9 วัดเคานต์ดาวน์

ในห้อง 'ข่าวพุทธศาสนา' ตั้งกระทู้โดย vacharaphol, 17 ธันวาคม 2005.

  1. vacharaphol

    vacharaphol เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    8,849
    ค่าพลัง:
    +27,172
    ภาครัฐและเอกชน บริษัทห้างร้านต่างๆ เตรียมจัดงานส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ 2549 อย่างคึกคัก

    [​IMG]


    แต่ในปีนี้ กรมการศาสนา กระทรวงวัฒนธรรม มีแนวคิดเชิญชวนวัยรุ่นคนหนุ่มสาวและประชาชนทั่วไป เข้าไปนับถอยหลังปีใหม่กันในวัด เริ่มตั้งแต่เวลา 22.00 น. วันที่ 31 ธ.ค. 2548

    ร่วมฟังเทศน์ ปฏิบัติธรรม จนถึงเวลา 24.00 น. ล่วงเข้าสู่วันใหม่ 1 ม.ค. 2549

    มีการสวดมนต์ข้ามปี และช่วงเช้าทำบุญตักบาตร เพื่อความเป็นสิริมงคล

    โดยเน้นจัดงาน ณ วัดและสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ 9 แห่ง ที่มีชื่อเสียงของกรุงเทพฯ ประกอบด้วย


    1.วัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร
    สร้างเมื่อปี พ.ศ. 2368 ปีที่ 2 ในรัชกาลที่ 3 เจ้าพระยานิกรบดินทร์ (โต ต้นตระกูลกัลยามิตร) ว่าที่สมุหนายก เมื่อครั้งยังเป็นพระราชสุภาวดี เจ้ากรมพระสุรัสวดี อุทิศที่บ้านกับซื้อที่ดินเพิ่มเติมสร้างขึ้นแล้วถวายเป็นพระอารามหลวง เป็นวัดเดียวในประเทศไทยที่พระประธานเป็นพระพุทธรูปปางปาลิไลยก์

    มีคติความเชื่อว่าไปไหว้แล้ว "เดินทางปลอดภัยดี มีมิตรไมตรี"


    2.วัดชนะสงครามราชวรมหาวิหาร
    รัชกาลที่ 1 โปรดเกล้าฯให้เป็นวัดพระสงฆ์ฝ่ายรามัญ เพื่อให้เกียรติแก่ทหารมอญในกองทัพของสมเด็จกรมพระราชวังบวรมหาสุรสิงหนาท ซึ่งมีชัยชนะต่อข้าศึกถึง 3 ครั้ง

    ไหว้วัดนี้ "มีชัยชนะต่ออุปสรรคทั้งปวง"


    3.วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร หรือวัดโพธิ์
    เป็นวัดโบราณสร้างในสมัยกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี ระหว่างปี พ.ศ. 2231-2246 ต่อมา รัชกาลที่ 1 โปรดเกล้าฯให้สถาปนาเป็นวัดวังหลวง แล้วสร้างใหม่หมดทั้งพระอาราม พระราชทานนามใหม่ว่า "วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาวาส" ต่อมารัชกาลที่ 4 ทรงเปลี่ยนสร้อยนามวัดเสียใหม่ว่า "วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม"

    เป็นวัดที่มีเจดีย์ถึง 99 องค์ มากที่สุดในประเทศไทย ไหว้แล้วเชื่อกันว่า "ร่มเย็นเป็นสุข"

    4.วัดพระศรีรัตนศาสดาราม หรือวัดพระแก้ว
    พระอารามหลวงตั้งอยู่เขตพระราชฐานชั้นนอกของพระบรมมหาราชวัง ประดิษฐานพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากรหรือพระแก้วมรกต เป็นสถานที่ประกอบพระราชพิธีทางศาสนา

    เชื่อกันว่าไหว้แล้ว "แก้วแหวน เงินทอง ไหลมา เทมา"


    5.วัดระฆังโฆษิตาราม เดิมชื่อว่า "วัดบางหว้าใหญ่"
    เป็นวัดโบราณครั้งกรุงศรีอยุธยา พ.ศ. 2323 สมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี ทรงยกจากวัดราษฎร์ขึ้นเป็นพระอารามหลวง เคยเป็นที่ประทับของสมเด็จพระพุฒาจารย์(โต พรหมรังสี) ซึ่งเป็นพระเถระผู้ทรงเกียรติคุณและวิทยาคุณ

    คนไหว้พระที่นี่เชื่อว่า "มีคนนิยมชมชื่น"


    6.วัดสุทัศนเทพวราราม
    รัชกาลที่ 1 โปรดเกล้าฯ ให้สถาปนาขึ้นกลางพระนคร เพื่อประดิษฐานพระโตหรือพระใหญ่ เป็นวัดประจำรัชกาลที่ 8

    เชื่อกันว่าไหว้พระที่นี่แล้ว "มีวิสัยทัศน์กว้างไกล มีเสน่ห์แก่บุคคลทั่วไป"


    7.วัดอรุณราชวราราม หรือวัดแจ้ง
    เป็นวัดโบราณแต่ครั้งสมัยอยุธยา เดิมเรียกว่าวัดมะกอก ต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็นวัดแจ้ง เพราะสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชนำทัพจากจันทบุรีมาทางเรือ พอถึงหน้าวัดนี้ก็ได้อรุณหรือแจ้งพอดี ต่อมาโปรดฯให้บูรณะปฏิสังขรณ์ เป็นวัดที่มีพระปรางค์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก สูง 33 วาเศษ

    ไหว้แล้ว "ชีวิตรุ่งโรจน์ทุกคืนวัน"


    8.ศาลหลักเมืองกรุงเทพมหานคร
    รัชกาลที่ 1 โปรดเกล้าฯให้มีพระราชพิธีฝังเสาพระหลักเมือง เมื่อวันที่ 21 เมษายน 2325 ตัวเสาสร้างด้วยไม้ชัยพฤกษ์ปิดทองทึบทั้งต้น ยอดเป็นรูปบัวตูม มีแผ่นทองคำจารึกดวงชะตากรุงเทพฯ บรรจุอยู่

    เชื่อว่าไหว้แล้ว "ตัดเคราะห์ ต่อชะตา เสริมวาสนา บารมี"


    9.ศาลเจ้าพ่อเสือ เป็นศาลเจ้าเก่าแก่ ภายในเป็นที่ประดิษฐานเจ้าพ่อเสือ เจ้าพ่อกวนอู เจ้าแม่ทับทิม เป็นที่เคารพนับถือทั้งชาวจีนและไทย ตั้งริมถนนตะนาวเยื้องกับวัดมหรรณพาราม

    เชื่อว่าไหว้แล้ว "เสริมอำนาจบารมี"
     

แชร์หน้านี้

Loading...