sex กับการปฏิบัติธรรม วิปัสสนากรรมฐาน

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย mackenfy, 29 มกราคม 2011.

  1. mackenfy

    mackenfy สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มกราคม 2011
    โพสต์:
    25
    ค่าพลัง:
    +2
    ถ้าเราจะปฏิบัติเราต้องละเว้นจากเรื่องนี้หรือเปล่าครับ หมายถึงกับคนที่เรารักคนเดียวนะ ไม่ได้ไปผิดลูกผิดเมียใคร และมันจะเป็นตัวถ่วงต่อการปฏิบัติหรือเปล่า เพราะมันดูเหมือนกับเป็นการตัดกิเลสเรื่องนี้ไม่ได้ถ้าเรายังมีเรื่องนี้มาเกี่ยวข้อง
     
  2. bluebaby2

    bluebaby2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2010
    โพสต์:
    2,471
    ค่าพลัง:
    +4,287
    การตัดกิเลศข้อนี้ไม่ใช่แค่เพียงเลิกมีเพศสัมพันธ์ไปเลย กามนั้นมันรวมถึงอะไรอีก
    หลายๆ อย่าง การเสพอารมณ์ทาง ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ แม้แต่การฟังเพลงแล้ว
    อินกับเนื้อหาของเพลง การมองเพศตรงข้ามที่รู้สึกดึงดูดโดยไม่รู้ตัวเป็นอารมณ์เคย
    ชินที่สะสมมานานมาก หรือถ้าเลิกมีเพศสัมพันธ์ไปแล้วเราก็ต้องคอยห้ามใจอยู่ตลอด
    อย่างนี้ก็ไม่เรียกว่าหนีพ้น เมื่อคุณล้มเลิกคุณจะยิ่งบ้า sex หนักกว่าเดิมอีก สำหรับผม
    ทางเดียวที่จะละกิเลศข้อนี้ได้คือมีสติให้มาก เมื่อจิตใจเราละเอียดเราจะไม่สนใจ กาม
    มากนักแล้วถ้าสติเราอ่อนกำลัง กิเลศข้อนี้มันจะมีพลังขึ้นมาเลย เราก็พิจารณาอสุภ
    กรรฐาน มองเห็นเป็นสิ่งไม่งามเข้าสู้ไปเมื่อเริ่มมีสติแล้วก็เจริญสติต่อไป
     
  3. คิดดีจัง

    คิดดีจัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มกราคม 2010
    โพสต์:
    1,626
    ค่าพลัง:
    +5,353
    กำลังคิดอยู่ว่าถ้าลด ละ เลิก กามได้ การปฏิบัติธรรมหน้าจะก้าวหน้าไปได้เป็นอย่างดีนะ

    ครับ ค่อยๆเลิกและถอยห่างออกมาที่ละเล็กละน้อย อย่างหยุดเลยที่เดียว มันจะบ้าเอานะ

    ครับ เพราะรองมาแล้ว ฟุ้งซ้านเลย ต้องค่อยๆพิจารณาถึงความไม่เทียง ว่าอารมณ์กามนั้น

    มันก็ไม่เทียง เกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไป

    เป็นกำลังใจให้ทุกท่านที่จะละซึ่งกาม ซึ่งเป็นมารตัวที่ร้ายกาดมากๆเลยครับ ถ้าละตัวนี้ได้

    อย่างอื่นก็ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไปครับ
     
  4. oatthidet

    oatthidet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    3,498
    ค่าพลัง:
    +1,876
    สิ่งที่ผมจะกล่าวนั้น ผมอยากชี้ให้เห็นถึงสิ่งที่เรียกว่า"sex"ที่เจ้าของกระทู้ถาม

    ขนาดพระโสดาบันท่านยังละไม่ได้ แล้วคนธรรมดาจะละได้เหรอ

    ลองมองดูความเป็นจริงที่เกิดกับคุณในขณะนี้ดู

    การที่เราจะละกิเลสนี้ได้เราต้องเห็นถึงสภาพความเป็นจริงเสียก่อน

    ร่างกายมีวันต้องสลาย แตกดับเป็นที่สุด แต่เราอยู่กับคู่ครองแล้ว เราจะทิ้งเขาให้รับภาระคนเดียวเหรอ

    การปฎิบัตินั้นเป็นไปเพื่อความเข้าใจในสภาพความเป็นจริง

    ชีวิตนั้นเป็นของเราไม่ว่าวันนี้ หรือ วันหน้า หากคุณมั่นคงในพระศาสนาแล้ว คุณก็จะรู้ว่าสมควรจะบวชเมื่อไหร่

    ขณะนี้มีหน้าที่ ที่ต้องรับผิดชอบก็ทำไปด้วยสติ บำรุงชีวิตให้เกิดแต่ความสุขในครอบครัว

    การปฎิบัติธรรมนั้นเป็นการสะสมพลังงานเพื่อที่จะเอาชนะความต้องการ ความอยากได้ ความฟุ่มเฟือย

    มองดูความจำเป็นว่าจำเป็นรึไม่ หากทำแล้วเป็นทุกข์จะทำไปเพื่ออะไร

    ธรรมะเป็นทางพ้นทุกข์ แต่หากทำแล้วเป็นทุกข์ก็ผิดทางเท่านั้น

    ค่อยๆปฎิบัติไป ไม่จำเป็นต้องรีบร้อน แต่ก็ไม่ใช่วางไว้ไม่ทำ ค่อยๆเดินตามทางไปเรื่อยๆ

    ให้ระลึกด้วยการมีสติเป็นนิตย์เท่าที่จะทำได้

    เมื่อจิตเข้าสู่กระแสแล้วก็จะเข้าใจเองว่าควรทำอย่างไร

    ขอให้เจริญในธรรมครับ
     
  5. cpari

    cpari เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    154
    ค่าพลัง:
    +184
    สาธุ สาธุ สาธุ ครับเรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญที่สุด เป็นปัญหาที่ใกล้ตัวที่สุด และมีการพูดถึงน้อยที่สุด แต่สร้างปัญหาตามมามากที่สุด
     
  6. itipizo

    itipizo Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    178
    ค่าพลัง:
    +86
    ในเบื้องต้นนั้น รักษาศีล 5 ให้มันทรงตัว
    รักษาเหมือนไม่ได้รักษา คือเป็น...สมาธิยามิให้ได้ก่อน
    แล้วเจริญสติให้ต่อเนื่อง เพื่อให้มันเป็นสัมมาสมาธิ

    เพียงแค่นี้ถ้าเอาให้ทรงตัว คุณยังนอนกอดลูกก่ายเมีย
    ได้ไปจนถึง อริยบุคคลต้นๆ
    บารมีเรายังไม่ได้สุดโต่งถึงขนาดตัดลูกตัดเมียออกบวช
    ดังนั้นทางโลกก็อย่าให้ช้ำทางธรรมอย่าให้ขุ่น

    แต่การนอนด้วยกันดังชาวโลกทั่ว ๆ ไป จะหมดไป
    ช่วงโสดาบันหลัง ๆ กามราคะ จะละเอียดลงเรื่อย ๆ

    ไม่ต้องตั้งใจจะไปละ ไปเลิกมัน เมื่อถึงเวลา
    สติมั่นคงขึ้น จิตละเอียดปราณีตขึ้น มันจะเป็นไป
    ของมันเอง อย่าไปปรุงไปแต่งมันเอง

    ปฏิบัติเยอะ ๆ ภาวนามาก ๆ แล้วจะสิ้นสงสัย
    เพราะถ้ายังสงสัย จิตยังชุ่มอยู่ด้วยนิวรณ์
    และเมื่อปฏิบัติได้ผลบ้าง อย่าได้นำมาบอกมาเล่า
    มาพูด เพราะมันจะพัง จิตจะกลับมาทรงตัวเหมือนเดิม
    ต้องใช้เวลากันอีกพอสมควร เพราะความฟุ้งในการบอก
    การเล่านี่เองฯ พูดให้น้อยๆ ทำให้มากๆ

    หลวงพ่อพุธ วัดป่าสาลวัน ท่านเคยแนะนำว่า
    อยากเห็นธรรมเร็วๆ ให้ปฏิบัติ วันละ 3 ชั่วโมง
    แบ่งเป็น 3 ครั้ง แล้วจะเห็นธรรมเร็ว

    ขออนุโมทนาบุญและให้เจริญในธรรมฯ
     
  7. อวตาร.

    อวตาร. เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    411
    ค่าพลัง:
    +633
    ถ้าถึงขนาดจะตัดกิเลสก็ต้องละกามครับ แต่ จะทำขั้นนี้ก็ต้องก้าวมาจากขั้นแรกก่อนทุกคน

    ก็อย่างโพสท่านอื่นข้างบนที่แนะนำละครับ ค่อยๆก้าวที่ละขั้น
     
  8. nuaiswat

    nuaiswat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2007
    โพสต์:
    234
    ค่าพลัง:
    +248
    ผมอ่านที่ท่านตอบกระทู้ ทุกๆกระทู้ที่คิดแล้วตรงใจเลย แต่หลายๆกระทู้ที่ไปอ่านโดยไม่รู้พอมาอ่านทัศนะของท่านก็เกิดความคิดเห็นเช่นเดียวกัน ขอบพระคุณท่านที่แนะนแวทางให้ครับ ขอให้ทุกท่านเจริญในธรรมนะครับ ผมมือใหม่ยังไม่รูอะไรเลย จะติดตามแนวทางของพระศาสดา และรับคำแนะนำของท่านทั้งหลายไปปฏิบัติครับ
     
  9. หมีแพนด้า

    หมีแพนด้า สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2011
    โพสต์:
    13
    ค่าพลัง:
    +5
    อนุโมทนาบุญด้วยค่ะ สาธุๆ
     
  10. ไม่ยึด

    ไม่ยึด เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    275
    ค่าพลัง:
    +263
    ที่ตรงใหนหลีกเล้น เป็นที่ของคนมักหลบ ที่ตรงนั้นกามราคะเกิดง่ายครับ หาที่โล่งๆพยายามอยุ่ที่โล่งๆ การจะปฏิบัติให้หลุดพ้น ต้อง ตัดรัก หักชัง ห้ามโกรธ ซึ่งถ้าพิจารณาแล้วก็คงต้องบวชไปเลยครับ ส่วนผู้ครองเรือนอย่างเราๆนี่เน้นที่ศีล 5 ทำเนคขัมมะบางคราวเท่านั้นครับ ส่วนจะออกโลกจริงๆ นี่ต้องตัดหมด ตัดทางใดนี่ต้องรอผู้รู้มาอธิบายต่อแล้วล่ะครับ
     
  11. Tboon

    Tboon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    2,094
    ค่าพลัง:
    +3,424
    เลิกหมกมุ่น...ไปทีละขั้น
     
  12. Sriaraya5

    Sriaraya5 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    3,079
    ค่าพลัง:
    +12,852
    โลกนี้ยังไม่พร้อมความรู้ใหม่
     
  13. สับสน!

    สับสน! เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 เมษายน 2010
    โพสต์:
    31
    ค่าพลัง:
    +4,062
    ภรรยา ที่ต้องรับผิดชอบ เธอต้องรับรู้และมีธรรมเสมอกับเราด้วยในข้อนี้..สำคัญมากครับ ถ้าไม่คุยให้ภรรยารู้เรื่อง เตรียมพังได้เลยครับครอบครัว
    และอย่าแอบไปชกนอกเวทีครอบครัวจะพังครับ
     
  14. Sriaraya5

    Sriaraya5 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    3,079
    ค่าพลัง:
    +12,852
    จิตปราศจากกุศลและอกุศล

    ก็เป็นนิพพานที่สมบูรณ์แบบ

    ถ้าจิตยังละอกุศลและกุศลไม่ได้

    ก็ยังไม่ใช่นิพพานที่สมบูรณ์แบบ
     
  15. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,923
    ค่าพลัง:
    +9,200
    ถ้ามันถึงเวลา มันก็เป็นไปเอง

    ถ้ายังไม่ถึงเวลา แล้วไปหักห้าม มันก็ผิดทิศผิดทาง

    เหมือนคนยังต้องกินข้าว แล้วบอกว่า กินข้าวนี้เป็นของอร่อย เป็นอันตรายต่อพรหมจรรย์ ว่าแล้วก็เลิกกินข้าว

    ก็ถ้ามันหิว มันยังอร่อยกับการกินข้าว ก็กินไป อร่อยไป แต่อย่าไปหลง ไปหมกมุ่น

    เรายังรู้จักกิเลสไม่มาก ไปหักห้ามตัวหนึ่ง ในขณะที่ต้นเหตุมันไม่ได้อยู่ตรงนั้น มันก็ผิดทิศผิดทาง

    เราจึงต้องดูสิ ว่า เราควรปรับปรุงอะไรก่อน อะไรหลัง เอาตามกำลังที่มี ไม่สุดโต่งเกินไป

    เมื่อเราค่อยๆ ละไป ตามกำลัง เราก็จะค่อยๆ ละเอียดขึ้น ตัวที่ยังไม่มีกำลังก็ปล่อยไป เอาสติประคอง ไม่ให้หมกมุ่นเกินไป

    สุดท้าย แล้ว มันจะละความอยากไปเอง ความต้องการต่างๆ จะเบาไปเอง
     
  16. จริยากุ

    จริยากุ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    1,314
    ค่าพลัง:
    +1,446
    คนเลือกทำ กรรมเลือกทาง การไม่ยึดติต จิตไม่คิดจะไม่ปรุงแต่งอารมณ์ และความต้องการไม่เกิด การอยู่ด้วยกันรักและเข้าใจกันก็จะเดินไปในทางเดียว กันถ้าคู่ของเรายึดติดไม่ละ ไม่ลด และมีความต้องการเสมอเค้าจะหลุดจากเราเองไม่ไช่เราทิ้งภาระให้เขา เราอาจเป็นผู้รับภาระทั้งหมดมาแต่ต้นและยังรับภาระอยู่และคิดเอาเองว่าเราพึ่งเค้าทั้งๆที่เราพึ่งตัวเองมาตลอดและเค้าก็พึ่งเราด้วยเมื่อเค้าหลุดไปเรายังอยู่ได้และมีความสุข ถ้าเรามีลูกเราสอนให้เขาเข้าใจในศีล 5 รักตัว กลัวกรรมเค้าจะเข้าใจไม่ยึดติดในตัวบุคคลแต่จะยึดมั่นในความดี เด็กที่บ้าน 3 คนขาดพ่อเพราะเขาปฏิบัติธรรมแบบสร้างภาพแต่ทุกคนในครอบครัวทำแบบสร้างสุขเมื่อเขาจากไปเพราะผิดเรื่องกามทุกคนสงสารว่าเค้าต้องลงนรกเพราะไปแบบไม่ถูกต้องที่บ้านก็ยังหมั่นทำบุญต่อ ไม่คาดหวังอะไรกับเขา เราอยู่กันได้อย่ามีความสุขเข้าใจในหลักธรรมทุกคนมีหน้าที่ เรียน ทำงาน ทำบุญและใช้ชีวิตประจำวันแค่นี้ก็หมดเวลาแล้ว ก่อนจากไปเค้าทิ้งหนี้ไว้ให้หลายแสนแต่เราไม่เคยหนีเราเล่าให้เจ้าหนี้ฟังและพยายามใช้หนี้และอยู่แบบประหยัดตอนนี้เราทุกคนอยูอย่างพอเพียงและมีความสุขมีศาสนาเป็นที่พึ่ง และมองทุกสิ่งด้วยเหตุผลและความจริงถ้าทุกคนทำไม่จริงเหมือนเค้าในบ้านทุกคนคงจะไม่มีความสุขคนเราทุกคนเป็นที่พึ่งของตนเองจริงๆ
     
  17. ฟางว่าน

    ฟางว่าน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    1,080
    ค่าพลัง:
    +968
    สติครับสติ เสพก็เสพอย่างมีสติ ไม่ให้วิปริต ลองพิจรณาดูว่าเมื่อเสพเสร็จมันก้เหนื่อย เป็นสุขประมาณน้อย ฟังเพลง อาบน้ำ จ่ายตลาด รดน้ำต้นไม้ อ่านหนังสือ คุยกับเพื่อน เป็นต้น ยังดีกว่าเสียอีก ก็เมื่อถึงเวลาก็จะค่อยๆคลายความกำหนัดลง เพียงแต่ถ้าต้องการมรรคผลนิพพานจริงๆก้ต้องดำริออกและลงมือปฏิบัติ คือภาคการภาวนา ศึกษาในแบบดูก่อนนะครับ.....
     

แชร์หน้านี้

Loading...