ถูกใจสุดๆเลยครับพี่โม รวยๆเฮงๆตลอดไปครับ^^
<VSN><<<มาใหม่ สายเขาอ้อ อ.ชุม,อ.ปาล,อ.คง, สรุปรายการหน้า๑๐๓>>><NSV>
ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย momotaro67, 25 ธันวาคม 2010.
หน้า 39 ของ 104
-
momotaro67 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium
-
momotaro67 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium
-
สุดยอดทุกรายการครับแวะมาติดตามครับ
-
momotaro67 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium
ปิดรายการนี้ให้พี่นอกเว็ปครับ -
momotaro67 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium
รายการที่57.>>>เหรียญ หล่อรูปเหมือนหลวงพ่อคูณเนื้อ เงิน สภาพสวย ตอกโค๊ต ปี 2537 รุ่นคูณพันล้าน เสาร์ 5 วัดบ้านไร่ จ.นครราชสีมา พิธีดี ฤกษ์ดี เจตนาดี ปีลึก วัตถุมงคลของท่านกำลังเริ่มมาแรง ควรรีบเก็บช่วงนี้ เผลออีกทีราคาสูงริบเดี่ยวจะเสียดายนะครับ>>>ให้บูชาองค์ละ 699 บ. / หน้า24.
ปิดรายการนี้ให้พี่นอกเว็ปครับ -
-
momotaro67 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium
55555555555555555:cool: -
momotaro67 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium
ปิดรายการนี้ให้พี่นอกเว็ปครับ -
momotaro67 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium
หลวงปู่ธูป วัดแคนางเลิ้ง
ธูปธรรมที่ไม่มีวันมอดไหม้
“หลวงปู่ธูป” หรือ “พระราชธรรมวิจารณ์” เป็นพระยุคเก่าที่สมถะ มีความเป็นอยู่แบบเรียบง่ายให้ การอนุเคราะห์สาธุชนโดยเลือกชั้นวรรณะ เปี่ยมล้นด้วยพรหมวิหาร ให้การต้อนรับขับสู้แขกผู้มาเยือนอย่างมีไมตรีจิต เป็นที่เคารพนับถือของบรรพชิต และคฤหัสถ์โดยทั่วไปนับตั้งแต่สงครามอินโดจีนเรื่อยมา วัดสุนทรธรรมทาน หรือวัดแคนางเลิ้ง หรือวัดสนามกระบือ ที่สร้างในสมัยรัชกาลที่ 3 ถือเป็นสถานที่ต้อนรับพระเกจิอาจารย์ที่อยู่ต่างจังหวัดมากมาย หลวงปู่ธูปจึงมีความสนิทคุ้นเคยและมีโอกาสได้แลกเปลี่ยนวิชาความรู้ทางพุทธา คมคาถา กับพระผู้ทรงวิทยาคมในสมัยนั้นหลายรูปหลายนามยิ่งกว่านั้น ยังได้รับตำรับตำราจากพระคณาจารย์บางองค์เป็นการเพิ่มเติมจากเดิมที่มีอยู่แล้ว โดยเฉพาะวิชา “อยู่ยง”นั้นเป็นที่เล่าลือมากต่อมาในระยะหลังๆพระเกจิอาจารย์มาเยือนวัดแคนางเลิ้งเพียงไม่กี่รูป เพราะชราภาพไม่สะดวกในการเดินทาง คงมีแต่หลวงพ่อแช่ม วัดตาก้อง นครปฐม หลวงพ่อนอ วัดกลางและหลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก อยุธยา เป็นต้น ซึ่งปัจจุบันคงเหลือแต่เพียงเรื่องราวของท่าน ที่ถูกนำมาถ่ายทอดเล่าขานสืบต่อกันมาหลวงปู่ธูปเป็นเจ้าอาวาสองค์ที่ 9 ของวัดแคนางเลิ้ง ที่มีความเข้มขลังทางพุทธาอาคม สมัยที่ยังมีชีวิตอยู่ ท่านไม่ยอมเปิดเผยวิทยาคุณด้านนี้ให้เป็นที่แพร่หลายมากนัก ผู้คนทั่วไปจึงไม่ค่อยมีโอกาสรับรู้ นอกจากผู้อยู่ใกล้ชิดและติดตามท่านเกิดในสกุล “วิชาเดช” เกิดวันจันทร์ที่ 11 เม.ย. 2441 ณ บ้านต.บางหลวงเอียง อ.บางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา บิดาชื่อ “เดช” มารดาชื่อ “ผ่อง”มีพี่น้องทั้งหมด 5 คน ท่านเป็นคนสุดท้อง อายุได้ 8 ปี ญาติผู้ใหญ่นำไปฝากให้เรียนอักษรสมัยที่วัดตะกู โดยมีพระ อาจารย์เอม เจ้าอาวาสขณะนั้น เป็นครูสอนเรียนหนังสือไทยเบื้องต้น มีประถมก.กา มูลบทบรรพกิจ หนังสือพระมาลัยและขอม เป็นพื้นฐานเบื้องต้น จากนั้นได้ย้ายมาศึกษาวิชามูลกัจจายน์ และเรียนหนังสือบาลีที่วัดศาลาปูน จ.พระนครศรีอยุธยา หลัง จากเล่าเรียนจนแตกฉานแล้ว พี่ชายของท่านซึ่งอยู่กับญาติผู้ใหญ่ที่กรุงเทพฯคือ พล.ต.อ.เจ้าพระยาราชศุภนิมิตร และท่านผู้หญิงแปลก ได้มารับท่านไปอยู่ที่กรุงเทพฯด้วย และได้ให้ความเมตตาและอุปการะเป็นอย่างดี โดยให้เข้าเรียนหนังสือต่อที่ ร.ร.วัดส้มเกลี้ยง(วัดราชผาติการาม) จนจบชั้นประถม 4 ในขณะที่เล่าเรียนได้มีโอกาสติดตาม พล.ต.อ.เจ้าพระยาราชศุภนิมิตรเข้าเฝ้า และติดตามเบื้องพระยุคลบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวในพระราชพิธีต่างๆ และการเสด็จแปรพระราชฐานในต่างจังหวัดอยู่บ่อยครั้ง เมื่อ อายุครบเกณฑ์ทหารได้สมัครเข้ารับราชการเป็นทหารรักษาวังอยู่ 2 ปี หลังปลดประจำการท่านเจ้าพระยาและท่านผู้หญิง ได้อุปถัมภ์ให้เข้ารับการอุปสมบท ณ วัดสุนทรธรรมทาน เมื่อวันที่ 14 พ.ค. 2463 สมเด็จพระวันรัต (จ่าย) เจ้าอาวาสวัดเบญจมบพิตร เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอริยมุนี (หว่าง) เจ้าอาวาสวัดเทวราชกุญชร เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระครูพุทธบาล (เนตร) เจ้าอาวาสวัดสุนทรธรรมทาน เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับนามฉายาว่า “เขมสิริ”ได้อยู่จำพรรษาที่วัดแคนางเลิ้ง ศึกษาพระธรรมวินัยกับพระครูพุทธบาลมาโดยลำดับ และยังได้ศึกษานักธรรมชั้นตรีในสำนักเรียนวัดเบญจมบพิตร เมื่อถึงกำหนดสอบธรรมสนามหลวง เกิดอาพาธกะทันหันจึงล้มเลิกการศึกษาทางด้านคันถธุระตั้งแต่นับนั้นและหันมา เอาดีทางสมถกรรมฐานและพุทธาคมคาถาประมาณพรรษาที่ 3 ได้เดินทางไปฝากตัวเป็นศิษย์เรียนวิชากรรมฐานชั้นสูงกับหลวงพ่อปาน วัดบางนมโค จนบรรลุฌานชั้นสูง สามารถแสดงอิทธิคุณต่างๆได้ ยิ่งกว่านั้น ยังได้ศึกษาเวทมนต์คาถา ซึ่งเป็นวิชาการแขนงหนึ่งที่พระเถระยุคเก่าต้องใฝ่หาเรียนรู้ไว้เพื่อ ประโยชน์ในงานพระศาสนาต่างๆ อาทิ การปลุกเสกวัตถุมงคลในรูปแบบต่างๆ ซึ่งต้องอาศัยพระผู้ทรงวิทยาคุณเป็นผู้ภาวนาปลุกเสก โดยได้รับการประสิทธิ์ประสาทจากหลวงพ่อปานมาเต็มเปี่ยมหลวงปู่ธูปใช้เวลาศึกษาอยู่กับหลวงพ่อปานประมาณหนึ่งพรรษา จึงกลับคืนวัดสุนทรธรรมทาน และได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้รั้งตำแหน่งเจ้าอาวาสสืบแทนพระครูพุทธบาล ที่ขอลาสิกขาบทในปีพ.ศ.2470 และผ่านการลงคะแนนเลือกตั้งจนได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งอย่างเป็นทางการ ในปีพ.ศ.2471 ขณะมีอายุได้ 30 ปี พรรษา 8 นับเป็นพระหนุ่มที่มีพรรษาน้อยสุดที่ได้เป็นเจ้าอาวาสปกครองวัดในเขตจ.พระ นครสมัยนั้นหลังจากรับตำแหน่งท่านก็ริเริ่มปฏิสังขรณ์และพัฒนาก่อสร้างอาคาร เสนาสนะต่างๆเรื่อยมา โดยเริ่มลงมือตั้งแต่ปีพ.ศ.2472-2500 ซึ่งเป็นปีที่ก่อสร้างอุโบสถหลังใหม่ กระทั่งวันอาทิตย์ที่ 29 ก.ค. 2533 เวลา 02.26 น. ท่านก็มรณภาพลงที่โรงพยาบาลพญาไท รวมสิริอายุ 92 ปี 3 เดือน 28 วัน พรรษา 70
ด้านวัตถุมงคล ตลอดเวลาที่ท่านครองเพศพรหมจรรย์ ได้สร้างวัตถุมงคลในรูปแบบต่างๆมากมายหลายรุ่น จากการบันทึกของหนังสือวัดทราบว่าสร้างครั้งแรกในปีพ.ศ.2482 และจัดสร้างติดต่อกันมาจนถึงพ.ศ.2529 ทุกชนิดมีพุทธคุณในด้าน “เมตตามหานิยมและความรุ่งเรืองในหน้าที่การงาน” เป็นหลัก
เหรียญรุ่นแรก พิมพ์นิยม(บล๊อคแตก) หลวงปู่ธูป วัดแคนางเลิ้ง เนื้อทองแดง รมดำ สภาพรมดำเดิมเก็บดีสวยสุดยอดครับ
การจัดสร้างพระเครื่องและวัตถุมงคลของหลวงปู่ธูป จะจัดแบ่งเป็นสามยุคคือยุคต้นช่วงสมัยสงครามอินโดนจีนจะเป็นผ้ายันต์ ผ้าประเจียดและตะกรุดเสียส่วนมาก ด้านพระเครื่องจะสร้างไว้น้อย โดยมากจะเป็นพระผงแล้วนำไปชุบรักไว้อีกที (ต้องดูให้ดีๆว่าถูกยุคไหม) ยุคกลางคือช่วงปีพ.ศ.2504หลวงปู่จะสร้างพระผงน้ำมันเสียส่วนใหญ่ ยุคท้ายคือช่วงตั้งแต่ พ.ศ.2514-2517ท่านจะสร้างเป็นพระผง ด้านหลังมีฝังแร่ หรือจีวร หรือไม่มีฝังเลยก็ได้ เอกลักษณ์ในพระของท่านโดยมากจะปั๊มเป็นยันต์ใบพัด ที่ไม่ปั๊มก็มี แต่มีน้อยมาก ส่วนที่ปั๊มด้วยยันต์ตัวอื่นก็มีแต่หายากมาก เครื่องรางที่ขึ้นชื่อของท่านจะเป็นลูกอม เป็นเนื้อผงมีสองแบบคือขนาดเล็กไว้พกติดตัว และขนาดใหญ่หน่อยเรียกว่าลูกอมศรีสวาทด้านในจะใส่กริ่งเอาไว้ เขย่าจะมีเสีย เอาไว้แขวนหน้าร้านหรือใส่ไว้ในลิ้นชักเก็บเงิน เด่นทางด้านเมตตาค้าขาย เครื่องรางอีกอย่างคือผ้ายันต์สาลิกาน้ำจันทร์เป็นผ้ายันต์ปั๊มหมึก เด่นครบวงจรทั้งเมตตา มหานิยมและคงกะพันแต่ไหนแต่ไรก็หายากมากคนเก็บกันหมด
พระเครื่องของท่านเป็นของดีราคาถูกพุทธคุณสูง แถมราคาไม่สูงมากเพราะพระของท่านจะโดนลูกศิษย์ลูกหาสายตรงเก็บเข้ารังหมด ไม่แพร่หลายเป็นที่รู้จักในวงการมากนัก ปัจจุบันพระของท่านเริ่มๆทยอยแตกรังออกมาบ้าง เมื่อคนในไปบูชาเริ่มมีประสบการณ์ พระเครื่องของท่านจะหายากกว่านี้ครับ
*ปิดรายการนี้ครับ -
momotaro67 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium
สมเด็จปรกโพธิ์รุ่น2 หลวงพ่อชำนาญวัดบางกุฎีทองฝังเม็ดข้าวสารและมวลสารดอกไม้จากในวัง เนื้อน้ำตาลแดง ขนาดประมาณ 4*6เซนติเมตร หลวงพ่อออกปากเองเลยครับ ว่ารุ่นนี้ดีมากๆ
ให้บูชา 2,050บ.ครับไฟล์ที่แนบมา:
-
-
จอง
- รายการที่45.>>>แหวนมหาอุตม์ มหาอำนาจ รุ่นเงียบเสียง อาจารย์ชุม ไชยคีรีจัดสร้างปี 2524 เนื้อทองขาว>>> ให้บูชาองค์ละ 850 บ
- เหรียญพ่อท่านคลิ้ง รุ่น ภปร ปี 2521 วัดถลุงทอง นิยม ๓โค๊ท หลังภปร ลายผ้า
- หลวงปู่ทวด เตารีดจิ๋ว วัดช้างให้ รุ่นกำนันชูชาติ
-
momotaro67 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium
รับทราบครับ...................... -
momotaro67 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium
ผมจัดส่งให้แล้วนะครับ 01/06/12 เลขที่ EI838574615TH -
โอนให้แล้วนะคร้าบ
-
momotaro67 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium
รับทราบครับ ส่งให้แล้วเช่นกันครับ เช้านี้ด้วยความรวดเร็ว 7/6/55
เลขที่ EI838558762TH -
เยี่ยมยอดเหมือนเช่นเคยเสมอ ขอบคุณคร้าบ
-
momotaro67 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium
ขอบคุณครับ.............. -
ได้รับแล้วนะคร้าบ
หน้า 39 ของ 104