๒๘ เมษายน ครบ ๖๐ ปีราชาภิเษกสมรส

ในห้อง 'จักรวาลคู่ขนาน' ตั้งกระทู้โดย nunoiyja, 28 เมษายน 2010.

  1. nunoiyja

    nunoiyja เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มกราคม 2010
    โพสต์:
    361
    ค่าพลัง:
    +1,733
    มหามงคลราชาภิเษกสมรส ครบ ๖๐ ปี
    สองพระองค์ทรงก่อเกื้อ เฟื่องฟื้นคืนงาม​

    คุณหญิงกุลทรัพย์ เกษแม่นกิจ
    คู่พระบารมีศรีสยาม งามราชกรณียกิจ สถิตถ้วนหทัยราษฎร์
    สองพระนาถราชาภิเษก เอกอดุลย์บุญญายษ สมรสสิบสิริสวัสดิ์
    ดาลสยามรัฐพิพัฒน์ผล ทวยนิกรดลสุขศานต์ ชาญปรีชาชูชน
    ทุกหนรอยพระบาท ยาตรเยือนเตือนสุขพ้อง ขจัดทุกข์อวยสุขป้อง
    ปกให้ไทยเจริญ ยิ่งแล

    เมื่อวันที่ ๒๘ เมษายน พุทธศักราช ๒๔๙๓ เป็นวันมหามงคล ซึ่งปวงชนชาวไทยต่างปลื้มปิติปราโมทย์ เนื่องด้วยเป็นวันราชาภิเษกสมรส ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช กับสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาภ พระราชพิธีในครั้งนั้นนับว่าเป็นประวัติศาตร์สำคัญที่จดจาร ไว้เมื่อ ๖๐ ปีมาแล้วเป็นคุณูปการแก่ประเทศและปวงฃนชาวไทยถ้วนหน้า
    มื่อนับกาลเวลาย้อนหลังไปสู่ ๖๐ ปีก่อน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงดำรงพระยศเป็น สมเด็จพระอนุชาธิราช ในพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล พระอัฐมราธิบดินทร ซึ่งเสด็จสู่สวรรคาลัยอย่างกะทันหัน เมื่อวันที่ ๙ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๔๘๙ ขณะทรงเจริญพระชนมายุ ๒๐ พรรษา รัฐบาลได้กราบบังคมทูลเชิญ สมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้าภูมิพลอดุลยเดช เสด็จขึ้นครองราชย์เป็นพระมหากษัตริย์ รัชกาลที่ ๙ แห่งพระบรมราชวงศ์จักรีดำรงสิริราชสมบัติสืบต่อมาในวันที่ ๙ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๔๘๙ วันเดียวกันนั้น
    เมื่อทรงรับอัญเชิญเสด็จเถลิงถวัลยราชแล้ว พระราชกิจด้านการศึกษายังมิสำเร็จลุล่วง และได้ทรงเลือกศึกษาด้านวิทยาศาสตร์มาก่อน ดังนั้น จึงจำเป็นต้องทรงศึกษาวิทยาการด้านบริหาร การปกครอง นิติศาสตร์ และรัฐศาสตร์ เพื่อประโยชน์แก่การทรงดำรงฐานะพระประมุขของประเทศ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จึงอำลาประชาชนชาวไทย เสด็จพระราชดำเนินกลับไปทรงศึกษา ณ ประเทศสวตเซอร์แลนด์ เมื่อวันที่ ๑๙ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๔๘๙
    ในเวลาต่อมา ระหว่างประทับทรงศึกษา ณ เมืองโลซานน์ ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ได้ทรงพบและคุ้นเคยกับ หม่อมราชวงศ์ศิริกิติ์ กิติยากร พระธิดาของ พลเอก พระวรวงศ์เธอ กรมหมื่อนจันทบุรีสุรนาถ (หม่อมเจ้านักขัตรมงคล กิติยากร) กับหม่อมบัวหลวง ซึ่งขณะนั้น กรมหมื่อนจันทบุรีสุรนาถ ทรงรับราชการตำแหน่งอัครราชทูต ณ สำนักเซนต์เจมส์ สหราชอาณาจักร ต่อมาทรงย้ายไปดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตประจำประเทศเดนมาร์ก และฝรั่งเศส และได้ทรงนำครอบครัวมาพำนักในยุโรปด้วย
    ในระหว่างที่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวประสบอุปัทวเหตุทางรถยนต์ เนื่องจากเสด็จพระราชดำเนินไปทอดพระเนตรโรงงานรถยนต์ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ต้องทรงพักรักษาพระองค์ในสถานพยาบาล หม่อมราชวงศ์สิริกิติ์ กิติยากร และ หม่อมราชวงวศ์บุษา กิติยากร พระธิดาของกรมหมื่นจันทบุรีสุรนาถ ได้เข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาททรงเยี่ยมพระอาการเป็นประจำ และระยะนั้น สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี เมื่อดำรงพระยศเป็น สมเด็จพระราชชนนีศรีสังวาลย์ ทรงขอให้ หม่อมราชวงศ์สิริกิติ์ กิติยากร อยู่ศึกษาในโรงเรียนประจำที่มีชื่อเสียงในการสอนวิชาพิเศษแห่งกุลสตรีในเมืองโลซานน์
     
  2. nunoiyja

    nunoiyja เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มกราคม 2010
    โพสต์:
    361
    ค่าพลัง:
    +1,733
    ต่อมาอีก ๑ ปี สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี มีรับสั่งแก่ พลเอก พระวรวงศ์เธอ กรมหมื่นจันทบุรีสุรนาถ ทรงขอหม่อมราชวงศ์สิริกิติ์ กิติยากร ให้ทรงหมั้นกับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เมื่อวันที่ ๑๙ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๔๙๒ และทรงพระกรุณาพระราชทานพระธำมรงค์องค์เดียวกับที่สมเด็จพระมหิตลาธิเบศรอดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก พระราชทานแก่ สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ครั้นถึงวันที่ ๑๒ สิงหาคม พุทธศํกราช ๒๔๙๒ โปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ประกาศหมั่นอย่างเป็นทางการ นำความปลาบปลื่มปิติมาสู่ปวงชนชาวไทยในประเทศไทยเป็นอันมาก
    เมื่อเดือนมีนาคม พุทธศักราช ๒๔๙๓ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีหมายกำหนดการเสด็จนิวัตประเทศไทย พร้อมด้วยพระคู่มั่นโดยทางเรือ และเสด็จพระราชดำเนินถึงกรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ ๒๕ มีนาคม พุทธศักราช ๒๔๙๓ ประชาชนชาวไทยมารอเฝ้าชมพระบารมีอย่างคับคั่ง
    ในการเสด็จนิวัตประเทศครั้งนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้กำหนดการ พระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรเมทรมหาอานันทมหิดล พระอัฐมรามาธิบดินทร ณ พระเมรุมาศท้องสนามหลวง เมื่อวันที่ ๒๕-๒๖ มีนาคม พุทธศํกราช ๒๔๙๓ กำหนดการพระราชพิธีพระราชพิธีราชาภิเษกสมรสในวันที่ ๒๘ เมษายน พุทธศักราช ๒๔๙๓ กำหนดการพราชพิธีบรมราชาภิเษก ตามขัตติยราชประเพณี เพื่อความเป็นพระมหากษัตริย์โดยสมบูรณ์ ระหว่างวันที่ ๓-๔-๕-๖ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๔๙๓ หลังจากนั้นได้เสด็จพระราชดำเนินกลับไปทรงศึกษาอีกครั้งหนึ่ง

    เดี๋ยวกลับบ้านมาต่อให้นะครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 เมษายน 2010
  3. nunoiyja

    nunoiyja เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มกราคม 2010
    โพสต์:
    361
    ค่าพลัง:
    +1,733
    พระราชพิธีราชาภิเษกสมรส จัดขึ้น ณ วังสระปทุม ที่ประทับของสมเด็จพระศรีสวรินทรา บรมราชเทวี พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า โดยจัดพระราชพิธีอย่างเรียบง่าย และโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้จดทะเบียนสมรสตามกฏหมายด้วย โดย นายฟื้น บุณยปรัตบุษ นายอำเภอ อำเภอปทุมวัน ได้ทูลเกล้าทูลกระหม่อมสมุดทะเบียนสมรส พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงลงพระปรมาภิไธยเป็นลำดับแรก หม่อมราชวงศ์สิริกิติ์ กิติยากร ขณะนั้นมีอายุเพียง ๑๘ ยังไม่บรรลุนิติภาวะ พลเอก พระวรวงศ์เธอ กรมหมื่นจันทบุรีสุรนาถ และหม่อมหลวงบัว พระชนกชนนี จึงต้องลงพระนามและลงนามแสดงความยินยอมตามกฏหมาย และพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ จอมพล ป.พิบูลสงคราม และพลเอก มังกร พรหมโยธี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ร่วมลงนามเป็นสักขีพยานด้วย
    ในการพระราชพิธีอันเป็นมิ่งมงคลราชาภิเษกสมรส ณ วังสระปทุมนี้ สมเด็จพระศรีสวรินทิรา บรมราชเทวี พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า ซึ่งทรงเป็นที่เคารพเทิดทูนสูงสุดของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้เสด็จออก ณ ทองพระราชพิธี พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และหม่อมราชวงศ์สิริกิติ์ ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายดอกไม้ ธูปเทียนแพ และเครื่องราชสักการะ สมเด็จพระศรีสวรินทิรา บรมราชเทวี พระพันสัสสาอัยยิกาเจ้า ทรงประพรมน้ำพระพุทธมนต์ น้ำพระเทพมนต์ และทรงเจิมพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และหม่อมราชวงศ์สิริกิติ์ กิติยากร ตามลำดับ เป็นการพระราชพิธีเรียบง่ายแต่อบอุ่นศักดิ์และเป็นมงคลอันประเสริฐ และการเลี้ยงฉลองราชาภิเษกสมรสนั้น ทรงเชิญพระบรมวงศานุวงศ์และผู้ร่วมงานเพียง ๑๒ คน นับว่าเป็นแบบอย่างของการประหยัดที่ดียิ่ง ในการนี้ ทรงพระกรุณาพระราชทานของที่ระลึกเป็น หีบบุหรี่เงินขนาดเล็ก ประดับอักษรพระปรมาภิไธย ภอ คู่กับ อักษรนาม หม่อมราชวงศ์สิริกิติ์ กิติยากร สก ด้วย

    เนื่องในพระราชพิธีราชาภิเษกสมรสนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม สถาปนา หม่อมราชวงศ์สิริกิติ์ กิติยากร เป็น สมเด็จพระบรมราชินี ทรงตำแหน่งแห่งพระอิสริยยศฐานันดรศักดิ์แห่งพระราชวงศ์ นับแต่นั้นเป็นต้นไป
    วันที่ ๕ พฤษภาคม พุทธศํกราช ๒๔๙๓ มีพระราชพิธีบรมราชาภิเษกตามโบราณขัตติยราชประเพณีแล้ว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม สถาปนา สมเด็จพระราชินี เป็น สมเด็จพระบรมราชินี
    วันที่ ๗ พฤษภาคม พุทธศํกราช ๒๔๙๓ ทั้งสองพระองค์เด็จออก สีหบัญชร ณ พระที่นั่งสุทไธสวรรย์ปราสาท พระราชทานพระราชวโรกาสให้ประชาชนเฝ้าฯ ถวายพระพร มีประชาชนพร้อมใจมาเฝ้าฯ ด้วยความจงรักภักดีอย่างเนืองแน่น เสียงโห่ร้องถวายพระพรดังกึกก้อง นับเป็นภาพประวัติศาสตร์สำคัญที่จารึกไว้ทั้งในหน้ากระดาษและจารึกไว้ในหัวใจของปวงชนชาวไทยตลอดมา
    เมื่อพุทธศํกราช ๒๔๙๙ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ประกาศเฉลิมพระอิสริยยศศักดิ์ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินี เป็น สมเด็จพระบรมราชินีนาถ เนื่องด้วยได้ทรงปฏิบัติพระราชกิจใจญานะผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ ได้เป็นที่ลุล่วงเรียบร้อย ในระหว่างที่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระราชศัทธาเสด็จฯ ไปทรงผนวชในพระบวรพุทธศาสนา

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 เมษายน 2010
  4. nunoiyja

    nunoiyja เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มกราคม 2010
    โพสต์:
    361
    ค่าพลัง:
    +1,733
    พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ มีพระราชธิดาและพระราชโอรส ๔ พระองค์ ได้แก่
    ๑. สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี ในปัจจุบันขานพระนาม ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี
    ๒. สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณ สยามมกุฎราชกุมาร
    ๓. สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา เจ้าฟ้ามหาจักรีสิรินธร รัฐสีมาคุณากร ปิยชาติ สยามบรมราชกุมารี
    ๔. สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัคราชกุมารี

    พระราชธิดาและพระราชโอรสทุกพระองค์ ได้ทรงบำเพ็ญพระราชกรณียกิจ และพระกรณียกิจเพื่อประโยชน์สุข
    ของอาณาประชาราษฎร์ เจริญรอยตามเบื้องพระยุคลบาทสมเด็จพระบรมชนกนาถ และพระบรมราชชนนี ตลอดมา
    นับแต่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงราชาภิเษกสมรส เมื่อพุทธศักราช ๒๔๙๓ ตราบจนปัจจุบัน พุทธศักราช ๒๕๕๓ เป็นระยะเวลา ๖๐ ปี ในระยะแรกหลังจากพระราชพิธีบรมราชาภิเษก และทรงราชาภิเษกสมรสแล้ว ทั้งสองพระองค์ได้เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเยี่ยมเยียนราษฎรในชนบท โดยเฉพาะในพื้นที่ห่างไกลทุรกันดาร ทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ โดยมิทรงย่อท้อ ต่อความลำบากตรากตรำพระวรกาย

    พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงเป็นคู่พระบารมี เสด็จพระราชดำเนินเคียงคู่กันไปทั่วทุกหนแห่ง ทั้งสองพระองค์ได้ทรงประจักษ์ปัญหาความยากจนขาดแคลน และความด้วยโอกาสของราษฎรส่วนใหญ่ จึงมีพระราชปณิธานที่จะทรงแก้ไขขจัดปัญหา เพื่อให้ราษฎรของพระองค์พ้นจากความทุกข์ลำเค็ญ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวโปรดทรงศึกษาด้านวิทยาศาสตร์-วิทยาศาสตร์ เมื่อเสด็จดำรงสิริราชสมบัติแล้วได้ทรงเปลี่ยนไปทรงศึกษาด้านรัฐศาสตร์ และนิติศาสตร์ เพื่อประโยฃน์แก่การทรงเป็นพระประมุขของชาติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมิได้ทรงรอบรู้เฉพาะวิชาที่ทรงศึกษา จากพระราชกรณียกิจเพื่อประโยชน์แก่อาณาประชาราษฎร์ ตลอดกาลเวลาที่ผ่านมากว่า ๖๐ ปี แสดงให้ประจักษ์ว่า ทรงพระปรีชาสามารถรอบรู้ในทุกภูมิภาคอย่างเหมาะสม เพื่อให้ราษฎรสามารถยกระดับคุณภาพชีวิตขึ้น ให้มีความสุขสมแก่อัตภาพ โดยมิทรงเลือกเชื้อชาติ ศาสนา หรือเย่าพันธุ์ พระมหากรุณธิคุณยังแผ่ปกเอื้ออำนวยประโยชน์สุขกว้างขวางไปถึงประชาชนในประเทศเพื่อบ้านด้วย
     
  5. nunoiyja

    nunoiyja เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มกราคม 2010
    โพสต์:
    361
    ค่าพลัง:
    +1,733
    ในระยะเวลาที่บ้านเมืองมีภัยจากผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระราชินีนาถ มิได้ทรงหวาดหวั่นหรือทรงท้อถอยในการที่จะทรงขจัดทุกข์ผดุงสุขแก่ราษฎร พื่อให้รอดพ้นจากจากความยากจน
    พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระราชทาน พระราชดำรัสตอบคำถามเกี่ยวกับการก่อการร้าย ว่า

    "เราไม่ได้ต่อสู้กับผู้คน แต่กำลังต่อสู่กับความหิวโหย"
    กาลเวลาได้พิสูจน์ชัดเจนว่า โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริต่าง ๆ ในการพัฒนา ซึ่งพระองค์ทรงยึดหลักใน
    การพัฒนาแบบยั่งยืน ให้ราษฎรสามารถยืนยัดพึ่งตนเองได้นั้น ล้วนเป็นผลดี ซึ่งรัฐบาลประจักษ์ว่า เป็นวิธีป้องกันและคลี่คลายปัญหาการก่อการร้ายได้ผลยั่งยืนกว่าการจัดตั้งกองกำลังทั้งทหาร ตำรวจ อาสาสมัคร ตระเวนไปในป่า และการรบปราบปรามกันด้วยอาวุธ จึงสนับสนุนโครงการตามพระราชดำริอย่างเต็มที่ ความช่วยเหลือเพื่อการพัฒนาได้หลั่งไหลเข้าสู่พื่นที่ห่างไกลทุรกันดาร ตัวอย่างเช่น จังหวัดเชียงราย จังหวัดเชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน น่าน เป็นต้น ซึ่งระหว่างพุทธศักราช ๒๔๙๕ ถึง ๒๕๒๐ โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ เพื่อการพัฒนาได้เกิดขึ้นถึง ๑๘๑ โครงการโดยเจ้าหน้าที่ของรัฐได้สนองพระราชดำริอย่างดียิ่ง และโครการได้เพิ่มพูนขึ้นอย่างรวดเร็ว กระจายไปทั่วภูมิภาค
     
  6. nunoiyja

    nunoiyja เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มกราคม 2010
    โพสต์:
    361
    ค่าพลัง:
    +1,733
    ตลอดระยะเวลา ๖๐ ปี หลังจากทรงราชาภิเษกสมรส พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระราชทานพระราชโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริเพื่อพัฒนาคนและประเทศมากกว่า ๓,๐๐๐ โครงการ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ก็ได้ทรงร่วมในการพัฒนาตั้งตามพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และพระราชดำริของพระองค์เองนับหลายร้อยโครงการ ซึ่งล้วนเป็นการแก้ไขปัญหาต่างๆ เพื่อเอื้ออำนวยให้พสกนิกรทั่วทุกภูมิภาคดำรงชีพด้วยความร่มเย็นเป็นสุขและมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นในทุกด้าน
    พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระวิริยะอุตสาหะค้นคิดวิธีพัฒนา ดิน น้ำ สภาวะแวดล้อมและธรรมชาติที่ถูกทำลายให้เสื่อมโทรมลง เช่น การตัดไม้ ทำลายป่า ทำให้เกิดปัญหาความแห้งแล้ง โปรดฯให้สร้างเขื่อน ฝาย อ่างเก็บน้ำ พระราชทานโครงการปลูกพื่ชเมืองหนาวแก่ราษฎรชาวเขา เพื่อขจัดปัญหาการย้านที่ทำกินและโก่นถางป่าลงปลูกพืชขั่วคราว ทรงคิดค้นวิธีการแก้ไขปัญหาดินพรุในภาคใต้ ซึ่งมีน้ำท่วมตลอดปี ไม่สามารถเพาะปลูกพืชพันธุ์ได้ จนพื้นดินกลับฟื้นคืนเป็นปกติ ราษฎรสามารถใช้ประกอบอาชีพได้ ทรงคิดค้นวิธีแก้ปัญหาดินเปรี้ยวดินเค็มด้วยวิธี "แกล้งดิน" เพื่อให้ผืนดินที่เสื่อมโทรมกลับคืนสู่ความอุดมสมบูรณ์ ทรงพระวิริยะอุตสาหะคิดค้น "ฝนหลวง" เพื่อให้ฝนแก่ราษฎรในพื้นที่แห้งแล้ง เพื่อช่วยมิให้พืชพันธ์ุที่เพาะปลูกเสียหาย
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 เมษายน 2010
  7. nunoiyja

    nunoiyja เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มกราคม 2010
    โพสต์:
    361
    ค่าพลัง:
    +1,733

    ขออนุโมทนาบุญกับภรรยาสุดที่รักของกระผมด้วยนะครับ สำหรับข้อความข้างล่างนี้ เจ้าหล่อนพิมพ์ช่วยครับทุกท่าน
    พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้โปรดเกล้าฯให้ก่อนตั้ง "ศูนย์ศึกษาการพัฒนา" ขึ้น ๖ แห่ง ในภูมิภาคต่างๆ เพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้การประกอบอาชีพให้เหมาะสมแก่สภาพท้องถิ่น เช่น ศูนย์ศึกษาการพัฒนาอ่าวคุ้งกระเบน ที่จังหวัดจันทบุรี เพื่อให้ราษฎรศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับการประกอบอาชีพการประมงอย่างใด้ผล เป็นต้น
    พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้พระราชทานพระราชดำริใจการสร้างเขื่อนต่างๆ เพื่อให้สามารถเก็บกักน้ำไว้สำหรับราษฎรใช้ในการเพาะปลูกและอุปโภคบริโภคอย่างเพียงพอในหน้าแล้งและยังช่วยขจัดปัญหาอุทกภัย เช่น เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ซึ่งช่วยมิให้น้ำท่วมกรุงเทพฯและเขื่อนอื่นๆ ที่ใช้พลังน้ำผลิตไฟฟ้าอันเป็นพลังงานสำคัญ ทรงค้นคิดวิธีแก้ปัญหาน้ำเน่าเสียหลากหลายวิธีการ รวมทั้งทรงคิดประดิษฐ์กังหันน้ำชัยพัฒนา เพื่อการแก้ปัญหาน้ำเสียด้วย
    พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงประจักษ์ว่า การศึกษาเป็นรากฐานของชีวิตที่มั่นคง ได้พระราชทานโครงการส่งเสริมการศึกษา เป็นจำนวนมาก เช่น มีโรงเรียนเจ้าพ่อหลวงอุปถัมภ์ เกิดขึ้นในภาคเหนือ โครงการโรงเรียนประชาสงเคราะห์ระดับประถมศึกษาและมัธยมศึกษาจำนวนมาก ทรงก่อตั้งโรงเรียนร่มเกล้าอีกหลายแห่ง พระราชทานโครงการพระดาบส เพื่อให้การศึกษาด้านอาชีวศึกษาแก่เยาวชนจากครอบครัวยากจน ทรงพระกรุณาฟื้นฟูทุนเล่าเรียนหลวงเพื่อส่งเสริมให้เยาวชนไปศึกษาที่ต่างประเทศ ทรงก่อตั้งทุนอานันทมหิดลเป็นทุนการศึกษาระดับสูงในต่างประเทศ เพี่อให้นักเรียนทุนกลับมาทำประโยชน์แก่พี่น้องประชาชนชาวไทย พระราชทานโครงการสารานุกรมไทยสำหรับเยาวชนฯ เพื่อให้ผู้ที่ไม่มีโอกาสศึกษาในระบบโรงเรียนได้ใช้ศึกษาหาความรู้

    พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงส่งเสริมการสหกรณ์ เพื่อเป็นหลักในการดำรงชีวิตร่วมกับของประชาชน ทรงคิดค้นประดิษฐ์พลังงานทดแทน คือไบโอดีเซล และแก๊สโซฮอล์ พระราชทานโครงการเกษตรทฤษฎีใหม่ เป็นการทำเกษตรแบบไร่นาสวนผสมผสาน เพื่อมิให้เกษตรกรประสบความเดือดร้อนเมื่อการเพาะปลูกพืชเดี่ยวเสียหายจากภัยธรรมชาติ ทฤษฎีใหม่ช่วยให้ครอบครัวเกษตรกรมีอาหารเพียงพอดำรงชีพ หากเหลือจึงขาย
    พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระราชทานปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง คือการดำรงชีพอย่างมีภูมิคุ้มกัน ไม่ทำสิ่งที่เกินตัวจนเกินความล้มเหลวไม่เบียดเบียนทำให้ผู้อื่นเดือดร้อน
    หลักเศรษฐกิจพอเพียงนี้ ช่วยให้ประชาชนทุกระดับที่นำไปใช้ สามารถดำรงชีพได้อย่างมีความสุขสมแก่อัตภาพ บริษัทธุรกิจการโรงแรมที่ประสบวิกฤตทางเศรษฐกิจ สามารถฟื้นฟูธุรกิจกลับสู่สภาวะปกติและกลับรุ่งเรืองก้าวหน้าได้โดยนำหลักเศรษฐกิจพอเพียงไปใช้แก้ปัญหา ตัวอย่างที่เป็นรูปธรรมคือบริษัทชุมพรคาบาน่า รวมทั้งนักธุรกิจอุตสาหกรรมซึ่งเป็นธุรกิจใหญ่ ได้ประสบผลสำเร็จโดยใช้หลักเศรษฐกิจพอเพียงในการบริหารจัดการ ดังมีตัวอย่างในหนังสือเรื่อง SUFFICIENCY ECONOMY-A new Philosophy in the Global World : 100 Interviews with Business Professionals. หนังสือนี้รวมคำสัมภาษณ์นักธุรกิจ 100 คน ซึ่งประสบผลสำเร็จยิ่งใหญ่โดยใช้หลักเศรษฐกิจพอเพียงในการดำเนินกิจการ ซึ่ง นางศิรินา ปวโรฬารวิทยา เป็นประธานโครงการจัดทำหนังสือนี้ขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 80 พรรษา
    ในด้านคมนาคม พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวก็โปรดฯให้พัฒนาเส้นทางคมนาคมทั้งในชนบทและในกรุงเทพมหานครเป็นจำนวนมาก เช่นถนนวงแหวนรัชดาภิเษก ถนนกาญจนาภิเษก ถนนเครือข่ายจตุรทิศ ถนนลอยฟ้าบรมราชชนนี และอื่น ๆ อีกมาก
    โครงการที่กล่าวมานี้ เป็นเพียงส่วนหนึ่งที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระวิริยอุตสาหะคิดค้นพระราชทานเพื่อพัฒนาราษฎรและประเทศ นำความร่มเย็นเป็นสุขมาสู่พสกนิกรของพระองค์ ในขณะเดียวกัน สมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ คู่พระบารมี ก็ทรงเป็นสตรีผู้อยู่เบื้องหลังพระราชกรณียกิจอันเป็นการทรงงานหนักของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวตลอดมา ทรงอุทิศพระองค์สนับสนุนการทรงงานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในทุกกรณีนับว่าทรงเป็นคู่บารมีโดยแท้
    นับแต่ทรงราชาภิเษกสมรสแล้ว สมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ ได้โดยเสด็จพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวไปทุกแห่งหน ทั้งในการเสด็จพระราชดำเนินไปทรงเยือนต่างประเทศและทรงเยี่ยมราษฎรในต่างจังหวัด ทรงส่งเสริมการปลูกป่าเพื่อแก้ไขปัญหาสภาวะแวดล้อมธรรมชาติเสื่อมโทรมทางดำเนินโครงการบ้านเล็กในป่าใหญ่ โครงการป่ารักน้ำ โครงการฟาร์มตัวอย่างในจังหวัดต่าง ๆ เช่น ฟาร์มตัวอย่างบ้านบาลูกา นราธิวาส ฟาร์มตัวอย่าง จังหวัดพัทลุง ฟาร์มตัวอย่างหนองหมากเฒ่า สกลนคร ฟาร์มตัวอย่างบ้านแม่ต๋ำ เชียงราย ฯลฯ โครงการธนาคารอาหารชุมชนบ้านป่าแปก บ้านปงไคร้ จังหวัดแม่ฮ่องสอน โครงการสวนป่าสิริกิติ์ โครงการราษฎรอาสาสมัครพิทักษ์ป่าเพื่อชีวิต

    สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงประกอบพระราชกรณียกิจด้านพัฒนาคุณภาพชีวิต ด้วยการทรงก่อตั้งมูลนิธิศิลปาชีพในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ซึ่งทรงฟื้นฟูงานศิลปะของชาติในทุกภูมิภาค เช่น การทอผ้าไหมมัดหมี่ ผ้าจก ผ้าแพรวา ผ้าฝ้าย เครื่องปั้นดินเผา การจักสวน การทำเครื่องเงิน ของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ดอกไม้ประดิษฐ์ ตุ๊กตาไทย การตัดเย็บเสื้อผ้า ฯลฯ ของภาคกลาง การทอเสี่อกระจูด การประดิษฐ์เรือกอและ ฯลฯ ของภาคใต้ และอื่น ๆ อีกมาก
    พระองค์ยังทรงริเริ่มโครงการส่งเสริมสภาวะแวดล้อมและธรรมชาติ เช่น โครงการคืนชีวิตสู่ธรรมชาติ ซึ่งมี 5 ประเภท คือ โครงการคืนพรรณไม้สู่ไพรพฤกษ์ โครงการคืนชีวิตกล้วยไม้ไทยสู่ไพรพฤกษ์ในพระราชดำริ โครงการอนุรักษ์กล้วยไม้พันธุ์ต่าง ๆ โครงการอนุรักษ์กล้วยไม้รองเท้านารี ศูนย์รวมพรรณไม้บ้านร่มเกล้าอันเนื่องมาจากพระราชดำริ โครงการศึกษาวิจัยรวบรวมและขยายพันธุ์ดอกดาหลา โครงการคืนสัตว์ป่าสู่ไพร โครงการอนุรักษ์พันธุ์สัตว์ป่า ภูเขียว ชัยภูมิ โครงการเพาะพันธุ์สัตว์น้ำคืนสู่ธรรมชาติทรงฟื้นฟูปลาไทย โครงการจัดตั้งวังปลา โครงการกุ้งสมเด็จ โครงการคืนสัตว์สู่ป่าชายเลน โครงการหิ่งห้อยในพระราชดำริ โครงการฟื้นฟูและอนุรักษ์ป่าทุ่งทะเลอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดกระบี่ โครงการคืนสัตว์น้ำเค็มสู่ท้องทะเล ทรงอนุรักษ์เต่าทะเล โครงการเพาะพันธุ์หอยชนิดต่าง ๆ โครงการฟื้นฟูทรัพยากรชายทะเลอันเนื่องมาจากพระราชดำริ โดยการฟื้นฟูนิเวศและการสร้างปะการังเทียม
    นอกจากนี้ยังประกอบพระราชกรณียกิจด้านความมั่นคง เช่น โครงการเพื่อความมั่นคงพื้นที่ดอยยาว ดอยผาหม่น ดอยผาจิ บ้านร่มฟ้าทอง ภูเมื่ยง ภูขัด ภูสอยดาว หมู่บ้านยามชายแดนอันเนื่องมาจากพระราชดำริ เช่นที่หมู่บ้านมะโอะโคะ บ้านปางคอง บ้านนามน ฯลฯ โครงการสถานีพัฒนาเกษตรที่ราบสูง ตามพระราชดำริ ที่จังหวัดเชียงราย เชียงใหม่ น่าน เป็นต้น
    พระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ยังมีอีกหลากหลาย มิอาจกล่าวให้ครบถ้วนได้ ชาวไทยและชาวโลกต่างสดุดีพระเกียรติคุณ และทูลเกล้าฯถวายรางวัลประกาศเกียรติคุณเป็นจำนวนมาก เช่น องค์การสหประชาชาติถวายรางวัลความสำเร็จสูงสุดในการพัฒนามนุษย์แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว องค์การยูเรกา (Eureka) ทูลเกล้าฯถวายรางวัลแก่โครงการต่าง ๆ ของทั้งสองพระองค์ เช่น โครงการฝนหลวง ทฤษฎีใหม่ โครงการศิลปาชีพ เป็นต้น อันเป็นการนำเกียรติมาสู่ประเทศไทยด้วย
    เนื่องในมงคลวาระคล้ายวันราชาภิเษกสมรสครบ 60 ปี ขออานุภาพสรรพสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งปวง อภิบาลประทานชัยมงคลให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน พระเกียรติคุณแผ่ไพศาล พระบรมราชจักรีวงศ์ดำรงยั่งยืนมั่นคง อริราชศัตรูพ่ายแพ้พระบรมเดชานุภาพ ทรงสถิตเป็นพระมิ่งขวัญร่มเกล้าชาวไทยตราบกาลนาน เทอญ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 เมษายน 2010
  8. wvichakorn

    wvichakorn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    3,662
    ค่าพลัง:
    +9,236
    ทรงพระเจริญ ทรงพระเจริญ ทรงพระเจริญ
    ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ

     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • image0055.jpg
      image0055.jpg
      ขนาดไฟล์:
      24.8 KB
      เปิดดู:
      60
    • image0066.jpg
      image0066.jpg
      ขนาดไฟล์:
      24.8 KB
      เปิดดู:
      77
    • image0011.jpg
      image0011.jpg
      ขนาดไฟล์:
      118.1 KB
      เปิดดู:
      86
    • image0022.jpg
      image0022.jpg
      ขนาดไฟล์:
      104.8 KB
      เปิดดู:
      135
    • image02020.jpg
      image02020.jpg
      ขนาดไฟล์:
      66.7 KB
      เปิดดู:
      65
    • image02121.jpg
      image02121.jpg
      ขนาดไฟล์:
      59.5 KB
      เปิดดู:
      66
  9. wvichakorn

    wvichakorn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    3,662
    ค่าพลัง:
    +9,236

    [​IMG]


    ขอเดชะพระบารมีปกเกล้าปกกระหม่อม

     
  10. nunoiyja

    nunoiyja เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มกราคม 2010
    โพสต์:
    361
    ค่าพลัง:
    +1,733
    ขอขอบคุณและขออนุโมทนาด้วยนะครับ สำหรับรูปที่นำมาลงให้ ผมอัพรูปไม่เป็น(บอกแบบไม่อายนี่แหละ) ดูแล้วน้ำตาแทบไหลมีอะไรมาจุกอยู่ที่คอก็ไม่รู้
     
  11. omio

    omio เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    1,679
    ค่าพลัง:
    +5,213
    การพระราชพิธีราชาภิเษกสมรสนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ได้พระราชทานของที่ระลึกเป็นกล่องสี่เหลี่ยมผืนผ้าคล้ายหีบบุหรี่ถมเงิน ประดับพระปรมาภิไธยย่อ ภอ. กับ พระนามาภิไธยย่อ สก. มีเครื่องหมายจักรกับตรีอยู่บนฝากล่อง หลังจากนั้น ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้มีการประกาศสถาปนาหม่อมราชวงศ์สิริกิติ์ กิติยากร เป็นสมเด็จพระราชินี คำประกาศสถาปนามีความตอนหนึ่งว่า
    " สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชฯ มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า โดยที่ได้ทรงประกอบพระราชพิธีราชาภิเษกสมรสกับหม่อมราชวงศ์สิริกิติ์ กิติยากร ถูกต้องตามกฎหมาย และราชประเพณีโดยสมบูรณ์ทุกประการแล้ว จึงมีพระบรมราชโองการดำรัสสั่งให้สถาปนาหม่อมราชวงศ์สิริกิติ์ พระอัครมเหสี เป็นสมเด็จพระราชินีสิริกิติ์ ทรงดำรงตำแหน่งพระอิสริยยศฐานันดรศักดิ์แห่งพระราชวงศ์ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้น ไป" ผู้รับสนองพระบรมราชโองการคือ นายกรัฐมนตรี ในขณะนั้น ได้แก่ จอมพลแปลก พิบูลสงคราม
    ในบ่ายวันนั้นพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนาง เจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จฯออกมหาสมาคมในพระบรมมหาราชวัง เพื่อพระราชทานพระราชวโรกาสให้พระบรมวงศานุวงศ์ ทูตานุทูตและข้าราชการ ได้เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทถวายพระพรชัยมงคล พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมขุนชัยนาทนเรนทรกราบบังคมทูลถวายพระพรแทนพระบรมวงศานุวงศ์
    ท่านผู้หญิงเกนหลง สนิทวงศ์ฯ เขียนบันทึกเหตุการณ์ตอนนี้ไว้ในหนังสือ "เป็น อยู่ คือ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ" ว่า
    " มีความตอนหนึ่งแสดงความปลาบปลื้มปีติโสมนัสในการที่ทรงเลือกสมเด็จพระราชินี สิริกิติ์ มาเป็นสมเด็จพระภรรยาเจ้า ว่า
    '... ได้ทรงพิจารณาเลือกสรรประสบผู้ที่สมควรแก่การสนองพระยุคลบาท ร่วมทุกข์ ร่วมสุข แบ่งเบาพระภาระในภายภาคหน้า... '
    เสร็จพระราชพิธีพระบรมวงศานุวงศ์เฝ้าฯถวายพระพรแล้ว สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระราชินี เสด็จฯออก ณ พระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย โดยสถานอุตราภิมุข ชาวพนักงานประโคมแตรและมโหระทึก ทหารกองเกียรติยศถวายความเคารพ แตรวงบรรเลงเพลงสรรเสริฐพระบารมี คณะรัฐมนตรี สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ข้าราชการ คณะทูตานุทูต เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท
    เมื่อสุดเสียงประโคมแล้ว สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระราชดำรัสเนื่องที่ทรงประกอบพระราชพิธี ราชาภิเษกสมรสให้ผู้มาเฝ้าฯทราบ จอมพล ป.พิบูลสงคราม นายกรัฐมนตรี เป็นผู้กราบบังคมทูลพระกรุณาแสดงความชื่นชมยินดี และถวายพระพรชัยมงคล"
    และอีกตอนหนึ่งในบันทึกเรื่องเดียวกันนี้ ท่านผู้หญิงเกนหลง สนิทวงศ์ฯ เขียนไว้ว่า
    " ตอนค่ำวันนั้น มีพระราชทานเลี้ยงบนพระตำหนักเป็นการภายในระหว่างพระญาติสนิทและข้าราช บริพารที่ใกล้ชิด มีพระบรมวงศานุวงศ์ อาทิ พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมขุนชัยนาทนเรนทร และหม่อมเอลิซาเบธ รังสิต สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอเจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา หม่อมเจ้านักขัตรมงคล และหม่อมหลวงบัว กิติยากร หม่อมเจ้ามุรธาภิเษก โสณกุล หม่อมเจ้าจักรพันธ์เพ็ญศิริ และหม่อมวิภา จักรพันธุ์ หม่อมราชวงศ์บุษบา กิติยากร พลเอก หลวงสุรณรงค์ และนางจรวย โชติกเสถียร นายแพทย์หม่อมหลวงจินดา และนางเกนหลง สนิทวงศ์ ณ อยุธยา นายสุรเทิน และหม่อมหลวงมณีรัตน์ บุนนาค
    นับเป็นการเลี้ยงในพระราชพิธีราชาภิเษกสมรสที่ง่าย เรียบ และสิ้นเปลืองน้อยที่สุดในโลก
    หลังการเลี้ยงร่วมโต๊ะเสวยแล้ว มีการฉายหนังผีเรื่อง 'Return of Frankenstein' ให้แขกชม อาจจะนับได้ว่าเป็นพระราชพิธีแบบใหม่ที่สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงค้นพบ เพื่อข่มพระขวัญเจ้าสาวให้ทรงหันเข้ามาพึ่งพระบรมโพธิสมภาร และยึดพระองค์เป็นที่พึ่งในวันบรมราชาภิเษกสมรสก็เป็นได้ ไม่มีพิธีส่งตัวเจ้าสาวตามประเพณีทั่วไป
    ทั้งสองพระองค์เสด็จฯหัวหินเป็นการส่วนพระองค์โดยรถไฟพระที่ นั่งในวันรุ่งขึ้น เสด็จฯไปประทับ ณ พระตำหนักเปี่ยมสุข พระราชวังไกลกังวล 3 วัน ตามประเพณี โปรดเกล้าฯให้ผู้ตามเสด็จฯน้อยมาก ทรงโปรดความเงียบสงบ ไม่ฟู่ฟ่าฟุ่มเฟือยโดยไร้ประโยชน์
    ตลอดระยะทางที่รถไฟผ่าน จนถึงสถานีรถไฟหัวหิน ประชาชนต่างพากันมาเฝ้าฯ อย่างเนืองแน่น ทุกดวงหน้าเบิกบานแจ่มใส ทรงโบกพระหัตถ์ บางคนที่อยู่ใกล้ก็พระราชทานพระหัตถ์ เขาก็เอามาทูนหัวด้วยความบูชา และนี่เป็นครั้งแรกที่ทั้งสองพระองค์เสด็จฯออกให้ประชาชนต่างจังหวัดได้เข้า เฝ้าฯ อย่างใกล้ชิด"
    <!--End-->

    บางส่วนจาก
    T h a i M o n a r c h y . c o m : : Long Live His Majesty The King
     
  12. nunoiyja

    nunoiyja เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มกราคม 2010
    โพสต์:
    361
    ค่าพลัง:
    +1,733
    ขอขอบคุณและอนุโมทนาด้วยครับ ที่ช่วยเสริม
    ผมกำลังหาหนังสือเก่าๆ ที่ลงบทสัมภาษณ์(เขียนผิดขออภัยด้วย)ของสมเด็จพระนางเจ้าเกี่ยวกับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
    อ่านแล้วบางบทน้ำตาแทบไหล ยกมาตอนหนึ่งที่ำจำได้(แต่ข้อความไม่ตรงทุกประโยคนะครับ เอาประมาณใจความนะ) เช่น ราษฎรใน จ.สามชายแดนได้มาขอเฝ้าแล้วกราบทูลว่า ขออย่าให้ทหารออกจากหมู่บ้านนี้ เพราะถ้าทหารออกจากหมู่บ้านแล้วคงต้องตายทั้งหมู่บ้าน สาเหตุเพราะชาวบ้านได้บอกข้อมูลของพวก ขจก. ให้แก่ทางราชการ ถ้าทหารออกจากหมู่บ้านนี้แล้วไซร้ คงไม่แคล้วถูกฆ่ายกหมู่บ้าน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวก็รับสั่งกับ นายทหารที่มีหน้าที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ ว่าอย่าพึ่งถอนกำลังออกเลยสงสารชาวบ้าน (จำไม่ได้ว่านายทหารตอบว่าอย่างไร) แต่ก็มีคำสั่งให้ถอนกองกำลังออกจากหมู่บ้าน ไม่ต้องเดาครับ ไม่เกิน ๓ วันที่ทหารได้ถอนกำลังออก ..........ยกหมู่บ้าน
    อ่านแล้วผมเศร้ามาก ทหารของพระราชาหรือนี่ พระองค์ถึงกับรับสั่งว่า อย่า แต่กับทำ (คงเป็นเพราะนโยบายลับทางทหารที่เราๆ ท่านๆ ไม่อาจรู้) นี่เป็นเรื่องเมื่อ ๒๐-๓๐ ปีที่แล้วนะครับ ลงในหนังสือ"สกุณไทย"ไว้ผมหาเจอแล้วจะเอามาลงให้อ่านกัน บางเรื่องก็สนุกหัวเราะกับพระราชอารมณ์ขัน บางเรื่องก็เศร้าถึงก้บน้ำตาไหล อ่านแล้วก็ขอให้ทันกับอารมณ์นะครับว่า"สุข ทุกข์" มัีนมาเยือนแล้วก็จากไป ไม่ได้อยู่กับเราจีรังยังยืนเลย ผิดถูกประการใดวานผู้่รู้ตอบที ถ้าผิดก็น้อมร้ับแต่ไม่เอา
     
  13. omio

    omio เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    1,679
    ค่าพลัง:
    +5,213
    เคยมีนักข่าวสัมภาษณ์ตอนท่านเป็นพระคู่หมั้น ถ้าหาเจอแล้วจะมาโพสต์ค่ะ
     

แชร์หน้านี้

Loading...