WarRoom - อาสาสมัครเตรียมการเฝ้าระวังประสานงานเตรียมพร้อมเพื่อรองรับสถานการณ์ปี 2013

ฺB1

เกาะเกร็ดสะเทือน! กรมชลฯ คาดน้ำอาจท่วมเกือบถึงยอด



กรมชลฯ ชี้ปีนี้น้ำมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ คาดปทุม-นนท์ท่วมหนัก เกาะเกร็ดอาจท่วมถึงยอด หากน้ำไหลผ่านเจ้าพระยาเกิน 4,500 ลบ.ม. เผยขณะนี้น้ำไหลผ่านเขื่อนที่ 3,616 ลบ.ม.

วานนี้ (30 กันยายน) นายวีระ วงศ์แสงนาค รองอธิบดีกรมชลประทาน ระบุว่า หลังจากที่เกิดฝนตกหนักในภาคเหนือเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ส่งผลให้ปริมาณน้ำในแม่น้ำปิงมากกว่า 1 พันล้านลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) ซึ่งถือว่าสถานการณ์อยู่ในระดับวิกฤตแล้ว และน้ำทั้งหมดจะมาถึงเขื่อนภูมิพลในอีก 5 วันข้างหน้า ซึ่งขณะนี้ระดับน้ำในเขื่อนภูมิพลก็วิกฤตอยู่แล้ว ไม่สามารถรับน้ำเหนือที่จะไหลบ่ามาได้อีก การไฟฟ้าฝ่ายผลิตจึงต้องเร่งระบายน้ำเพิ่มขึ้นจากวันละ 20 ล้านลูกบาศก์เมตร เป็น 40 ล้านลูกบาศก์เมตร เพื่อความปลอดภัยของเขื่อน ซึ่งการระบายน้ำเช่นนี้ จะทำให้ปริมาณน้ำที่จังหวัดนครสวรรค์เพิ่มขึ้นในระดับ 5,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ซึ่งสูงที่สุดในประวัติการณ์ของประเทศไทย

อย่างไรก็ตาม รองอธิบดีกรมชลประทานยังคาดด้วยว่า น้ำทั้งหมดน่าจะเข้าสู่แม่น้ำเจ้าพระยาในกรุงเทพมหานครประมาณวันที่ 15 ตุลาคมเป็นต้นไป ซึ่งหากไม่สามารถจัดการบริหารน้ำได้ คาดว่า จังหวัดปทุมธานี และนนทบุรี ซึ่งเป็นจังหวัดท้ายเขื่อนเจ้าพระยาจะได้รับผลกระทบอย่างหนัก

โดยเฉพาะที่จังหวัดนนทบุรี ระดับน้ำอาจจะท่วมสูงเกือบถึงยอดเจดีย์เกาะเกร็ด ทุบสถิติปี 2538 ก็เป็นได้ ขณะที่กรุงเทพฯ ก็อยู่ในสถานการณ์ที่น่าห่วง เพราะต้องเร่งระบายน้ำในช่วงที่น้ำทะเลจะหนุนสูงที่สุดในรอบปี คือวันที่ 28-31 ตุลาคมนี้ ซึ่งทางกรมชลประทานจะแถลงข่าวแจ้งเตือนสถานการณ์อุทกภัยทุกวัน เพื่อให้ประชาชนเตรียมตัวรับมือ

อย่างไรก็ตาม ล่าสุด เมื่อเช้าวันนี้ (1 ตุลาคม) กรมชลประทานได้ทวิตเตอร์ชี้แจงว่า การที่สถานการณ์น้ำในเกาะเกร็ดจะสูงเท่าปี พ.ศ.2538 จะต้องมีปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยา จังหวัดชัยนาท 4,500 ลูกบาศก์เมตร ต่อวินาที แต่ในข้อเท็จจริงขณะนี้มีปริมาณน้ำผ่านเขื่อนเจ้าพระยา ประมาณ 3,616 ลูกบาศก์เมตรเท่านั้น

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก - kapook.com

 

B1

"เขื่อนอุบลรัตน์"วิกฤติหนักส่อรับน้ำไม่ไหว หลังน้ำเกินความจุ


1 ตค. 2554 14:48 น.

นายพิพัฒน์ คงศิลป์ทวีกุล หน.ฝ่ายเดินเครื่องโรงไฟฟ้าพลังน้ำ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (กฟผ.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ทาง กฟผ.และทางเขื่อนอุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น พบว่า ปริมาณน้ำเกินความจุเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพราะปริมาณน้ำจากเหนือเขื่อนยังไหลเข้าในปริมาณที่สูงถึง 86.96 ล้าน ลบ.ม.ต่อวัน

ทำให้ขณะนี้ปริมาณน้ำในเขื่อนอยู่ที่ 107%

หรือคิดเป็นปริมาณน้ำทั้งหมด 2,621.56 ล้าน ลบ.ม. แต่ในขณะที่ความจุของเขื่อนที่สามารถรับน้ำได้นั้นอยู่ที่ 2,431.30 ล้าน ลบ.ม. เกินความจุของเขื่อนที่รับน้ำได้กว่า 190.26 ล้าน ลบ.ม.

จากตัวเลขปริมาณน้ำในเขื่อนอุบลรัตน์แสดงให้เห็นว่า

อีกไม่นานเขื่อนคงรับน้ำไมไหวแน่

ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ของเขื่อนได้ประสานไปยังทางจังหวัดขอนแก่น และคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วน เตรียมพร้อม 24 ซม.เพื่อรับมือกับสถานการณ์น้ำที่อาจจะท่วมครั้งใหญ่ หรือน้ำล้นคูเขื่อนจนเหตุสุดวิสัย หากสถานการณ์น้ำยังเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องแบบไม่ลดลง ประกอบกับมติของคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำอนุญาตให้เขื่อนปล่อยน้ำได้เพียงแค่ 34 ล้าน ลบ.ม.ต่อ วันดังนั้น ทางเขื่อนก็เตรียมมาตรการขั้นสุดท้ายเอาไว้

หากน้ำเพิ่มต่อเนื่องล้นเขื่อนจนทำให้เขื่อนอาจได้รับผลกระทบ ไม่สามารถรับน้ำได้

ทางโรงไฟฟ้าพลังน้ำ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (กฟผ.) ก็จำเป็นต้องปล่อยน้ำในปริมาณที่สูงสุดของประตูระบายน้ำทันที

 

B1

น้ำท่วมเขมรยังวิกฤติดับเพิ่ม 148 รายข่าว

ต่างประเทศ วันเสาร์ที่ 1 เดือนตุลาคม พ.ศ.2554 14:57 น.



อุทกภัยในกัมพูชา ยังวิกฤติต่อเนื่อง จมอยู่ใต้บาดาล มาเดือนกว่า ดับเพิ่มเป็น 148 ราย พื้นที่นา พังยับ 2.7 แสนไร่


พนมเปญโพสต์ สื่อกัมพูชา รายงาน สถานการณ์อุทกภัยในประเทศ กัมพูชา ยังอยู่ในขั้นวิกฤติ มีแนวโน้มหนักขึ้นทุกวัน ล่าสุด มีรายงาน ประชาชนเสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็น 148 ราย เป็นเด็ก 52 ราย ที่นาอย่างน้อย 2.7 แสนไร่ ได้รับผลกระทบอีก 8 หมื่นไร่ ถูกน้ำท่วมเสียหายอย่างหนัก 1.73 แสนครอบครัว 1.30 แสนหลังคาเรือน ถูกน้ำท่วมขัง 817 โรงเรียน 361 เจดีย์สำคัญทางพุทธศาสนา และถนนทางหลวงหลักของประเทศ ได้รับความเสียหายกว่า 100 กม.

อย่าวไรก็ตาม สมเด็จฮุน เซน นายกรัฐมนตรี ได้ออกมาเปิดเผยถึง การช่วยเหลือของรัฐบาล โดยจะช่วยครอบครัวของ ผู้เสียชีวิต เป็นเงินครอบครัวละ 2 ล้านเรียล (1.5 หมื่นบาท) ทั้งนี้ ผู้นำกัมพูชา ยังกล่าวอีกว่า จากเหตุภัยพิบัติดังกล่าว มีผลกระทบต่อเศรษฐกิจ ทำให้ครอบครัวที่ยากจน ต้องพบกับความขาดแคลนอีกครั้ง


http://www.dap-news.com/en/index.ph...dia-rises-to-148&catid=1:local-news&Itemid=18

Link : http://www.innnews.co.th/น้ำท่วมเขมรยังวิกฤติดับเพิ่ม-148-ราย--311596_04.html

 

B1

แคปซูลรับมือสึนามิขายดี

วันเสาร์ ที่ 01 ตุลาคม 2554 เวลา 14:47 น



จากเหตุสลดสึนามิที่ญี่ปุ่นมีผู้เสียชีวิตสูญหาย2หมื่น ทำให้มีบริษัทหัวใสคิดค้นสร้างแคปซูลช่วยชีวิตออกขายยอดสั่งผลิตเพียบ

เมื่อวันที่ 1 ต.ค. สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่นว่า บริษัทคอสโม เพาเวอร์ บริษัทขนาดเล็กแห่งหนึ่งของญี่ปุ่นได้พัฒนาและผลิตอุปกรณ์ป้องกันนำสมัยและขนาดเล็ก เป็นแคปซูลลอยน้ำ มีลักษณะคล้ายลูกเทนนิสขนาดใหญ่ สร้างจากไฟเบอร์ที่มีความแข็งแรง เรียกว่า”โนอาห์ อาร์ค”(เรือใหญ่มี่โนอาห์สร้างให้ครอบครัวและสัตว์เลี้ยงโดยสารช่วงเกิดน้ำท่วมโลก) เพื่อใช้งานในกรณีที่เกิดแผ่นดินไหวรุนแรงและคลื่นยักษ์สึนามิ คล้ายกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่ญี่ปุ่นเมื่อวันที่ 11 มี.ค.ที่ผ่านมา จนมีผู้เสียชีวิตและสูญหายร่วม 20,000 ราย

ด้านนายโชจิ ทานากะ ประธานบริษัทคอสโม เพาเวอร์ กล่าวว่า แคปซูลลอยน้ำนี้ราคาประมาณ 300,000 เยนหรือ117,000 บาท สามารถบรรจุผู้ใหญ่ได้ถึง 4 คน ได้ผ่านการทดสอบเรื่องการกระแทกมาแล้ว มีหน้าต่างขนาดเล็กพอให้มองลอดออกมาได้ และยังมีช่องระบายอากาศด้านบน หากยังไม่ได้ใช้งานในกรณีฉุกเฉิน ก็สามารถทำเป็นของเล่นให้เด็กเล่นได้ ขณะนี้ทางบริษัทได้ผลิตและส่งมอบให้กับลูกค้าไปแล้ว 2 แคปซูลด้วยกัน และยังมียอดสั่งเพิ่มมาอีก 600 แคปซูล

 

B1

กินแคนตาลูปตายเพิ่มอีก

วันเสาร์ ที่ 01 ตุลาคม 2554 เวลา 14:01 น



มะกันเตือนประชาชนเฝ้าระวังเปิบแคนตาลูปปนเชื้อ”ลิสทีเรีย”ระยะฟักเชื้อ2เดือน ขณะยอดผู้เสียชีวิตเพิ่ม 2 ราย

เมื่อวันที่ 1 ต.ค. สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกาว่า เจ้าหน้าที่ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคติดต่อของสหรัฐ เปิดเผยว่า มีผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 2 ศพ ในประเทศสหรัฐเอมริกา หลังจากรับประทานผลแคนตาลูปปนเปื้อนเชื้อแบคทีเรีย”ลิสทีเรีย”เพราะการแพร่ระบาดของเชื้อแบคทีเรียร้ายแรงปนเปื้อนเข้าไปในผลแคนตาลูปส่งผลให้ตัวเลขผู้เสียชีวิตทั้งหมดเพิ่มเป็น 15 ศพ และผู้ป่วยอีก 84 คน

นับเป็นการแพร่ระบาดครั้งร้ายแรงของโรคที่ปนเปื้อนมากับอาหารในรอบกว่า 1 ทศวรรษที่ผ่านมา จากฟาร์มเพาะปลูกในรัฐโคโลราโด ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็พยายามที่จะหาคำตอบให้ได้ว่า เหตุใดผลไม้ประเภทเมล่อนถึงได้ปนเปื้อนเชื้อแบคทีเรียร้ายแรงได้ ซึ่งเมื่อวันพุธที่ผ่านมา ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคติดต่อของสหรัฐ รวมทั้งสำนักงานอาหารและยาของสหรัฐได้แจ้งเตือนให้เฝ้าระวัง เพราะระยะฟักเชื้อของแบคทีเรียนั้น ระยะยาวต่างจากแบคทีเรียตัวอื่นๆ ซึ่งก็หมายความว่าประชาชนผู้บริโภคอาจจะป่วยและติดเชื้อได้ 2 เดือน หลังจากกินอาหารปนเปื้อนเข้าไป

 

B1

บินเล็กพุ่งชนชิงช้าสวรรค์

วันเสาร์ ที่ 01 ตุลาคม 2554 เวลา 13:34 น



เครื่องบินเล็กพุ่งชนชิงช้าสวรรค์กลางเมืองทารี ประเทศออสเตรเลีย ขณะ2หนูน้อยนั่งอยู่โชคดีไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต

เมื่อวันที่ 1 ต.ค.สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจาเมืองซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลียว่า เกิดเหตุเครื่องบินเล็กแบบอุลตร้า-ไลท์ ชีตาร์ เอส 200 ลำหนึ่งพุ่งชนเครื่องเล่นชิงช้าสวรรค์ ในงานเทศกาลรื่นเริงชื่อ”โอลด์ บาร์ เฟสติวัล”ที่เมืองทารี ห่างจากเมืองซิดนี่ย์ไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ 250 กม. ทำให้เครื่องบินยังห้อยติดอยู่กับชิงช้าสวรรค์ โดยที่ตัวนักบินกับผู้โดยสารยังคงติดอยู่ในซากเครื่องบิน

ตำรวจรัฐนิวเซาธ์เวลส์แถลงว่า มีชายหญิงเด็ก 2 คน นั่งอยู่บนกระเช้าของชิงช้าสวรรค์ขณะเกิดเหตุเครื่องบินเล็กตกลงมาใส่ แต่โชคดีที่ได้รับการช่วยเหลือออกมาได้อย่างปลอดภัย ไม่ได้รับบาดเจ็บหรืออันตรายแต่อย่างใด ส่วนเครื่องบินยังห้อยติดอยู่กับชิงช้าสวรรค์ นักบินและผู้โดยสารไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใดเช่นกัน หลังจากเจ้าหน้าที่กู้ภัยและตำรวจพยายามทำให้เครื่องเล่นชิงช้าสวรรค์อยู่ในภาวะสมดุลไม่พังลงมา จนสามารถช่วยเหลือทั้งนักบินและผู้โดยสารออกมาได้สำเร็จ

 

ฺB1

15วันอุดบางโฉมศรีไม่เสร็จ

วันเสาร์ ที่ 01 ตุลาคม 2554 เวลา 13:54 น



กรมชลฯโอดซ่อมประตูบางโฉมศรี 15 วันไม่เสร็จ วอนชาวบ้านช่วยอดทนต่ออีก

วันนี้ (1ต.ค.) นายชลิต ดำรงศักดิ์ อธิบดีกรมชลประทาน กล่าวในที่ประชุมผู้เกี่ยวข้องกับการแก้ไขปัญหาน้ำ โดยมีน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานว่า ขณะนี้จังหวัดที่รับผลกระทบจากน้ำท่วมมาก คือ ลพบุรี ซึ่งมีน้ำจากประตูระบายน้ำบางโฉมศรีทะลักเข้ามา และยังมีน้ำล้นจากเขื่อนเจ้าพระยา แต่การซ่อมประตูระบายน้ำต้องใช้เวลาไม่น้อยกว่า 15 วัน เพราะระดับน้ำยังแรง และไหลเร็ว ต้องใช้วัสดุขวางน้ำที่น้ำไม่พัดปลิวไปได้ ซึ่งก็ได้เลือกใช้ตะกร้าเหล็กใส่หิน ต้องใช้รถทยอยขนมา แต่ก็ใช้รถใหญ่ไม่ได้ เพราะสองข้างทางถนนมีประชาชนที่ประสบภัยน้ำท่วมมาอาศัยอยู่ และหินก็ยังไม่แน่ใจว่าจะหาจากไหน อย่างไรก็ตามจะทำทุกวิถีทางเพื่อซ่อมแซม แต่จะให้เร็วกว่า 15 วันไม่ได้ ซึ่งต้องชี้แจงประชาชนช่วยอดทนกับความเดือดร้อน เพราะไม่อยากให้ปิดประตูระบายน้ำ เพราะน้ำจะท่วมทางสิงห์บุรีมากขึ้น

 

ฺB1

ศูนย์เฝ้าระวังไฟใต้ เผยสถิติกย.เกิดเหตุ67ครั้ง สังเวย51ศพ

1 ตค. 2554 15:01 น.



ศูนย์เฝ้าระวังสถานการณ์ภาคใต้ (Deep South Watch : DSW) มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี ได้ทำรายงานสรุปเหตุการณ์ความไม่สงบที่เกิดขึ้นในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ คือยะลา ปัตตานี และนราธิวาส ตั้งแต่วันที่ 1 ถึง 30 กันยายน ที่ผ่านมาว่า ในห้วงระยะเวลาดังกล่าวเกิดเหตุการณ์ความไม่สงบรวมทั้งสิ้น 67 เหตุการณ์ แยกเป็นเหตุใช้อาวุธปืนมากที่สุดถึง 37 เหตุ และลอบวางระเบิด 7 เหตุ ลอบวางเพลิง 7 เหตุ และอื่นๆ มีตัวเลขผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บรวม 208 ราย แบ่งเป็นผู้เสียชีวิต 51 ราย และได้รับบาดเจ็บ 157 ราย แยกเป็นราษฎรเสียชีวิตมากที่สุด 24 ราย เจ้าหน้าที่ทหาร 11 นาย ตำรวจ 2 นาย และอื่นๆ ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นต่างด้าว 68 ราย ราษฎร 52 ราย เจ้าหน้าที่ทหาร 20 นาย และอื่นๆ
มีรายงานจากหน่วยข่าวด้านความมั่นคงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้แจ้งเตือนไปยังหน่วยปฎิบัติการในพื้นที่ต่างๆว่า จากกรณีที่เกิดเหตุลอบวางระเบิดในพื้นที่ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส ที่ผ่านมา ล่าสุดยังมีรายงานข้อมูลข่าวสารว่า กลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงยังมีความพยายามที่จะก่อเหตุในเขตพื้นที่เมืองต่างๆ โดยเฉพาะในย่านชุมชน ตลาดสด ชุมชนชาวไทยพุทธ สถานบันเทิง สถานที่ราชการ โดยจะใช้วิธีลอบนำระเบิดซุกซ่อนในรถจักรยานยนต์ และรถยนต์ นำเข้ามาก่อเหตุ ซึ่งรถยนต์และรถจักรยานยนต์เหล่านั้นจะติดแผ่นป้ายทะเบียนปลอม หรือตัดต่ออำพรางตัวเลข

 

ฺB1

ศอส.สรุปท่วมวิกฤต23จว. ตาย 205 ราย

1 ตค. 2554 15:13 น.

นายพระนาย สุวรรณรัฐ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ผู้อำนวยการศูนย์สนับสนุนการอำนวยการและการบริหารสถานการณ์อุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม (ศอส.) กล่าวว่า ปัจจุบันยังคงมีสถานการณ์อุทกภัยใน 23 จังหวัด ได้แก่ สุโขทัย พิจิตร พิษณุโลก นครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา ลพบุรี สระบุรี สุพรรณบุรี นครปฐม ปทุมธานี นนทบุรี อุบลราชธานี ขอนแก่น ศรีสะเกษ สุรินทร์ ฉะเชิงเทรา นครนายก ปราจีนบุรี และเชียงใหม่ รวม 150 อำเภอ 1,078 ตำบล 7,750 หมู่บ้าน ราษฎรเดือดร้อน 559,895 ครัวเรือน 1,841,385 คน ผู้เสียชีวิต 205 ราย สูญหาย 2 ราย พื้นที่การเกษตรคาดว่าจะเสียหาย 6,157,916 ไร่ พื้นที่เพาะเลี้ยง สัตว์น้ำ บ่อปลา 90,242 ไร่ สัตว์ได้รับผลกระทบ 6,937,065 ตัว น้ำท่วมเส้นทางไม่สามารถสัญจรผ่านได้ รวม 123 สาย แยกเป็น ทางหลวง 37 สาย ใน 10 จังหวัด ทางหลวงชนบท 86 สาย ใน 18 จังหวัด

นายพระนาย กล่าวว่า สำหรับสถานการณ์น้ำในลุ่มน้ำต่างๆ ยังต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด เนื่องจากมีปริมาณน้ำมากและระดับน้ำล้นตลิ่งมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะลุ่มน้ำปิงที่ อำเภอเมืองลำพูน จังหวัดลำพูน อำเภอดอยสะเก็ด อำเภอสันทราย อำเภอหางดง อำเภอสารภี อำเภอสันป่าตอง จังหวัดเชียงใหม่ อำเภอบ้านธิ อำเภอป่าซาง อำเภอเวียงหนองล่อง จังหวัดลำพูน อำเภอจอมทอง อำเภอฮอด อำเภอดอยเต่า จังหวัดเชียงใหม่ และคาดว่าจะล้นตลิ่ง ตามลำดับ ลุ่มน้ำชี ที่อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น อำเภอเมือง จังหวัดมหาสารคาม คาดว่าน้ำจะล้นตลิ่งภายใน 1- 2 วันนี้ ลุ่มน้ำเจ้าพระยา ปริมาณน้ำไหลผ่านจังหวัดนครสวรรค์ 4,344 ลบ.ม.ต่อวินาที เขื่อนเจ้าพระยาปริมาณน้ำไหลผ่าน 3,616 ลบ.ม.ต่อวินาที ปริมาณน้ำไหลผ่านอำเภอบางไทร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา 3,255 ลบ.ม.ต่อวินาที ส่งผลให้10 จังหวัดที่อยู่ริมแม่น้ำ ได้แก่ อุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี ลพบุรี อ่างทอง สุพรรณบุรี พระนครศรีอยุธยา สระบุรี ปทุมธานี และนนทบุรี ได้รับผลกระทบจากภาวะน้ำล้นตลิ่งที่มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น สำหรับสถานการณ์น้ำในเขื่อนยังอยู่ในภาวะวิกฤต โดยเฉพาะเขื่อนภูมิพล มีปริมาณน้ำ ร้อยละ 93 เขื่อนสิริกิติ์ มีปริมาณน้ำร้อยละ 99 เขื่อนแควน้อย มีปริมาณน้ำร้อยละ 94 เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์มีปริมาณน้ำร้อยละ 135

นายพระนาย กล่าวด้วยว่า สำหรับพายุเนสาดขณะนี้อ่อนกำลังเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำ ทำให้เกิดฝนตกหนักบริเวณภาคเหนือด้านตะวันออก และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน โดยเฉพาะพื้นที่เสี่ยงภัยใน 6 จังหวัด ได้แก่ เชียงราย น่าน หนองคาย บึงกาฬ สกลนคร และนครพนม จึงขอเตือนประชาชนที่อาศัยในพื้นที่ดังกล่าวระมัดระวังอันตรายน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก ในระยะ 1 -2 วันนี้ รวมถึงแจ้งเตือน 5 จังหวัด เฝ้าระวังดินโคลนถล่มและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่เสี่ยงภัยในจังหวัดเชียงราย (อำเภอเมือง) พะเยา (อำเภอปง) น่าน (อำเภอท่าวังผา) หนองคาย (อำเภอสังคม) และพังงา (อำเภอคุระบุรี) เนื่องจากมีฝนตกหนักอย่างต่อเนื่องเกิน 100 มม.จึงขอให้จังหวัดประกาศแจ้งเตือนภัย และประชาสัมพันธ์ให้ชาวบ้านหมั่นสังเกตสัญญาณผิดปกติทางธรรมชาติ หากสถานการณ์วิกฤต ให้รีบอพยพประชาชนออกจากพื้นที่ทันที รวมถึงจัดมิสเตอร์เตือนภัยเตรียมความพร้อมเฝ้าระวังภัยในระยะนี้เป็นพิเศษ

 

B1

น้ำท่วมอยุธยายังวิกฤติ เร่งอพยพผู้ป่วยส่ง รพ.



น้ำท่วมอยุธยายังวิกฤติ 16 อำเภออ่วม ประชาชนเดือดร้อน 2 แสนกว่าคน จนท.เจองานยากในการอพยพผู้ป่วยส่งรพ. รมว.สธ. สั่งชลประทานจังหวัด เร่งควบคุมการระบายน้ำลงทุ่งมหาราช...



เมื่อวันที่ 1 ต.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์น้ำยังท่วม จ.พระนครศรีอยุธยา ขั้นรุนแรง มีพื้นที่ได้รับผลกระทบทั้งหมด 16 อำเภอ 1,019 หมู่บ้าน 70,976 หลังคาเรือน ประชาชนเดือดร้อนประมาณ 224,229 คน ปริมาณน้ำจำนวนมหาศาลในแม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำป่าสัก แม่น้ำลพบุรี และแม่น้ำน้อย ที่ไหลผ่านพระนครศรีอยุธยา ระดับน้ำในแม่น้ำสูงกว่าตลิ่ง 1-2 เมตร และมีปริมาณสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขยายวงกว้างเข้าท่วมอย่างหนักที่อ.บางบาล อ.เสนา อ.ผักไห่ อ.บางไทร อ.ท่าเรือ อ.บางปะอิน อ.บ้านแพรก อ.มหาราช อ.นครหลวง และ อ.พระนครศรีอยุธยา



ส่วนที่โรงเรียนเทศบาลวัดแค ต.ท่าเรือ อ.ท่าเรือ นายวิทยา บุรณศิริ รมว.สาธารณสุข พร้อมคณะ เดินทางมาตรวจเยี่ยมผู้ประสบอุทกภัย และติดตามสถานการณ์การป้องกัน แก้ปัญหา และให้การช่วยเหลือมอบถุงสิ่งของอุปโภคบริโภค และเวชภัณฑ์ยารักษาโรคแก่ชาวบ้าน อ.ท่าเรือ อ.บ้านแพรก และอ.มหาราช รวม 4,400 ชุด พร้อมมอบธงเขียว สัญลักษณ์แจ้งเตือนการดูแลช่วยเหลือเยียวยาคนป่วย คนพิการ และคนชราแก่ผู้แทนอาสาสมัครสาธารณสุข (อสม.) จำนวน 150 ธง ที่ ต.บ้านโพ อ.บางปะอิน น้ำจากเจ้าพระยาเพิ่มสูงขึ้น 1-2 เมตร ชาวบ้านขนของไว้ที่สูงรอบ 3 ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 9 ได้ประสานเจ้าหน้าที่กู้ชีพ รพ.พระนครศรีอยุธยา นำเรือเข้าไปรับคนไข้ที่นอนป่วยช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ต้องใส่เครื่องหายใจช่วยตลอดเวลา นำออกมาส่งโรงพยาบาลอย่างทุลักทุเลและปลอดภัย ที่หมู่ 3 ต.บ้านขวาง อ.มหาราช น้ำจำนวนมากจากแม่น้ำลพบุรีไหลทะลักเข้าท่วมหมู่บ้านระดับน้ำสูง 1-2 เมตร ชาวบ้านตกใจขนของหนีน้ำเนื่องจากพื้นที่นี้ไม่เคยถูกน้ำท่วมมาก่อน

สำหรับมวลน้ำก้อนใหญ่จากแม่น้ำลพบุรีและแม่น้ำป่าสักได้ไหลมารวมกับแม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณหน้าวัดพนัญเชิงวรวิหาร ทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำสูงกว่าพื้นในวัดเกือบ 2 เมตร และไหลผ่ผ่าน อ.พระนครศรีอยุธยาอ อ.บางปะอิน และอ.บางไทร เข้าสู่ จ.ปทุมธานี ทำให้น้ำทะลักเข้าท่วมถนนสายบางปะอิน -อยุธยา ทางจังหวัดต้องเร่งทำคันดินป้องกันน้ำท่วมให้รถสัญจรวิ่งผ่านไปได้

มีรายงานล่าสุดด้วยว่า วันนี้ น้ำจากแม่น้ำลพบุรีได้ไหลทะลักล้นคันกั้นคลองหนองหม้อ ในเขตติดต่อสองตำบลของ อ.มหาราช คือ เจ้าปลุก และมหาราช ส่งผลให้กระแสน้ำกัดเซาะคันกันน้ำเป็นวงกว้างยาวกว่า 300 เมตร และกระแสน้ำได้ไหลทะลักเข้าท่วมทุ่งนาปีนับหมื่นไร่ กำลังจมน้ำได้รับความเสียหาย และภายในทุ่งดังกล่าว มีบ้านเรือนของประชาชนกระจายอยู่กว่า 50 หลังคาเรือน ต้องติดเกาะ ถูกน้ำท่วมบ้านอย่างฉับพลัน ส่วนใหญ่เป็นคนชราและทารก หลายหลังคาเรือนติดอยู่ในบ้าน เจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิพุทไธสวรรค์ ต้องระดมเจ้าหน้าที่เข้าช่วยเหลือ แต่ยังไม่พบผู้ที่ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตแต่อย่างไร

ในส่วนของการขนย้ายผู้สูงอายุ เด็ก และคนป่วย เป็นไปอย่างโกลาหล พบคุณลุงสูง ทองอำไพ อายุ 77 ปี อยู่บ้านเลขที่ 13 ม.1 ต.เจ้าปลุก ป่วยเป็นโรคมะเร็ง ต้องใช้เครื่องหายใจตลอดเวลา ติดอยู่ในบ้านกับลูกสาว เจ้าหน้าที่อาสาสมัครต้องลอยคอนำเรือเข้าไปรับ และนำส่ง รพ.มหาราช อย่างทุลักทุเล



นอกจากชาวบ้านจะได้รับความเดือดร้อนแล้ว พบว่ามีฝูงวัวพันธุ์เนื้อ วิ่งเตลิดหนีน้ำ พากันว่ายน้ำหนีขึ้นมาบนถนน แต่ถูกกระแสน้ำที่ไหลแรงซัดเข้ากลางฝูงวัว จนตกลงไปในคลอง กระแสน้ำพัดไปติดอยู่ใต้สะพานรถยนต์ของคลองหนองหม้อ และพบว่ามีวัวอย่างน้อย 1 ตัว ถูกน้ำซัดจมหายสาบสูญไป

จากนั้น รมว.กระทรวงสาธารณสุข เดินทางมาตรวจสอบยังจุดที่เกิดเหตุ ในฐานะได้รับมอบหมายจากนายกรัฐมนตรี ให้ดูแลรับผิดชอบสถานการณ์น้ำท่วมในพระนครศรีอยุธยา จึงสั่งการให้นายไมตรี ปิตินานนท์ ชลประทานจังหวัด เข้ามาควบคุมการเปิดระบายน้ำที่พังทะลักลงทุ่งมหาราชว่า สามารถระบายออกทางใดได้บ้าง เพื่อไม่ให้เกิดความเดือดร้อนแก่ชาวบ้าน ส่วนคนป่วยและคนชรา ให้สาธารณสุขจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ประสานงานกับ รพ.มหาราช เข้าดูแลรักษาอย่างใกล้ชิดทุกราย และรายงานให้ทราบด้วย



โดย: ทีมข่าวภูมิภาค

1 ตุลาคม 2554, 15:18 น.

 

B1

ประกาศเตือนภัย
"พายุ “เนสาด”"
ฉบับที่ 11 ลงวันที่ 01 ตุลาคม 2554

เมื่อเวลา 13.00 น. วันนี้ (1 ต.ค. 54) พายุดีเปรสชัน “เนสาด” (NESAT) ได้อ่อนกำลังลงเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงแล้ว แต่ยังส่งผลทำให้ภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน มีฝนกระจาย และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัด
แม่ฮ่องสอน เชียงราย เชียงใหม่ พะเยา แพร่ ตาก เลย หนองคาย
บึงกาฬ สกลนคร และนครพนม
ขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากสภาวะฝนที่ตกหนักอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากได้ในระยะ 1-2 วันนี้

ส่วนมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทยยังคงมีกำลังค่อนข้างแรง ทำให้คลื่นลมในทะเลอันดามัน และอ่าวไทยตอนบนมีกำลังแรง โดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ชาวเรือควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่งระยะนี้ไว้ด้วย


ประกาศ ณ วันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2554
ออกประกาศ เวลา 16.30 น.



สำนักพยากรณ์อากาศ กรมอุตุนิยมวิทยา
กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ​

 

ฺB1

น้ำกวงยังวิกฤติ หลายตำบลน้ำท่วมขัง

1 ตค. 2554 15:30 น.

นายสกล หาญพิทักษ์กุล ผู้อำนวยการโครงการชลประทาน จ.ลำพูน เปิดเผยว่า สาเหตุที่ จ.ลำพูนต้องเจอน้ำท่วมครั้งนี้นับเป็นครั้งที่ 6 สืบเนื่องจากเขื่อนแม่กวงอุดมธารา จ.เชียงใหม่ รับน้ำจนเกินปริมาณเก็บกักเมื่อวานนี้ (30 ก.ย.) ทำให้ปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำแม่กวงฯ 266.6 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 101 ของความจุ โดยน้ำที่เกินได้ระบายไหลผ่านทางระบายน้ำล้นของเขื่อน ตั้งแต่วันที่ 28 ก.ย.เป็นต้นมา ซึ่งน้ำที่ระบายจะไหลลงสู่ลำน้ำแม่กวง เขต จ.เชียงใหม่เข้าสู่เขต จ.ลำพูนที่ ต.บ้านธิ อ.บ้านธิ ต.มะเขือแจ้ ต.เหมืองง่า ต.เวียงยอง ต.บ้านแป้น อ.เมืองที่อยู่ริมฝั่งลำน้ำกวงอาจได้รับผลกระทบเนื่องจากสภาวะน้ำล้นตลิ่งครั้งนี้ ล่าสุดเมื่อเวลา 14.00 น. ที่สถานีวัดระดับน้ำแม่น้ำกวงที่สะพานท่านาง ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ลำพูน อยู่ที่ 5.16 เมตร ปริมาณ 163 ลูกบาศก์เมตร/วินาที ยังไม่มีแนวโน้มว่าจะลด

 

B1

กทม.เตรียมรับมือสถานการณ์น้ำช่วง4 - 5 ต.ค.นี้



ผู้ว่าฯกทม.เผยสถานการณ์น้ำยังไม่น่าห่วง ขณะเดียวกันได้เตรียมรับมือทั้งน้ำเหนือและน้ำฝนจากพายุดีเปรสชั่นนาลแก ที่จะเข้ามาไทยช่วง4 -5 ตุลาคมนี้


สถานการณ์น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยายังเพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากช่วงนี้มีอิทธิพลของน้ำทะเลหนุน ส่งผลให้ระดับน้ำในพื้นที่กรุงเทพมหานครวันนี้ เมื่อช่วงเวลา 9 นาฬิกา 33 นาที ระดับน้ำสูงถึง 2 เมตร 1 เซ็นติเมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง โดยหม่อมราชวงศ์สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร และนายสัญญา ชีนิมิตร ผู้อำนวยการสำนักการระบายน้ำ ลงพื้นที่ชุมชนสันติชนสงเคราะห์ ริมคลองบางกอกน้อย หนึ่งใน 27 ชุมชนนอกแนวป้องกันน้ำท่วม ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์น้ำท่วมทุกปี

พร้อมกับนำถุงยังชีพและยาเวชภัณฑ์ไปมอบให้แก่ชาวบ้านรวมทั้งเปิดเผยว่า กทม.ได้ดำเนินการก่อสร้างแนวป้องกันน้ำท่วมถาวร บริเวณชุมชนสันติชนสงเคราะห์แล้ว คาดว่าจะแล้วเสร็จเดือนกันยายน ปี 2555 แน่นอน ขณะเดียวกันผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้ลงพื้นที่เขตดอนเมือง ริมคลองเปรมประชากร เพื่อตรวจดูสถานการณ์น้ำฝั่งเหนือคลองเปรมประชากร พร้อมกับยืนยันว่าพื้นที่เขตดอนเมืองยังไม่ได้รับผลกระทบน้ำท่วมอย่างที่เป็นข่าว เนื่องจากกทม.มีการบริหารจัดการน้ำในคลอง ให้เตรียมพร้อมรับมือได้เป็นอย่างดี

นอกจากนี้ กรุงเทพมหานคร ยังมีโครงการอุโมงค์ระบายน้ำดอนเมือง เพื่อแก้ปัญหาน้ำท่วมแบบยั้งยืนในพื้นที่เขตดอนเมืองและพื้นที่ใกล้เคียง สำหรับสถานการณ์ในพื้นที่กรุงเทพมหานครช่วงเดือนตุลาคมนี้ ยังต้องเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่องเพราะเป็นช่วงที่น้ำทะเลหนุนเกือบทั้งเดือน ประกอบกับปริมาณน้ำในเขื่อนปีนี้เต็มเกือบทุกเขื่อน อีกทั้งวันที่ 4 และ 5 ตุลาคมนี้จะมีพายุดีเปรสชั่นนาลแกเข้ามา ในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลางของประเทศไทย กรุงเทพมหานครจึงเฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมง

 

B1

ชาวกรุงเทพ เตรียมตัวเก็บของเลย ไม่ว่าน้ำจะมาน้อยหรือมามาก กรุงเทพท่วมอยู่แล้วค่ะ

เพราะ จังหวัดอื่นไม่มีที่ให้ระบายแล้ว ยังไงก็ต้องมาถึงกรุงเทพ

เพราะข่าวออกมาแล้วว่า น้ำอาจจะท่วมมิดเจดีย์เกาะเกร็ด และถ้าท่วมมิด

กรุงเทพอาจจะต้องโดนหนักอ่ะน่ะคะ (แต่ก็คงไม่เท่าจังหวัดอื่น)

แล้วก็จะระบายน้ำไปทางทะเลทางสมุทรปราการ (เท่าที่รู้นะคะ)

ข่าวบอกอีกว่า ประมาณวันที่ 15-16 น้ำจะท่วมกรุงเทพค่ะ

โดยเฉพาะคนที่อยู่ฝั่งธน จะโดนน้ำเยอะหน่อยค่ะ เพราะฝั่งพระนครมันกั้นอยู่

ปล.บ้านเราอยู่ฝั่งธน

from... Snsd+one=Sone~

http://www.siamzone.com/board/view.php?sid=2593968


:boo: :boo: :boo:

วอนคนกรุงอย่าตื่นข่าวลือน้ำท่วม

วันเสาร์ ที่ 01 ตุลาคม 2554 เวลา 16:08 น



ผู้ว่าฯกทม.เตรียมรับมือน้ำเหนือจ่อทะลัก วอนปชช.อย่าตื่นข่าวลือเมืองกรุงจมบาดาล

วันนี้ (1ต.ค.) ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยภายหลังลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมประชาชนชุมชนสันติชนสงเคราะห์ ริมคลองบางกอกน้อย และตรวจเยี่ยมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่พร้อมมอบถุงยังชีพให้ประชาชนริมคลองเปรมประชากร เขตดอนเมือง ว่า ในช่วงที่ผ่านมามีข่าวว่ากรุงเทพมหานครจะเกิดน้ำท่วมและมีข่าวลือว่าจะมีน้ำเข้ามาในพื้นที่หลายจุดนั้น ตนขอให้ประชาชนมีความมั่นใจว่าขณะนี้สถานการณ์ในกรุงเทพฯยังปกติ โดยเจ้าหน้าที่ของกทม.ได้เตรียมความพร้อมมาตรการต่าง ๆ อย่างเต็มที่ มีการพร่องน้ำในคลองเตรียมไว้แล้ว และระดับน้ำทั้งในแม่น้ำเจ้าพระยาและคลองสำคัญยังอยู่ในเกณฑ์ที่ไม่น่าเป็นห่วง ขอให้ประชาชนอย่าตื่นตระหนกกับข่าวต่าง ๆ

อย่างไรก็ตาม กทม.ก็ไม่ประมาทและได้ติดตามสถานการณ์ตลอดเวลา เนื่องจากปีนี้ปริมาณน้ำในเขื่อนหลักมีมากกว่าทุกปี หลายเขื่อนมีน้ำเต็มความจุ เกิน 100 เปอร์เซ็นต์ เช่น เขื่อนป่าสักฯ ที่ขณะนี้มีน้ำกว่า 115 เปอร์เซ็นต์ จึงต้องเฝ้าระวังสถานการณ์ต่อไปตลอด เดือนต.ค.นี้ ซึ่งยังเป็นช่วงของฤดูฝน รวมทั้งในช่วง วันที่ 4-5 ต.ค.นี้ที่จะมีพายุดีเปรสชั่นเข้ามา

ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าวต่อว่า สำหรับประชาชนที่ได้รับผลกระทบขณะนี้ มีเฉพาะในส่วนของบ้านเรือนประชาชนที่อยู่นอกคันกั้นน้ำและเขื่อนที่มีอยู่ 27 ชุมชน 1,200 หลังคาเรือน ซึ่งจะได้รับผลกระทบเมื่อระดับน้ำสูง 1.7 เมตร โดยที่ชุมชนสันติชนสงเคราะห์ ริมคลองบางกอกน้อยขณะนี้อยู่ระหว่างก่อสร้างแนวป้องกันน้ำท่วม มีบ้านเรือนรุกล้ำ 21 หลัง และยินยอมให้รื้อถอนแล้ว 17 หลัง ยังเหลืออีก 4 หลังที่ไม่ยินยอม ซึ่งการสร้างเขื่อนบริเวณนี้จะแล้วเสร็จในเดือนก.ย.55 ส่วนบริเวณคลองเปรมประชากรที่เป็นคลองที่รับน้ำด้านเหนือของกรุงเทพฯ ขณะนี้ระดับน้ำอยู่ที่ 0.5 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง ซึ่งห่างจากระดับที่วิกฤติที่จะอยู่ที่ 1.98 เมตร โดยกทม.มีแผนที่จะดำเนินการก่อสร้างอุโมงค์ยักษ์ดอนเมือง เพื่อแก้ปัญหาการระบายน้ำในพื้นที่ในบริเวณนี้ในระยะยาว ซึ่งจะเป็นอุโมงค์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดเส้นผ่าศูนย์กลาง 5.6 เมตรและมีความยาวที่สุดในโครงการอุโมงค์ยักษ์ 4 แห่ง ของกทม.คือยาว 17 กิโลเมตร แต่โครงการนี้จะเริ่มได้ในปี 2556 และใช้เวลาก่อสร้าง 3 ปี

ที่ ท่าเรือปากเกร็ด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาได้เพิ่มระดับสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และเริ่มเอ่อล้นไหลเข้าท่วมร้านค้าในบริเวณดังกล่าว รวมทั้งบ้านเรือนที่ตั้งอยู่ตามแนว 2 ฝั่งแม่น้ำ ขณะที่ผู้ประกอบการเดินเรือโดยสารประจำทางได้สร้างสะพานไม้ชั่วคราวเพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ผู้โดยสาร



แล้วแต่จะพิจารณากันนะจ้ะ อ่านไว้หลายๆ ข้อมูล

 

B1

"ศิริวัฒน์"คอนเฟอเรนซ์ เผยน้ำท่วมเมืองชาละวันยังอ่วม

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 1 ตุลาคม 2554 12:44 น.

นายศิริวัฒน์ ขจรประศาสน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ พร้อมด้วยนายสุวิทย์ วัชโรทยางกูร ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร ได้ร่วมประชุมผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์กับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เพื่อรายงานสถานการณ์น้ำท่วมของ จ.พิจิตร ที่ขณะนี้ 888 หมู่บ้าน ถูกน้ำท่วมแล้ว 761 หมู่บ้าน
ทั้งนี้ นายศิริวัฒน์ ได้ร้องขอเสื้อชูชีพและเรือท้องแบนมาให้ชาวบ้านได้ใช้งาน เนื่องจากถนนถูกตัดขาด ไม่สามารถใช้การได้ อีกทั้งรายงานนายกรัฐมนตรี ว่า ล่าสุดมีคนตกน้ำตายแล้ว 35 คน
ขณะที่ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร ได้รายงานนายกรัฐมนตรี ว่า ปัญหาขณะนี้มีน้ำเน่าและมีขยะลอยเป็นแพ ส่งกลิ่นเน่าเหม็น สร้างความเดือดร้อน และอาจก่อให้เกิดสารพัดโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ ที่จะตามมาด้วย

 

B1

เชียงใหม่สูญ8พันล.หลังเจอน้ำท่วมหนัก

ข่าวภูมิภาค วันเสาร์ที่ 1 เดือนตุลาคม พ.ศ.2554 15:32 น.



จ.เชียงใหม่ ประเมินความเสียหายจากน้ำท่วมกว่า 8,000 ล้านบาท เสนอ นายกฯ ทำโครงการแก้มลิงในอำเภอที่น้ำปิงไหลผ่าน


นายบุญเลิศ บูรณุปกรณ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวประเมินความเสียหายของเมืองเชียงใหม่ หลังเกิดสถานการณ์น้ำท่วม ว่า มีมูลค่าไม่ต่ำกว่า 7 - 8 พันล้านบาท มากกว่าน้ำท่วมใหญ่ ปี 2548 ที่มี มูลค่าความเสียหายร่วม 5 พันล้านบาท เนื่องจากน้ำท่วมแต่ละครั้ง ก็จะส่งผลกระทบต่อภาพพจน์เมืองท่องเที่ยวของเชียงใหม่ด้วย อย่างไรก็ตาม องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ ได้เสนอ นายกรัฐมนตรี ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ เมื่อเช้านี้ ในการแก้ปัญหาน้ำท่วม ซึ่งเกิดจากน้ำปิงล้นตลิ่ง ว่า ควรทำโครงการแก้มลิงในอำเภอที่น้ำปิงไหลผ่าน ก่อนจะเข้าสู่ตัวเมืองเชียงใหม่ โดยเริ่มที่ อ.แม่แตง ก่อน เนื่องจาก อบจ.มีแบบแปลนอยู่แล้วใช้งบประมาณ 255 ล้านบาท ซึ่งจะกักน้ำไว้ได้ถึง 10 ล้านลูกบาศก์เมตร เพื่อชะลอน้ำท่วมได้ 4 - 5 ช.ม. จากนั้นจึงทำโครงการแก้มลิง เพิ่มที่ อ.เชียงดาว และ อ.แม่ริม ต่อไป ส่วนการแก้ปัญหาน้ำป่าไหลหลาก ซึ่งเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต บ้านพังเสียหายในหลายอำเภอ ก็ได้เสนอให้มีการสร้างฝายเช็คแดม หรือ ฝายแม้ว จำนวน 1 แสนฝาย เพื่อชะลอการไหลของน้ำ โดยอาจใช้งบประมาณของ อบจ.ไปก่อน หากรัฐบาลเห็นชอบ

Link : เชียงใหม่สูญ8พันล หลังเจอน้ำท่วมหนัก

 

B1

น้ำท่วมทำโรงงานเสียหายกว่า 300 แห่ง-เสียหาย700ล้านบาท

น.พ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวถึง โรงงานอุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบจากภัยน้ำท่วมทั่วประเทศขณะนี้ว่า มีจำนวนมากกว่า 300 โรงงาน รวมมูลค่าความเสียหาย กว่า 700 ล้านบาท โดยจังหวัดที่มีโรงงานอุตสาหกรรม ถูกน้ำท่วมมากที่สุดคือ จ.นครสวรรค์ ถูกน้ำท่วม 72 โรงงาน มูลค่าความเสียหาย กว่า 125 ล้านบาท รองลงมาคือ จ.ลพบุรี ถูกน้ำท่วมจำนวน 50 โรงงาน มีมูลค่าความเสียหาย กว่า 500 ล้านบาท ส่วนการช่วยเหลือในเบื้องต้น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า จะมีการพิจารณาให้มีการงดเว้นค่าธรรมเนียมต่างๆ ให้กับโรงงาน ตลอดจนการจัดสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ รวมถึงการจัดหน่วยงานเข้าไปซ่อมแซมเครื่องจักรโรงงาน และรถจักรยานยนต์ให้กับพนักงานด้วย

 

ฺB1

หวั่นพายุถล่มซ้ำวิกฤติน้ำ-นักวิชาการจี้รัฐเร่งระบาย



ปัญหาน้ำท่วมขังในหลายจังหวัด ทำให้สถานการณ์น้ำแม่น้ำสายหลักยังคงวิกฤติไม่สามารถระบายสู่อ่าวไทย ขณะที่ในเดือนตุลาคมอาจจะมีพายุจ่อถล่มซ้ำ ทำให้ต้องเร่งระบายน้ำเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนชาวบ้าน


น้ำท่วมยังวิกฤติใน 23 จังหวัดโดยในหลายพื้นที่น้ำท่วมขังนานกว่า 1 เดือน แม้ทำให้มีความจำเป็นต้องเร่งระบายน้ำออกก่อนที่พายุลูกใหม่จะเข้ามาในช่วงเดือนตุลาคม ซึ่งจะเพิ่มปริมาณน้ำมากขึ้น

ในประเด็นดังกล่าว ดร.รอยล จิตรดอน ผู้อำนวยการสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำและการเกษตร (องค์การมหาชน) กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กล่าวว่า การบริหารจัดการน้ำทั้งระบบขณะนี้เกินจะบริหารจัดการได้แล้ว เพราะเราไม่รู้ว่าฝนจะตกลงมามาก เห็นได้จากช่วงต้นปีหน่วยงานส่วนใหญ่จะพยากรณ์ว่าปีนี้น้ำจะแล้ง

ขณะที่ในช่วงฤดูฝนก็ยังไม่มั่นใจว่าจะมีฝนมากกว่านี้หรือไม่ เนื่องจากไม่ได้อยู่ในปรากฏการณ์เอลนีโญและลานีญา แต่ฝนที่ตกมากในช่วงนี้ เกิดจากปรากฏการณ์ลมสินค้า ซึ่งไม่ได้เกิดในภาวะปกติ โดยจะมีอิทธิพลมากในช่วงกลางของฤดูฝน แต่เป็นสิ่งที่ไม่สามารถบอกได้ว่าจะเกิดขึ้นนานเท่าไร ต้องเฝ้าสังเกตและติดตามการพยากรณ์อย่างต่อเนื่อง

"ตอนนี้พายุยังไม่หมด ตามสถิติพายุมีอยู่ 20 กว่าลูก แต่ตัวเองไม่เชื่อในสถิติ เพราะว่าคำว่าการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ มันยอมไม่เหมือนเดิม ขนาดฤดูยังไม่มาตามที่เคยมา ดังนั้น สถิติก็ใช้ไม่ได้ ซึ่งตัวการที่ทำให้เกิดพายุ ก็คือ ความแตกต่างของอุณหภูมิในมหาสมุทรทั้งมหาสมุทรอินเดีย และมหาสมุทรแปซิฟิก โดยมีคลื่นลมทะเลขนาดใหญ่พัดเข้ามา เกิดสหสัมพันธ์ (correlation) ระหว่างการไหลเวียนของอากาศกับรูปแบบของการนำพาความชื้น และการกระจายของไอโซโทปในภูมิภาคมรสุมฤดูร้อนของเอเชีย ทำให้เกิดฝนตกต่อเนื่อง และไม่มีเว้นระยะฝนทิ้งช่วง ที่ปกติจะทิ้งช่วงประมาณ 1 เดือน แต่ปีนี้ฝนตกต่อเนื่อง" ดร.รอยลกล่าว

ดร.รอยล กล่าวอีกว่า สิ่งที่น่าห่วงตอนนี้ ก็คือ สภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง โดยฝนจะตกเกินฤดูไปถึงปลายเดือนตุลาคม มีโอกาสเกิดฝนตกสลับหนาวเหมือนปีที่ผ่านมา เพราะอิทธิพลของลมตะวันตกเฉียงใต้ กับลมตะวันออกเฉียงเหนือเป็นตัวพาอากาศหนาวลงมา ส่วนลมตะวันตกเฉียงใต้เป็นตัวพาฝนลงมา

ขณะที่ในช่วงปลายเดือนกันยายนนี้ระดับน้ำทะเลที่จะเริ่มหนุนสูงขึ้น และจะเริ่มสูงเรื่อยๆ ในเดือนตุลาคม หากในช่วงนี้ยังระบายน้ำเหนือออกสู่ทะเลไม่ได้ ก็จะทำให้แม่น้ำเจ้าพระยาสูงขึ้นในพื้นที่ กรุงเทพมหานคร เนื่องจากไม่สามารถระบายสู่ทะเลได้ เป็นปัญหาเช่นปีที่แล้ว จึงคิดว่าช่วงนี้ควรเร่งระบายน้ำให้ได้มากที่สุด เนื่องจากอิทธิพลของอากาศยังทำให้ฝนตกลงมาเติมน้ำอย่างต่อเนื่อง

"ขณะที่เวลานี้ปล่อยน้ำมากกว่าแต่ที่แม่น้ำเจ้าพระยาในพื้นที่กรุงเทพมหานครยังอยู่ได้ตอนนี้ เพราะน้ำทะเลยังไม่หนุนดังนั้นในช่วงนี้ต้องเร่งระบายน้ำออกให้ได้มากที่สุด" ดร.รอยลกล่าว

ไม่เพียงปัจจัยจากสภาพอากาศ ที่ทำให้ปริมาณน้ำ ดร.รอยล กล่าวต่อว่า ปัจจัยที่ทำให้น้ำท่วมนอกจาก ฝนตกผิดปกติ เพราะภูมิอากาศเปลี่ยนแปลงแล้ว ยังมีปัจจัยเรื่องการไม่มีการบริหารจัดการน้ำที่ดีพอ โดยเฉพาะในระดับท้องถิ่น เนื่องจากที่ผ่านมา มีการถ่ายโอนอำนาจให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ตั้งแต่ปี 2546 จากนั้นเป็นต้นมาระบบก็เกิดช่องว่าง เพราะไม่มีระบบพี่เลี้ยงให้กับท้องถิ่นในการที่จะไปดูแลแหล่งน้ำของตัวเอง ขาดการประสานงานร่วมกัน ท้องถิ่นไม่รู้ว่าต้องทำยังไง ทั้งๆ ที่เป็นพื้นที่รับผิดชอบ

ทั้งนี้ แผนที่น้ำระดับท้องถิ่นก็ยังไม่มี แล้วจะแก้ปัญหาได้อย่างไร แต่เมื่อจัดทำแล้ว ก็ต้องมาดูว่าจะดูแลน้ำอย่างไร ดูแลคลอง ดูแลฝายในพื้นที่อย่างไร จะพัฒนาต่อยังไง มีการวางแผนในอนาคตยังไง ซึ่งที่ผ่านมา กรมทรัพยากรน้ำยังทำหน้าที่เป็นพี่เลี้ยงไม่ดีพอ

"ทุกหน่วยงานมีหน้าที่ระบุชัดเจน อย่างกรมชลประทานมีหน้าที่ดูแลน้ำเพื่อการเกษตรในพื้นที่ 27 ล้านไร่ จากพื้นที่กว่า 150 ล้านไร่ แต่ที่ผ่านมา ถูกเอาเรื่องน้ำท่วมไปอยู่ในความรับผิดชอบด้วย"

ส่วนกรมทรัพยากรน้ำมีหน้าที่ดูแลเรื่องพื้นที่ต้นน้ำ ดูแลพื้นที่ชุ่มน้ำ ดูแลเรื่องประปาชุมชน เรื่องการจัดการน้ำในระดับท้องถิ่น ดังนั้น ปัญหาเรื่องน้ำท่วมตอนนี้ ไม่ต้องไปมองอะไรทั้งนั้น ที่ผ่านมา กฎหมายบอกแล้วว่าหน้าที่ของหน่วยงานแต่ละหน่วยต้องทำอะไร จึงอยากถามว่าวันนี้ได้ทำตามหรือยัง

ดร.รอยล ตั้งคำถามว่า หน้าที่กำหนดแนวทางการบริหารจัดการน้ำ การประสานงานจากส่วนกลางมาสู่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ส่วนหนึ่ง คือ ดูแลการบริหารจัดการ และอีกส่วนหนึ่งดูแลและป้องกันภัยพิบัติ ซึ่งเป็นหน้าที่ของกรมทรัพยากรน้ำที่ต้องดูแลในพื้นที่ 130 ล้านไร่ที่เหลือ

ภารกิจที่เป็นหัวใจของปัญหา คือ น้ำดื่ม น้ำใช้ และน้ำเพื่อการเกษตรในระดับชุมชน ถามว่าที่แล้วมาดูแลได้ดีพอหรือยัง ดังนั้น นอกเขตชลประทาน 130 ล้านไร่ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง คือ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กรมพัฒนาที่ดิน และหน่อยงานหลัก คือ กรมทรัพยากรน้ำต้องทำหน้าที่ แม้จะเป็นการแยกกันทำงานก็ไม่เป็นไร ประเด็นคือการบูรณาการทำงานเป็นไปในทิศทางเดียวกันหรือยัง และต้องดูว่าปัญหาในแต่ละพื้นที่แท้จริงแล้ว คือ น้ำแล้ง หรือน้ำท่วม โดยจะแก้ปัญหาอะไรเราต้องรู้จักตัวเองก่อน จึงจะแก้ได้

"ถ้าวันนี้เราไม่แก้ปัญหาสร้างการทำงานบูรณาการได้ ในอนาคตต้องพังแน่ๆ เพราะการแก้แบบพื้นที่ไหนน้ำท่วมก็ทำกำแพงกั้นน้ำถือเป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุผลักภาระให้พื้นที่อื่นๆ ถึงเวลาที่เราต้องบูรณาการหน่วยงานเรื่องน้ำเพื่อรับมือกับปัญหาให้ได้" ดร.รอยลกล่าว

อาสาสมัครเตือนภัยธรณีด่านหน้ารับมือดินถล่ม

ในเวทีสัมมนาสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศ.) เพื่อจัดทำเป็นรายงานนำเสนอภาครัฐให้ใช้เป็นกรอบกำหนดนโยบายป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ซึ่งนายสมบัติ อยู่เมือง หัวหน้าศูนย์วิจัยภูมิสารสนเทศเพื่อประเทศไทย และอาจารย์ประจำภาควิชาธรณีวิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้นำเสนอแบบจำลองประเมินการเกิดดินถล่ม น้ำปนตะกอนหลากและน้ำท่วมฉับพลัน โดยยกกรณีบ้านน้ำก้อ จ.เพชรบูรณ์ ที่เกิดเหตุในปี 2544 เป็นตัวอย่าง กล่าวว่า เป็นสถานการณ์เดียวกันที่ประชาชนในหลายจังหวัดของภาคเหนือและภาคอีสานกำลังเผชิญอยู่ในขณะนี้

ประเทศไทยตอนบนมีพื้นที่ที่เคยเกิดดินถล่ม หรือ Land Slide มากมาย เมื่อพิจารณาข้อมูลของพื้นที่ที่เคยประสบเหตุทั้งบ้านน้ำก้อ เพชรบูรณ์ แม่ฮ่องสอน หรือแม้กระทั่ง อ.ฝาง เชียงใหม่ ที่พึ่งเกิดเหตุการณ์ดินถล่มเมื่อไม่นานมานี้ ล้วนแต่เป็นพื้นที่ภูเขาสูง ลาดชันและมีปริมาณน้ำฝนมาก

แม้น้ำท่วมจะสร้างความเสียหาย แต่สิ่งที่สร้างความเสียหายมากยิ่งกว่า คือ ดินถล่มและน้ำปนตะกอนหลาก ซึ่งตะกอนเหล่านั้น ก็คือ ต้นไม้ ท่อนซุง ก้อนหินขนาดใหญ่ กรวด ทรายต่างๆ ที่น้ำกวาดซัดมาด้วย

"แบบจำลองผลการไหลของน้ำและระดับน้ำสะสมในกลุ่มน้ำย่อยน้ำก้อ แสดงเห็นได้ว่า ปริมาณน้ำเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เมื่อพล็อตข้อมูลลงแผนที่แสดงโอกาสเกิดน้ำปนตะกอนหลาก ก็พบว่าการไหลของน้ำเป็นไปด้วยความเร็วสูง ความเสี่ยงที่จะเกิดน้ำปนตะกอนหลาก จึงมีมากตามไปด้วย" นายสมบัติกล่าว

นอกจากการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศประเมินปัจจัยที่ทำให้เกิดดินโคลนถล่มแล้ว กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยกรมทรัพยากรธรณี ยังใช้เทคโนโลยีนี้จัดทำแผนที่พื้นที่เสี่ยงดินถล่ม พร้อมทั้งลงพื้นที่สำรวจอย่างสมบูรณ์ใน 51 จังหวัด เพื่อจัดทำแผนป้องกันในระดับท้องถิ่น พบพื้นที่เสี่ยงภัยดินถล่มระดับสูง ประกอบด้วย 7 จังหวัดภาคใต้ คือ ระนอง ชุมพร กระบี่ สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง และตรัง และพื้นที่ 10 จังหวัดภาคเหนือ คือ แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย น่าน ลำพูน ลำปาง พะเยา แพร่ อุตรดิตถ์ และตาก

นายอดิชาติ สุรินทร์คำ ผู้เชี่ยวชาญด้านธรณีพิบัติภัย กล่าวว่า จากข้อมูลที่ได้นำไปสู่การจัดตั้งอาสาสมัครเครือข่ายเฝ้าระวังแจ้งเตือนธรณีพิบัติภัย ซึ่งผ่านการอบรมให้ความรู้ความเข้าใจสาเหตุ ปัจจัยและลักษณะของพื้นที่เสี่ยงภัยดินถล่ม สิ่งบอกเหตุ การเตรียมความพร้อมรับมือ การติดตั้งและวัดปริมาณน้ำฝน ปัจจุบันมีอาสาสมัครเครือข่ายฯ 15,539 คนใน 44 จังหวัด

 

B1

ชลประทานเชียงใหม่ปล่อยน้ำลงแม่ปิง รับมือ"นาลเก"

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 1 ตุลาคม 2554 15:35 น

สำนักชลประทานที่ 1 เชียงใหม่ เร่งปล่อยน้ำจากเขื่อนแม่งัดสมบูรณ์ชลลงสู่ลำน้ำปิง หลังจากที่น้ำปิงลดระดับลงต่ำกว่าจุดวิกฤต
นายวินัยพงศ์ จินดา ผู้อำนวยการสำนักชลประทานที่ 1 เชียงใหม่ กล่าวว่า ได้เริ่มพร่องน้ำออกจากเขื่อนแม่งัดสมบูรณ์ชล ในอัตรา 20 ลูกบาศก์เมตร/วินาที ซึ่งไม่ส่งผลกระทบให้ลำน้ำปิงเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน เพราะเป็นปริมาณที่น้อยมาก ทั้งนี้ ยอมรับว่าพายุนาลเกจะมีผลกระทบต่อเมืองเชียงใหม่อีกระลอก
ส่วนเขื่อนแม่กวงอุดมธารา ที่มีน้ำล้นสปิลล์เวย์ ตั้งแต่วันที่ 21 กันยายน ที่ผ่านมา ส่งผลให้พื้นที่ท้ายน้ำได้รับผลกระทบ ทั้ง อ.ดอยสะเก็ด อ.สันทราย และ อ.สันกำแพง วันนี้มีปริมาณน้ำล้น ลดลงเหลือ 40 ลูกบาศก์เมตร/วินาที
อย่างไรก็ตาม ยังยืนยันว่า อ่างเก็บน้ำทุกแห่งยังมีความมั่นคงแข็งแรงดี ส่วนพื้นที่ในเขตเมืองเชียงใหม่ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำปิงล้นตลิ่ง ทางชลประทานที่ 1 ได้สนับสนุนเครื่องสูบน้ำ 18 เครื่อง ระดมสูบน้ำในจุดที่ยังมีน้ำท่วม คาดว่าช่วงเย็นจะเข้าสู่ภาวะปกติ

 

B1

นนทบุรี-ปริมาณน้ำชุมชนเกาะเกร็ดเพิ่มขึ้นอีก



สถานการณ์น้ำท่วมบริเวณชุมชนเกาะเกร็ด จังหวัดนนทบุรี ขณะนี้ปริมาณน้ำเพิ่มมากขึ้น ส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตของคนใน ต.เกาะเกร็ด เป็นอย่างมาก

โดยเฉพาะร้านค้าที่ตั้งอยู่ 2 ข้างถนนต้องปิดชั่วคราวเนื่องจากน้ำท่วมถนน ทำให้นักท่องเที่ยวที่ทราบข่าวน้ำท่วมไม่เดินทางมาเที่ยวเกาะเกร็ด ส่วนชาวบ้านหลายคนที่ไม่มีเรือพาย เวลาเดินทางไปทำงานต้องเอากางเกงมาเปลี่ยนที่ท่าเรือ เพราะถนนถูกน้ำท่วมเกือบถึงเอว

นายวิศิษฐ์ พวงเพชร นายอำเภอปากเกร็ด กล่าวถึงสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ อ.ปากเกร็ด ว่าระดับสูงสุดขณะนี้ 2.62 ม.น้ำเพิ่มสูงขึ้นกว่าเมื่อวาน โดยเฉพาะ ต.เกาะเกร็ด ที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด ปีนี้ถือว่าน้ำสูงมาก แม้แต่ในเขตเทศบาลที่ไม่เคยประสบปัญหาน้ำท่วมก็ยังวิกฤต

ส่วนตำบลทางตะวันตกติดกับแม่น้ำเจ้าพระยา เช่น คลองข่อย และ คลองพระอุดม มีการระดมกำลังคน ช่วยทำคันกั้นน้ำ เนื่องจากเกิดปัญหาน้ำซึมเข้ามาในพื้นที่ ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมในเขตพื้นที่ชั้นใน ส่งผลให้พื้นที่การเกษตรได้รับความเสียหาย