55. ...จากดาวดึงส์ ถึงทานตะวัน…

ในห้อง 'ท่องเที่ยว - อาหารการกิน' ตั้งกระทู้โดย สร้อยฟ้ามาลา, 26 มกราคม 2013.

  1. สร้อยฟ้ามาลา

    สร้อยฟ้ามาลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    19,158
    ค่าพลัง:
    +43,837
    [​IMG]

    ไหว้พระบนเขากบเสร็จแล้ว ขาเดินแทบไม่ออก นานๆ จะได้เดินขึ้นบันไดเป็นร้อยๆ ขั้นอย่างนี้
    ตอนเดินลงมาที่รถก็ต้องเดินลงบันไดอีกยี่สิบขั้นได้...เข่าอ่อน.... อ่ะ ขับรถลงเขากบก่อน
    ตอนลงนี่ต้องอ่านป้ายดีๆ นะ เพราะค่อนข้างสับสน ป้ายบอกทางลงไม่ชัดเจน อาจจะกลายเป็นขับสวนกับรถทางขึ้นเขาได้จะอันตรายมาก....
    ขาลงนี่จะเร็วหน่อย โค้งไม่มากเท่าทางขึ้นแต่จะมีบางช่วงต้องเร่งส่งรถกันบ้าง ก็ให้บังเอิญ มีรถคันที่ลงไปก่อนดันขับช้า
    ซึ่งสร้อยฟ้าฯ ก็ขับลงมาค่อนข้างเร็วอยู่แล้ว จึงต้องเบรคตามท้ายรถคันข้างหน้า
    และพี่ท่านก็ไม่ค่อยเหยียบเพื่อที่จะส่งรถขึ้นเนินสูงๆ สักเท่าไหร่ ก็เลยต้องเร่งเครื่องอืดๆๆๆ ตามเขาไป...
    สำหรับเที่ยวเขาดาวดึงส์กับเขากบในตัวเมืองนครสวรรค์ก็จบลงในวันแรก กลับไปนอนค้างพักแรงขาอยู่ที่บ้านนอกตัวเมืองนครสวรรค์ก่อนหนึ่งคืน
    พรุ่งนี้จะเที่ยวต่อแต่เป็นการแวะไปเรื่อยก่อนถึงกรุงเทพฯ....
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_0934_1a.jpg
      IMG_0934_1a.jpg
      ขนาดไฟล์:
      531.4 KB
      เปิดดู:
      898
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 กรกฎาคม 2013
  2. สร้อยฟ้ามาลา

    สร้อยฟ้ามาลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    19,158
    ค่าพลัง:
    +43,837
    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 03615.gif
      03615.gif
      ขนาดไฟล์:
      7.9 KB
      เปิดดู:
      680
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 กรกฎาคม 2013
  3. สร้อยฟ้ามาลา

    สร้อยฟ้ามาลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    19,158
    ค่าพลัง:
    +43,837
    วันต่อมากลุ่มของพวกเราออกจากบ้านพักกลับสู่กรุงเทพฯ แต่ระหว่างทางก็แวะทำบุญไหว้พระในนครสวรรค์กันอีก ๑ วัด
    วัดนี้ยังไม่เคยเข้ามาไหว้เลยนะ ได้แต่ขับรถผ่านไปผ่านมาเป็นวัดชื่อเดียวกับจังหวัดนครสวรรค์ด้วยหล่ะ
    แต่สร้อยฟ้ามาลาชอบจำสับสนกับวัดโพธาราม พระอารามหลวงซึ่งอยู่ในตัวเมืองเหมือนกัน....
     
  4. สร้อยฟ้ามาลา

    สร้อยฟ้ามาลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    19,158
    ค่าพลัง:
    +43,837
    [​IMG]


    วัดนครสวรรค์ พระอารามหลวง

    เป็นพระอารามหลวงชั้นตรี ชนิดสามัญ ตั้งอยู่เลขที่ ๗๐๒ ถนนโกสีย์ ตำบลปากน้ำโพ อำเภอเมืองนครสวรรค์ จังหวัดนครสวรรค์
    สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย มีที่ดินตั้งวัดเนื้อที่ ๒๒ ไร่ ๑ งาน ๓๕ ตารางวา

    เดิมมีนามว่า “วัดหัวเมือง” เพราะตั้งอยู่ตอนต้นของตัวเมืองก่อนจะเข้าถึงตัวเมืองจะต้องผ่านวัดนี้ก่อน
    สร้างขึ้นในราว พ.ศ.๑๙๗๒ เป็นวัดเก่าแก่คู่บ้านคู่เมืองมาแต่โบราณ จากหลักฐานโบราณวัตถุ น่าเชื่อว่าสร้างขึ้นในตอนปลายสมัยกรุงสุโขทัย
    ตรงกับรัชสมัยของสมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ ๒ (พระเจ้าสามพระยา) อันเป็นรัชกาลที่ ๗ แห่งกรุงศรีอยุธยา
    และยังมีอีกชื่อหนึ่งว่าวัดโพธิลังการาม เนื่องจากเดิมหน้าวัดอยู่ทางริมแม่น้ำเจ้าพระยาได้มีผู้นำต้นโพธิ์มาจากประเทศศรีลังกามาปลูก ๔ ต้น
    และมีพระปรางค์มองเห็นเด่นชัดสำหรับผู้สัญจรทางน้ำ ต่อมาสายน้ำได้เปลี่ยนทิศทางห่างออกไปจากวัดประมาณ ๑๐๐ เมตร
    ปัจจุบันทั้งพระปรางค์และต้นโพธิ์ไม่มีให้เห็นแล้ว เป็นวัดที่ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา มาแต่เดิม

    เมื่อ พ.ศ.๒๒๐๓ ชาวบ้านได้พบช้างเผือก ๑ เชือก ที่เมืองนครสวรรค์ได้ประกอบพิธีทางศาสนาที่วัดนี้
    แล้วนำถวายสมเด็จพระนารายณ์มหาราชที่เมืองลพบุรี ซึ่งได้พระราชทานนามว่า “เจ้าพระยาบรมคเชนทรฉัททันต์”
    จึงนับว่าเป็นวัดคู่บ้านคู่เมืองมาแต่โบราณกาล

    ทางราชการได้เคยใช้สถานที่วัดนี้ประกอบพิธีถือน้ำพิพัฒน์สัตยา (มีศิลาจารึกเป็นหลักฐาน)
    เป็นที่พำนักอยู่จำพรรษาของเจ้าคณะจังหวัด เป็นสถานที่ใช้สอบธรรมและบาลีสนามหลวงตลอดมา
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_0952_1a.jpg
      IMG_0952_1a.jpg
      ขนาดไฟล์:
      655 KB
      เปิดดู:
      1,688
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 กรกฎาคม 2013
  5. สร้อยฟ้ามาลา

    สร้อยฟ้ามาลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    19,158
    ค่าพลัง:
    +43,837
    [​IMG]

    วัดหัวเมือง ได้เปลี่ยนชื่อเป็นวัดนครสวรรค์อย่างเป็นทางการในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕
    เพื่อให้สอดคล้องกับชื่อของมณฑลนครสวรรค์และจังหวัดนครสวรรค์ที่ตั้งขึ้นเมื่อ พ.ศ. ๒๔๓๕

    ในปี พ.ศ.๒๔๔๔ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ เมื่อคราวเสด็จทางชลมารค
    ทรงเสด็จเททองหล่อพระพุทธชินราชจำลอง ที่พิษณุโลก ได้เสด็จมาทรงเยี่ยมและเห็นความสำคัญของวัดนี้
    จึงทรงโปรดให้ย้ายพระครูสวรรค์วิถีสุทธิอุตตมคณาจารณ์ สังขปราโมกข์ (หลวงพ่อครุฑ) เจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์จากวัดเขา (วัดจอมคีรีนาคพรต)
    มาพำนักอยู่ประจำวัดนี้ ในการย้ายของหลวงพ่อครุฑนั้น ทางราชการและประชาชนได้ร่วมจัดงานใหญ่มาก
    มีขบวนแห่แบบเวสสันดร จำนวน ๑๓ ขบวน พระราชวงศ์เธอพระองค์เจ้าคำรพ ผู้บัญชาการทหารค่ายจิรประวัติสมัยนั้นจัดขบวนส่ง

    พ.ศ.๒๔๕๔ สมเด็จพระราชินีพระพันปีหลวงและสมเด็จพระมาตุจฉาเจ้าเสด็จประพาสมณฑลฝ่ายเหนือ
    ได้เสด็จมาทรงบำเพ็ญพระราชกุศลในวันพระราชสมภพและวันสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
    พร้อมด้วยเจ้านายอีกหลายพระองค์ ได้ทรงบริจาคพระราชทรัพย์เพื่อปฏิสังขรณ์พระอารามนี้ด้วย

    พ.ศ. ๒๔๕๖ สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรศ สมเด็จพระสังฆราชเจ้า เสด็จตรวจการคณะสงฆ์ได้ทรงแวะเยี่ยมหลวงพ่อครุฑที่วัดนี้ด้วยในฐานะทรงคุ้นเคยเป็นการส่วนพระองค์มาก่อน และในปีต่อมาได้เสด็จมาในงานศพหลวงพ่อครุฑอีกครั้งหนึ่ง

    ในปี พ.ศ.๒๔๖๙ พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๗ ได้ทรงพระราชทานทรัพย์ส่วนพระองค์
    สำหรับเป็นทุนสร้างพระอุโบสถหลังปัจจุบัน ซึ่งครอบหลังเดิมไว้พร้อมกับได้พระราชทาน
    พระบรมฉายาลักษณ์เป็นโลหะทองแดงขนาดใหญ่ไว้เป็นอนุสรณ์ในพระอุโบสถด้วย

    วันที่ ๕ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๕๑๕ สมเด็จพระภคินีเธอเจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดาสิริโสภาพรรณวดี
    พระราชธิดาในพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๖ ได้พระราชทานผ้าพระกฐินมาทอดถวายวัดนี้

    สมเด็จพระสังฆราช (วาสนมหาเถระ) วัดราชบพิธสถิตมหาสีมารามได้เสด็จมาพักแรมที่วัดนี้ ๒ ครั้ง
    คือ เมื่อวันที่ ๒๑ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๒๒ และวันที่ ๒๔ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๒๓

    ปี พ.ศ.๒๕๒๗ นายเสน่ห์ วัฑฒนาธร รองปลัดกระทรวงมหาดไทย ได้เสนอเรื่องขอพระราชทานพระบรมราชานุญาต
    เพื่อสถาปนาวัดนครสวรรค์ เป็นพระอารามหลวง ความทราบถึงฝ่าละอองธุลีพระบาทแล้วพระราชทานพระบรมราชานุญาต
    ตามหนังสือสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีที่ นร ๐๒๐๔/๗๘๔๖ ลงวันที่ ๖ มิถุนายน พ.ศ.๒๕๒๘
    กระทรวงศึกษาธิการ ได้ออกประกาศลงวันที่ ๒๖ มิถุนายน พ.ศ.๒๕๒๘ วัดนครสวรรค์ จึงได้เป็นพระอารามหลวงชั้นตรี
    ชนิดสามัญ นับตั้งแต่วันที่ ๖ มิถุนายน พ.ศ.๒๕๒๘ เป็นต้นมา

    เมื่อ พ.ศ.๒๕๓๔ พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลีฯ เสด็จถวายเครื่องอัฐบริขารและเงินบำรุงพระอาราม
    และทรงปลูกต้นไม้สาละ เมื่อวันที่ ๑๓ มกราคม พ.ศ.๒๕๓๔ ต่อมาสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร
    เสด็จพระราชทานพระพุทธรูป พระพุทธนวราชบพิตร เมื่อวันที่ ๑๒ กันยายน พ.ศ.๒๕๓๔

    เกี่ยวกับการศึกษา ทางวัดได้เปิดสอนพระปริยัติธรรมตลอดมาทุกปี ทั้งแผนกธรรมและบาลีที่เป็นปึกแผ่นมั่นคงมาตั้งแต่ พ.ศ.๒๔๗๗
    นอกจากนี้ยังได้เปิดสอนแผนกสามัญในปี พ.ศ.๒๕๑๓ เป็นที่ตั้งโรงเรียนมัธยมประจำจังหวัดเดิม
    ที่ทำการของพุทธสมาคมมูลนิธิปากน้ำโพประชานุเคราะห์และศูนย์บริการประชาชนของตำรวจ
    ที่ทางวัดได้ให้การอนุเคราะห์ด้วยดีตลอดมา
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_0972_1a.jpg
      IMG_0972_1a.jpg
      ขนาดไฟล์:
      519 KB
      เปิดดู:
      4,177
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 กรกฎาคม 2013
  6. สร้อยฟ้ามาลา

    สร้อยฟ้ามาลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    19,158
    ค่าพลัง:
    +43,837
    [​IMG]

    เสนาสนะ
    อุโบสถ เนื่องจากวัดนครสวรรค์เป็นวัดเก่ามาก อุโบสถหลังเดิมสร้างขึ้นตั้งแต่ พ.ศ.๑๙๗๒ จึงชำรุดทรุดโทรม
    ได้มีการซ่อมแซมกันเรื่อยมาตามกาลสมัย ในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ เมื่อหลวงพ่อครุฑ เป็นเจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์
    ได้ย้ายจากวัดจอมคีรีนาคพรตมาอยู่วัดนครสวรรค์ ในปี พ.ศ.๒๔๔๙ ในครั้งนั้นวัดนครสวรรค์ทรุดโทรมมาก
    ต่อมาอุโบสถถูกพายุพัดอย่างแรง ทำให้ผนังโบสถ์พังทับพระประธานและหลังคาโบสถ์หักพังลงมาทับถมองค์พระประธาน
    ชำรุดเสียหายมาก จึงได้มีการซ่อมแซมอุโบสถและพระประธานครั้งใหญ่ที่สุด เมื่อระหว่าง พ.ศ.๒๔๖๕ – ๒๔๗๐
    ต่อจากนั้นได้มีการปฏิสังขรณ์ในส่วนต่าง ๆ เรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน พระอุโบสถกว้าง ๑๒ เมตร ยาว ๒๖ เมตร
    มีพระเจดีย์เก่าอยู่ด้านหน้าพระอุโบสถ ๓ องค์ พระปรางค์ซึ่งปรักหักพังมีเพียงซากและรากฐานปรากฏอยู่

    ศาลาการเปรียญ
    เมื่อหลวงพ่อเคลือบมาเป็นเจ้าอาวาส วัดนครสวรรค์ ประมาณ พ.ศ.๒๔๔๒ ได้มีการบูรณปฏิสังขรณ์ สิ่งปลูกสร้างที่ชำรุดให้ดีขึ้น
    และได้สร้างศาลาการเปรียญขึ้นใหม่เป็นศาลาไม้เสาไม้แก่นกลมใหญ่ พื้นกระดาน หลังคามุงกระเบื้อง
    ศาลานั้นสร้างเสร็จเรียบร้อยใช้การได้ตลอดมาจนถึง พ.ศ.๒๕๒๖ ในสมัยที่พระราชสิทธิเวที เป็นเจ้าอาวาส จึงได้รื้อถอน แล้วสร้างใหม่เป็นอาคาร ค.ส.ล. สองชั้นแบบทรงไทยประยุกต์ จัตุรมุข กว้างยาวด้านละ ๓๔ เมตร ๒ ชั้น เทคอนกรีตทั้งฝ้าและหลังคามุงกระเบื้องเคลือบ
    พื้นขัดหิน เพื่อให้มีขนาดพอกับจำนวนประชาชนที่มาทำบุญ ฟังธรรมดังที่เห็นอยู่ปัจจุบันนี้

    กุฏิสงฆ์ จำนวน ๑๕ หลัง เป็นอาคารคอนกรีต ๙ หลัง อาคารไม้สัก ๒ ชั้น ๑ หลัง

    ห้องสมุดจัตุรมุขกว้าง ๑๑ เมตร ยาว ๑๒ เมตร อาคารคอนกรีต

    หอระฆังจตุรมุขสร้างด้วยไม้ทั้งหลัง

    อาคารเรียนพระปริยัติธรรมกว้าง ๒๔.๕๐ เมตร ยาว ๒๘.๕๐ เมตร เป็นอาคารคอนกรีต ๒ ชั้น มีมุขหน้าและหลัง

    พระวิหารสร้างด้วยอิฐโบราณแผ่นใหญ่ บูรณะ พ.ศ.๒๕๒๗

    อาคารสำนักงานมูลนิธิการกุศล
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_0956_1a.jpg
      IMG_0956_1a.jpg
      ขนาดไฟล์:
      462.9 KB
      เปิดดู:
      3,369
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 กรกฎาคม 2013
  7. สร้อยฟ้ามาลา

    สร้อยฟ้ามาลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    19,158
    ค่าพลัง:
    +43,837
    [​IMG]

    หลวงพ่อศรีสวรรค์
    เป็นพระพุทธรูปเก่ามาแต่โบราณเป็นพระประธานอยู่ในอุโบสถหลังเดิม เป็นพระพุทธรูปสมัยศิลปะสุโขทัย
    หลวงพ่อศรีสวรรค์ได้รับการบูรณะหลายครั้ง พร้อมกับการซ่อมแซมพระอุโบสถ โดยได้นำทองเหลืองจากองค์เดิมมาหล่อใหม่
    และมีประชาชนนำทองเหลืองและทองคำมารวมกันหล่อเป็นองค์พระให้ประชาชนได้เคารพกราบไหว้
    เป็นที่พึ่งทางใจมาเป็นเวลานานจนเมื่อมีการซ่อมแซมครั้งใหญ่สุด ระหว่าง พ.ศ.๒๔๖๕ – ๒๔๗๐
    ได้มีประชาชนบริจาคทองเหลือง ทองแดงและทองคำ หล่อหลอมให้องค์พระมีขนาดใหญ่กว่าเดิม
    มีหน้าตักกว้าง ๒.๕๐ เมตร (ปัจจุบันยังมีทองคำอยู่ที่เกษ) เล่ากันว่าในขณะที่เททองอยู่นั้น
    พอตกเย็นใกล้ค่ำเกิดมีแสงพุ่งออกจากองค์พระมีลำแสงเป็นสีต่างกันถึง ๖ สี เรียกว่าฉัพพรรณรังสี เป็นที่อัศจรรย์ยิ่ง
    ประชาชนชาวนครสวรรค์มีความศรัทธาในหลวงพ่อศรีสวรรค์มาก ได้มาเคารพกราบไหว้กันอยู่ตลอดเวลา
    ในระยะหลัง ๆ นี้ผู้ใดมีความทุกข์ความเดือดร้อนก็จะนำเครื่องสักการะมาถวาย และบริจาคทรัพย์เพื่อทำนุบำรุงวัด
    และมีการบนบานกันอยู่เสมอ จะเห็นได้จากการมีละครแก้บนกันเกือบไม่เว้นแต่ละวัน

    พระสองพี่น้องหรือพระผู้ให้อภัย เป็นพระพุทธรูปองค์ใหญ่ ๒ องค์หันหลังให้กัน หน้าตักกว้าง ๓.๕๐ เมตร
    ประดิษฐานอยู่ในวิหารเก่า ซึ่งแต่เดิมเป็นวิหารสองหลังคู่ ต่อมาได้บูรณะติดกันเป็นวิหารยาวหลังเดียว
    เมื่อพิจารณาถึงรูปทรงของพระพุทธรูปและอิฐที่สร้างนั้น เป็นของเก่าตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา เนื่องจากสร้างมาเป็นเวลานาน
    สิ่งปลูกสร้างชำรุดหักพังไปแล้วหลายครั้ง หลังคาทางทิศเหนือที่มุงบังพระพุทธรูปองค์ใหญ่ ๒ องค์นั้น หักพัง
    หลังคาเปิดคงเหลือแต่ด้านหน้าทางถนนโกสีย์ จะรื้อสร้างใหม่ก็เกิดมีฟ้าผ่าขึ้นหลายครั้งจนเป็นที่กรงกลัวกันว่าถ้าก่อสร้างใหม่จะเกิดอันตราย

    จนต่อมาเมื่อ พ.ศ.๒๔๖๘ ได้มีบุคคลในตระกูล “อินทร” ได้ซ่อมแซมองค์พระทั้งสอง และตั้งเสาไม้ทำหลังคามุงสังกะสี
    บังเฉพาะพระพุทธรูปองค์ใหญ่สององค์เท่านั้น เนื่องจากทางด้านหน้ายังมีหลังคากระเบื้องหลังเก่าเหลืออยู่
    แต่ปัจจุบันหลังคาด้านหน้าได้ชำรุดหักพังไปหมดแล้ว จึงดูเหมือนพระพุทธรูปถูกทอดทิ้งให้ตากแดดตากฝนมาเป็นเวลานาน
    ซึ่งขณะนี้ทางวัดได้มีดำริว่าจะก่อสร้างวิหารครอบองค์พระพุทธรูปทั้งหมดแล้ว

    สาเหตุที่สร้างพระพุทธรูปหันหลังให้กันนั้น ยังไม่พบหลักฐานที่แน่นอนได้แต่มีการบอกเล่าสืบต่อกันมาหลายเรื่อง เช่น
    เป็นการให้ความหมายทางธรรม หมายถึงการเกิดและการตาย เรื่องที่สองเกี่ยวกับทางโลกคือ เจ้าบ่าวเจ้าสาวจะเข้าพิธีแต่งงานกัน
    ฝ่ายเจ้าบ่าวยกขันหมากมาถึงบ้านเจ้าสาวแล้วเกิดวิวาทกันอย่างไม่มีวันที่ยินดีกันได้ จึงตกลงสร้างพระพุทธรูปหันหลังให้กันเป็นอนุสรณ์
    อีกเรื่องหนึ่งมีผู้เขียนประวัติไว้ว่าชนชาติพม่าเป็นผู้สร้าง เนื่องจากนครสวรรค์เป็นเมืองหน้าด่าน
    และพม่าเคยยกทัพมาถึงเมืองนี้ คือเมืองพระบาง เมื่อสงครามยุติลงได้สร้างพระพุทธรูปหันหลังให้กันไว้เป็นอนุสรณ์
    การหันหลังให้กันอาจมีความหมายถึง การให้อภัยไม่ต้องจองเวรจองกรรมกันต่อไป ชาวบ้านจึงเรียกว่า “พระผู้ให้อภัย”
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_0963_1a.jpg
      IMG_0963_1a.jpg
      ขนาดไฟล์:
      496.2 KB
      เปิดดู:
      1,381
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 กรกฎาคม 2013
  8. สร้อยฟ้ามาลา

    สร้อยฟ้ามาลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    19,158
    ค่าพลัง:
    +43,837
    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_0976_1a.jpg
      IMG_0976_1a.jpg
      ขนาดไฟล์:
      368.5 KB
      เปิดดู:
      494
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 กรกฎาคม 2013
  9. สร้อยฟ้ามาลา

    สร้อยฟ้ามาลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    19,158
    ค่าพลัง:
    +43,837
    ทำบุญไหว้พระที่วัดนครสวรรค์ พระอารามหลวงกันแล้ว ก็มุ่งหน้าสู่กรุงเทพมหานครด้วยถนนสายเอเชีย
    แต่ด้วยไม่รีบร้อนที่จะตรงดิ่งกลับบ้าน ก็เลยออกนอกเส้นทางมุ่งหน้าสูจังหวัดลพบุรี จะไปลุยทุ่งดอกทานตะวันกันสักหน่อย

    แต่ก็ต้องผ่านตัวเมืองลพบุรี ก็เลยแวะพระปรางค์สามยอด จอดรถดูลิง

    มาคราวก่อนโน้นถูกลิงปีนขึ้นบนหลังคารถแงะกันสาดด้านข้างก็ไม่รู้ว่ากันสาดจะหลุดแล้ว พอขับรถไปถูกลมตีก็ล่วงหายไปเลย
    เสียดายมากกันสาดสีชาของแท้หาใหม่ไม่ได้ด้วย จึงไปเดินคลองถมซื้อของก๊อปสีดำมาติดแทน หมดกัน....
    ก็ไม่ได้โกรธลิงนะ แล้วตอนนั้นเดินเข้าไปในพระปรางค์รู้สึกลิงที่นี่ไม่เป็นมิตรเลยอ่ะ
    คอยแต่จะแยกเขี้ยวใส่ทำเสียงขู่ แล้ววิ่งเข้าหา ยืนตัวแข็งทื่อกลัวลิงกัด....
    แต่มาคราวนี้ตอนจอดรถก็มีคนคอยกันลิงไม่ให้มายุ่งกับรถ พอขึ้นไปบนพระปรางค์ก็มีคนคอยถือไม้
    ถือหนังยางขู่ลิงไม่ให้เข้ามาใกล้ แต่ดูๆ แล้วมาคราวนี้ลิงไม่ดุเหมือนแต่ก่อน....

    ความเป็นมาของพระปรางค์สามยอด ขอยกข้อมูลมาจากวิกีพีเดียนะ...


    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_0994_1a.jpg
      IMG_0994_1a.jpg
      ขนาดไฟล์:
      346.5 KB
      เปิดดู:
      510
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 กรกฎาคม 2013
  10. สร้อยฟ้ามาลา

    สร้อยฟ้ามาลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    19,158
    ค่าพลัง:
    +43,837
    [​IMG]

    พระปรางค์สามยอด จังหวัดลพบุรี เป็นโบราณสถานและแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์และโบราณคดีที่สำคัญแห่งหนึ่งของจังหวัดลพบุรี
    ลักษณะเป็นปราสาทเขมรในศิลปะบายน (พ.ศ.๑๗๒๐ – ๑๗๗๓) โครงสร้างเป็นศิลาแลงประดับปูนปั้น
    สร้างขึ้นในรัชสมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ ๗ (ครองราชย์ พ.ศ. ๑๗๒๔ - ประมาณ ๑๗๕๗) เพื่อเป็นพุทธสถานในลัทธิวัชรยานประจำเมืองละโว้หรือลพบุรี
    ซึ่งในขณะนั้นเป็นเมืองลูกหลวงของอาณาจักรกัมพูชา แต่เดิมภายในปราสาทประธานประดิษฐานพระพุทธรูปนาคปรกทรงเครื่อง
    ปราสาททิศใต้ประดิษฐานรูปพระโลเกศวร (พระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร) สี่กร และปราสาททิศเหนือประดิษฐานรูปพระนางปรัชญาปารมิตาสองกร
    ตั้งอยู่ที่ตำบลท่าหิน อำเภอเมืองลพบุรี จังหวัดลพบุรี บนเนินดินด้านตะวันตกของทางรถไฟ ใกล้กับศาลพระกาฬ
    เป็นปราสาทศิลาแลงแบบเขมรเรียงต่อกัน ๓ องค์ เชื่อมต่อกันด้วยมุขกระสัน ภายในบริเวณนอกจากปราสาททั้ง ๓ องค์นี้แล้ว
    ทางด้านทิศตะวันออกของปราสาทประธานมีการต่อเติมวิหารก่ออิฐถือปูนเชื่อมต่อกับปราสาทประธานเพื่อประดิษฐานพระพุทธรูป
    ในรัชสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช (ครองราชย์ พ.ศ.๒๑๙๙ – ๒๒๓๑)

    ลักษณะทางสถาปัตยกรรม
    เป็นปราสาทขอม ๓ องค์ เชื่อมต่อกันด้วยมุขกระสัน (อันตรละ) โดยวางตัวในแนวเหนือ-ใต้ หันหน้าสู่ทิศตะวันออก
    ปราสาทประธานมีความสูงใหญ่กว่าอีก ๒ องค์ โครงสร้างของปราสาททำจากศิลาแลงฉาบปูน
    มีการประดับประดาตามส่วนต่างๆ ของปราสาทด้วยปูนปั้น อันเป็นลักษณะของงานสถาปัตยกรรม
    ในยุคของพระเจ้าชัยวรมันที่ ๗ (ครองราชย์ พ.ศ. ๑๗๒๔ - ประมาณ ๑๗๕๗) ที่นิยมใช้ศิลาแลงเป็นวัสดุในการก่อสร้าง
    เช่น ปรางค์พรหมทัตที่ปราสาทพิมาย จังหวัดนครราชสีมา ซึ่งประดิษฐานพระรูปของพระเจ้าชัยวรมันที่ ๗
    ปราสาทวัดกำแพงแลง จังหวัดเพชรบุรี ที่สร้างเป็นปราสาทศิลาแลง ๓ องค์เรียงกันในลักษณะเดียวกับพระปรางค์สามยอด
    และปรางค์องค์กลางของวัดพระพายหลวง จังหวัดสุโขทัย เป็นต้น
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_1044_1a.jpg
      IMG_1044_1a.jpg
      ขนาดไฟล์:
      452.1 KB
      เปิดดู:
      1,309
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 กรกฎาคม 2013
  11. สร้อยฟ้ามาลา

    สร้อยฟ้ามาลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    19,158
    ค่าพลัง:
    +43,837
    [​IMG]

    ลวดลายประดับ
    ส่วนยอดหรือศิขระ สร้างด้วยหินทรายเป็นรูปบัวคว่ำบัวหงายซ้อนกัน ๓ ชั้น ถัดลงมาเป็นการยกเก็จสามเก็จตรงด้านและมุมประดับด้วยกลีบขนุนทำจากศิลาแลง และบางส่วนทำจากปูนปั้นเป็นรูปบุคคลยืนอยู่ในซุ้มเรือนแก้ว ส่วนที่ยกเก็จชั้นที่ ๔ เดิมทั้ง ๔ ทิศ จะมีการปั้นเทพประจำทิศอยู่ในกลีบขนุนและตอนล่าง ได้แก่ พระอินทร์ทรงช้างเอราวัณประจำทิศตะวันออก พระวรุณทรงหงส์ ประจำทิศตะวันตก ท้าวกุเวรทรงมกร ทิศเหนือ และ พระยมทรงกระบือ ทิศใต้ ปัจจุบันเหลือเพียงบางส่วน สันหลังคาของมุขกระสันประดับด้วยบราลีศิลาแลงปั้นเป็นพระพุทธรูปประทับสมาธิราบ ปางสมาธิ ในซุ้มเรือนแก้ว ปัจจุบันเสียหายทั้งหมด

    [​IMG]

    บัวรัดเกล้าเรือนธาตุ
    มีการประดับลวดลายปูนปั้นประกอบไปด้วย แถวบนสุดเป็นลายดอกไม้กลม ถัดลงมาปั้นปูนเป็นรูปกลีบบัวหงาย แถวถัดลงมาเป็นลายดอกซีกดอกซ้อน รูปหงส์ ลายกลีบบัวหงาย ลายก้านขด และดอกบัวตูม เรียงเป็นแถว ลวดลายละ ๑ แถวรวมเป็น ๓ แถว จบด้วยลายกรวยเชิงเป็นรูปเกียรติมุข (หน้ากาล) คายเฟื่องอุบะ

    ตอนกลางของเรือนธาตุ
    มีลายปูนปั้นประดับเป็นลายก้านขดที่แถวบนสุด ถัดลงมาเป็นบัวฟันยักษ์คว่ำ หน้ากระดานเป็นลายกระจังประกอบกันเป็นลายกากบาทแทรกด้วยลายประจำยามลายเล็กและลายดอกซีกดอกซ้อน ถัดลงมาเป็นลายกลีบบัวหงาย ลายกระหนกวงโค้ง ลายดอกบัว ตอนล่างสุดเป็นลายกรวยเชิงตามลำดับ

    บัวเชิงเรือนธาตุ
    ด้านบนสุดเป็นรูปใบหน้าของชาวจามที่เป็นศัตรูกับชาวเขมรที่ถูกประดิษฐ์เป็นใบหน้าของยักษ์ประกอบกับลายกรวยเชิง อันเป็นที่นิยมมากในศิลปะแบบบายนของกัมพูชา ถัดลงมาเป็นลายดอกบัว สันลูกแก้วอกไก่เป็นลายรักร้อย และบัวฟันยักษ์คว่ำ ลายก้านขด และดอกซีกดอกซ้อน ลายละหนึ่งแถวตามลำดับ
    ในส่วนของลวดลายหน้าบันและทับหลังนั้นปัจจุบันไม่ปรากฏร่องรอยหลักฐานเนื่องจากส่วนใหญ่เป็นการปั้นปูนประดับลงบนศิลาแลงเมื่อเวลาผ่านไปรูอากาศของศิลาแลงจะมีการขยายตัวทำให้ลวดลายปูนที่ปั้นประดับอยู่นั้นกะเทาะออกมารวมถึงลิงที่มาอาศัยก็มีส่วนทำให้เกิดความเสียหาย

    [​IMG]

    นอกจากนี้ในสมัยอยุธยาตรงกับรัชสมัยสมเด็จพระนารายณ์ได้มีการบูรณปฏิสังขรณ์และดัดแปลงพระปรางค์สามยอดเพื่อใช้เป็นพุทธศาสนสถานอีกครั้ง ดังจะเห็นได้จากการซ่อมแซมส่วนที่เป็นเพดาน โดยยังคงเห็นร่อยรอยของการปิดทองเป็นรูปดาวเพดาน และการสร้างฐานภายในพระปรางค์สามยอดหลายฐานลักษณะคล้ายกับฐานชุกชีด้วยอิฐ อันเป็นวัสดุที่แตกต่างไปจากส่วนอื่นๆ ของพระปรางค์สามยอดซึ่งส่วนใหญ่เป็นศิลาแลง
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_1045_1a.jpg
      IMG_1045_1a.jpg
      ขนาดไฟล์:
      449.9 KB
      เปิดดู:
      557
    • IMG_4766_1a.jpg
      IMG_4766_1a.jpg
      ขนาดไฟล์:
      597.4 KB
      เปิดดู:
      1,409
    • IMG_4780_1a.jpg
      IMG_4780_1a.jpg
      ขนาดไฟล์:
      558.3 KB
      เปิดดู:
      891
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 กรกฎาคม 2013
  12. สร้อยฟ้ามาลา

    สร้อยฟ้ามาลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    19,158
    ค่าพลัง:
    +43,837
    [​IMG]

    รูปเคารพในพระปรางค์สามยอด
    ปัจจุบันไม่พบหลักฐานรูปเคารพประธานในพระปรางค์สามยอด พบเพียงฐานสนานโทรณิที่ใช้เป็นแท่นรองสรง แต่จากรูปแบบของพระพิมพ์รูปปราสาท ๓ องค์ที่พบภายในกรุปรางค์ประธานวัดราชบูรณะ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา หรือที่นิยมเรียกกันว่า "พระพิมพ์รัตนตรัยมหายาน" ทำให้ทราบว่า แต่เดิมภายในปราสาทประธานของพระปรางค์สามยอดคงเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปนาคปรกทรงเครื่อง พระโลเกศวรสี่กรในปราสาททิศใต้ และพระนางปรัชญาปารมิตาในปราสาททิศเหนือ เช่นเดียวกับที่ปรากฏในพระพิมพ์ โดยพระพิมพ์ดังกล่าวสร้างขึ้นภายใต้คติความเชื่อพุทธศาสนาลัทธิวัชรยาน จากกัมพูชา
    สำหรับพระพุทธรูปนาคปรกทรงเครื่อง ได้แก่ พระอาทิพุทธะ หรือพระมหาไวโรจนะ ซึ่งทรงเป็นพระพุทธเจ้าพระองค์ที่ ๖ ของพุทธศาสนาลัทธิวัชรยาน ที่จารึกของกัมพูชาเรียกว่า พระวัชรสัตว์ ในศิลปะเขมรนิยมสร้างเป็นพระพุทธรูปทรงเครื่องนาคปรก ส่วนพระโลเกศวรอันเป็นพระนามที่ปรากฏในจารึกของกัมพูชาใช้เรียกพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร ผู้ทรงเป็นบุคลาธิษฐานของความเมตตากรุณาและสัญลักษณ์ของอุบาย (อุปายะ) และพระนางปรัชญาปารมิตา เทวนารีผู้ทรงเป็นสัญลักษณ์ของปัญญาอันล้ำเลิศบุคลาธิษฐานของคัมภีร์ปรัชญาปารมิตาสูตร รูปเคารพทั้ง ๓ นี้นิยมสร้างในรัชสมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ ๗ ซึ่งทรงนับถือพุทธศาสนาลัทธิวัชรยาน โดยประกอบกันเป็นความหมายเชิงพุทธปรัชญาของลัทธิวัชรยาน กล่าวคือ พระโลเกศวรทรงเป็นตัวแทนของอุบาย หรือวิธีการอันแนบเนียนซึ่งใช้ไขเข้าสู่ปราชฺญา หรือปัญญาที่มีพระนางปรัชญาปารมิตาเป็นสัญลักษณ์ อันจะนำไปสู่การบรรลุพุทธสภาวะหรือศูนฺยตา ซึ่งแทนด้วยพระวัชรสัตว์นาคปรก

    สำหรับรูปเคารพอื่นๆ ที่พบในพระปรางค์สามยอดนั้น ส่วนมากเป็นพระพุทธรูปนาคปรก ซึ่งกรมศิลปากรได้อัญเชิญไปเก็บรักษาไว้ในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ นารายณ์ราชนิเวศน์ จังหวัดลพบุรี
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_1026_1a.jpg
      IMG_1026_1a.jpg
      ขนาดไฟล์:
      436.1 KB
      เปิดดู:
      552
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 กรกฎาคม 2013
  13. สร้อยฟ้ามาลา

    สร้อยฟ้ามาลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    19,158
    ค่าพลัง:
    +43,837
    [​IMG]

    วิหารหน้าพระปรางค์สามยอด
    เป็นวิหารก่ออิฐถือปูน มีแผนผังเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า หันหน้าไปทางทิศตะวันออก สภาพของวิหารคงเหลือเพียงผนังทั้ง ๒ ข้างและผนังหุ้มกลองทางด้านทิศตะวันออก ส่วนเครื่องบนพังทลายไปหมดแล้ว ประตูของผนังหุ้มกลองด้านทิศตะวันออกก่ออิฐเป็นซุ้มโค้งหรืออาร์ช (arch) แบบตะวันตก ส่วนประตูทางเข้าที่ผนังด้านข้างของวิหารและหน้าต่างที่ผนังด้านหลังของวิหารก่ออิฐเป็นซุ้มโค้งกลีบบัว (pointed arch) แบบศิลปะอิสลาม ป้จจุบันเหลือเพียงซุ้มหน้าต่างด้านทิศเหนือเท่านั้น โครงสร้างผนังของก่ออิฐหนาทึบสลับกับศิลาแลงบางส่วน อันเป็นเทคนิคที่ใช้ในงานสถาปัตยกรรมในรัชสมัยของสมเด็จพระนารายณ์มหาราช เช่นเดียวกับกับอาคารที่สร้างขึ้นรัชสมัยนี้ที่นิยมก่อสร้างด้วยอิฐแทรกด้วยศิลาแลงเป็นชั้นๆ เช่น พระที่นั่งสุริยาศน์อมรินทร์ ในพระราชวังโบราณ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และอาคารหลายหลังในพระนารายณ์ราชนิเวศน์ จังหวัดลพบุรี ด้านหลังของวิหารยกเก็จเป็นกะเปาะเชื่อมต่อกับประตูทางเข้าด้านทิศตะวันออกของปราสาทประธาน ซึ่งการยกเก็จเป็นกะเปาะนี้เป็นรูปแบบทางสถาปัตยกรรมของวิหารซึ่งนิยมสร้างในรัชสมัยสมเด็จพระนารายณ์ เช่น พระที่นั่งจันทรพิศาล ภายในพระนารายณ์ราชนิเวศน์ และวิหารหลวงวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ ลพบุรี ภายในวิหารประดิษฐานพระประธานเป็นพระพุทธรูปประทับสมาธิราบ ปางสมาธิ ทำจากศิลา
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_4784_1a.jpg
      IMG_4784_1a.jpg
      ขนาดไฟล์:
      556.1 KB
      เปิดดู:
      462
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 กรกฎาคม 2013
  14. สร้อยฟ้ามาลา

    สร้อยฟ้ามาลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    19,158
    ค่าพลัง:
    +43,837
    [​IMG]

    อายุเวลาของพระปรางค์สามยอด พิจารณาจากรูปแบบการก่อสร้างที่ใช้ศิลาแลงเป็นโครงสร้าง พอกด้วยปูน และประดับด้วยลวดลายปูนปั้น อันเป็นรูปแบบทางสถาปัตยกรรมที่นิยมมากในศิลปะบายนของกัมพูชาโดยเฉพาะอย่างยิ่งงานสถาปัตยกรรมที่สร้างขึ้นในรัชสมัยของพระเจ้าชัยวรมันที่ ๗ และยังสอดคล้องกับรูปแบบของพระพิมพ์รูปปราสาทสามยอด ที่ภายในแต่ละยอดประดิษฐานพระพุทธรูปทรงเครื่องนาคปรก พระโลเกศวรสี่กร และพระนางปรัชญาปารมิตา อันเป็นรูปเคารพที่เคยประดิษฐานภายในปราสาททั้ง ๓ หลังของพระปรางค์สามยอดด้วย โดยพระพิมพ์ดังกล่าวสร้างขึ้นในพุทธศาสนาลัทธิวัชรยาน ที่รุ่งเรืองเป็นอย่างยิ่งในรัชสมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ ๗ แห่งกัมพูชา จากเหตุผลดังกล่าว จึงสันนิษฐานได้ว่าพระปรางค์สามยอดสร้างขึ้นในรัชสมัยของพระองค์ที่ทรงครองราชย์ระหว่าง พ.ศ.๑๗๒๔ ถึงประมาณ ๑๗๕๗

    ส่วนวิหารด้านหน้าของพระปรางค์สามยอดคงสร้างขึ้นในรัชสมัยสมเด็จพระนารายณ์ โดยพิจารณาจากเทคนิคการสร้างซุ้มโค้งของประตูและหน้าต่างที่ก่ออิฐตะแคงเป็นซุ้มโค้งหรืออาร์ช (arch) อันเป็นรูปแบบของสถาปัตยกรรมตะวันตกที่เริ่มนิยมสร้างในรัชสมัยสมเด็จพระนารายณ์ ดังตัวอย่างจากซุ้มโค้งของบ้านวิชาเยนทร์ จังหวัดลพบุรี ซึ่งสร้างในรัชสมัยดังกล่าวเช่นกัน นอกจากนี้ ผนังของวิหารซึ่งมีการเสริมศิลาแลงเข้าไประหว่างอิฐเพื่อให้โครงสร้างแข็งแรงขึ้นก็เป็นเทคนิคที่นิยมในรัชสมัยนี้เช่นเดียวกัน ดังปรากฏในอาคารหลายหลังที่พระนารายณ์ราชนิเวศน์ จังหวัดลพบุรี

    [​IMG]

    จากหลักฐานที่ปรากฏแสดงให้เห็นว่า พระปรางค์สามยอดสร้างขึ้นเพื่อเป็นพุทธสถานในลัทธิวัชรยานประจำเมืองละโว้ เพื่อประดิษฐานรูปพระวัชรสัตว์นาคปรก พระโลเกศวร และพระนางปรัชญาปารมิตา อันเป็นรูปเคารพที่นิยมสร้างขึ้นในพุทธศาสนาลัทธิวัชรยานของกัมพูชาในรัชกาลของพระเจ้าชัยวรมันที่ ๗ ซึ่งเป็นช่วงระยะเวลาที่พุทธศาสนาลัทธิวัชรยาน เจริญรุ่งเรืองอย่างมากในกัมพูชา เทียบได้กับศาสนาประจำอาณาจักรภายใต้พระราชูปถัมภ์ของพระองค์ ดังจารึกปราสาทพระขรรค์ที่กล่าวถึงพระเจ้าชัยวรมันที่ ๗ ว่า หลังทรงครองราชย์ได้ ๑๐ ปี ได้ทรงสร้างเทวรูปทำด้วยทองคำ เงิน สัมฤทธิ์ และศิลา เพื่อส่งไปพระราชทานยังเมืองต่างๆ ในราชอาณาจักรของพระองค์เป็นจำนวนถึง ๒๐,๔๐๐ องค์ และทรงส่งพระชัยพุทธมหานาถ ซึ่งเป็นพระพุทธรูปนาคปรกทรงเครื่องอีก ๒๓ องค์ไว้ตามเมืองใหญ่ ๆ ในอาณาจักร เช่นที่ “ละโว้ทยปุระ” (จังหวัดลพบุรี) “สุวรรณปุระ” (จังหวัดสุพรรณบุรี) “ศัมพูกปัฏฏนะ” (เมืองหนึ่งในภาคกลางของประเทศไทย) “ชยราชบุรี” (จังหวัดราชบุรี) “ชยสิงหบุรี” (เมืองสิงห์ จังหวัดกาญจนบุรี) “ชยวัชรบุรี” (จังหวัดเพชรบุรี) ซึ่งในขณะนั้นเมืองละโว้ในรัชสมัยของพระองค์ก็มีศักดิ์เป็นเมืองลูกหลวงของอาณาจักรกัมพูชาด้วย ดังปรากฏในจารึกของกัมพูชาว่า เจ้าชายอินทรวรมัน (ต่อมา คือ พระเจ้าอินทรวรมันที่ ๒) พระราชโอรสของพระเจ้าชัยวรมันที่ ๗ กับพระนางชัยราชเทวี ทรงครองเมือง “ลโวทย”

    ต่อมาหลังการล่มสลายของพุทธศาสนาลัทธิวัชรยาน ในกัมพูชา พระปรางค์สามยอดจึงได้รับการดัดแปลงให้เป็นพุทธสถานในนิกายเถรวาท ดังเห็นได้จากการสร้างวิหารเชื่อมต่อกับปราสาทประธานในรัชสมัยสมเด็จพระนารายณ์ ซึ่งทรงสร้างพระนารายณ์ราชนิเวศน์และบูรณปฏิสังขรณ์วัดวาอารามต่างๆ ในเมืองลพบุรี ในช่วงระยะเวลาที่เสด็จแปรพระราชฐานมายังเมืองลพบุรีเกือบตลอดรัชกาล
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_1031_1a.jpg
      IMG_1031_1a.jpg
      ขนาดไฟล์:
      341.7 KB
      เปิดดู:
      500
    • IMG_1015_1a.jpg
      IMG_1015_1a.jpg
      ขนาดไฟล์:
      547.7 KB
      เปิดดู:
      494
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 กรกฎาคม 2013
  15. สร้อยฟ้ามาลา

    สร้อยฟ้ามาลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    19,158
    ค่าพลัง:
    +43,837
    [​IMG]

    เดินดูพระปรางค์สามยอด ดูแต่ภายในพระปรางค์แต่ไม่ได้เดินรอบพระปรางค์เพราะว่าแดดร้อนมาก....
    ก็เลยรีบขึ้นรถแล้วไปลุยทุ่งดอกทานตะวันดีกว่า... พวกเราไม่ได้แวะศาลพระกาฬ กลัวจะไปถึงทุ่งดอกทานตะวันไม่ทัน
    ก็ตอนนี้เป็นเวลาบ่ายสองโมงแล้ว....และระยะทางยังไกลพอดู...ออกจากตัวเมืองลพบุรีผ่านวงเวียน ๒ วงเวียน
    เลี้ยวซ้ายตรงสามแยกไฟแดงเข้าสู่ทางหลวงหมายเลข ๓๐๑๗ วิ่งยาวๆๆๆ ไปจ๊ะเอ๋กับทางหลวงหมายเลข ๒๑
    ข้ามถนนไปอีกฝั่งเข้าสู่เขตอำเภอพัฒนานิคม แล้วเราก็เจอทุ่งทานตะวัน...
    มาถึงบ่ายสามโมง ขับรถร่วมๆ ๑ ชั่วโมงแน่ะ ตั้งแต่ออกจากนครสวรรค์มาถึงทุ่งทานตะวัน พวกเรายังไม่มีอะไรตกถึงท้องเลย
    ครั้งแรกคิดว่าทุ่งทานตะวันจะเป็นที่สุดท้ายก่อนกลับ แต่เห็นว่าอีกนิดเดียวก็จะถึงเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์
    และกะว่าจะหาข้าวกลางวันที่เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ผลออกมากะเวลาผิดไปอย่างมหาศาล ก็ต้องรวบยอดไปมื้อเย็น
    แขวนท้องร้องไปก่อน ตอนนี้ลุยทุ่งทานตะวันให้เป็นลมกันไปข้างนึง....
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_0996_1a.jpg
      IMG_0996_1a.jpg
      ขนาดไฟล์:
      374.6 KB
      เปิดดู:
      560
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 กรกฎาคม 2013
  16. สร้อยฟ้ามาลา

    สร้อยฟ้ามาลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    19,158
    ค่าพลัง:
    +43,837
    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_1049_1a.jpg
      IMG_1049_1a.jpg
      ขนาดไฟล์:
      498.6 KB
      เปิดดู:
      459
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 กรกฎาคม 2013
  17. สร้อยฟ้ามาลา

    สร้อยฟ้ามาลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    19,158
    ค่าพลัง:
    +43,837
    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_66_1a.jpg
      IMG_66_1a.jpg
      ขนาดไฟล์:
      433.7 KB
      เปิดดู:
      457
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 กรกฎาคม 2013
  18. สร้อยฟ้ามาลา

    สร้อยฟ้ามาลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    19,158
    ค่าพลัง:
    +43,837
    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_1054_1a.jpg
      IMG_1054_1a.jpg
      ขนาดไฟล์:
      520.7 KB
      เปิดดู:
      469
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 กรกฎาคม 2013
  19. สร้อยฟ้ามาลา

    สร้อยฟ้ามาลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    19,158
    ค่าพลัง:
    +43,837
    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_1064_1a.jpg
      IMG_1064_1a.jpg
      ขนาดไฟล์:
      509.6 KB
      เปิดดู:
      499
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 กรกฎาคม 2013
  20. สร้อยฟ้ามาลา

    สร้อยฟ้ามาลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    19,158
    ค่าพลัง:
    +43,837
    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_1067_1a.jpg
      IMG_1067_1a.jpg
      ขนาดไฟล์:
      372.3 KB
      เปิดดู:
      511
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 กรกฎาคม 2013

แชร์หน้านี้

Loading...