WarRoom - อาสาสมัครเตรียมการเฝ้าระวังประสานงานเตรียมพร้อมเพื่อรองรับสถานการณ์ปี 2013

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>ยอดผู้เสียชีวิตจากน้ำท่วมในกัมพูชาพุ่งเป็น 206 คน</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD height=40><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=center align=left>9 ตุลาคม 2554 12:53 น.</TD><TD vAlign=center align=left><SCRIPT type=text/javascript src="http://platform.twitter.com/widgets.js"></SCRIPT>

<SCRIPT type=text/javascript src="https://apis.google.com/js/plusone.js"> {lang: 'th'}</SCRIPT>

<TD></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><IFRAME style="BORDER-BOTTOM: medium none; BORDER-LEFT: medium none; WIDTH: 450px; HEIGHT: 35px; OVERFLOW: hidden; BORDER-TOP: medium none; BORDER-RIGHT: medium none" src="http://www.facebook.com/plugins/like.php?href=http://www.manager.co.th/asp-bin/mgrshort.aspx?NewsID=9540000128502&layout=standard&show_faces=false&width=450&action=like&colorscheme=light&height=35" frameBorder=0 allowTransparency scrolling=no></IFRAME></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=650><TBODY><TR><TD vAlign=top width=650 align=middle> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>
ชาวเขมรอพยพออกจากบ้านที่ถูกน้ำท่วม ในพื้นที่ของจ.เปรยเวง ห่างจากกรุงพนมเปญทางตะวันออกราว 60 กม. เมื่อวันที่ 6 ต.ค. รายงานระบุว่ายอดผู้เสียชีวิตจากน้ำท่วมตั้งแต่เดือนส.ค เพิ่มเป็น 206 คน. -- AFP PHOTO/Tang Chhin Sothy. </B></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD height=5 vAlign=top align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
ซินหัว - นายนิม วันดา รองประธานคณะกรรมการจัดการภัยพิบัติแห่งชาติระบุว่า ประชาชนชาวกัมพูชาอย่างน้อย 206 คน เสียชีวิตจากเหตุน้ำท่วมฉับพลันและน้ำในแม่น้ำโขงเอ่อล้นตั้งแต่ต้นเดือนส.ค.

นายนิมแถลงข่าวกับสื่อที่สนามบินนานาชาติกรุงพนมเปญหลังได้รับความช่วยเหลือฉุกเฉินจากรัฐบาลญี่ปุ่นว่า นับจนถึงเย็นวันเสาร์ (8 ต.ค.) มีรายงานพบผู้เสียชีวิตจากเหตุน้ำท่วมแล้ว 206 คน และว่ารัฐบาลกัมพูชาจะมอบเงินบริจาคจำนวน 500 ดอลลาร์ให้ครอบครัวผู้เสียชีวิต

รายงานระบุว่า กัมพูชามีเมืองและจังหวัด 17 แห่ง ถูกน้ำท่วมได้รับความเสียหาย และว่าเหตุน้ำท่วมครั้งนี้เป็นครั้งที่เลวร้ายที่สุดในรอบทศวรรษ ประชาชนมากกว่า 230,000 ครอบครัวได้รับผลกระทบและอีก 100,000 ครอบครัว ต้องอพยพไปอยู่พื้นที่สูง

"ประชาชนรวมทั้งหมดมากกว่า 1 ล้านคน ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมครั้งนี้" นายนิม กล่าว และว่า รัฐบาลและองค์กรการกุศลต่างๆ ได้แจกจ่ายสิ่งของบรรเทาทุกข์ให้กับประชาชนแล้ว 60,000 ครอบครัว.

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

เขื่อนกิ่วลมยังปิดประตูระบายน้ำช่วยบรรเทาสถานการณ์

9 ตค. 2554 15:09 น.

นายชัยประเสริฐ เนตรอนงค์ ผู้อำนวยการ โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษากิ่วลม-กิ่วคอหมา เปิดเผยว่า แม้ว่าสถานการณ์ในแม่น้ำวังจะปกติขณะที่เขื่อนกิ่วลมมีปริมาณน้ำอยู่ที่ 82.936 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็น 78.08% ของความจุอ่างที่ 106.22 ล้าน ลบ.ม. ยังสามารถรองรับน้ำได้อีก แต่โครงการฯยังคงปิดประตูระบายน้ำทั้ง 5 บานของเขื่อนกิ่วลมตั้งแต่วันที่ 5 ต.ค.จนถึงปัจจุบัน เพื่อช่วยบรรเทาผลกระทบจากสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ภาคเหนือตอนล่างและภาคกลาง เนื่องจากปริมาณเขื่อนภูมิพล อ.สามเงา จ.ตาก มีปริมาณน้ำเต็มความจุอ่าง คาดว่าหลังเหตุการณ์น้ำท่วมเริ่มคลี่คลายโครงการฯจะพิจารณาเปิดประตูระบายน้ำอีกครั้ง
ส่วนการปิดประตูระบายน้ำทั้ง 5 บานของเขื่อนกิ่วลม นอกจากช่วยบรรเทาสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ภาคกลาง ปริมาณน้ำในลำน้ำแม่น้ำวังเริ่มคลี่คลายไม่มีผลกระทบต่อพื้นที่และอยู่ในช่วงปลายฤดูฝน ซึ่งเขื่อนยังสามารถรองรับน้ำได้เพิ่มอีกเพื่อเก็บกัดไว้ใช้ในฤดูแล้ง

 

คนกทม.ยอมให้ระบายน้ำบางส่วน เห็นใจตจว.จมนับเดือน

วันที่ 09 ตุลาคม พ.ศ. 2554 เวลา 13:41 น. ข่าวสดออนไลน์


ด้านสวนดุสิตโพล เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นประชาชนที่พักอาศัยในกรุงเทพฯ และปริมณฑล พบว่า ส่วนใหญ่ร้อยละ 66.79 เห็นด้วยให้มีการระบายน้ำเข้าพื้นที่บางส่วนเพื่อแบ่งเบาความเดือดร้อนของจังหวัดต่างๆ โดยให้เหตุผลว่า กรุงเทพฯ มีประตูระบายน้ำหลายแห่ง และเป็นเส้นทางน้ำที่จะช่วยระบายลงสู่ทะเล และเห็นใจผู้ที่ถูกน้ำท่วมในต่างจังหวัดที่ประสบปัญหามานานนับเดือน สิ่งที่กลัวหรือวิตกกังวลของคนกรุงเทพฯ คือ กลัวบ้านถูกน้ำท่วม ทรัพย์สิน และสิ่งของเครื่องใช้เสียหาย อาหารสด อาหารแห้งและน้ำดื่มขาดแคลน การเดินทางไม่สะดวกและความปลอดภัยในชีวิต-ทรัพย์สิน อยากให้รัฐบาลระดมความช่วยเหลือจากทุกภาคส่วน ทั้งกำลังพล อาหาร น้ำดื่ม สิ่งของเครื่องใช้ที่จำเป็น อุปกรณ์ต่างๆ เพื่อให้การช่วยเหลือมีประสิทธิภาพ รวมทั้งเร่งแก้ปัญหาโดยเร็ว สั่งการให้ทุกจังหวัดดำเนินการช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างเร่งด่วน และควบคุมดูแลผู้ที่ฉกฉวยโอกาสจากน้ำท่วม เช่น การขึ้นราคาสินค้าและการเอาเปรียบผู้เดือดร้อน

สำหรับสิ่งที่อยากให้เอกชนช่วยเหลือเกี่ยวกับน้ำท่วม คือ การระดมทุนให้ความร่วมมือกับภาครัฐและให้ความช่วยเหลือต่างๆ เท่าที่ทำได้ เช่น เปิดพื้นที่ให้ผู้ประสบภัยพักอาศัย หรือใช้ประโยชน์? นอกจากนั้น ส่วนใหญ่ยังอยากให้สื่อมวลชนช่วยเหลือเกี่ยวกับน้ำท่วม โดยรายงานสภาพน้ำท่วมภาพรวมจากทุกภาคทั่วประเทศอย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง เป็นศูนย์กลางในการกระจายข่าวสารอย่างถูกต้องชัดเจน พร้อมเป็นตัวกลางในการระดม รับความช่วยเหลือจากทุกๆ ฝ่าย และนำสิ่งของไปแจกจ่ายให้ผู้ประสบภัยอย่างทั่วถึง ส่วนความมั่นใจเกี่ยวกับการแก้ปัญหาของคนกรุงเทพฯ

ส่วนใหญ่ไม่มั่นใจต่อการแก้ปัญหาของรัฐบาล ขณะเดียวกันก็ไม่มั่นใจว่า กทม. จะแก้ปัญหาเรื่องน้ำท่วมได้ เพราะปริมาณน้ำในปีนี้มากกว่าทุกปี มีฝนตกอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม ส่วนใหญ่ยังระบุว่า เตรียมตัวรับมือน้ำท่วมโดยการติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิดและมีสติ รวมทั้งซื้อสิ่งของจำเป็น ขนย้ายสิ่งของไว้ที่สูง ทั้งนี้ ในประเด็นหน่วยงานที่คนกรุงเทพฯ ประทับใจในการช่วยเหลือน้ำท่วมพบว่า ส่วนใหญ่ประทับใจสื่อมวลชน ตามมาด้วยประชาชนทั่วประเทศ หน่วยกู้ภัยหรือมูลนิธิต่างๆ รัฐบาลหรือหน่วยงานภาครัฐ และหน่วยงานเอกชน

 

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>กทม.เร่งกำลังระบายน้ำลงทะเลสูงสุดที่ 20 ล้านลบ.ม./วัน ก่อนช่วงน้ำทะเลหนุน</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD height=40><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=center align=left>9 ตุลาคม 2554 13:32 น.</TD><TD vAlign=center align=left><SCRIPT type=text/javascript src="http://platform.twitter.com/widgets.js"></SCRIPT>

<SCRIPT type=text/javascript src="https://apis.google.com/js/plusone.js"> {lang: 'th'}</SCRIPT>

<TD></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><IFRAME style="BORDER-BOTTOM: medium none; BORDER-LEFT: medium none; WIDTH: 450px; HEIGHT: 35px; OVERFLOW: hidden; BORDER-TOP: medium none; BORDER-RIGHT: medium none" src="http://www.facebook.com/plugins/like.php?href=http://www.manager.co.th/asp-bin/mgrshort.aspx?NewsID=9540000128510&layout=standard&show_faces=false&width=450&action=like&colorscheme=light&height=35" frameBorder=0 allowTransparency scrolling=no></IFRAME></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left> ผอ.สำนักระบายน้ำฯ เฝ้าระวังในพื้นที่ กทม.ใกล้ชิด พร้อมเร่งกำลังระบายน้ำลงทะเลให้ได้ 20 ล้านลบ.ม./วัน ในวันที่ฝนไม่ตก แต่ช่วงที่ฝนตกจะเร่งกำลังไม่ต่ำกว่า 10 ล้านลบ.ม./วัน ให้ทันก่อนวันที่ 15 ต.ค.ที่น้ำทะเลจะหนุนสูงสุด

นายสัญญา ชีนิมิตร ผู้อำนวยการสำนักการระบายน้ำ กรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยถึง สถานการณ์น้ำในแม่นน้ำเจ้าพระยาในพื้นที่ กทม.ในช่วงเช้าวันนี้ ว่า ระดับน้ำสูงสุดวัดที่ปากคลองตลาดวัดได้ เมื่อวานนี้ (8 ต.ค.) เวลา 17.00 น.อยู่ที่ 1.88 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง ในวันนี้จะขึ้นสูงสุดในเวลา 16.30 น.ส่วนปริมาณน้ำที่ไหลเข้ามาในแม่น้ำเจ้าพระยา วัดที่บริเวณเขื่อนพระราม 6 และเขื่อนเจ้าพระยาอยู่ที่ 4,945 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ที่ อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา 3,135 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิดมากขึ้นเนื่องจากตอนนี้น้ำที่ปล่อยมาจาก ด้านเหนือปริมาณมากขึ้นทุกวันทำให้พื้นที่นอกแนวคันกั้นน้ำใน 13 เขต รวมถึงพื้นที่ด้านฝั่งตะวันออกยังต้องเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับมีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่องในพื้นที่ กทม.ส่งผลให้ระดับน้ำในคูคลองในพื้นที่ชั้นในมีปริมาณเพิ่มสูงขึ้นมากส่งผล ให้การระบายน้ำออกไปยังแม่น้ำเจ้าพระยาทำ ได้ยากกว่าทั้งนี้ ในช่วงวันที่ 13-15 ตุลาคมนี้ น้ำทะเลลจะหนุนสูงโดยเฉพาะวันที่ 15 ตุลาคม ที่ฐานน้ำทะเลจะสูง 1.11 เมตร ก่อนจะขึ้นสูงสุดอีกครั้งในวันที่ 29 ตุลาคม ที่ 1.31 เมตร จึงต้องเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง

นายสัญญา กล่าวต่อว่า ขณะนี้การระบายน้ำในส่วนของ กทม.กำลังเร่งระบายลงสู่ทะเลให้มากที่สุดโดยในช่วงที่ฝนไม่ตกได้เพิ่มกำลัง เพื่อให้ได้สูงสุดที่ 20 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน ส่วนวันที่ฝนตกจะต้องชะลอกำลังก่อนจะเร่งระบายต่อในช่วงฝนหยุด โดยช่วงนี้จะเร่งให้ได้ไม่ต่ำกว่าวันละ 10 ล้านลูกบาศก์เมตร
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

อยุธยาโกลาหล

ชาวพระนครศรีอยุธยายังคงอกสั่นขวัญผวาตลอดทั้งวัน หลังล่าสุดน้ำทะลักจากหลายจุด เข้าท่วมเกาะเมือง สุดปัญญาเจ้าหน้าที่จะต้านไว้ได้ โรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา เร่งขนย้ายอุปกรณ์การแพทย์และผู้ป่วยขึ้นที่สูง
ประชาชนหวาดกลัว ระส่ำระสาย ไม่ทราบชะตากรรม ส่วนใหญ่รีบอพยพออกจากพื้นที่ บางส่วนเดินฝ่ากระแสน้ำออกมา เป็นระยะทาง 2-3 กิโลเมตร เพื่อซื้อข้าวปลาอาหารกลับเข้าไปให้ญาติๆ บางส่วนติดอยู่กับบ้านออกมาไม่ได้ ยังคงรอคอยความช่วยเหลือ ส่วนใหญ่ขาดแคลนน้ำ,อาหาร
ภาพ ประกฤษณ์ จันทะวงษ์

 

กทม.ระดมเรือ100 กว่าลำ ดันน้ำเจ้าพระยาลงทะเล



กรมเจ้าท่าร่วมสมาคมเรือไทยนำเรือกว่า 100ลำจอดตลอดแม่น้ำเจ้าพระยาช่วงผ่าน กทม. เพื่อผลักดันน้ำลงทะเลในวันที่ 11 ต.ค.
นายถวัลย์รัฐ อ่อนศิระ อธิบดีกรมเจ้าท่า(จท.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าในการดำเนินการนำเรือของเข้ามาผลักดันน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาลงทะเลว่า จากสถานการณ์น้ำท่วมหนักในหลายๆพื้นที่ และขณะนี้น้ำได้จ่อมาบริเวณปริมณฑล, และ กทม. แล้วนั้น ในส่วนของกรมเจ้าท่า ได้ร่วมกับ สมาคมเจ้าของเรือไทย ในการที่จะนำเรือของผู้ประกอบเดินเรือในแม่น้ำเจ้าพระยาทั้งเรือนำเที่ยว เรือขายอาหาร รวมกว่า 100 ลำ เข้าร่วมในการผลักดันน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาลง ทะเลบริเวณอ่าวไทย โดยกำหนดการในการในเรือกว่า100ลำผลักดันน้ำนั้นจะมีขึ้นในวันอังคารที่ 11 ต.ค.2554

ทั้งนี้แผนในการนำเรือกว่า 100 ลำมาผลักดันน้ำลงทะเลนั้น ในเบื้องต้นได้มีการกำหนดจุดว่าเรือลำแรกในการผลักดันน้ำจะอยู่บริเวณ เกาะเกร็ด ไล่เลียงไปถึงปากน้ำบริเวณอ่าวไทย ซึ่งการดำเนินการขณะนี้อยู่ระหว่างการสรุปรายละเอียดในการดำเนินการอีกครั้งหนึ่ง
นายถวัลย์รัฐ กล่าวว่า ขณะที่เรือของผู้ประกอบการเดินเรือดำเนินการผลักดันน้ำนั้น ในส่วนของกรมเจ้าท่าจะนำเรือตรวจการณ์ที่มีอยู่ประมาณ13 ลำ คอยสังเกตุการณ์และให้ความช่วยเหลือและประสานงานในเรื่องจราจรทางน้ำเพื่อไม่ให้มีปัญหาและอุปสรรคในการดำเนินการ นอกจากนั้นหากมีผู้ประกอบการเดินเรือเอกชนรายอื่นๆหากมีความสนใจที่จะเข้าร่วมโครงการให้สมัครมาได้ที่กรมเจ้าท่าได้ที่ศูนย์ปลอดภัยทางน้ำ 1199

 

น้ำท่วมที่อ่างทองยังวิกฤติ ระดับน้ำสูงต่อเนื่อง

สถานการณ์น้ำท่วม จ.อ่างทองยังวิกฤติ ระดับน้ำยังสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
น้ำจาก อ.มหาราช และ อ.บางปะหัน จ.พระนครศรีอยุธยา ไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่ ต.หัวไผ่ อ.เมืองอ่างทอง บางจุดน้ำท่วมสูงกว่า 1 เมตร ชาวบ้านไม่มีที่พักอาศัย 4,300 คน ล่าสุดน้ำไหลทะลักข้ามถนน เข้าท่วมบ้านเรือนอีกฝากถนนเป็นบริเวณกว้าง น้ำยังไหลเชี่ยวพัดต้นมะขามขนาดใหญ่หักโคล่น ทับสายไฟฟ้าขาดเป็นจำนวนมาก
ส่วนที่โรงพยายาบาลจังหวัดอ่างทอง ยังบริการให้บริการทุกแผนก เนื่องจากมีการสร้างแนวคันป้องกันอย่างแข็งแรงถึง 2 ชั้น และยินดีรับผู้ป่วยจากโรงพยาบาลที่ประสบอุทกภัยเข้ารับการรักษา รวมทั้งจัดหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ออกให้บริการพื้นที่น้ำท่วม หากพบผูเป่วยฉุกเฉินสามารถเรียกรถบริการของโรงพยาบาลได้ที่สายด่วน 1669 ตลอด 24 ชั่วโมง
เช่นเดียวกับที่สถานีขนส่งผู้โดยสาร จ.กำแพงเพชร เจ้าหน้าที่เร่งนำกระสอบทรายไปอุดปากท่อระบายน้ำ ป้องกันน้ำไหลย้อนเข้าท่วมภายในสถานีขนส่ง แต่รถโดยสารยังสามารถเข้าออกได้ตามปกติ.
- สำนักข่าวไทย

 

สุโขทัยหนักอีกน้ำทะลักจากกำแพงเพชร เป็ดตายนับร้อยตัว



สุโขทัย 9 ต.ค.- ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าสถานการณ์น้ำท่วมในจังหวัดสุโขทัย ล่าสุด (9 ต.ค.) น้ำป่าจากอำเภอพรานกระต่าย จ.กำแพงเพชร ไหลเข้าสู่คลองทองแดง และคลองสามพวง ต.หนองจิก อ.คีรีมาศ อย่างรวดเร็วจนล้นตลิ่งฉับพลันท่วม 4 หมู่บ้าน กว่า 400 ครัวเรือน บางพื้นที่สูงกว่า 1 เมตร รวมทั้งวัดมุจลินทรารามกระแสน้ำไหลแรง ขณะที่ชาวบ้านเร่งต้อนฝูงเป็ดและหมูไปอยู่ในจุดปลอดภัย ซึ่งมีลูกเป็ดจมน้ำตายไปกว่า 100 ตัว หมูอีก 4 ตัว

นอกจากนี้ น้ำยังท่วมนาข้าว ไร่อ้อย ไร่มันสำปะหลังเสียหายอีกจำนวนมาก คาดว่าน้ำจะขยายวงกว้างท่วมอีกหลายตำบลของอำเภอคีรีมาศ โดยเฉพาะ ต.สามพวง ต.หนองกระดิ่ง และ ต.โตนด ซึ่งเป็นพื้นที่ด้านล่างของ ต.หนองจิก.- สำนักข่าวไทย

 

ราคาผักพิจิตรเพิ่มสูงขึ้น 20-30 บาทต่อกก.


9 ตค. 2554 15:38 น. Nation

สถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่จังหวัดพิจิตร ส่งผลกระทบให้ราคาผักสูงขึ้น โดยที่ตลาดสดเทศบาล 2 ภายในเขตเทศบาลเมืองพิจิตร ราคาผักทุกชนิดปรับราคาสูงขึ้น กิโลกรัมละ 20-30 บาท เช่น ผักกาดขาวจากเดิมราคา 70 บาท ปรับขึ้นเป็นกิโลกรัมละ 90 บาท กะหล่ำปี จากเดิมกิโลกรัมละ 70 บาท เพิ่มขึ้นเป็น 100 บาท สาเหตุจากน้ำท่วมพื้นที่ปลูกผักในจังหวัดพิจิตรและการขนส่งผักจากแหล่งปลูกผักเป็นไปด้วยความยากลำบากเนื่องจากเส้นทางส่วนใหญ่ถูกน้ำท่วมจนการสัญจร ไป-มาด้วยความยากลำบาก
นางอำนวย เสามี แม่ค้าผัก กล่าวว่า ผักปรับราคาสูงจากเดิมมากหากเปรียบกับช่วงเดียวกันในปีที่ผ่านมา สาเหตุจากน้ำเข้าท่วมพื้นที่ปลูกผักของเกษตรกรในพื้นที่จังหวัดพิจิตร การขนส่งผักจากแหล่งปลูกผักเป็นไปด้วยความยากลำบากเนื่องจากเส้นทางในการสัญจรส่วนใหญ่ถูกน้ำท่วม และผักที่ใช้ในช่วงเทศกาลกินเจ มีการใช้ผักเป็นจำนวนมาก ราคาผักจึงปรับเพิ่มสูงขึ้น

 

เขตบางพลัดเปิดศูนย์อพยพชั่วคราวช่วยน้ำท่วม.




กทม.สั่งเปิดศูนย์อพยพชั่วคราวบริเวณเขตบางพลัด เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยน้ำท่วม ที่อยู่ในเขตพื้นที่นอกคันกั้นน้ำ

กทม.ได้ใช้พื้นที่โรงเรียนวัดฉัตรแก้วจงกลมี แขวงบางอ้อ เขตบางพลัด เปิดเป็นสถานที่อพยพประชาชนชั่วคราว หากเกิดวิกฤตน้ำท่วมหนัก โดยเฉพาะประชาชนที่อาศัยอยู่ริมฝั่งเจ้าพระยาและประชาชนกลุ่มเสี่ยงที่อยู่นอกคันแนวกั้นน้ำ เพื่อให้ประชาชนได้มีที่พักอาศัยและปลอดภัยจากการถูกภัยพิบัติน้ำท่วม ซึ่งก็พบว่าปัญหาน้ำท่วมขณะนี้ ส่งผลกระทบต่อประชาชนที่อยู่นอกคันแนวกั้นน้ำริมฝั่งเจ้าพระยาแล้ว ซึ่งมีจำนวนกว่า 27 ชุมชน 1,200 ครัวเรือน 13 เขตพื้นที่ ที่จะได้รับผลกระทบอย่างหนัก เนื่องจากไม่สามารถรื้อย้ายหรือเคลื่อนย้ายที่อยู่อาศัยได้เลย ส่งผลให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อนและก็ได้รับการยืนยันจากประชาชนว่า ปีนี้วิกฤตที่สุด โดยเฉพาะคุณป้าบุญมี พึ่งอัมฤทธิ์ วัย 76 ปี ที่บอกว่าน้ำจะขึ้นสูงเป็นบางเวลาและช่วงเช้าน้ำจะลง แต่ปีนี้น้ำมาแรงมากและมีระดับสูงกลางคืนก็นอนไม่หลับ มีความวิตกกังวลแต่ก็ไม่รู้จะไปอยู่ที่ไหน ซึ่งหากไม่ไหวจริงๆ ก็ต้องอพยพไปอยู่ที่วัดซึ่งเป็นที่สูง

 

เร่งป้องน้ำท่วมนิคมไฮเทค-บางปะอิน

09 ตุลาคม 2554 เวลา 15:14 น.

<!-- end articleDetailPanel --><SCRIPT type=text/javascript src="http://platform.twitter.com/widgets.js"></SCRIPT>
<!-- end tweetmeme_button -->กนอ.เร่งป้องกันพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมไฮเทค-บางปะอินไม่ให้ถูกน้ำท่วม เสริมคันกั้นน้ำ 2.5 เมตร


นางมณฑา ประณุทนรพาล ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้ผู้บริหารกนอ.ทุกคน เกาะติดพื้นที่เพื่อพร้อมให้การช่วยเหลือ ผู้บริหารนิคมอุตสาหกรรมทุกแห่งในจ.พระนครศรีอยุธยา ตลอด24 ชั่วโมง โดยล่าสุดได้มีการเสริมคันน้ำให้เพิ่มขึ้นเป็น 2.50 เมตร ล้อมรอบพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมไฮเทค และนิคมอุตสาหกรรมบางปะอิน ที่ยังไม่ถูกน้ำท่วม โดยขณะนี้ยังมั่นใจว่าจะสามารถป้องกันไม่ให้น้ำเข้าไปท่วมใน 2 นิคมฯดังกล่าวได้

อย่างไรก็ตามต้องยอมรับว่า กรณีน้ำจะท่วม 2 นิคมฯหรือไม่ คงไม่มีใครสามารถตอบได้ แม้ว่ากนอ.และผู้บริหารนิคมฯจะพยายามป้องกันอย่างเต็มที่แล้ว เนื่องจากต้องดูกระแสน้ำสายหลักว่าจะไหลมาจากทางใด โดยขณะนี้ ต้องดูกระแสน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยาเป็นหลักในการวางแผนป้องกันน้ำท่วม แต่ในสถานการณ์จริงอาจจะมีกระแสน้ำจากแม่น้ำสายรองอื่นๆ หรือปริมาณน้ำฝนที่ตกมาอย่างรุนแรง ก็อาจทำให้ระดับน้ำในพื้นที่จริงเพิ่มขึ้นได้เช่นกัน
ทั้งนี้ กนอ.ได้ส่งเจ้าหน้าที่ไปช่วยวางแผนป้องกันน้ำท่วมที่นิคมฯลาดกระบัง เพราะเกรงว่าอาจจะเกิดปัญหาน้ำท่วม

นางมณฑา กล่าวว่า กนอ.คงไม่สามารถไปส่ังการให้ผู้บริหารนิคมฯบางปะอินและนิคมฯไฮเทค หยุดดำเนินกิจการได้หากน้ำยังไม่ท่วม เพราะเป็นสิทธิของนักลงทุน แต่ก็ได้ขอความร่วมมือนักลงทุน ในเรื่องของการเตรียมความพร้อมย้ายเครื่องจักร วัตถุดิบ สินค้าที่ผลิตเสร็จแล้ว และการเตรียมตัวอพยพคนงาน หากเกิดน้ำท่วมขึ้นมา
เกาะทุกประเด็นร้อนกับ โพสต์ทูเดย์ดอทคอม คลิก!

 

ผู้ว่าฯ ตากคาดอีก 1 สัปดาห์น้ำลดสู่ภาวะปกติ

ตาก 9 ต.ค.- นายสามารถ ลอยฟ้า ผู้ว่าราชการจังหวัดตาก เปิดเผยว่า พื้นที่ 4 อำเภอ คือ อ.เมือง สามเงา บ้านตาก และวังเจ้า ที่ถูกน้ำท่วมมาตั้งแต่ต้นเดือน ต.ค. ล่าสุด (9 ต.ค.) มีแนวโน้มที่ดีว่าอีก 1 สัปดาห์ น่าจะคืนสู่ภาวะปกติ เนื่องจากน้ำไหลเข้าอ่างเก็บน้ำของเขื่อนภูมิพลและน้ำลุ่มแม่น้ำวังมีปริมาณลดลง โดยอ่างเก็บน้ำเขื่อนภูมิพลมีน้ำไหลเข้าเพียง 117.71 ล้าน ลบ.ม. และลุ่มแม่น้ำวัง วัดที่สถานีวัดน้ำ (W.4A) โครงการชลประทานตาก ที่บ้านวังหมัน อ.สามเงา มีน้ำไหลผ่านเพียง 447 ลบ.ม./วินาที ถือว่าพื้นที่ จ.ตาก และลุ่มน้ำเจ้าพระยาจะเริ่มคลายวิกฤติแล้ว สำหรับผลกระทบจากการระบายน้ำของเขื่อนภูมิพลและน้ำในลุ่มแม่น้ำวังที่ไหลสมทบกับลุ่มแม่น้ำปิง ทำให้พื้นที่ 4 อำเภอ จ.ตากได้รับความเสียหายนั้น มีบ้านเรือนถูกน้ำท่วม 1,500 หลังคาเรือน พืชผลการเกษตร 40,000 ไร่ ซึ่งกำชับให้แต่ละอำเภอเร่งสำรวจพื้นที่ เพื่อให้การเยียวยาและชดเชยความเสียตามระเบียบของราชการ.-สำนักข่าวไทย

 

จากคุณ BlueDragon หัวหน้าแก๊งเสียว http://www.thaiseoboard.com/index.php?topic=230224.msg3161173;topicseen


เมื่อวานตั้งใจไปช่วยน้ำท่วมอยุธยา ... แต่เข้าพื้นที่ไม่ได้

เมื่อวานทางออฟิคร่วมไปช่วยน้ำท่วมกับน้องๆ นักศึกษา ม. ราม รถกระบะ 3 คัน และ 6 ล้อเหมาอีก 1 คัน ขนน้ำขวด มาม่า ปลากระป๋อง กะจะไปช่วยน้ำท่วมที่บางปะหัน อยุธยา ออกจากกทม. ตอน 10 โมง ตอนแรกจะเข้าทางเส้น แยกถนน บางปะหัน - ประทุมธานี แต่เข้าไม่ได้เพราะน้ำท่วมถนน และมีการปิดถนน และถนนก่อนเข้าแยกบริเวณนี้ ฝั่งขาไป รถก็ติดยาวเยียดประมาณ 3 กิโลเลยทีเดียว เราเลยต้องมุ่งหน้าไปทางสุพรรณ แต่ก่อน พอเลยแยกช่วงที่รถติด ถนนอีกฝั่งด้านขากลับซึ่งเราวื่งสวนมา ก็มีรถติดแง็กประมาณ 6 กิโลท่าจะได้ แถมติดนักกว่าที่เราผ่านมาเสียอีก เพราะถนนฝั่งนั้นเริ่มมีน้ำล้นกระสอบทรายเป็นช่วง ๆ รถติดแบบไม่ขยับเลย (ติดชนิดที่ว่า รถติด กทม. เด็กๆ ไปเลย)

หลังจากผ่านแยกช่วงนั้นมา ก็เลยเที่ยงแล้ว เราแวะเข้าปั๊มแห่งหนึ่ง แต่กลายเป็นว่าที่ปั๊มไม่มีของกินขายเลย และมีชาวบ้านอพยบ ย้ายครอบครัวหนีน้ำมาพักอยู่บนพื้นที่ของปั๊ม เลยได้แต่ล้างหน้าลางตา กลับขึ้นรถ เริ่มๆ หิวกัน เลยแจกจ่ายข่าวกล่ิง กินข่้าวกันบนรถ ซึ่งคุณลุงรถ 6 ล้อ ที่เราไปเหมามา ช่วยสนับสนุน ซื้อข้าวกล่องมาให้ 50 กล่อง (คุณลงช่วยน้ำขวดอีกหลาย 10 แพ็คเหมือนกัน) ทั้งเืพ่อนๆ ที่ออฟฟิคประมาณ 10 คน และ น้องม. รามอีก 30 คน ก็กินข้าวกล่องรองท้องไปก่อน ก็เข้าสู่สุพรรณตีวงอ้อม เพื่อเข้าสู่ทางอ่างทอง ก่อนจะมาแวะที่ปั๊มอีกรอบ เพื่อเติมพลังกันตอนบ่าย 3 (นั่งรถกันนานยังไม่ถึงที่หมาย เพราะต้องตีรถอ้อม) ออกจากปั้มมุ่งหน้าตามถนนสายอ่างทอง เพื่อเข้าสู่บางปะหัน จังหวัดอยุธยา แต่พอวิงไปซักพักปลากฏว่า น้ำท่วมถนน

เลยทำให้มีรถที่เป็นกระบะยกสูงเท่านั้นที่ฝ่าไปได้ 3 คัน มุ่งสู่บางปะหัน ซึ่งผู้ใหญ่บ้านนำเรือมารถรับของบริจาคช่วยน้ำท่วม ส่วนรถ 6 ล้อ เข้าไม่ได้เพราะติดแก๊ซ อยู่ใต้ท้องรถ กลัวว่าถ้าเข้าไปแล้วเครื่องจะน๊อค ของในรถ 6 ล้อ เลยหยุดอยู่ช่วงแถวอ่างทอง ห่างจากบางปะหันอีกราว 5-6 กิโล ซึ่งแถวๆ นี้ก็มีชาวบ้านน้ำท่วม มิดถนน เลยได้แบ่งของในรถ 6 ล้อ ออกเป็น 2 ส่วน ส่วนหนึ่งแจกจ่ายชาวบ้านที่อพยพมาพักอยู่บนถนน เพราะน้ำข้างๆ ถนนท่วมบ้านมิดถึงจั่วบ้าน และใส่เรือของชาวบ้าน ช่วยกันพายเข้าไปแจกจ่ายบ้านบริเวณด้านในซึ่งน้ำท่วมถึง 3 เมตร ส่วนอีกส่วนหนึ่งช่วยกันหิ้วลุยน้ำประมาณขา เข้าไปที่ยังวัดซึางเป็นศูณย์อพยพอีกด้านหนึ่ง

กว่าจะออกจากนี้ก็ 6 โมงเย็นกว่าๆ ขากลับแวะปั๊ม หาของกินใส่ท้อง ก่อนขับกลับกรุงเทพ ตีอ้อม มาทางปิ่นเกล้า ซึ่งแยกช่วงนั้นก็รถติดมาๆ เพราะบริเวณถนนฝั่งซ้ายน้ำท่วม ล้นแนวกระสอบทราย (แถวๆ ไทวัสดุ) กว่าจะกลับถึงรามคำแหง หัวหมากได้ ก็ปาไป 5 ทุ่มครึ่ง (นั่งบนรถตลอดเส้นทาง 9 ชั่วโมงเต็ม ลงไปแจกของประมาณ 2 ชั่วโมง แวะปั้ม 2 ครั้ง 1 ชั่วโมง .... มาราธอนเลย)

มาเล่าให้ฟังค่ะ ส่วนรูปเดียวพรุ่งนี้จะมาอัำพให้ดู


ขออนุโมทนาบุญค่ะ ...

 

อ่างทองปรับแผนอพยพเข้าศาลาเฉลิมพระเกียรติ

9 ตค. 2554 15:40 น.

นายวิศว ศะศิสมิต ผวจ.อ่างทอง กล่าวว่า ขณะนี้จังหวัดอ่างทอง ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยทุกอำเภอ ท่วมบ้านเรือนประชาชนต้องออพยพอยู่ในเต็นท์ริมถนนสายต่างๆ จำนวนมาก อาจเป็นอันตรายจาก รถยนต์ รถจักรยานยนต์ วิ่งผ่านและหลายแห่งไม่มีไฟฟ้าแสงสว่าง และมียุงแมลงกัด บางแห่งวัดที่ใกล้เคียงได้นำต้นเทียนพรรษาของวัดที่ยังไม่ได้ใช้ไปมอบให้จุดเป็นแสงสว่าง ขณะนี้ถนนที่อพยพไปอยู่จำนวนมากระดับน้ำสูงท่วมถึงอีกไม่สามารถอยู่ได้ต้องอพยพไปที่สูงแห่งใหม่ อาทิ บนศาลการเปรียญของวัดแทบทุกแห่งที่น้ำท่วมไม่ถึง
เมื่อปี 2550 หลังจากที่อ่างทองประสพอุทกภัยในปี 2549 สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิต์ พระบรมราชินีนาถทรงหวงใยประชาชนจึงได้สร้างศาลาเฉลิมพระเกียรติในสมเด็จพระบรมราชินูปถัมภ์ ขึ้น เป็นอาคารถาวรขนาดใหญ่ ไต้ถุนสูง มี ห้องน้ำ ไฟฟ้า สำหรับเป็นที่พักอาศัยเพื่อช่วยประชาชนที่ประสบสาธารณภัยรองรับรองรับผู้ประสบสาธารณภัยได้จำนวน 1,000 คนเศษ และมีบริเวณพื้นรอบอาคารกว้าง ตั้งอยู่ที่หมู่ 8 ต.โพสะ อ.เมืองอ่างทอง ขณะนี้มีประชาชนที่ประสพอุทกภัยได้พยบเข้าไปอยู่อาศัยแล้วจำนวนหนึ่ง แต่ยังสามารถรองรับได้อีกเกือบพันคน จึงแจ้งให้ผู้ประสพอุทกภัยโดยทั่วไปที่มีความประสงค์สามารถอพยบเข้าไปอยู่ในศาลาเฉลิมพระเกียรติ์ฯแห่งนี้ได้ ซึ่งจะได้รับความสะดวกและปลอดภัย จนกว่าน้ำจะแห้งย้ายไปอยู่ที่บ้านเรือนของตนได้

 

วันนี้...ช่วงบ่ายๆ...ลองขับรถไปดูแถวอยุธยา...ครับ

- จส.100...รายงานว่ารถติดมากช่วงแยกอุธยา...และทางขาด...ไปเหนือ...ให้ใช้เส้นสุพรรณบุรี....ไปอีสาน...ให้ใช้เส้นทาง...สระบุรี

ผู้คนหลั่งไหลมาช่วยผู้ประสบภัย...ก็มาติดกันที่แยกอยุธยา (ช่วงห้างโลตัส)...ไม่สามารถเข้าไปได้...ครับ

- คลองรังสิต...น้ำเต็มตลิ่ง...พร้อมที่จะล้นออกมาได้ทุกเมื่อ

- ที่ดอนเมือง...คนมาจอดรถกันจนเต็ม...ทั้งที่จอดรถและถนนโดยรอบ

- สะพานพระราม 5 น้ำลดลงจากวันก่อน...แต่หากมวลน้ำลงมาอีก...ก็น่าจะขึ้นจนถึงขอบผนังกั้นน้ำได้เช่นกัน

ชาว กทม. อย่าประมาท...นะครับ


. <fieldset class="fieldset"><legend>รูปขนาดเล็ก</legend>











</fieldset>

 

ศูนย์พักพิงชั่วคราวมธ.รังสิต พร้อมรับผู้อพยพรอบแรก1 พันราย

วันอาทิตย์ที่ 09 ตุลาคม 2011 เวลา 16:15 น. สุวิภา บุษยบัณฑูร ข่าวราย

( 9 ต.ค. ) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ประกาศผ่านทางสื่อว่าจะเปิดศูนย์พักพิงชั่วคราว ที่อาคารยิมเนเนเซี่ยม 2 โดยเตรียมจะเปิดในวันพรุ่งนี้ ( 10 ต.ค. ) แต่ขณะนี้เริ่มมีประชาชนที่ประสบอุทกภัยและทราบข่าวเดินทางมาขอเข้าอาศัยอยู่ที่ศูนย์พักพิงแห่งนี้บ้างแล้ว ประมาณ 15-16 คน

รศ.ดร.กำพล รุจิวิชชญ์ รองอธิการบดีฝ่ายบริหาร มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต กล่าวว่า เมื่อมีประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนเดินทางมาในวันนี้ ทางศูนย์ ฯก็ต้องพร้อมรับและจัดเตรียมสถานที่ให้พักอาศัยชั่วคราว นอกจากนี้ทางศูนย์ ฯยังได้รับการติดต่อมาว่าจะมีการอพยพประชาชนกว่า 3,000 กว่าคน แต่ผู้อพยพเหล่านี้ยังติดปัญหาคือไม่สามารถออกจากจุดน้ำท่วมได้ โดยเฉพาะเป็นผู้ประสบอุทกภัยจากจังหวัดอยุธยาที่จะเข้ามาพักตั้งแต่คืนนี้ประมาณ 300 คน และยังได้รับการติดต่อจากส่วนทหารที่ประสานว่าจะนำผู้ป่วยเบา (อาการไม่รุนแรง)มาพักอีกประมาณ 200 ราย

อย่างไรก็ดี ทางศูนย์คาดว่าจะสามารถรองรับรอบแรกได้เพียง 1,000 คนก่อน เพื่อดูเรื่องความพร้อมและการบริหารจัดการให้เรียบร้อย จากนั้นจึงจะรับเพิ่มขึ้นอีกทั้งนี้ในส่วนสถานที่นั้น ยังมีความพร้อมทั้งเรื่องที่นอน ห้องน้ำ หน่วยแพทย์พยาบาล แต่เรื่องอาหารนั้นน่าจะเป็นเรื่องใหญ่ และจนถึงขณะนี้ก็ยังไม่มีส่วนราชการใดๆ ติดต่อเข้ามาหรือแสดงความประสงค์ในการช่วยเหลือเรื่องอาหารการกินแต่อย่างใด อย่างไรก็ตามทางศูนย์ฯจะพยายามช่วยอย่างเต็มที่ โดยจะมีการตั้งโรงครัวประกอบอาหารดูแลประชาชนที่เดือดร้อน ล่าสุดทางวัดธรรมกายจะส่งอาหารข้าวกล่องมาให้ในวันพรุ่งนี้รอบเช้าประมาณ 1,000 กล่อง



กรุงเทพฯเตรียมรับน้ำท่วม สั่งเขตฝั่งตะวันออกเปิด 80 ศูนย์อพยพ

วันนี้(9 ต.ค.) นายพีระพงษ์ สายเชื้อ รองปลัดกรุงเทพมหานคร(กทม.) กล่าวภายหลังการประชุมร่วมกับผู้อำนวยการเขตที่อยู่ฝั่งตะวันออกทั้ง 9 เขต ว่า เป็นการหารือเตรียมศูนย์พักพิง ซึ่งได้เตรียมไว้ทั้งหมด 80 ศูนย์ จากทั้งหมด 9 เขต ที่จะสามารถรองรับประชาชนได้ 8,000 - 10,000 คน ส่วนของ กทม.ได้เตรียมแผนไว้รับมือน้ำท่วมไว้ทุกปีอยู่แล้ว แต่ปีนี้ปริมาณน้ำมากทำให้ 4 เขต จาก 9 เขต อาจจะได้รับผลกระทบมาก คือ เขตหนองจอก เขตคลองสามวา เขตลาดกระบัง และเขตมีนบุรี อย่างไรก็ตามต้องรอการประเมินต่อเนื่องจนถึงในช่วงปลายเดือน ต.ค.นี้ ที่จะเป็นช่วงที่มีปริมาณน้ำฝนมาก ประกอบกับมีน้ำทะเลหนุนสูงด้วย

นเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ประตูน้ำคลองแสนแสบช่วง ถ.ประชาร่วมใจ เขตมีนบุรี ซึ่งเป็นประตูระบายน้ำหลัก ที่รับน้ำจากเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ และ จ.ปทุมธานี ในขณะนี้ยังมีการเร่งระบายน้ำออกอย่างต่อเนื่อง ขณะที่น้ำภายในคลองมีปริมาณสูงขึ้น มีสาเหตุจากฝนตกหนักต่อเนื่องมาหลายวัน ด้านความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชนเลียบคลองต่างพากันขนข้าวของหนีน้ำกันบ้างแล้ว พร้อมสร้างแนวคันกั้นน้ำโดยรอบเพื่อป้องกันน้ำเข้าท่วมที่พักอาศัย หลังจากที่กรมอุตุนิยมวิทยาได้แจ้งเตือนว่าจะมีปริมาณน้ำฝนมากขึ้นในช่วงวันที่ 20 - 24 ต.ค.นี้

ด้านนายภิญโญ ปิ่นแก้ว ผู้อำนวยการเขตหนองจอก กล่าวว่า ขณะนี้มีปริมาณน้ำมากขึ้นทำให้น้ำเอ่อเข้าท่วมชุมชนที่อยู่เลียบคลอง 9 , 10 , 12 และบริเวณ ถ.ประชาสำราญ สูง 10 - 30 เซนติเมตร แต่ประชาชนยังใช้ถนนสัญจรไปมาได้ ส่วนแผนการอพยพประชาชนนั้นทางเขตหนองจอกได้เตรียมโรงเรียนทั้งหมด 37 แห่งเอาไว้แล้ว เพื่อใช้เป็นที่พักอาศัยชั่วคราว หากเกิดสภาวะน้ำท่วมสูงและไม่สามารถจะอาศัยอยู่ที่บ้านได้

 

สิงห์บุรีพร้อมเตือนภัย หากน้ำหนุนสูง



นายกเล็กเมืองสิงห์บุรี รับมือน้ำเขื่อนภูมิพล สั่งเฝ้าระวังแนวกั้นน้ำแม่น้ำเจ้าพระยา-พนังกั้นน้ำ ใต้สะพานข้ามแม่น้ำตลอด 24 ชม.หวังป้องกันย่านเศรษฐกิจ พร้อมทั้งแจ้งเตือนประชาชนเปิดไซเรนหากมีเหตุฉุกเฉิน เพื่อให้อพยพหนีขึ้นที่สูง…
วันที่ 9 ต.ค.สถานการณ์น้ำท่วมในเขตเทศบาลเมืองสิงห์บุรี อ.เมือง สิงห์บุรี นายไสวรินทร์ ศรีชำนิ นายกเทศบาลเมืองสิงห์บุรีกล่าวว่า เนื่องจากปริมาณน้ำไหลลงพื้นที่ภาคกลางเป็นปริมาณมาก รวมถึงมีการระบายน้ำจากเขื่อนภูมิพล จะทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยามีระดับสูงขึ้น เพื่อเป็นการไม่ประมาท จึงต้องมีการเฝ้าระวังเขื่อนกั้นน้ำแม่น้ำเจ้าพระยา -พนังกั้นน้ำใต้สะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาตลอด 24 ชม-เสริมคันกระสอบทราย และซ่อมแซมส่วนที่ชำรุดให้แข็งแรง ป้องกันน้ำไหลเข้าย่านเศรษฐกิจ ตลาดเทศบาลเมืองสิงห์บุรี
นายกเทศบาลเมืองสิงห์บุรี กล่าวต่อ ว่า อย่างไรก็ตาม หากมีเหตุฉุกเฉิน ทางเทศบาลจะเปิดไซเรนเตือนภัย และประกาศเสียงตามสายของเทศบาลเมืองสิงห์บุรี พร้อมทั้งแจ้งเตือนประชาชนให้ได้รับรู้ถึงสถานการณ์น้ำที่จะปล่อยมาจากเขื่อนภูมิพลเป็นระยะๆ คาดว่าปริมาณน้ำจะเพิ่มขึ้น หากพื้นที่ที่น้ำท่วมขังอยู่แล้ว ก็ให้ย้ายสิ่งของมีค่าขึ้นที่สูงปลอดภัยจากน้ำท่วม และขอให้เฝ้าระวังติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิดตลอดเวลา
ทางด้านน้ำเน่าส่งกลิ่นเน่าเหม็น น้ำได้ท่วมขังบริเวณในเขตเทศบาลเมืองสิงห์บุรีฝั่งตะวันออก มี 5 ชุมชน ได้แก่ ชุมชนวัดตึกราชา ชุมชนวัดสังฆราชวาส ชุมชนวัดเสฐียรวัฒนาดิษฐ์ ชุมชนวัดหัวว่าว และชุมชนวัดโพธิ์ข้าวผอก รวมทั้งหมด มากกว่า 2,000 ครัวเรือน น้ำท่วมขังเป็นเวลานานกว่า 1 เดือน น้ำได้ส่งกลิ่นเน่าเหม็น ได้ประสานไปยังกรมควบคุมมลพิษ และสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดสิงห์บุรี ขอจุลินทรีย์ ( EM ) และ DASTA BALL ออกฉีดพ่นใส่น้ำเน่าเสียที่ส่งกลิ่นเหม็น เป็นการเร่งแก้ปัญหาน้ำเน่าเสียที่ส่งกลิ่นเหม็นให้กับประชาชนที่เดือดร้อนแล้ว
- ข่าวไทยรัฐออนไลน์

 

จากคุณ Lovelyleng

บ้านเราเก็บของเสดแล้ว ยกตู้เย็น ตู้วางโทรทัศน์ อาร์มแชร์ขึ้นชั้นสอง ยกโซฟาขึ้นโต๊ะกินข้าว ยกตู้ที่วางติดพื้นขึ้นบนเก้าอี้ย้ายตู้วางรองเท้าเข้ามาไว้ในบ้าน (รองด้วยเก้าอี้เตี้ยๆ) เห็นรอยน้ำของเมื่อคืนเข้ามาที่โรงรถประมาณ 5 เซ็น (ไม่ได้ต่อเติม)

เราวางกระสอบทรายที่หน้าประตูเข้าบ้าน หน้าห้องน้ำและหน้าประตูหลังบ้าน หากว่าเข้ามามากกว่านี้คิดซะว่าเป็นกรรม จิงๆแล้วพ่อจะไม่ให้วางด้วยซ้ำ (ทะเลาะกันบ้านแตก)แต่นี่วางเพื่อความอุ่นใจ และอุดทุกรูที่น้ำจากท่อจะขึ้นมาได้ ที่เค้าไม่ให้วางเพราะเห็นว่าน้ำจะท่วมมาจากท่อ หากว่าเราไม่ได้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำ กั้นกระสอบทรายไปยอะๆก็ไม่ได้ช่วยอะไร (ซึ่งก็จริง)

เราไปซื้อกระสอบทรายที่ร้านขายวัสดุก่อสร้างที่ถ.ราชพฤกษ์ ราคาถุงละ 50 บาท มีคนมารอคิวซื้อเยอะมาก แต่ทรายไม่มี เห็นหมู่บ้านอื่นที่ยังไม่ท่วมมารอซื้ออิฐบล็อกมากมาย หากใครขับรถออกไปน่าจะสงเกตเห็นร้านได้ชัด เพราะว่ามีรถจอดเต็มหนาร้าน

ซ.2 เห็นว่ายังแห้งอยู่ แต่มีหลายบ้านที่เริ่มวางกระสอบทรายแล้ว ใครที่ยังลังเลอยู่รีบไปหาซื้อเถอะค่ะ เพื่อความอุ่นใจ

ตอนนี้เรากลับเข้ามาที่สาทรแล้ว ฝนตกลงมาโฮกใหญ่มากและหยุดเร็วมาก คาดว่าคืนนี้นาจะตกต่อเพราะว่าท้องฟ้าครึ้มมาก ฝากเพื่อนๆซ.4 ช่วยอัพเดทต่อด้วยนะคะ

ขอเพิ่มอีกนิด เราเข้าไปที่อบต.ท่าอิฐเพื่อจะเข้าไปเอากระสอบทรายแต่หมดค่ะ เจ้าหน้าที่บอกไม่ได้ว่าจะมาเมื่อไหร่ ทางเข้าไปน้ำท่วมประมาณตาตุ่มหรือสูงกว่าตาตุ่มนิดหน่อย แต่บ้านสองข้างทางท่วมแล้ว เนื่องจากบ้านอยู่ต่ำกว่าถนน

http://prakard.com/default.aspx?g=posts&m=3025777

 

จีน-เวียดนามอ่วม ฝนตกหนักต่อเนื่อง

ตุลาคม 9, 2011 by satartpandaz


คณะกรรมป้องกันและควบคุมน้ำท่วมและพายุแห่งชาติเวียดนามรายงานว่า น้ำที่ท่วมบริเวณพื้นที่สามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขงในเวียดนาม ทำให้มีผู้เสียชีวิตรวม 18 ราย ในจำนวนนี้เป็นเด็กถึง 15 ราย บ้านเรือนกว่า 5 หมื่นหลังจมอยู่ใต้น้ำ และไร่นากว่า 6 หมื่นไร่ได้รับความเสียหาย ศูนย์อุตุนิยมวิทยาและอุทกศาสตร์แห่งชาติเวียดนาม คาดการณ์ว่า ฝนที่ตกอย่างต่อเนื่อง รวมถึงช่วงน้ำขึ้น จะทำให้บริเวณที่ราบลุ่มต่ำบริเวณสามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขง มีระดับน้ำสูงอย่างต่อเนื่องไปจนถึงสิ้นเดือนนี้ และเตือนประชาชนที่อาศัยบริเวณนั้นให้เตรียมพร้อมรับมือน้ำท่วมส่วนทางการได้เร่งสร้างคันกั้นน้ำ และเร่งอพยพคนที่อยู่ในจุดเสี่ยงที่จะเกิดดินถล่มแล้ว

ส่วนที่ประเทศจีน ที่เมืองไหโข่ว เมืองหลวงของมณฑลไหหลำ ทางภาคใต้ของประเทศมีการอพยพคนกว่า 17,000 คน เนื่องจากฝนที่ตกหนักเมื่อวานนี้ ทำให้เสี่ยงที่น้ำจะเข้าท่วมบ้านเรือน ขณะนี้ถนนหลายสายจมอยู่ใต้น้ำแล้ว และทางการคาดว่า จะมีฝนตกหนักต่อเนื่องในช่วง 2 วันข้างหน้า

http://www.isnhotnews.com/tag/เวียดนามน้ำท่วม/