วิธีหรือคู่มือการทำลายประสิทธิภาพการทำงานของสมอง
1.โกหกเป็นประจำ
การโกหกเป็นประจำทำให้สมองต้องทำงานหนักกว่าปกติ จริงๆ แล้วสมองของคนเรายิ่งทำงานหนักก็ยิ่งดี และมีข้อมูลจากการศึกษาทดลองทั้งกับสัตว์ทดลองและกับมนุษย์เองโดยตรงที่สนับสนุนเรื่องนี้ แต่การทำงานหนักของสมองมีอยู่ 2 อย่างคือ หนึ่ง : ทำงานหนักในด้านดี ด้านสร้างสรรค์ และสอง : ทำงานหนักในด้านไม่ดี ไม่สร้างสรรค์ เฉพาะการใช้สมองทำงานหนักในด้านสร้างสรรค์เท่านั้น จึงจะทำให้สมองมีประสิทธิภาพดียิ่งๆ ขึ้นไป
แต่คนโกหกเป็นประจำ สมองต้องทำงานหนักเป็นพิเศษในการที่จะต้องพยายามจำสิ่งที่ได้โกหกเอาไว้ และก็เป็นตัวอย่างหนึ่งที่ชัดเจนของการใช้สมองทำงานหนักอย่างไม่สร้างสรรค์ การโกหกเป็นประจำจึงเป็นวิธีหนึ่งที่แน่นอน ทำลายประสิทธิภาพการทำงานของสมอง
2.คิดในทางไม่ถูกต้อง
การใช้สมองคิดในทางที่ไม่ถูกต้อง เป็นอีกวิธีหนึ่งของการทำลายประสิทธิภาพการทำงานของสมองได้อย่างแน่ชัด การคิดในทางที่ไม่ถูกต้อง คือ ผิดทำนองคลองธรรม ผิดกระบวนการ ผิดจริยธรรม ผิดจรรยาบรรณ ผิดกฎหมาย ตัวอย่างเช่น การคิดหาทางร่ำรวยทางลัด การเจริญก้าวหน้าในด้านอาชีพโดยวิธีการทางลัด โดยทุกวิถีทางไม่ว่าจะเป็นการคดโกง การประจบผู้บังคับบัญชา การวางแผนทำลายเพื่อนร่วมงานเพื่อตนเองจะได้รับตำแหน่งแทน การคิดหาช่องทางกอบโกยผลประโยชน์จากตำแหน่งหน้าที่ เช่น การคอร์รัปชัน การแสวงหาผลประโยชน์ทับซ้อน โดยวิธีการที่แยบยล หรือผิดกฎหมาย ผิดประเพณีปฏิบัติที่ดีงาม โดยที่ไม่ต้องได้รับการลงโทษ เหล่านี้เป็นวิธีที่แน่นอนอีกวิธีหนึ่งในการทำลายประสิทธิภาพการทำงานของสมอง
3.หมกมุ่นอบายมุข
การคิดหมกมุ่นอยู่กับอบายมุข เช่น การพนัน คลั่งหวย ฯลฯ ทำให้สมองต้องทำงานหนักทั้งเวลาตื่นและหลับ เพราะเวลาตื่นก็จะหมกมุ่นหาแต่อาจารย์เด็ด เลขเด็ด ตีความหมายของการฝันให้เป็นตัวเลข เวลาหลับก็จะฝันแต่เรื่องเป็นตัวเลข พบเห็นสิ่งผิดปกติในธรรมชาติก็จะคิดเป็นตัวเลข การหมกมุ่นกับอบายมุขทำลายทั้งประสิทธิภาพการทำงานของสมองและคุณภาพชีวิต
4.(เจ้า) คิด (เจ้า) แค้น
คนเจ้าคิดเจ้าแค้นเป็นประจำจะมีสภาพเป็นคนหมกมุ่นอยู่กับความคิดที่ไม่เป็นมงคล สมองจะถูกทำลายเสมือนหนึ่งถูกอาบด้วยยาพิษเป็นประจำ ก็จึงเป็นอีกวิธีหนึ่งที่ได้ผลในการทำลายสมอง
5.เครียด ฟุ้งซ่าน
ความเครียด ความฟุ้งซ่าน ทำให้สมองต้องทำงานหนักอย่างผิดทาง ทำให้สมองหลั่งสารหรือขาดสารบางอย่างที่หล่อเลี้ยงและกระตุ้นให้สมองได้ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ เกิดอาการซึมเศร้าหรือฟุ้งซ่านอย่างหนัก ถึงขั้นขาดสติยั้งคิดทำร้ายตนเองหรือฆ่าตัวตาย
6.ไม่ยอมคิด
ตรงกันข้ามกับคนที่คิดมากอย่างผิดทาง ส่งผลให้ประสิทธิภาพการทำงานของสมองลดลงอย่างหนัก ก็คือคนที่ไม่ยอมคิดอะไรเป็นพิเศษขึ้นมาเลย นอกเหนือไปจากการคิดเพื่อชีวิตอยู่ไปวันๆ เช่น การกินอาหาร การทำงานตามหน้าที่อย่างเคร่งครัดเท่านั้น เผินๆ อาจดูคล้ายผู้บรรลุในสัจจะแห่งชีวิตและธรรมแบบ “เต๋า”
แต่...ความว่างเปล่าของสมองแตกต่างอย่างมากกับผู้บรรลุแบบ “เต๋า”
ยังมีอีกหรือไม่ วิธีทำลายประสิทธิภาพการทำงานของสมอง?
คำตอบคือ มี!
แต่ 6 วิธีที่กล่าวถึงนี้ เป็นวิธีที่ต้องระวังกันมากที่สุด!<!--END-->
6 วิธีทำลายสมอง
ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย อธิมุตโต, 17 มิถุนายน 2008.
-
วิธีหรือคู่มือการส่งเสริมประสิทธิภาพการทำงานของสมอง1.มีสัจจะ2.ถือศีล 53.นั่งสมาธิ4.ใช้ปัญญา พิจารณาทุกอย่าง5.ศรัทธาพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์(ผู้ถือศีล คือ พระสงฆ์ ถ้าตัวเองถือศีล5 ครบ ก็นับถือตัวเอง)
-
धन्यवाद
-
ขอบคุณครับ
-
คนในภาพน่าจะเป็นตัวอย่างของบุคคลที่สมองถูกทำลายไปมากเลยทีเดียวเชียวล่ะนะจ๊ะ... ถึงได้ไปยืนกลางถนนเยี่ยงนั้น
มีของดีกันแล้วรักษาให้ได้ ใช้ให้เป็นกันนะเพื่อนๆพี่ๆน้องๆ
จะได้ไม่เผาผลาญทรัพยากรโลกไปเปล่าๆปลี้ๆ
ไม่คิด แบบไม่เคยคิด ไม่ชอบคิด ไม่ยอมที่จะคิด คิดแล้วไม่เข้าใจสักทีเลยเลิกคิด สาระพัดข้ออ้างและเหตุผลที่จะตัดสินใจเลิกคิด และเริ่มกระบวนการลดศักยภาพของสมอง เสร็จกันล่ะทีนี้... ยังไม่ทันฉลาดเลยกลับโง่ลงไปอีก
ไม่คิด แบบพยายามคิดไปพอสมควรแล้ว เข้าใจพอสมควรแล้ว ถ้ามีแง่มุมใหม่ๆก็จะคิดอีก เพราะเปิดใจรอดักความรู้ใหม่ๆเสมอ แต่ถ้าไม่มีเรื่องใหม่ให้ขบคิดก็สำรวจหาข้อบกพร่องของความคิดที่ผ่านไปแล้ว หมดมุมให้ความไม่รู้ซุกหัวเมื่อไหร่... เลิกคิด
รัก... ไม่เลือกหน้า -
คิดบวกๆ ขอบคุณนะค้า
-
-
เป็นไปได้เหมือนกัน
<iframe src="http://writer.dek-d.com/robokobo/writer/view.php?id=579675" style="display: none;">
</iframe>