WarRoom - อาสาสมัครเตรียมการเฝ้าระวังประสานงานเตรียมพร้อมเพื่อรองรับสถานการณ์ปี 2013

น้ำป่าเทือกเขาบรรทัดทะลักกลางดึกเอ่อท่วม 3 หมู่บ้านควนกาหลงเมืองสตูล เสียหายกว่า 50 หลัง
นายทวี แก้วโชติ ผญบ.ม.11 บ้านส้านแดง ต.ควนกาหลง อ.ควนกาหลง จ.สตูล กล่าวว่า ฝนตกหนักต่อเนื่องติดต่อกันหลายชั่วโมงส่งผลทำให้เกิดน้ำป่าจากเทือกเขาบรรทัดทะลักเข้าท่วมพื้นที่ม.6 บ้านเขาใคร ม.8 บ้านเหนือคลอง ม.11 บ้านส้านแดง ต.ควนกาหลง อ.ควนกาหลง รวมทั้ง ม.1 ผัง 1 ต.อุใดเจริญ อ.มะนัง และน้ำได้เข้าท่วมในพื้นที่ ม.5 อุใดใต้ ต.อุใดเจริญ อ.มะนัง จ.สตูล โดยเบื้องต้นบ้านเสียหายรวม 70 หลังคาเรือนและรีสอร์ทอีก 1 แห่ง

ด้านนายฮอเฉ็ม บัวเชย อายุ 59 ปี บ้านเลขที่ 104 ม.8 บ้านเหนือคลอง กล่าวว่า เมื่อเวลาประมาณ 20.00 น.วันที่ 12 ม.ค.ที่ผ่านมา ได้ยินเสียงน้ำที่ไหลมาจากเทือกเขาบรรทัด ผ่าน ม.11 ลงมาที่บ้านพักของตนที่อาศัยอยู่ เร็วมากทำให้น้ำท่วมฉับพลัน และไม่สามารถขนของหนีน้ำได้ ความสูงของน้ำที่เฉี่ยวแรงประมาณ 1 เมตร นอกจากนั้นสภาพทั่วไปที่ได้รับความเสียหายในพื้นที่ดังกล่าว เช่นเครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องซักผ้า ตู้เย็น รถจยย.ที่เคลื่อนย้ายไม่ทัน สัตว์เลี้ยงและบ่อปลาที่เลี้ยงไว้

 

h พล.ท.อุดมเดช สีตบุตร แม่ทัพภาคที่ 1 เกี่ยวกับกรณีที่สถานทูตสหรัฐออ<WBR></WBR>กเตือน ฟังสดได้ที่ http://www2.mcot.net/radio/<WBR></WBR>1005.html หรือฟังรายการย้อนหลังได้ที่ คลื่นข่าว FM 100.5 News Networkttp://www2.mcot.net/fm1005/view.cfm?id=317899&type=1112

 

ข่าวด่วน! สถานทูตสหรัฐฯ ประจำประเทศไทย เตือนเหตุก่อการร้ายใน “กรุงเทพฯ”

Around the World - Manager Online -

 

ข่าวด่วน! สถานทูตสหรัฐฯ ประจำประเทศไทย เตือนเหตุก่อการร้ายใน “กรุงเทพฯ”

Around the World - Manager Online -

 

เตือนชาวนราธิวาสเฝ้าระวังระดับน้ำล้นตลิ่ง


ผู้สื่อข่าวรายงานว่าหลังฝนนตกหนักต่อเนื่องในพื้นที่ต้นน้ำของแม่น้ำบางนรา ในวันที่ 9-13 มกราคม 2555 ทำปริมาณน้ำในคลองตันหยงมัสเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทางโครงการชลประทานนราธิวาส ได้แจ้งเตือนประชาชนที่อาศัยอยู่ริมคลองตันหยงมัส บริเวณบ้านตันหยงมัส บ้านไทย บ้านแกแม ต.ตันหยงมัส อ.ระแงะ , บ้านมะนังกาหยี ต.มะนังตายอ , ต.ลำภู ต.บางปอ อ.เมือง และบ้านทุ่งคา บ้านโต๊ะแม บ้านปูตะ ต.ละหาร อำเภอยี่งอ ให้เฝ้าระวังเตรียมรับสถานการณ์ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และอาจล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือน จึงขอให้ประชาชนได้ติดตามการรายงานสภาวะอากาศและระดับน้ำอย่างใกล้ชิด
ขณะนี้หย่อมความกดอากาศต่ำที่ปกคลุมทะเลจีนใต้ตอนล่างทางด้านตะวันออก ของประเทศมาเลเซียตอนล่างกำลังเคลื่อนตัวทางตะวันตก ลักษณะดังกล่าวทำให้บริเวณภาคใต้ตั้งแต่ จังหวัดนครศรีธรรมราช ตรัง พัทลุง สตูล สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส มีฝนตกหนักในหลายพื้นที่ จึงขอแจ้งเตือนประชาชนให้ระมัดระวังอันตรายจากฝนตกหนักติดต่อกัน ในระหว่างวันที่ 13 มกราคม -15 มกราคม 2555
สำหรับคลื่นลมในอ่าวไทยมีกำลังแรง มีคลื่นสูง 2-4 เมตร ขอให้ประชาชนที่อาศัยตามแนวชายฝั่งทะเลของภาคใต้ฝั่งตะวันออกระวังอันตรายจากคลื่นซัดเข้าหาฝั่ง ชาวเรือชาวประมงเดินเรือด้วยความระมัดระวัง เรือเล็กงดออกจากฝั่ง และมีรายงานจากโครงการชลประทานนราธิวาส แจ้งว่าสถานการณ์ในแม่น้ำสายหลัก ประกอบด้วย แม่น้ำสุไหงโกลก และแม่น้ำสายบุรี ขณะนี้อยู่ในสถานะเตือนภัยและเฝ้าระวัง คลองยะกังอยู่ในสถานะวิกฤต ขอให้ประชาชนที่อยู่ริมฝั่งได้ระมัดระวังน้ำล้นตลิ่ง และในส่วนของแม่น้ำบางนรายังอยู่ในสถานะปกติ ซึ่งทางโครงการชลประทานนราธิวาส จะรายงานเพิ่มเติมเป็นระยะ

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top width=160 align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=4 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle>หมีขั้วโลกตัวใหญ่กว่าฆ่าลูกหมีเป็นอาหารหลังจากไม่มีลานน้ำแข็งให้ล่าแมวน้ำได้ตามปกติ เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ (เจนนี รอสส์/บีบีซีนิวส์)</TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle>หมีขั้วโลก (บีบีซีนิวส์)</TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD height=1 vAlign=center width=165 align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD background=/images/linedot_vert3.gif width=4></TD><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=7 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>กลายเป็นภาพสุดอึ้งเมื่อ “หมีขั้วโลก” ที่ปกติจะล่าแมวน้ำหันมาล่ากันเอง ซึ่งเหตุการณ์เช่นนี้จะเกิดขึ้นเมื่อหาเหยื่อปกติได้ยากขึ้น และเริ่มพบเหตุการณ์เช่นนี้มากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะกรณีที่หมีติดอยู่ชายฝั่งและขาดอาหารเป็นเวลายาวนานขึ้น เนื่องจากการละลายของธารน้ำแข็งที่เป็นผลจากการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ

ภาพหมีขั้วโลกตัวเต็มวัยกำลังลากลูกหมีที่เพิ่งฆ่าไปบนแผ่นน้ำแข็งของทะเลอาร์กติก (Arctic sea) เป็นภาพที่บันทึกได้โดย เจนนี รอสส์ (Jenny Ross) ช่างภาพสิ่งแวดล้อมของหนังสือพิมพ์ ซึ่งบีบีซีนิวส์ระบุว่า ปกติหมีขาวจะล่าแมวน้ำ แต่ในกรณีที่ไม่สามารถหาเหยื่อดังกล่าวได้สัตว์โลกชนิดนี้จะเริ่มหันไปหาแหล่งอาหารอื่นๆ ซึ่งรวมถึงพวกเดียวกันเอง

“นักล่าที่กินพวกเดียวกันเองนี้มักจะพบให้เห็นได้ในบางปริเวณ อย่างไรก็ดี มีการพบเหตุการณ์ลักษณะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะในพื้นที่หมีขั้วโลกติดอยู่ในชายฝั่งและขาดอาหารเป็นเวลานานเนื่องจากน้ำแข็งในทะเลละลายอันเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ” รอสส์บอกทางบีบีซีนิวส์ โดยเธอได้เผยเรื่องราวเบื้องหลังภาพดังกล่าวภายในการประชุมวิชาการของสหพันธ์ธรณีฟิสิกส์อเมริกัน (American Geophysical Union: AGU) ซึ่งเป็นการประชุมที่รวมนักวิทยาศาสตร์ด้านโลกวิทยา (Earth science) มากที่สุด

ภาพถ่ายดังกล่าวเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อเดือน ก.ค.2010 ซึ่งได้รายงานลงวารสารวิชาการอาร์กติก (Arctic) ซึ่งเป็นการศึกษาที่มี ดร.เอียน สไตร์ลิง (Dr.Ian Stirling) นักชีววิทยาหมีขั้วโลกจากองค์กรสิ่งแวดล้อมแคนาดา (Environment Canada) เข้าร่วมด้วย โดยเหตุสังหารเกิดขึ้นที่ธารน้ำแข็งออลกาสเตรเตต (Olgastretet) ในหมู่เกาะสวาลบาร์ด (Svalbard archipelago)

ทั้งนี้ รอสส์สังเกตเห็นหมีขาวจากบนเรือสังเกตการณ์ผ่านเลนส์บันทึกภาพระยะไกล ซึ่งตอนแรกเธอเห็นเพียงหมีตัวผู้โตเต็มวัยกำลังคาบอาหารชิ้นโต แต่เมื่อเข้าไปใกล้ขึ้นเธอจึงได้เห็นว่าเป็นลูกหมี ซึ่งวิธีที่หมีเต็มวัยใช้สังหารลูกหมีนั้นก็เป็นวิธีเดียวกับที่หมีขั้วโลกใช้ฆ่าแมวน้ำ นั่นคือใช้คมเขี้ยวที่แหลมคมกัดไปบนหัวของเหยื่อ

“ทันทีที่หมีตัวโตเริ่มระวังว่าเรือกำลังเข้าไปใกล้ มันก็ยืนจ้อง แล้วคร่อมร่างหมีน้อยไว้เพื่อแสดงความเป็นเจ้าของเหยื่อและสื่อว่า 'มันคืออาหารของฉัน' จากนั้นมันก็ขากรรไกรพลิกร่างเหยื่อ มันใช้แค่ขากรรไกรและคอที่แข็งแรงลำเลียงเหยื่อจากแผ่นน้ำแข็งหนึ่งไปอีกแผ่นหนึ่ง และเมื่อได้ระยะที่มันคิดว่าไกลพอควรแล้ว มันก็หยุดและกินอาหารชิ้นโต” รอสส์เล่าย้อนเหตุการณ์ และบอกด้วยว่ามีหมีอีกตัวในบริเวณนั้น ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นแม่ของลูกหมีที่ถูกฆ่า

สำหรับธารน้ำแข็งออลกาสเตรเตตนั้นเป็นทางผ่านของน้ำที่แบ่ง 2 เกาะหลักของสวาลบาร์ด ซึ่งโดยปกติแล้วมันเป็นบริเวณที่มีน้ำแข็งปกคลุมตลอดทั้งปี แต่เนื่องจากน้ำแข็งที่ลดน้อยลงอย่างมากในช่วงเดือนฤดูร้อนที่ผ่านมาทำให้บริเวณที่เป็นน้ำแข็งกลายเป็นน้ำนานขึ้น และเมื่อไม่มีลานน้ำแข็งให้ล่าแมวน้ำเหมือนอย่างเคย รอสส์กล่าวว่าหมีขั้วโลกจำเป็นต้องหาอาหารอย่างอื่นแทน

“เมื่ออยู่บนบกพวกมันก็ค้นหาขยะและอาหารของมนุษย์ พวกมันยังเริ่มออกล่านกทะเลและไข่ อาหารทางเลือกเหล่านี้ไม่อาจทดแทนให้พวกมันได้ แต่พวกมันก็ยังคงหาอาหารเหล่านี้ต่อไป การออกล่าหมีตัวอื่นเป็นอีกวิธีที่จะได้อาหาร มันอาจจะเป็นวิธีง่ายๆ สำหรับหมีตัวผู้ขนาดใหญ่ มันเป็นเช่นนี้เพราะการละลายของน้ำแข็งในทะเล ซึ่งพฤติกรรมเช่นนี้อาจกลายเป็นเรื่องปกติก็ได้” รอสส์ให้ความเห็น

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

Jan 12, 2012

เกิดพายุทอร์นาโดพัดถล่ม North Carolina ซึ่งเกิดขึ้นได้ยากในฤดูหนาว ทำให้มีผู้บาดเจ็บอย่างน้อย 15 ราย บ้านเรือนพังนับ 60 หลัง


January 12, 2012 – NORTH CAROLINA – At least 15 people were injured and at least 60 buildings damaged when a possible tornado struck in western North Carolina, the National Weather Service said Thursday. The storms struck in Rutherford and Burke counties late Wednesday afternoon as a cold front moved through the western Carolinas, meteorologist Neil Dixon with the weather service office in Greer, S.C., said. Ten people were hurt in Ellenboro in Rutherford County, sheriff’s Sgt. Dwayne Wright said. Two of the injuries were serious, but Wright did not know the extent of the injuries. At least 10 buildings were damaged in a 3-square-mile residential area, but Wright said officials expected to get a better count on the damage during surveys Thursday. Some people initially were trapped in their homes. “Everybody’s out that we know of,” Wright said. “As far as we know, everybody has been accounted for.” A woman in Ellenboro told WCNC-TV that a neighbor’s roof ended up in her front yard. It felt like the whole house was shaking, and all at once you could hear stuff just breaking apart and tearing up. It was frightening,” said Mary Jane Hollifield. At least five people were hurt when the storm struck a few minutes later in the Icard area in eastern Burke County, Dixon said. “We know we have 16 homes destroyed and about 50 that have been damaged to various degrees,” Burke County Fire Marshal Mark Pitts said. There were also power outages, with around 100 customers still without electricity Thursday morning, according to Pitts. This is the first time he can remember such a severe storm at this time of year in the western county about an hour’s drive north of Charlotte. –CS Monitor



Destroyed: The tornado damaged at least 60 buildings including this man's who says he hid under
a mattress with his girlfriend and daughter for protection

Thrown: The EF2 tornado pushed winds at roughly 115 miles an hour

Torn: The living room of Terry Helton's home, visible at upper left, remains mostly untouched,
with family photos still on their shelves despite the rest of his home destroyed

Injured: Ten people were hurt in Ellenboro in Rutherford County, sheriff's Sgt. Dwayne Wright said,
with two of them serious

Unexpected: Tornadoes rarely pop up in the state this early in the year making this week's devastation
even more of a surprise to those affected

Rare: A WCNC-TV meteorologist said he could only find a few instances of tornadoes in the area in the last 60 years

Leveled: This is all that remains of a mobile home that was blown away in a severe storm Wednesday night

Cleanup: Families are just beginning to pick up the pieces with everyone the area at the moment
knows of being accounted for

Shelter: The American Red Cross opened a shelter in Icard which had at least 15 people checked in by 9pm

Moving North: The storm cell that caused the damage dumped hail in South Carolina before moving
into North Carolina, according to the National Weather Service


[ame="http://www.youtube.com/watch?v=9_sKsUK3JBU"]Tornado slams North Carolina again this time Devastating 2 counties 1-11-2012 - YouTube[/ame]


B5 - War Room Falkman

 

<TABLE style="FILTER: progidXImageTransform.Microsoft.Gradient(startColorStr=#C0FFFFCC, endColorStr=#10FFFFFF, gradientType=0)" cellSpacing=0 cellPadding=0 width="98%"><TBODY><TR><TD style="BORDER-LEFT: gray 1px solid; BORDER-RIGHT: gray 1px solid" width="100%" colSpan=3 align=middle>[SIZE=+1]ประกาศเตือนภัย
"ฝนตกหนัก และคลื่นลมแรง บริเวณภาคใต้ " [/SIZE]
ฉบับที่ 11 ลงวันที่ 13 มกราคม 2555
</TD></TR><TR><TD style="BORDER-LEFT: gray 1px solid; PADDING-BOTTOM: 10px; PADDING-LEFT: 10px; PADDING-RIGHT: 10px; BORDER-RIGHT: gray 1px solid; PADDING-TOP: 10px" width="100%" colSpan=3 align=middle> คลื่นกระแสลมตะวันออกเคลื่อนเข้ามาปกคลุมบริเวณภาคใต้ ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำเคลื่อนตัวเข้าปกคลุมประเทศมาเลเซียตอนบนและภาคใต้ตอนล่างของประเทศไทย ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณภาคใต้ตั้งแต่จังหวัดชุมพรลงไปมีฝนเกือบทั่วไปและมีฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่ ดังนี้
ในช่วงวันที่ 13-14 มกราคม 2555 บริเวณจังหวัดนครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส
ในช่วงวันที่ 14-15 มกราคม 2555 บริเวณจังหวัดชุมพร สุราษฏร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง และสงขลา
จึงขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยตามที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มริมน้ำบริเวณดังกล่าว ระมัดระวังอันตรายจากสภาวะน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่งที่จะเกิดขึ้นในช่วงเวลาดังกล่าวไว้ด้วย ส่วนคลื่นลมในอ่าวไทยตอนล่างตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไปมีกำลังแรง โดยมีคลื่นสูง 2-4 เมตร ขอให้ชาวเรือระมัดระวังอันตรายในการเดินเรือและเรือเล็กควรงดออกจากฝั่งในระยะนี้
อนึ่ง บริเวณความกดอากาศสูงที่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนมีกำลังอ่อนลงประกอบกับมีคลื่นกระแสลมตะวันตกเคลื่อนผ่านบริเวณภาคเหนือ ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณประเทศไทยตอนบนมีอากาศเย็นกับมีฝนเล็กน้อย

ประกาศ ณ วันที่ 13 มกราคม พ.ศ. 2555
ออกประกาศ เวลา 16.30 น.


สำนักพยากรณ์อากาศ กรมอุตุนิยมวิทยา
กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

ข้อมูลแผ่นดินไหวทั่วโลกล่าสุด

Update time = Fri Jan 13 13:25:12 UTC 2012



<TABLE border=0 cellSpacing=1 cellPadding=1><TBODY><TR><TH> </TH><TH align=middle>MAG </TH><TH align=middle>UTC DATE-TIME
y/m/d h:m:s </TH><TH align=middle>LAT
deg </TH><TH align=middle>LON
deg </TH><TH align=middle>DEPTH
km </TH><TH> Region</TH></TR><TR><TD vAlign=top noWrap align=middle>MAP</TD><TD vAlign=top noWrap align=middle> 4.6 </TD><TD vAlign=top noWrap align=middle>2012/01/13 10:24:03 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right> 1.378 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right> 126.487 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right>115.2 </TD><TD vAlign=top> MOLUCCA SEA</TD></TR><TR><TD vAlign=top noWrap align=middle>MAP</TD><TD vAlign=top noWrap align=middle> 4.4 </TD><TD vAlign=top noWrap align=middle>2012/01/13 09:44:02 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right> 53.592 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right> -165.335 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right>41.8 </TD><TD vAlign=top> FOX ISLANDS, ALEUTIAN ISLANDS, ALASKA</TD></TR><TR><TD vAlign=top noWrap align=middle>MAP</TD><TD vAlign=top noWrap align=middle> 4.3 </TD><TD vAlign=top noWrap align=middle>2012/01/13 09:15:33 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right> 2.296 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right> 93.402 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right>29.6 </TD><TD vAlign=top> OFF THE WEST COAST OF NORTHERN SUMATRA</TD></TR><TR><TD vAlign=top noWrap align=middle>MAP</TD><TD vAlign=top noWrap align=middle> 4.9 </TD><TD vAlign=top noWrap align=middle>2012/01/13 06:49:29 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right> -10.627 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right> 165.254 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right>81.4 </TD><TD vAlign=top> SANTA CRUZ ISLANDS</TD></TR><TR><TD vAlign=top noWrap align=middle>MAP</TD><TD vAlign=top noWrap align=middle> 2.6 </TD><TD vAlign=top noWrap align=middle>2012/01/13 05:35:32 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right> 60.845 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right> -146.487 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right>12.5 </TD><TD vAlign=top> SOUTHERN ALASKA</TD></TR><TR><TD vAlign=top noWrap align=middle>MAP</TD><TD vAlign=top noWrap align=middle> 4.5 </TD><TD vAlign=top noWrap align=middle>2012/01/13 05:13:27 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right> -14.419 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right> -75.252 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right>54.5 </TD><TD vAlign=top> NEAR THE COAST OF CENTRAL PERU</TD></TR><TR><TD vAlign=top noWrap align=middle>MAP</TD><TD vAlign=top noWrap align=middle> 4.8 </TD><TD vAlign=top noWrap align=middle>2012/01/13 04:34:14 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right> 2.352 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right> 93.060 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right>29.9 </TD><TD vAlign=top> OFF THE WEST COAST OF NORTHERN SUMATRA</TD></TR><TR><TD vAlign=top noWrap align=middle>MAP</TD><TD vAlign=top noWrap align=middle> 4.9 </TD><TD vAlign=top noWrap align=middle>2012/01/13 04:12:42 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right> -6.594 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right> 150.493 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right>14.5 </TD><TD vAlign=top> NEW BRITAIN REGION, PAPUA NEW GUINEA</TD></TR><TR><TD vAlign=top noWrap align=middle>MAP</TD><TD vAlign=top noWrap align=middle> 2.8 </TD><TD vAlign=top noWrap align=middle>2012/01/13 01:46:39 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right> 62.153 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right> -145.224 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right>21.7 </TD><TD vAlign=top> CENTRAL ALASKA</TD></TR><TR><TD vAlign=top noWrap align=middle>MAP</TD><TD vAlign=top noWrap align=middle> 4.4 </TD><TD vAlign=top noWrap align=middle>2012/01/13 01:38:32 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right> 57.452 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right> -149.100 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right>8.1 </TD><TD vAlign=top> GULF OF ALASKA</TD></TR><TR><TD vAlign=top noWrap align=middle>MAP</TD><TD vAlign=top noWrap align=middle> 4.7 </TD><TD vAlign=top noWrap align=middle>2012/01/13 00:19:00 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right> 53.366 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right> 158.912 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right>128.2 </TD><TD vAlign=top> NEAR THE EAST COAST OF KAMCHATKA, RUSSIA</TD></TR></TBODY></TABLE>



B5 - War Room Falkman

 

ภาพถ่ายดาวเทียมล่าสุด



ภาพแผนที่แสดงศักยภาพการเกิดน้ำท่วมโดย NASA (24 ชั่วโมง)


B5 - War Room Falkman

 

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>ประกาศ! หยุดจ่ายน้ำประปาหลายพื้นที่ 14-17 ม.ค.นี้</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD height=40><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=center align=left>13 มกราคม 2555 16:10 น.</TD><TD vAlign=center align=left><SCRIPT type=text/javascript src="http://platform.twitter.com/widgets.js"></SCRIPT>

<SCRIPT type=text/javascript src="https://apis.google.com/js/plusone.js" gapi_processed="true"> {lang: 'th'}</SCRIPT>

<TD></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><IFRAME style="BORDER-BOTTOM: medium none; BORDER-LEFT: medium none; WIDTH: 450px; HEIGHT: 35px; OVERFLOW: hidden; BORDER-TOP: medium none; BORDER-RIGHT: medium none" src="http://www.facebook.com/plugins/like.php?href=http://www.manager.co.th/asp-bin/mgrshort.aspx?NewsID=9550000005556&layout=standard&show_faces=false&width=450&action=like&colorscheme=light&height=35" frameBorder=0 allowTransparency scrolling=no></IFRAME></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=366><TBODY><TR><TD vAlign=top width=366 align=middle> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>ภาพประกอบจากอินเทอร์เน็ต</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD height=5 vAlign=top align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE> การประปานครหลวง ประกาศน้ำไม่ไหลหลายพื้นที่ ต้องหยุดจ่ายน้ำตั้งแต่คืนวันเสาร์ที่ 14-17 ม.ค.นี้ เพื่อปรับปรุงระบบอุปกรณ์ไฟฟ้า-ซ่อมท่อขนาดใหญ่

วันนี้ (13 ม.ค.) การประปานครหลวง (กปน.) ประกาศว่า จำเป็นต้องหยุดสูบจ่ายน้ำที่สถานีสูบจ่ายน้ำสำโรง เพื่อปรับปรุงระบบอุปกรณ์ไฟฟ้า ในคืนวันเสาร์ที่ 14 มกราคม 2555 ตั้งแต่เวลา 23.00-04.00 น.ของวันรุ่งขึ้น ส่งผลให้น้ำประปาไม่ไหล ในพื้นที่ดังต่อไปนี้

ถนนสุขุมวิท จากแยกบางนา ถึงบางปู ถนนหน้ากรม จากหน้าสถานีสูบจ่ายน้ำ ถึงแยกปู่เจ้าสมิงพลาย
ถนนสรรพาวุธ ซอยลาซาล ถนนทางรถไฟสายเก่า ถนนท้ายบ้าน ถนนสายลวด
ถนนเทพารักษ์ ถนนศรีนครินทร์ ถึงแยกบางนา-ตราด ถนนสวนส้ม
ถนนสุขสวัสดิ์ จากคลองบางจาก ถึงป้อมพระจุลจอมเกล้า

อีกทั้ง กปน.จะดำเนินการซ่อมท่อประธานขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 1,500 มิลลิเมตร บริเวณปากซอยกิ่งแก้ว 18 ถนนกิ่งแก้ว-ลาดกระบัง ในคืนวันจันทร์ที่ 16 มกราคม 2555 ตั้งแต่เวลา 21.00-05.00 น.ของวันรุ่งขึ้น ส่งผลให้น้ำประปาไหลอ่อนถึงไม่ไหล ในพื้นที่ดังต่อไปนี้

ถนนลาดกระบัง-ถนนอ่อนนุช ตั้งแต่แยกสวนหลวง ถึงแยกลาดกระบัง
ถนนกรุงเทพ-ชลบุรีสายใหม่ ถนนกิ่งแก้ว ตั้งแต่ถนนอ่อนนุช ถึงแยกเทพารักษ์
ถนนวงแหวนตะวันออก ถนนบางนา-ตราด ตั้งแต่แยกถนนศรีนครินทร์ ถึงคลองจรเข้
ถนนวัดศรีวารีน้อย ถนนหลวงแพ่ง ถนนเฉลิมพร

นอกจากนี้ ในคืนวันอังคารที่ 17 มกราคม 2555 ตั้งแต่เวลา 22.00-05.00 น.ของวันรุ่งขึ้น กปน.จะทำการยกเลิกท่อประธานขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 1,000 มิลลิเมตร บริเวณถนนเพชรเกษม ส่งผลให้น้ำประปาไหลอ่อนถึงไม่ไหล ในพื้นที่ต่อไปนี้

ถนนเพชรเกษม ตั้งแต่แยกท่าพระ ถึงซอยเพชรเกษม 45 (ซอยวัดจันทร์ประดิษฐ์)
ถนนรัชดาภิเษก ตั้งแต่แยกท่าพระ ถึงคลองบางกอกใหญ่

ทั้งนี้ ขอให้สำรองน้ำประปาไว้ใช้ล่วงหน้าในช่วงวันและเวลาดังกล่าวหากประสบข้อขัดข้องกรุณาแจ้ง “ศูนย์บริการประชาชน” โทร.1125 ตลอด 24 ชั่วโมง

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>พบ “เอลกอร์โด” กลุ่มกาแลกซีใหญ่กว่าใครในจักรวาล</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD height=40><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=center align=left>12 มกราคม 2555 12:38 น.</TD><TD vAlign=center align=left><SCRIPT type=text/javascript src="http://platform.twitter.com/widgets.js"></SCRIPT>

<SCRIPT type=text/javascript src="https://apis.google.com/js/plusone.js" gapi_processed="true"> {lang: 'th'}</SCRIPT>

<TD></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><IFRAME style="BORDER-BOTTOM: medium none; BORDER-LEFT: medium none; WIDTH: 450px; HEIGHT: 35px; OVERFLOW: hidden; BORDER-TOP: medium none; BORDER-RIGHT: medium none" src="http://www.facebook.com/plugins/like.php?href=http://www.manager.co.th/asp-bin/mgrshort.aspx?NewsID=9550000004813&layout=standard&show_faces=false&width=450&action=like&colorscheme=light&height=35" frameBorder=0 allowTransparency scrolling=no></IFRAME></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD height=12 vAlign=bottom align=left></TD></TR><TR><TD bgColor=#cccccc><TABLE border=0 cellSpacing=1 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top width=160 align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=4 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=middle>คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle>ภาพกลุ่มกาแลกซีเอลกอร์โดที่เห็นเป็นสองกลุ่มแยกกันเมื่อดูในย่านรังสีเอกซ์ (บีบีซีนิวส์)</TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD height=1 vAlign=center width=165 align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD background=/images/linedot_vert3.gif width=4></TD><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=7 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>นักวิทยาศาสตร์ส่องกล้องโทรทรรศน์จากทะเลทรายในชิลีพบกลุ่มกาแลกซีขนาดใหญ่ที่สุดในจักรวาล มีมวลมากกว่าดวงอาทิตย์ของเรา 2 พันล้านล้านเท่า ในที่ไกลออกไป 7 พันล้านปีแสง ตั้งชื่อ “เอล กอร์โด” หรือ “เจ้าอ้วน” ในภาษาสเปน

ทั้งนี้ กลุ่มกาแลกซีคือโครงสร้างเสถียรที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในเอกภพ ซึ่งบีบีซีนิวส์ระบุว่าทีมนักดาราศาสตร์ได้รายงานการค้นพบกลุ่มกาแลกซีที่มีขนาดใหญ่สุดในเอกภพภายในการประชุมของสมาคมดาราสาสตร์อเมริกัน ครั้งที่ 219 โดยกลุ่มกาแลกซีที่ถูกตั้งชื่อว่า “เอล กอร์โด” หรือ “เจ้าอ้วน” ในภาษาสเปนนั้นอยู่ไกลออกไป 7 พันล้านปีแสง และมีมวลมากกว่าดวงอาทิตย์ของเรา 2 พันล้านล้านเท่า (ดวงอาทิตย์มีมวลมากกว่าโลก 330,000 เท่า)

นักดาราศาสตร์กล่าวว่า เอล กอร์โดเป็นการรวมตัว (merger) ที่กำลังโตขึ้นเรื่อยๆ โดยพวกเขาหวังที่จะเข้าใจได้ดีขึ้นว่า กลุ่มกาแลกซีต่างๆ นั้นก่อตัวขึ้นอย่างไร โตขึ้นได้อย่างไร และชนเข้ากับกลุ่มกาแลกซีอื่นได้อย่างไร โดยกลุ่มกาแลกซีให้ความเป็นที่สุดระดับจักรวาลจำนวนมาก โดยการรวมตัวคือหนึ่งในความเป็นที่สุดดังกล่าว และการรวมตัวของกลุ่มกาแลกซี เอล กอร์โด คือเหตุการณ์ที่ทรงพลังที่สุดในจักรวาล จากการที่สสารปริมาณมหาศาลและสสารมืดอันลึกลับเข้าปะทะกันด้วยความเร็วอันยิ่งยวด

การเติบโตของกลุ่มกาแลกซีและการรวมตัวนั้นได้รับแรงขับจากแรงโน้มถ่วง ซึ่งสสารทั่วไปที่เรารู้จักนั้นมีบทบาทในการดึงสิ่งต่างๆ ไว้ด้วยกัน ขณะที่สสารมืดอันลึกลับที่เป็นแรงขับให้เอกภพขยายตัวกลับมีบทบาทในการดึงให้สิ่งต่างๆ แยกออกจากกัน และการทำแผนที่กระบวนการเติบโตของกลุ่มกาแลกซี เป็นสิ่งสำคัญในการทำความเข้าใจถึงผลที่แรงมืด (dark force) กระทำต่อกัน

กลุ่มกาแลกซีอ้วนใหญ่นี้ถูกค้นพบด้วยกล้องโทรทรรศน์อาทาคามาคอสโมโลจี (Atacama Cosmology Telescope) บนภูเขาสูงในชิลี ทั้งนี้ กลุ่มกาแลกซีทั้งหลายคล้ายๆ กับเอลกอร์โดนี้จะปลดปล่อยอนุภาคที่มีพลังงานมหาศาลออกมา ซึ่งส่งผลกระทบต่อรังสีพื้นหลังซีเอ็มบี (cosmic microwave background: CMB) ซึ่งเป็นรังสีจางๆ ฟุ้งทั่วเอกภพที่หลงเหลือหลังระเบิดบิกแบง (Big Bang)

ทางด้าน ศ.แจ็ค ฮิวจ์ส (Jack Hughes) จากมหาวิทยาลัยรัทเจอร์ส (Rutgers University) ในนิวเจอร์ซี สหรัฐฯ กล่าวว่า เรามองเห็นกลุ่มกาแล็กซีเอล กอร์โดอยู่ในตำแหน่งไกลออกไปประมาณ 7 พันล้านปีแสง ซึ่งเป็นตำแหน่งที่บ่งถึงช่วงเวลาที่เอกภพมีอายุน้อยกว่าปัจจุบันประมาณครึ่งหนึ่ง และเป็นช่วงเวลาที่โครงสร้างของกลุ่มกาแลกซีกำลังก่อตัวในอัตราที่แตกต่างกัน ทั้งนี้ เมื่อเราเข้าใจคุณสมบัติของเอลกอร์โด เราก็สามารถทำความเข้าใจวิวิวัฒนาการในช่วงเวลาของการ ก่อโครงสร้างของเอกภพได้

เมื่อเทียบกับกลุ่มกาแลกซีที่อยู่ในระยะทางพอๆ กัน เอลกอร์โดมีขนาดใหญ่กว่า 2 เท่า และภาพที่เราเห็นคือภาพขณะที่กลุ่มกาแลกซีขนาดใหญ่นี้มีอายุครึ่งชีวิตแล้ว โดยใช้กลุ่มกาแลกซีที่มีขนาดเล็กกว่าเพื่อช่วยหาอายุของกลุ่มกาแลกซียักษ์นี้

“เอลกอร์โดกำลังโตขึ้นเรื่อยๆ เราสามารถหาว่ามวลของมันจะเป็นเท่าไร แต่โชคไม่ดีที่แบบจำลองยังคลุมเครือ แต่มันก็เป็นกลุ่มกาแลกซีที่มีมวลมากที่สุดที่เรารู้จัก” ศ.ฮิวจ์สกล่าว
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<IFRAME style="POSITION: absolute; WIDTH: 10px; HEIGHT: 10px; TOP: -9999em" id=twttrHubFrame tabIndex=0 src="http://platform.twitter.com/widgets/hub.1326407570.html" frameBorder=0 allowTransparency scrolling=no></IFRAME>
<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>ข่าวด่วน! สถานทูตสหรัฐฯ ประจำประเทศไทย เตือนเหตุก่อการร้ายใน “กรุงเทพฯ”</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD height=40><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=center align=left>13 มกราคม 2555 15:58 น.</TD><TD vAlign=center align=left><SCRIPT src="https://plus.google.com/_/apps-static/_/js/widget/gcm_ppb,googleapis_client,plusone/rt=j/ver=Pr-Tnlrj9rA.th./sv=1/am=!bMxf2l2AOqKIHfWTkg/d=1/" async="true"></SCRIPT><SCRIPT type=text/javascript src="http://platform.twitter.com/widgets.js"></SCRIPT>

<SCRIPT type=text/javascript src="https://apis.google.com/js/plusone.js" gapi_processed="true"> {lang: 'th'}</SCRIPT>


<TD></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><IFRAME style="BORDER-BOTTOM: medium none; BORDER-LEFT: medium none; WIDTH: 450px; HEIGHT: 35px; OVERFLOW: hidden; BORDER-TOP: medium none; BORDER-RIGHT: medium none" src="http://www.facebook.com/plugins/like.php?href=http://www.manager.co.th/asp-bin/mgrshort.aspx?NewsID=9550000005550&layout=standard&show_faces=false&width=450&action=like&colorscheme=light&height=35" frameBorder=0 allowTransparency scrolling=no></IFRAME></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>เอเอฟพี/รอยเตอร์ - สถานเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำประเทศไทย ประกาศเตือนในวันนี้ (13) ถึงความเป็นไปได้ที่อาจเกิด “การก่อการร้าย” ในกรุงเทพฯ พร้อมทั้งเตือนให้พลเรือนสหรัฐฯ ในประเทศไทยใช้ความระมัดระวังในการเข้าพื้นที่ที่ได้รับความนิยมจากชาวต่างชาติ

“ผู้ก่อการร้ายต่างชาติอาจกำลังมองหาลู่ทางก่อเหตุบริเวณสถานที่ท่องเที่ยวในกรุงเทพฯ ในอนาคตอันใกล้” ข้อความในประกาศด่วนบนเว็บไซต์สถานทูตสหรัฐฯระบุ

“เราขอเรียกร้องให้พลเมืองสหรัฐฯใช้ความระมัดระวังตัวเมื่อไปเยือนพื้นที่สาธารณะในกรุงเทพฯ ซึ่งมีกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวตะวันตกชุมนุมกันอยู่” ประกาศด่วนของสถานทูตสหรัฐฯบอก พร้อมทั้งแนะนำให้พลเรือนอเมริกันคอยสังเกตกระเป๋า หรือวัตถุต้องสงสัยในที่สาธารณะ หรือสถานที่ที่มีผู้คนพลุกพล่าน และให้แจ้งเจ้าหน้าที่ที่อยู่ใกล้ที่สุดทันที หากพบบุคคลที่มีพฤติกรรมน่าสงสัย

เว็บไซต์ของสถานทูตสหรัฐฯ ประจำกรุงเทพฯ ยังแนะนำให้พลเรือนอเมริกันในประเทศไทยลงทะเบียนกับทางกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ เพื่อเป็นหลักฐานว่ากำลังพักอยู่ในไทย

ในเวลาต่อมา นางคริสตี เคนนีย์ เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำประเทศไทย โพสต์ข้อความลงทวิตเตอร์ ว่า ข่าวภัยคุกคามการก่อการร้ายนี้ “เชื่อถือได้” และคนร้ายมีเป้าหมายโจมตีกรุงเทพฯ โดยเฉพาะ

ทั้งนี้ ด้านรัฐบาลไทย เปิดเผยว่า ได้รับแจ้งจากทางการสหรัฐฯ แล้วว่า มีมุสลิมผู้ต้องสงสัยเป็น “ผู้ก่อการร้าย” 2 คน ได้เดินทางเข้ามายังประเทศไทย

“ทางการสหรัฐฯ แจ้งเราเมื่อคืนนี้ เกี่ยวกับผู้ก่อการร้าย 2 คน ที่เดินทางเข้ามายังประเทศไทย และมีแผนก่อการร้าย” พลเอก ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เปิดเผยผ่านสำนักข่าวเอเอฟพี

“เจ้าหน้าที่หน่วยข่าวกรองของเรากำลังประสานงานกับเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ และติดตามความเคลื่อนไหวของผู้ก่อการร้ายทั้งสองอย่างใกล้ชิด ผมเชื่อว่า เราจะจับตัวทั้งสองคนนี้ได้ในคืนนี้” พลเอก ยุทธศักดิ์ กล่าวเสริม “สำหรับพลเรือนชาวไทย ไม่มีความจำเป็นต้องประกาศเตือนแต่อย่างใด เพราะอาจเกิดความโกลาหล และอาจกระทบต่อการท่องเที่ยวของเรา”

ในเวลาต่อมา สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ได้บอกกับรอยเตอร์ว่า “ผู้ต้องสงสัยชาวเลบานอนคนหนึ่งจากกลุ่มเฮซบอลเลาะห์ กำลังถูกควบคุมตัวโดยเจ้าหน้าที่ไทย และตำรวจกำลังทำการสอบสวนเพิ่มเติม”

“หลังจากที่สถานเอกอัครราชทูตอิสราเอลได้หยิบยกเรื่องที่กลุ่มผู้ก่อการร้ายชาวเลบานอนกลุ่มหนึ่งอาจเปิดการโจมตีในกรุงเทพฯแล้ว ตำรวจไทยก็ได้ร่วมมือประสานงานกับทางเจ้าหน้าที่อิสราเอลตั้งแต่ก่อนปีใหม่แล้ว” ร.ต.อ.เฉลิม กล่าว

กลุ่มเฮซบอลเลาะห์ ที่ ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวถึงนั้น เป็นกลุ่มมุสลิมเคร่งจารีตซึ่งอยู่ในนิกายชิอะห์ พวกเขามีซีเรียและอิหร่านหนุนหลัง และเวลานี้มีอิทธิพลครอบงำรัฐบาลเลบานอน แต่ถูกสหรัฐฯขึ้นบัญชีเป็นองค์การก่อการร้ายต่างประเทศอย่างเป็นทางการ

รอยเตอร์ยังอ้างแหล่งข่าวจากกระทรวงกลาโหมของไทยรายหนึ่งที่ระบุว่า ฝ่ายข่าวกรองอิสราเอลได้ติดต่อกับพวกเจ้าหน้าที่ไทยเมื่อวันที่ 22 ธันวาคม เพื่อแจ้งข้อมูลให้ทราบว่าผู้ต้องสงสัย 2 ถึง 3 คนอาจจะกำลังวางแผนก่อเหตุโจมตีในไทย อย่างไรก็ดี บุคคลเหล่านี้ได้เดินทางไปทางภาคใต้และออกนอกประเทศไป

ฝ่ายอิสราเอลได้เตือนภัยเจ้าหน้าที่ไทยอีกรอบหนึ่งในวันที่ 8 มกราคม โดยคราวนี้ระบุว่ามีอันตรายที่จะเกิดเหตุโจมตีขึ้นในช่วงประมาณวันที่ 13 ถึง 15 มกราคม ในพื้นที่ต่างๆ ซึ่งมีนักท่องเที่ยวตะวันตกจำนวนมากมักไปรวมกลุ่มกัน เป็นต้นว่า ถนนข้าวสาร

แหล่งข่าวรายนี้ระบุว่า ภายหลังการเตือนครั้งที่สองของอิสราเอลแล้ว จึงได้มีการจับกุมผู้ต้องสงสัย โดยที่เจ้าหน้าที่ความมั่นคงของไทยมีการทำงานอย่างใกล้ชิดกับสหรัฐฯและอิสราเอล

ขณะเดียวกัน พล.อ.ยุทธศักดิ์ รัฐมนตรีกลาโหม ได้ออกมาพูดเพิ่มเติมว่า สถานเอกอัครราชทูตอิสราเอล ตลอดจนพวกโบสถ์ยิว ก็อาจตกเป็นเป้าหมายเช่นกัน โดยที่การโจมตีอาจจะอยู่ในรูปของคาร์บอมบ์

ส่วนเอเอฟพีได้อ้างแหล่งข่าวซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงทางด้านข่าวกรองของไทยที่ขอไม่ให้ระบุชื่อ บอกว่าการจับกุมผู้ต้องสงสัยคนที่ฝ่ายไทยกำลังสอบสวนอยู่นี้ กระทำกันในวันพฤหัสบดี(12) สำหรับผู้ต้องสงสัยอีกคนหนึ่งนั้นได้หลบหนีออกนอกประเทศไปแล้ว

ทั้งนี้ ร.ต.อ.เฉลิม ระบุว่า ผู้ต้องสงสัยที่ถูกจับกุมนั้น กำลังถูกเจ้าหน้าที่ไทยสอบสวนอยู่ที่อาคารของรัฐบาลแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ

แหล่งข่าวเจ้าหน้าที่อาวุโสด้านข่าวกรองเล่าว่า ฝ่ายอิสราเอลสงสัยชาย 2 คนนี้อาจเป็นผู้ก่อการร้าย จึงได้ให้ข้อมูล เป็นต้นว่าชื่อของพวกเขา แก่ตำรวจไทยตั้งแต่ช่วงก่อนปีใหม่แล้ว

เขากล่าวด้วยว่า ผู้ต้องสงสัยที่ถูกควบคุมตัวยังคงปฏิเสธว่าไม่ได้เกี่ยวข้องกับกิจกรรมก่อการร้ายใดๆ ทั้งสิ้น

“ชาย 2 คนนี้เข้ามาเมืองไทยสักพักนึงแล้ว แต่ไม่ได้กระทำกิจกรรมก่อการร้ายใดๆ ผมยังแปลกใจเลยว่าทำไมอิสราเอลจึงสงสัยพวกเขา”

ทางฝ่ายอิสราเอลนั้นใช้ท่าทีไม่ยืนยันและไม่ปฏิเสธว่าตนเองมีบทบาทเกี่ยวข้องกับการจับกุมคราวนี้

“อิสราเอลจะไม่ออกความเห็นใดๆ ในประเด็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคง” โฆษกกระทรวงการต่างประเทศอิสราเอล ยิกัล ปาลอร์ แถลง

อนึ่ง หนึ่งในเหตุก่อการร้ายครั้งรุนแรงที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เกิดขึ้นในปี 2002 เมื่อมีการก่อเหตุระเบิดฆ่าตัวตายโจมตีบริเวณไนต์คลับแห่งหนึ่ง บนเกาะบาหลีของอินโดนีเซีย ซึ่งมีผู้เสียชีวิต 202 ราย ส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ

ต่อมาในปี 2003 ริดวน อิสมามุดดิน ชาวอินโดนีเซียผู้เป็นที่รู้จักกันในนาม “ฮัมบาลี” และเป็นผู้ต้องหาวางแผนโจมตีเกาะบาหลีเมื่อปี 2002 ได้ถูกจับกุมได้ในประเทศไทย เขายังถูกกล่าวหาว่า เป็นตัวแทนของ “อัลกออิดะห์” ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเป็นหัวหน้าชุดปฏิบัติการของ “ญะมาอะห์ อิสลามียะห์” (เจไอ) กลุ่มมุสลิมหัวรุนแรงในภูมิภาคนี้


<CENTER>13/01 กห.ย้ำคนไทยอย่าตื่นข่าวก่อการร้าย

</CENTER>โฆษกกระทรวงกลาโหม เผย ทราบรายงานจับ 2 ชาวเลบานอน เตรียมก่อการร้ายไทยแล้ว ระบุ มีการติดตามเฝ้าระวังมาโดยตลอดย้ำ คนไทยไม่ควรตื่นตระหนกไม่ใช่เป้าหมายโจมตี


พ.อ.ธนาธิป สว่างแสง โฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าวถึง กรณีที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ออกมาเตือนพลเมืองของสหรัฐฯ ที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย ว่า ขอให้ระมัดระวังในเรื่องของการก่อการร้ายว่า ทางทหารได้รับทราบข้อมูลมาจาก กองบัญชาการตำรวจสันติบาล และสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ว่า วันนี้สามารถจับกุมชาวเลบานอนได้แล้ว 2 คน ที่กำลังอยู่ระหว่างการสอบสวนและจะนำตัวไปแถลงข่าว ทั้งนี้ โฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าวยอมรับว่า ในเรื่องการประกาศแจ้งเตือนเรื่องการก่อการร้ายในไทยนั้น ทางหน่วยงานทางทหาร และฝ่ายความมั่นคง ทราบเรื่องมาเป็นระยะหนึ่งแล้ว และมีการติดตามข้อมูลเฝ้าระวังมาโดยตลอด กระทั่งมีการประกาศเตือนจากประเทศสหรัฐอเมริกา ออกมาอย่างเป็นทางการ อย่างไรก็ตาม โฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าวย้ำถึงประชาชนคนไทยว่า อย่าตื่นตระหนกกับเหตุการณ์ดังกล่าว เพราะประเทศไทยไม่ใช่ประเทศคู่ขัดแย้งที่ตกเป็นเป้าหมายในการโจมตี เพียงแต่มีคนในประเทศคู่ขัดแย้ง เข้ามาพักอาศัยเท่านั้น พร้อมกับเตือนให้คนไทยเฝ้าระวังสถานการณ์จากหน่วยงานด้านความมั่นคงอย่างต่อเนื่อง

ที่มา: มูลนิธิสภาเตือนภัยพิบัติแห่งชาติ



</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" align=center 1><TBODY><TR><TD bgColor=#445f94 colSpan=5 align=middle></TD></TR><TR><TD height=25 colSpan=5 align=middle>พยากรณ์อากาศ 14 ม.ค. 55</TD></TR><TR class=RAD><TD style="PADDING-LEFT: 3px" vAlign=center>เชียงใหม่ </TD><TD vAlign=center width=22 align=middle> </TD><TD vAlign=center width=20> <TD class=minTempProvince vAlign=center width=20 align=middle>17 </TD><TD class=maxTempProvince vAlign=center width=20 align=middle>30 </TD></TR><TR class=RA><TD style="PADDING-LEFT: 3px" vAlign=center>แม่ฮ่องสอน </TD><TD vAlign=center width=22 align=middle> </TD><TD vAlign=center width=20> <TD class=minTempProvince vAlign=center width=20 align=middle>17 </TD><TD class=maxTempProvince vAlign=center width=20 align=middle>29 </TD></TR><TR class=RAD><TD style="PADDING-LEFT: 3px" vAlign=center>อุบลราชธานี </TD><TD vAlign=center width=22 align=middle> </TD><TD vAlign=center width=20> <TD class=minTempProvince vAlign=center width=20 align=middle>18 </TD><TD class=maxTempProvince vAlign=center width=20 align=middle>30 </TD></TR><TR class=RA><TD style="PADDING-LEFT: 3px" vAlign=center>มหาสารคาม </TD><TD vAlign=center width=22 align=middle> </TD><TD vAlign=center width=20> <TD class=minTempProvince vAlign=center width=20 align=middle>20 </TD><TD class=maxTempProvince vAlign=center width=20 align=middle>24 </TD></TR><TR class=RAD><TD style="PADDING-LEFT: 3px" vAlign=center>กรุงเทพมหานคร </TD><TD vAlign=center width=22 align=middle> </TD><TD vAlign=center width=20> <TD class=minTempProvince vAlign=center width=20 align=middle>23 </TD><TD class=maxTempProvince vAlign=center width=20 align=middle>32 </TD></TR><TR class=RA><TD style="PADDING-LEFT: 3px" vAlign=center>สงขลา </TD><TD vAlign=center width=22 align=middle> <TD vAlign=center width=20> <TD class=minTempProvince vAlign=center width=20 align=middle>24 </TD><TD class=maxTempProvince vAlign=center width=20 align=middle>31 </TD></TR><TR class=RAD><TD style="PADDING-LEFT: 3px" vAlign=center>ภูเก็ต </TD><TD vAlign=center width=22 align=middle> </TD><TD vAlign=center width=20> <TD class=minTempProvince vAlign=center width=20 align=middle>23 </TD><TD class=maxTempProvince vAlign=center width=20 align=middle>31 </TD></TR></TBODY></TABLE>

ลักษณะอากาศทั่วไป

<TABLE class=Panel border=0 cellSpacing=0 cellPadding=1 width="100%"><TBODY><TR><TD colSpan=2><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" <tr><TBODY><TR><TD class=PM>บริเวณความกดอากาศสูงที่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนมีกำลังอ่อนลงประกอบกับมีคลื่นกระแสลมตะวันตกเคลื่อนผ่านบริเวณภาคเหนือ ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณประเทศไทยตอนบนมีอากาศเย็นกับมีฝนเล็กน้อย

อนึ่ง คลื่นกระแสลมตะวันออกเคลื่อนเข้ามาปกคลุมบริเวณภาคใต้ ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำเคลื่อนตัวเข้าปกคลุมประเทศมาเลเซียตอนบนและภาคใต้ตอนล่างของประเทศไทย ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณภาคใต้ตั้งแต่จังหวัดชุมพรลงไปมีฝนเกือบทั่วไปและมีฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่ จึงขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยตามที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มริมน้ำบริเวณดังกล่าว ระมัดระวังอันตรายจากสภาวะน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่งที่จะเกิดขึ้นในระยะนี้ไว้ด้วย

ส่วนคลื่นลมในอ่าวไทยตอนล่างตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไปมีกำลังแรง โดยมีคลื่นสูง 2-4 เมตร ขอให้ชาวเรือระมัดระวังอันตรายในการเดินเรือและเรือเล็กควรงดออกจากฝั่งในระยะนี้
</TD></TR><TR style="HEIGHT: 1px"><TD></TD></TR><TR class=PMB><TD></TD></TR><TR><TD></TD></TR><TR><TD style="HEIGHT: 2px"></TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD></TD></TR><TR class=PF><TD class=PBL></TD><TD class=PLF></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

สุดสลด! แม่โลมาท้องแก่เจอคลื่นซัดลูกทะลักตาย

วันที่ 13/01/2555





คลื่นมรสุมสูง 2-3 เมตร ซัดกระหน่ำชายหาดชุมพร โลมาหัวบาตรท้องแก่ใกล้คลอด ถูกคลื่นซัดกระแทกใต้ท้องทะเล ลูกในท้องไหลทะลักตายเกยหาดบ่อเมา…

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 13 ม.ค. น.ส.ชิดสุภางค์ ชำนาญ เลขาธิการสมาคมเพื่อนสิ่งแวดล้อม จ.ชุมพร กล่าวว่า เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา รับแจ้งจาก นายเชิดศักดิ์ ชำนาญ เครือข่ายประมงชายฝั่งบ้านบ่อเมา หมู่ที่ 1 ต. ชุมโค อ.ปะทิว จ.ชุม มีปลาโลมาลอยขึ้นมาตายเกยหาดบริเวณชายหาดอ่าวบ่อเมา ซึ่งเป็นหาดท่องเที่ยวขึ้นชื่อของ จ.ชุมพร อยู่ห่างจากสนามบินชุมพร และสถาบันเทคโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง วิทยาเขตชุมพร ประมาณ 2 กิโลเมตร 2 ตัว จึงได้ประสานไปยังนางนิภาวรรณ บุศราวิทย์ ผอ.ศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยตอนกลาง จ. ชุมพร ส่งเจ้าหน้าที่มาพิสูจน์

จากการตรวจสอบ พบว่าเป็นโลมาหัวบาตรแม่ลูก 2 ตัว โดยโลมาตัวแม่มีน้ำหนัก 20 กิโลกรัม ยาว 135 เซนติเมตร และตัวลูกหนัก 2.6 กิโลกรัม ยาว 20 เซนติเมตร คาดว่า ตายมาแล้วประมาณ 2-3 วัน สันนิษฐานว่าแม่โลมาหัวบาตรตัวดังกล่าวท้องแก่ ใกล้จะตกลูก ได้ถูกคลื่นลมมรสุมสูง 2-3 เมตรในช่วงนี้ ซัดกระหน่ำทำให้โลมาท้องแก่ดังกล่าวไปกระแทกกับคลื่นใต้ทะเล ได้รับบาดเจ็บและตายในเวลาต่อมา จนกระทั่งโดนคลื่นซัดมาเกยชายหาด และแรงกระแทกทำให้ลูกในท้องไหลทะลักออกมา เนื่องจากยังมีรกติดอยู่กับโลมาตัวแม่และโลมาตัวลูกด้วย.

 

เตือนชาวบ้านอพยพด่วน น้ำในแม่น้ำสุไหงโก-ลก เพิ่มต่อเนื่อง

วันที่ 13/01/2555 14:53





น้ำป่าซัดถนนทรุด-คอสะพานพังที่ อ.สุคิริน ขณะที่เทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก ออกประกาศเตือนราษฎรริมแม่น้ำสุไหงโก-ลก เตรียมอพยพขึ้นที่สูง หลังระดับน้ำในแม่น้ำเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เหลืออีก 20 ซม. น้ำจะล้นตลิ่ง...
เมื่อวันที่ 13 ม.ค. 55 ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ จ.นราธิวาส พบว่าบรรยากาศโดยทั่วไปยังคงมีเมฆฝนแพร่ปกคลุมพื้นที่ทั้ง 13 อำเภอ และมีฝนตกลงมาเป็นช่วงๆ ในบางพื้นที่ ส่งผลทำให้ระดับน้ำป่าจากเทือกเขาสันกาลาคีรี ที่ไหลทะลักท่วมพื้นที่ทางการเกษตรและบ้านเรือนของราษฎรจำนวน 5 หมู่บ้าน คือ บ้านลูโบ๊ะลาเซาะ หมู่ 1 บ้านบาลูกายาอิง หมู่ 2 บ้านร่วมใจ หมู่ 3 บ้านกูยิ หมู่ 4 และบ้านไผ่งาม หมู่ 5 รวม 195 ครัวเรือน ต.ร่มไทร อ.สุคิริน ยังคงอยู่ในระดับทรงตัว 80-100 ซม. ซึ่งหมู่บ้านไผ่งาม หมู่ 5 ต.ร่มไทร ถือว่ามีระดับน้ำท่วมขังหนักที่สุด เนื่องจากมีสภาพเป็นแอ่งกระทะ ที่ต้องรับน้ำก่อนที่จะระบายลงสู่แม่น้ำสุไหงโก-ลก

นอกจากนี้ ยังพบว่าถนนสายสุคิริน-นราธิวาส บริเวณบ้านไอร์บือนา หมู่ 3 ต.เกียร์ อ.สุคิริน ถูกน้ำป่าซัดกัดเซาะจนพังลงมา ทำให้ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อน และที่คอสะพานทางเข้าหมู่บ้านร่วมใจ หมู่ 3 ต.ร่มไทร อ.สุคิริน ก็ถูกน้ำป่าซัดได้รับความเสียหายเช่นกัน

ทั้งนี้ เทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก ได้ออกประกาศเตือนให้ราษฎรที่มีบ้านพักอยู่ริมแม่น้ำสุไหงโก-ลก เก็บข้าวของเตรียมอพยพขึ้นที่สูง หลังระดับน้ำในแม่น้ำเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เหลืออีกเพียง 20 ซม. ก็จะล้นตลิ่งแล้ว.

 

<IFRAME style="POSITION: absolute; WIDTH: 10px; HEIGHT: 10px; TOP: -9999em" id=twttrHubFrame tabIndex=0 src="http://platform.twitter.com/widgets/hub.1326407570.html" frameBorder=0 allowTransparency scrolling=no></IFRAME>ระทึก ยานอวกาศรัสเซียเตรียมร่วงตกโลกวันอาทิตย์นี้

วันที่ 13 มกราคม พ.ศ. 2555 เวลา 13:45:36 น.







สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 12 ม.ค.ว่ายานอวกาศ"โปบอส กรุนท์"ของรัสเซีย ที่ปฎิบัติภารกิจสำรวจดาวบริวารของดาวอังคารมีกำหนดจะตกโลกในวันอาทิตย์นี้ตามเวลาท้องถิ่น ภายหลังยานดังกล่าวซึ่งมีขนาดเท่ากับรถมินิบัส ได้โคจรรอบโลกในระดับต่ำหลังจากสูญเสียการติดต่อจากสถานีอวกาศรัสเซียไม่นานหลังถูกปล่อยขึ้นสู่อวกาศเมื่อวันที่ 8 พ.ย.และที่ผ่านมา สถานีอวกาศรัสเซียได้พยายามค้นหายานอวกาศลำนี้ โดยยานฯได้หลุดจากตำแหน่งแต่ยังอยู่ในวงโคจรของโลก โดยความพยายามของสถานีอวกาศที่จะนำยานอวกาศกลับสู่ตำแหน่งเดิมประสบความล้มเหลว

รายงานระบุว่า คาดว่าส่วนประกอบส่วนใหญ่ของยานจะถูกเผาไหม้ขณะผ่านชั้นบรรยากาศโลก แต่คาดว่าจะมีชิ้นส่วนยานเล็ก ๆ จำนวน 20-30 ชิ้น ที่มีน้ำหนักราว 200 กิโลกรัม ร่วงตกยังโลก และคาดว่าชิ้นส่วนเหล่นี้จะร่วงตกยังเมืองวัตฟอร์ด ของอังกฤษ หรือทางตอนเหนือของหมู่เกาะฟ็อลค์แลนด์ และนักวิทยาศาสตร์เชื่อว่า โอกาสที่จะมนุษย์ไดรับอันตรายจากชิ้นส่วนยานอวกาศดังกล่าวตกมีเปอร์เซนต์ต่ำ และไม่น่าจะสร้างความวิตกใด ๆ ให้แก่ผู้คน

โดยผู้เชี่ยวชาญระบุว่า การที่ยานอวกาศจะระเบิดขณะตก เทากับว่าชิ้นประกอบต่าง ๆ ที่จะตกลงพสุธาโลกอาจแพร่กระจายกินพื้นที่วงกว้างมาก และชิ้นส่วนมากจำนวนมากอาจเล็กเกินกว่าที่จะถูกพบเห็นบนโลก
<!-- Start share twitter --><SCRIPT type=text/javascript src="//platform.twitter.com/widgets.js"></SCRIPT>

 

ทำไมดาวเทียม ถึงได้ตกเอา ตกเอา;aa29

 

อังกฤษออกคำเตือนไทยมีความเสี่ยงสูงถูกก่อการร้ายโจมตี

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 14 มกราคม 2555 04:02 น.

รัฐบาลอังกฤษเป็นชาติที่สองต่อจากสหรัฐฯที่ออกประกาศเตือนถึงความเสี่ยงระดับสูงที่พวกก่อการร้ายอาจปฏิบัติการโจมตีในไทย พร้อมเรียกร้องพลเมืองของตนเองอยู่ในความระมัดระวังอย่างที่สุด หลังจากทางการไทยจับผู้ต้องสงสัยชาวเลบานอนรายหนึ่งที่วางแผนก่อการร้ายในกรุงเทพฯ

ประกาศเตือนพลเมืองของกระทรวงต่างประเทศของอังกฤษมีขึ้นหลังจากเมื่อวันศุกร์(13) สถานเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำประเทศไทย ระบุมีความเป็นไปได้ที่อาจเกิด “การก่อการร้าย” ในกรุงเทพฯ พร้อมทั้งเตือนให้พลเรือนสหรัฐฯ ในประเทศไทยใช้ความระมัดระวังในการเข้าพื้นที่ที่ได้รับความนิยมจากชาวต่างชาติ

 

ลูกแมวน้ำนับร้อยตัวเกยตื้นตามชายฝั่งเนเธอร์แลนด์หลังพายุซัดถล่ม

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 14 มกราคม 2555 02:46 น.


ศูนย์ช่วยเหลือลูกแมวน้ำของเนเธอร์แลนด์เปิดเผยเมื่อวันศุกร์(13) ว่าพบลูกแมวน้ำมากกว่า 100 ตัวถูกซัดมาเกยตื้นตามชายฝั่งทางเหนือของประเทศ หลังเจอพายุซัดถล่มหลายลูกในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา

ต้นตอของการเกยตื้นครั้งนี้ทางศูนย์ช่วยเหลือลูกแมวน้ำของเนเธอร์แลนด์สันนิษฐานว่าส่วนหนึ่งอาจมาจากภาวะมลพิษทางทะเลจึงทำให้ลูกแมวน้ำเหล่านี้มีความอ่อนแอ และด้วยที่พบในจำนวนมหาศาลขนาดนี้ซึ่งเกินขีดความสามารถของศูนย์ฯ ดังนั้นจึงจำเป็นต้องจัดทำเตนท์และสระน้ำพิเศษเพื่อดูแลพวกมัน

"ในช่วง 10 วันที่ผ่านมา ในสภาพอากาศพายุโหมกระหน่ำ เราได้ช่วยลูกแมวน้ำกว่า 100 ตัวที่ถูกซัดขึ้นมาเกยตื้นตามชายฝั่งต่างๆ และทำให้ยอดรวมในตอนนี้ ทางศูนย์มีลูกแมวน้ำอยู่ในความดูแลมากกว่า 365 ตัวแล้ว"เลนีย์ ที ฮาร์ท ผู้อำนวยการศูนย์พยายาลแมวน้ำ Zeehondencreche กล่าว พร้อมเผยว่าตามปกติแล้ว ณ ศูนย์แห่งนี้จะมีแมวน้ำที่ถูกพบและนำมาดูแลเพียงราว 150 ตัวต่อปีเท่านั้น

แม้ว่ามีพายุลมแรงในทะเลวาดเดน แต่ ที ฮาร์ท บอกว่าด้วยจำนวนแมวน้ำที่ถูกซัดเกยตื้นตามชายฝั่งเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะลูกๆของพวกมัน แสดงให้เห็นว่าประชากรแมวน้ำกำลังดำรงชีวิตอยู่ภายใต้แรงกกดดันจากสภาพแวดล้อมมากขึ้น