“ พระให้หวย ” เป็นพฤติกรรมที่สมควรแล้วหรือ?

ในปัจจุบันหรือนานมาแล้วก็ตาม พระสงฆ์บางรูป มีการให้หวย ให้เลข ให้เบอร์ ทายปริศนา และท่านก็ได้รับความนิยม(สักพักหนึ่ง) เพราะการที่ท่านสามารถตอบสนองตัณหาให้กับผู้คนที่ปรารถนาตัวเลขเพื่อเอาไปซื้อหวย เสี่ยงโชค และเลขที่ท่านให้ก็ออกตามนั้น ก็เลยทำให้องค์นั้นเกิดมีชื่อเสียงขึ้นมาในไม่ช้า พระบางองค์ที่ท่านมีชื่อเสียง คนที่ไปได้เลขจากท่านแล้วถูกแต่ท่านไม่ได้บอกเลข บอกเบอร์ แต่คนๆนั้น สามารถตีความต่างๆ จากอากัปกิริยา คำพูด ต่างๆของท่าน เอาไปตีเป็นหวย เป็นเลขขึ้นมา แล้วก็กลายเป็นหาว่าท่านให้หวย แม้กระทั่งพระพุทธรูป คนที่แห่แหนกันไปเพื่อที่จะขอเลขขอเบอร์ พระพุทธรูปท่านก็อยู่ของท่านดีๆ พูดก็ไม่ได้แต่คนดวงดี กลับมาซื้อเลขซื้อเบอร์ก็ถูกหวยขึ้นมา แล้วก็หาว่าพระองค์นั้นท่านให้ นี่ละหนาที่ในพระอภิธรรมท่านว่า “จิตวิจิตร” เพราะมันปรุงแต่งไปได้ถึงขนาดนั้น ในความเป็นจริงตามกฎแห่งกรรมแล้ว นั่นเป็นเพราะบุญที่ผู้นั้นได้ส่งผลแก่เขาในขณะนั้นๆ ถึงแม้เขาไม่ได้เล่นหวย เขาอาจจะได้เงินเพราะการทำกิจการอย่างอื่นๆก็ได้ แต่โดยรวมแล้วมักคิดว่าการที่ตนได้ลาภเพราะพระพุทธรูปท่านบันดาลโชคปาฏิหาริย์ให้
พระสงฆ์เป็นลูกชาวบ้านก็ตาม มีเลือดเนื้อความรู้สึก มีความต้องการ มีสิ่งต่างๆเหมือนคนทั่วๆไปก็ตาม แต่อย่าลืมอุดมการณ์แห่งการถือบวชไปสิครับ การบวชเพื่อเข้ามาสู่ร่มเงาพระพุทธศาสนา พระมุ่งหมายการขัดเกลากิเลสในขันธสันดานให้เบาบาง ถ้าบวชเข้ามาแล้ว ไม่ทำตนให้สันโดษ ติดอยู่ในโลกธรรม มันจะต่างกันอย่างไรกับฆราวาสผู้เสพเมถุนธรรม แล้วจะเป็นผู้ทรงศีล ทรงสมาธิ และมีปัญญาที่จะรักษาพระพุทธศาสนาได้เช่นไร หากแต่เป็นตัวด้วง ตัวมอด ที่กัดแทะทำลายพระศาสนาอย่างไม่รู้ตัว แล้วก็เอาสิ่งที่ตนไม่รู้เท่าทันในธรรมวินัยนั้น เป็นแบบอย่างให้ชาวบ้านเขาเข้าใจว่าเป็นเรื่องธรรมดาๆ
การที่คนในสังคมเคยทำอะไรกันมานานๆแล้ว บางสิ่งบางอย่างเป็นสิ่งที่ไม่ดี ก็อย่าไปรักษาให้เป็นวัฒนธรรมไปเลย คนสมัยนี้เริ่มเปลี่ยนแปลงตัวเองเยอะขึ้น เข้าหาพระที่ให้ธรรมะมากขึ้น ไปปฏิบัติธรรม ไปถือศีล ฟังธรรมกันมากขึ้น ถ้าพระสงฆ์บางรูปไม่สามารถสร้างศรัทธาให้คนเกิดความเลื่อมใสในพระพุทธศาสนาแล้ว ก็อย่าตั้งตนอยู่กับทางที่พาคนให้ไปศรัทธากับอบายมุข กับสิ่งที่ผิดกฎหมาย เสื่อมทรัพย์เสียทรัพย์ อย่าเป็นผู้หนึ่งที่มีส่วนแห่งการทำลายพระพุทธศาสนาโดยอ้อมเลย

 

คำถามที่ ๑ การเล่นหวยผิดต่อกฎหมายบ้านเมืองหรือไม่ ? ถ้าผิดต่อกฎหมายบ้านเมือง ท่านผู้อ่านควรนั่งดู และสนับสนุน เพราะตรงกับความชอบใจของตนเองอย่างนั้นหรือ ? หวยนั้นคืออะไร เป็นอบายมุขมิใช่หรือครับ พระเป็นผู้ที่ต้องนำพาผู้คนให้ห่างไกลอบายมุข ห่างไกลทางแห่งความเสื่อม ไหนจึงมาสนทนากัน แลกเปลี่ยนตัวเลขกับโยมๆเขาทำไมกัน ? เป็นจุดที่ตั้งอยู่บนความเสื่อม เสื่อมต่อความดีของตน ทั้งทำลายทรัพย์สินเงินทองของผู้คนอีกด้วย

 

คำถามที่ ๒ คนที่ถูกหวยก็ตาม หรือ เจ้ามือรับแทงก็ตาม มีฝ่ายใดไม่เสียเงินหรือไม่ ? และการที่พระมีส่วนในการทำให้ผู้อื่นเสียทรัพย์นั้นสมควรเช่นไรหรือ ? ถึงแม้มันจะเป็นความพอใจของทั้งสองฝ่าย ไม่ถูกก็ไม่เป็นไร งวดหน้าแก้ตัวใหม่กระนั้นหรือ ?

 

คำถามที่ ๓ คนที่ได้เลขจากพระแล้ว งวดที่ ๑ ถูก งวดที่ ๒ ถูกอีก งวดที่ ๓ จะมีใครอดใจไม่เล่นเยอะขึ้นๆไหม ? เมื่อคนเล่นเยอะขึ้นๆ แล้วมันดันหวยไม่ออกเลขนั้น คนแทงเป็นไงกันบ้างละ โอดครวญกันไปตามๆกัน เรื่องแบบนี้มีเยอะแล้ว กิเลสมันโตขึ้นๆทุกงวด

 

คำถามที่ ๔ ในเมื่อเจ้าของผู้ให้เลข มาแจมกับเพื่อนๆในเวป แรกๆตอนที่มาให้เลขก็ไม่แสดงตัวว่ามีสถานะเป็นพระ แต่พอให้ไปให้มา เลขที่ตัวให้มันเข้าเป้าหลายครั้ง หลายหน ก็เลยแสดงตัวเองว่าเป็นพระ เป็นสมณะขึ้นมา มันหมายความว่ากระไร ทำไมต้องบอกเขาด้วยว่าตัวเองเป็นพระ พอโดนเขาต่อว่า ก็บอกว่าที่ให้ก็ใช่อยากจะดัง ...อืม.....เชื่อก็ได้ว่าไม่อยากดัง แต่ทำไมเพิ่งมาเปิดเผยตัวเองละครับพระคุณเจ้า

 

คำถามที่ ๕ การที่สนับสนุนคนให้เกิดความอยากมากขึ้น มีความหวังมากขึ้น จริงอยู่ในพระวินัยไม่มีอาบัติข้อให้หวยโดยตรง เพราะตอนที่พระพุทธองค์ทรงพระชนม์อยู่ ยังไม่มีหวย ถ้ามีหวย คงมีพระวินัยห้ามแน่ๆเลย การสนับสนุนให้คนเกิดความอยากได้ ความต้องการ มันจึงไม่ควรและไม่เหมาะสม พระแทนที่จะให้กำลังใจคนโดยการให้ธรรมะ เพื่อให้เขาไปประกอบสัมมาอาชีพอย่างแข็งขัน กลายเป็นมานั่งจ้องรอหวยกันทุกๆวันใกล้หวยออก ฆราวาสให้หวยมันเป็นเรื่องธรรมดาของคนในโลก ผมไม่เคยไปว่าเขาด้วย แต่พอเห็นพระให้หวยมันดูขัดกับเพศพรรณแห่งสมณะผู้สละเย้าเรือนออกบวช เป็นผู้มีความปรารถนาน้อย มีความต้องการน้อย วันหนึ่งๆเช้าขึ้นมา ท่านเคยลูบศีรษะของตนเองเพื่อเตือนสติตนเองหรือไม่ ว่าวันนี้ท่านไม่ใช่คนแล้ว ท่านเป็นสมณะ ธรรมที่เหมาะแก่สมณเพศอันพึงทำ พึงรักษามีอะไร ?

 

คำถามที่ ๖ อย่างที่มักจะถูกหยิบยกขึ้นมาเพื่อเป็นข้อหักล้างเหตุผลเรื่องพระให้หวยเป็นการที่สมควรแล้ว ก็คือว่า พระในสมัยก่อนๆที่มีชื่อเสียง ท่านยังให้หวย แล้วตัวพระสมัยนี้ให้หวยมันจะไปผิดอะไร ?
การที่มีชื่อเสียงก็ไม่ได้หมายความว่าท่านมีคุณธรรมที่จะปิดกั้นอบายภูมิคือเป็นพระอริยบุคคลแล้ว มีใครรู้บ้างว่าท่านมีคุณธรรมวิเศษขั้นใด แล้วเบื้องหน้าที่ท่านตายไปท่านจะไปเกิดยังภพใด ภูมิใด ถ้าท่านเป็นพระอริยเจ้าแล้วก็เป็นการดี ท่านไม่ต้องไปเกิดที่ไม่ดีๆ แต่ถ้าท่านยังไม่ได้วิมุติธรรมอย่างใดอย่างหนึ่ง ท่านก็ยังต้องไปเกิดตามกรรมของท่านต่อไป
ตัวอย่างเรื่องของ “ ตาลปุตตสูตร ” ดังแสดงแล้วที่ http://www.84000.org/tipitaka/pitaka2/v.php?B=18&A=7768&Z=7822
ว่าด้วยเรื่องของนักแสดงที่ทำให้ชาวบ้านมีความสุข ที่ได้ชมการแสดงของตน ขอยกเนื้อหาบางส่วนมาแสดงให้ท่านผู้อ่านได้อ่านดู เพื่อพิจารณาเทียบเคียงกันนะครับ
หลังจากที่ท่านตาลบุตรทูลถามพระพุทธองค์เป็นครั้งที่ ๓ แล้ว พระพุทธเจ้าทรงวิสัชชนาว่า ตรัสว่า ดูกรนายคามณี เราห้ามท่านไม่ได้แล้ว
ว่า อย่าเลยนายคามณี ขอพักข้อนี้เสียเถิด ท่านอย่าถามข้อนี้กะเราเลย แต่เราจักพยากรณ์ให้ท่าน ดูกรนายคามณี เมื่อก่อนสัตว์ทั้งหลายยังไม่ปราศจากราคะอันกิเลสเครื่องผูกคือราคะผูกไว้ นักเต้นรำรวบรวมเข้าไว้ซึ่งธรรมอันเป็นที่ตั้งแห่งความกำหนัด ในท่ามกลางสถานเต้นรำ ในท่ามกลางสถานมหรสพ แก่สัตว์เหล่านั้นมากยิ่งขึ้น เมื่อก่อนสัตว์ทั้งหลายยังไม่ปราศจากโทสะ อันกิเลสเครื่องผูกคือโทสะผูกไว้ นักเต้นรำรวบรวมเข้าไว้ซึ่งธรรมเป็นที่ตั้งแห่งโทสะ ในท่ามกลางสถานเต้นรำ ในท่ามกลางสถานมหรสพ แก่สัตว์เหล่านั้นมากยิ่งขึ้น เมื่อก่อนสัตว์ทั้งหลายยังไม่ปราศจากโมหะ อันกิเลสเครื่องผูกคือโมหะผูกไว้ นักเต้นรำย่อมรวบรวมไว้ซึ่งธรรมอันเป็นที่ตั้งแห่งโมหะ ในท่ามกลางสถานเต้นรำ ในท่ามกลางสถานมหรสพ แก่สัตว์เหล่านั้นมากยิ่งขึ้น นักเต้นรำนั้น ตนเองก็มัวเมา ประมาท ตั้งอยู่ในความประมาท เมื่อแตกกายตายไป ย่อมบังเกิดในนรกชื่อปหาสะ
อนึ่ง ถ้าเขามีความเห็นอย่างนี้ว่า นักเต้นรำคนใดทำให้คนหัวเราะ รื่นเริง ด้วยคำจริงบ้าง คำเท็จบ้าง ในท่ามกลางสถานเต้นรำ ในท่ามกลางสถานมหรสพ ผู้นั้นเมื่อแตกกายตายไป ย่อมเข้าถึงความเป็นสหายแห่งเทวดาชื่อปหาสะ ความเห็นของเขานั้นเป็นความเห็นผิด ดูกรนายคามณี ก็เราย่อมกล่าวคติสองอย่าง คือ นรกหรือกำเนิดสัตว์เดียรัจฉาน อย่างใดอย่างหนึ่ง ของบุคคลผู้มีความเห็นผิด ฯ
[๕๙๒] เมื่อพระผู้มีพระภาคตรัสอย่างนี้แล้ว พ่อบ้านนักเต้นรำนามว่า ตาลบุตร ร้องไห้สะอื้น น้ำตาไหล พระผู้มีพระภาคตรัสว่า ดูกรนายคามณี เราได้ห้ามท่านแล้วมิใช่หรือว่า อย่าเลย นายคามณี ขอพักข้อนี้เสียเถิด อย่าถามข้อนี้กะเราเลย ฯ
คามณี. ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ข้าพระองค์ไม่ได้ร้องไห้ถึงข้อที่พระผู้มีพระภาคตรัสอย่างนี้กะข้าพระองค์หรอก แต่ว่าข้าพระองค์ถูกนักเต้นรำผู้เป็นอาจารย์ และปาจารย์ก่อนๆ ล่อลวงให้หลงสิ้นกาลนานว่า นักเต้นรำคนใดทำให้คนหัวเราะ รื่นเริง ด้วยคำจริงบ้าง คำเท็จบ้าง ในท่ามกลางสถานเต้นรำ ในท่ามกลางสถานมหรสพ ผู้นั้นเมื่อแตกกายตายไป ย่อมเข้าถึงความเป็นสหายของเทวดาชื่อปหาสะ
ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ พระธรรมเทศนาของพระองค์แจ่มแจ้งยิ่งนัก ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ พระธรรมเทศนาของพระองค์แจ่มแจ้งยิ่งนัก พระผู้มีพระภาคทรงประกาศธรรมโดยอเนกปริยาย ดุจหงายของที่คว่ำ เปิดของที่ปิด บอกทางแก่คนหลงทางหรือตามประทีปในที่มืดด้วยหวังว่า คนมีจักษุจักเห็นรูป ฉะนั้น ข้าแต่พระองค์
ผู้เจริญ ข้าพระองค์นี้ขอถึงพระผู้มีพระภาคกับทั้งพระธรรมและภิกษุสงฆ์ว่าเป็นสรณะ ข้าพระองค์พึงได้บรรพชาอุปสมบท ในสำนักของพระผู้มีพระภาคนายนฏคามณีนามว่า “ ตาลบุตร ”ได้บรรพชา ได้อุปสมบทในสำนักพระผู้มีพระภาคแล้ว ท่านพระตาลบุตรอุปสมบทไม่นาน หลีกออกจากหมู่อยู่ผู้เดียว ไม่ประมาท มีความเพียร มีใจแน่วแน่ ฯลฯ ก็แลท่านพระตาลบุตรเป็นพระอรหันต์องค์หนึ่ง ในจำนวนพระอรหันต์ทั้งหลาย ฯ
ทั้งหมดนี้ก็เป็นอย่างที่ยกพระสูตรมากล่าวแสดงไว้นี่ละครับ ก็ลองพิจารณา ใคร่ครวญ ถึงเหตุ ผล ที่พระพุทธเจ้าแสดงไว้ เทียบเคียงกันดู ว่าการให้หวย เป็นคฤหัสก็ดี ฆราวาสครองเรือนก็ดี พระก็ดี จะมีที่ไปเบื้องหน้าแต่ตายเพราะกายแตกเป็นเช่นไร ???



คนที่ไม่ได้ศึกษาก็หาว่าคนที่เรียนมามาก เอาความรู้มาข่ม มาแย้ง แต่ความจริงแล้ว ผมไม่มีเจตนาเช่นนั้นครับ อยากจะสะท้อนมุมๆหนึ่ง ของความจริงในหลักธรรมให้ผู้อ่านได้รู้เพิ่มขึ้นบ้าง ถึงลักษณะความเหมาะสม และกิจที่ควร ไม่ได้มุ่งหมายในการขัดแย้งโดยไร้หลักแห่งสัจจะธรรมแต่อย่างใดเลย ธรรมะบางอย่างคนๆหนึ่งฟังแล้วก็ไม่พอใจ เกิดจิตปฏิฆะ คือโกรธเสียด้วยซ้ำ เช่นในกาลที่พระพุทธองค์ทรงโปรดแก่มาคันทิยะพราหมณ์ และครอบครัว คำๆเดียวกัน ๒ ตายายบรรลุธรรมเป็นพระอนาคามีบุคคล ส่วนนางมาคันทิยาบุตรสาวผู้มีโฉมงดงาม กลับผูกอาฆาตพยาบาท ปองร้ายพระพุทธเจ้า
ข้อเขียนนี้ก็เช่นกัน อาจสร้างความขุ่นเคืองใจให้กับบางท่าน หรือหลายๆท่าน แต่ขอนำเสนอในมุมแห่งศีลธรรมในอีกมุมมองหนึ่ง ให้ท่านผู้อ่านได้รับรู้ไว้ ในอีกแง่หนึ่งที่ถูกละเลยไป ไม่ได้มีใครใคร่ให้ความสนใจ และความสำคัญ เพราะขัดต่อความปรารถนาและความต้องการของท่าน

 

อืม..............หาคำตอบมาสิค่ะ............เหตุผลก็มี..................อยู่ที่คนคิด ถ้าคิดว่าไม่ดี ก็ไม่ดี ถ้าคิดว่าดีก็ดีค่ะ......ไก่กับไข่อะไรเกิดก่อนกัน ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น เช่นนี้...หลากหลายความคิด คุณพูดก็ถูก แต่คนอื่นที่เค้าศร้ทธาเค้าพูดก็ถูก คนเราแปลกไหม ชอบแหกกฏ....กฏหมายมีไว้ทำไม เกิดมาก็มีกฏหมายครอบตัวเองแล้ว ถามหน่อยเคยทำตามกฏหมายกันครบทุกข้อหรือป่าว มีแต่หาช่องทางหนีจากกฏหมายอ่ะ เหมือนคนขี่มอไซด์ รู้ว่าไม่ใส่หมวกแล้วอันตราย ก็ยังทำ จนกระทั่งเริ่มมีผู้รักษากฏจับนั่นละถึงหยุด แต่ยังแอบทำต่อ....การกระทำอะไรก็ตามแต่ หากไม่เดือดร้อนใคร พุทธศาสนา สอนให้เราเป็นคนดี แต่คนดี ประกอบด้วยอะไรบ้างละ ( รู้หมดไหม)ตั้งแต่มีชีวิตอยู่ยันตายไป ยังไม่รู้เลย หรือคุณรู้....ถ้ารุ้ก็มาบอกกันบ้าง (พระไม่ได้มีแค่องค์เดียว) คำว่า พระ มีทั่วโลก กรุณาใช้คำในการตั้งกระทู้ในถูกต้องค่ะ เพราะถ้าคนคิดกับพระในทางลบ ศาสนา ก็เสื่อมโดยปริยาย โดยฝีมือคนที่ไม่รู้นี่ละค่ะ หรือรู้ก็ทำ....อันนี้ผู้เขียนไม่ได้คิดหรือจะว่าอะไร แค่แสดงความคิดเห็น อยากว่าพระองค์ไหนใส่ชื่อนามสกุลไปเลยค่ะ จะได้ไม่มีใครว่าคุณว่าเล่นเหมา พระทั้งโลกมาเป็นกระทู้ 55555555 ขอบคุณที่ให้บ่น อันที่จริงกระทู้นี้ก็ไม่ได้น่าสนใจหรอก แต่เบื่อก็เลย มาพูดคุยบ้าง ไปละ

 

อืม........แกอาจจะว่างมากไปหน่อย ว่ามั๊ยคุณจุ๋ม

 

เรียนพี่จุ๋ม
จริงครับ มันจะมีกี่คนที่กล้ามาเขียนละครับ ความจริงที่คนทั่วไปยอมรับกันไม่ได้ พี่จุ๋มลองใคร่ครวญคำตอบของผมหรือท่านที่เคยมาเขียน..ชื่ออะไรอะ..พรญหรืออะไรนั่นละครับ ธรรมะ หรือวินัย ใช่คือใช่ ไม่ใช่ก็ไม่ใช่เลยนะครับ ไม่มีการเลี่ยง การแหก การยกผลประโยชน์ให้จำเลย แต่อย่างไร ผมไม่ได้มาทะเลาะกับพวกพี่นะครับ

การแหกกฎหรือไม่ปฎิบัติตามกฎกติกาของศีล มีมาตั้งแต่พระพุทธเจ้ายังไม่นิพพานเลย แม้หลวงตาสุภัททวุฑฒบรรพชิต ตอนที่พระองค์นิพพนานนั้นยังกล่าวว่าเป็นการดีแล้วที่พระองค์เสด็จเข้าสู่พระนิพพาน ท่านและภิกษุอื่นจะได้ไม่ต้องทำความเคร่งครัดในพระธรรมวินัย นั่นคือความฉิบหายอย่างหนึ่ง เป็นเหตุที่พระมหากัสสปะ ต้องทำการสังคายนาพระพุทธศาสนาเป็นครั้งที่ ๑ นะครับ

และคนที่เป็นพุทธจะต้องรู้พุทธศาสนาหมดนั้น ขอตอบว่า
นักบวชในศาสนาอื่น เขาศึกษากันเคร่งครัดกว่าบ้านเรา เมืองเรา ชาวพม่าไปฟังธรรมที่วัดแห่งหนึ่งในย่านสมุทรปราการ เป็นจำนวนหลายร้อยคน แต่ในศาลาแห่งนั้น เงียบ เหมือนไม่มีใครอยู่ เขาไม่พูดไม่คุยกัน ส่วนมุมของคนไทยเสียจุ๊กจิก แม่ครัวเขาแอบคุยกัน ผมได้ยินแม่ครัวเขาสรรเสริญคนพม่าครับ เขารู้จัก สิ่งใดควร สิ่งใดไม่ควร การทำตามใจชอบคือไทยแท้อย่างนั้นหรือ

ส่นนักบวชที่เป็นศาสนจักรอื่น หลวงพ่อท่าน ป. ปยุตฯ ท่านเคยเล่าในเทศน์ว่า พระของเขานอกจากศึกษาเรื่องในศาสนาตัวเองแล้ว ยังต้องรู้ศาสนาอื่นเพื่ออะไร รู้ว่าศาสนาอื่นเขาสอนอะไร แล้วศาสนาเราดีกว่าศาสนาอื่นไหม ดีตรงไหน?

ครับ พระมีอยู่ทั่วโลกจริง แต่พระให้หวยมีอยู่แค่ส่วนน้อยมากๆๆๆๆๆๆ แต่ดังกว่าพระที่ให้ธรรม พี่จะให้ผมเปลี่ยนเป็นอลั....ให้หวยหรือ?

ผมเหมาพระที่นอกจากให้หวยด้วยนะครับ เพศพรรณที่ท่านใส่ผ้าเหลืองจะเรียกว่าอะไร สมมุติบัญญัติ แค่ให้รู้ว่า บุคคลนี้ อย่างนี้ เรียกอย่างนี้เท่านั้น พระคือผู้ประเสริฐ บุคคลผู้ประพฤติธรรมชื่อว่า "พระ" ส่วนผู้ที่เพียงใส่ผ้าเหลืองเรียกว่าลูกชาวบ้าน แต่เปลี่ยนฟอร์ม ทุกอย่างอยู่ที่คุณธรรมภายในมิใช่หรือครับ ถ้ามีคุณธรรมก็พ้นมลทิน ถ้าไม่ถือศีล วัตรปฎิบัติให้ดี บาปก็บาปเอง ผมแค่นำเสนอเรื่องบางอย่างที่ไม่มีใครหยิบยกมา มาเขียน ไม่หวังการขัดแย้งแต่อย่างไร หากมีบัณฑิตย์ผู้มีปัญญาอ่านข้อความเหล่านี้สักคนเดียว เข้าใจจุดประสงค์ของผม ผมก็ถือว่า ผมสำเร็จประโยชน์แล้วครับ

 

ผมเป็นคนที่กล่าวสรรเสริญพระและธรรมวินัย ผมไม่ได้มาด่าพระ แต่ผมนำจุดแห่งความเหมาะสมมาเรียนชี้แจงให้ท่านผู้อ่านได้อ่านกันบ้าง ถ้าจะด่าพระผมด่าไม่เก่งเท่าพระท่านองค์นั้นหลอกครับ ผมสู้ไม่ได้ แต่ถ้าท่านผู้จะโพสก็ใช้ความเป็นผู้มีความรู้ หรือมีความเป็นธรรมสักหน่อย ด่าผมไม่เป็นไร ผมไม่ถือครับ แต่ขอบอกว่า ผมจะชี้แจง ตามเหตุตามผล ตามความรู้ที่มีเท่านั้น และมีหลักฐานตามพระธรรมในพุทธศาสนาด้วยเท่านั้น นะครับ

 

ผมเห็นด้วยกับ จขกท อย่างที่สุด และมันก็ถูกต้องแล้ว ส่วนคนที่ไม่เห็นด้วยเราก็พอจะดูออกถึงความฝักใ่ฝ่ในกิจกรรมของคนเหล่านั้น ศาสนาเสื่อมไม่เป็นไร ขอให้ตัวเองได้ผลประโยชน์ด้วยเป็นพอ คนพวกนี้น่าสงสารมาก

 

ขอบคุณค่ะที่ให้เป็นพี่ แต่จำได้ว่ามีน้องชายแค่คนเดียว 5555 ไม่ใช่ไม่มีใครกล้าพูด เพียงแต่พูดเพื่ออะไร ให้รู้เหรอ ทุกคนมีสติปัญญาพอที่จะรู้ อาจจะรู้ไม่เท่ากัน แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะศึกษาเพื่อให้รู้ไม่ได้ คนจะเก่งก็ต้องฝึกอ่ะ น่าจะฝึกเขียนนิยายนะ หาเอาธรรมะมาสอนกันดีกว่า มาตั้งกระทู้อะไรแบบนี้ กระทู้ที่ให้ความรู้มีเยอะแยะไป

 

พอเกิดเหตุร้ายก็มานั่งด่าพระ พระเลวพระไม่ดี แต่เรานี่ละเป็นผู้สนับสนุนท่านต่างหากที่ทำให้ท่านเสียหาย แต่พอเสียหายก็ดันไปด่าพระ ไม่ด่าตัวเอง

 

ขอโทษนะ นี่เป็นสิ่งที่คุณเคยกระทำมาหรือป่าว หิวละ ไปทานข้าวดีกว่า

 

พลังจิตเป็นเวปที่นำเสนอพระพุทธศาสนาเป็นส่วนมากครับ การแสดงแง่คิดหรือแสดงตามธรรม ตามความจริง แต่สิ่งนั้นมันขัดกับกิเลสเรา ก็อย่างงี้ละครับ เรียกพี่ละดีแล้วครับ ไม่งั้นเรียกป้า...ไม่ได้ๆ.... เดี๋ยวพี่จุ๋มจะฮาแตกครับ

 

กินข้าวให้อร่อยนะครับ แล้วมาคุยกันใหม่ ถ้าผมรู้จักพระองค์ไหนที่มีเกณฑ์ว่าไม่ดี พูดได้ คุยได้ผมก็ไปคุยกับท่าน ด่าพระ ว่าพระ ก็ต้องดูเจตนาครับ ผมว่า คนส่วนมากก็เป็นยังงี้ละครับ ถ้าเรารู้ข้อวัตร ปฎิบัติ เราก็เเจ้งท่าน ท่านไม่ฟังก็ลงทัณฑ์ โดยการฆ่าเสียให้ตาย คือทิ้งท่านให้อยู่ในโลกคนเดียวอย่าไปยุ่งกับท่าน อย่าไปเหลียวแลท่าน ใช่ทำลายชีวิตท่านนะครับ

 

ผมไม่ใช่พาลชน ผมไม่ใช่บัณฑิตย์ แต่ผมเป็นคนมีความคิด ถึงแม้ความคิดผมจะไม่เหมือนพี่ๆ


พระที่ป้าเจอมาเป็นอย่างนั้นหรือจ๊ะ แต่พระที่ผมเจอเป็นพระดีกว่าที่ป้าว่า เป็นพระเรียน เป็นพระทรงวินัย แสดงว่าวิบากกรรมไม่ดีเลยไปเจอเอาแบบป้าเขียน ป้าอย่าเขียนแบบนี้ดีกว่า มันเป็นบาป แค่ตัวหนังสือที่ป้าเขียนไปแต่ละตัว เกิดจากบาปอกุศลในใจมันก็บาปโขแล้วนะครับ ป้ามีธรรมะดีๆมาเขียนในกระทู้นี้ได้นะจ๊ะ

 

พระที่ท่านให้หวย ผมบอกว่าท่านไม่เหมาะสม สิ่งดีๆกว่านั้นท่านก็น่าจะมี อย่าคิดว่าการเขียนกระทู้นี้เพื่อจะรวมว่าพระองค์ที่ให้หวยเลวครบทุกอย่างนะครับ แค่บอกว่าไม่สมควร น่าจะมาเขียนธรรมะดี เสริมสร้างกำลังใจในการดำเนินชีวิต ให้มีจิตใจต่อสู้กับภาวะต่างที่วุ่นวายในโลก ซึ่งเหมาะสม และน่าอนุโมทนานะครับ

 

ตอบให้ตรงประเด็นพระรูปใด...ในประเทศไทยที่ท่านรักษาศิลได้ครบ227ข้อ จนไม่ต้องปลงอาบัติเลย...ตอบๆเข้าใจคำถามหรือเปล่า...ให้ตอบมาเเค่หนึ่งรูป ตอบมาเร็วๆ ตอบไม่ได้ก็บอกมา...พระคุยกับผู้หญิง ในที่ลับหู (คนอื่นไม่ได้ยินด้วยจังผิดเลย)
ตอบเเทนให้ก็ได้ พระพุทธรูปไง....555555