“พลังชีวิต”มีหมดได้ ใช้ระวัง
โดย : นพ.กฤษดา ศิรามพุช, พบ.(จุฬาฯ)
กำลังกายของแต่ละคนไม่เท่ากัน แต่ก็ใช่ว่าคนที่ “ฟิตกว่า”จะชะล่าใจได้เพราะกำลังมันก็มีวันหมดเหมือนกัน นพ.กฤษดาแนะวิธีชาร์จพลังให้ชีวิต
ผมมีคุณน้าในวัยหกสิบกว่า เป็นสมาชิกนักวิ่งมาราธอนนานาชาติ ที่วิ่งตามหัวเมืองใหญ่ในโลกและวิ่งครั้งหนึ่งก็ตามมาตรฐานมาราธอนเขาคือราว 42 กิโลเมตรภายใน 6 ชั่วโมง เฉลี่ยแล้วคือต้องวิ่งให้ได้กิโลกว่าๆ ในสิบนาที นับว่าคุณน้าท่านนี้ยังฟิตดีอยู่มาก ขณะที่ให้บางท่านวิ่งขนาดนี้ก็เห็นจะหมอบกระแตเสียก่อน
ดังนั้นท่านจะเห็นว่ากำลังกายของแต่ละคนไม่เท่ากัน แต่ก็ใช่ว่าคนที่ “ฟิตกว่า”จะชะล่าใจได้เพราะกำลังมันก็มีวันหมดเหมือนกันและเมื่อหมดแล้วมันก็จะไปดึงเอาทุนสำรองซึ่งเป็นพลังชีวิตส่วนสำคัญที่เก็บไว้ยามสูงวัยใช้ซ่อมแซมใช้รักษาโรคให้ตัวเองได้มาจนหมด
พลังดังว่านี้เรียกว่า “พลังชีวิต” ซึ่งจะรวมถึง 2 อย่างคือ
1) พลังกาย
2) พลังสำรอง
ดังจะเห็นว่าบางท่านพอเกษียณอายุก็ป่วยหนักทันทีราวกับมีป้ายบอกวันหมดอายุ แม้เรื่องพลังชีวิตจะเป็นนามธรรมจับต้องยากแต่ท่านอาจสังเกตได้ง่ายว่ากำลังใช้พลังสำรองอยู่จนติดลบ
เช่น ในวันที่ไม่ได้นอนสักคืนหนึ่ง พอตอนกลางวันแม้ตาจะเปิดอยู่แต่หัวจะช้าไม่ว่องไวแล้วและมีโอกาสทำงานพลาดสูง จึงเห็นว่าเรื่องนี้สำคัญอยู่ไม่น้อยจึงอยากให้ท่านทราบก่อนเผลอใช้พลังชีวิตสำรองอันมีค่าไปจนหมดครับ
ใช้พลังชีวิตจนติดหนี้
ขนมปังพอหมดอายุแล้วก็มีราจับ ฉันใด ฉันนั้นร่างกายพอหมดพลังชีวิตก็จะมีโรคเข้ามาจับใช้เป็นรังนอนสบายเช่นกันเพราะตัวเราใช้พลังชีวิตต่างโลห์ปกป้องสรรพภัย โดยในคนที่พลังชีวิตเริ่ม “เหือด” จะมีสัญญาณดังนี้
1) เพลียง่าย นั่งที่ไหนเป็นหลับทุกที
2) รู้สึกวอกแวก ทำงานได้ไม่ทน
3) นอนหลับไม่สนิท
4) ไม่เจริญอาหาร กินอะไรไม่อร่อยลิ้น
5) อยากนอนอยู่ตลอด
6)ป่วยด้วยโรคธรรมดาแต่กลายเป็นหนักทุกที
วิธีชาร์จเติมพลังชีวิต
เมื่อทราบดังนี้แล้วจึงไม่อยากให้ท่านที่รักต้องโหมงานหนักโดยคิดว่าถ้าคนนั้นทำได้เราต้องทำได้บ้าง เพราะสรีรกายคนไม่เหมือนกัน บางคนมียีนที่นอนชั่วโมงเดียวก็อิ่มได้แต่คนส่วนใหญ่มียีนที่ต้องนอน
วิธีง่ายๆที่จะชาร์จพลังชีวิตใหม่คือ “เข้านอนสี่ทุ่มแล้วตื่นตามสบายให้ได้สักสัปดาห์หนึ่ง” แล้วจะรู้สึกสดชื่นขึ้นอย่างน่าอัศจรรย์ ขอให้ทำทุกครั้งที่รู้สึกว่าพลังชีวิต “เสื่อม”ลงแล้วจะรู้สึกว่ามันช่วยได้มากครับ
ส่วนใหญ่เหตุแห่งการใช้พลังชีวิตจนติดลบไปมาจากเปรียบตนกับคนอื่นนั่นคือคิดว่าทำไมเราจะทำไม่ได้บ้าง เรื่องนี้ทำให้ใจไร้สุขแม้ที่สุดจะได้ชื่อว่าเหนือกว่ามาก็ตาม
ตัวอย่างเช่น ฮิตเลอร์ขณะกำลังนั่งจมอยู่กับความพ่ายแพ้ที่ถูกยัดเยียดให้ในเบอร์ลินอาจนึกอิจฉานโปเลียน แต่นโปเลียนขณะข้ามเทือกเขาแอลป์ก็อาจอิจฉาขุนทัพฮันนิบาลชาวคาเธจที่มีเก่งกล้ามากข้ามมาได้ก่อนนาน
ส่วนฮันนิบาลเองก็อาจกำลังอิจฉาพระเจ้าอเล็กซานเดอร์ผู้พิชิตโลกว่าไม่ต้องปราชัยในที่สุดอย่างเขา พระเจ้าอเล็กซานเดอร์เองในพระอัสสาสะสุดท้ายก่อนดับจิตอาจนึกอิจฉาภิกษุในศาสนาพระสมณโคดมว่ามีความสุขสงบร่มเย็นในใจได้โดยไม่ต้องดิ้นรนเดือดร้อนไปตีเมืองไหนๆ
จะเห็นว่าความสุขที่สุดแล้วก็คือการ “ดับ” ถ้าเราไม่เปรียบกับใครได้เราอาจสุขกว่าท่านมหาบุคคลที่กล่าวมาเป็นไหนๆ
ถ้าใฝ่หาความก้าวหน้าในชีวิตลองใช้ตัวเองเป็นคู่เปรียบมวยแล้วจะรู้ว่าชีวิตก็เจริญดีได้ยิ่งกว่าคอยเปรียบกับคนอื่น
แถมยังช่วยให้ไม่ต้องใช้พลังชีวิตจนเป็นหนี้นอกระบบด้วยครับ
*นพ.กฤษดา ศิรามพุช ผู้อำนวยการศูนย์เวชศาสตร์อายุรวัฒน์นานาชาติ drkrisda@gmail.com
-----------------
bangkokbiznews.com
<!-- Begin Media Content --><script type="text/javascript">$(function() {$('#media-content').tabs();});</script>
“พลังชีวิต”มีหมดได้..ใช้ระวัง
ในห้อง 'จิตวิทยา & สุขภาพ' ตั้งกระทู้โดย NoOTa, 16 มีนาคม 2010.
-
-
อนุโมทนาครับ
สงสัยจัง
แค่เข้านอนตอน4ทุ่มแล้วตื่นตามสะบายเนียนะใช้ได้แล้ว
หน้าจะมีเหตุผมลองรับมากกว่านี้หน่อย ไม่เครียเลยอะครับ
4ทุ่มแล้วยังงัย 4ทุ่มแล้วร่างกายเกิดอะไรขึ้น 4ทุ่มสมองเป็นยังงัย
4ทุ่มพลังชีวิตเพิ่มขึ้นยังงัย สงสัยอะครับ -
แล้วคนที่อดหลับอดนอน อย่างเรา ส่งสัยพลังคงหมดแล้วแน่ๆเลย
-
ขออนุโมทนาสาธุ สาธุ สาธู ครับ
--------------------------------------------
พุทธวจนไฟล์ที่แนบมา:
-