<a href="http://glitter.kapook.com/category.php?category_id=115&sid=74d839bfc5d80e4d880aac0854f0fb0e" target="_blank"><img src="http://s242.photobucket.com/albums/ff298/akapong999/glitter2/glitterThai/T310809_13C.gif" border="0" alt="คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ..." title="คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ..."></a>
11111111111111* 11111111111111* แบ่งให้บูชาพระเครื่องหลวงพ่อพระราชพรหมยาน(ฤาษีลิงดำ)
ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย พรแม่ศรี, 13 พฤษภาคม 2009.
หน้า 966 ของ 1940
-
-
<a href="http://glitter.kapook.com/category.php?category_id=1&sid=ee882e86f51a04ea29aac5583d1ad98d" target="_blank"><img src="http://i223.photobucket.com/albums/dd277/akapong/kidding/11-03-2008_05.gif" border="0" alt="คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ..." title="คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ..."></a>
-
ขออนุญาติแทรกธรรมะของหลวงพ่อฤาษีลิงดำครับ พี่ทศพล
ขออนุโมทนากับทุกท่านที่อ่านธรรมะครับ
(ขออภัยหากเป็นการรบกวน)
ขอบพระคุณครับ...baimin
พระธรรมเทศนาจากหลวงพ่อพระราชพรหมยาน
ทำไมคนเราต้องมาเกิด แล้วมาเกิดเพราะอะไร
เรามาเกิดเพื่ออะไรกัน สิ่งใดกันที่ทำให้เราต้องมาเกิดอีก
เรารู้กันใช่ไหมว่าตัวกิเลส ตัวตัณหา ตัวอุปาทาน ตัวอกุศลกรรม สิ่งเหล่านี้เป็นกรรม กรรมที่เป็นที่พักพิง เป็นที่พักให้เราต้องมาอาศัยมาอยู่ เป็นที่รองรับว่าตอนเรามาเกิดเพราะจิตเราอยู่ที่นี่ อยู่ที่กิเลส ยังอยู่ที่ตัณหา ยังอยู่ที่อุปาทานอกุศลกรรมอยู่ จิตเรายังยึดมั่นถือมั่นในสิ่งเหล่านี้อยู่ เพราะเรายังมีความเศร้าหมองของจิต เพราะว่าเรายังมีความทะเยอทะยาน มีความอยาก มีอารมณ์ที่คิดอยู่แต่สิ่งนั้น อยากได้ในสิ่งที่เป็นสมมุติ อยากได้ในสิ่งที่เป็นอนิจจัง มันดีตรงไหนกัน
อยากได้มาก็ไปยึดมั่นถือมั่นว่าสิ่งที่เราได้มาจะทรงตัวอยู่กับเราได้ตลอดกาลสมัย
คิดอย่างนี้ได้อย่างไรกันเนี่ย ทำไมถึงไม่ใช้ตาจิตมอง ทำไมถึงใช้ตาเนื้อมอง
หาก ใช้ตาเนื้อมองก็จะมองเห็นสิ่งที่เรามองเห็นนั้นมีค่ามีความหมายทั้ง ๆ ที่ก็รู้อยู่เต็มๆ ว่ามันต้องสูญสลายมันพัง เราไม่สามารถให้มันเนี่ยจะทรงตัวอยู่กับเราได้ตลอดเวลา แล้วยังให้อกุศลกรรมที่เป็นความโง่ให้เราทำผิดๆ เห็นสิ่งที่ผิดเป็นถูกไปเสียหมดทุกอย่าง สิ่งไหนก็ตามที่ให้เรามองแล้วเราคิดว่ามันเป็นสิ่งที่ถูกทั้งที่มันผิดนั่น แล้ว เค้าเรียกว่าความโง่ การมาเกิดมันดีตรงไหน
เกิดมาแล้วมีภาระมากมาย ขนาดร่างกายขันธ์ 5 บ้านชั่วคราวของเราเองก็ยังทรงตัวไม่ได้ ทำไมลูกทั้งหลายถึงลืมคิดสิ่งเหล่านี้
เราอยากเกิดเป็นมนุษย์หรือเกิดเป็นคน ตอนนี้เราอยู่ในร่างของอะไร จงสำรวจตัวเองเถิด ร่างมนุษย์หรือว่าร่างคน
ถ้า อยู่ในร่างมนุษย์ก็ดีเพราะว่าใจยังสูงหน่อย แต่ถ้าเราคิดว่าเราอยู่ในร่างมนุษย์จริงๆ ลองดูลองเช็คตัวเองว่าเจ้ามี กรรมบถสิบครบถ้วนไหม? มีศีล 5 บริสุทธิ์ไหม พระพุทธเจ้าท่านได้สอนไว้ใช่ไหมว่าธรรมะที่จะทำให้เราเนี่ยเกิดมาเป็นมนุษย์ ได้เราต้องมีศีล หรือเรียกว่ากรรมบถสิบ และลูกควรรู้จักคำนี้ “หิริโอตัปปะ”
หิริคืออะไร คือความละอายต่อบาป
โอ ตัปปะคืออะไร ความเกรงกลัวผลของความชั่ว คนที่มีความละอายต่อบาปมีความเกรงกลัวผลของความชั่วแล้วคนผู้นั้นถ้าตายจาก ความเป็นคนก็ไปเกิดเป็นมนุษย์หรือเทวดา ทำไมเราถึงชอบมองข้าม
แม้ แต่บางเรื่องบางราวเราคิดว่าเรารู้แล้ว เราคิดว่าเราเก่งแล้วในด้านนั้นด้านนี้ แต่เมื่อเจอสิ่งที่ดีที่ดูเหมือนว่าจะเป็นเช่นนั้นกลับไม่มอง เพราะอวดฉลาดว่าตัวเองรู้แล้ว เขาบอกว่าผู้ที่ถ่อมผู้ที่เปิดจิตใจรับรู้ทุกเรื่องราวแม้เรื่องที่ตัวเอง รู้แล้วก็นำมาทบทวน นั่นแหล่ะคือผู้ที่ฉลาด นั่นแหล่ะคือผู้ที่จะหลุดพ้น จงอย่ามองข้ามคำสอนแม้แต่สักข้อเดียว จงอ่านแล้วคิดพิจารณาคิดตาม ใครบอกว่ามีร่างกายแล้วไม่ทุกข์คนนั้นโง่
หาก มีปัญญาอยู่ตอนนี้ก็ขอใช้ปัญญาทบทวนไปเถิดว่าอาตมาพูดอันไหนผิดไปบ้าง คนระดับชั้นไหนบ้างที่มีร่างกายแล้วไม่ทุกข์ เกิดมาอีกกี่ชาติจงดูเถิดร่างกายเรามันก็ทุกข์อยู่อย่างนั้นแหล่ะ และถ้าเกิดว่าขึ้นชื่อว่ามีร่างกายมีขันธ์ 5 แล้วก็จงทุกข์กันต่อไป เมื่อรู้อย่างนี้แล้วอย่าไปมีมันดีกว่า ให้ต้องการเพียงจุดเดียวคือนิพพาน
นี่ นี่ อาตมาจะบอกอะไรให้นะ ทำใจให้มันแน่นอนแล้วภาวนาว่า “นิพพานังปรมังสุขขัง” อย่างนี้ก็ได้นะ หรือจะแบบสั้น ๆ “นิพพานัง” คำเดียวก็ได้นะ แต่ลูกทั้งหลายต้องคิดอย่างนี้ก่อน คิดยังไงลูก คิดว่าไม่เอาขันธ์ 5 แล้ว คิดว่าเบื่อกับไอ้ขันธ์ 5 น่ารำคาญ เบื่อกับการที่จะต้องดูแลมัน มีมันเราก็หิว ถ้าเราไม่มีขันธ์ 5 นี้เราก็ไม่หิว เดี๋ยวก็หนาว ไม่หนาวธรรมดาแต่ยังหนาวเกินอีก เดี๋ยวก็ร้อนก็ร้อนเกินอีก ป่วยไข้ไม่สบายก็ไอ้ขันธ์ 5 นี้แหล่ะ มีงานหนักก็เพราะไอ้ขันธ์ 5 เนี่ยที่จะต้องดูแลมันอยู่นี่ คิดมันซะอย่างนั้น
แล้วเอาจิตนี่ยกไปที่พระนิพพาน ลูกอย่าคิดว่าไม่รู้จักพระนิพพาน นึกถึงพระพุทธเจ้าแล้วเอาจิตไว้ที่พระนิพพานไว้ที่พระองค์ลูก พระองค์ไม่ได้หายไปไหน พระองค์ไม่ได้ดับสูญ แต่พระองค์สูญจาก กิเลส ตัณหา อุปาทาน อวิชชา อกุศลกรรม บาปกรรมเวรกรรมทั้งหมดต่างหาก นั่นแหล่ะสูญ พระองค์อยู่ที่พระนิพพาน จิตเจ้าจงยกไว้ที่พระนิพพาน ท่องอยู่ตลอด”นิพพานัง”สั้น ๆ ก็ได้
อาตมา จะสอนว่าให้มีอารมณ์จิตที่พิจารณาแล้วมันจะรวมตัว มันจะมีความรู้สึกเบื่อหน่ายในร่างกาย และมันจะวางเฉยในร่างกายนั้น มันจะมีความรู้สึกว่าการตายมีความสุข เพราะอะไร เพราะเราไม่กลัวตาย เรารู้แล้วเราตายเราจะไปไหน นั่นก็คือนิพพานที่เป็นสุขอย่างยิ่ง สูญทุกอย่างในสิ่งที่เรากลัว ความแก่ ความเหี่ยว อาตมารู้หลายดวงจิตกลัว กลัวแล้วจะไปยึดติดกับมันทำไม มันไม่ใช่ของเราหนิ ยึดติดอย่างนั้นก็โง่น่ะสิ อย่าโง่ ตัวของเจ้าก็คือดวงจิตที่อยู่ข้างในนั่น ที่มันสวยตลอดเวลา มิใช่ขันธ์ 5 ขันธ์ 5 มันแค่ชั่วคราวมันแค่บ้าน หากเอาจิตไปรวมกับขันธ์ 5 ให้เป็นอันเดียวกัน เจ้าก็จะไม่รู้จักคำว่านิพพานเด็ดขาด จะไม่มีวันรู้ไม่มีวันเข้าใจ เพราะใจเพราะมัวแต่ยึดติดให้เป็นอุปาทานยึดมั่นถือมั่นอยู่อย่างนั้น ไม่ยึดติดปล่อยวางได้ก็จะพบนิพพาน
จาก www.sangthipnipparn.com -
เฮียทศ เมื่อไหร่จะลงพระอ่ะ
-
-
ปล.คุณชัยพิมพ์ธรรมะเองหรือว่าก๊อปปี้มาน่ะครับ -
บ้านนี้ คึกคักกันเหมือนเดิมเลย
-
-
-
-
ก๊ากๆๆๆๆ ๆๆๆๆ ๆๆๆๆๆ -
-
ออกไปดูนอกบ้าน ในกระทู้นี้บอกมีคน 27 คน แต่ไหงมีแค่ 16 คนเองหว่า
-
โมทนาธรรมะดีๆๆ
ฝากหน่อยครับเสี่ย
http://palungjit.org/threads/อีก-30...พื่อวิหารทานวัดโพธิ์เมืองปักษ์.233082/page-85 -
-
-
-
<a href="http://glitter.kapook.com/category.php?category_id=14&sid=49ab8172373f6d1a7d3e79c7264223ab" target="_blank"><img src="http://i242.photobucket.com/albums/ff298/akapong999/glitter/praise/23-09-2008_08.gif" border="0" alt="คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ..." title="คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ..."></a>
-
หน้า 966 ของ 1940