<VSN><<<ขอเชิญสั่งจอง! วัตถุมงคล หลวงพ่อล้าน รุ่น เจริญพร รวย รวย รวย>>><NSV>

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย momotaro67, 19 กุมภาพันธ์ 2013.

  1. momotaro67 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    7,055
    ค่าพลัง:
    +5,460










    สนใจรายการไหนรีบเลยนะครับ




    [FONT=&quot]ติดต่อ[/FONT][FONT=&quot]ได้ที่ โม พลังจิต [/FONT][FONT=&quot]มือถือ [FONT=&quot]081-801-9095[/FONT][/FONT]
    [FONT=&quot]ธนาคารกรุงเทพ สาขาถนนพัฒนาการฯ บัญชี สะสมทรัพย์[/FONT]
    [FONT=&quot]ชื่อบัญชี นายโมลีพุฒิ ปฐมโพธิ์[FONT=&quot] เลขที่บัญชี [/FONT][FONT=&quot]578-0-32-8182[/FONT][/FONT]
    [FONT=&quot]หลังโอนเงินแล้ว รบกวนโทรแจ้งให้ทราบด้วยเพื่อจะได้จัดส่งวัตถุมงคลได้ถูกต้อง[FONT=&quot]หรือเมล์แจ้งได้ที่[/FONT][FONT=&quot] email : momotaro67@hotmail.com[/FONT][/FONT]
    [FONT=&quot]ทุกรายการค่าจัดส่งรายการละ 120บ.ทั่วประเทศ โดยจัดส่งแบบEMS ครับผม[/FONT]​
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  2. momotaro67 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    7,055
    ค่าพลัง:
    +5,460
    รายการจัดสร้างวัตถุมงคล รุ่น เจริญพร รวย รวย รวย

    หลวงพ่อล้าน เขมจิตโต วัดขนาย จ.สุราษฎร์ธานี



    ชุดกรรมการอุปถัมป์ เหรียญเจริญพร พิมพ์รูปไข่

    จัดสร้างจำนวน 199 ชุด บูชาชุดละ 3,200 บาท

    ( ได้รับวัตถุมงคล จำนวน 19 เหรียญ )



    ๑. เหรียญเจริญพร เนื้อเงิน จำนวน 1 เหรียญ

    ๒. เหรียญเจริญพร เนื้อนวะโลหะ จำนวน 1 เหรียญ

    ๓. เหรียญเจริญพร เนื้อนวะโลหะ-หลังแบบ จำนวน 1 เหรียญ

    ๔. เหรียญเจริญพร เนื้ออัลปาก้า-ลงยาแดง จำนวน 1 เหรียญ

    ๕. เหรียญเจริญพร เนื้อทองฝาบาตร จำนวน 5 เหรียญ

    ๖. เหรียญเจริญพร เนื้อกะไหล่ทอง จำนวน 5 เหรียญ

    ๗. เหรียญเจริญพร เนื้อกะไหล่เงิน จำนวน 5 เหรียญ







    ชุดกรรมการเล็ก เหรียญเจริญพร พิมพ์รูปไข่

    จัดสร้างจำนวน 350 ชุด บูชาชุดละ 350 บาท

    ( ได้รับวัตถุมงคล จำนวน 3 เหรียญ )



    ๑. เหรียญเจริญพร เนื้ออัลปาก้า (ไม่ตัดปีก) จำนวน 1 เหรียญ

    ๒. เหรียญเจริญพร เนื้อทองแดงรมดำ (ไม่ตัดปีก) จำนวน 1 เหรียญ

    ๓. เหรียญเจริญพร เนื้อทองฝาบาตร (ไม่ตัดปีก) จำนวน 1 เหรียญ







    รายการเหรียญเจริญพร พิมพ์รูปไข่



    ๑. เหรียญเจริญพร เนื้อทองคำแท้ 9 เหรียญ 3 5,000 บาท

    ๒. เหรียญเจริญพร เนื้อเงิน-หน้ากากทองคำ 19 เหรียญ 6,000 บาท

    ๓. เหรียญเจริญพร เนื้อทองแดง-ลงยาแดง 199 เหรียญ 250 บาท

    ๔. เหรียญเจริญพร เนื้ออัลปาก้า 556 เหรียญ 150 บาท

    ๕. เหรียญเจริญพรเนื้อรมดำ-หน้ากากอัลปาก้า 199 เหรียญ 300 บาท

    ๖. เหรียญเจริญพร เนื้อทองแดงรมดำ 3,556 เหรียญ 80 บาท





    ++พิเศษ++ แจกศูนย์จอง+กรรมการ ฟรี !!!

    เหรียญเจริญพร เนื้อทองฝาบาตร-สองหน้า จัดสร้างจำนวน 631 เหรียญ

    รายที่ 2. เนื้อเงิน-หน้ากากทองคำ แถมฟรี เนื้อสัตตะโลหะ จำนวน 10 เหรียญ



    ใกล้หมด....แล้วนะ​
     
  3. momotaro67 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    7,055
    ค่าพลัง:
    +5,460



    เนื้อทองคำ น้ำหนักประมาณ 15 g. ราคา 35,000 บาท
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  4. momotaro67 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    7,055
    ค่าพลัง:
    +5,460



    เนื้อเงิน หน้ากากทองคำ ราคาบูชา 6,000 บาท
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  5. momotaro67 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    7,055
    ค่าพลัง:
    +5,460



    เนื้อเงิน (จัดอยู่ในชุดกรรมการอุปถัมป์)
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  6. momotaro67 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    7,055
    ค่าพลัง:
    +5,460


    เนื้อนวะโลหะ (จัดอยู่ในชุดกรรมการอุปถัมป์)​
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  7. momotaro67 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    7,055
    ค่าพลัง:
    +5,460


    เนื้อทองฝาบาตร (จัดอยู่ในชุดกรรมการอุปถัมป์)​
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  8. momotaro67 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    7,055
    ค่าพลัง:
    +5,460


    เนื้ออัลปาก้า ไม่ตัดปีก (จัดอยู่ในชุดกรรมการเล็ก)​
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  9. momotaro67 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    7,055
    ค่าพลัง:
    +5,460


    เนื้อทองแดงรมดำ ไม่ตัดปีก (จัดอยู่ในชุดกรรมการเล็ก)​
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  10. momotaro67 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    7,055
    ค่าพลัง:
    +5,460


    เนื้อทองฝาบาตร ไม่ตัดปีก (จัดอยู่ในชุดกรรมการเล็ก)​
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  11. momotaro67 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    7,055
    ค่าพลัง:
    +5,460


    เนื้ออัลปาก้า สร้างจำนวน 556 เหรียญละ 150 บาท​
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  12. momotaro67 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    7,055
    ค่าพลัง:
    +5,460


    เนื้อทองแดงรมดำ หน้ากากอัลปาก้า สร้างจำนวน 199 เหรียญละ เหรียญละ 300 บาท​
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  13. momotaro67 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    7,055
    ค่าพลัง:
    +5,460


    เนื้อทองแดงรมดำ สร้างจำนวน 3,556เหรียญ เหรียญละ 80 บาท​
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  14. momotaro67 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    7,055
    ค่าพลัง:
    +5,460


    หลวงพ่อล้าน เขมจิตโต พระเกจิแห่งลุ่มนาตาปี

    คอลัมน์ มงคลข่าวสด




    "หลวง พ่อ ล้าน เขมจิตโต" หรือ พระ ครูเกษมจิตตาภิรักษ์ เป็นพระเกจิอาจารย์ชื่อดังแห่งวัดขนาย ต.บางงอน อ.พุน พิน จ.สุราษฎร์ธานี

    มี ความเชี่ยวชาญวิทยาคมเป็นที่เลื่องลือไปทั่วสารทิศ จนได้รับการยกย่องว่าเป็นพระเกจิอาจารย์ระดับแนวหน้าแห่งปักษ์ใต้

    หลวง พ่อล้าน บำเพ็ญเพียรตั้งมั่นอยู่ในสมณธรรมอย่างเคร่งครัด มีวัตรปฏิบัติดีเปี่ยมด้วยเมตตาธรรม เป็นที่พึ่งพิงทางใจของพุทธศาสนิกชนทั่วไป

    วัตถุมงคลและเครื่องราง ที่ท่านอธิษฐานจิตปลุกเสกโด่งดังไปไกลทั่วประเทศ โดยเฉพาะตะกรุดผานไถและผ้ายันต์กันโจร

    ปัจจุบัน หลวงพ่อล้าน สิริอายุ 77 พรรษา 50 ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดขนาย จ.สุราษฎร์ ธานี และเจ้าคณะตำบลบางงอน

    อัตโนประวัติ มีนามเดิมว่า ล้าน สงนรินทร์ เกิดเมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2476 ณ บ้านคลองเคี่ยม ต.บางงอน อ.พุนพิน จ. สุราษฎร์ธานี

    โยมบิดา-มารดา ชื่อ นายสุขปั้น และ นางพร้อย สงนรินทร์ ครอบครัวมีพี่น้อง 7 คน ท่านเป็นบุตรคนที่ 2 ครอบครัวประกอบอาชีพเกษตรกรรม

    ชีวิต ในวัยเด็กค่อนข้างลำบาก ต้องช่วยเหลือครอบครัวทำงาน แต่ยังมีเวลาที่จะศึกษาเล่าเรียน เมื่ออายุ 7 ขวบ ได้เข้าศึกษาที่โรง เรียนวัดขนาย จบชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 หลังจากนั้นได้ช่วยครอบครัวประกอบอาชีพทำนา และปลูกผักขาย

    ใช้ชีวิต ในวัยหนุ่มด้วยการหาเลี้ยงครอบ ครัว แต่แล้วในวัย 27 ปี ท่านเกิดมีความคิดที่จะบวชเรียนตามประเพณี จึงได้กราบลาบุพ การี เข้าพิธีอุปสมบท เมื่อปี พ.ศ.2503 ณ วัดขนาย มีพระครูสถิตสันตคุณ (หลวงพ่อพัว) เจ้าคณะอำเภอคีรีรัฐนิคม เป็นพระอุปัชฌาย์, พระครูพิทักษ์ธรรมสาร (หลวงพ่อพริ้ม) เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระครูรัษฎารามคณิศร์ เจ้าคณะตำบลบางงอน เป็นพระอนุสาวนาจารย์

    ได้ รับฉายานามว่า เขมจิตโต

    หลัง อุปสมบท ได้ศึกษาในพระปริยัติธรรมอย่างมุ่งมั่น สามารถสอบได้นักธรรมชั้นตรี-โท-เอก ก่อนหันไปศึกษาวิชาอักขระขอม ลงเลขยันต์ จากหลวงพ่อพริ้ม

    สำหรับ หลวงพ่อพริ้มนั้น ได้รับการถ่าย ทอดมาจาก พระสมุห์รวย หตาโส อดีตเจ้าอาวาสรูปก่อนอีกทีหนึ่ง

    นอก จากวิทยาคมอักขระขอม ท่านยังได้เรียนวิชาต่อกระดูกตำรับวัดขนายโดยตรงจากหลวงพ่อพริ้ม ซึ่งสืบทอดกันมาจากรุ่นสู่รุ่น ผู้เป็นเจ้าของตำรา คือ ตาปะขาวผู้สร้างวัดขนาย

    ทั้งนี้ วัดขนาย แต่เดิมมีชื่อว่า "วัดโคกพร้าว" ตามตำนานกล่าวกันว่ามีตาปะขาวหรือตาผ้าขาว (ผู้มีวิชาอาคม ถือศีล นุ่งขาวห่มขาว) เป็นผู้สร้างวัดขึ้น แต่ไม่ทราบหลักฐานที่แน่นอนว่าสร้างขึ้นเมื่อใด

    ต่อมาเมื่อมีชาว บ้านชาวช่องเข้ามาตั้งหลักปักฐานทำมาหากินกันมากขึ้น จนกลายเป็นชุมชนขนาดใหญ่โตขึ้นเป็นหมู่บ้าน มีชื่อเรียกกันทั่วไปว่า "หมู่บ้านขอ-นาย"

    ภายหลังเพี้ยนไปเป็น ขนาย ในที่สุด ส่วน วัดโคกพร้าว ก็ได้เปลี่ยนมาเป็น วัดขนาย ตามชื่อหมู่บ้านไปด้วยในสมัยของ พระสมุห์รวย หตาโส อดีตเจ้าอาวาสรูปที่ 8 ของวัดขนาย ท่านได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็น พระสมุห์เกษม โดยที่ท่านเป็นพระนักพัฒนาที่ได้พัฒนาวัดขนายให้มีความเจริญก้าวหน้า และยังเป็นพระเถระที่พุทธศาสนิกชนให้ความเคารพนับถือกันอย่างกว้างขวาง

    กระทั่ง พระปรีชาอุดม เจ้าคณะจังหวัดสุราษฎร์ธานีในสมัยนั้น เห็นคุณความดีงามของท่าน และเพื่อเป็นเกียรติแก่พระสมุห์เกษมหรือหลวงพ่อสำรวย จึงได้มีการเปลี่ยนชื่อวัด จากวัดขนาย มาเป็น วัดเกษมบำรุง จนถึงปัจจุบันนี้ แต่ชาวบ้านในละแวกนั้นก็ยังคงติดปากเรียกกันว่าวัดขนายอยู่เช่นเดิม

    ท่าน ได้ศึกษาวิชาต่อกระดูกจนมีความเชี่ยวชาญ ได้นำมาใช้รักษาให้ชาวบ้านที่ประสบเหตุจนกระดูกหัก ให้หายเป็นปกติ

    ลำดับ งานปกครองคณะสงฆ์ พ.ศ.2532 ได้รับแต่งตั้งให้เป็นเจ้าอาวาสวัดขนาย จ.สุราษฎร์ ธานี พ.ศ.2547 ดำรงตำแหน่งเจ้าคณะตำบลบางงอน

    ลำดับ สมณศักดิ์ พ.ศ.2518 เป็น พระสมุห์ล้าน เขมจิตโต พ.ศ.2540 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็น พระครูสัญญาบัตรชั้นตรี ในราชทินนามที่ พระครูเกษมจิตตาภิรักษ์

    กล่าวกันว่า หลวงพ่อล้าน มีความชำนาญพระคาถาอิติปิโส 8 ทิศ, มงกุฎพระพุทธเจ้า, พระเจ้า 16 พระองค์ และฆะเฏสิ ทรงอิทธิคุณในทางขับไล่สิ่งอัปมงคลชั่วร้าย เสริมดวงชะตา นำพาโชคลาภวาสนาบารมี

    สำหรับวัตถุมงคลที่หลวงพ่อล้าน ได้จัดสร้างจนโด่งดัง คือ เหรียญรูปเหมือนรุ่นแรก หลังยันต์น้ำเต้า

    แต่ ที่ได้รับการเล่าขานถึงอย่างกว้างขวาง คือ ตะกรุดผานไถพลิกแผ่นดิน ที่จัดสร้างจากผานไถจริงที่ใช้ไถนา เอามาตัดเป็นชิ้นเล็กๆ ทำตะกรุด นำมาหลอมรวมกันตามสูตรที่เรียนมาจากครูบาอาจารย์ จนได้รับการยอมรับจากบรรดานักนิยมสะสมพระเครื่องวัตถุมงคลว่ามีคุณเด่นด้าน เมตตามหานิยมและค้าขายเจริญรุ่งเรือง

    หลวงพ่อล้าน กล่าวว่า "ตะกรุดผานไถพลิกแผ่นดิน ที่ช่วยให้สามารถพลิกชะตาจากร้ายให้กลายเป็นดี ดุจเดียวกับผานไถนาที่ช่วยพลิกแผ่นดินที่เสียให้กลับกลายเป็นดินดี สามารถปลูกข้าวให้งอกงามได้ เป็นที่เชื่อถือกันมาแต่โบราณ แต่กระนั้น จะอาศัยเพียงวัตถุมงคลอย่างเดียวคงไม่ได้ ต้องใช้ความพยายามลงมือทำ สร้างเนื้อสร้างตัว อย่าไปเบียดเบียนผู้อื่น และที่สำคัญ ต้องมีศรัทธาประกอบด้วย จะทำให้เราประสบผลสำเร็จได้"

    แต่ถึงแม้วัตถุ มงคลของหลวงพ่อล้าน จะได้รับความนิยมจากบรรดาสานุศิษย์ แต่ท่านไม่เคยอวดโอ่

    มี แต่พร่ำสอนให้ญาติโยม อย่าดำรงชีวิตด้วยความประมาท อย่ายึดมั่นถือมั่นเกิด แก่ เจ็บ ตาย ไม่มีใครหนีพ้น ขณะยังมีชีวิตขอให้ทุกคนหมั่นประกอบแต่กรรมดี ละเว้นทำชั่ว เพราะอายุคนนั้นสั้นนัก ถึงไม่แก่ไม่เฒ่าก็ตายได้เช่นกัน จงอย่าประมาท

    หลวง พ่อล้าน มักนำปัจจัยที่สานุศิษย์นำมาถวายหรือได้รับกิจนิมนต์เข้าร่วมพิธีพุทธา ภิเษกสำคัญทุกครั้ง เงินทุกบาททุกสตางค์ที่ได้รับบริจาคจากผู้มีจิตศรัทธา จะนำไปพัฒนาวัดและส่งเสริมด้านการศึกษาทั้งสิ้น ทำให้วัดขนายแห่งนี้เจริญรุ่งเรืองอย่างรวดเร็ว รวมทั้งพัฒนาบรรยากาศภายในบริเวณวัดมีแต่ความสงบวิเวกเหมาะสมสำหรับการ ปฏิบัติธรรม

    ด้วยล่วงเข้าสู่วัยชราอายุกว่า 77 ปีแล้ว ทำให้สุขภาพร่างกายย่อมเสื่อมถอยไปตามวัย

    แต่ถึงกระนั้น ท่านก็คงยังเมตตาให้คณะศิษย์ได้เข้าพบเพื่อกราบนมัสการสนทนาธรรมจากท่านอยู่ มิได้ขาด

    สมกับที่ได้รับการยกย่องให้ท่านเป็นพระเกจิดังแห่งลุ่ม น้ำตาปี
     
  15. momotaro67 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    7,055
    ค่าพลัง:
    +5,460
    สนใจบอกได้เลยคร้าบบบบบบ
     

แชร์หน้านี้