ทำไมทุกทีที่ผมสวดมนต์นั่งสมาธิมากขึ้นความซวยถึงมาหาผมมากขึ้น

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย เเสงเทียน, 8 เมษายน 2017.

  1. เเสงเทียน

    เเสงเทียน Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มกราคม 2017
    โพสต์:
    135
    ค่าพลัง:
    +154
    โดยปกติเเล้ว ผมจะสวดมนต์ นั่งสมาธิ วันละ 1 ชั่วโมง คือบอกก่อนผม นั่งสมาธิไม่ค่อยได้หรอก คือได้ 2-3 นาทีนิ่งๆหนะได้ เเต่จะใช้วิธีสวดมนต์เอา ตอนเเรกก็สวดเเค่ ธารณปริตร เเละ เวลาสวดมนต์มากบทขึ้น นั่งสมาธินานขึ้น มันเหมือนจะมีเรื่องวุ่นวายมาตลอดทุกๆครั้งที่สวดมนต์ มากบทขึ้น จนตอนนี้บทสวดมนต์ที่ผมสวด

    จักรพรรดิ
    พาหุง
    ธัมปจักร
    ธารณปริตร
    ไตรสรณคมณ์
    ชินบัญชร
    พระไตรสรณคมณ์
    ขันธะปะริตตะคาถา
    ชุมนุมเทวดา
    เทวตาอุยโยชะนะคาถา

    ผมสวดมา 2-3 ปีละเพิ่มที่ละบทที่ละบท ทุกครั้งที่เพิ่มบทสวดมนต์ ยิ่งมีปัญหา ปัญหามีเรื่องทั้งๆที่ไม่น่าจะเกิดเลย อย่างล่าสุด เพิ่งท่องคาถา ดับไฟนรก กับ ยอดพระกัณท์พระไตรปิฏก ได้ 2 วันมีเรื่องเลย

    อยากถามว่าจริงเปล่าครับที่เจ้ากรรมนายเวรเค้าไม่ให้เราสวดมนต์ หรือผม บาปหนา
     
  2. ปฐมรังสี

    ปฐมรังสี Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 เมษายน 2016
    โพสต์:
    152
    ค่าพลัง:
    +178
    มันคงเหมือนเวลาตัวเรามีแสงสว่าง เจ้ากรรมนายเวรที่เขาตามหาอยุ่ ก้มาพบมาเห้นและชดใช้กรรมกันไป..ดีกว่าให้เขามาเจอตอนหลัง ซึ่งไม่แน่ว่าตอนนั้นเราพร้อมจะชดใช้เขาอยุ่ไหม อาจจะทำให้มีปัญหาหลายอย่างตามมามากไปกว่านี้...ตอนนี้ีมีกำลังบุญชดใช้เขา ก้ควรชดใช้เขาไปเถอะ..อย่างน้อยดอกเบี้ยก้ไม่เพิ่มต้นเงิน(เวรกรรม)ก็ลดไว..และเปลื้องไปในที่สุด สาธุในธรรมด้วยครับ
     
  3. Saber

    Saber เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    5,942
    กระทู้เรื่องเด่น:
    19
    ค่าพลัง:
    +11,819
    สั้นๆ สองเรื่องครับ

    เรื่องแรก วาระกรรม อกุศลกรรม ที่เคยก่อไว้ มาถึง วาระกรรมมาถึง กำลังส่งผล ให้ผลครับ ถ้าไม่ได้สวด มีบุญกุศลกรรม ช่วยนี่ อาจจะหนักกว่านี้ เรียกกว่า ผ่อนหนักเป็นเบา

    กฏแห่งกรรม ใครสร้างกรรมอะไรไว้ ก็ย่อมได้รับผลกรรมนั้น ครับ

    เพราะอยู่ๆ ถ้าไม่ได้ก่อเวรก่อกรรมมา มันก็ไม่มีเรื่องหรอก

    เรื่องที่สอง คือ
    เจอ มาร หลอก ครับ ว่าเราทำดี ทำไม มีแต่เรื่อง ก็เลยมาขวาง ให้เลิกทำความดี บุญ กุศลกรรม ถ้าตามมารไม่ทัน บางคนก็หลง หลุด ออกจากเส้นทางไปเลย

    พิจารณาดูด้วยตัวเองครับ
     
  4. รโชหรณัง

    รโชหรณัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มิถุนายน 2013
    โพสต์:
    547
    ค่าพลัง:
    +732
    ไม่ใช่บาปหนาหรอกครับ เจ้ากรรมนายเวรอาจจะมีบ้าง แต่ลองพิจารณาตามหลักแห่ง พุทธะ ดังนี้

    ปัญหา อยู่ที่ อารมณ์ มุมมอง และ กำลังในการแก้ปัญหา
    อารมณ์ดี มุมมองดี มีกำลังในการแก้ปัญหา ปัญหาก็ไม่เป็นปัญหา

    ขอเดาว่า เจ้าของกระทู้ ทำสมาธิ สวดมนต์มากขึ้นนั้น จิตอาจจะยังไม่สงบ
    เพราะที่สวดหรือทำสมาธินั้นก็เพื่อจะดับปัญหาต่างๆที่ยังค้างคา แต่อารมณ์มันแฝงอยู่ ก็กลายเป็นว่าสมาธิที่ทำนั้น เป็นสมาธิที่กดอัดอารมณ์ขุ่นมัว

    ครั้นพอออกจากสมาธิมาเจอเหตุการณ์ต่างๆ ก็เลยปะทุได้ง่ายๆ มองอะไรไปผิดหูผิดตา เมื่อารมณ์ขุ่นมัว แสดงกิริยาท่าทางก็อาจจะขุ่นมัวไปโดยไม่รู้ตัว ขับรถขับรา ก็ขุ่นมัวไปทำให้ขาดสติ
    ยิ่งมีปัญหา อารมณ์ยิ่งไม่ดี ยิ่งสร้างปัญหา ยิ่งสวดมนต์ ยิ่งทำสมาธิ ยิ่งอึดอัด ยิ่งอารมณ์ขุ่นมัวง่าย กลายเป็นวงจรที่ผิด

    หากเป็นอาการแบบนี้ ปัญหาที่ไม่ใช่ปัญหา ก็เลยกลายเป็นปัญหา จึงเหมือนว่า ทำไมปัญหามันเยอะไปหมด ยิ่งสวดมนต์ ยิ่งทำสมาธิ ยิ่งมีปัญหา แท้จริงแล้ว ใจเรามีปัญหา

    แนวทางแก้ไขคือ ระลึกถึงพระพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์ สวดมนต์ ทำสมาธิ พอประมาณ หมั่นเจริญสติ คือ ทำอะไรคอยรู้ตัว อารมณ์ขุ่นมัวก็พัก รู้จักเวลา ปล่อยวางปัญหา คิดแก้ปัญหาตอนที่จิตใจเบิกบาน แล้วค่อยๆแก้ปัญหาไปทีละขั้นๆ ทำใจให้เบิกบาน อดทน เพียร ปัญหาจะค่อยๆสะสางไป
     
  5. อินทรี

    อินทรี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    418
    ค่าพลัง:
    +562
    สวดต่อไปครับ สิ่งนี้เป็นสิ่งดีแล้ว แต่ไม่มีเจ้ากรรมเวรมาทวงแล้ว จะทำไปทำไมกัน ภาวนาด้วยการสวดมนต์เป็นทำสมาธิที่ดียิ่งอยู่แล้ว ภาวนาแบบลืมตา ทำไมจะว่าสิ่งนี้ทำไปแล้วไม่ดีล่ะ ถ้าบอกว่าไม่ดีมีปัญหาคงมีไม่กี่ข้อหรอก แต่ข้อดีและประโยชน์จากการสวดมีเป็นร้อยข้อ ยังงี้จะไม่สวดได้อย่างไรกัน
     
  6. บุคคลทั่วฺไป

    บุคคลทั่วฺไป เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤศจิกายน 2015
    โพสต์:
    2,160
    ค่าพลัง:
    +1,231
    พิจารณาดู คุณลำดับผิดขั้น คือ คุณ เอา บทชุมนุมเทวดาไปไว้ท้ายสุด
    การสวดบทชุมนุมเทวดานั้น หมายถึงการกล่าวอัญเชิญเทวดาให้มาฟังธรรม
    ส่วนบทเทวตาอุยโยชนะคาถานั้นคือบทสวดสำหรับอัญเชิญเทวดากลับ

    คุณสวดบทอัญเชิญเทวดาให้มาฟังธรรม เสร็จแล้วก็ไล่กลับทันที(ล้อเล่นกันหรือเปล่า)
    เรียกมาแล้วไล่กลับทันทีเนี่ยะนะ ทำแบบนี้มันเหมือนล้อเทวดาเล่น จึงอาจทำให้มีโทษ

    อีกอย่างหนึ่ง ผู้ที่สามารถกล่าวอัญเชิญเทวดามาได้ ต้องเป็นผู้มีศีล มีธรรม มีบารมีแก่กล้า อย่างเช่นพระสงฆ์นั้น อย่างน้อยท่านมีศีล ๒๒๗ ข้อ จึงไม่มีโทษ
    แต่คุณไม่ใช่พระสงฆ์ ซ้ำบุญบารมียังไม่แก่กล้า ไปทำเข้าก็อาจจะมีโทษมากกว่าคุณ

    เพราะฉะนั้น ข้อแนะนำคือ เลิกสวดบทชุมชุมเทวดา เพราะคุณไม่ใช่พระสงฆ์
    บารมียังไม่แก่กล้า ไม่สมควรทำ
    โดยเฉพาะการกล่าวเชิญเทวดาแล้วไล่กลับทันทีนั้น เหมือนเป็นการลบหลู่ท่าน

    ถ้าจะสวดก็ขอให้สวดแบบธรรมดา ตั้งนะโมแล้วก็ว่าไปเลย
     
  7. บุคคลทั่วฺไป

    บุคคลทั่วฺไป เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤศจิกายน 2015
    โพสต์:
    2,160
    ค่าพลัง:
    +1,231
    สรูปสั้นๆง่ายคือ ไปกล่าวบทอัญเชิญเทวดาแบบพร่ำเพรื่อ ไม่เหมาะสมนั่นเอง จึงถูกลงโทษเอา
     
  8. Fallenz

    Fallenz ○~พบแล้ว เจอแล้ว เสวนาแล้ว ที่เหลือแล้วแต่วาสนา~●

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มีนาคม 2017
    โพสต์:
    555
    ค่าพลัง:
    +733
    เรียกมาปุ๊บ ไล่กลับปั๊บ บ่นกันน่าดู เอิ้กๆ
     
  9. เเสงเทียน

    เเสงเทียน Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มกราคม 2017
    โพสต์:
    135
    ค่าพลัง:
    +154
    ชุมนุมเทวดาผมเพิ่งมาท่อง 1 เดือนที่ผ่านมานี่เองครับ ตอนนี้ก่อนสวดมนต์เลยท่องก่อนเลย ล่าสุด เมื่อวานนี้ มาท่อง ยอดพระกัณท์พระไตรปิฏก เค้า สวดคาถาอื่น 100 ปีไม่เท่าสวดบทนี้ ครั้งเดียว ผมก็เอาซะหน่อยสวดประมาณ 15-20 นาทีพอได้ รีบสวดหน่อยก็ประมาณ 1 ชั่วโมง มาถึงมีเรื่องเลย ผมโดนกล่าวหาในสิ่งที่ผมไม่ได้ทำเเละวันนี้ก็มีเเต่คนรุมประนามผมในสิ่งที่ไม่ได้ทำ
     
  10. เเสงเทียน

    เเสงเทียน Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มกราคม 2017
    โพสต์:
    135
    ค่าพลัง:
    +154
    จริงหรือครับ ขอบคุณครับ
     
  11. เเสงเทียน

    เเสงเทียน Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มกราคม 2017
    โพสต์:
    135
    ค่าพลัง:
    +154
    สรุปคนปกติต้องสวดชุมนุมเทวดาเปล่าครับ
     
  12. ปราบเทวดา

    ปราบเทวดา ลอยลำ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กุมภาพันธ์ 2017
    โพสต์:
    6,265
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +4,762
    ต่อไปลองทำตามนี้ครับ เจ้าของกระทู้
    เรียงให้ครับ


    ในเวลา 24 ชั่วโมง ของ 1วัน

    ให้เลือกเวลา ที่เป็น ร่องเวลาที่เรา สามารถทำได้ทุกวัน
    หากถนัดก่อนนอนก็ฝึกก่อนนอน
    หากถนัดตอนเช้าตรู่ก็ฝึกตอนเช้าตรู่
    หากถนัดตอนกลางวันก็ฝึกกลางวัน
    โดยทำดังนี้คือ

    อาบน้ำชำระร่างกายแล้ว ให้สวดมนต์ตามนี้

    ระลึกถึงคุณพระรัตนะตรัย


    กราบ ๕ ครั้ง


    กล่าวคำขอขมาว่าดังนี้

    ข้าพเจ้า ขอขมากรรม พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์
    ครูบาอาจารย์
    บิดามารดา
    เจ้ากรรมนายเวร
    และสิ่งศักสิทธิ์ทั้งหลาย
    กรรมอันใด ที่ข้าพเจ้า ได้ล่วงเกิน
    ด้วย กายก็ดี ด้วยวาจาก็ดี ด้วยใจก็ดี ตั้งใจก็ดี ไม่ตั้งใจก็ดี รู้เท่าไม่ถึงการณ์ก็ดี
    ขอทุกท่าน โปรดอโหสิกรรม ให้ข้าพเจ้าด้วยเทอญ

    อิมินา สักกาเรนะ พุทธัง ปูเชมิ
    อิมินา สักกาเรนะ ธัมมัง ปูเชมิ
    อิมินา สักกาเรนะ สังฆัง ปูเชมิ
    อิมินา สักกาเรนะ อาจาริยานัง ปูเชมิ
    อิมินา สักกาเรนะ มาตาปิตุนัง ปูเชมิ


    อะระหังสัมมา สัมพุทโธ ภะคะวา พุทธัง ภะคะวันตัง อะภิวาเทมิ (กราบ )
    สะวากขาโต ภะคะวะตาธัมโม ธัมมัง นะมัสสามิ (กราบ )
    สุปฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ สังฆัง นะมามิ (กราบ )
    มัยหังมาตาปิตูนังวะ ปาเท วันทามิ สาคะรัง (กราบ)
    ปัญญาวุฒฑิ กะเรเตเต ทินโนวาเท นะมามิหัง (กราบ)

    อาราธะนาศีล ๘

    ข้าพเจ้า ขอตั้งสัจจะบาระมี จะขอรักษาศีล ๘ ให้ได้ ตลอดการสวดมนต์ภาวนานี้

    อะหังภันเต ติสะระเนนะสะหะ อัฐฐะ ศีลานิยาจามิ
    ทุติยัมปิ อะหังภันเต ติสะระเนนะสะหะ อัฐฐะ ศีลานิยาจามิ
    ตะติยัมปิ อะหังภันเต ติสะระเนนะสะหะ อัฐฐะ ศีลานิยาจามิ

    ๑. ปาณาติปาตา เวระมณี สิกขา ปะทัง สะมาธิ ยามิ

    ๒. อะทินนา ทานา เวระมณี สิกขา ปะทัง สะมาธิ ยามิ

    ๓. อะพรัมมะจะริยา เวระมณี สิกขา ปะทัง สะมาธิ ยามิ

    ๔. มุสาวาทา เวระมณี สิกขา ปะทัง สะมาธิ ยามิ

    ๕. สุราเมระยะ มัจชะ ปะมา ธะฐานา เวระมณี สิกขา ปะทัง สะมาธิ ยามิ

    ๖. วิกาละโภชะนา เวระมณี สิกขา ปะทัง สะมาธิ ยามิ

    ๗. นัฏจะคีตะวาฐิตะ วิสูกะทัศสะนา มาลาคันธะ วิเลปะนะ ธาระนะ
    มันฑะนะ วิภูสะนัฏฐานา เวระมณี สิกขา ปะทัง สะมาธิ ยามิ

    ๘. อุจจา สะยะนะ มะหา สะยะนา เวระมณี สิกขา ปะทัง สะมาธิ ยามิ

    อิมานิ อัฐฐะ สิกขา ปะทานิ สะมาธิยามิ
    อิมานิ อัฐฐะ สิกขา ปะทานิ สะมาธิยามิ
    อิมานิ อัฐฐะ สิกขา ปะทานิ สะมาธิยามิ

    ต่อด้วยบทนี้

    ชุมนุมเทวดา

    สะรัชชัง สะเสนัง สะพันธุง นะรินทัง
    ปะริตตานุภาโว สะทา รักขะตูติ ผะริตวานะ
    เมตตัง สะเมตตา ภะทันตา อะวิกขิตตะจิตตา
    ปะริตตัง ภะณันตุ
    สัคเค กาเม จะรูเป คิริสิขะระตะเฏ
    จันตะลิกเข วิมาเน ทีเป รัฏเฐ จะ
    คาเม ตะรุวะนะคะหะเน เคหะ
    วัตถุมหิ เขตเต ภุมมา จายันตุ เทวา
    ชะละถะละ วิสะเม ยักขะคันธัพพะนาคา
    ติฏฐันตา สันติเกยัง มุนิวะระวะ จะนัง
    สาธะโว เม สุณันตุ
    ธัมมัสสะวะ นะกาโล อะยัมภะทันตา
    ธัมมัสสะวะ นะกาโล อะยัมภะทันตา
    ธัมมัสสะวะ นะกาโล อะยัมภะทันตา

    ต่อด้วย บทนี้

    นะโมตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมา สัมพุท ธัสสะ
    นะโมตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมา สัมพุท ธัสสะ
    นะโมตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมา สัมพุท ธัสสะ


    พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
    ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ
    สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ


    ทุติยัมปิ พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
    ทุติยัมปิ ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ
    ทุติยัมปิ สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ


    ตะติยัมปิ พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
    ตะติยัมปิ ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ
    ตะติยัมปิ สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ


    (ต่อด้วย)

    บทนำ ธัมมจักกัปปวัตตนสูตร


    อนุตตะรัง อภิสัมโพธิง สัมพุชฌิตวา ตะถาคะโต
    ปะฐะมัง ยัง อะเทเสสิ ธัมมะจักกัง อะนุตตะรัง
    สัมมะเทวะ ปะวัตเตนโต โลเก อัปปะฏิวัตติยัง
    ยัตถากขาตา อุโภ อันตา ปะฎิปัตติ จะ มัชฌิมา
    จะตูสวาริยะสัจเจสุ วิสุทธัง ญาณะทัสสะนัง
    เทสิตัง ธัมมะราเชนะ สัมมาสัมโพธิกิตตะนัง
    นาเมนะ วิสสุตัง ธัมมะจักกัปปะวัตตะนัง
    เวยยากะระณะปาเฐนะ สังคีตันตัมภะณามะ เส ฯ

    ต่อด้วย


    ธัมมจักกัปปวัตตนสูตร
    ธารณปริตร
    ขันธะปะริตตะคาถา
    ชินบัญชร
    ยอดพระกัณฯ

    อิติปิโส (พุทธคุณ ธรรมคุณ สังฆคุณ)
    พาหุง มหากาฯ

    จากนั้นให้กรวดน้ำ( บท อิมินา)

    กรวดน้ำอิมินา
    อิมินา ปุญญะกัมเมนะ อุปัชฌายา คุณุตตะรา
    อาจริยูปะการา จะ มาตาปิตา จะ ญาตะกา (ปิยา มะมัง)
    สุริโย จันทิมา ราชา คุณะวันตา นะราปิ จะ
    พรัหมะมารา จะ อินทา จะ๑ โลกะปาลา จะ เทวะตา
    ยะโม มิตตา มะนุสสา จะ มัชฌัตตา เวริกาปิ จะ
    สัพเพ สัตตา สุขี โหนตุ ปุญญานิ ปะกะตานิ เม
    สุขัง จะ ติวิธัง เทนตุ ขิปปัง ปาเปถะ โว มะตัง ฯ
    อิมินา ปุญญากัมเมนะ อิมินา อุททิเสนะ จะ
    ขิปปาหัง สุละเภ เจวะ ตัณหุปานทานะเฉทะนัง
    เย สันตาเน หินา ธัมมา ยาวะ นิพพานะโต มะมัง
    นัสสันตุ สัพพะทา เยวะ ยัตถะ ชาโต ภะเว ภะเว
    อุชุจิตตัง สะติปัญญา สัลเลโข วิริยัมหินา
    มารา ละภันตุ โนกาสัง กาตุญจะ วิริเยสุ เม
    พุทธาทิปะวะโร นาโถ ธัมโม นาโถ วะรุตตะโม
    นาโถ ปัจเจกะพุทโธ จะ สังโฆ นาโถตตะโร มะมัง
    เตโสตตะมานุภาเวนะ มาโรกาสัง ละภันตุ มา ฯ

    ต่อด้วย

    อิทัง เม มาตาปิตูนัง โหตุ สุขิตา โหนตุ มาตาปิตะโร
    ขอส่วนบุญนี้จงสำเร็จ แก่มารดาบิดาของข้าพเจ้า
    ขอให้มารดาบิดาของข้าพเจ้า
    จงมีความสุข
    อิทัง เม ญาตินัง โหตุ สุขิตา โหนตุ ญาตะโย
    ขอส่วนบุญนี้จงสำเร็จ แก่ญาติทั้งหลายของข้าพเจ้า
    ขอให้ญาติ ทั้งหลายของข้าพเจ้า จงมีความสุข
    อิทัง เม ครุปัชฌายาจริยานัง โหตุ สุขิตา โหนตุ
    ครุปัชฌายาจริยา
    ขอส่วนบุญนี้จงสำเร็จแด่ครูอุปัชฌาย์อาจารย์ของข้าพเจ้า
    ขอให้ครูอุปัชฌาย์อาจารย์ของข้าพเจ้า จงมีความสุข
    อิทัง เทวะตานัง โหตุ สุขิตา โหนตุ เทวะตาโย
    ขอส่วนบุญนี้จงสำเร็จเเก่เทวดาทั้งหลาย
    ขอให้เทวดาทั้งหลาย จงมีความสุข

    อิทัง เปตานัง โหตุ สุขิตา โหนตุ เปตะโย
    ขอส่วนบุญนี้จงสำเร็จแก่เปรตทั้งหลาย ขอให้เปรตทั้งหลาย
    จงมีความสุข
    อิทัง สัพพะสัตตานัง โหตุ สุขิตา โหนตุ สัพเพ สัตตา
    ขอส่วนบุญนี้จงสำเร็จ
    แก่สัตว์ทั้งปวงขอให้สัตว์ทั้งหลายทั้งปวง จงมีความสุข

    ต่อด้วย
    เทวตาอุยโยชะนะคาถา

    จบ

    กราบพระ
    อะระหังสัมมา สัมพุทโธ ภะคะวา พุทธัง ภะคะวันตัง อะภิวาเทมิ (กราบ )
    สะวากขาโต ภะคะวะตาธัมโม ธัมมัง นะมัสสามิ (กราบ )
    สุปฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ สังฆัง นะมามิ (กราบ )
    มัยหังมาตาปิตูนังวะ ปาเท วันทามิ สาคะรัง (กราบ)
    ปัญญาวุฒฑิ กะเรเตเต ทินโนวาเท นะมามิหัง (กราบ)
     
  13. ปราบเทวดา

    ปราบเทวดา ลอยลำ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กุมภาพันธ์ 2017
    โพสต์:
    6,265
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +4,762
    หากมีโอกาส หาดอกบัวตูม สีชมพู หรือบัวหลวง
    มาบูชาพระ ก่อนสวดมนต์ด้วยก็ดีครับ

    บางโอกาส ดอกบัวจะบานและตั้งชี้ฟ้า เมื่อจิตคุณเป็นสมาธิ ตามลำดับ
     
  14. บุคคลทั่วฺไป

    บุคคลทั่วฺไป เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤศจิกายน 2015
    โพสต์:
    2,160
    ค่าพลัง:
    +1,231
    บทสวดชุมนุมเทวดา คือบทสวดที่ใช้อัญเชิญเทวดามาร่วมพิธี ในเวลาที่ประกอบพิธีกรรมที่สำคัญๆครับ
    เช่น พิธีสวดเจริญพระพุทธมนตร์เจ็ดตำนาน พิธีพุทธาภิเษก พิธีบวงสรวงต่างๆ
    ดังนั้นจึงไม่ควรนำมาสวดพร่ำเพรื่อเป็นว่าเล่น
    ยกเว้นว่าเป็นผู้ที่สวดมนตร์ปฏิบัติธรรมจนบารมีแก่กล้าแล้ว
    (มีบารมีและคุณธรรมสูงกว่าเทวดาจนเทวดาท่านมีความนับถือ) จึงจะไม่มีโทษ
    แต่หากเป็นคนธรรมดา นำมาสวดโดยไม่มีเหตุอันสมควร
    ก็อาจจะเป็นโทษได้ครับ

    ในตำนานของบทสวดชุมนุมเทวดานั้น กล่าวว่า สามเณรสังกิจ ซึ่งสำเร็จ
    เป็นอรหันต์แล้ว เป็นผู้ไปป่าวประกาศเชิญชวนเทวดาให้มาฟังธรรม
    ฉะนั้น บทนี้เราจึงไม่ควรนำมาสวดพร่ำเพรื่อตามใจชอบ เพราะอาจจะเกิดโทษได้
    แต่ควรใช้เมื่อมีงานพิธีสำคัญๆ
    หรือเมื่อเราสวดมนตร์ปฏิบัติธรรมจนบารมีแก่กล้าแล้วเท่านั้น
    จึงทำได้โดยไม่มีโทษ
     
  15. ปราบเทวดา

    ปราบเทวดา ลอยลำ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กุมภาพันธ์ 2017
    โพสต์:
    6,265
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +4,762
    สรุปให้ครับ

    หากเชิญเทวดามา ก็ต้องเชิญกลับครับ
    มันหมายถึงมารยาท อันนี้ภาษาบ้านๆ


    การสวดบทธัมจักร

    บทนี้เป็นการสาธยาย คำสอนพระพุทธเจ้าครั้งแรก

    ฉะนั้นแล้ว หากเราจะสาธยายคำสอนพระพุทธเจ้า
    การเชิญผู้หลักผู้ใหญ่ มาฟังด้วย จะทำให้มีอานิสงฆ์มาก

    มันเหมือนๆกับว่า

    การทำความดีคนเดียว มันก็ดี
    การทำความดีแล้วชวนคนอื่นทำความดีด้วย มันก็ดียิ่งขึ้น

    ไม่เกี่ยวกับว่า เราจะมีบารมีมากหรือน้อยถึงจะเชิญได้
    มันอยู่ที่ว่า เราตั้งใจทำความดีด้วยความจริงใจหรือไม่

    อีกอย่าง
    การจะเชิญเทวดามาฟังธรรม ต้องเชิญก่อนที่เราจะสาธยายธรรม

    เมื่อสาธยายธรรมเสร็จก็กรวดน้ำอุทิศบุญ ทุกครั้ง
    และก็เชิญเทวดาเขากลับ

    ห้องพระที่บ้านก้จะกลายเป็นวัดที่บ้าน
     
  16. kpangam

    kpangam เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤษภาคม 2013
    โพสต์:
    40
    ค่าพลัง:
    +834
    ผมขอตอบด้วย ประสบการณ์ตรงเลยนะครับ

    ถ้าคุณสวดมนต์ เยอะๆ จะมี สัมภเวสี และมารต่างๆ ที่อยากได้บุญจากคุณ มาทำให้คุณเดือดร้อน เพื่อจะบีบให้คุณอุทิศ ผลบุญให้พวกเขา ยิ่งนั่งสมาธิ มีแสงสว่างจากบุญมากๆ ยิ่งโดนกลั่นแกล้งครับ

    ส่วนที่เป็นเจ้ากรรมนายเวรโดยตรง อาจจะมีบ้าง แต่ไม่น่าจะเยอะ
    หลักๆคือ มีพวกที่อยากได้บุญ มาทำให้คุณเดือดร้อนเพื่อไถบุญ

    วิธีการแก้ไข คือ มีครูบาอาจารย์สอนกรรมฐาน ก่อนนั่งก็อัญเชิญครูบาอาจารย์จากเบื้องบนมาคุ้มครองเวลานั่งสมาธิ ท่านจะนั่งสมาธิได้สบาย ไม่มีภูตผีมารบกวน หลังจากนั่งเสร็จให้อุทิศผลบุญให้ครูบาอาจารย์ท่านด้วย รวมถึงบรรพบุรุษ และผู้มีพระคุณทั้งหลาย

    ห้าม อุทิศให้ สัมภเวสี เปรต หรือ วิญญาณที่ไม่รู้จัก เพราะเป็นการดึงพวกนี้ ให้เข้ามาติดตามคุณ และไถบุญจากคุณเรื่อยๆ เวลาที่พวกนี้ต้องการบุญก็จะมาทำให้คุณเดือดร้อน เพราะรู้ว่าคุณจะนั่งสมาธิหรืออุทิศผลบุญให้ เหมือน คนหาเช้ากินค่ำที่ถูก อันธพาลไถเงินทุกวัน

    คุณคิดว่า จ่ายเงินให้อันธพาล แล้วแก้ปัญหาได้ถาวรไหม ไม่รู้จักกันตั้งแต่แรก น่าจะดีกว่า
    หรือไม่งั้นก็อยู่กับตำรวจ หรือมี อาวุธครบมือไว้กับตัว พวกนี้ก็จะไม่มากวน

    ที่ผมบอกอย่างนี้เพราะผมโดนมาก่อน

    ทุกวันนี้ ยังแก้ไขไม่ได้เท่าไหร่ เพราะโดนเบียนมาเป็นสิบปี แล้วพึ่งรู้ตัว
     
  17. วรณ์นิ

    วรณ์นิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2016
    โพสต์:
    6,083
    ค่าพลัง:
    +3,024
    การสวดมนต์ สวดมาก เขาสวดเพื่อ เป็นเกราะคุ้มภัย และ ทำร้าย วิญญาณ ด้วย แปลว่า ระราน วิญญาณ อื่นโดยไม่ตั้งใจ

    การชุมนุมเทวดา ก็เช่นกัน...เชิญมาเพื่อ ให้เทวดาเป็นสักขีพยานในการ ปฏิบัติธรรม ทำบุญ ของตนเอง และต้อง มีการเชิญ เทวดากลับด้วย เชิญมาทิ้งๆขว้างๆ เป็นบาปแก่ตน ด้วยนะ

    ควรจะฝึกแผ่เมตตา ก่อน จนจิตตน มีพลังดี พลังเมตตา กับ ทุกวิญญาณ ทุกภพภูมิ แบบนี้จะดีกว่า

    สวดมนต์พร่ำเพรื่อ...ก็เป็นบาปได้นะครับ
     
  18. บุคคลทั่วฺไป

    บุคคลทั่วฺไป เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤศจิกายน 2015
    โพสต์:
    2,160
    ค่าพลัง:
    +1,231
    สวดมนตร์แล้วมีแต่เรื่อง....แปลก...
    ถ้าคิดดูในแง่เวรกรรม อาจเป็นไปได้ว่า ชาติที่แล้วชอบไปรบกวนขณะที่พระเขากำลังสวดมนตร์อยู่
    หรือมิฉะนั้น ก็เคยเป็นพวกมุสลิม ที่ถือดาบไล่ฆ่าพระ ขณะที่พระกำลังถือลูกประคำหลับตา
    สวดมนตร์อยู่ เวรกรรมอันนั้นก็เลยกลับมาดลบันดาลให้ ถึงคราวที่ตนเองจะต้องสวดมนตร์บ้าง จึงมีแต่เรื่อง
    (ให้ระวัง อย่าไปสวดมนตร์กลางแจ้ง เพราะอาจจะมีคนถือมีดมาปาดคอเอาได้)

    อันนี้เดาเอานะ ว่าไปตามเหตุผล
     
  19. บุคคลทั่วฺไป

    บุคคลทั่วฺไป เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤศจิกายน 2015
    โพสต์:
    2,160
    ค่าพลัง:
    +1,231
    คือพวกไหนบ้่าง ที่ควรจะรับกรรมแบบนี้

    ๑. พวกมารที่เคยยกทัพไปราวีพระพุทธเจ้าขณะที่พระองค์กำลังหาทางตรัสรู้
    พวกนี้น่าจะมารับกรรม เมื่อถึงคราวที่ตนต้องมาทำความเพียรบ้าง ก็จะมีผู้มารบกวน ดังนั้น โบราณจึงห้ามไปรบกวนในขณะที่คนนั่งสมาธิอยู่

    ๒. พวกที่เคยเกิดเป็นเดียรถีย์ เคยกลั่นแกล้งพระ รังแกพระ ทำร้ายพระ ใส่ร้ายพระ พวกนี้พอถึงเวลาต้องมาใช้กรรม
    คิดขอความช่วยเหลือจากพระ จึงมีพวกที่คอยมากลั่นแกล้ง เพราะเวรกรรมที่เคยทำกับพระมาก่อน แล้วพระก็ไม่อยากคุ้มครอง

    ๓. พวกโจรใต้ ที่ชอบวางระเบิดฆ่าพระ เอาปืนยิงพระ
    พวกนี้ถ้ากลับมาเกิดใหม่ เวลาชดใช้กรรม พระไม่คุ้มครอง

    ๔.พวกชั่วร้าย ที่ลักลอบตัดเศียรพระพุทธรูปเอาไปขาย ทำลายศาสนวัตถุ ทำลายศาสนสถาน
    พวกนี้ไม่สมควรได้รับการคุ้มครองจากพระ เทวดาสาปแช่ง

    ๕.พวกที่เคยยุยงให้สงฆ์แตกแยก ทะเลาะเบาะแว้งกัน
    พอหมดเวรหมดกรรมแล้ว มาเกิดเป็นมนุษย์ เกิดสำนึกได้
    คิดหวังจะพึ่งพระ แต่ก็ให้มีอันเป็นไป เวรกรรมที่เคยทำไว้มาขัดขวาง ยิ่งขอความช่วยเหลือจากพระยิ่งมีแต่เรื่อง


    ลองไปขอให้ครูบาอาจารย์ที่มีญาณหยั่งรู้ เขาช่วยดูให้ ว่ามีเวรกรรมแบบที่ว่ามานี้หรือเปล่า
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 เมษายน 2017

แชร์หน้านี้

Loading...