คลังเรื่องเด่น
-
ตำนานบทสวดมนต์ ตอน "พุทธมังคลคาถา"ของท่านสมเด็จพระพุฒาจารย์โต เพื่อด้านลาภผลและมงคลทั้งปวง
ตำนานบทสวดมนต์ ตอน "พุทธมังคลคาถา"ของท่านสมเด็จพระพุฒาจารย์โต เพื่อด้านลาภผลและมงคลทั้งปวง
ความเป็นมา
บทคำนมัสการพระอรหันต์ 8 ทิศ หรือเรียกอีกอย่างว่า "พุทธมังคลคาถา"
เป็นพระคาถาอีกบทของของท่านสมเด็จพระพุฒาจารย์ ที่ถือว่ามีอิทธิฤทธิ์ด้านลาภผลและมงคลทั้งปวง เพราะคำว่าพุทธมังคลคาถานี้ คือการนมัสการบูชาพระอรหันต์แปดทิศ ซึ่งล้วนแต่เป็นพระมหาเถระที่ยิ่งใหญ่ทั้งสิ้น
พุทธมงคลนมัสการพระอรหันต์ ๘ ทิศนี้ เป็นบทสวดเพื่อนหวนระลึกถึงและบูชาพระอรหันต์ ๘ ทิศ โดยเน้นการสวดเป็นทำนองสรภัญญะ โดยได้อาราธนาพระอรหันต์ผู้ทรงคุณทรงฤทธิ์ทั้ง ๘ ทิศ มาเป็นกำแพงแก้ว ปกป้องคุ้มครองให้แคล้วคลาดจากภยันตราย บังเกิดแต่ความสุขสวัสดีตลอดกาล
เพื่อการสักการบูชาคุณของพระรัตนตรัยและส่วนที่เป็นสังฆานุภาพ มีพระอรหันต์ ๘ ทิศเป็นสื่อธรรม สมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังษี ได้รจนาพระบาลีนมัสการพระอรหันต์ ๘ ทิศนี้ขึ้น นำสู่การสาธยายทำวัตรเช้าเย็นและเจริญพระพุทธมนต์ในพระอุโบสถ มาบัดนี้ บทสวดนมัสการ ๘ พระอรหันต์ได้แผ่ไพศาลสู่การสาธยายโดยทั่ว... -
“เมืองดงละคร” เมืองลึกลับที่ รัชกาลที่ 5 ทรงสนพระทัยยิ่ง !! ทั้งยังนำน้ำศักดิ์สิทธิ์จากเมืองนี้ ไปประกอบพิธีในพระราชพิธีมากมายสมัย ร.9 !!
“ที่ภูเขาหรือที่ชายป่าตีนเขาในวันพระ หากใครกล้าท้าพิสูจน์ แนะนำช่วงเวลาค่ำคืน ไปด้อมๆ มองๆ จะได้ยินเสียงผู้คน หญิงชาย เด็กเล็ก อีกทั้งมโหรีปี่แตรก้องสนั่นป่า กลิ่นดอกไม้ลอยลมมาแต่ไกล เหล่านางฟ้าหรือผีบังบด เก็บดอกไม้บูชาพระ” นี่เป็นส่วนหนึ่งของคำบอกเล่าชาวบ้านในบริเวณ
แต่เดิมชาวบ้านเรียกเมืองนี้ว่าเมืองลับแล ส่วนชื่อเมืองว่าดงละครนั้นไม่ทราบที่มาแน่ชัด บางแห่งกล่าวว่า เวลากลางคืน ได้ยินเสียงดนตรีวงมโหรีแว่วมาจากในเมืองกลางป่า คล้ายกับมีการเล่นละครในวัง จึงเรียกว่าดงละคร หมายถึงมาเล่นละครในดง ส่วนอีกแห่งก็กล่าวว่า เดิมเมืองนี้น่าจะเรียกว่า ดงนคร หมายถึงนครที่อยู่ในดง แต่นานเข้าจึงเรียกเพี้ยนกลายเป็น ดงละคร แต่อย่างไรก็ตาม ไม่มีข้อสรุปที่ชัดเจนเกี่ยวกับที่มาของชื่อเมืองดงละครนี้
เมื่อครั้งพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จประพาสเมืองปราจีนบุรี ได้มีพระบรมราชาธิบายเกี่ยวกับเมืองดงละครไว้ว่า เป็นเมืองที่สร้างขึ้นโดยเจ้าแผ่นดินเขมรโบราณซึ่งเป็นสตรี หรืออาจเรียกว่าราชินีแห่งแผ่นดินเขมรโบราณนั่นเอง โดยเมื่อราชินีองค์นี้ขึ้นครองแผ่นดินเขมร ได้เฟ้นหาชายรูปงามจากแคว้นต่างๆ... -
วิธีดูเหรียญเสือหลวงพ่อสุดวัดกาหลงทุกรุ่น Odin Thailand
ตี๋ใหญ่อดีตตำนานจอมโจรชื่อดัง เชื่อกันว่า ตี๋ใหญ่ เป็นโจรจอมขมังเวทย์ มีคาถาอาคมกำบังหายตัวได้ จึงทำให้หลุดรอดจากการจับกุมของทางการอยู่เสมอ ๆ โดยที่มีตะกรุดของหลวงพ่อสุดวัดกาหลงติดตัวอยู่เสมอ
วันที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2524 จุดจบตี๋ใหญ่ก็มาถึง เมื่อลูกน้องได้ขโมยตะกรุดไป ทำให้ตี๋ใหญ่ต้องเดินทางไปหาหลวงพ่อสุด แต่วันนั้นหลวงพ่อไม่อยู่ จึงถูกลูกน้องยิงตาย แล้วรีบออกจากรถ หลังจากตำรวจมาถึงรถที่ตี๋ใหญ่ตายอยู่ในรถก็ได้ระดมยิงถล่มรถอีกครั้งโดยไม่รู้ว่าตี๋ใหญ่ได้ตายอยู่ในรถก่อนหน้านี้แล้ว แต่ทว่าจากคำบอกกล่าวของลูกน้องคนนึงของตี๋ใหญ่ กล่าวว่า ตี๋ใหญ่ถูกลูกน้องคนนี้หักหลัง ด้วยถูกตำรวจจ้างด้วยเงิน 200,000 บาท พร้อมให้สัญญาจะช่วยในคดีฆ่าคนตาย 2 คดีให้หลุดพ้น ซึ่งตี๋ใหญ่ไม่ได้ถูกตำรวจฆ่าตาย
หลวงพ่อสุด วัดกาหลง เป็นพระเกจิอาจารย์ที่เข้มขลังในวิทยาคมและมีลูกศิษย์ลูกหามากมาย วัตถุมงคลของท่านเด่นทางด้านอยู่ยงคงกระพัน แคล้วคลาด และเมตตามหานิยม และปัจจุบันมีการปลอมแปลงเป็นจำนวนมาก
แต่บัดนี้ท่าน Odin Thailand ได้บันทึกการดูเหรียญหลวงพ่อสุดรุ่นต่างๆ ทาง youtube อันจะเกิดประโยชน์กับนักสะสมต่อไป... -
สมเด็จติดบ่วงแทนนก
สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี )ท่านแผ่เมตตาให้สัตว์ทั้งหลายทั่วกัน ไม่จำกัดขอบเขตว่า จะเป็นสัตว์ชนิดใด เมื่อพบสัตว์ประสบทุกข์ต้องภัยพิบัติ ท่านก็ช่วยเหลือแก้ไขด้วยการุณยจิต
มีเรื่องเล่าว่า ครั้งหนึ่งท่านเดินทางไปต่างจังหวัด ระหว่างทางได้มองเห็นนกตัวหนึ่งติดแร้วอยู่ กำลังดิ้นรนเพื่อจะเอาชีวิตให้รอดไป แต่ก็ไม่สามารถหลุดไปจากแร้วได้ ท่านจึงแก้บ่วงแร้วปล่อยนกนั้นไป แล้วท่านก็เอาเท้าของท่านสอดเข้าไปในบ่วงนั้น นั่งทำทีเป็นติดแร้วไปไม่ได้ เมื่อคนเดินผ่านมาพบ ก็เข้าไปจะช่วยแกะเชือกแก้บ่วงออก ท่านไม่ยอมให้แก้บอกให้ไปตามเจ้าของแร้วมาก่อน เมื่อเจ้าของแร้วมา ท่านก็บอกความจริงว่า นกติดแร้วแต่ท่านช่วยปล่อยนกนั้นไป จึงขอติดแร้วแทนนก
เจ้าของแร้วบอกท่านว่า ไม่เป็นไร อนุญาต ยินยอมให้ท่านปล่อยนกนั้นได้ โดยไม่ติดใจโกรธแต่อย่างใด ท่านจึงแก้บ่วงจากเท้า แล้วบอกให้เจ้าของแร้วกรวดน้ำ ท่านยถาสัพพี เสร็จแล้วท่านจึงออกเดินทางต่อไป
เรื่องการแก้บ่วงปล่อยนกไปนั้น ว่าตามทางพระวินัย ท่านมีความผิดเพราะนกนั้นเป็นทรัพย์มีเจ้าของแล้ว ปรับเป้นภัณฑไทย ดังนั้น ท่านจึงต้องคอยให้เจ้าของแร้วอนุญาตก่อนจึงพ้นผิดได้... -
ปัญหาพระนิพพานและอานิสงส์ต่าง ๆ
..................
ปัญหาพระนิพพานและอานิสงส์ต่าง ๆ
"จะไปนิพพานก็ต้องได้ “สังขารุเปกขาญาณ” เป็นวิปัสสนาญาณตัวสุดท้าย เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน จะไปนิพพานต้องเป็นพระอรหันต์ ถ้าไม่เป็นพระอรหันต์ไปนิพพานไม่ได้ พระอรหันต์เขาเป็นตอนไหน ตอนที่ตัดสักกายทิฎฐิ ได้เด็ดขาด..."
จิตลอยไปตัดใจไปนิพพาน
ผู้ถาม หนูนั่งกรรมฐานที่ ซอยสายลม บ้าน เจ้ากรมเสริม ปรากฏว่าน้ำตาไหลและดวงจิตล่องลอยออกไปไม่ค่อยจะกลับมา เลยตัดสินใจว่าตายวันนี้ขอไปนิพพานทันที อย่างนี้พอมีโอกาสไปได้ไหมคะ เพราะตอนนั้นใจมันลอยไปแล้ว ...?
หลวงพ่อ ใจมันลอยไป แล้วใครมันนึกล่ะ ใจลอยไปมันหมายความว่ายังไง เอาล่ะไม่เป็นไร ถือว่าตัดสินใจถูกดีกว่า นั้นแหละถูกต้องนะ อย่างนั้นแน่นอน ถ้าตายเวลานั้นไปนิพพานจริง ๆ เอาอย่างนี้ดีกว่า ง่ายดี !
ผู้ถาม ไม่ต้องลงทุนอะไรเลยหรือครับหลวงพ่อ...?
หลวงพ่อ ก็ลงทุนเยอะ ลงมุนต้องทิ้งบ้านมา ต้องเสียค่ารถมา ต้องเสียความสุขที่อยู่ที่บ้าน เสียความสุขที่อยู่โรงหนัง เสียความสุขในโรงเหล้า โอ๊ะ ! ลงทุนมาก โดยเฉพาะลงทุนหนักก็ตือ ต้องลงทุนทำลายกิเลส เวลานั้นจิตบริสุทธิ์จริง ๆ... -
ตายแล้วย้อนกลับมาบ้านเรือน
จิตวิญญาณท่องเที่ยวในวัฏสงสาร จะกว้างแคบขนาดไหนจิตวิญญาณจะไปได้ด้วยอำนาจแห่งกรรมดี กรรมชั่วหนุนพาให้ไป ผู้ที่ว่าไปสวรรค์ชั้นนั้น ๆ ถ้าจะพูดถึงเรื่องการวัดชั้นเป็นถนนหนทาง ทางจากนี้ไปสวรรค์ชั้นนั้นห่างสักกี่กิโลอย่างนี้นั้น เรานับไม่ได้ สังขารร่างกายเราไปไม่ได้ แต่จิตใจนั้นไม่ว่าจะอยู่ใกล้ไกลขนาดไหน ไปได้ทั้งนั้นชั่วขณะเดียว จิตใจนี้ไปได้ ระยะความใกล้ความไกลไม่มีปัญหาในจิตใจของแต่ละสัตว์แต่ละบุคคล ตายแล้วไปทางดีทางชั่ว เสวยสุขเสวยทุกข์ได้ด้วยกันทั้งนั้น ขอให้มีคำว่าบุญและบาปที่ตนสร้างไว้แล้วติดใจของตนเถิด ไม่ว่าไกลว่าใกล้ เช่นไปเสวยความทุกข์ความทรมาน ใกล้ไกลที่ไหนไม่มีประมาณ ถึงทันที ๆ
เช่นอย่างไปนรก แดนนรกนี้ถ้าธรรมดาแล้วจะไม่มีใครไปถึง เพราะอยู่ไกลแสนไกล แต่อำนาจแห่งกรรมที่เราสร้างไว้ไม่ดีนั้น มันติดอยู่กับตัวของเรา ติดพันกันไป จนกระทั่งถึงนรกหลุมไหนไม่มีคำว่าใกล้ว่าไกล ขึ้นอยู่กับอำนาจแห่งกรรมชั่วของตน ผู้ที่จะไปสวรรค์ พรหมโลก และนิพพานก็เช่นเดียวกัน ไม่มีคำว่าใกล้ว่าไกล ขอให้มีบุญมีกุศลติดใจของเราเถิด จะไปได้ถึงหมดไม่ว่าชั้นใดภูมิใด ตามอำนาจแห่งกรรมดีของเราที่มีมากน้อย... -
กตัญญูเป็นเลิศ.. "หลวงพ่อปาน วัดบางนมโค" ยามพ่อแม่เจ็บป่วย ไม่สบาย ท่านจะดูแลด้วยตัวเอง แม้จะโดนกล่าวหา แต่ พระพุทธเจ้าบอกไม่บาป!!
หลวงพ่อปาน(โสนันโท) ท่านมีความกตัญญูกตเวทีกับ
พ่อแม่มาก เวลาพ่อแม่ของท่านป่วย หลวงพ่อปาน(โสนันโท) ท่านไม่ยอมให้อยู่ที่บ้าน
ท่านนำมารักษาที่วัดให้นอนในกุฏิท่าน ผ้านุ่ง ผ้าห่มของท่าน ท่านซักเอง เวลาท่านแม่ลุกไม่ถนัด ท่านก็อุ้มลุกอุ้มนั่ง เช็ดขี้เช็ดเยี่ยวให้
มีหลายคนตำหนิท่านว่า ท่านเป็นพระ ทำอย่างนี้แม่ท่านจะบาป
ท่านก็เลยบอกว่า พระพุทธเจ้า ท่านว่าไม่บาป เป็นความดีที่แสดงความกตัญญูกตเวทีต่อพ่อแม่
เวลานี้ท่านเป็นพระเป็นลูกของพระพุทธเจ้า ท่านก็เลยทำตามพระพุทธเจ้า พระองค์เทศน์ไว้ในพระไตรปิฎกมีอยู่
ในสมัยที่ พระพุทธเจ้ายังเสวยพระชาติเป็นพระโพธิสัตว์ เสวยพระชาติมีนามว่า "สุวรรณสาม" สมัยนั้นพระองค์ก็ปรนนิบัติดูแล
ท่านพ่อท่านแม่ของท่านเป็นอย่างดี
ขอขอบคุณท่านเจ้าของภาพ และที่มาเนื้อหาข้อมูล จาก หนังสือ ตายไม่สูญ...แล้วไปไหน
โดย...หลวงพ่อพระราชพรหมยาน (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ) วัดท่าซุง จ.อุทัยธานี กล่าวปรารภถึง หลวงพ่อปาน โสนันโท วัดบางนมโค อำเภอเสนา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
พระอรหันต์ สายหลวงปู่มั่น
เรียบเรียงโดย
ศักดิ์ศรี บุญรังศรี : สำนักข่าวทีนิวส์
--------------------------... -
ตำนานบทสวดมนต์ ตอน คาถา “ยอดพระกัณฑ์ไตรปิฎก” ต้นฉบับโบราณดั้งเดิม เสริมโชคลาภ คุ้มกันภัย
ตำนานบทสวดมนต์ ตอน คาถา “ยอดพระกัณฑ์ไตรปิฎก” ต้นฉบับโบราณดั้งเดิม เสริมโชคลาภ คุ้มกันภัย
ต้นฉบับเดิมเปิดกรุได้ที่เมืองสวรรค์โลก จารเป็นอักษรขอม จารึกไว้ในใบลาน โบราณาจารย์จึงได้แปลเป็นอักษรไทย หลวงธรรมาธิกรณ์ (พระภิกษุแสง) ได้มาแต่พระแท่นศิลาอาสน์ มณฑลพิษณุโลกมีคำกล่าวในหนังสือนำนั้นว่า ผู้ใดมียอดพระกัณฑ์ไตรปิฎกไว้ประจำบ้านเรือน มีอานิสงส์ยิ่งกว่าได้สร้างพระเจดีย์ทองคำสูงเทียมเทวโลกและป้องกันภยันตรายต่าง ๆ ทำมาหากินเจริญ ฯลฯประวัติต้นฉบับเดิมกล่าวว่า หนังสือยอดพระกัณฑ์ไตรปิฎกนี้ มีคำกล่าวไว้ในหนังสือนำว่าเป็นพุทธมนต์อันศักดิ์สิทธิ์ ถ้าผู้ใดได้สวดมนต์ภาวนาทุกเช้าค่ำแล้ว เป็นการบูชารำลึกถึงพระพุทธเจ้า ผู้นั้นจะไม่ไปตกอบายภูมิ แม้ได้บูชาไว้กับบ้านเรือน ก็ป้องกันอันตรายต่าง ๆ จะภาวนาพระคาถาอื่น ๆ สัก ๑๐๐ ปี อานิสงส์ก็ไม่สูงเท่าภาวนาพระคาถานี้ครั้งหนึ่ง ถึงแม้ว่า อินทร์ พรหม ยมยักษ์ ที่มีอิทธิฤทธิ์ จะเนรมิตแผ่นอิฐเป็นทองคำก่อเป็นพระเจดีย์ ตั้งแต่มนุษย์โลกสูงขึ้นไปจนถึงพรหมโลก อานิสงส์ก็ยังไม่เท่าภาวนายอดพระกัณฑ์ไตรปิฎกนี้ และมีคำอธิบายคุณความดีไว้ในต้นฉบับเดิมนั้นอีกนานับปการ ฯ... -
สาธุ!! ยอดพระคาถา "หลวงพ่อปาน วัดบางนมโค" หมั่นท่อง หมั่นจำ รับรองดีจริง! มีวิธีอย่างไร ต้องลองดู!!
หลวงพ่อปาน วัดบางนมโค อยุธยา
หลวงพ่อปาน เกิดเมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2418 ในสมัยรัชกาลที่ 5 โยมบิดาชื่อ อาจ โยมมารดาชื่อ อิ่ม นามสกุล สุทธาวงศ์ ที่ย่านบางนมโค จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยอาชีพทางครอบครัว คือ ทำนา ครอบครัวของท่านนับได้ว่าเป็นครอบครัวที่ค่อนข้างมีฐานะ สมัยนั้นเขายังมีทาสกันอยู่ ที่บ้านท่านก็มีทาส เมื่อตอนท่านเกิดมา มีปานแดงอยู่ที่นิ้วก้อยมือซ้ายตั้งแต่โคนนิ้วถึงปลายนิ้วคล้ายปลอกนิ้ว โยมบิดาจึงตั้งชื่อท่านว่า "ปาน"
ประวัติของท่านในวัยเด็ก เมื่อตอนอายุสัก 3 - 4 ขวบ ก็มีเหตุที่ทำให้ท่านได้ยินคำว่า “พระอรหัง” เป็นครั้งแรก โดยในเรื่องนี้ท่านเล่าให้หลวงพ่อพระราชพรหมญาณ (วีระ ถาวโร หรือ หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ) ซึ่งหลวงพ่อพระราชพรหมญาณ (ซึ่งต่อๆ ไปในนี้จะเรียกสั้น ๆ ว่า หลวงพ่อฤๅษีฯ ) ได้เขียนไว้ในหนังสือ ประวัติหลวงพ่อปาน พอสรุปได้ว่า
วันหนึ่งท่านวิ่งเล่นอยู่ใต้ถุนบ้านย่าของท่าน ก็ปรากฏว่าย่าของท่านกำลังป่วยหนักใกล้จะตาย เวลานั้นเป็นเวลาบ่ายประมาณ 2-3 โมง คนทุกคนเขามาเยี่ยมย่า พ่อแม่ของท่านก็ไป เมื่อคนทุกคนขึ้นไปแล้ว ท่านก็ได้ยินเสียงร้องดัง ๆ บอก “แม่ แม่ อรหังนะ อรหัง ภาวนาไว้... -
“ศิษย์หลวงพ่อปานเมื่อออกธุดงค์ มักมีเทวดามาใส่บาตรให้เสมอ” หลวงพ่อฤๅษีลิงดำเล่าให้ฟังว่าเพราะเหตุใด?
หลวงพ่อฤๅษีลิงดำเคยเล่าถึง การออกธุดงค์ของเหล่าลูกศิษย์ของหลวงพ่อปานที่ต้องการจะศึกษาปฏิบัติแบบ “ อุกฤษฏ์” คือการออกธุดงค์ให้ได้สำเร็จ ไม่ก็จะขอตายเสียในป่า โดยได้เตรียมพร้อมซักซ้อมกันที่ป่าอำเภอศรีประจันต์จังหวัดสุพรรณบุรี เมื่อซักซ้อมกันเป็นที่พร้อมแล้วในเดือนยี่(มีนาคม) พ.ศ.2480 เมื่อสมาทานเสร็จ หลวงพ่อปานได้สั่งไว้ว่า นับแต่วันนี้เป็นต้นไปเธอจงพยายามหนีบ้าน รีบเดินทางให้พ้นเขตบ้านภายใน 3 วัน เป็นอย่างช้า ต่อจากนั้นจงอยู่แต่ในป่าที่ไม่มีบ้านบิณฑบาต ถ้าเธออยู่ในป่าไม่พบบ้านเลยไม่ถึง 3 เดือน เธอจงอย่ากลับมาให้ฉันเห็นหน้า แต่ถ้าอยู่ครบ 3 เดือน โดยไม่บิณฑบาตอาศัยข้าวชาวบ้านกินเลยเธอกลับมาหาฉันได้
หลวงพ่อปาน ท่านจะฝึกพระสงฆ์ที่เป็นศิษย์อย่างเคร่งครัด เวลาที่อยู่ในป่า ท่านให้ถือเอาใบไม้ที่ร่วงหล่น ต้นไม้ กระดูกสัตว์ที่ตายและปรากฏให้เห็นเป็นอารมณ์วิปัสสนาญาณ ในป่าลึกแม้จะไม่มีบ้านคนเลย แต่ศิษย์ทุกรูปของหลวงพ่อปานก็ต้องออกเดินบิณฑบาต
วันหนึ่งขณะคณะศิษย์ออกบิณฑบาต เดินห่างจากโคนต้นไม้ที่ปักกลดไม่ถึง ๒๐๐ เมตร ก็ปรากฏร่างเด็กหญิงชาวป่า อายุไม่เกิน 13 ปี แต่งตัวด้วยผ้าเก่า... -
“หลวงปู่จาม” ออกธุดงค์มีเสือโคร่งและกวางป่ามาคอยเฝ้า ที่แท้เป็นลูกหลานเมื่อชาติก่อน!
เมื่อครั้งที่หลวงปู่จามออกธุดงค์ไปภาวนาอยู่ขุนขาน บ้านแม่สาบ อำเภอสะเมิง จังหวัดเชียงใหม่ เสือโคร่งตัวใหญ่ มันมานอนฝีงไฟที่ก่อเอาไว้ ดึกแล้วมันหากินอิ่มแล้วมันก็มานอน อากาศหนาวเย็น มันมาอาศัยไออุ่นจากกองไฟ พอหลวงปู่จามลงไปก่อไฟเดินจงกรมไปมา ตัวมันก็เฉยอยู่ นอนเฉยๆ มันมาใหม่ก็ย้านมันอยู่ แต่สองวันสามวันก็ไม่กลัวมัน เมตตาให้มัน ก่อไฟให้มัน ตัวมันก็พลิกข้างเข้าหาไฟ ตัวใหญ่ขนาดกับงัวแม่ซือ งัวพื้นบ้านนี้หล่ะ เป็นเสือหนุ่มไม่ใช่เสือเฒ่า มันไม่ร้องครางให้รบกวนหรอกมันเดินมาก็รู้อยู่จนใกล้แจ้งได้อรุณมันจึงหนีไป บางวันต้องปลุกมัน ไป๊…. มึงไปเดี๋ยวคนจะมา มึงจะเป็นอันตราย มันก็ลุกมาเหยียดตัว โย้หน้าโย้หลัง กะหงึกหัว ๓ ที ให้แล้วก็ไปอย่างนั้นทุกวัน รอบที่พักนั้นเงียบสงัด ไม่มีสัตว์ใดมารบกวนเลย
ตรงที่กางกลดนั้นเป็นเงื้อมหิน โยมบ้านแม่สาบ มาทำร้านที่พักให้ หาฟืนมาไว้ให้ตอนกลางคืน เสือมาอยู่ด้วย ตอนกลางวันฟานหม้อ(เก้ง หรือ กวาง) ไม่เฒ่าไม่หนุ่มมาร้องใกล้ “โปก ๆ” มันมาส่องดูทุกวัน เราก็พูดกับมัน ว่า “ เออ….. กูอยู่สบายดีอยู่ จะไปหากินก็ไปเถอะ ไม่ต้องห่วงกู ตัวมึงเถอะ ให้ระวังอันตราย ”... -
ตำนานบทสวดมนต์ ตอน ไชยเบ็งชรต้นแบบพระคาถาชินบัญชรของสมเด็จพระพุฒาจารย์โต
ตำนานบทสวดมนต์ ตอน ไชยเบ็งชรต้นแบบพระคาถาชินบัญชรของสมเด็จพระพุฒาจารย์โต
คาถาชินบัญชรมีชื่อเรียกเป็นภาษาบาลีว่า “ชินะปัญชะระปริตร” บ้าง “ชะยะปัญชะระคาถา” บ้าง ทางล้านนาจัดเข้าในไชยทั้ง ๗ เรียกว่า “ไชยะเบ็งชร” มีอยู่มากมายหลายฉบับ แต่ฉบับที่รู้จักกันมากที่สุดก็คือ ฉบับของเจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พฺรหฺมรํสี) วัดระฆังโฆสิตาราม กรุงเทพมหานคร เพราะ เจ้าประคุณสมเด็จเป็นผู้นำมาเผยแพร่ก่อนเป็นองค์แรก คนทั่วไปจึงเข้าใจว่าสมเด็จท่านเป็นผู้แต่งพระคาถาบทนี้ เมื่อเห็นชินบัญชรต้องนึกถึงสมเด็จก่อน แต่ที่จริงคาถาชินบัญชรนี้เป็นของโบราณ สมเด็จท่านค้นพบในคัมภีร์ใบลานและนำมาเผยแพร่อีกต่อหนึ่ง ดังนั้นจึงปรากฏว่ามีอยู่มากมายหลายฉบับและแตกต่างกันออกไปบ้าง แต่ยังคงเค้าเดิมไว้เป็นส่วนมาก แสดงว่าผู้แต่งเป็นคน ๆ เดียวกัน ที่แผกกันน่าจะมาดัดแปลงแก้ไขในชั้นหลัง ๆ และถึงแม้จะต่างกันโดยพยัญชนะ แต่ก็ไม่ทำให้เสียอรรถะและความมุ่งหมายของท่านผู้แต่งแต่อย่างใด เกี่ยวกับเรื่องนี้หลวงพ่อธรรมสร สิริจนฺโท แห่งวัดตึ๊ดใหม่ อ.เชียงกลาง จ.น่าน เคยกล่าวไว้ว่า “คาถาชินบัญชรมีอยู่มากมายหลายฉบับ ผู้ใดขึ้นใจได้บทใด... -
เมื่อ"ขั้วโลกใต้"ส่งเสียงเตือนครั้งใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา ถ้าเรายังอยู่เฉย น้ำท่วมโลกจะเป็นเพียงเศษเสี้ยว
หลังจากมีข่าวว่ามีหิ้งน้ำแข็งได้หลุดจากขั้วโลกใต้ออกมานั้น ล่าสุด ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ ได้ออกมาโพสต์ข้องความผ่านเฟซบุ๊ก "Thon Thamrongnawasawat" สรุปเรื่องดังกล่าว โดยมีเนื้อหาดังนี้
วันนี้ผมให้สัมภาษณ์เรื่องหิ้งน้ำแข็งหลุดจากขั้วโลกใต้ เลยสรุปเรื่องมาบอกเพื่อนธรณ์ #เมื่อขั้วโลกใต้กรีดร้อง #เวลาของเราใกล้หมดแล้ว
โลกกำลังร้อนขึ้น ปัญหาใหญ่มาจากการกระทำมนุษย์ ก๊าซเรือนกระจกคือตัวการสำคัญ เรื่องนั้นพวกเรารู้กันดีแล้ว
สหประชาชาติพยายามหาทางให้คนทั้งโลกมาร่วมมือ จนเกิด Paris Agreement ที่อาจช่วยผ่อนหนักเป็นเบา แต่จู่ๆ นายทรัมป์ก็บอกว่าอเมริกาขอถอนตัวเฉยเลย แถมยังบอกว่าโลกร้อนเป็นเรื่องตลก ฮ่าๆ ตรูไม่เชื่อเฟ้ย
โป๊ะ...แคร็ก ส่วนหนึ่งของหิ้งน้ำแข็งขนาดยักษ์ชื่อ Larsen C แตกเปรี๊ยะหลุดจากขั้วโลกใต้ (แล้ว Larsen A กับ B หายไปไหน ? คำตอบคือแตกไปก่อนหน้านี้และละลายไปหมดแล้วฮะ)
ส่วนที่แตกออกมาของ Larsen C เป็นการแตกตัวของน้ำแข็งขั้วโลกใต้ ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีการบันทึก ขนาด 5,300 ตร.กม. ใหญ่กว่ากรุงเทพเกือบ 4 เท่า (กรุงเทพมีพื้นที่ 1,500 ตร.กม.)
นอกจากใหญ่ ยังหนาถึง 350 เมตร... -
ปฐมบท.."สมเด็จลุน ผู้วิเศษเหนือโลก" เรียนวิชาจากตำราในหอไตร ห้ามสึกตลอดชีวิต นั่งกรรมฐานไม่ขาดแม้วันเดียว!! จนอิทธิฤทธิ์เหนืออื่นใด..
สมเด็จลุน ผู้วิเศษเหนือโลกแห่งประเทศลาว
หากจะกล่าวถึงสุดยอดพระอภิญญาที่เลื่องชื่อในยุคนั้น ต้องหนีไม่พ้น “สำเร็จลุนแห่งนครจำปาศักดิ์” ท่านเป็นพระที่ทรงอภิญญา มีปฏิปทาทางพระโพธิสัตว์ หวังพุทธภูมิเป็นเบื้องหน้า ไม่ได้หวังเอาแค่นิพพานในปัจจุบันชาติ แต่ท่านหวังจะสำเร็จเป็นพระสัพพัญญูสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์หนึ่งในภายภาคหน้า ประวัติความเป็นมาของท่านลี้ลับยิ่งนัก บางคนเชื่อว่าท่านมีอายุยืนยาวมานานนับพันปี การตายของท่านนับเป็นการตายหลอกๆ เท่านั้น
มีความเชื่อกันว่าท่านมีตัวยาอายุวัฒนะที่ทานเข้าไปแล้วจะมีอายุขัยยาวนานได้ถึง ๓ พันปี บางท่านกล่าวว่าสำเร็จลุนท่านใช้อำนาจทางอภิญญาสมาบัติเดินไต่ไปบนผิวน้ำ ข้ามแก่งลี่หลี่ผีสีทันดร จนถึงต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ที่เรียกว่า “ต้นไทรมณีโครธ” เป็นไม้ใหญ่อายุนับพันปี อยู่กลางแก่งหลี่ผี ชาวบ้านร่ำลือว่า สำเร็จลุนท่านเป็นผู้มีบุญญาวาสนาได้ทาน “หมากไม้มณีโครธ”
เรื่องราวของสำเร็จลุนนั้นถูกเล่าขานกันอย่างยิ่งถึงปาฏิหาริย์ความลี้ลับมหัศจรรย์ ทั้งชาวลาว และชาวไทย เช่นว่า ท่านจะมากราบพระธาตุพนมทุกปี บางทีก็เดินมาบนผิวน้ำ บางทีก็ล่องหนหายตัวมา... -
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว( ร. ๙ ) ได้ทรงบำเพ็ญ อักโกธะบารมี (ความไม่โกรธ) ให้เป็นที่ประจักษ์ฯ
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว (ร.๙) ได้ทรงบำเพ็ญ
อักโกธะบารมี (ความไม่โกรธ)
ให้เป็นที่ประจักษ์ใจทั้งในหมู่ประชาชนชาวไทย และต่างชาติ
ที่ปุถุชนน้อยคนนักจะทำได้
การที่ประเทศไทยมีพระมหากษัตริยาธิราชผู้ทรงบำเพ็ญอักโกธะบารมี หรือความไม่โกรธได้อย่างมั่นคงเช่นนี้ จึงทำให้ประเทศไทยสามารถรักษาสัมพันธไมตรีอันดีกับนานาประเทศไว้ได้ตลอดมา พระเกียรติคุณของพระองค์ในข้อนี้จึงเป็นที่ชื่นชมของชาวไทยและชาวต่างประเทศยิ่งนัก
ดังบทหนึ่งในพระราชนิพนธ์หนังสือ เรื่อง”ความทรงจำในการตามเสด็จต่างประเทศทางราชการ” ของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ
ที่ทรงเล่าเหตุการณ์ที่ทรงตามเสด็จฯ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว(ร.๙) เสด็จฯไปที่มหาวิทยาลัยเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย เพื่อรับการทูลเกล้าฯ ถวายปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ ในวันที่ 3 ก.ย. 2505
ในวันนั้นเองพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว (ร.๙) ทรงถูกท้าทายจากกลุ่มนักศึกษากลุ่มหนึ่งที่มีความคิดรุนแรง ส่งเสียงโห่ฮาลบหลู่ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ได้ทรงบรรยายถึงเหตุการณ์ ในพระราชนิพนธ์ ความตอนหนึ่งว่า... -
ปอบมีจริง??? หลวงปู่ดู่เล่า ครั้งหนึ่งเคยเกือบเรียน “วิชาปอบ” เพราะมีคนนำตำราผีปอบมาให้ จนมีควายตายปริศนา เผาตำราทิ้งแทบไม่ทัน!!
เรื่องของผีปอบ นับเป็น ผีที่ฮือฮามากโดยเฉพาะจากทางภาคอีสาน โดยเชื่อกันว่า ผีปอบคือผู้ที่มีวิชาไสยศาสตร์ มนต์ดำจนแก่กล้า สามารถใช้อำนาจอันเข้มขลังจากเวทมนตร์คาถาไปกระทำร้ายหรือทำลาย ชีวิตผู้อื่นได้ เช่น ทำ เสน่ห์ยาแฝด ฝังรูปฝังรอยเสกหนังควาย เสกตะปูเข้าท้อง หรือใช้มนตราบังคับวิญญาณ ภูตผีไปเข้าสิง
แต่ด้วยวิชาไสยศาสตร์เหล่านี้ก็มีข้อห้าม ข้อปฏิบัติกำกับอยู่ด้วยเช่นกัน โดยผู้ที่มีวิชาอาคมทางไสยศาสตร์ พระพุทธเจ้าทรงระบุว่า เป็นเดียรฉานวิชา จะต้องระวังไม่ให้ละเมิดข้อห้าม ข้อปฏิบัติโดยเด็ดขาด หากกระทำผิดข้อห้าม ชาวอีสานจะเรียกกันว่า "คะลำ" จะเกิดโทษหนักในข้อ "ผิดครู" วิญญาณบรมครู จะลงโทษ ให้กลายเป็น "ปอบ"
หรืออีกประการหนึ่งของผู้ที่กลายเป็นปอบก็คือ เล่นคาถาอาคมอย่างคลั่งไคล้ และใช้ความขลังแห่งวิชา มนต์ดำไปทำลาย ทำร้ายผู้อื่นอย่างไม่กลัว บาปกลัวกรรมกระทำชั่วเป็นอาจิณกรรม กระทั่งถูกอาถรรพณ์ของไสยเวทย์ย้อนกลับมาเข้าตัวเองกลายเป็นปอบไปในที่สุด
เรื่องของผีปอบ ถึงแม้จะโด่งดังในภาคอีสาน ทว่าในภาคอื่นๆก็พบเช่นกัน ครั้งหนึ่งหลวงปู่ดู่ วัดสะแก แห่งพระนครศรีอยุธยา ได้พบกับผู้ที่มีวิชาปอบ... -
รู้จักกับพระโพธิสัตว์ กว่าจะเป็นพระพุทธเจ้าได้ ต้องทำแบบนี้
การบำเพ็ญประโยชน์ทั้งแก่ตนเองและผู้อื่น เรียกว่าการบำเพ็ญคุณธรรมที่จะทำให้เป็นพระพุทธเจ้า (พุทธการกธรรม) หรือเรียกว่า “บารมีธรรม” ที่พระโพธิสัตว์จะต้องบำเพ็ญให้บริบูรณ์มี ๑๐ ประการคือ
๑.ทาน ได้แก่ การสละให้สิ่งที่สละให้มี ๓ ระดับ คือ
- ทรัพย์สิ่งของภายนอก
- อวัยวะในร่างกายของตน
- ชีวิตตนเอง หรือสิ่งเสมอด้วยชีวิตตน คือ บุตรภรรยา
๒.ศีล ได้แก่ คุณธรรมเครื่องปราบกิเลสอย่างหยาบได้แก่ กิเลสที่เกิดขึ้นแล้ว ทำให้ไม่สามารถยับยั้งใจไว้ได้ต้องลงมือกระทำความชั่วไม่ว่าจะเป็นทางกายหรือทางวาจา ศีลที่พระโพธิสัตว์รักษามี ๒คือ
-นิจศีล (ศีล ๕)
- อุโบสถศีล (ศีล ๘)
๓.เนกขัมมะ ได้แก่ การออกจากกาม มี ๒ คือ
- ออกจากกามโดยสละบ้านเรือนออกบวช
- ออกจากกามโดยบำเพ็ญสมาธิจนได้บรรลุญาณ
๔.ปัญญา ได้แก่ ความรอบรู้ ความรู้อย่างลึกซึ้ง มี๓ คือ
- สุตมยปัญญา ปัญญาอันเกิดจากการศึกษาเล่าเรียน
- จินตามยปัญญาปัญญาอันเกิดจากการคิดพิจารณา
- ภาวนามยปัญญา ปัญญาอันเกิดจากการฝึกจิตอบรมจิต
๕.วิริยะได้แก่ความพากเพียรพยายาม การกระทำอย่างต่อเนื่อง ในทางที่ถูกต้องเรียกว่า สัมมัปปธาน มี๔ อย่างคือ
- สังวรปธาน... -
เสียงธรรม ฟังธรรมคลิปนี้จิตรวมเป็นสมาธิได้ไวมาก รู้ทันจิต โดย หลวงพ่อสนอง กตปุญโญ
ฟังธรรมคลิปนี้จิตรวมเป็นสมาธิได้ไวมาก
รู้ทันจิต โดย หลวงพ่อสนอง กตปุญโญ
ปลดล็อค :- Published on Jul 14, 2017 -
ฆราวาสบรรลุพระอรหันต์ ต้องตายภายใน 7 วันหรือไม่ ?
ฆราวาสบรรลุพระอรหันต์ ต้องตายภายใน 7 วันหรือไม่
ผู้ถาม :- “ทีนี้ถ้าบวชเป็นแม่ชีแล้วสำเร็จเป็นอรหันต์ จะอยู่ได้กี่วันครับ…?”
หลวงพ่อ :- “ถ้าเป็นอรหันต์นะไม่เกินพรุ่งนี้ตาย คือว่าชีหรือฆราวาสก็มีสภาพเท่ากันละ เขาไม่ได้ถือว่าเป็นภิกษุณี คำว่า ชี รักษาศีล ๕ บ้าง รักษาศีล ๘ บ้าง ฆราวาสเขาก็รักษาได้ คือว่ามีเวลาปลีกตัวออกจากบ้านไปนุ่งขาวเท่านั้นเอง และสภาวะทุกอย่างก็เหมือนฆราวาส ฉะนั้นจะทรงความเป็นอรหันต์อยู่ไม่ได้ เป็นอรหันต์ก็ต้องนิพพาน”
พระราชพรหมยาน(หลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง)
จากหนังสือ หลวงพ่อตอบปัญหาธรรม ฉบับพิเศษ เล่ม ๔ หน้า ๘๒-๘๗
****************************
ถาม : อย่างคนที่จะบรรลุอรหันต์ ถ้าไม่บวชเป็นพระแล้วจะตายภายใน ๗ วัน อย่างถ้าบวชเป็นเณรหรือบวชในนิกายอื่นเช่นมหายาน ?
ตอบ : ขอให้เป็นพระภิกษุสงฆ์ก็แล้วกัน เพราะว่าพระอยู่ในเพศสูงที่เขาให้ความเคารพ คนเขาไม่ล่วงเกินอยู่แล้ว ถ้าเราเป็นฆราวาสอยู่ คนที่ไม่รู้เป็นประเภทเพื่อนกันมาตบหัวเล่น ไอ้นั่นก็ซวยไปตลอดชาติและอีกหลายๆ ชาติ เมื่อเป็นดังนั้น ถ้าเป็นฆราวาสอยู่จึงจำเป็นต้องตัดให้ตายไปเลย จะได้ไม่ไปเป็นโทษกับผู้อื่น
ถาม :... -
การตักบาตร มหากุศลอันแรงกล้า ชาวพุทธควรยืดถือปฏิบัติ
การตักบาตร คือการเอาข้าวและกับข้าวใส่ลงไปในบาตรของพระภิกษุสามเณร เราจะตักบาตรเป็นประจำทุกวันหรือเฉพาะวันพระหรือวันคล้ายวันเกิดของตนก็แล้วแต่ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับศรัทธา กำลังทรัพย์ และความสะดวกของตน
การทำบุญตักบาตร เป็นกิจที่ชาวพุทธนิยมทำกัน เป็นการช่วยสืบต่ออายุพระพุทธศาสนา เพราะพระภิกษุสามเณรเป็นผู้สละโลก ไม่ได้ประกอบอาชีพใด ๆ ทั้งสิ้น นอกจากจะปฏิบัติศีล สมาธิ ปัญญา เพื่อขัดเกลาตนเองและนำความรู้ไปแนะนำสั่งสอนพุทธศาสนิกชนให้ประพฤติดีละเว้นความชั่ว และทำจิตใจให้สะอาด ผ่องใส
การทำบุญตักบาตรที่ถือว่าได้บุญมากนั้นจะต้องมีองค์ประกอบ ๓ ประการ คือ
๑. วัตถุสิ่งของสำหรับทำบุญต้องบริสุทธิ์ หมายความว่า เงินทองที่นำมาจับจ่ายซื้อสิ่งของมาทำบุญต้องได้มาด้วยความสุจริต ไม่คดโกงหรือขโมยใครมา เป็นของบริสุทธิ์ ไม่ได้เบียดเบียนชีวิตสัตว์ คือไม่ได้ฆ่าสัตว์มาทำบุญ และวัตถุที่นำมาทำบุญนิยมคัดเลือกของที่มีคุณภาพดี อย่างน้อยก็ไม่เลวกว่าที่เรากินเราใช้อยู่เป็นปกติ ชาวพุทธ เมื่อจะใส่บาตรจึงนิยมตักบาตรด้วยข้าวปากหม้อ ถ้าเป็นแกงก็แกงถ้วยแรกที่ตักจากหม้อ เป็นต้น
๒. เจตนาของผู้ถวายต้องบริสุทธิ์ หมายความว่า... -
เปิดตำนาน "วิชาปรอท" ...เผยธรรมเนียมของพระอภิญญา ล้วนกระโดดลงจากยอดเจดีย์ เมื่อสำเร็จวิชาปรอท !
ธรรมเนียมของพระอภิญญา
วิชาปรอท เป็นหนึ่งในวิชามหัศจรรย์ที่คนโบราณพยายามคิดค้นและพยายามทำให้สำเร็จ แต่มีน้อยคนนักที่จะสำเร็จปรอทขึ้นมาได้ ปรอทตามธรรมชาติเป็นโลหะธาตุเหลว และแม้ว่าจะเป็นโลหะเหลวที่ยังไม่ได้หุง แต่ก็มีอำนาจในตัว เช่นมีอำนาจด้านการกันไข้ป่า และโรคภัยต่างๆ และหากนำมาฆ่าพิษปรอท และหุงขึ้นรูปจนสำเร็จปรอทออกมาแล้วก็ยิ่งมีอานุภาพมากขึ้นทั้งคงกระพันชาตรี มีตบะอำนาจ เมตตามหานิยม กันโรคภัยไข้เจ็บและทำให้อายุวัฒนะยืนยาวอีกด้วย คนที่มีปรอทวิเศษ ท่านว่ารางกายจะเบาเหมือนประหนึ่งว่าจะลอยได้ แต่หากสำเร็จขั้นสูงสุดก็จะสามารถเหิรฟ้านภากาศไปไหนต่อไหนได้ตามใจชอบ จะไปฟ้าป่าหิมพานต์ก็ยังได้
สมัยที่หลวงพ่อโอภาสีอยู่วัดบวรนิเวศน์ เคยสร้างข่าวครึกโครมตื่นตระหนก ด้วยหลังจากหุงปรอทและสำเร็จปรอท ท่านก็ปีนเจดีย์ไปถึงยอดแล้วกระโดดลงมาตัวปลิว ไม่ได้รับอันตรายแต่อย่างใดกระโดดลงมาเสร็จก็เดินเข้ากุฏิหน้าตาเฉยเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ตอนที่ท่านไปปักกลดที่วัดศรีประวัติ... -
อานิสงส์ปล่อยปลา - พระอาจารย์เล็ก วัดท่าขนุน
<< อานิสงส์ปล่อยปลา >>
พระอาจารย์เล่าว่า "อาตมาปล่อยปลาครั้งแรกเมื่อ ๑ มกราคม ๒๕๒๙ เพราะหลวงพ่อวัดท่าซุงบอกว่า "เล็ก..แกเป็นทหารมาทุกชาติ ฆ่าเขาเอาไว้เยอะ เศษกรรมจะทำให้ป่วยบ่อย เพราะฉะนั้น ให้ไปปล่อยปลาที่เขาขายเพื่อฆ่าสักเดือนละตัวสองตัวเป็นประจำ จะช่วยให้บรรเทาเศษกรรมตรงนี้ได้"
อาตมาจึงถามว่า "ปล่อยปลามันต่ออายุไม่ใช่หรือครับ? ผมไม่อยากอายุยืน" หลวงพ่อบอกว่า "แกอย่าเพิ่งเข้าใจผิด การปล่อยชีวิตสัตว์ที่เขาจะถูกฆ่า จะเป็นการต่ออายุก็ต่อเมื่อเรามีอุปฆาตกรรมเข้ามา แต่ถ้าไม่มีอุปฆาตกรรมเข้ามา การปล่อยปลาตรงนี้จะทำให้ชีวิตสะดวกสบาย"
หลังจากที่ปล่อยมาได้ประมาณ ๒๐ ปี ก็ได้ยามาตัวหนึ่งที่พอบรรเทาอาการป่วยได้ ไม่อย่างนั้นโยมมาเจออาตมานั่งหน้าเหี่ยวอยู่ตรงนี้แน่ ไม่ได้รื่นเริงอย่างที่เห็นหรอก ก็แสดงว่าที่หลวงพ่อพูดมันบรรเทากรรมที่มาจากปาณาติบาตได้จริง อาตมาอยากจะลองดูว่าถ้าครบ ๔๐ ปีแล้วมันจะหายไหม? ปล่อยใช้ชีวิตเขาไปเรื่อย ๆ
เวลาป่วยหนัก ๆ ก่อนจะหาย อาตมาจะเห็นภาพว่าตัวเองไปทำอะไรมาจึงป่วย อาตมาเกิดเป็นทหารมาทุกชาติ บางครั้งก็กวาดเขาหมดทั้งกองทัพเลย"
พระครูวิลาศกาญจนธรรม
(หลวงพ่อเล็ก... -
เสียงธรรม หลวงพ่อแช่ม วัดตาก้อง อาจารย์ของขุนพันธ์จอมขมังเวทย์
หลวงพ่อแช่ม วัดตาก้อง อาจารย์ของขุนพันธ์จอมขมังเวทย์
หลวงพ่อแช่ม วัดตาก้อง อาจารย์ของขุนพันธรักษ์ราชเดช เป็นเรื่องราวที่เล่าถึงพุทธาคมของหลวงพ่อแช่ม วัดตาก้อง -
VDOและภาพงานถวายตุงสุริยัน-จันทราและเครื่องจักพรรดิ์(ชเวดากอง-อินแขวน) ประเทศพม่า
สวัสดีญาติธรรมและท่านเจ้าภาพที่ได้ร่วมบุญในครั้งนี้ทุกๆท่าน
การเดินทางไปแสวงบุญที่ประเทศพม่าในครั้งนี้ ถือเป็นทริปที่วิเศษอีกทริปหนึ่ง ที่สร้างความประทับใจกับคณะที่ติดตามทุกๆท่าน
ครั้งนี้เราได้ถือโอกาสไปทำบุญในช่วงอาสาฬหบูชาและเข้าพรรษา ถึงแม้จะเป็นช่วงฤดูฝน แต่พวกเราก็ไม่หวั่น มีศรัทธาอันแรงกล้าที่จะนำเครื่อง"จักรพรรดิ" และ”ตุงสุริยัน-จันทรา”ไปถวายให้ทันในวันอาสาฬหบูชาเพื่อจะได้ถวายในพิธี"ห่มผ้าพระ"ของชาวพม่าในวันเพ็ญขึ้น15ค่ำเดือน8 ของทุกปี โตจิตนาการไม่ออกจริงๆว่าในวันสำคัญทางพระพุทธศาสนาของประเทศพม่าจะเป็นเช่นใด เพราะยังไม่เคยมีประสบการณ์มาก่อนเลย
เคยได้ยินแต่คำบอกเล่าจากผู้ประสานงานที่ประเทศพม่าว่าต้องมาให้ได้ ครั้งที่แล้วที่ไปพม่า คือหลังออกพรรษาแล้ว ครั้งนี้จึงถือเป็นครั้งแรกที่ได้ร่วมในวันสำคัญทางพระศาสนาจริงๆ ซึ่งทำให้ได้เข้าใจถึงวิถีชีวิตและศรัทธาของประชาชนชาวพม่าอย่างลึกซึ้ง(และสร้างความตราตรึงใจไม่รู้ลืม) อีกเหตุการณ์หนึ่งที่โตและน้องๆเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องมาพม่าในครั้งนี้เพราะเมื่อครั้งที่แล้วได้มีโอกาสไปกราบสักการะวัดพระจีนที่ในตัวเมือง(China Town)... -
ปิดรับบริจาค เชิญร่วมทอดกฐินกับโครงการกฐินแสนกอง ปีที่ 12 พ.ศ. 2560
เชิญร่วมทอดกฐินกับโครงการกฐินแสนกอง ปีที่ 12 พ.ศ. 2560
เริ่มทอด เดือน ตุลาคม 2560
บุญใหญ่ หนึ่งปีมีครั้งเดียว เราทอดกฐิน 1กองต่อ1 วัด
เราทยอยทอดไปเรื่อยๆหลายปี รวมจนให้ครบแสนกอง
ในปี 2559 โครงการเราได้ทอดกฐินไปแล้ว 5,201 กอง
โครงการกฐินแสนกองเปรียบเสมือนสายฝนตกลงมาเม็ดเล็กๆ
ที่ตกกระจายครอบคลุมพื้นที่จำนวณมาก
สร้างประโยชน์ให้พระในวัด กระจายในวงกว้าง ครอบคลุมทั่วประเทศไทยและในต่างประเทศ เป็นการจรรโลงพระศาสนาให้รุ่งเรืองถาวรสืบไป
ผู้ที่ได้ทำบุญก็ได้ชื่อว่าเป็นผู้ค้ำจุนพระศาสนาผู้ที่ได้รับคือพระภิกษุ สงฆ์ได้อาศัยปัจจัยสี่เป็นการดำรงขึ้นให้มีติดอยู่เพื่อปฏิบัติธรรม เพื่อสั่งสอนธรรมแก่ชาวโลกเป็นการสืบศาสนาให้ถาวร ซึ่งชาวพุทธควรจะปฏิบัติพิธีอันดีงามนี้ให้ถาวรสืบไป
กำหนดจิตแสนครั้ง ฝึกจิตแสนครั้ง
ได้อานิสงส์ คูณแสน ได้พลังบุญมหาศาลแสนเท่าตัว
ดำเนินการโดยเราเปิดรับบริจาคและเราจะโอนเงินทางธนาคารเข้ากับกองกฐินวัดโดยตรงและคณะกฐินอื่นๆเพื่อไปทอดกฐินกับวัด-สำนักสงฆ์
และแบ่งเงินออกเท่าๆกัน เงินทีท่านบริจาคมาส่วนหนึ่งจะเฉลี่ยออกเป็นค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับโครงการกฐิน เช่น... -
“สัตว์ที่เกิดมาแล้วจักไม่ตายไม่มี” แม้แต่หลวงปู่สรวงก็ไม่ปฏิเสธ
วันนี้จะพูดถึงเรื่องความตาย เพื่อให้ระลึกถึงความตาย ท่านทั้งหลายอย่าเพิ่งคิดว่าไม่เป็นมงคล เพราะแท้จริงแล้วนั้น ผู้ใดระลึกถึงความตายเป็นอารมณ์ ถือว่าได้เจริญมรณานุสสติกรรมฐาน มีอานิสงส์มาก เป็นผู้ไม่ประมาทในธรรม ความไม่ประมาทในธรรมนี้ ชื่อว่าเป็นมงคลอย่างสูงสุดทีเดี่ยว เราทั้งหลายเคารพและบูชาหลวงปู่สรวง เทวดาเดินดิน ซึ่งเราทั้งหลายเชื่อว่าท่านอายุมากไม่น้อยกว่าร้อยปีหรือหลายร้อยปี แต่ก็ไม่มีใครทราบอายุที่แน่นอนของท่าน ในสมัยที่ท่านมีชีวิตอยู่ เล่าลือกันว่าท่านเป็นอมตะ ไม่รู้จักมรณะ (ตาย) แต่แท้ที่สุดแล้วหลวงปู่ท่านก็ไม่อาจจะหลีกหนีพ้นความตายไปได้ หลวงปู่ได้ละสังขารเมื่อวันที่ ๘ กันยายน ๒๕๔๓ บัดนี้ก็ล่วงแล้วก้าวเข้าสู่ปีที่ ๑๗ ดังนั้น วันนี้จึงจะกล่าวถึงความตาย เพื่อย้ำเตือนสติให้ทุกท่านอย่าได้หลงว่าเราอายุยืน จากคำสอนพระพุทธเจ้าอ้างอิงเอาพระสูตรเดียวก็ทำให้เราเข้าใจได้ว่าชีวิตนี้ไม่ควรประมาทเลยแม้ตลอดทุกลมหายใจเข้าออก
ซึ่งความตายที่ปรากฎใน อรกสูตร ว่าด้วยครูชื่ออรกะ ท่านอุปมาอุปมัยไว้หลายประการ เพื่อให้เราได้กำหนดพิจารณาว่า ชีวิตของมนุษย์ทั้งหลายมีประมาณน้อย เล็กน้อย รวดเร็ว... -
เสียงธรรม หลวงปู่ฤาษีลิงดำ ธุดงค์13และปฏิปทาปฏิบัติ
หลวงปู่ฤาษีลิงดำ ธุดงค์13และปฏิปทาปฏิบัติ
ช่างเล็กบ้านทีวี เมืองมะขาม :- Published on Feb 1, 2017 -
"เดือดร้อนอะไรให้บอกกูนะ กูชื่อสรวง" อิทธิเหนือโลก พาศิษย์ดู..เหล็กไหลใต้แม่น้ำโขง เหาะบนอากาศให้ถ่ายรูป "หลวงปู่สรวง เทวดาเดินดิน"...
"เดือดร้อนอะไรให้บอกกูนะ กูชื่อสรวง"
ขอรายงานตัวอีกหนึ่งศิษย์ลป.สรวงครับ....ตัวผมเริ่มรู้เรื่องลป.สรวงก็เมื่อประมาณ 10 ปีเห็นจะได้ เพราะไปเห็นรูปถ่ายในกระเป๋าตังค์ของรุ่นพี่ท่านหนึ่ง ก็เลยถามว่าเป็นใคร พี่เค้าก็บอกว่า ชื่อลป.สรวง แล้วเค้าก็เล่าความเป็นมาของรูปนี้ให้ฟังว่า....
....ประมาณปี 35 พี่เค้าเป็นผู้ช่วยผู้ตรวจการธนาคารอะไรซักแห่งที่สกลนครครับ ซึ่งตอนนั้นเค้าเป็นคริสเตียนอยู่ แล้ววันหนึ่งพี่เค้าก็เดินทางโดยรถของธนาคารไปธุระต่างจังหวัด ขับๆมาเลียบน้ำโขง จนมาถึงระยะหนึ่งพี่เค้าก็ปวดห้องน้ำมากๆ(เบาครับ) ก็เลยขอลงข้างทางพอเรียบร้อย
นึกยังไงไม่รู้ว่าขออยู่ข้างน้ำโขงนี้ก่อน ให้รถเข้าเมืองไปก่อนแล้วค่อยกลับมารับ(ซึ่งเค้าก็ไม่รู้ว่าทำไม) พี่เค้าบอกว่าก็อยากเดินๆดูอะไรข้างน้ำโขงนี้แหละ สักพักพอจะเดินกลับหันหลังก็ตกใจ มีพระแก่ๆนุ่งผ้าไม่เรียบร้อยสะพายย่าม มายืนอยู่ ตัวแกซึ่งตอนนั้นเป็นคริสก็ถามไปว่า"หลวงตามายังไงเนี๊ยะ" ลป.สรวงก็บอกว่า "ก็มารอมึงไง"(ท่านพูดภาษาไทยครับ)
พี่เค้าก็เลยถามว่า "รอทำไม" ลป.สรวงว่า "ก็ไม่ได้เจอกันนาน" พี่เค้าก็คุยๆไปเรื่อยเปื่อยถามนั่นถามนี่ไปเรื่อย... -
เรื่องเล่าปริศนาธรรมกับไซอิ๋วโดยท่านเขมา นันทะ ตอน บทที่ ๑ การเดินทาง (กิเลสมูล ๓ ดุจ ๓ ปีศาจ)
เรื่องเล่าปริศนาธรรมกับไซอิ๋วโดยท่านเขมา นันทะ ตอน บทที่ ๑ การเดินทาง (กิเลสมูล ๓ ดุจ ๓ ปีศาจ)
ดูโน่นแน่ะ พระถังซัมจั๋งนั่งบนหลังม้าพระราชทาน กำลังดุ่มไปตามทางสู่ป่าใหญ่ เช้าตรู่ของวันแรกของการเดินทางนี้ มีหมอกลงจัดสองข้างทาง พระถังซัมจั๋งจึงเดินวนเวียนหลงทางไปถึงภูเขาซังขี้ซัว(สองแพร่ง) และทันใดนั้น พื้นดินก็พลันยุบฮวบลง พร้อมด้วยเสียงหัวเราะดังก้องป่าของปีศาจเสืออิ๊มเจียงกุนท่วนหม้ออ๋อง เพราะมันสะใจที่จะได้กินเนื้อพระภิกษุผู้อุตริคิดจะไปไซที
พระถังอกสั่นขวัญหาย เมื่อปีศาจตะโกนเรียกเพื่อนอีกสองตน คือ ปีศาจหมีซัวกุนอ๋องและปีศาจควายดำเต็กชู้ลืออ๋องดังขรมเพื่อให้มากินเลี้ยงกัน
รูป : แหม สนุกจริงครับ น่าหวาดเสียว พระถังซัมจั๋งผจญปีศาจทั้ง ๓ ตั้งแต่วันเริ่มออกเดินทางไปอินเดียทีเดียว
โหงว : นี่แน่ ถ้าหากเจ้ามีจิตเลื่อนลอยมาอยู่ที่รสสนุกของเรื่องราวภูตผีชั้นเปลือกเหล่านี้ เจ้าจะพลาดจากสาระ
รูป : สาระของไซอิ๋วก็อยู่ตรงสนุกนี่ พระถังผจญผี โกหกมดเท็จไปตลอดทาง จนถึงอินเดียมิใช่หรือ ?
โหงว : เจ้าเซ่อ มองเข้าไปในใจของเจ้าที่นี่และเดี๋ยวนี้ ก็จะพบพระถังซัมจั๋งกำลังหล่นลงในหล่มปีศาจ
รูป :... -
เผยวิธีแก้เคล็ด คนเข้าสู่วัย “เบญจเพส” กับสิ่งที่อาจจะเกิดขึ้น ตามวันเกิด !!
เรื่องราวของความเชื่อในเลขอาถรรพ์ 25 ที่ว่ากันว่าเป็นวัยที่เข้าสู่ เบญจเพส ที่วัยรุ่นทุก ๆ คนจะต้องผ่านช่วงเวลานี้ ซึ่งมักจะมีเหตุการณ์ร้ายแรงต่าง ๆ เกิดขึ้นโดยที่เราไม่คาดคิดมาก่อน ไม่ว่าจะเป็นอุบัติเหตุ การเจ็บป่วยทางร่างกาย หรือมีปัญหาต่าง ๆ นานา รุมเร้าเข้ามาให้คิดไม่ตก ซึ่งไม่ว่าจะเหตุการณ์อะไรก็ตามที่มาเกิดในช่าวงอายุ 25 นี้ ถือได้ว่าเป็นสิ่งที่ไม่ดีทั้งสิ้น เนื่องจากหมอดูชื่อดังเคยบอกเอาไว้ว่า เป็นช่วงเวลาที่ การจัดธาตุในดวงชะตาของเรานั้น มีความแปรปรวนเกิดขึ้น ทำให้ดวงชะตามีความไม่แน่นอนชัดเจน คาดเดาได้ลำบาก
หมอดูบางท่านบอกว่า เบญจเพส ไม่ได้หมายถึงอายุ 25 เพียงเท่านั้น แต่ยังหมายถึงช่วงอายุที่ลงท้ายด้วยเลข 5 เสมอ เช่น 35,45,55 ซึ่งเรื่องร้ายที่จะเกิดขึ้นนั้น สามารถแบ่งออกเป็นตามวันเกิดของแต่ละคนได้
คนเกิดวันอาทิตย์ ช่วงหกเดือนแรกต้องระวังจะเกิดคดีความ จะถูกใส่ร้ายป้ายสีจะเสียทรัพย์สินเสียชื่อเสียงสุขภาพเสื่อมโทรมลง สายตามีปัญหา จะเป็นโรคลมโรคหัวใจ พอถึงหกเดือนหลังความร้ายเริ่มคลี่คลาย
คนเกิดวันจันทร์ ช่วงหกเดือนแรกจะได้พบคู่ที่ถูกใจจะ เป็นที่ต้องตาต้องใจจากเพศตรงข้าม...
หน้า 354 ของ 405