เอามาให้อ่านซ้ำอีกครั้ง ให้เข้าใจนะครับ
ว่าสิ่งที่อยากเห็นประกอบการกล่าวหาคือ การพิสูจน์หรือการทดลองว่าอุปกรณ์ใช้งานไม่ได้จริง
เพื่อความมั่นใจของทุกท่านในการบอกต่อหรือเผยแพร่ต่อไปว่าเป็นการหลอกลวงครับ
เอาเป็นว่า ถ้านักวิทยาศาสตร์ นักวิชาการที่น่าเชื่อถือทั้งหลายไม่กล้าที่จะทำการทดสอบเพื่อพิสูจน์หาความจริงเรื่องนี้ ขอเชิญท่านทั้งหลายทั่วไปที่มีใจเป็นกลาง ปราศจากอคติ และสนใจที่จะหาความจริงตามหลักกาลามสูตร ไปทดลองหาความจริงด้วยตัวเอง ก็คงจะทราบผลได้อย่างชัดเจนกว่านะครับ
3 ม.ค. 56 โค้งสุดท้าย
ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย mzbot, 22 ธันวาคม 2012.
หน้า 18 ของ 20
-
อดีตไม่สําคัญ ปล่อยไป พรุ่งนี้ ต่างหากที่สําคัญกว่า
-
คลิป ผศ.ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ ที่บรรยายเรื่องนี้
ถ้าหากเปิดดู และฟังดีๆ ดร.เจษฎา ท่านนี้ได้ตามไปตรวจสืบดูถึง แม่สะเรียง แม่ฮ่องสอน
[ame=http://www.youtube.com/watch?v=gLejQaQ-dMY]แฉ เครื่องเรียกฝนพลังปิรามิด - YouTube[/ame]
===========
การทดสอบทางวิทยาศาสตร์นั้น ถ้าวิเคราะห์แล้วเป็นเรื่องตลก ไม่เป็นประโยชน์ เขาไม่ทำกัน
เพราะมันเสียเวลาบุคลากร เสียเงินหน่วยงานรัฐฟรีๆ ต้องทำการทดลองซ้ำๆ จนได้ผลที่ชัดเจนแน่นอน
วัดค่าความชื้นสัมพัทธ์ในอากาศ..ฯลฯ บนเมฆ ก็ต้อง'ยกเมฆ'??
สรุปว่า.. เต็มรูปแบบ ต้นทุนสูงน่ะ หลักแสนน่าจะได้
คุณ kasarus ถ้าอยากรู้ผล คงต้องไปบอกให้กลุ่มคนที่ได้กำไรจากขายบ้านหนีภัยพิบัติ ขายพีระมิด บอกกลุ่มคนเหล่านั้น ให้ออกเงินว่าจ้างในค่าทดสอบทางวิทยาศาสตร์เอง คงไม่กี่แสน..จิ๊บๆ เพราะเงินค่าบ้านคงได้ ราวๆ 60 กว่าล้านบาท(หลังละเจ็ดแสนxเก้าสิบกว่าหลัง-บ้านโครงการ1) กับเงินสายเอวพีระมิดยางอีกเจ็ดหลัก เรื่องเงินค่าใช้จ่ายในการทดสอบเครื่องเรียกฝนฯหรือสายเอวพีระมิดต้านแรงกดทับ เงินแค่นี้จิ๊บจ้อยสำหรับเขา นะท่านนะ
จริง ๆ กลุ่มนี้เค้าก็ได้เงินจากพีระมิดปูนปาสเตอร์ผสมแร่ ใส่ในสายยาง มานานแล้วละ แล้วถ้าเขาอยากทดสอบทางวิทยาศาสตร์จริง เค้าคงทำไปนานแล้ว ไม่ต้องรอให้คุณ kasarus ร้องหาท่านผศ.ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ ในตอนเพลานี้ หรอกนะ
ยิ่งลงลึก ยิ่งเปิดแผลให้กว้างขึ้น และวิทยาศาสตร์ของจริง(Real Science) มันทำลายความศรัทธาผู้ซื้อต่อพีระมิดได้ นะเออ นี่เรื่องจริง .
ทดสอบง่ายๆ "เครื่องเรียกฝน ไล่หมอกควัน พลังพีรมิด"
ถ้าทำงานได้จริง เปิดขึ้นใช้เวลาไม่นาน ฝนก็ต้องมาใช่ไหม?? เพราะเป็นเครื่องเรียกฝน
แต่เท่าที่รู้ ๆ กัน.. ฝนไม่ตก มันไม่เคยเรียกฝนได้จริงๆ เค้าก็เลยเรียกว่าเครื่องลวงโลก(Pseudo Science !!) ..นะเธอว์
ทางวิทยาศาสตร์เขาไม่ยอมรับ อวยกันแต่ในเพียงบางเวปลูกศิษย์ที่มาจากแหล่งข้อมูลเดียวกัน
และอันที่จริง เราวิเคราะห์กัน ประเด็นคุยกันเรื่องนี้เท่านั้น
rayo said: ↑เราไม่ได้ คุยถึงประเด็นเรื่องพีระมิดว่ามีคุณสมบัติทางวิทยาศาสตร์เป็นอย่างไรบ้าง
เพราะไม่จำเป็นมันเป็นคนละประเด็นกันกับตอนนี้
ขณะนี้ประเด็นที่เรากำลังพูดถึง คือ
เรื่องที่มีการออกมาทำนายให้ผู้คนเชื่อว่ามีจริงแล้ว คนที่เชื่อก็ตื่นตระหนกหวาดกลัว ว่าจะมีเหตุภัยพิบัติในชาวโลกต้องการคลาน 42 วัน จาก 3 ม.ค. 2556- 14 ก.พ. 2556 จากแรงกดทับที่แปลกประหลาดซึ่งไม่เป็นวิทยาศาสตร์ โดยเหตุการณ์ไม่เคยมีอยู่ และไม่เป็นความจริงอยู่ก่อนหน้านั้นเลย แล้วอาศัยช่วงแห่งจุดกระแสร่วมกับ 21-12-2012 โหมความกลัวภัยพิบัติของคน นั้นเพื่อส่งเสริมธุรกิจการขาย ใช่หรือไม่ ??
คลิกเพื่อดู หลักฐานตัวอย่างสินค้าจริงที่ตอนนี้ก็สามารถสั่งซื้อได้
- https://www.facebook.com/SmunphirPhlangPhiramidPhraXacaryRatnRatnYano/photos_stream
- ชุดสายเอวพีระมิดเพื่อเสริมการทรงตัว(ต้านแรงกดทับ)
หลักฐานทางการทำนายภัยพิบัติ
- หลักฐานชิ้นที่ 1
- หลักฐานชิ้นที่ 2
หลักฐานพยานบอกเล่าและภาพถ่าย ซึ่งไปอยู่ในสถานที่จริง คลิกที่นี่
หลักฐานทางวิทยาศาสตร์ เรื่อง 2012 ปฏิทินมายา
http://palungjit.org/threads/nasa-ยืนยันโลกไม่แตก.398632/
แล้วพอถึงใกล้ๆ 1 วัน เกรงกระแสสังคมตีกลับ หรือมีผลทางกฏหมายหรือไม่ จึงออกมาบอกว่า ไม่เกิดแล้ว รายละเอียดหลักฐานชิ้นนี้หาอ่านได้ในสเตตัสเฟสบุ๊คสินค้าได้เช่นกัน (ลิงค์)
เรายังไม่พูดถึงความวิเศษอุปกรณ์ที่กล่าวอ้าง ว่าได้ผ่านการรับรองจากห้องแล็ปทางวิทยาศาสตร์ใด ถึงประสิทธิภาพว่าเป็นไปตามนั้นได้หรือไม่อย่างไร และไม่มีทางได้ใช้ เพราะจะไม่มีทางเกิดเหตุการณ์เช่นนั้นจริงก่อนหน้านั้นแล้ว
แต่หากมีประเด็นโต้แย้งก็สามารถกล่าวขึ้นมาได้เสมอ
เชื่อว่าคนที่สนใจประเด็นนี้อยู่ก็จะยินดีรับฟังกัน แต่คงต้องโต้แย้งกันในหลักฐานที่วางไว้
ส่วนกรณีมีเสียงวิพากษ์ วิจารณ์ ในสังคมวงกว้าง ผู้รับฟังก็ต้องทำใจ
เพราะ เรื่องมันเกิดขึ้นมาแล้ว
หรือไม่คงอาจจะจบที่การเยียวทางทางทรัพย์สินและจิตใจของผู้ที่เชื่อ - ที่ซื้อของไป
ไม่แน่อาจยังมีอีก คือผู้ที่เชื่อเรื่องนี้แล้วกลัว กักตุนสินค้า กู้เงินมาซื้อของ-ซื้อบ้าน , เสียเครดิตที่ไปบอกเพื่อนบอกฝูง บอกครอบครัว , ลาออกจากงาน .. ฯ แค่ทั้งหมดทั้งมวลนี้ใครจะรับผิดชอบไหว
....Click to expand... -
ขอแนะนำอุปกรณ์รุ่นใหม่จ้า GT2013
รุ่นนี้สุดยอดกว่าทุกครั้งที่ผ่านมาใช้ได้ทุกช่วงเวลา สามารถต้านแรงต่างได้
เป็นอย่างดี เช่น
- แรงกดทับระดับ 3G-10G (ปรับค่าได้)
- แรงเงา
- แรงแถ
เพียงท่านพันรอบตัวไว้ตลอดเวลา สามารถปรับสีตามแรงกระทำประเภทต่างๆ
ปรับทิศทางการหมุน ความเร็วของการหมุน ตามทิศทางของกาแลกซี่ทั้ง 3 ได้ตามต้องการ
ถ้าโทรมาสั่งจองช่วงนี้แถม อุปกรณ์ควบคุม การเปลี่ยนสี และทิศทาง ฟรี
หมายเหตุ: เครื่องนี้ยังไม่มีการทดสอบใดๆทั้งสิ้นต้องใช้ ความเชื่อล้วนๆ
ถ้าอยากรู้ว่าทำงานได้จริงป่าว ก็ให้ไปเชิญ ผศ.ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์
มาแฉเอง ถึงจะเชื่อว่ามันทำงานไม่ได้จริงถ้าไม่ยอมมาแฉ
ก็จะแสดงว่าเครื่องนี้ทำงานได้ตามที่อ้างมาข้างตน
ส่วนคนที่ไม่คิดจะซื้อขอได้โปรดอย่าเข้ามาบ่น คนซื้อยังไม่บ่นเลย
ปล. ถ้ามันใช้ไม่ได้จริงๆ เดี๋ยวเพื่อนๆข้าพเจ้า จะมารับผิดชอบเองก็ เข้าใจปะ ตาสว่างยัง จบ. -
ทุกคนรู้ว่าตนเองทําอะไรอยู่ อย่าลืมสติใช้ให้มาก สาธุ
-
rayo said: ↑คลิป ผศ.ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ ที่บรรยายเรื่องนี้
ถ้าหากเปิดดู และฟังดีๆ ดร.เจษฎา ท่านนี้ได้ตามไปตรวจสืบดูถึง แม่สะเรียง แม่ฮ่องสอน
แฉ เครื่องเรียกฝนพลังปิรามิด - YouTube
===========
การทดสอบทางวิทยาศาสตร์นั้น ถ้าวิเคราะห์แล้วเป็นเรื่องตลก ไม่เป็นประโยชน์ เขาไม่ทำกัน
เพราะมันเสียเวลาบุคลากร เสียเงินหน่วยงานรัฐฟรีๆ ต้องทำการทดลองซ้ำๆ จนได้ผลที่ชัดเจนแน่นอน
วัดค่าความชื้นสัมพัทธ์ในอากาศ..ฯลฯ บนเมฆ ก็ต้อง'ยกเมฆ'??
สรุปว่า.. เต็มรูปแบบ ต้นทุนสูงน่ะ หลักแสนน่าจะได้
คุณ kasarus ถ้าอยากรู้ผล คงต้องไปบอกให้กลุ่มคนที่ได้กำไรจากขายบ้านหนีภัยพิบัติ ขายพีระมิด บอกกลุ่มคนเหล่านั้น ให้ออกเงินว่าจ้างในค่าทดสอบทางวิทยาศาสตร์เอง คงไม่กี่แสน..จิ๊บๆ เพราะเงินค่าบ้านคงได้ ราวๆ 60 กว่าล้านบาท(หลังละเจ็ดแสนxเก้าสิบกว่าหลัง-บ้านโครงการ1) กับเงินสายเอวพีระมิดยางอีกเจ็ดหลัก เรื่องเงินค่าใช้จ่ายในการทดสอบเครื่องเรียกฝนฯหรือสายเอวพีระมิดต้านแรงกดทับ เงินแค่นี้จิ๊บจ้อยสำหรับเขา นะท่านนะ
จริง ๆ กลุ่มนี้เค้าก็ได้เงินจากพีระมิดปูนปาสเตอร์ผสมแร่ ใส่ในสายยาง มานานแล้วละ แล้วถ้าเขาอยากทดสอบทางวิทยาศาสตร์จริง เค้าคงทำไปนานแล้ว ไม่ต้องรอให้คุณ kasarus ร้องหาท่านผศ.ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ ในตอนเพลานี้ หรอกนะ
ยิ่งลงลึก ยิ่งเปิดแผลให้กว้างขึ้น และวิทยาศาสตร์ของจริง(Real Science) มันทำลายความศรัทธาผู้ซื้อต่อพีระมิดได้ นะเออ นี่เรื่องจริง .
ทดสอบง่ายๆ "เครื่องเรียกฝน ไล่หมอกควัน พลังพีรมิด"
ถ้าทำงานได้จริง เปิดขึ้นใช้เวลาไม่นาน ฝนก็ต้องมาใช่ไหม?? เพราะเป็นเครื่องเรียกฝน
แต่เท่าที่รู้ ๆ กัน.. ฝนไม่ตก มันไม่เคยเรียกฝนได้จริงๆ เค้าก็เลยเรียกว่าเครื่องลวงโลก(Pseudo Science !!) ..นะเธอว์
ทางวิทยาศาสตร์เขาไม่ยอมรับ อวยกันแต่ในเพียงบางเวปลูกศิษย์ที่มาจากแหล่งข้อมูลเดียวกัน
และอันที่จริง เราวิเคราะห์กัน ประเด็นคุยกันเรื่องนี้เท่านั้นClick to expand...
ผู้กล่าวหายังไม่มีหลักฐาน และไม่พยายามที่จะพิสูจน์ข้อกล่าวหาของตัวเอง
ที่อยากรู้ก็แค่นั้นละครับ
ทีนี้อยากจะว่าอะไรก็ว่าไปเถอะครับ
เพราะคำพูดของพวกคุณที่ว่า ท่านพระอาจารย์เจตนาโกหกเพื่อหลอกขายของ
ไม่มีอะไรที่มีค่าน่าสนใจสำหรับผมอีกต่อไปแล้ว -
เลิกจมงาย ตั่งมั่นในฐานะผู้เตรียมพร้อมในสถานะอันควร ก็พอแล้ว
-
rayo said: ↑คลิป ผศ.ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ ที่บรรยายเรื่องนี้
ถ้าหากเปิดดู และฟังดีๆ ดร.เจษฎา ท่านนี้ได้ตามไปตรวจสืบดูถึง แม่สะเรียง แม่ฮ่องสอน
แฉ เครื่องเรียกฝนพลังปิรามิด - YouTube
===========
การทดสอบทางวิทยาศาสตร์นั้น ถ้าวิเคราะห์แล้วเป็นเรื่องตลก ไม่เป็นประโยชน์ เขาไม่ทำกัน
เพราะมันเสียเวลาบุคลากร เสียเงินหน่วยงานรัฐฟรีๆ ต้องทำการทดลองซ้ำๆ จนได้ผลที่ชัดเจนแน่นอน
วัดค่าความชื้นสัมพัทธ์ในอากาศ..ฯลฯ บนเมฆ ก็ต้อง'ยกเมฆ'??
สรุปว่า.. เต็มรูปแบบ ต้นทุนสูงน่ะ หลักแสนน่าจะได้
คุณ kasarus ถ้าอยากรู้ผล คงต้องไปบอกให้กลุ่มคนที่ได้กำไรจากขายบ้านหนีภัยพิบัติ ขายพีระมิด บอกกลุ่มคนเหล่านั้น ให้ออกเงินว่าจ้างในค่าทดสอบทางวิทยาศาสตร์เอง คงไม่กี่แสน..จิ๊บๆ เพราะเงินค่าบ้านคงได้ ราวๆ 60 กว่าล้านบาท(หลังละเจ็ดแสนxเก้าสิบกว่าหลัง-บ้านโครงการ1) กับเงินสายเอวพีระมิดยางอีกเจ็ดหลัก เรื่องเงินค่าใช้จ่ายในการทดสอบเครื่องเรียกฝนฯหรือสายเอวพีระมิดต้านแรงกดทับ เงินแค่นี้จิ๊บจ้อยสำหรับเขา นะท่านนะ
จริง ๆ กลุ่มนี้เค้าก็ได้เงินจากพีระมิดปูนปาสเตอร์ผสมแร่ ใส่ในสายยาง มานานแล้วละ แล้วถ้าเขาอยากทดสอบทางวิทยาศาสตร์จริง เค้าคงทำไปนานแล้ว ไม่ต้องรอให้คุณ kasarus ร้องหาท่านผศ.ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ ในตอนเพลานี้ หรอกนะ
ยิ่งลงลึก ยิ่งเปิดแผลให้กว้างขึ้น และวิทยาศาสตร์ของจริง(Real Science) มันทำลายความศรัทธาผู้ซื้อต่อพีระมิดได้ นะเออ นี่เรื่องจริง .
ทดสอบง่ายๆ "เครื่องเรียกฝน ไล่หมอกควัน พลังพีรมิด"
ถ้าทำงานได้จริง เปิดขึ้นใช้เวลาไม่นาน ฝนก็ต้องมาใช่ไหม?? เพราะเป็นเครื่องเรียกฝน
แต่เท่าที่รู้ ๆ กัน.. ฝนไม่ตก มันไม่เคยเรียกฝนได้จริงๆ เค้าก็เลยเรียกว่าเครื่องลวงโลก(Pseudo Science !!) ..นะเธอว์
ทางวิทยาศาสตร์เขาไม่ยอมรับ อวยกันแต่ในเพียงบางเวปลูกศิษย์ที่มาจากแหล่งข้อมูลเดียวกัน
และอันที่จริง เราวิเคราะห์กัน ประเด็นคุยกันเรื่องนี้เท่านั้นClick to expand...
[ame=http://www.youtube.com/watch?v=H9YhMbiRb4I]NASAS GIANT Cloud Machine. Weather Modification - YouTube[/ame] -
คมสัน45678 said: ↑จริงๆแล้วไม่อยากนอกประเด็นนะครับแต่เอาคริปนี้ไปดูนะครับเป็นเครื่องสร้างเมฆฝนของ NASA เอาแบบที่เป็นวิทยาศาสตร์มาให้ดูกันหน่อย
NASAS GIANT Cloud Machine. Weather Modification - YouTubeClick to expand...
ใช่แล้วละท่าน นี้เป็นเครื่องสร้างเมฆฝนของจริง ที่เป็น Real Science นะท่านนะ
.. เมื่อเปิดเครื่องแล้ว เมฆฝนก็ต้องมา
หรือแม้ถ้ามีการไม่เชื่อในหลักการ หากหยิบขึ้นมาถกกันในทางวิทยาศาสตร์ กับองค์การนา๋ซ่าเรื่องเทคโนโลยีนี้
ก็ไม่ถือว่าเป็นการปรามาส หรือลบหลู่ แต่ประการใด เค้าย่อมรับฟังในเชิงเหตุผลกันได้
แล้วมันไม่เกี่ยวข้องกับศรัทธาความเชื่อ หรือ พิธีกรรมใด ๆ
เพราะ มันเป็นวิทยาศาสตร์ของจริง (Real Science) -
เกือบ 30 ปี มาแล้ว ส.ส คนหนึ่ง จ. นครสวรรค์ จำไม่ได้ พยายาม ตัดงบ ประมาณ ประจำปี ของ สนง ปฎิบัติการฝนหลวง กระทรวงเกษตร เพราะมีอคติ
กับการทดลองวิจัย การทำฝน ทาง science ของฝนหลวง ว่าเป็นไปไม่ได้
แต่ผลสุดท้าย ก็ไม่สำเร็จ ยังดีมี ส.ส. ท่านอื่นสนับสนุน หลังจากนั้นท่านนั้นก็หายไป
ไม่ได้ยินข่าว ว่าเป็น ส.ส. อีก
นี่ขนาดเรามี ทุนไม่มาก พระราชอัจฉริยะ ก็ทำให้ มีสูตร ขั้นตอนทำฝน และเชื่อถือได้มากมาย เพื่อช่วยประชาชนไทย คนอยู่เมืองหลวง หรือคนที่ไม่ต้องการ น้ำอาจจะไม่ ทราบซึ้ง
บุญคุณในหลวงเท่ากับคนต่างจังหวัด
ที่เล่ามาก็แค่ ขอสนับสนุน การ ทดลอง real science เพื่อการพัฒนา บ้านเมืองต่อไป ..
จาก อดีต นักวิชาการฝนหลวง -
สุดท้ายมันก็แค่ หาเรื่องอื่นมาเบี่ยงเบนประเด็นของการทำนายที่ไม่ถูกต้อง แค่นั้นแหละ ที่บอกต้องให้มาพิสูจน์โน่นนี่ มันคนละเรื่อง เอาแบบตรงประเด็นเลยดีกว่า ว่า เหตุการ์มันไม่เกิดตามคำทำนายเรื่องนี้ ทำนายผิด... ในเมื่อไม่มีเหตุกาณ์อะไรเกิดขึ้น ปิรามิด สารพัดของวิเศษนั่น เอามาทำอะไร??? คนทั่วไป เขาก็มีสิทธิตั้งข้อสงสัยไม่ใช่หรือ ???
-
-
ไฟล์ที่แนบมา:
-
-
zeelongjea said: ↑Click to expand...
เช่นเดียวกัน กับคำทำนายที่พบเห็นกันบ่อยๆ
หากค้นหาในพระไตรปิฏก ไม่มี ไม่พบคำว่า "ปีมะโรง พ.ศ ๒๕๕๕ (๒๕๐๗)คนเปลี่ยนสภาพเดินเป็นคลาน" อยู่ในหน้าใดหรือพระสูตรใดเลย ไม่มีคำทำนายในลักษณะทำนองนี้เลย
ซึ่งดูแล้วขาดน้ำหนัก ไม่เป็น "พุทธดำรัส ของพระพุทธเจ้า"
หลักฐานดังกล่าว อ้างอิงจาก : http://palungjit.org/threads/ปีมะโรง-พ-ศ-๒๕๕๕-คนจะเปลี่ยนสภาพจากเดินเป็นคลาน.283088/
ข้างล่างนี้ที่คัดย่อออกมาจากคำทำนาย มีคำแปลกๆ ถ้าสังเกตให้ดี เช่น .........
เมื่อศาสนาของอาตมาล่วงมาได้ ๒๕๐๗ ตรงกับ พ.ศ ๒๕๕๕ (ปีมะโรง) คนเปลี่ยนสภาพเดินเป็นคลาน
ล่วงได้ ๒๕๐๘ ตรงกับ พ.ศ ๒๕๕๖ (ปีมะเส็ง) ตลิ่งจะพัง แผ่นดินถิ่นอธรรมจะถล่มเป็นทะเล
ล่วงได้ ๒๕๑๒ (ปีระกา) เมืองมนุษย์จะมืด ๗ วัน ๗ คืน โลกดิ่งสู่ความหายนะ บุคคลเจริญด้วยเมตตา กรุณา ไม่เบียดเบียนข่มเหงอิจฉา พยาบาทและไม่ประทุษร้ายซึ่งกันและกัน ประพฤติตนอยู่ใน ศีลธรรม และยึดถือคาถาของอาตมาจะพ้นภัยพิบัติ ให้เจริญ ภาวนาดังนี้
" หิตะชิราทัน มันกะโลอังคะ ศิลากะละสา สาสะสะติ โหตะถิ โหคะหะคะเน "
ให้ท่องบ่นภาวนาเป็นนิจ ให้จดอักษรใส่กระดาษหรือผ้าขาวปิดไว้หน้าบ้าน หัวนอน หรือพันศรีษะไว้ สารพัดภัยพินาศ สันติประสิทธิ์ ดูกรอานนท์ อาตมาสงสารสัตว์โลกเป็นล้นพ้นที่มีอายุขัยอยู่ได้ไกล้ยุคกึ่งยุคลลาย
===============
ความเป็นจริง สมัยพุทธกาล หลังจากพระพุทธเจ้าปรินิพพาน มีการรวมรวมคำสอน
แล้วท่องจำกันเพียงปากต่อปาก หรือที่เรียกว่า "มุขปาฐะ" เท่านั้น
ยังไม่มีวิธีการจดจารึกลงแต่อย่างใด ไม่ใช้ศิลาจารึก
ที่สำคัญยุคพุทธกาลในอินเดีย "ไม่มีกระดาษ"
และสมัยพระพุทธเจ้ายังดำรงชีพอยู่ ไม่มีการนับ พ.ศ. เพิ่งมาเริ่มนับหลังเสด็จปรินิพพาน
ต่อจากนั้น 400-500 ปี จึงมีการจดรวบรวมบันทึกคำสอนที่ท่องจำกันไว้ลงใน "ใบลาน"
ที่ว่ากันว่า แยกเป็น 3 ตะกร้า จึงเป็นคำต่อๆกันมาว่า พระไตรปิฏก (ไตร หมายถึง จำนวน 3 )
หลักการใช้นับ ปีมะโรง ปีมะเส็ง ซึ่งเป็นปีนักษัตร 12 มีเพียงแถวสุวรรณภูมิ ไทย ลาว พม่า ที่นิยมใช้เป็นหลักสมัยก่อนหลายร้อยปีมาแล้ว
ประเด็นก็คือ
1. สมัยพุทธกาลที่อินเดียสองพันกว่าปีที่แล้วนั้น ไม่มีกระดาษ ไม่มีการรู้จักการใช้กระดาษ,
2. ยังไม่เกิดมีการนับ พ.ศ. , ไม่ใช้การนับปีมะโรง, มะเส็ง ..เป็นต้น,
3. ยุคพุทธกาลเริ่มต้นนั้นไม่ใช้ศิลา(แผ่นหิน)จดจารึกคำสอนพระพุทธเจ้า แต่ใช้การท่องจำกันปากต่อปาก หรือที่เรียกว่า"มุขปาฐะ"แล้วจึงมารวบรวมบันทึกลงในใบลานทีหลัง ในรูปของ พระไตรปิฏก หลังพระพุทธเจ้าปรินิพพาน 400-500 ปี
ดังนั้น จึงขอตั้งข้อสังเกตว่า มันดูเหมือนเป็นคำทำนายสาวกรุ่นหลังแต่งขึ้นมาเอง แล้วสวมรอยดัดแปลงประโยคให้ดูน่าเชื่อถือว่าเป็น พระพุทธดำรัส .
....................
ความเห็นเสริมอีกนิดนึง :
แน่นอนว่า สถิติเฉลี่ยการเกิดแผ่นดินไหวทั่วมุมโลกนั้น
ไหวอยู่ตลอด ระดับ 2-3 ริกเตอร์ อัตราเฉลี่ย 2 นาทีต่อครั้ง
ระดับ 4-5 ริกเตอร์นั้น อาทิตย์ละครั้ง แต่หากนับรวมทั่วโลกก็แทบทุกวัน
5 ริกเตอร์ขึ้นไป นั้นมันต้องมีการสะสมพลังงานตามจุดต่างๆ 50 กว่าปีต่อ 1 ครั้งต่อหนึ่งที่
และจุดสำคัญ คือวงแหวนแห่งไฟ(Ring of Fire) ที่รอยต่อเปลือกโลกนั้น สั่นไหวส่งพลังถึงกัน ไหวบ่อย และรุนแรงได้ถึง8-9 ริกเตอร์ แต่มันต้องมีการสะสมพลังงานมานานเป็นเวลามากพอสมควร
IRIS Seismic Monitor << เวปสำหรับตรวจสอบแผ่นดินไหว Real Time
แผ่นดินไหวที่รุนแรงนั้น ไม่สัมพันธ์กันกับ พายุสุริยะที่มีในทุกๆรอบ 11 ปี
แผ่นดินไหวเกิดซึนามิ ที่ญี่ปุ่น พ.ศ.2554 , แผ่นดินไหวอินโดนิเซีย พร้อมกันกับหมู่เกาะนิโคบาร์อินเดีย ทำให้เกิดคลื่นซึนามิฝั่งอ่าวทะเลอันดามัน พ.ศ.2547 แต่กลับปรากฏว่า ไม่มีพายุสุริยะในปีนั้นๆ
และ ครั้งปีที่เคยมีพายุสุริยะรุนแรงมาก เช่น ปี 2000(พ.ศ.2543) ก็ไม่ได้มีผลกระทบที่ทำให้เกิดแผ่นดินไหวขั้นรุนแรงภัยพิบัติใหญ่ช่วงปีนั้น ... เพียงแต่มีผลกระทบเพียงกับดาวเทียมภายนอกโลก ภายในโลกมีสนามแม่เหล็กโลกเป็นเกราะอยู่ อาจกระทบบ้างทางขั้วโลกเหนือ ใต้ แคนนาดา กระทบกับระบบอิเลคโทรนิคส์ แต่ปัจจุบันมีการอัปเกรดอุปกรณ์ให้ใช้งานได้ในภาวะนั้นแล้วในประเทศแถบนั้น .
ดังนั้น ดังที่มีการทำนายให้คนวิตกหวาดกลัว โดยกล่าวว่า แผ่นดินไหว จนทำให้คนทั้งโลกลงไปคลานนั้น
โดยไปโยงกับ พุทธทำนาย(ไม่แท้) ก็ดี หรือโยงกับ พายุสุริยะ ก็ดี หรือแกแลคซี่ ก็ดี
มันจึงไม่มีค่อยจะมีน้ำหนักมากเท่าใดนัก
จนถึงวันนี้สเตตัสทุกคำทำนาย คือ "Fail" แต่กระเป๋าตังค์ของบางสำนัก ที่ออกมาำให้คำทำนาย+ขายของขายบ้าน ให้เช่าของวิเศษที่อ้างว่าใช้ปกป้องภัยพิบัติ อยู่ในสถานะ "Full"
ดังนั้น โปรดใช้วิจารณญาณในการรับฟัง
โบราณว่าไว้ ฟังหู ไว้หู , ใช้หลักกาลามสูตร ๑๐ (พระพุทธดำรัส) -
เดี๋ยวบรรดาสาวกก็ออกมาหาว่าปรามาสอีกหรอกครับเขายิ่งไม่ชอบคำอธิบายแบบวิทย์อยู่ หาว่าเป็นความจริงแบบโลกียวิสัย ใช้อธิบายเหตุผลปรากฏการณ์เหนือโลกไม่ได้ :cool:
-
konkhangram said: ↑สุดท้ายมันก็แค่ หาเรื่องอื่นมาเบี่ยงเบนประเด็นของการทำนายที่ไม่ถูกต้อง แค่นั้นแหละ ที่บอกต้องให้มาพิสูจน์โน่นนี่ มันคนละเรื่อง เอาแบบตรงประเด็นเลยดีกว่า ว่า เหตุการ์มันไม่เกิดตามคำทำนายเรื่องนี้ ทำนายผิด... ในเมื่อไม่มีเหตุกาณ์อะไรเกิดขึ้น ปิรามิด สารพัดของวิเศษนั่น เอามาทำอะไร??? คนทั่วไป เขาก็มีสิทธิตั้งข้อสงสัยไม่ใช่หรือ ???Click to expand...
การรับคืนของที่อวดอ้างได้กระทำไปถึงไหนแล้ว????
เรียนเชิญมาแสดงให้ดูได้ไหม???
-
ช่วยใช้เครื่องเรียกฝน เรียกฝนมาหน่อยครับ อ.แม่สะเรียงเองยังแล้งเลยครับ
แม่ฮ่องสอนประกาศพื้นที่ประสบภัยพิบัติฉุกเฉินภัยแล้งทั้ง 7 อำเภอ
แม่ฮ่องสอนประกาศพื้นที่ประสบภัยพิบัติฉุกเฉินภัยแล้งทั้ง 7 อำเภอ ราษฎรได้รับผลกระทบ 380 หมู่บ้าน
นางนฤมล ปาลวัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน ขณะเดินทางลงพื้นที่ ติดตามการวางแผนอพยพราษฎร บ้านห้วยโผ ต.แม่ยวม อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน จำนวน 150 ครอบครัว ออกนอกพื้นที่เสี่ยงดินถล่ม
ถึงสถานการณ์ภัยแล้งในจังหวัดว่า จังหวัดแม่ฮ่องสอน ประกาศพื้นที่ประสบภัยพิบัติฉุกเฉินภัยแล้งครบทั้ง 7 อำเภอ เมื่อวันที่ 23 ก.พ.55 ประกอบด้วย อ.แม่สะเรียง ราษฎรได้รับผลกระทบ 77 หมูบ้าน อ.ปาย 62 หมู่บ้าน อ.ปางมะผ้า 38 หมู่บ้าน อ.สบเมย 58 หมู่บ้าน อ.ขุนยวม 43 หมู่บ้าน อ.เมือง 43 หมู่บ้าน และ อ.แม่ลาน้อย 60 หมู่บ้าน
รวมทั้งจังหวัดราษฎรได้รับผลกระทบ 380 หมู่บ้าน เบื้องต้นผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน สั่งการ ให้ทุกอำเภอใช้งบประมาณในอำนาจของนายอำเภอของแต่ละอำเภอ วงเงินไม่เกิน 1,000,000 บาท ในการแก้ปัญหา พร้อมกับให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ใช้งบประมาณของแต่ละพื้นที่ ในการแก้ปัญหาภัยแล้งให้กับราษฎร ที่รับความเดือดร้อน และให้แต่ละหมู่บ้านจัดหาภาชนะเก็บน้ำไว้ใช้ พร้อมเร่งจัดทำฝายชะลอความชุ่มชื่น ในลำห้วยที่ยังคงมีน้ำเหลืออยู่ ส่วนสถานการณ์น้ำ พบว่า แม่น้ำลำคลองต่างๆ มีปริมาณน้อยลง บางส่วนแห้งขอด สามารถเดินข้ามไปมาได้ -
จุ๊ๆๆ อย่าเอ็ดไป มีเสาดูด..อะไรออกมาอีกแล้ว กัวอ่ะ:'(
-
เฮ้ย ไปว่าเขามากมันไม่ดีรู้มั้ย เดี๋ยว อ้ายอัวโด๋ผู้เป็นพันธมิตรกับอ้ายกะเจ๋ม พวกเขาอุตส่าห์ปั่นกระแสเรื่องนี้ จนดัง วันๆมันฝังตัวอยู่แต่หน้าคอม โครต.... เดี๋ยวมีประชุมลับกับเบื้องบนว่าจะดัดสันดาน พวกที่ไปปรามาส 5555555555 ระวัง เดี๋ยวพวกผู้วิเศษมันเสกหนังควายเข้าท้องแล้วจะหนาว
-
อยากให้เสา ดูด.....อันนั้น หงะ คิดแล้ว .....กึ๋ย จัง ไปเล่นบิทดีกว่า
หน้า 18 ของ 20