชนะการให้ทั้งปวง
    สาธุ
     

แชร์หน้านี้

Loading...