WarRoom - อาสาสมัครเตรียมการเฝ้าระวังประสานงานเตรียมพร้อมเพื่อรองรับสถานการณ์ปี 2013

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>คลิปฮีโร่! “มะกันมุง” รวมพลังยก BMW ไฟลุก ช่วยคนติดใต้ท้องรถ-ไม่หวั่นระเบิด</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD height=40><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=center align=left>14 กันยายน 2554 11:13 น.</TD><TD vAlign=center align=left><SCRIPT src="http://platform.twitter.com/widgets.js" type=text/javascript></SCRIPT>

<SCRIPT src="http://static.ak.fbcdn.net/connect.php/js/FB.Share" type=text/javascript></SCRIPT>
<SCRIPT src="https://apis.google.com/js/plusone.js" type=text/javascript> {lang: 'th'}</SCRIPT><?XML:NAMESPACE PREFIX = G /><G:pLUSONE size="medium"></G:pLUSONE>
<TD></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=600 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=600> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>คนงานก่อสร้าง นักศึกษา และคนอื่นๆ ช่วยกันยกรถรถบีเอ็มดับเบิลยูขึ้น เพื่อดึงผู้บาดเจ็บออกจากใต้ท้องรถ ขณะที่กระโปรงหน้ากำลังลุกไหม้ และอาจระเบิดขึ้นได้ทุกเมื่อ</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE> เดลิเมล์/เคเอสแอล - ชาวสหรัฐฯ นับสิบคนเสี่ยงชีวิตรวมพลังยกรถยนต์ที่ไฟกำลังลุกไหม้ เพื่อดึงร่างของชายคนหนึ่งซึ่งติดอยู่ใต้ท้องรถออกมา หลังเกิดอุบัติเหตุระหว่างจักรยานยนต์กับรถบีเอ็มดับเบิลยู เคเอสแอล-ทีวี สถานีโทรทัศน์ท้องถิ่นในรัฐยูทาห์ รายงานวานนี้ (13)

เช้าวันจันทร์ (12) ตามเวลาท้องถิ่น แบรนดอน ไรต์ นักศึกษามหาวิทยาลัยรัฐยูทาห์วัย 21 ปี ขี่จักรยานยนต์ออกมาจากวิทยาเขต ก่อนประสบอุบัติเหตุชนกับรถบีเอ็มดับเบิลยูไม่ไกลจากตัวมหาวิทยาลัย ไรต์สูญเสียการควบคุมรถ ล้มคว่ำและไถลเข้าไปใต้ท้องรถยนต์

ต่อมา จักรยานยนต์ที่ล้มคว่ำเกิดไฟไหม้ เพลิงได้ลุกลามไปยังหน้ากระโปรงรถบีเอ็มดับเบิลยูที่ทับร่างของแบรนดอน ไรต์ ทันทีที่เห็นคนติดอยู่ใต้ท้องรถ ผู้เห็นเหตุการณ์หลายคนไม่รอช้า ทั้งคนงานก่อสร้าง นักศึกษา และคนอื่นๆ ช่วยกันยกรถยนต์ขึ้น และดึงตัวผู้บาดเจ็บออกมาได้โดยปลอดภัย

เจฟฟ์ เคอร์ติส ผู้ช่วยผู้กำกับการตำรวจเมืองโลแกน เจ้าของท้องที่ กล่าวว่า “ผมประทับใจที่หลายคนเข้าไปช่วย ทั้งๆ ที่ไฟกำลังไหม้ และอาจระเบิดหรือเกิดอะไรขึ้นก็ได้”

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=600 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=600> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>ทันทีที่เห็นว่ามีคนติดอยู่ ทุกคนก็แห่กันมาช่วยชีวิต แบรนดอน ไรต์ โดยไม่รอช้า</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE> รายงานข่าวระบุว่าแบรนดอน ไรต์ ได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่ไม่อันตรายถึงชีวิต โดยมีกระดูกหักหลายส่วน ประกอบกับแผลไฟไหม้

วันอังคารที่ผ่านมา ไทเลอร์ ริกกส์ ลุงของแบรนดอน ไรต์ ได้ออกมากล่าวขอบคุณกลุ่มผู้ช่วยเหลือหลานชายของเขา การกระทำที่อาจทำให้ผู้หวังดีได้รับอันตราย “การช่วยชีวิตคนอื่นไม่ได้เกิดขึ้นทุกวัน แต่คนเหล่านี้ก็อยู่ที่นั่น ช่วยชีวิตหลานชายของผม ลูกของน้องสาวผม”

อันวาร์ อับดูมิตาลิโมวิซ หนึ่งในผู้เห็นเหตุการณ์ ให้สัมภาษณ์กับเคเอสแอล-ทีวีว่า “มันร้อนมาก ร้อนและอันตรายมาก ... ผมคิดว่ามันจวนจะระเบิดอยู่มะรอมมะร่อ”

ขณะที่ อับบาส ชารีฟ นักศึกษาระดับบัณฑิตศึกษาภาควิชาสถิติ อีกหนึ่งในกลุ่มผู้ช่วยชีวิต กล่าวไว้ว่า “ถ้ามีคนกำลังจะตาย โอกาสที่เขาอาจจะตายมี 100 เปอร์เซ็นต์เต็ม ถ้าไม่มีใครยื่นมือช่วย ส่วนโอกาสที่ผมจะได้รับอันตรายจากการช่วยเขา น่าจะประมาณ 15 หรือ 20 เปอร์เซ็นต์ แค่นั้น ผมไม่กังวลหรอก”
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<!-- title news -->หลายจังหวัดน้ำลดหลังฝนหยุดตก


วันพุธ ที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2554


สถานการณ์น้ำท่วมในหลายพื้นที่เริ่มลดลง บางพื้นที่เริ่มเข้าสู่ภาวะปกติ หลังฝนหยุดตก ทิ้งร่องรอยความสูญเสียและปัญหาด้านสุขภาพตามมา ขณะที่บางจังหวัดเริ่มมีปัญหาน้ำทะเลหนุนท่วมชุมชนริมน้ำ
โดยที่เขตเทศบาลเมืองปราจีนบุรี สถานการณ์น้ำท่วมเริ่มเข้าสู่สภาวะปกติ หลังฝนเริ่มตกเบาบางลง ประกอบกับทางเทศบาลได้นำเครื่องสูบน้ำเร่งสูบน้ำออกหลายจุดรอบเขตเทศบาล เพื่อรักษาพื้นที่เศรษฐกิจย่านการค้าสำคัญๆ ไม่ให้เกิดความเสียหาย แต่พื้นที่รอบนอกได้รับผลกระทบหนัก น้ำได้เอ่อท่วมบ้านเรือนประชาชน

โดยเฉพาะที่บริเวณที่ถนนเทศบาลดำริ ซอย12 (ซอยทรัพย์ไพลิน) ถูกน้ำท่วมสูง 60-100 ซ.ม. ถนนเข้าหมู่บ้านที่มีบ้านเรือนกว่า 100 หลังคาเรือน รถไม่สามารถเข้าออกได้ ชาวบ้านต้องเดินลุยน้ำในระดับเอว หรือใช้เรือ มีบ้านหลายหลังที่ต้องทิ้งบ้านเพราะไม่สามารถอยู่อาศัยได้ บางหลังเขียนป้ายขนาดใหญ่ระบายทุกข์ไว้หน้าบ้านว่า อยากได้ถนนหนีน้ำท่วม ล่าสุดจังหวัดได้ทำสะพานไม้เป็นทางเดิน แต่ไม่ตลอดทั้งซอย และในช่วงเช้ากับช่วงเย็น ทหาร ม.พัน 30 พัน 2 รอ. ค่ายพรหมโยธี ได้นำรถมาคอยบริการสำหรับประชาชนที่จะเข้าออกในซอยดังกล่าว ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในซอย กล่าวว่า ลำบากมากบ้านถูกน้ำท่วมกว่า 2 อาทิตย์ ตอนนี้น้ำเริ่มเหม็นเป็นสีดำ

สำหรับพื้นที่ประสบอุทกภัย ข้อมูลจากสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จังหวัดปราจีนบุรี ถูกน้ำท่วม 6 อำเภอ 52 ตำบล 395 หมู่บ้าน 5 ชุมชน จังหวัดแจกจ่ายถุงยังชีพช่วยเหลือประชาชน รวม 3,347 ชุด
ที่จังหวัดพังงา หลังจากฝนได้หยุดตกมา 3 วันแล้วทำให้ระดับน้ำท่วมในเขตเทศบาลตะกั่วป่า และหมู่บ้านในตำบลบางไทร,โคกเคียน และ ตำตัว ลดระดับลงจนเป็นปกติแล้ว โรงเรียนตะกั่วป่าเปิดเรียนวันนี้เป็นวันแรกแล้ว ครูและนักเรียนต่างช่วยกันทำความสะอาดห้องเรียน และนำของที่เก็บไว้ที่สูงลงมาไว้เก็บตามปกติ อย่างไรก็ตามในพื้นที่อำเภอตะกั่วป่า ยังคงมีท้องฟ้ามืดครึ้ม และมีฝนตกเล็กน้อย คลื่นลมมีกำลังแรง
เช่นเดียวกับที่จังหวัดสตูล หลังน้ำท่วมนานหลายวัน ล่าสุดบางแห่งน้ำลดลงเกือบจะแห้ง แต่ได้เกิดเหตุดินยุบที่บริเวณด้านขวาของอาคารสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย จังหวัดสตูล( สวท.สตูล) ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง ที่ปากหลุมประมาณ 1 เมตร และเป็นโพรงลึกลงไปใต้อาคาร ประมาณ 3.50 เมตร นางดวงใจ มาตยานุมัติ ผอ.สวท.สตูล ได้ตรวจสอบที่เกิดเหตุ เบื้องต้นให้นำเชือกมากั้นไว้แสดงเป็นเขตอันตรายห้ามเข้า และรายงานไปยัง สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จจังหวัดสตูล รวมทั้งสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสตูล เพื่อประสานกรมทรัพยากรธรณี มาตรวจสอบ
ขณะที่ในจังหวัดตราด แม้ฝนจะหยุดตก แต่เช้านี้ระดับน้ำยังท่วมสูง 20-30 ซม.ในชุมชนริมแม่น้ำตราดคือชุมชนโภคไพร และชุมชนอื่นๆอีกหลายชุมชนที่อยู่สองฟากแม่น้ำตราด เนื่องจากน้ำทะเลหนุนทำให้น้ำระบายไม่ทัน
นายวิบูลย์ เครือลอย ผู้จัดการโรงงานน้ำ อำเภอเมืองตราด บอกว่า พื้นที่ชุมชนริมแม่น้ำตราดเป็นพื้นที่ต่ำอยู่ตอนล่าง เป็นที่รับน้ำจากตำบลห้วยแร้ง ตำบลเขาสมิง และตำบลต่างๆ ทำให้เกิดภาวะน้ำท่วมสูง ขณะนี้ชาวบ้านชุมชนริมแม่น้ำตราดยังประสบความเดือดร้อนน้ำท่วมอยู่
ทางด้านศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคอีสาน จังหวัดอุบลราชธานี แจ้งเตือนประชาชนที่ยังประสบอุทกภัยน้ำท่วมอย่าไว้วางใจกับร่องมรสุมที่อ่อนกำลังลง เพราะบริเวณทั่วไปส่วนใหญ่ยังเกิดฝนตกกระจายถึงหนักมากในบางพื้นที่ และเสี่ยงต่อการเกิดน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลากได้ตลอดระยะนี้
เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลาง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามันภาคใต้ และอ่าวไทย เริ่มมีกำลังอ่อนลง ลักษณะเช่นนี้จะทำให้ทั่วบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีฝนลดลง แต่ก็ยังไม่หมดกังวล เพราะสภาพอากาศทั่วไปส่วนใหญ่ยังก่อให้เกิดฝนตกหนักบางพื้นที่ ประมาณ 70 - 80 % ส่วนมากบริเวณจังหวัดมุกดาหาร ร้อยเอ็ด ยโสธร อำนาจเจริญ อุบลราชธานี และศรีสะเกษ ขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยตามที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน ระวังอันตรายจากฝนตกหนัก ที่ทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลากได้ ในระยะนี้ต่อเนื่องต่อไป

 

B1

ประตูระบายน้ำพัง!น้ำทะลักท่วมลพบุรี

14 ก.ย. 2554, 10:17 น.

หมวดหมู่ : ข่าวเด่นวันนี้




ลพบุรีป่วน!ประตูระบายน้ำพัง! ผู้ว่าฯ สั่งอพยพคน-สัตว์เลี้ยง คาดทำนาข้าวเสียหายนับแสนไร่ ส่วน ที่อ่างทองน้ำเจ้าพระยาล้นตลิ่งท่วมผิวการจราจรบนถนนสายหลัก

นายฉัตรชัย พรหมเลิศ ผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี ได้แจ้งเตือนพี่น้องประชาชนโดยทันที เนื่องจากน้ำที่ทะลักจากประตูน้ำที่พังชำรุดนั้น อาจจะเข้าท่วมพื้นที่ใน อ.ท่าวุ้ง และ อ.บ้านหมี่ จ.ลพบุรี และคาดว่าจะมีพื้นที่นาของชาวบ้านจะเสียหายนับแสนไร่อย่างแน่นอน เบื้องต้นทราบว่า เมื่อคืนนี้ประตูน้ำรับน้ำไม่ไหว เพราะน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา จาก จ. สิงห์บุรี ช่วงรอยต่อระหว่าง จ.ลพบุรี กับ จ.อ่างทอง มีปริมาณมากและไหลแรง

ทั้งนี้ ผู้ว่าฯ ได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมพร้อมตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ถูกกระทบและบรรเทาความเดือดร้อน อย่างไรก็ตาม ในส่วนของไร่นาของชาวบ้านที่ถูกน้ำท่วมนั้น อาจจะเอาไม่อยู่ โดยล่าสุดได้สั่งอพยพคนและสัตว์เลี้ยงแล้ว เพราะหากเข้าท่วมพื้นที่ดังกล่าว น้ำก็อาจจะขังอยู่นานนับเดือน

ส่วนที่ จ.อ่างทอง ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยายังเพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ โดยน้ำล้นตลิ่งท่วมผิวการจราจรบนถนนสายหลักแล้ว บางจุดน้ำสูงกว่า 50 ซม. ต้องปิดการจราจรสองช่องทางทำให้การจราจรติดข้ด

latest breaking news headline

 

B1

น้ำจากบางโฉมศรี ทะลักท่วม อ.บ้านหมี่ ลพบุรี

ประตูระบายน้ำบางโฉมศรี ที่กั้นแม่น้ำเจ้าพระยา กับแม่น้ำบางขามชำรุด จากกระแสน้ำกัดเซาะ

ส่งผลให้น้ำทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนชาวบ้านในอ.บ้านหมี่ และนาข้าวเสียหายนับแสนไร่

ที่มา : เนชั่นแชนแนล

http://www.singburinews.com/blog/2011/09/%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B3%E0%B8%88%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B8%9A%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B9%82%E0%B8%89%E0%B8%A1%E0%B8%A8%E0%B8%A3%E0%B8%B5-%E0%B8%97%E0%B8%B0%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%97%E0%B9%88/

 

ฺB1

กทม.เตรียมรับมือน้ำท่วมฉับพลัน

วันพุธที่ 14 กันยายน 2011 เวลา 11:02

ผู้ว่าฯ กทม. สั่งเจ้าหน้าที่เตรียมพร้อมตลอด 24 ชั่วโมง จัดเตรียมอุปกรณ์ป้องกันน้ำท่วมกรุง

ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า ได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมพร้อมให้ความช่วยเหลือประชาชน กรณีน้ำอาจเข้าท่วมเต็มที่ตลอด 24 ชั่วโมง รวมถึงจัดเตรียมวัสดุอุปกรณ์ กระสอบทราย และยารักษาโรค ให้เพียงพอต่อความต้องการ สามารถช่วยเหลือประชาชนได้ทันท่วงที ซึ่งในขณะนี้ยังสามารถรับมือได้ แต่เป็นห่วงในช่วงปลายเดือนตุลาคมนี้ เนื่องจากปริมาณน้ำเหนือและน้ำทะเลหนุนจะเพิ่มขึ้นมาก ซึ่งได้เตรียมพร้อมรับมืออย่างเต็มที่ ให้ประชาชนได้รับผลกระทบน้อยที่สุด

สำหรับการก่อสร้างแนวป้องกันน้ำท่วมริมคลองมหาสวัสดิ์ ที่ต้องดำเนินการมีความยาวประมาณ 15.50 กิโลเมตร ซึ่งคลองมหาสวัสดิ์ เป็นคลองเชื่อมต่อระหว่างคลองบางกอกน้อย และแม่น้ำท่าจีน มีประตูระบายน้ำฉิมพลี ด้านคลองบางกอกน้อย และประตูระบายน้ำคลองมหาสวัสดิ์ ด้านแม่น้ำท่าจีน จะทำหน้าที่ควบคุม และป้องกันน้ำเค็มจากแม่น้ำเจ้าพระยา และแม่น้ำท่าจีนไหลเข้าพื้นที่เกษตรกรรม ตลอดจนเก็บน้ำไว้ใช้ในการเกษตรกรรมในฤดูแล้ง และป้องกันน้ำท่วมไม่ให้ไหลเข้าท่วมพื้นที่เกษตรใน จ.นนทบุรี และ จ.นครปฐม

ทั้งนี้ การก่อสร้างแนวป้องกันน้ำท่วมริมคลองมหาสวัสดิ์ เริ่มดำเนินการตั้งแต่ปี 2540 คาดว่าจะแล้วเสร็จเดือนพฤษภาคม 2555 และจะสามารถแก้ปัญหาน้ำท่วมให้ชุมชนวัดปุรณาวาส ที่อยู่นอกแนวป้องกันน้ำท่วมได้ 38 ครัวเรือน สำหรับชุมชนวัดปุรณาวาส เป็น 1 ใน 27 ชุมชน นอกแนวป้องกันน้ำท่วม ที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาน้ำท่วม เนื่องจากน้ำฝนและน้ำเหนือไหลหลากทุกปี

กทม.เตรียมรับมือน้ำท่วมฉับพลัน

 

ฺB1

สุราษฎร์ฯฝนหยุดตกระดับน้ำท่วมลดลงสู่ภาวะปกติ

14 กย. 2554 13:13 น.

นายธีระยุทธ เอี่ยมตระกูล ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี เปิดเผยถึงสถานการณ์น้ำท่วมขัง ในพื้นที่ อ.พระแสงว่า ขณะนี้ฝนหยุดตกแล้ว ระดับน้ำเริ่มลดลง ยังมีน้ำท่วมขังในพื้นราบลุ่มริมคลองอีปัน คาดว่าหากไม่มีฝนตกเพิ่มสถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติภายในวันสองวันนี้ ขณะที่คอสะพานบ้านใต้โตน หมู่ที่ 2 ตำบลบางสวรรค์ ที่น้ำกัดเซาะขาด กว้าง 4 เมตร ยาว 8 เมตร ทางอำเภอพระแสงได้แก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าด้วยการนำดินลูกรังถมคอสะพานแล้ว รถยนต์สามารถสัญจรไป-มาได้แล้วเช่นกัน ส่วนที่ อ.คีรีรัฐนิคม ฝนหยุดตกแล้ว ระดับน้ำคลองพุมดวงและคลองยัน เริ่มลดลงสู่ภาวะปกติภายในวันนี้ ส่วนที่ อ.ชัยบุรี ระดับน้ำลดลงแล้ว หากไม่มีฝนตกเพิ่มอีกสถานการณ์จะเข้าสู่สภาวะปกติในวันนี้เช่นกัน

อย่างไรก็ตามโดย จ.สุราษฎร์ธานี ได้สั่งการให้อำเภอทุกอำเภอและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จัดเตรียมเครื่องมือ อุปกรณ์ เครื่องจักรกล เรือท้องแบนและกำลังเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังเตรียมพร้อม 24 ชั่วโมง หากมีเหตุสาธารณภัยเกิดขึ้นสามารถเข้าช่วยเหลือได้ทันที

http://breakingnews.nationchannel.com/read.php?newsid=529257&lang=T&cat=

 

B1

เตือน400หมู่บ้านสุรินทร์เสี่ยงน้ำท่วม

14 กันยายน 2554 เวลา 13:27 น




ปภ.เตือน 400 หมู่บ้าน 3 อำเภอเมืองสุรินทร์เสี่ยงน้ำมูลเอ่อท่วมหลังน้ำจากจ.นครราชสีมาและบุรีรัมย์ไหลสมทบเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง

สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสุรินทร์(ปภ.) ประกาศแจ้งเตือนประชาชนในอ.ชุมพลบุรี อ.ท่าตูม และอ.รัตนบุรี จ.สุรินทร์ กว่า 400 หมู่บ้านให้อพยพสิ่งของไปไว้ที่เสี่ยงเนื่องจากคาดว่าอีกไม่ต่ำกว่า 1 สัปดาห์ปริมาณน้ำที่ไหลมาจาก จ.นครราชสีมาและบุรีรัมย์ จะเข้ามาสมทบระลอกแรกอีก ทำให้น้ำในแม่น้ำมูลเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมไร่นา และหมู่บ้านดังกล่าวเหมือนทุกๆปีที่ผ่านมา

อย่างไรก็ตามขณะนี้ได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อเตรียมความพร้อมช่วยเหลือชาวบ้านอย่างเต็มแล้ว หากเกิดเหตุการณ์น้ำท่วมขึ้น ด้านสำนักงานเกษตรจังหวัด ได้แจ้งเตือนไปยังเกษตรกร ให้เฝ้าระวังและติดตามสภาพอากาศในช่วงนี้อย่างใกล้ชิด เพื่อที่จะได้เตรียมพร้อมทำการเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ทันท่วงที หากเกิดน้ำท่วมขึ้น และขณะนี้ยังไม่พบพื้นที่ใดถูกน้ำท่วมได้รับความเสียหายแต่อย่างใด

ด้านนายสุทธิโรจน์ กองแก้ว หัวหน้าโครงการชลประทานสุรินทร์ กล่าวว่า ปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำต่างๆในจังหวัดสุรินทร์ ยังคงมีพื้นที่รองรับน้ำได้ แต่แหล่งน้ำธรรมชาติเช่นน้ำชี และแม่น้ำมูล พบว่ามีปริมาณสูงขึ้น เหลือเพียง 50- 80 เซนติเมตร ก็จะล้นตลิ่ง ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีพื้นที่ถูกน้ำท่วมเสียหาย แต่หากมีฝนหรือพายุเข้ามาอีกในช่วงนี้ก็จะส่งผลกระทบอย่างแน่นอน

เตือน400หมู่บ้านสุรินทร์เสี่ยงน้ำท่วม - โพสต์ทูเดย์ ข่าวกทม.-ภูมิภาค

 

B1

น้ำท่วมปิดเส้นทางไหว้พระ 9 วัดสุพรรณ

14 กันยายน 2554 เวลา 13:07 น. |

แม่น้ำท่าจีนเอ่อท่วมเส้นทางไหว้พระ 9 วัดเมืองสุพรรณบุรีสูง 1 เมตร รถยนต์ไม่สามารถสัญจรได้



มื่อวันที่ 14 ก.ย. ปริมาณน้ำจากแม่น้ำท่าจีนล้นตลิ่งเข้าเอ่อท่วมเส้นทางนพเก้าไหว้พระ 9 วัด สุพรรณบุรี ถนนสายสมภารคง เส้นทาง วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ วัดแค วัดสารภี วัดพระลอย วัดหน่อพุทธางกูร วัดพระนอน วัดพิหารแดง วัดชีสุขเกษมและ วัดสว่างอารมณ์ โดยเฉพาะบริเวณวัดที่ตั้งอยู่ริมน้ำทั้งหมด ขณะมีน้ำสูงกว่า 1 เมตร การจราจรบางช่วงรถไม่สามารถสัญจรได้เนื่องจากมีการปิดเส้นทางทำแนวคันกั้นน้ำ และปริมาณน้ำในแม่น้ำท่าจีนยังสูงขึ้นเรื่อยๆทำให้แนวคันกั้นน้ำถูกตัดขาดบางจุดส่งผลให้ชาวบ้านและพระในวัดเดือดร้อนหนัก

นายวิศรุต อินแหยม ผอ.การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยสำนักงานสุพรรณบุรี กล่าว เส้นทางไหว้พระ 9 วัด ในอ.เมืองสุพรรณบุรี ได้แก่ วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ วัดแค วัดสารภี วัดพระลอย วัดหน่อพุทธางกูร วัดพระนอน วัดพิหารแดง วัดชีสุขเกษม วัดสว่างอารมณ์ การคมนาคมไม่ค่อยสะดวก มีพื้นที่บางจุดที่รถเล็กวิ่งผ่านไม่ได้ ส่วนเส้นทางไหว้พระตามรอยสมเด็จพระนเรศวรมหาราช 5 วัด วัดสำปะซิว(วัดโดเรมอน) วัดปู่บัว วัดโพธิ์เจริญ วัดพร้าว วัดวรจันทร์ ซึ่งเส้นทางหลักยังสามารถสัญจรไปมาได้ มีน้ำท่วมเข้าไปเพียงแค่ภายในตัววัด ตลาดเก้าห้อง อ.บางปลาม้า ก็ถูกน้ำท่วมขังอยู่ในขณะนี้ใกล้เข้าสู่ภาวะปรติ

http://www.posttoday.com/%E0%B8%81%E0%B8%97%E0%B8%A1.-%E0%B8%A0%E0%B8%B9%E0%B8%A1%E0%B8%B4%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%84/%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%84%E0%B8%81%E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0%B8%87/110732/%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B3%E0%B8%97%E0%B9%88%E0%B8%A7%E0%B8%A1%E0%B8%9B%E0%B8%B4%E0%B8%94%E0%B9%80%E0%B8%AA%E0%B9%89%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B9%84%E0%B8%AB%E0%B8%A7%E0%B9%89%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B09%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%94%E0%B8%AA%E0%B8%B8%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%93

 

B1

แผนที่อากาศวันนี้ 14 ก.ย. 54

 

B1

ภาพถ่ายดาวเทียมบริเวณมหาสมุทรอินเดียตอนเหนือ ทุก ๆ 1 ชั่วโมง

 

ฺB1

ภาพแผนที่แสดงศักยภาพการเกิดน้ำท่วมโดย NASA (24 ชั่วโมง)

 

ฺB1

พายุที่ก่อตัวล่าสุด

 

สิงห์บุรีประตูระบายน้ำพัง ชาวบ้านแตกตื่น

14 กย. 2554 13:50 น.

จากการระบายน้ำท้ายเขื่อนเจ้าพระยา ทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาเพิ่มสูงขึ้นมาก จนเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา แรงดันน้ำในแม่เจ้าพระยาทำให้ประตูระบายน้ำบางโฉมศรี หมู่ 9 ตำบลท่างาม อำเภออินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี ที่ถูกน้ำกัดเซาะตั้งแต่เมื่อวันที่ 14 ก.ย. พังลงมา รวมทั้งสะพานข้ามระหว่างตำบลท่างาม และตำบลชีน้ำร้าย ถูกตัวขาดทันที เป็นทางยาวกว่า 15 เมตร ทำให้น้ำจำนวนมหาศาลไหลทะลักไปตามคลองเชียงรากและบางส่วนไหลไปตามคลองชลประทานลงไปยังตำบลทองเอน ตำบลโพธิ์ชัย และไปยังอำเภอท่าวุ้งจังหวัดลพบุรี ซึ่งมีบ้านเรือนและทุ่งนาที่ยังไม่ได้เก็บเกี่ยวอีกจำนวนมาก ขณะที่ทางเจ้าหน้าที่จะเร่งนำเสาเข็มมาตอกเป็นทำการป้องกัน แต่ก็ไม่เป็นผล เพราะน้ำแรงมาก
พร้อมกันนี้ได้มีการเตือนให้ชาวบ้านที่อพยพมาอาศัยอยู่บนถนนคลองชลประทานให้เร่งอพยพหนีออกจากริมคลองห่างจากประตูระบายน้ำบางโฉมศรี 60 เมตร เพื่อป้องกันอันตรายจากการทรุดพังของถนน

 

ชั่วข้ามคืนแม่น้ำทาจ.ลำพูนเอ่อล้นตลิ่งเข้าบ้านราษฎร

14 กย. 2554 14:09 น.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานการณ์แม่น้ำทาในหมู่ 1 ต.ป่าซาง อ.ป่าซาง จ.ลำพูน วันนี้(14 ก.ย.) บริเวณถนนเลียบริมฝั่งแม่น้ำทา พบว่าบางจุดเอ่อปริ่มล้นเข้าท่วมถนนและบ้านเรือนของราษฎรแล้ว โดยเฉพาะสะพานข้ามหมู่บ้านของ หมู่ 1 ต.ป่าซาง อ.ป่าซางซึ่งเป็นฝั่งตรงข้าม คือ หมู่ 1 ต.บ้านแป้น อ.เมือง ได้รับผลกระทบน้ำท่วมเพราะระดับน้ำแม่ทาที่สูงขึ้น จนทำให้รถจักรยานยนต์และรถยนต์ขนาดเล็กไม่สามารถวิ่งผ่านไปมาได้ ต้องใช้เส้นทางเลี่ยงด้านหน้าถนนลำพูน-ป่าซางแทน ตลอดทั้งคืนวานนี้ ชาวบ้านต่างเร่งนำกระสอบทรายบรรจุทรายทำเป็นเป็นกำแพงสูง 4 - 5 ชั้นเรียงรายกั้นน้ำไม่ให้เข้าทั้งหน้าและหลังบ้าน มีการประกาศเสียงตามสายจากเทศบาลตำบลป่าซาง ให้เตรียมขนย้ายสิ่งของและสัตว์เลี้ยงไว้ในที่ปลอดภัย โดยใช้ธงสีแดงเป็นสัญลักษณ์เตือนภัยแจ้งตั้งแต่ช่วงหัวค่ำที่ผ่านมาจนถึงวันนี้

นายบอย ราษฎรที่อาศัยย่านดังกล่าว เปิดเผยว่า ระดับน้ำแม่น้ำทาเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ จะขึ้นชั่วโมงละ 1 นิ้ว กอปรกับแม่น้ำกวงที่หนุนมาบรรจบกับแม่น้ำทา ตอนนี้ทาง อ.ป่าซาง ร่วมกับเทศบาลตำบลป่าซางได้วางระบบการป้องกันตามแผนโครงการแก้มลิงตามแนวพระราชดำริฯ โชคดีที่บ้านตัวเองอยู่ที่สูงไม่ได้รับผลกระทบ ตั้งใจจะมาช่วยเหลือผู้ที่อาศัยพื้นที่ต่ำก่อน หากวันนี้ยังมีฝนตกอยู่ เชื่อว่าน้ำต้องสูงเพิ่มขึ้นอีกแน่นอน สิ่งที่ต้องการให้ทางราชการส่วนอำเภอและจังหวัดเร่งช่วยเหลือตอนนี้คือ กระสอบทราย และจัดทำฝาย

ล่าสุดเมื่อเวลา 12.00 น. สถานีวัดระดับแม่น้ำทาที่ อ.ป่าซาง 3.78 เมตร ปริมาณน้ำ 118 ลูกบาศก์เมตร/วินาที ลดจากเมื่อเวลา 08.00 น. ระดับน้ำมากที่สุด 4.05 เมตร ขณะที่บ้านแม่สบแม่สะป๊วด อ.แม่ทา อยู่ที่ 2.80 เมตร ปริมาณน้ำ 71 ลูกบาศก์เมตร/วินาที

 

เลยอ่วม!น้ำท่วมกว่า30หมู่บ้านจมบาดาล

ข่าวภูมิภาค วันพุธที่ 14 เดือนกันยายน พ.ศ.2554 14:24 น.

จังหวัดเลย ยังประสบกับภัยน้ำท่วมอย่างหนัก กว่า 30 หมู่บ้านถูกน้ำท่วม โรงเรียนหลายแห่งปิด

จากที่ แม่น้ำเลย ที่ไหลผ่านอำเภอเมืองเลย และได้ล้นตลิ่งไหลท่วมบ้านเรือนประชาชน ใน 5 ตำบล ที่อยู่ริมฝั่งแม่น้ำเลย กว่า 30 หมู่บ้านมีบ้านเรือนราษฎร ถูกน้ำท่วมขณะนี้ 2,000 กว่าหลังคาเรือน ขณะรายงานข่านี้ ระดับน้ำแม่น้ำเลย ด้าน ต.นาอาน ต.กุดป่อง เริ่มทรงตัว ขณะนี้ น้ำได้ไหลท่วมสถานที่ราชการและโรงเรียนหลายแห่ง ที่อยู่ทางด้านถนนเจริญรัฐ มีที่ทำการไปรษณีย์ สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย จ.เลย สำนักงานเทศบาล สำนักงานวัฒนธรรม สำนักงาน ททท. วิทยาลัยเทคนิคเลย และวิทยาลัยอาชีวศึกษาเลย ตอนนี้ โรงเรียนทั้ง 2 แห่ง สั่งปิดไปแล้ว

ทางด้าน ผู้ว่าฯเลย นายพรศักดิ์ เจียรณัย ได้สั่งการให้ ทางอำเภอเมืองเลย หน่วยป้องกันบรรเทาสาธารณภัย จัดทำข้าวกล่องและจัดหาน้ำดื่มไปช่วยชาวบ้านที่ถูกนำท่วมเป็นการด่วน โดยเฉพาะในเขตเทศบาลเมืองเลย ซึ่งน้ำท่วมสำนักงาน ไม่สามารถช่วยเหลือผู้ที่ถูกน้ำท่วมได้ในขณะนี้ และที่ วัดศรีสุทธาวาส ที่ถูกน้ำท่วม เมื่อเช้านี้ ชาวบ้านพากันเอาอาหารไปถวายพระ ที่ไม่สามารถออกมาบิณฑบาตได้ตามปกติ โดยมี สามเณรพายเรือท้องแบนมารับ มีกุฏิพระบางหลัง ท่วมถึง 1.50 เมตร จากที่น้ำล้นเข้าในลำน้ำกุดป่อง ทำให้ชาวบ้านเอาเครื่องมือหาปลาไปดักจับปลาได้คนละมาก ๆ

 

ฺB1

วันที่ 13 กันยายน 54

- สัญญาณดาวเทียม ACE ขาดตอนในเวลา 0-4 UTC โดยที่ลมสุริยะมีความเร็วสูงเป็นเวลาเกิน 2 วันติตต่อกัน



- สถานี HAARP ตรวจจับการแกว่งตัวของสนามแม่เหล็กบริเวณขั้วโลก



- น้ำท่วมครั้งใหญ่ที่ประเทศไทย RSOE EDIS - Flood in Thailand on Tuesday, 13 September, 2011 at 03:15 (03:15 AM) UTC. EDIS CODE: FL-20110913-32311-THA

- รายงาน Heatwave ที่รัฐเทคซัส สหรัฐอเมริกา RSOE EDIS - Heat Wave in USA on Tuesday, 13 September, 2011 at 03:24 (03:24 AM) UTC. EDIS CODE: HT-20110913-32312-USA

- ภูเขาไฟปะทุที่ประเทศรัสเซีย Russian volcano rumbles, spews ash - Monsters and Critics

- พายุลุูกเห็บที่รัฐ Arizona ประเทศสหรัฐอเมริกาRSOE EDIS - Hailstorm in USA on Tuesday, 13 September, 2011 at 14:17 (02:17 PM) UTC. EDIS CODE: HS-20110913-32320-USA

- แผ่นดินเคลื่อนตัวที่รัฐ Virginia สหรัฐอเมริกาLandslide Threatens Stafford Homes

 

อุบลฯสั่งปิดปิดรร.หลังน้ำมูลล้นเข้าท่วม

ข่าวภูมิภาค วันพุธที่ 14 เดือนกันยายน พ.ศ.2554 14:27 น.

โรงเรียนในชุมชน ที่อยู่ริมฝั่งแม่น้ำมูล ใน จ.อุบลฯ สั่งปิดการเรียนการสอน หลัง ประสบน้ำปัญหาน้ำท่วมหนัก

หลังจาก ระดับน้ำมูลที่สูงขึ้น ได้เอ่อท่วมหลายชุมชนที่อยู่ริมฝั่งแม่น้ำมูล ใน จ.อุบลราชธานี ส่งผลทำให้ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนเป็นจำนวนมาก ขณะที่ โรงเรียนบ้านหาดสวนยา ซึ่งได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมก็ได้สั่งปิดการเรียนการสอนทันที 7 วัน และหากระดับไม่ลดลง ทางโรงเรียนก็จะสั่งปิดการเรียนการสอนเพิ่มอีก ทำให้บรรยายภายในโรงเรียนเงียบเหงา เนื่องจาก ระดับน้ำสูงกว่า 80 เซนติเมตร ครู-อาจารย์ นักเรียน ไม่สามารถเดินทางเข้าภายในโรงเรียนได้ สำหรับ โรงเรียนบ้านหาดสวนยา มีอาคารเรียน 4 หลัง นักเรียน 117 คน ครู-อาจารย์ 6 คน ขณะนี้ น้ำได้ท่วมอาคารเรียนทั้ง 4 หลัง จนไม่สามารถทำการเรียนการสอนได้ และหากน้ำลด ทางโรงเรียนจะดำเนินการสอน ชดเชยให้กับเด็ก ในวันเสาร์-อาทิตย์ และช่วงปิดภาคเรียนในเดือนตุลาคม แทน ส่วนโรงเรียนบ้านท่าบ้งมั่ง ซึ่งได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมกว่า 2 สัปดาห์ ครู-อาจารย์ ได้ขอความอนุเคราะห์จากเทศบาลวารินชำราบ เพื่อใช้อาคารที่บ่อบำบัดน้ำเสีย ทำการเรียนการสอนแทน

 

B1

อินเดีย - เกิดแผ่นดินแยกหลายแห่ง





JOWAI: Several cracks in the earth’s surface, which appeared on Sunday in a market of Sohkymphor village in Jaintia Hills, have rattled the villagers.

Local residents have blamed it on the ongoing unscientific rate hole mining.

A PWD road that connects Sohkymphor-Shangpung via Byrwai village was also damaged with the cracks appearing in the middle of the road.

“Villagers have covered a long stretch of crack following an order from the village authority this morning”, a shop keeper said.

Several cracks were also seen in some buildings around the market place. The residential compound of one W Langstang was damaged and according to him the cracks appeared only on Sunday.

“We could not sleep the whole night,” said a local resident.

Neither the village elders nor the coal businessmen are willing to comment on the incident.

The village secretary W. Suchiang informed that the Dorbar Shnong would hold a meeting on Tuesday to discuss the issue.

Interestingly, few years ago, the Dorbar Shnong Sohkymphor village had banned mining of coal near the residential area.

In the rate-hole system of mining, coal is being extracted from the entire area leaving some portion of coal in the form of a pillar in order to support the weight of the earth. The pillar was left in a gap of 5 to 10 metre each. Finally, the remaining portion of coal that act as pillars are also extracted and a strong wooden log is placed to act as a new pillar. After few years, when the log becomes old and rotten, the earth goes down as the log could no more support the weight of the earth resulting several cracks in the earth’s surface.
Cracks appear in earth’s surface | The Shillong Times...

 

ฺB1

คาดหมาย

ในช่วงวันที่ 14-17 ก.ย. ร่องมรสุมมีกำลังอ่อนและเลื่อนขึ้นไปพาดผ่านตอนบนของ ภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณอ่าวตังเกี๋ย สำหรับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย มีกำลังอ่อน แต่ยังคงทำให้บริเวณประเทศไทยมีฝนในเกณฑ์กระจายถึงเกือบทั่วไป ในช่วงวันที่ 18-20 ก.ย. ร่องมรสุมจะเริ่มมีกำลังแรงขึ้นและเลื่อนลงมาพาดผ่านประเทศไทยตอนบนโดยจะมีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักได้ในช่วงนี้

ข้อควรระวัง

ในช่วงวันที่ 18-20 ก.ย. ขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยตามที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน ในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ ระวังอันตรายจากฝนตกหนัก ส่วนชาวเรือบริเวณทะเลอันดามัน ขอให้ระมัดระวังอันตรายในการเดินเรือ

 

ฺB1

เกิดดินถล่มที่ Stafford, VA สหรัฐอเมริกา








STAFFORD, Va. - A giant landslide in Stafford County is threatening to swallow two houses. The ground began giving way over the weekend and has forced evacuations.

County inspectors are trying to figure out if the homes can be saved. Police and fire officials allowed homeowners to return for a second and final day to retrieve their belongings. A gaping hole behind the houses is just feet from taking the homes down too.

"We saw pieces of things falling off, little rocks. You could hear it," said Ora Barnes, who called 911 to report it Saturday.

It took only 24 hours for the landslide to cut a gaping hole into the hill that grows by several feet every day. The two homes at 116 and 118 Brush Everard Court are teetering on the edge of disaster.

"I told my daughter if I came here and saw my house rolling down the hill, you know, that's going to be. I think that's going to be devastating," said Barnes.

Barnes moved into the Austin Ridge subdivision 11 years ago with her late husband. Now the house is condemned.

"We don't know how much is going to be saved," she said.

The electric, gas, water and utilities are shut off. Part of the patio is now at the bottom of the hill.

"The homes are dangerously close. That's why we evacuated them for the safety of the residents," said Executive Officer Mark Doyle with Stafford County Fire and Rescue.

Inspectors must determine if the hillside can be stabilized. It is the third time in 10 years the ground has given way, but it has never been so severe. When firefighters first arrived Saturday, it had a one-foot drop about the size of a piece of paper. Now it is more than 20 times of that, even wider and growing.

"Pretty much every day, we've seen a significant shift in the soil," said Doyle.

Barnes and her daughter grabbed family photos, small furniture and clothes.

"Friends came over and the neighbors, and they were helping us. So we're just trying to grab as much as we can," said Katrina Barnes, who lives with her mother.

But they left an entire lifetime behind. Almost all the furniture, dishes, televisions, electronics, basically anything too big to fit in a car.

"We've got three floors of stuff. We just can't get everything," Katrina Barnes said.

A retaining wall was built five years ago to prevent erosion crumbled. There is no telling right now if the Barnes family and their neighbors will have homes left.

"No, there's not, no guarantee,” said Barnes.

The homeowners believe water flowing beneath the ground caused the landslide. There are puddles even though it hasn't rained. County officials can't say how long it will take to get the results of soil testing or to stabilize the hillside.

They are also warning everyone in the neighborhood to keep an eye out for cracks in the ground and fences that are starting to lean. That could indicate more ground instability and could put more houses in danger.
http://www.myfoxdc.com/dpp/news/virginia/landslide-threatens-staffo...
Fredericksburg.com - Sliding soil threatens two Stafford houses