WarRoom - อาสาสมัครเตรียมการเฝ้าระวังประสานงานเตรียมพร้อมเพื่อรองรับสถานการณ์ปี 2013

ฝนพรำแต่เช้าเลย ท้องฟ้ายังไม่เปิด โอกาสตกมีเยอะ

 

ฝนถล่มกรุงส่งผลจราจรติดขัด

28 พฤศจิกายน 2555 เวลา 07:40 น



ฝนถล่มกรุง น้ำท่วมขังในหลายพื้นที่ ส่งผลการจราจรชะลอตัว ติดขัดหลายจุด

ฝนที่ตกลงมาอย่างหนักตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมาทำให้ถนนหลายจุดมีน้ำท่วมขัง ส่งผลให้การจราจรเคลื่อนตัวช้าถึงติดขัดบางจุด กองบังคับการตำรวจจราจร รายงานว่า ขณะนี้ถนนพหลโยธิน ขาเข้า บริเวณหน้าธนาคารทหารไทย สำนักงานใหญ่ มุ่งหน้าบีทีเอส จตุจักร มีน้ำท่วมขังยาวประมาณ 500 เมตร เนื่องจากมีฝนตกหนัก ทำให้ท่อระบายน้ำระบายไม่ทัน อยู่ระหว่างการเร่งดำเนินการของเจ้าหน้าที่

ขณะที่ถนน ลาดพร้าวขาเข้าไปซอย101ติดหยุดนิ่งท้ายบนยกระดับข้ามแยกบางกะปิ ถนนรัชดา ขาเข้า จากแยกเทียมร่วมมิตร มุ่งหน้า แยกพระราม9 ติดเข้ากลางซอยอโศก ส่วนที่ถนนรามคำแหงรถรถติดตลอดเส้นทาง

B5 - War Room Falkman

 

ทะเลสีแดงที่ออสเตรเลีย

28 พฤศจิกายน 2555 เวลา 07:29 น.



ตะลึง !น้ำทะเล ในออสเตรเลีย เปลี่ยนเป็นสีแดง เจ้าหน้าที่ประกาศปิดชายหาดตรวจสอบสารปนเปื้อน

เกิดปรากฎการณ์น้ำทะเลเปลี่ยนเป็นสีแดงในออสเตรเลีย โดยเจ้าหน้าที่ได้ประกาศปิดชายหาดบอนไซ ในเมืองซิดนีย์ และชายหาดโคลเวลลี ที่อยู่ติดกัน เพื่อดำเนินการตรวจสอบสภาพน้ำทั้งในและพื้นที่โดยรอบทะเลทัสมาน

อย่างไรก็ตามเหตุการณ์ดังกล่าว เรียกว่า "สาหร่ายสะพรั่ง" สีแดง หรือการเจริญเติบโตมากผิดปกติของสาหร่ายสีแดงในน้ำ

เจ้าหน้าที่ยังออกคำเตือนถึงนักท่องเที่ยวให้อยู่ห่างจากสาหร่ายที่กำลังเคลื่อนตัวเข้ามา สืบเนื่องจากมีความเป็นไปได้ที่มันอาจก่อปฏิกริยาต่อมนุษย์ โดยแม้ปรากฏการณ์น้ำทะเลเปลียนสีนี้ ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าไม่มีพิษที่เป็นอันตราย แต่ประชาชนก็ควรหลีกเลี่ยงสัมผัสกับน้ำทะเล เนื่องจากมันมีปริมาณแอมโมเนียระดับสูง ซึ่งอาจทำให้เกิดอาการคันและระคายเคืองผิวหนัง











ทะเลสีแดงที่ออสเตรเลีย - โพสต์ทูเดย์ ข่าวรอบโลก

[ame="http://www.youtube.com/watch?v=7McvLyraBu8"]red algae closed Bondi and Clovelly beaches - YouTube[/ame]

http://www.youtube.com/watch?v=N3uQrZwtQFQ&feature=youtu.be


B5 - War Room Falkman

 

“นาซา” เผยรายงานวิเคราะห์พายุฝุ่นบนดาวอังคาร

วันอังคารที่ 27 พฤศจิกายน 2555 เวลา 11:54 น.



"นาซา" เผยรายงานวิเคราะห์พายุฝุ่นขนาดใหญ่บนดาวอังคาร ที่อาจช่วยให้นักวิทยาศาสตร์สามารถนำมาใช้อ้างอิงการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศบนโลกได้

วันนี้ ( 27 พ.ย. ) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกาว่า องค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติ ( นาซา ) เปิดเผยรายงานการตรวจพบพายุฝุ่นขนาดใหญ่บนดาวอังคาร ที่อาจช่วยให้นักวิทยาศาสตร์สามารถนำมาใช้อ้างอิงในการวิเคราะห์การเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศบนโลกได้

นายริช ซูเร็ค หัวหน้าคณะนักวิทยาศาสตร์ประจำห้องปฏิบัติการจรวดขับเคลื่อนความดัน ( เจพีแอล ) ในเมืองพาซาดีนา รัฐแคลิฟอร์เนีย กล่าวเมื่อวันจันทร์ว่า ถือเป็นครั้งแรกในรอบ 42 ปีที่องค์การนาซาทำการวิจัยปรากฏการณ์ลักษณะนี้ ด้วยการอาศัยข้อมูลทั้งจากสิ่งแวดล้อมบนระบบสุริยะ และจากสถานีวิเคราะห์สภาพภูมิอากาศบนพื้นโลก

ทั้งนี้ ผลการศึกษาบ่งชี้ว่า พายุฝุ่นยักษ์ลักษณะดังกล่าวเกิดขึ้นบนดาวอังคารมาแล้ว 2 ครั้ง ในปี 2544 และ 2550 ทว่าประเด็นน่าสนใจอยู่ที่ แม้มวลพายุฝุ่นจะครอบคลุมพื้นที่บนดาวอังคารเป็นบริเวณกว้าง ทว่ากลับไม่มีการขยายตัวอีก ซึ่งต่างจากพายุฝุ่นโดยทั่วไปบนโลกที่สามารถทวีกำลังแรง และขยายตัวจนปกคลุมพื้นที่ได้เป็นบริเวณกว้าง

รายงานฉบับล่าสุดขององค์การนาซา เมื่อวันที่ 16 พ.ย. ระบุยานลาดตระเวนบนดาวอังคารขององค์การนาซา ( เอ็มอาร์โอ ) สามารถตรวจจับมวลความร้อนในรัศมี 25 กิโลเมตร จากระดับสูงสุดของพายุฝุ่น ที่ทำให้อุณหภูมิในบริเวณโดยรอบเพิ่มขึ้นสูงสุดถึง 25 องศาเซลเซียส ซึ่งมีสาเหตุมาจากการที่อนุภาคของฝุ่นถูกพัดลอยขึ้นไปดูดซับแสงอาทิตย์ นอกจากนี้ยานเอ็มอาร์โอยังตรวจจับการเพิ่มสูงขึ้นของอุณหภูมิบริเวณ “จุดร้อน” ในแถบละติจูดทางตอนเหนือของดาวอังคารด้วย

อย่างไรก็ตาม เป็นการดีที่มวลพายุฝุ่นไม่เคยเคลื่อนที่เข้ามาใกล้ยานหุ่นยนต์สำรวจ “ออพพอร์จูนิตี” ขององค์การนาซา ที่ขึ้นไปประจำการบนดาวอังคาร เมื่อปี 2547 ในรัศมี 1,344 กิโลเมตร เนื่องจากหากมวลพายุฝุ่นเคลื่อนที่เข้ามาใกล้ตัวยานกว่านี้ อาจส่งผลกระทบต่อระบบการทำงานของยาน ที่อาศัยพลังงานจากแสดงอาทิตย์เป็นหลัก


ยานหุ่นยนต์สำรวจดาวอังคาร “คิวริออสซิที” ที่ปฏิบัติหน้าที่บนดาวเคราะห์แดงตั้งแต่วันที่ 6 ส.ค. โดยปัจจุบันปักหลักอยู่ห่างจากยาน ออพพอร์จูนิตี คนละด้านของดาวอังคาร สามารถตรวจพบการเปลี่ยนแปลงลักษณะภูมิอากาศบนดาวอังคาร ที่อาจมีสาเหตุจากพายุฝุ่นได้เช่นกัน โดยรายงานจากหุ่นยนต์สำรวจระบุความดันอากาศในบริเวณรอบตัวยานลดต่ำลง และอุณหภูมิช่วงกลางคืนที่เพิ่มขึ้นเล็กน้อย

“นาซา” เผยรายงานวิเคราะห์พายุฝุ่นบนดาวอังคาร | เดลินิวส์

B5 - War Room Falkman

 

ผลสำรวจชี้ ไทยรั้ง “เบอร์1” ดินแดนที่ประสบความสูญเสียจาก “ภัยธรรมชาติ” สูงสุดในโลก

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 28 พฤศจิกายน 2555 11:27 น



เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์- ประเทศไทยและสหรัฐอเมริกา ถูกจัดให้เป็นดินแดนที่ประสบความสูญเสียทางเศรษฐกิจมากที่สุดจากภัยธรรมชาติในปี 2011 ทั้งนี้ เป็นข้อมูลจากรายงานของสถาบันวิจัยชื่อดังของเยอรมนีที่มีการเผยแพร่ในเวทีประชุมด้านการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศที่กรุงโดฮา ของกาตาร์เมื่อวันอังคาร (27)

รายงานของสถาบันวิจัยชื่อดัง “ Germanwatch ” ซึ่งมีฐานอยู่ที่กรุงเบอร์ลินระบุว่า ไทยและสหรัฐฯต้องประสบกับความสูญเสียทางเศรษฐกิจคิดเป็นมูลค่าราว 75,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ราว 2.3 ล้านล้านบาท) จากผลของภัยธรรมชาติทั้งพายุ น้ำท่วม ดินถล่มและไฟป่า ในปี 2011 ถือเป็น 2 ประเทศที่เศรษฐกิจสูญเสียหนักที่สุดจากผลของการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศโลก ตามมาด้วยสาธารณรัฐประชาชนจีน (เกือบ 13,000 ล้านดอลลาร์), ปากีสถาน (5,800 ล้านดอลลาร์) และบราซิล (4,700 ล้านดอลลาร์) ในอันดับที่ 3-5 ตามลำดับ

อย่างไรก็ดี หากพิจารณารวมกันทั้งในแง่ขนาดของเศรษฐกิจและจำนวนผู้เสียชีวิตจากภัยธรรมชาติจะพบว่า ประเทศไทยเป็นประเทศที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดในโลกในปีที่ผ่านมา หลังพื้นที่ 65 จาก 77 จังหวัดของไทยต้องเผชิญกับเหตุน้ำท่วมครั้งเลวร้ายที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตเกือบ 900 ราย และอีกไม่ต่ำกว่า 13.6 ล้านคนได้รับผล กระทบ รวมถึงพื้นที่ทำการเกษตรอีกมากกว่า 20,000 ตารางกิโลเมตรได้รับความเสียหาย รองลงมา คือ ประเทศกัมพูชา ปากีสถาน เอลซัลวาดอร์ ฟิลิปปินส์ บราซิลและสหรัฐฯ ตามลำดับ

ด้านสเวน ฮาร์เมลิง หัวหน้าทีมวิจัยและผู้เชี่ยวชาญด้านนโยบายเกี่ยวกับสภาพอากาศระหว่างประเทศ ของสถาบัน “ Germanwatch ” ระบุว่า สิ่งที่เกิดขึ้นกับประเทศไทยเมื่อปีที่แล้วอาจนำไปสู่การรับรู้ตื่นตัวที่เพิ่มมากขึ้นในสังคมไทยเกี่ยวกับความรุนแรงของภัยธรรมชาติ ที่เป็นผลสืบเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ พร้อมชี้ว่า ไทยเป็นหนึ่งในไม่กี่ประเทศ ที่ยังคงไม่ตอบรับต่อพันธะกรณีระหว่างประเทศในเรื่องการจำกัดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก

ทั้งนี้ ข้อมูลของสถาบันวิจัยดังกล่าวยังระบุว่า ตลอดระยะเวลากว่า 2 ทศวรรษที่ผ่านมา มีประชากรโลกต้องเสียชีวิตไปแล้วมากกว่า 530,000 คน จากเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกับสภาพอากาศรุนแรงสุดขั้วที่เกิดขึ้นเกือบ 15,000 ครั้งทั่วโลก คิดเป็นความเสียหายไม่ต่ำกว่า 2.5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ( ราว 76.7 ล้านล้านบาท)













B5 - War Room Falkman

 

นักวิทยาศาสตร์ชี้ “ระดับน้ำทะเล” สูงขึ้นเร็วกว่าที่ UN คาดการณ์ไว้ 60%

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 28 พฤศจิกายน 2555 09:56 น



เอเอฟพี - ระดับน้ำทะเลเพิ่มสูงขึ้นเร็วกว่าที่คณะทำงานด้านสภาพอากาศขององค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ประเมินไว้ล่าสุดถึง 60% คณะนักวิทยาศาสตร์รายงาน วันนี้(28)

รายงานจากผู้เชี่ยวชาญ 3 คนซึ่งตีพิมพ์ในวารสาร Environmental Research Letters ชี้ว่า ในปัจจุบันระดับน้ำทะเลเพิ่มสูงขึ้นเฉลี่ย 3.2 มิลลิเมตรต่อปี ขณะที่ผลประเมิน “ที่ดีที่สุด” ของคณะกรรมการระหว่างรัฐบาลว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ (IPCC) เมื่อปี 2007 ระบุว่า ระดับน้ำทะเลจะเพิ่มขึ้นเพียงราวๆ 2.0 มิลลิเมตรต่อปี

ตัวเลขล่าสุดสอดคล้องกับความเห็นของผู้เชี่ยวชาญส่วนใหญ่ที่ว่า ระดับน้ำทะเลจะสูงขึ้นกว่าปัจจุบันถึง 1 เมตรภายในสิ้นศตวรรษนี้ แกรนท์ ฟอสเตอร์ หนึ่งในผู้ร่วมวิจัยจากบริษัท Tempo Analytics ให้สัมภาษณ์

“ผมมองว่าหากมีการสำรวจความคิดเห็นผู้สันทัดกรณี จะพบว่าส่วนใหญ่ต่างเห็นตรงกันว่า ระดับน้ำทะเลจะเพิ่มจากปัจจุบัน 1 เมตรภายในสิ้นศตวรรษนี้” ฟอสเตอร์ระบุ

“ในพื้นที่ลุ่มต่ำซึ่งประชาชนจำนวนมากอาศัยอยู่บนแผ่นดินที่สูงกว่าระดับน้ำทะเลไม่เกิน 1 เมตร เช่น บังกลาเทศ เป็นต้น พื้นดินที่พวกเขาอยู่อาศัยกำลังจะหายไป และจะมีประชากรหลายร้อยล้านคนที่ต้องอพยพหนีภัยสภาพอากาศ ในสถานการณ์เช่นนั้นอาจจะเกิดสงครามแย่งชิงทรัพยากร หรือข้อขัดแย้งอื่นๆ ตามมา”

“สำหรับเมืองใหญ่ที่ตั้งอยู่ริมฝั่งทะเล เช่น นิวยอร์ก ผลกระทบที่จะเกิดขึ้นอาจใกล้เคียงกับเฮอริเคนแซนดี”

“ทุกครั้งที่มีพายุลูกใหญ่ๆพัดเข้าสู่แผ่นดิน จะเกิดคลื่นพายุซัดฝั่งซึ่งทำให้น้ำท่วมฉับพลัน หากระดับน้ำสูงขึ้นอีก 3 ฟุต ความเสียหายจะมากขนาดไหนสำหรับรัฐนิวยอร์กและนิวเจอร์ซีย์ คุณคงคาดเดาได้”

ทีมนักวิจัยซึ่งนำโดย สเตฟาน ราห์มสตอร์ฟ จากสถาบันเพื่อการวิจัยผลกระทบของสภาพอากาศพอทสดัม (PIK) ในเยอรมนี ได้ตรวจสอบความแม่นยำของผลจำลองสถานการณ์ด้วยระบบคอมพิวเตอร์ที่ IPCC ใช้จัดทำรายงานการประเมินสถานการณ์สภาพภูมิอากาศฉบับที่ 4 (Fourth Assessment Report) เมื่อปี 2007

รายงานของ IPCC ทำให้รัฐบาลทั่วโลกต้องหันมาให้ความสำคัญต่อปัญหาโลกร้อน และเป็นที่มาของการจัดประชุมเจรจาอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ(UNFCCC) ที่กรุงโคเปนเฮเกน เมื่อปี 2009 ทั้งยังทำให้ IPCC ได้รับรางวัลโนเบลอีกด้วย

ราห์มสตอร์ฟ และคณะ เห็นด้วยกับรายงานของ IPCC ที่ว่าด้วยอุณหภูมิโลก เนื่องจากผู้เชี่ยวชาญต่างเห็นสอดคล้องกันว่า ทุกวันนี้โลกมีอุณหภูมิสูงขึ้นเฉลี่ย 0.16 องศาเซลเซียสต่อทศวรรษ แต่ทว่าผลคาดการณ์เรื่องระดับน้ำทะเลของ IPCC ที่ว่าจะเพิ่มขึ้นประมาณ 59 เซนติเมตรภายในปี 2100 นั้น ต่ำกว่าความเป็นจริงมาก

ฟอสเตอร์ อธิบายว่า เหตุที่การเพิ่มของระดับน้ำทะเลมีอัตราเร่งสูงขึ้น อาจเป็นผลมาจากการละลายของน้ำแข็งบนแผ่นดิน ซึ่งเป็นสิ่งที่ยังไม่มีใครสามารถคาดเดาได้ ทั้งในรายงานของ IPCC และจนกระทั่งทุกวันนี้

IPCC จะเผยแพร่รายงานการประเมินสถานการณ์สภาพอากาศฉบับที่ 5 เป็น 3 ช่วง ในเดือนกันยายน ปี 2013, เดือนมีนาคม ปี 2014 และ เดือนเมษายน ปี 2014



B5 - War Room Falkman

 

ถ้าต้องการผู้ช่วยใหม่ แจ้งให้ทราบด้วยนะคะ ยินดีค่ะ 081-8307569 :d

 

ภูเขาไฟ Kīlauea Volcano’s Puʻu ʻŌʻō ve ที่หมู่เกาะฮาวายเกิดปะทุขึ้นอีกครั้ง
ในรอบเกือบปี พ่นลาวาออกมาล่าสุด






November 27, 2012 – HAWAII – A lava flow from the Kīlauea Volcano’s Puʻu ʻŌʻō vent entered the ocean at around 1 p.m. on Saturday. The spectacle drew a number of visitors to the area for tours over the weekend. The activity came a day after a small earthquake, measuring 4.3 magnitude occurred at the Lōʻihi Seamount. Lō’ihi is an active volcano situated on the sea floor about 19 miles from the south shoreline of Hawai’i Island. Despite being felt island-wide officials with the Hawaiian Volcano Observatory say there were no observable affects on other volcanoes. The HVO notes that the ongoing eruption of Puʻu ʻŌʻō–Kupaianaha at Kīlauea began in January 1983. Since then, lava flows have destroyed 213 structures, and resurfaced 9 miles of highway, covering it with as much as 115 feet of lava. A flow in mid-2010 and early 2011, reached the Kalapana Gardens subdivision, destroying three homes, according to the HVO. –Maui Now

Kilauea Volcano, Hawai'i: CURRENT ACTIVITY & NEWS

[ame=http://www.youtube.com/watch?v=D3sPhFhJ49s]Kīlauea Lava Reaches Ocean, November 24, 2012 - YouTube[/ame]


B5 - War Room Falkman

 

คนโบราณบอกว่าขันตามน้ำขึ้นน้ำลง จริงหรือเปล่าก็ไม่รู้

 

C4 มาแสดงตัวตนว่ายังอยุ่่จร้า

 

ไก่เอเลี่ยนก็เป็นได้

 

C4 มาแสดงตัวตนว่ายังอยุ่่จร้า

 

เรียน War Room สิริพล D2-3 ได้รับการติดต่อจากแม่ข่าย D2 คุณ sug552 เรียบร้อยจ้า จะถ่ายทอดการเตือนถึงลูกข่ายผม ใน FB ต่อทันทีครับ ขอบคุณครับ

 

A5-1 pattamon39 ร่วมรายงานตัวด้วยคะ

 

ทอร์นาโดถล่มอิตาลี ซัดโรงงานผลิตเหล็กทำคนงานสูญหายเจ็บอื้อ(ชมคลิป)
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 28 พฤศจิกายน 2555 22:05 น.



เอเอฟพี - ทอร์นาโดรุนแรงซัดเล่นงานโรงงานผลิตเหล็กขนาดใหญ่แห่งหนึ่งทางตอนใต้ของอิตาลีเมื่อวันพุธ(28) ส่งผลให้คนงานได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย 20 ราย สูญหาย 1 คน ขณะที่พายุหลายลูกพัดกระหน่ำหลายพื้นที่ในประเทศแห่งนี้

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่โรงงานผลิตเหล็กของบริษัทอิลวาในเมืองทารันโต และสันนิษฐานว่าคนงานหนึ่งที่สูญหายนั้นกำลังปฏิบัติงานอยู่ที่เครนตัวหนึ่งตรงท่าเทียบเรือ ซึ่งถูกลมกระโชกแรงซัดจนตกลงไปในทะเล "ทีมประดาน้ำกำลังค้นหาเขา" ลิโน อูร์ซี โฆษกนายกเทศมนตรีทารันโตบอกกับเอเอฟพี



ปล่อยควันของอาคารโรงงานถูกลมกระโชกแรงซัดได้รับความเสียหายบางส่วน ขณะที่เจ้าหน้าที่เผยว่าได้ยินเสียงระเบิดดังออกมาจากข้างในโรงงาน อย่างไรก็ตาม ณ เวลานั้นอาคารดังกล่าวยังปิดอยู่

ฟาเบียโน อมาติ เจ้าหน้าที่หน่วยฉุกเฉินท้องท้องถิ่นบอกด้วยว่าพายุทอร์นาโดยังพัดถล่มโรงเรียนที่อยู่ใกล้เคียงแห่งหนึ่ง ส่งผลให้มีเด็กนักเรียนได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย 6 ราย

โรงงานผลิตเหล็กในอิตาลีถูกพายุทอร์นาโดซัดได้รับความเสียหาย
โรงงานอิลวา ซึ่งเป็นโรงงานผลิตเหล็กใหญ่ที่สุดในยุโรปตะวันตก ได้ปิดปฏิบัติการมาตั้งแต่วันจันทร์(26) สืบเนื่องจากข้อพิพาทเกี่ยวกับระดับการปล่อยมลพิษ กระนั้นทางบริษัทยอมรับว่าทอร์นาโดลูกนี้ได้ก่อความเสียหายทางโครงสร้างอย่างหนัก

ทั้งนี้มีรายงานว่าที่เมืองทัสคานี ก็ถูกพายุเล่นงานเป็นครั้งที่ 2 ในรอบ 2 สัปดาห์ ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมตามท้องถนนสายต่างๆในหลายพื้นที่ทั้งฟลอเรนซ์และจังหวัดกรอสเซโต นอกจากนี้บริการเดินเรือเฟอร์รีที่อ่าวเนเปิลส์ก็ต้องหยุดให้บริการและระดับน้ำที่ท่วมหลายพื้นที่ของเมืองเวนิสก็เพิ่มสูงขึ้น
[ame=http://www.youtube.com/watch?v=gIiNQKLsLao&feature=player_embedded]Tromba d'aria su Taranto, colpita l'ILVA - YouTube[/ame]