“พิพิธภัณฑ์ฯพาณิชย์นาวี” แหล่งท่องเที่ยวมากความรู้คู่เมืองจันท์

ในห้อง 'ท่องเที่ยว - อาหารการกิน' ตั้งกระทู้โดย sithiphong, 15 กรกฎาคม 2011.

  1. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,443
    ค่าพลัง:
    +141,948
    .
    “พิพิธภัณฑ์ฯพาณิชย์นาวี” แหล่งท่องเที่ยวมากความรู้คู่เมืองจันท์


    [​IMG]

    แวะ เวียนมาเทียวเมืองจันท์อีกหน วันนี้อยากแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวที่อัดแน่นไปด้วยความรู้ และเรื่องราวประวัติศาสตร์มากมาย “พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพาณิชย์นาวี”

    ทุกครั้งที่ได้ยินคนชวนมาเที่ยวจันทบุรี ผมมักจะคิดถึงทะเล และสวนผลไม้ ก่อนเป็นอันดับแรกเสมอ แต่ที่จริงแล้วเมืองจันท์ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอีกมากมาย อย่าง พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพาณิชย์นาวี ที่วันนี้ เดลินิวส์ออนไลน์ มีโอกาสเดินทางมาพร้อมกับ สมาคมธุรกิจท่องเที่ยวภายในประเทศ และ สำนักงานส่งเสริมการท่องเที่ยวกองทัพบก เพื่อชมพิพิธภัณฑ์แห่งความภาคภูมิใจของจันทบุรีและประเทศไทยแห่งนี้

    พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพาณิชย์นาวี เกิดขึ้นจากการที่กรมศิลปากร ได้ตั้งฐานปฏิบัติการโบราณคดีใต้น้ำขึ้นที่ท่าแฉลบ และตั้งศูนย์การอนุรักษ์โบราณวัตถุใต้ทะเลขึ้นที่ ค่ายเนินวง ต.บางกจะ อ.เมือง จ.จันทบุรี ซึ่งได้มีการสำรวจทางโบราณคดีใต้น้ำพบโบราณวัตถุจากซากเรือจมในอดีตมากมาย ประกอบกับการที่กองทัพเรือสามารถตรวจจับและยึดโบราณวัตถุจากนักล่าสมบัติใต้ ทะเลชาวต่างชาติที่แอบมาลักลอบค้นหาในท้องทะเลไทยได้อยู่บ่อยครั้ง

    พอนานวันเข้าโบราณวัตถุใต้ทะเลก็มีจำนวนมากขึ้นเป็นปริมาณมากกว่าหมื่นๆชิ้น กรมศิลป์จึงดำเนินการสร้างพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพาณิชย์นาวีขึ้นในปี พ.ศ. 2537 เพื่อเป็นสถานที่รวบรวมและเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับงานทางโบราณคดีใต้น้ำ พร้อมด้วยเรื่องราวของการพาณิชย์นาวีไทยใช้พื้นที่บริเวณโบราณสถานค่ายเนิน วง ตำบลบางกะจะ เป็นสถานที่ตั้ง โดยสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ เสด็จเป็นองค์ประธานในพิธีวางศิลาฤกษ์

    พอเดินเข้ามาด้านในของพิพิธภัณฑ์แล้วจะเห็นได้ว่าที่นี่พื้นที่กว้างขวางพอ สมควร มีลักษณะเป็นอาคารแฝด 2 ชั้น ภายในมีการแบ่งห้องจัดแสดงออกเป็น 6 ห้อง ถึงจะไม่หรูหราและทันสมัยมากนัก แต่ทุกส่วนสัดภายในพิพิธภัณฑ์ถูกจัดวางไว้อย่างลงตัว สะดุดตาตั้งแต่ห้องแรก“ห้องจัดแสดงสินค้าและวิถีชีวิตชาวเรือ” ที่พอเดินเข้ามาก็จะพบกับเรือสินค้าลำมโหฬาร ตั้งตระหง่านโดดเด่นอยู่กลางห้อง

    จุดเด่นของเรือลำนี้ไม่ได้อยู่ที่ความใหญ่โตเท่านั้น แต่ผู้ร่วมเดินทางทุกคนล้วนสงสัยเหมือนผมว่าทำไมต้องมี รูปตาอยู่ด้านข้างทั้งสองฝั่ง และมีรูปยักษ์อยู่ด้านหน้าเรือด้วย ซึ่งเรื่องนี้เจ้าหน้าที่ของพิพิธภัณฑ์เล่าให้ฟังว่า ไม่ได้เป็นการวาดเล่นให้เป็นเอกลักษณ์ของเรือเฉยๆอย่างที่ผมคิด แต่ในน่านน้ำจะแบ่งประเภทเหลือด้วยตาด้านข้างของเรือ อย่างเรือที่ตาดำมองออกไปยังเบื้องหน้าคือ เรือสินค้า เรือที่มีตาดำมองเหลือบลงไปในทะเลคือเรือประมง และเรือที่มีรูปตาตัดเหลือเพียงครึ่งเดียวคือเรือโจรสลัด นับเป็นความรู้ใหม่ที่ถ้าไม่ได้มาที่นี่คงไม่ได้รู้

    เรือลำนี้มีส่วนของการจัดแสดง 2 ชั้น นักท่องเที่ยวสามารถเข้าไปในเรือเดินชมห้องต่างๆ ของเรือได้ทั้งหมด บนชั้น 2 ของเรือจะมีการจัดแสดงองค์ประกอบสำคัญๆของเรือสำเภาโบราณครบครันทั้ง ใบเรือ พังงาเรือ ลูกตะเภา รวมถึงหุ่นจำลองลูกเรือที่ทำหน้าที่ต่างๆด้วยท่าทางแข็งขัน อย่างจับกังหรือจุมโผ่ แบกหามกระสอบสิ่งของต่างๆ มีคนดึงเชือกใบเรือ มีเฒ่าเต้งมาทำหน้าที่คอยดูแลสมอเรือ และที่ดาดฟ้ามีไต้ก๋งยืนคุมคนงานอยู่อีกที ชั้นล่างเรือจัดแสดงวิถีความเป็นอยู่อย่างเรียบง่ายของชาวเรือ และโบราณวัตถุที่ขุดพบจากทะเลต่างๆ

    เสร็จจากชมและรับความรู้มากมายจากเรือสินค้าลำใหญ่แล้ว เราได้เดินทางชมรอบพิพิธภัณฑ์ต่อที่ละห้องเริ่มจาก “ห้องแนะนำปฏิบัติการโบราณคดีใต้น้ำ” ในห้องนี้จะทำให้ทุกคนรู้ว่าโบราณคดีใต้น้ำ แตกต่างจากบนบกอย่างไร พร้อมกับมีการจำลองวิถีการทำงานของนักโบราณคดีใต้น้ำมาจัดแสดงให้ชมกันอีก ด้วย จากนั้นมาต่อที่ “ห้องคลังเก็บโบราณวัตถุ” เป็นห้องที่แสดงการเก็บรักษาโบราณวัตถุภายในพิพิธภัณฑ์นับหมื่นๆชิ้น ที่ปกติพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติอื่นๆจะไม่เปิดเผยความลับ นับเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ที่ไม่ควรพลาดถ้าได้มาที่นี่

    อีก 3 ห้องที่เหลือก็มีความสำคัญและน่าชมไม่แพ้กันอย่าง “ห้องแสดงเรือและชีวิตชาวเรือ” ที่จัดแสดงเรือชนิดต่างๆไว้มากมายในรูปแบบโมเดลเรือจำลอง มีทั้ง เรือพระราชพิธี เรือรบสมัยใหม่ เรือสำเภา และเรือพื้นบ้านที่บางลำแทบหาดูไม่ได้แล้ว นอกจากนี้ยังมีซากเรือโบราณอายุประมาณ 200 ปี ขุดขึ้นมามาจากไม้ตะเคียนต้นเดียวแต่ว่ายังขุดไม่เสร็จ ซึ่งเจ้าหน้าที่เราให้ฟังว่ามีการสันนิษฐานไว้หลายทาง แต่ที่ฟังแล้วต้องขนลุกคงหนีไม่พ้นคงเป็นเรื่องอาถรรพ์ไม้ตะเคียน

    ลัดเลาะต่อมาเรื่อยๆก็มาถึง “ห้องของดีเมืองจันท์” ที่บอกเล่าประวัติศาสตร์ความเป็นมาของเมืองจันท์ และจัดแสดงของดีขึ้นชื่ออย่าง ผลไม้ พลอย เสื่อ ฯลฯ ปิดท้ายด้วย “ห้องบุคคลสำคัญ” ห้องที่รำลึก เชิดชูพระมหาวีรกรรมขององค์สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ในครั้งทำสงครามเมื่อคราวเสียกรุงศรีอยุธยา ครั้งที่ 2 เริ่มตั้งแต่เส้นทางเดินทัพเมื่อคราวมารวบรวมพลที่จันทบุรี

    อยากให้ทุกคนลองเข้ามาสัมผัสเรื่องราวดีๆที่มีอยู่ในพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ดูสัก ครั้ง เลิกคิดว่าการท่องเที่ยวพิพิธภัณฑ์ต่างๆเป็นเรื่องน่าเบื่อ แล้วจะรู้ว่าความรู้ที่เราจะได้รับกลับไปจากพิพิธภัณฑ์แต่ละแห่งนั้นมีมาก มายแค่ไหน

    พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพาณิชย์นาวี ตั้งอยู่ที่ หมู่ 8 ค่ายเนินวง ต.บางกะจะ อ.เมือง จ.จันทบุรี เปิดทำการตั้งแต่วันพุธ-วันอาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 9.00-16.00 น. สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมโทร 0 3939 1431,0 3939 1433

    ทีมเดลินิวส์ออนไลน์




    -http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&categoryId=432&contentId=151176-



    Daily News Online > โทรโข่ง > หน้าไลฟ์สไตล์ > “พิพิธภัณฑ์ฯพาณิชย์นาวี” แหล่งท่องเที่ยวมากความรู้คู่เม
     

แชร์หน้านี้

Loading...