WarRoom - อาสาสมัครเตรียมการเฝ้าระวังประสานงานเตรียมพร้อมเพื่อรองรับสถานการณ์ปี 2013

คิดถึงเพื่อนๆ สมาชิก War Room ทุกท่านมากๆ
pity_pig

 

เมื่อเช้าใจกลางเมือง รถติดมหาศาล เพียงเพราะปิดถนนบางส่วนเพื่อความปลอดภัยของผู้นำจากประเทศมหาอำนาจ
นี่ถ้าเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดคงติดกว่านี้หลายเท่า

 

ตอนนี้ใช้เบอร์มือถือนี้ : 084-5552865
และยินดีให้เพื่อนๆ add เบอร์ได้เลย เพื่อจะติดต่อหรือแจ้งข่าวกัน
เพราะช่วงนี้ใช้ Line กับ What's app อยู่จร้าา :cool:

 

หวัดดีจ้าคุณ Joy-วิปัสนะ...หายไปนานเลยนะคะ คิดถึงเช่นกันจ้า

มีเวลาเข้ามาบ่อยๆอีกจ้า..พวกเรา Warrom ก็ยังอยู่ตรงนี้เสมอนะ (ping)

B5 - War Room Falkman

 

รับทราบจ้า :cool::cool:

B5 - War Room Falkman

 

‎19-11-12 นครศรีธรรมราชแผ่นดินทรุดลึก 40 เมตร !!

ชาวนครศรีธรรมราชผวา ดินทรุดลึกกว่า 40 เมตร กว้าง 20 เมตร ในสวนยางของชาวบ้าน ก้นหลุมมีน้ำเชี่ยวกราก แจ้งจนท.เร่งตรวจสอบ



เรื่องเล่าเช้านี้-เสาร์อาทิตย์ นครศรีธรรมราชแผ่นดินทรุดลึก 40 ม. - เรื่องเล่าเช้านี้.com

B5 - War Room Falkman

 

ระทึกดินยุบตัวในสวนยางกว่า 20 เมตร ลึกเห็นร่องน้ำไหล



วันที่ 19 พ.ย. นายสกล จันทรักษ์ นายอำเภอฉวาง จ.นครศรีธรรมราช พร้อมเจ้าหน้าที่ได้เดินทางไปตรวจสอบเหตุแผ่นดินทรุดตัวที่บริเวณสวนยางพาราและสวนผลไม้ ม.10 ต.ไม้เรียง อ.ฉวาง ซึ่งพบว่าบริเวณที่ดินดังกล่าวเป็นของของนางอรวรรณ แจ่มจรัส อายุ 40 ปี ความกว้างของดินที่ทรุดตัวกว้างประมาณกว่า 20 เมตร ลึกประมาณ 8-10 เมตร โดยด้านล่างมีธารน้ำไหลผ่านเหมือนลำห้วย

ตรวจสอบพบว่าต้นยางพาราของนางอรวรรณทรุดไปหลายต้น ซึ่งขณะที่เจ้าหน้าที่ทำการตรวจสอบนั้นพบว่ามีเสียงดินถล่มลงไปในหลุมเป็นระยะ เจ้าหน้าที่ต้องนำเชือกมากั้นไว้ระบุว่าเป็นเขตอันตรายห้ามเข้าไว้ชั่วคราว และจะแจ้งให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องโดยตรงมาตรวจสอบอีกครั้ง เพื่อแก้ไขปัญหาให้กับชาวบ้านเจ้าของสวนดังกล่าว

โดยนายสกล ระบุว่า เบื้องต้นสาเหตุที่ทำให้ดินทรุดตัวสันนิษฐานว่าน่าจะมาจากการทำเหมืองแร่ในสมัยก่อน และในปัจจุบันยังมีการทำเหมืองอยู่ในบางจุด ซึ่งเมื่อปีก่อนเคยมีปรากฏการณ์เช่นนี้มาแล้ว และได้ประสานงานไปยังอุตสาหกรรมและกรมทรัพยากรธรณีไปแล้วด้วย แต่เรื่องยังเงียบ อย่างไรก็ตามได้จะให้การช่วยเหลือชาวบ้านในเบื้องต้นไปตามขั้นตอนต่อไป

ขณะที่นางอรวรรณ กล่าวว่า ขณะเกิดเหตุนั้นกำลังกรีดยางอยู่ ก็ได้ยินเสียงดินทรุดตัวไม่ห่างมากนัก พอหันไปดูพบว่าดินกำลังทรุดเป็นหลุมกว้างจนต้นยางทรุดตามลงไปด้วย จึงรีบวิ่งหนีอย่างไม่คิดชีวิตไปขอความช่วยเหลือจากชาวบ้านและได้แจ้งเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบดังกล่าว


B5 - War Room Falkman

 

ทึ่ง!! เกิดลมน้ำพุกลางทะเล พุ่งสูงเป็นกรวย ที่ออสเตรเลีย

วันจันทร์ที่ 19 พฤศจิกายน 2555

ทึ่ง!! เกิดลมน้ำพุกลางทะเล พุ่งสูงเป็นกรวย ที่ออสเตรเลีย

Mthainews: ภาพต่อไปนี้ มองดูแล้วคล้ายกับ ภาพฉากหนึ่งในภาพยนตร์ แต่เป็นภาพปรากฎการณ์น้ำพุกลางทะเล ที่เกิดขึ้นจริงใน อ่าวบาเตมานส์เบย์ ตอนใต้ของเมืองซิดนีย์ รัฐนิวเซาธ์เวลส์ ประเทศออสเตรเลีย เคลื่อนที่ได้เร็วกว่า 225 กม./ต่อชม.

ลมน้ำพุกลางทะเล “Water twisters” มักเกิดขึ้นจากการก่อตัวของทอร์นาโดนอกทะเล มีระดับความแรงอ่อนกว่าทอร์นาโดยทั่วไป เป็นอันตรายต่อเรือและเครื่องบิน รวมทั้งปะการังในทะเล และอาจกวาดพื้นที่ชายฝั่ง ก่อให้เกิดความเสียหายแก่บ้านเรือนรอบข้างได้ #Mthai News



In deep water: A car races on ahead as this waterspout appeared close to the shoreline at Batemans Bay, 140 miles south of Sydney


Too close for comfort: People look at the waterspout near to the shoreline at Batemans Bay

[ame=http://www.youtube.com/watch?v=JHmlItIVkhE&feature=relmfu]Huge Waterspout at Batemans Bay 18.11.2012 - YouTube[/ame]

B5 - War Room Falkman


Keep driving! Jeep speeds past seafront as huge waterspout heads inland | Mail Online

 

ฮือฮา "นาซา"เปิดภาพสุดหาชมยาก"พายุสุริยะ"ปะทุระเบิดจากดวงอาทิตย์ ระดับ"ทรงพลัง"(ชมคลิป)

วันที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 เวลา 13:25:53 น

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 19 พ.ย.องค์กรนาซาได้เปิดเผยภาพปรากฎการณ์"พายุสุริยะ"เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ถ่ายบันทึกโดยศูนย์สังเกตการณ์การขับเคลื่อนด้านสุริยะของนาซา โดยพายุสุริยะดังกล่าวถือว่าเป็นพายุสุริยะระดับทรงพลัง หรือการปะทุในระดับ 6

รายงานระบุว่า ภาพดังกล่าวสามารถเห็นแรงดันของพลาสม่าความร้อนสูง ปะทุออกจากพื้นผิวของดวงอาทิตย์ไปสู่อวกาศราวหมื่นไมล์ ซึ่งนักวิทยาศาสตร์นาซาระบุว่า พายุสุริยะนี้ ซึ่งมีความเร็วเฉลี่ย 300 ไมล์ต่อวินาที จะไม่มีผลกระทบใด ๆ ต่อโลก แต่อาจกระทบต่อดาวเทียมของโลกของโคจรเหนืออวกาศ และว่า การปะทุของพายุสุริยะดังกล่าวได้มุ่งสู่อวกาศในเส้นทางที่ดูเหมือนจะไม่กระทบต่อโลก โดยการปะทุดังกล่าวได้ขับปล่อยรังสีพลาสม่าสีแดง ซึ่งเป็นก๊าซร้อนประกอบด้วยไฮโดรเจนและฮีเลี่ยม และรังสีพลาสม่าดังกล่าวปะทุจากการพลังขับเคลื่อนของสนามพลังแม่เหล็กไฟฟ้าภายในของดวงอาทิตย์

ทั้งนี้ รายงานระบุว่า ปัจจุบัน ดวงอาทิตย์อยู่ในช่วงการปะทุพลังสุริยะอย่างเข้มข้นที่กินระยะเวลา 11 ปี และคาดว่า จะปะทุรุนแรงที่สุดในปี 2013 อย่างไรก็ตาม การเกิดพายุสุริยะในระดับอ่อนตัวก็สามารถกระทบอย่างรุนแรงต่อดาวเทียมและระบบสื่อสารบนโลกได้

[ame=http://www.youtube.com/watch?v=tnmL0bBNxT0]11/18/12 GIANT SUN ERUPTION VIDEO - YouTube[/ame]

B5 - War Room Falkman

 

ขอบคุณจร้า คุณส้ม ที่ยังไม่ลืมกัน
จะเข้าทุกวัน แต่คงเปนช่วงค่ำๆ น๊าา :boo:

 

add เบอร์คุณจอย เรียบร้อยแล้ว เดี๋ยวจะ line ไปหานะค่ะ :cool:

 

ต่อหัวเสือจำนวนมากอพยพมาทำรังในหมู่บ้าน อ.ห้วยเม็ก จ.กาฬสินธุ์ เชื่อจากภัยแล้ง

ต่อหัวเสือจำนวนมากอพยพมาทำรังตามอาคารบ้านเรือน และต้นไม้ที่บ้านโคกกลางเหนือ หมู่ 5 ตำบลหัวหิน อำเภอห้วยเม็ก จังหวัดกาฬสินธุ์ ซึ่งจากการสำรวจคาดว่าน่าจะมีจำนวนถึงกว่า 20 รัง ชาวบ้านรายหนึ่งเล่าว่า หลังจากได้ยินเพื่อนบ้านพูดคุยกันเรื่องต่อหัวเสืออพยพ จึงได้สำรวจภายในบ้านและพบว่ามีรังต่อหัวเสือมากถึง 5 รัง โดยมีรังใหญ่อยู่บนชายคาบ้าน นอกนั้นจะอยู่ตามต้นไม้ ทำให้สมาชิกในบ้านอยู่กันอย่างหวาดวิตก เพราะเกรงว่า อาจจะโดนต่อหัวเสือต่อยได้ ขณะที่ชาวบ้านส่วนหนึ่ง กล่าวว่า ไม่เคยเห็นปรากฎการณ์อย่างนี้มาก่อน จึงคาดว่า น่าจะเป็นเพราะ ภายในหมู่บ้านยังมีอาหารอุดมสมบูรณ์ มากกว่าบริเวณอื่นที่อยู่ในสภาพแห้งแล้ง ต่อหัวเสือจึงอพยพมารวมตัวทำรังกันในช่วงนี้ชาวบ้านจึงต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ เพื่อป้องกันต่อหัวเสือต่อย โดยเฉพาะเด็กๆ

19/11 ต่อหัวเสือจำนวนมากอพยพมาทำรังในหมู่บ้าน อ.ห้วยเม็ก จ.กาฬสินธุ์ เชื่อจากภัยแล้ง :: มูลนิธิสภาเตือนภัยพิบัติแห่งชาติ

 

น้ำเค็ม หนุน ทำปลาน้ำจืดหาดแสนสุขลำปำ น็อกน้ำตายอย่างต่อเนื่อง

ปลาน็อกน้ำขาดอากาศหายใจตายจำนวนมาก ที่บริเวณหาดแสนสุขลำปำ ต.ลำปำ อ.เมือง จ.พัทลุง ที่บริเวณหลังร้านขายอาหารตามสั่ง ความยาวกว่า 1 กิโลเมตร ตามริมหา โดยพบปลาที่ตายเป็นปลาน้ำจืด เช่น ปลานิล ปลาตะเพียน ปลาขี้ขม ปลาหมอช้างเหยียบ และกุ้ง ตายเกลื่อนอยู่ตามผิวน้ำ ส่งกลิ่นเห็นไปทั่วบริเวณเป็นวันที่ 3 ซึ่งชาวบ้านได้ลงไปเก็บปลาที่ตายนำไปทิ้ง และส่วนหนึ่งนำไปทำเป็นอาหาร ส่วนสาเหตุคาดน่าจะมาจากน้ำเค็มจากทะเลหนุน ประกอบกับระดับน้ำตื้นเขิน ทำให้วัชพืช เช่น สาหร่าย และผักตบชวาเน่าเปื่อย จึงทำปลาขาดออกซิเจน และตายในที่สุด โดยจากการสำรวจของผู้สื่อข่าว เมื่อเช้าที่ผ่านมาพบว่า ปลายังคงลอยตายขยายวงกว้างขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนไปถึงแหล่งหวงห้ามจับสัตว์น้ำของวัดป่าเลไลยก์ ที่อยู่บริเวณใกล้เคียง แม้เมื่อคืนที่ผ่านมาฝนจะตกลงมาแล้วก็ตาม แต่ยังไม่สามารถลดความเค็มของน้ำได้ ทำให้ปลาเริ่มเงยหัวและลอยตายส่งกลิ่นเหม็นไปทั่วบริเวณ และทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังไม่ลงพื้นที่ดำเนินการแก้ไขปัญหา หรือเก็บปลาที่เน่าเหม็นขึ้นจากทะเลเพื่อกำจัดแต่อย่างใด

19/11 น้ำเค็ม หนุน ทำปลาน้ำจืดหาดแสนสุขลำปำ น็อกน้ำตายอย่างต่อเนื่อง :: มูลนิธิสภาเตือนภัยพิบัติแห่งชาติ

 

สาวป่วยอาการประหลาด หลับยาว 64 วันรวด

19 พ.ย. 55 11.00 น.



สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 18 พ.ย.ว่า นิโคล เดเลียน วัย 17 ปี นักศึกษาวัยรุ่นสหรัฐ ต้องป่วยมีอาการ"Kleine-Levine"ซึ่งทำให้เธอต้องกลายเป็นเหมือน "เจ้าหญิงนิทรา" หลับยาว 64 วัน ซึ่งถือเป็นอาการป่วยหลับนานที่สุดของผู้ป่วยประเภทนี้ทั่วโลก

โดย นางวิคกี้ แม่ของวัยรุ่นหญิงมะกันรายนี้บอกว่า ปกติแล้ว ลูกสาวเธอจะหลับวันหนึ่งราว 18-19 ชม.และเมื่อตื่นมา เธอจะมีอาการละเมอจำอะไรไม่ได้ และที่ผ่านมา เธอต้องไปลูกสาวไปโรงพยาบาลหลายแห่งเพื่อค้นหาสาเหตุป่วยของนิโคล ก่อนที่แพทย์ที่โรงพยาบาล Allegheny General ในเมืองพิตต์เบิร์ก รัฐเพนซิลวาเนีย จะสามารถระบุสาเหตุได้ และเสนอทางออกช่วยเหลือ รวมทั้งให้รับประทานยา

ด้าน นิโคล บอกว่า อาการดังกล่าวทำให้เธอต้องพลาดโอกาสได้ฉลองวันขอบคุณพระเจ้า.วันคริสต์มาส,วันเกิด และการที่ครอบครัวไปเที่ยว"ดิสนีย์เวิล์ด"ด้วย และเธอกลัวว่า อาการหลับยาวเป็นเดือน ๆ ดังกล่าวจะกลับมาอีก

รายงานระบุว่า อาการดังกล่าวดูเหมือนจะมีผลกระทบต่อกลุ่มคนหนุ่มสาวมากกว่าคนกลุ่มอื่น สาเหตุของอาการป่วยนี้ยังไม่เป็นที่แน่ชัด แต่ก่อนหน้านี้ ยังเกิดกรณีของวัยรุ่นรายนี้ ชื่อ อีริก ฮัลเล่อร์ นักศึกษาหนุ่มสหรัฐ ที่มีอาการลักษณะนี้ บอกว่า เขาจะมีอาการ"หลับยาว"ประมาณ 8-10 ครั้งต่อปี

สาวป่วยอาการประหลาด หลับยาว 64 วันรวด

 

“เวิลด์แบงก์” เตือนโลกจะร้อนขึ้นอีก 4 องศาภายใน 50 ปี

วันจันทร์ที่ 19 พฤศจิกายน 2555 เวลา 09:05 น.



ธนาคารโลกออกรายงานประเมินสถานการณ์สิ่งแวดล้อม ว่าอุณหภูมิโลกมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอีก 4 องศาเซลเซียส ภายในอีก 50 ปีข้างหน้า หากความร่วมมือลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกไม่เป็นไปอย่างจริงจัง

วันนี้ ( 19 พ.ย. ) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกาว่า ธนาคารโลก ( เวิลด์แบงก์ ) ออกรายงานเมื่อวันอาทิตย์ ระบุอุณหภูมิโลกอาจเพิ่มสูงขึ้นอีกถึง 4 องศาเซลเซียส ภายในอีก 50 ปีข้างหน้า สาเหตุหลักจากความเสื่อมโทรมอย่างหนักของระบบนิเวศตามแนวชายฝั่งทะเล
นายจิม ยอง-คิม ประธานเวิลด์แบงก์ กล่าวเรียกร้องกลุ่มประเทศกำลังพัฒนา ที่มีแนวโน้มจะกลายเป็นประเทศร่ำรวยในอนาคต เพิ่มความพยายามในการลดอัตราการปล่อยก๊าซเรือนกระจกนับแต่บัดนี้ ซึ่งนอกจากจะช่วยลดปัญหามลภาวะทางสิ่งแวดล้อมแล้ว จะยังเป็นหนึ่งในหนทางช่วยขจัดปัญหาความยากจนและอดอยากได้อีกด้วย
เนื้อหาในรายงานระบุว่า อุณหภูมิโลกมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอีกถึง 4 องศาเซลเซียส ภายในปี 2603 หากประชาคมโลกไม่มีความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันในการแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมอย่างจริงจัง แต่แม้ความร่วมมือจะประสบผลสำเร็จ ก็เป็นเพียงการยืดระยะเวลาออกไปเท่านั้น เนื่องจากเวิลด์แบงก์ประเมินแล้วว่า อุณหภูมิโลกจะเพิ่มขึ้นสูงสุดภายในปี 2643 ซึ่งถือว่าเกินกว่าข้อจำกัดของสหประชาชาติ ( ยูเอ็น ) ที่กำหนดไว้ไม่ให้เกิน 2 องศาเซลเซียส

ปัจจุบัน อุณหภูมิโลกเพิ่มขึ้นราว 0.8 องศาเซลเซียส ส่งผลให้เกิดความแปรปรวนของสภาพอากาศ ที่ก่อให้เกิดภัยธรรมชาติร้ายแรงอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดคือพายุเฮอริเคน “แซนดี้” ที่พัดถล่มประเทศแถบทะเลแคริบเบียน และชายฝั่งทางตะวันออกของสหรัฐ สร้างความเสียหายมูลค่ามหาศาล

ทั้งนี้ หากอุณหภูมิโลกเพิ่มสูงขึ้นถึง 4 องศาเซลเซียสจริง จะสร้างความแปรปรวนต่อสภาพแวดล้อมบนโลกมนุษย์อย่างรุนแรง เช่น คลื่นความร้อนจะแผ่อิทธิพลเข้าปกคลุมรัสเซีย และอุณหภูมิเฉลี่ยช่วงเดือน ก.ค. ของประเทศในแถบทะเลเมดิเตอร์เรเนียนจะเพิ่มขึ้นอีกราว 9 องศาเซลเซียส รวมถึงส่งผลกระทบอย่างหนักต่อการดำรงชีวิตของปะการัง และสัตว์น้ำในมหาสมุทรอีกด้วย

นอกจากนี้ อุณหภูมิที่สูงขึ้นจะทำให้ระดับน้ำทะเลเพิ่มสูงขึ้น กลายเป็นภัยธรรมชาติต่อประเทศที่มีพรมแดนติดกับมหาสมุทร เช่น บังกลาเทศ อินเดีย อินโดนีเซีย มาดากัสการ์ เม็กซิโก โมซัมบิก ฟิลิปปินส์ เวเนซุเอลา และเวียดนาม ซึ่งอาจตามมาด้วยการเกิดโรคระบาด รวมถึงส่งผลกระทบต่อกระบวนการผลิตอาหาร ทำให้สถานการณ์ความอดอยากโดยเฉพาะในประเทศแถบแอฟริกาเลวร้ายลง

ด้านนายบัน คี-มูน เลขาธิการยูเอ็น กล่าวว่ารายงานของเวิลด์แบงก์เป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นว่า แท้จริงแล้วปัญหาเหล่านี้ไม่ใช่เรื่องไกลตัว ถึงเวลาแล้วที่มนุษย์ต้องร่วมมือกันอย่างจริงจังกว่านี้เพื่อพิทักษ์สิ่งแวดล้อม และปฏิบัติตามปฏิญญาสิ่งแวดล้อม ที่มีการร่วมลงนาม ณ เมืองเดอร์บัน ประเทศแอฟริกาใต้ เมื่อปีที่แล้ว ว่าด้วยการบรรลุข้อตกลงด้านสิ่งแวดล้อมใหม่ ภายในปี 2558

ทั้งนี้ สำนักงานเลขาธิการสหประชาชาติ ว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ( ยูเอ็นเอฟซีซีซี ) จะจัดการประชุมเจรจาของประเทศภายใต้ภาคีอนุสัญญาของยูเอ็นเอฟซีซีซี และพิธีสารเกียวโต ระหว่างวันที่ 26 พ.ย.-7 ธ.ค. ณ กรุงโดฮา ประเทศกาตาร์
“เวิลด์แบงก์” เตือนโลกจะร้อนขึ้นอีก 4 องศาภายใน 50 ปี | เดลินิวส์

 

ลองดูกันนะคะ link จากคุณ Mikas

 

2012-11-20 00:25:51
2012-11-19 17:25:51 UTC 4.9 23.03 95.89 - 10 ประเทศพม่า

ขนาด : 4.9 ริกเตอร์
จุดศูนย์กลางแผ่นดินไหว : MYANMAR
วันที่ : 20 พฤศจิกายน 2555 00:25 น.
ละติจูด : 23° 06' 36'' เหนือ
ลองจิจูด : 95° 57' 36'' ตะวันออก
ความลึกจากระดับผิวดิน : 10 กิโลเมตร

 

2012-11-20 05:23:462012-11-19 22:23:46 UTC 4.2 22.62 96.38 - 17 ประเทศพม่า
2012-11-20 03:46:242012-11-19 20:46:24 UTC 3.5 20.56 99.93 7 24 ประเทศพม่า
2012-11-20 00:25:51
2012-11-19 17:25:51 UTC 4.9 23.03 95.89 - 10 ประเทศพม่า

ขนาด : 3.5 ริกเตอร์
จุดศูนย์กลางแผ่นดินไหว : ประเทศพม่า
วันที่ : 20 พฤศจิกายน 2555 03:46 น.
ละติจูด : 20° 33' 36'' เหนือ
ลองจิจูด : 99° 55' 48'' ตะวันออก
ความลึกจากระดับผิวดิน : กิโลเมตร
เพิ่มเติม : TMD


-----------
อ่างทอง - กรมเจ้าท่าเร่งขุดลอกสันดอนกลางแม่น้ำเจ้าพระยาที่อ่างทอง หลังระดับน้ำลดลงต่อเนื่องจนเกือบแห้ง ขณะที่สถานการณ์ภัยแล้งยังคงส่งผลต่อเกษตรกร

วันนี้ (20 พ.ย.) กรมเจ้าท่าได้เร่งทำการขุดลอกสันดอนกลางแม่น้ำเจ้าพระยา โดยนำเรือดูดทรายขนาดใหญ่ของบริษัทรับเหมาลอกแม่น้ำเจ้าพระยาจำนวนหลายลำมาเร่งดูดทรายออกจากแม่น้ำเจ้าพระยา ช่วงหมู่ที่ 5 ต.ไชยภูมิ อ.ไชโย จ.อ่างทอง

ขณะที่รถแบ็กโฮ พร้อมด้วยเครื่องมือหนักหลายชนิดเร่งสร้างคันริมแม่น้ำเพื่อนำทรายที่ดูดได้มากองทำสร้างเป็นแนวตลิ่ง หลังระดับน้ำในแม่น้ำลดลงอย่างต่อเนื่องจนเห็นสันดอนโผล่เต็มลำน้ำ ทำให้การทำงานสามารถทำได้ง่าย เนื่องจากเห็นจุดสันดอนต่างๆ ในลำน้ำ ซึ่งจะสามารถทำได้อย่างรวดเร็วต่างจากหน้าน้ำที่มองไม่เห็น

ทั้งนี้ โครงการลอกแม่น้ำเจ้าพระยาเป็นของกรมเจ้าท่า ที่ดำเนินการลอกแม่น้ำตั้งแต่เขต อ.ไชโย จ.อ่างทอง ไปจนถึง จ.สิงห์บุรี เพื่อที่จะแก้ปัญหาทั้งในหน้าแล้งและหน้าน้ำ ซึ่งแม่น้ำมีความตื้นเขิน และไม่สามารถที่จะรองรับมวลน้ำได้

ขณะที่ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาที่สถานีชลมาตร C7A ของสำนักงานชลประทานที่ 12 หน้าศาลากลางจังหวัดอ่างทอง ระดับน้ำวัดได้ 0.80 เมตรจากระดับน้ำทะเล ซึ่งน้อยมากทำให้หลายฝ่ายออกมาเตือนเกษตรกรให้เตรียมพร้อมรับมือกับปัญหาภัยแล้งที่จะมาถึงในเร็ววันนี้ โดยเฉพาะพื้นที่ปลายน้ำ และนอกเขตชลประทาน โดยทางจังหวัดอ่างทองเตรียมประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และเร่งหาแหล่งน้ำให้เกษตรกรต่อไป
---------------
ศูนย์ข่าวศรีราชา- หมูป่าหิวโซหนีออกจากเล้าหาอาหาร แต่ส่งเสียงดังสร้างความรำคาญชาวบ้าน แจ้งเจ้าหน้าที่กู้ภัยฯ ช่วยเหลือโดยใช้เวลากว่า 2 ชม. จับตัวไว้ได้

เมื่อเวลา 00.20 น.วันที่ 20 พ.ย.55 ร.ต.ต.สินสมุทร์ บุญทัศนา พนักงานสอบสวน สภ.สัตหีบ รับแจ้งจากชาวบ้านที่อาศัยอยู่บริเวณโรงงานทำขนมจีน ซ.เครือนาวี ม.5 ต.สัตหีบ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ว่า มีหมูป่าออกอาละวาดหาของกินภายในบ้านเรือน และส่งเสียงร้องดังรบกวน สร้างความเดือดร้อนอย่างมาก จึงประสานขอกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างโรจนธรรมสถานสัตหีบ ช่วยทำการจับมากักขังไว้ที่ สภ.สัตหีบ

ต่อมา เจ้าหน้าที่กู้ภัยฯ จำนวน 3 นาย ได้รุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบหมูป่าขนาดใหญ่ เพศเมีย อายุประมาณ 2 ปี น้ำหนักตัวประมาณ 200 กิโลกรัม กำลังหิวโซเดินใช้จมูก และขาขุดคุ้ยดินหาอาหารส่งเสียงร้องดังไปทั่วบริเวณ เจ้าหน้าที่ได้ช่วยกันไล่ต้อนให้จนมุม ก่อนจะใช้เชือกไนลอนขนาดใหญ่ผูกจูง และช่วยกันยกขึ้นท้ายรถกระบะนำส่งโรงพัก

จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้พยายามช่วยกันอุ้มหมูป่าเพื่อนำไปล่ามไว้ที่โรงพัก แต่เหตุการณ์กับชุลมุนขึ้นเมื่อเจ้าหมูป่าตัวนี้ดิ้นสู้ไม่ยอม และส่งเสียงร้องดังสนั่น จนทำให้เชือกที่ผูกไว้เกิดขาดหมูป่าหลุดไปได้อีก เจ้าหน้าที่ต้องออกแรงวิ่งไล่ช่วยกันจับอยู่นานกว่า 2 ชั่วโมง จนในที่สุดใช้ผ้าขาวห่อศพม้วนเป็นเกลียวมัดเจ้าหมูป่าในลักษณะมัดข้าวต้ม และผูกติดไว้กับเสาเหล็กป้ายบอกสถานที่สูบบุหรี่ แต่ก็ทนแรงไม่ไหวหักโค่น จึงต้องผูกไว้กับต้นไม้ก่อนจะหมดฤทธิ์นอนหลับไปในที่สุด

ด้าน พ.ต.อ.ชนพัฒน์ กล่าวว่า ในกรณีที่หมูป่าออกไปสร้างความรำคาญให้แก่ชาวบ้านนั้น เบื้องต้นได้ดำเนินการจับมากักขังไว้ที่โรงพัก เพื่อไม่ให้สร้างความเดือดร้อนแก่ชาวบ้าน พร้อมติดตามเจ้าของให้มารับตัวกลับไปเลี้ยงที่บ้าน จึงฝากไปยังผู้เลี้ยงหากปล่อยให้สัตว์ออกมาสร้างความเดือดร้อน หรือคำราญใจให้แก่ชาวบ้านก็จะดำเนินคดีกับผู้เลี้ยงต่อไป

Local - Manager Online - อ่างทองเร่งลอก “สันดอน” กลางเจ้าพระยา

 

สมิทธ ย้ำ 21 ธ.ค. พายุสุริยะพัด เสี่ยงแผ่นดินไหว

20 พ.ย. 55 13.52 น.



ดร.สมิทธ ธรรมสโรจน์ เตือนภัยเหตุ "พายุสุริยะ" จะพัดเข้าใส่โลกในวันที่ 21 ธ.ค.นี้ อาจเกิดแผ่นดินไหว ไฟดับ เหมือนเหตุการณ์ที่เกิดกับประเทศแคนาดาในอดีต

ดร.สมิทธ ธรรมสโรจน์ ประธานมูลนิธิสภาเตือนภัยพิบัติแห่งชาติ กล่าวถึงกรณีแผ่นดินไหวที่เกิดในประเทศพม่า และเตือนผลกระทบที่อาจเกิดกับประเทศไทย เนื่องจาก "พายุสุริยะ" ที่จะพัดเข้าสู่โลกในวันที่ 21 ธ.ค. นี้ ผ่านรายการ ThailandOnly ว่า แผ่นดินไหวในพม่านั้นถือเป็นเรื่องน่ากลัวกว่าปกติ เนื่องจากอัตราความรุนแรงของการเกิดอาฟเตอร์ช็อกนั้น จะลดลงมากกว่าครั้งแรกที่เกิดแผ่นดินไหว ซึ่งแผ่นดินไหวในพม่านั้น ครั้งแรกเกิดที่ระดับ 6.6-6.8 ริกเตอร์ และอาฟเตอร์ช็อกก็ควรจะเป็น 4-5 ริกเตอร์ แต่อาฟเตอร์ช็อกที่เกิดตามมานั้นกลับมีความรุนแรงสูงถึง 5.5-5.6 จึงเป็นเรื่องที่น่าคิดว่า พลังงานที่สะสมอยู่ที่รอบรอยเลื่อนสะแกงของพม่าที่เกิดเมื่อวันที่ 11 พ.ย. นั้น น่ากลัวว่าจะมีพลังงานสะสมเหลืออยู่

ดร.สมิทธ กล่าวต่อว่า สำหรับการเกิดอาฟเตอร์ช็อกนั้นสามารถมองได้ 2 ด้าน ด้านดีของอาฟเตอร์ช็อกนั้น ถือว่าเป็นการปลดปล่อยพลังงานที่สะสมอยู่บริเวณรอยเลื่อน แต่ ด้านไม่ดี อาจจะเป็นพลังงานที่ปลดปล่อยออกมานั้นยังไม่หมดไปจริงๆ ถึงได้มีอาฟเตอร์ช็อกที่มีระดับความรุนแรงสูงเกิดขึ้นตามมา และอาจจะเกิดเป็นแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ต่อไปก็เป็นได้

นอกจากนี้ยังกล่าวถึง แผ่นดินไหวในประเทศพม่านั้น ถ้าหากยังเกิดความสั่นสะเทือนต่อไป อาจส่งผลกระทบต่อรอยเลื่อนของประเทศไทยในภาคเหนือ ซึ่งมีหลายรอยเลื่อนที่อยู่ห่างเพียงไม่กี่ร้อยกิโลเมตร ถือว่าใกล้กับรอยเลื่อนสะแกงในประเทศพม่า ซึ่งรอยเลื่อนในประเทศไทยที่ต้องระวังผลกระทบจากแผ่นดินไหว ได้แก่ รอยเลื่อนแม่ฮ่องสอน รอยเลื่อนเมย และอีกหลายๆ รอยเลื่อนที่อยู่ใน จ.เชียงราย จ.เชียงใหม่ และ จ.อุตรดิตร์

ทั้งนี้ รอยเลื่อนสะแกง ในประเทศพม่านั้นถือเป็นรอยเลื่อนขนาดใหญ่มาก ซึ่งแผ่นดินไหวขนาด 6.1-6.6 ที่เกิดขึ้นในประเทศพม่านั้น ถือเป็นเพียงแขนงหนึ่งของรอยเลื่อนสะแกง อีกทั้งยังเป็นรอยเลื่อนที่พาดผ่านฝั่งตะวันตกของประเทศไทย ยาวไปจนถึงทะเลอันดามันถึงหัวเกาะสุมาตราในประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งก็เคยเกิดสึนามิเมื่อปี 2547 จึงถือว่าเป็นรอยเลื่อนหลักของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

สำหรับแรงสั่นสะเทือนที่ กทม. รู้สึกได้นั้น เนื่องจาก กทม. มีแผ่นดินที่อ่อนทำให้รู้สึกได้มากกว่าที่อื่นๆ เมื่อแรงสั่นสะเทือนจากพม่าแผ่มาถึง กทม. แผ่นดินที่อ่อนจึงเป็นตัวขยายความสั่นสะเทือนทำให้รู้สึกได้มากขึ้น ซึ่งถ้าหากเกิดแผ่นดินไหวที่รุนแรงในประเทศพม่า โอกาสที่จะทำให้แรงสั่นสะเทือนที่สามารถรู้สึกได้ในกทม. นั้นเพิ่มขึ้นตามไปด้วย

ซึ่งรอยเลื่อนในประเทศไทยที่เคยเกิดแผ่นดินไหวอย่างหนักนั้นเคยเกิดขึ้นเมื่อ 75 ปีก่อนในสมัย พ.ศ. 2480 วัดความสั่นสะเทือนได้ 7.6 ริกเตอร์ ด้าน จ.กาญจนบุรี บริเวณรอยเลื่อนด่านเจดีย์สามองค์ และหากเกิดแผ่นดินไหวนานๆครั้งถือเป็นเรื่องอันตรายเหมือนกัน เพราะพลังงานที่ถูกสะสมและปลดปล่อยในครั้งต่อไปนั้นจะมีพลังมากขึ้นกว่าครั้งก่อน

สำหรับประเทศไทยนั้นมีรอยเลื่อนทั้งหมด 14 รอย ซึ่งยังคงต้องจับตารอยเลื่อนในภาคเหนือและฝั่งตะวันตกเป็นพิเศษ เพราะมีโอกาสที่จะได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหวในพม่า โดยเฉพาะรอยเลื่อนที่จ.กาญจนบุรี ซึ่งถือเป็นรอยเลื่อนที่ค่อนข้างใหญ่ ได้แก่ รอยเลื่อนศรีสวัสดิ์ และรอยเลื่อนเจดีย์สามองค์ ซึ่งมีประวัติการเกิดแผ่นดินไหวอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด ถ้าหากเกิดแผ่นดินไหวในประเทศพม่าขนาด 7-8 ริกเตอร์ ก็อาจจะส่งผลให้เกิดการกระตุ้นในรอยเลื่อนของประเทศไทยด้วย

นอกจากนี้ยังได้กล่าวถึงปรากฏการณ์ สุริยุปราคาที่เกิดจากดาวเคราะห์ต่างๆ เรียงตัวกันในแนวระนาบไม่ว่าจะเป็น ดาวพุธ ดาวศุกร์ หรือโลกนั้น พลังงานที่เกิดจากการดึงดูดของดาวแต่ละดวง จะส่งผลทำให้มีการเปลี่ยนแปลงของเปลือกโลกมากขึ้น

ดร.สมิทธ ยังระบุถึง ข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ขององค์การ นาซ่า ที่กล่าวถึงการปลดปล่อยพลังงาน "พายุสุริยะ" ซึ่งเกิดจากการระเบิดของผิวดวงอาทิตย์และจะส่งพลังงานมาสู่ดาวเคราะห์ต่างๆ ที่โคจรอยู่รอบๆ ดวงอาทิตย์รวมถึงโลกของเรา โดยทางด้าน องค์การ นาซ่า มีการคาดการปรากฏการณ์ดังกล่าวว่าจะเกิดทุก 11 ปีจะมี 1 ครั้ง ซึ่งจะมีผลกระทบต่อแกนโลก และจะโคจรมาครบกำหนดอีกครั้งในวันที่ 21 ธ.ค. 2555 ที่จะถึง

ทั้งยังกล่าวถึงผลของ "พายุสุริยะ" ถ้าหากมาสัมผัสกับมนุษย์นั้น ยังไม่มีรายงานว่าจะเกิดผลกระทบต่อผิวหนัง ดวงตา หรือเกิดอาการแทรกซ้อนต่างๆ นั้นแต่อย่างใด แต่ถ้าหากกระทบกับผิวโลกก็จะก่อให้เกิดแผ่นดินไหวขนาดใหญ่ ซึ่งจะทำให้เกิดการเคลื่อนตัวอย่างฉับพลัน และถ้าหากมากระทบในมหาสมุทร ก็จะทำให้เกิดแผ่นดินไหวใต้ท้องทะเล ทำให้เกิดเป็นคลื่นสึนามิ นอกจากนี้จากเหตุการณ์ในอดีตยังมีผลทำให้หม้อแปลงไฟฟ้าของโรงงานไฟฟ้าระเบิดในประเทศแคนาดา ส่งผลให้กระแสไฟฟ้าดับนานถึง 9 ชั่วโมง และประชาชนหลายล้านคนได้รับผลกระทบ อีกทั้งยังมีผลกระทบต่อโรงงานปรมณู ซึ่งสหรัฐฯ คงต้องเตรียมการรับมือด้วย

พร้อมทั้งยังกล่าวว่า ประเทศไทยนั้นยังขาดการอบรม กรณีเกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหว ซึ่งต้องปรับปรุงและให้องค์ความรู้กับประชาชน

สมิทธ ย้ำ 21 ธ.ค. พายุสุริยะพัด เสี่ยงแผ่นดินไหว

 

อย.เตือน กินพาราเซตามอลเกินขนาด ระวังตับวาย


เขียนโดย nuntarat โพสต์เมื่อ วันอังคารที่ 20 พฤศจิกายน 2555



นพ.บุญชัย สมบูรณ์สุข เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา เปิดเผยว่า จากข้อมูลการใช้ยาพาราเซตามอลของคนไทยพบว่า ส่วนใหญ่มักมีการใช้ยาเกินขนาด เพราะเป็นยาสามัญที่มีกันทุกบ้านและคิดว่าใช้รักษาอาการปวดได้ทุกชนิด ทั้งที่พาราเซตามอลนั้นมีฤทธิ์แก้ปวด ลดไข้ เท่านั้น ซึ่งการใช้ยาพาราเซตามอลติดต่อกันเป็นเวลานานอาจนำไปสู่การเกิดพิษต่อตับ จนนำไปสู่ภาวะตับวาย และเสียชีวิตในที่สุด
ทั้งนี้ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) จึงได้มีประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง ยาที่ต้องแจ้งคำเตือนการใช้ยาไว้ในฉลากและเอกสารกำกับยา กำหนดให้ผลิตภัณฑ์ยาที่มีส่วนประกอบของพาราเซตามอล ทั้งที่เป็นยาสามัญ และยาสามัญประจำบ้าน ต้องมี ข้อความคำเตือนบนฉลาก ได้แก่
1) ถ้าใช้ยานี้เกินขนาดที่ระบุไว้บนฉลากหรือเอกสารกำกับยา จะทำให้เป็นพิษต่อตับได้ และไม่ควรใช้ติดต่อกันเกิน 5 วัน
2) ผู้ที่เป็นโรคตับ โรคไต ควรปรึกษาแพทย์ หรือเภสัชกรก่อนใช้ยา
อีกทั้งบนฉลากยังมีระบุวิธีใช้อย่างชัดเจน คือ รับประทานครั้งละ 1-2 เม็ดไม่เกินวันละ 4 ครั้ง และต้องมีขนาดบรรจุเป็นแผงละ 4 และ 10 เม็ดเท่านั้น เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้บริโภคใช้ยาเกินขนาดที่ระบุไว้ข้างต้น
อย่างไรก็ตาม องค์การอาหารและยา ประเทศสหรัฐอเมริกา (USFDA) ออกประกาศให้บริษัทยาที่ผลิตยาแก้ปวดสูตรที่มีส่วนผสมของพาราเซตามอลเป็นส่วนประกอบ โดยปรับลดปริมาณยาพาราเซตามอลลงจากเดิม จากขนาดยา 500 มิลลิกรัมต่อเม็ด เป็น 325 มิลลิกรัมต่อเม็ด รวมทั้งกำหนดให้ระบุข้อความบนฉลากว่า “ยามีผลทำให้เกิดพิษต่อตับอย่างรุนแรงได้” ด้วย ดังนั้นขอให้ผู้บริโภคใช้ยาอย่างระมัดระวัง ควรอ่านฉลากและเอกสารกำกับยาอย่างถ้วนถี่ และปฏิบัติตามวิธีใช้ที่ระบุบนฉลากยาอย่างเคร่งครัด
MThai News

อย.เตือน กินพาราเซตามอลเกินขนาด ระวังตับวาย | ข่าว ข่าวรายวัน ข่าววันนี้ ข่าวการเมือง