60.สุดเขตที่มุกดาหาร ข้ามด่านที่อุบลฯ ชุมพลที่โคราช
ในห้อง 'ท่องเที่ยว - อาหารการกิน' ตั้งกระทู้โดย สร้อยฟ้ามาลา, 20 เมษายน 2013.
หน้า 3 ของ 16
-
ไฟล์ที่แนบมา:
-
-
ช้างหน้าอุโบสถ
เห็นเขาบอกว่าเป็นศิลปะแบบเวียดนาม
ดูไม่เป็นอ่ะ ว่าศิลปะอะไร ???
ไฟล์ที่แนบมา:
-
-
ไหว้พระเจ้าองค์หลวงแล้ว ก็เดินข้ามถนนไปฝั่งตรงข้ามเยื้องๆ กับวัดศรีมงคลใต้เป็นหอเจ้าแม่สองนางพี่น้อง ประวัติความเป็นมาเขาว่าไว้ว่า เป็นธิดาของเจ้าเมืองฝั่งลาว ได้นั่งเรือข้ามมายังฝั่งจังหวัดมุกดาหารได้เกิดเหตุการณ์เรือล่ม ทั้งสององค์นั้นได้เสียชีวิตลง
ไฟล์ที่แนบมา:
-
-
รายละเอียดอีกทางที่ค้นมาได้ เขาเล่าขานกันมานานว่า เมื่อ ปี พ.ศ.๑๘๙๖ เจ้าฟ้างุ้ม แห่งเมืองล้านช้าง เป็นบุตรเขย กษัตริย์เมืองอินทะปัดได้พาลูกหลาน อพยพ ตามลำน้ำโขง ผ่านเมืองหนองคาย เมืองนครพนม จนถึงเขตเมืองมุกดาหาร แล้วเกิดเรือล่มที่บริเวณปากห้วยมุก ธิดาสาวทั้งสองคนซึ่งมีพระนามว่า พระนางพิมพา กับ พระนางลมพามา สิ้นชีพลง จนกระทั่งปี พ.ศ. ๒๓๑๓ เจ้าจันทกินรีได้มาสร้างเมืองมุกดาหารและในขณะก่อสร้างได้พบพระเมาลีพระพุทธรูปเหล็กจมอยู่ใต้พื้นดิน บริเวณต้นตาล ๗ ยอดหรือบริเวณศาลเจ้าแม่สองนางพี่น้องในปัจจุบัน จึงขุดไปประดิษฐาน ณโบสถ์วัดศรีมงคลใต้ แต่พอรุ่งขึ้น พระพุทธรูปเหล็กองค์นั้น ก็กลับมาประดิษฐานอยู่ที่เดิมที่พบในครั้งแรกอีก ชาวบ้านจึงพากันเรียกว่า พระหลุบเหล็ก ประกอบกับบริเวณดังกล่าวความเชื่อของคนเมืองมุกดาหาร ทุกวันขึ้น ๑๑ ค่ำ เดือน ๖ จะมีเสียงร่ำไห้ของผู้หญิงสองคนซึ่งเป็นเสียงของพระนางพิมพา กับ พระนางลมพามา และได้แสดงอภินิหารให้ปรากฏอยู่เนือง ๆ เจ้าจันทกินรีเจ้าเมืองมุกดาหาร ได้สืบทราบประวัติแห่งความเป็นมาจึงตั้งศาลขึ้น ณ ที่แห่งนั้น เพื่อให้วิญญาณได้สิงสถิต เมื่อ พ.ศ. ๒๓๑๕ และได้ขนานนามว่า เจ้าแม่สองนางพี่น้อง อันเป็นที่เคารพสักการะของชาวเมืองมุกดาหารไฟล์ที่แนบมา:
-
-
ตำนานเรื่องเจ้าแม่สองนางเป็นเรื่องเล่าที่แพร่หลายในชุมชนชายฝั่งแม่น้ำโขงและภาคอีสานตอนกลางที่มีศาลหรือหอเจ้าแม่สองนางตั้งอยู่หลายพื้นที่ คือ ที่อำเภอเชียงคาน จังหวัดเลย อำเภอเมืองหนองบัวลำภู จังหวัดหนองบัวลำภู อำเภอศรีเชียงใหม่ อำเภอท่าบ่อ ตำบลเวียงคุก ชุมชมวัดหายโศก อำเภอเมืองและอำเภอโพนพิสัย จังหวัดหนองคาย อำเภอบึงกาฬ จังหวัดบึงกาฬ บ้านแพงใต้ ตำบลบ้านแพง อำเภอบ้านแพง บ้านนาเขท่าตำบลนาเข อำเภอบ้านแพง บ้านน้ำก่ำ อำเภอธาตุพนม จังหวัดนครพนม อำเภอเมืองมุกดาหาร จังหวัดมุกดาหาร อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น บ้านสิงห์ท่า และบ้านสิงห์โคก อำเภอเมือง จังหวัดยโสธรไฟล์ที่แนบมา:
-
-
ชุมชนต่าง ๆ ที่นับถือเจ้าแม่สองนางจึงต้องบวงสรวงและเซ่นไหว้เป็นประจำทุก ๆ ปี เพื่อแสดงความกตัญญูต่อบรรพบุรุษของตนรวมทั้งการร้องขอความอุดมสมบูรณ์และความสันติสุขของชุมชน ในทุกชุมชนยังมีความเชื่อในตำนานเรื่องเจ้าแม่สองนางอย่างแนบแน่นถือ ดังจะเห็นได้จากเครื่องเส้นไหว้และดอกไม้หลากสีสัน แต่ละปีเมื่อเข้าสู่วันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๖ ชาวจังหวัดมุกดาหารจะจัดพิธีบวงสรวงขึ้นเพื่อความเป็นสิริมงคลไฟล์ที่แนบมา:
-
-
ไฟล์ที่แนบมา:
-
-
ตรงศาลเจ้าแม่สองนางพี่น้อง
เป็นจุดชมวิวแม่น้ำโขงด้วยไฟล์ที่แนบมา:
-
-
สุดเขตที่มุกดาหาร
ไฟล์ที่แนบมา:
-
-
ระหว่างที่เดินไปยังหอเจ้าแม่สองนางพี่น้อง ก็ได้ถามแม่ค้าแถวๆ นั้นว่า ศาลเจ้าพ่อฟ้ามุงเมืองอยู่ตรงไหน แม่ค้าก็บอกว่า เดินไปทางถนนข้างๆ วัดศรีมงคลใต้ ข้ามสี่แยกไปนิดเดียวอยู่ทางขวามือ เมื่อไหว้เจ้าแม่สองนางแล้ว ก็เลยเดินไปตามที่แม่ค้าบอก ตอนนี้แดดร้อนมากๆ สักพักก็เดินมาถึงไฟล์ที่แนบมา:
-
-
ศาลเจ้าพ่อฟ้ามุงเมืองอยู่บนถนนสองนางสถิตย์ ในเขตเทศบาลเมืองมุกดาหาร ในบริเวณศาลเจ้าพ่อเจ้าฟ้ามุงเมือง มีเสาหลักเมืองประดิษฐานอยู่ด้วย แต่ไม่มีผู้ใดทราบความเป็นมาว่าสร้างในสมัยใดสร้างเมื่อไหร่ใครเป็นผู้สร้าง สันนิษฐานว่าคงจะสร้างขึ้นพร้อมกับการสร้างเมืองมุกดาหาร แต่เดิมเป็นเพียงศาลไม้ ต่อมาได้บูรณะก่อสร้างเป็นศาลคอนกรีต ชาวเมืองมุกดาหาร ถือว่าเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ปกปักรักษาเมืองมุกดาหาร ให้ร่มเย็นเป็นสุข ในวันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๖ ของทุกปี ชาวเมืองมุกดาหารจะมี พิธีบวงสรวงเจ้าพ่อเจ้าฟ้ามุงเมืองซึ่งจะจัดงานพร้อมกับพิธีบวงสรวงเจ้าแม่สองนางพี่น้อง เพื่อความเป็นศิริมงคลไฟล์ที่แนบมา:
-
-
เดินมาถึงศาลเจ้าฟ้ามุงเมือง
มีอาการปวดศรีษะ
สงสัยแดดจะร้อนไปหน่อย
ไฟล์ที่แนบมา:
-
-
ไฟล์ที่แนบมา:
-
-
แล้วก็ได้ไหว้เจ้าฟ้ามุงเมืองสมใจ น่าเสียดายที่ไม่รู้ประวัติความเป็นมา ตอนนี้เดินไม่ไหวแล้วอากาศร้อน แดดร้อนเปรี้ยงจะละลายให้ได้เลย แรกๆ กะว่าจะเดินย้อนทางเดิมเพื่อไปไหว้พระ เพราะตรงถนนสายนี้(เลียบแม่น้ำโขง ไม่รู้ว่าชื่อถนนอะไร)จะมีวัดตั้งอยู่เรียงรายใกล้ๆ กัน น่าจะ ๔ วัด และเป็นวัดที่สำคัญของเมืองมุกดาหาร แต่พอจะเดินจริงๆ เดินไม่ไหว ด้วยแดดร้อนและไกลไฟล์ที่แนบมา:
-
-
โบกรถสามล้อหรือสกายแล็ปให้ไปส่งที่วัดอยู่ถัดจากวัดศรีมงลใต้ ก็ไม่รู้ว่าวัดชื่ออะไร บอกคนขับว่าไปวัดที่มีพระธาตุคนละเท่าไหร่ คนขับบอกว่า ๒๐ บาท (คิดในใจ มากัน ๓ คน ก็ ๖๐ บาทแน่ะ) เลยต่อราคา คนละ ๑๐ บาทได้ไหม ตะกี้ตอนอยู่ศูนย์นักท่องเที่ยวมาตลาดอินโดจีนยังคนละ ๑๐ บาทเลย จากตรงนี้ไปวัดยังใกล้กว่าอีก คนขับบอกว่า ตรงนั้นเขาตัดราคากัน เลยทำท่าจะไม่ขึ้น คนขับบอกว่า อ่ะก็ได้ไฟล์ที่แนบมา:
-
-
แล้วก็มาถึงวัดที่มีพระธาตุ วัดนี้ตอนอยู่ที่โรงแรม ก็มองลงมาจากหน้าต่างเห็นยอดพระธาตุแต่ไกลๆ ลิบๆ ดูคล้ายกับพระธาตุพนม แล้วถัดมาอีกหน่อยก็เห็นอีกวัดนึงมีพระธาตุเหมือนกัน จึงเป็นที่หมายตาไว้ว่าจะไปดูไปไหว้สักหน่อย....
รถสามล้อสกายแล็ปพามาส่งหลังวัด เดินเข้าประตูหลังวัดก็พบเจดีย์พระธาตุอยู่ด้านซ้ายมือ เหมือนเพิ่งสร้างใหม่ ตรงบริเวณพื้นรอบๆ ฐานยังไม่ได้เก็บงานให้เรียบร้อย มีกองวัสดุและอิฐมอญอยู่ จึงเดินไปไหว้ แล้วก็เดินไปทางหลังพระอุโบสถ มีกองเศษอิฐเศษปูนอยู่ก็ยืนดูอยู่พักนึง มีคนแถวๆ นั้นเดินเข้ามาคุยด้วย จึงได้ความว่า พระธาตุที่เดินผ่านมาตะกี้นี้ได้ถล่มลงและสร้างขึ้นมาใหม่ ยังมีกองเศษอิฐเศษปูนให้เห็นอยู่
ไฟล์ที่แนบมา:
-
-
ไฟล์ที่แนบมา:
-
-
กองอิฐ ด้านหลังพระอุโบสถ
ไฟล์ที่แนบมา:
-
-
ไฟล์ที่แนบมา:
-
-
มีสระน้ำโบราณภายในวัดด้วย
ไฟล์ที่แนบมา:
-
หน้า 3 ของ 16