การเดินทางและความคิดของกาขาว (เตรียมพร้อมรับภัยพิบัติ)

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย karan20, 19 เมษายน 2012.

  1. karan20

    karan20 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2010
    โพสต์:
    1,297
    ค่าพลัง:
    +2,379
    เนื่องจากตอนนี้มีกระแสการเตือนและการทำนายภัยพิบัติหลายกระแส
    ทำเอาหลายคนรู้สึกสับสนว่าจะเชื่อใครดี
    บางทีนักเตือนภัยท่านก็มีความเห็นแย้งกันเอง
    คิดเล่น ๆ ว่า ทำไมท่านเหล่านั้นไม่ประชุมกันแล้วตกลงกันซะก่อนว่าจะเอาไง
    คนอ่านที่เป็นคนธรรมดาไม่มีญาณและไม่ได้ใกล้ชิดผู้มีญาณจะได้ไม่สับสน
    นั่นก็แค่คิดเล่น ๆ

    มาคิดจริง ๆ ว่าจะเอาไงดีนะ
    เดือนเมษายน - พฤษภาคมนี้จะมีภัยพิบัติร้ายแรงทั่วประเทศไทยหรือทั่วโลกพร้อมกันหรือไม่

    ข้อมูลจากท่าน อริยะบุญ (ตุ้ย) ไม่เห็นว่ามีภัยพิบัติระดับมหาภัยพิบัติในช่วงเดือนเมษายนและพฤษภาคม 2555
    เช่นเดียวกับผู้เขียนก็รู้ (สึก) ว่าจะยังไม่มีภัยพิบัติระดับมหาภัยพิบัติเกิดขึ้นในช่วง 2 เดือนดังกล่าว

    ผู้เขียนวิเคราะห์ต่อไปว่า การจะเกิดภัยพิบัติรุนแรงระดับมหาภัยพิบัติได้นั้นต้องมีสัญญาณบอกเหตุุ
    มหาภัยพิบัติระดับโลกแบบนั้นมันต้องมีอะไรบ่งชี้บ้าง อย่าประมาทแต่ก็อย่าตื่นตระหนก

    1. การเกิดภัยพิบัติระดับย่อยและระดับใหญ่เช่นสึนามิหรือแผ่นดินไหวในหลาย ๆ พื้นที่
    หรือแม้แต่ในเมืองหลวงนั้นอาจมีขึ้นได้
    แต่การที่จะเกิดเหตุการณ์รุนแรงขนาดมหาภัยพิบัติทั่วประเทศและทั่วโลกพร้อมกันได้นั้น
    ต้องมีพลังงานขนาดใหญ่จากนอกโลกเป็นตัวกระตุ้นหรือเป็นตัวกระทำ
    อ้างอิงจากข้อมูลของพระอาจารย์รัตน์คือ การเปลี่ยนแปลงของระบบสุริยจักรวาล
    ซึ่งจะเกิดขึ้นทุก ๆ 13,000 ปี และในรอบนี้คือระหว่างวันที่ 21 ธ.ค. 55 – 14 ก.พ. 56

    ล่าสุดเมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2555
    มีข้อมูลจากลูกศิษย์พระอาจารย์รัตน์ระบุว่าจะเกิดมหาภัยพิบัติที่รุนแรงใน วันที่ 1 มกราคม 2556
    ซึ่งข้อมูลนี้สอดคล้องกับข้อมูลของคุณลุงเชียงใหม่และเด็กชายปลาบู่
    และข้อมูลจากการสัมมนาภัยพิบัติที่จัดขึ้นโดยศูนย์เตรียมการรับมือมหาภัยพิบัติ มหาสุรสิงหนาท

    อ่านเพิ่มเติมจาก แสงสว่างที่ปลายทางรอด

    ดังนั้นผู้เขียนวิเคราะห์ว่าในช่วง 2 เดือนดังกล่าวนั้นอาจมีภัยพิบัติ
    แต่จะไม่ใช่ภัยพิบัติรุนแรงในระดับมหาภัยพิบัติ
    แต่ทั้งนี้ต้องไม่ประมาทภัยพิบัติแบบเฉพาะจุด เช่น แผ่นดินไหวที่จะส่งผลต่อประเทศไทยในหลายจุด
    รวมถึงแผ่นดินไหวที่กระทบต่อกรุงเทพ และสึนามิในภาคใต้


    2. ผู้เขียนวิเคราะห์ว่าก่อนที่จะมีการจะเกิดมหาภัยพิบัติรุนแรงนั้น
    คาดว่าจะมีเหตุการณ์อื่น ๆ ที่จะต้องเกิดขึ้นก่อนคือ
    คนไกลคนนั้นจะได้กลับบ้าน หรือมีการปฏิวัติ
    หรือมีการนองเลือดเนื่องจากการเมือง หรือมีพระถูกยึดเงินเสียก่อน
    คือให้โอกาสบางคนได้บรรลุผลการกระทำดีชั่วให้ถึงที่สุดของเจตนาแห่งตนเสียก่อน
    เพื่อที่จะได้มีการกวาดล้างใหญ่โดยธรรมชาติ


    3. ปีมะโรง (พ.ศ.2555 - 2556) "คนจะเปลี่ยนสภาพจากเดินเป็นคลาน"
    มะเส็ง (พ.ศ.2556 - 2557) ตลิ่งจะพัง แผ่นดินอธรรมจะถล่มเป็นทะเล
    นี่น่าจะเป็นคำบรรยายลักษณะของภัยพิบัติที่จะเกิดพร้อมกันทั่วโลก


    อย่างไรก็ตามหากเราเชื่อว่ามหาภัยพิบัติจะเกิดขึ้นในช่วงเวลานับตั้งแต่นี้ไปจนถึงปลายปี 2555
    ต่อเนื่องไปจนถึงกลางปี 2556
    คำถามคือจะต่างอะไรหากจะตัดสินใจออกจากพื้นที่เสี่ยงภัยไปสู่พื้นที่ปลอดภัยนับตั้งแต่บัดนี้หรือโดยเร็วที่สุด

    หากไม่ได้คิดจะปักหลักตายในพื้นที่เสี่ยงแต่คิดจะไปตั้งหลักสู้ในพื้นที่สูง
    จะต่างอะไรหากตั้งใจจะออกจากพื้นที่เสี่ยงภัยในเดือนนี้ เดือนหน้าหรือในอีก 6 เดือนข้างหน้า
    การออกไปโดยเร็วที่สุดย่อมมีโอกาสและเวลาในการเตรียมสถานที่ เตรียมกาย เตรียมใจ เตรียมจิต

    การตัดสินใจเดินทางเมื่อสถานการณ์บังคับ หรือล่าช้าเกินไปนั้นจะเข้าทำนอง
    เสียน้อยเสียยาก เสียมากเสียง่ายหรือไม่ ???
    การตัดสินใจที่ไม่เด็ดขาด อาจสูญเสียจนไม่มีอะไรหลงเหลือ

    การตัดสินใจที่ผิดพลาดอาจสูญเสียน้อยกว่าการลังเลไม่กล้าตัดสินใจหรือไม่ ?
    ถ้าตัดสินใจผิด คือออกจากพื้นที่เสี่ยงเร็วไปสัก 6 เดือน
    ก็อาจไม่เสียหายเท่าการลังเลใจ หรือตัดสินใจช้าไปเพียง 1 ชั่วโมงหรือไม่ ?



     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 เมษายน 2012
  2. suthipongnuy

    suthipongnuy ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    661
    ค่าพลัง:
    +1,428
    ช่วงนี้ข่าวภัยพิบัติโหมกระหน่ำมามากเหลือเกินครับ
    จนไม่รู้ว่าจะต้องทำอะไรกันแน่
    บางคนอาจจะ "เตรียมตัว" ไม่ทัน แต่ถ้าเป็นการ "เตรียมใจ" อาจจะพอไหว :cool:
     
  3. paitoon01

    paitoon01 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,483
    ค่าพลัง:
    +4,160
    ชอบการวิเคราะห์แบบนี้ครับแฝงไว้ด้วยคำแนะนำที่มีเหตุมีผลและเจือด้วยหลักธรรม
     
  4. พญาเสือดาว

    พญาเสือดาว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    452
    ค่าพลัง:
    +503
    เตียมปัจจัยสี่ไม่เท่ากับเตียมความพร้อมทางธรรม ปัจจัยสี่ทำให้รอดใด้เเต่ก็ในโลกนี่ ชาตินี่
    ไม่ใช้ความสุขที่เเท้จริงเเต่เตียมความพร้อมทางธรรม ทางจิตใจ ทางศีล สมาธิเเละปัญญาคือความสุขที่เเท่จริงถึงไม่รอดจากภัยพิบัติก็ตามเเต่ความดีที่เราเคยทำก็ตามเราไปโลกหน้าอย่างเเน่นอน
     
  5. ตาลเดี่ยว

    ตาลเดี่ยว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    195
    ค่าพลัง:
    +425
    ขอบคุณครับ คุณกาขาว ข้าพเจ้าก็คิดเช่นเดียวกับคุณ แต่สภาพแวดล้อมๆต่างๆที่เป็นอยู่บ้างครั้งก็ยากที่จะหนี คงต้องทำใจและหนีเท่าที่จะทำได้ครับ แต่ข้าพเจ้าก็เชื่อในสิ่งศักดิ์ที่ท่านเกจิอาจารย์ต่างๆได้บอกไว้ว่าผู้อยู่ในศีลในธรรมจะรอดปลอดภัย เพราะเขาต้องการกวาดล้างคนชั่วเท่านั้น
     
  6. GUYTHUM

    GUYTHUM เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2008
    โพสต์:
    1,356
    ค่าพลัง:
    +1,088
    ไม่ว่าคนชั่วหรือคนดี เมื่อถึงวาระแห่งกรรมก็จะตายพร้อมกันเกือบหมด....4444
     
  7. neoReloaded

    neoReloaded เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    142
    ค่าพลัง:
    +675
    ยกตัวอย่างเช่นดังในหนัง 2012 สึนามิใหญ่โตกวาดคนนับแสนนับล้านในคราวเดียวจะ 1 หรือ 10 หรือ 100 ในล้านคนย่อมจะมีคนดีในศีลในธรรมด้วยแน่ๆ แต่ถึงแม้จะถึงที่ตายก็คงเพียงตายแค่กายหยาบ หากเตรียมจิตพร้อมตายแล้วย่อมไปสู่แดนสุขาวดีแน่
     
  8. marine24

    marine24 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    2,224
    ค่าพลัง:
    +15,636
    การเตรียมพร้อมทั้งโลกและทางธรรม ก็คือ การตั้งอยู่บนความไม่ประมาท บางคนอาจจะอยู่ บางคนอาจจะต้องไปสู่ภพชาติต่อไป แล้วแต่ธรรมะจัดสรร
     
  9. pratoolek

    pratoolek Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มกราคม 2008
    โพสต์:
    36
    ค่าพลัง:
    +34
    ความคิดผมนะ ...หากเราเตรียมอาหารและสิ่งที่จำเป็นไปด้วยกับ ความพร้อมทางธรรม ย่อมดีไปด้วยนะครับ เพราะธรรมที่บริบูรณ์ก็ต้องดำรงชีวิตอยู่
     
  10. A-KiT

    A-KiT เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    174
    ค่าพลัง:
    +610
    เห็นด้วยกับคุณกาขาว หรือว่ายังไม่ถึงเวลาที่ท่านเหล่านั้นจะเปิดเผยตัว
     
  11. karan20

    karan20 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2010
    โพสต์:
    1,297
    ค่าพลัง:
    +2,379
    เพิ่งกลับจากการเดินทางไปวัดอัมพวัน ไปปฏิบัติกรรมฐานเป็นประจำทุกปี
    อย่างน้อยปีละ 1 ครั้งในวันคล้ายวันเกิดของตัวเอง

    หลวงพ่อจรัญท่านสอนว่าวันเกิดของเราคือวันคล้ายวันตายของแม่
    หลวงพ่อสอนให้ตั้งใจทำกรรมฐานตอบแทนคุณพ่อแม่


    ไปวัดอัมพวันรอบนี้ มีกาขาวเยอะเลยทีเดียว
    คนแต่งชุดขาวปฏิบัติธรรมกันมาก ทางวัดประกาศว่าเกือบ 2 พันคน
    แต่ก่อน 1 พันคนก็เยอะแล้ว และทางวัดไม่มีนโยบายไล่กลับ จึงรับไว้ทั้งหมด

    หลวงพ่อจะออกรับแขก 2 ช่วงเวลาคือเช้า 10.00 น. และบ่าย 14.00 น.
    ตอนจะลากลับผู้เขียนได้ไปกราบลาหลวงพ่อพร้อมกับญาติโยมท่านอื่นๆในรอบบ่าย
    ปีนี้หลวงพ่ออายุ 84 ปีแล้ว ท่านชราภาพและอาพาธแต่ท่านยังเมตตาออกรับแขก
    เพื่อไม่ให้ญาติโยมเสียกำลังใจที่เดินทางมาปฏิบัติธรรมและมากราบนมัสการท่าน
    ฟังเสียงท่านตอนให้ศีลให้พรแล้ว สะเทือนใจเพราะเสียงของท่านสั่นเครือ
    ผู้เขียนไม่ได้กำหนดว่าเสียงหนอ แต่น้อมเอาเสียงนั้นมาเป็นวิปัสสนา
    คือพิจารณาว่าสังขารคือขันธ์ 5 นี้มีความเสื่อมไปในที่สุดและเป็นทุกข์อย่างยิ่ง

    ฝากถึงลูกศิษย์หลวงพ่อจรัญว่าเวลาสวดมนต์และทำกรรมฐานเสร็จแล้ว
    อย่าลืมอุทิศบุญแด่พระเดชพระคุณหลวงพ่อจรัญด้วยนะครับ
    เพื่อเป็นการตอบแทนพระคุณหลวงพ่อ

    ที่ด้านหนึ่งของกุฏิหลวงพ่อจะมีรูปปั้นพระเจ้าตากสิน
    คงมีใครบางคนริเริ่มเอาตุ๊กตาไก่ไปวางถวาย
    หรือนี่คือความกตัญญูของคนไทยต่อสถาบันกษัตริย์ที่ได้กอบกู้แผ่นดินเกิดไว้
    ต่อจากนั้นก็มีคนทำตามกัน ตรงบริเวณนั้นเองจึงกลายเป็นชุมนุมตุ๊กตาไก่ขนาดย่อม
    นี่ขนาดพระลูกวัดท่านพยายามควบคุมประชากรตุ๊กตาไก่แล้วนะ
    คำถามคือ ไก่ ไปเกี่ยวอะไรกับพระเจ้าตาก ???
    ไก่ นี่เกี่ยวกับพระนเรศวรไม่ใช่เหรอ ????
    แต่พระนเรศวรท่านชนไก่ชนะแล้วท่านก็เอาไก่ไปปล่อยนะ ^_^


    มีคนกล่าวเปรียบเทียบว่าเมืองไทยขณะนี้เหมือนการเสียกรุงทั้งสองครั้ง
    โดยเฉพาะการเสียกรุงครั้งที่สอง ผู้คนขาดความสามัคคี มุ่งตักตวงประโยชน์ส่วนตน

    อีกไม่นานนี้ผู้เขียนตั้งใจจะเดินทางออกจากเมืองหลวงก่อนที่ข้าศึกจะเข้ามาล้อมประชิด
    มีผู้นำกลุ่มหลายท่านได้เตรียมตั้งชุมนุมย่อยๆ เพื่อการหลบภัยและเตรียมพร้อมกอบกู้ชาติและทำนุบำรุงพระศาสนา
    ผู้เขียนวางแผนจะไปเข้าร่วมด้วย แต่ยังไม่ได้ตัดสินใจแน่นอนว่าจะไปเข้ากับกลุ่มใด

    ผู้เขียนคิดบ่อยๆว่า คนธรรมดาตัวเล็กๆอย่างเราจะช่วยเหลือคนอื่นๆได้อย่างไรหนอ
    การเป็นกาคาบข่าวสารต่างๆ มาบอกญาติธรรมทุกท่านในเว็บพลังจิตแห่งนี้คือสิ่งที่คนตัวเล็กๆอย่างผู้เขียนนี้พอจะทำได้

    การไปกรรมฐานที่วัดในครั้งนี้นอกจากเป็นการตอบแทนผู้มีพระคุณแล้ว
    ผู้เขียนได้อธิษฐานจิตขอให้แคล้วคลาดจากภัยอันตราย
    และขอให้ตนมีกำลังกาย กำลังใจ กำลังสติปัญญา กำลังทรัพย์ เพื่อช่วยเหลือผู้อื่น

    หลวงพ่อจรัญสอนว่า กรรมฐานคือการแก้ปัญหาชีวิตที่ดีที่สุด

    ผู้เขียนขอเสนอว่า หากท่านผู้อ่านติดขัดมีปัญหาเรื่องการเตรียมการใดๆ
    เช่นคิดจะโยกย้ายหรือแสวงหาที่ปลอดภัย แต่ก็มีเรื่องติดขัดมีอุปสรรคขัดขวาง
    หรือบางครั้งอุปสรรคไม่ได้เกิดจากสิ่งใด แต่ใจตนเองนั่นล่ะคือปล่อยวางไม่ได้
    ท่านอาจลองพิจารณาการทำกรรมฐานแล้วอธิษฐานจิตเพื่อสร้างทางออกที่ดีแก่ตนเองและครอบครัว
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 เมษายน 2012
  12. Twana

    Twana เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กันยายน 2007
    โพสต์:
    294
    ค่าพลัง:
    +725
    เป็นข้อเสนอแนะที่ดีค่ะ จะไปทางไหนกลุ่มใด เอามาแชร์เรื่อยๆด้วยได้ไหมคะ เป็นวิทยาทานให้คนอื่นๆที่ยังเคว้งคว้าง จนกว่าเราจะเข้ามาพบกันที่นี่ไม่ได้อีกแล้ว
     
  13. karan20

    karan20 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2010
    โพสต์:
    1,297
    ค่าพลัง:
    +2,379
    ท่านที่เป็นลูกศิษย์หลวงพ่อจรัญ ย่อมทราบดีว่า
    หลวงพ่อเป็นพระสุปฏิปันโนที่น่าเคารพกราบไหว้
    และท่านไม่กล่าวอะไรเพ้อเจ้อเลื่อนลอย ไม่กล่าวอะไรที่เป็นไปในทางงมงายไร้สาระ
    แต่เมื่อวันที่ 14 มกราคม 2555 ท่านได้มอบคาถาไว้บทหนึ่ง...

    คาถาป้องกันภัยโดย หลวงพ่อจรัญ ฐิตธมฺโม วัดอัมพวัน

    "แม่ธรณีเจ้าเอ๋ย อยู่แล้วหรือยัง สังขาตัง โลกัง กะวิทู"

    คาถาป้องกันภัยที่หลวงพ่อท่านให้ไว้<WBR>ในวันทำบุญแผ่นดิน
    ใช้ท่องก่อนออกจากบ้าน ขึ้นรถ ลงเรือ กลั้นหายใจว่าคาถาแล้วจึงก้าว..<WBR>.


    ขอเชิญสาธุชนเก็บไปคิดพิจารณา
    นี่อาจเป็นคำเตือนจากหลวงพ่อหรือไม่ ?


    คัดลอกบางส่วนจาก
    คาถาป้องกันภัยและการสร้างพระเข้าตัว โดย หลวงพ่อจรัญ วัดอัมพวัน

    <!-- google_ad_section_end -->
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 เมษายน 2012
  14. karan20

    karan20 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2010
    โพสต์:
    1,297
    ค่าพลัง:
    +2,379
    <embed type="application/x-shockwave-flash" src="http://www.youtube.com/v/YCOsHJaeOrA?version=3&hl=th_TH" allowfullscreen="true" allowscriptaccess="always" height="480" width="640">

    หลวงพ่อดำ อายธัมโม วัดป่ารัตนพรชัย - YouTube

    หลวงพ่อดำ อายธัมโม วัดป่ารัตนพรชัย พูดเรื่องภัยพิบัติ<!-- google_ad_section_end -->

    ผู้เขียนไม่ได้รู้จักกับพระอาจารย์ดำเป็นการส่วนตัวและยังไม่เคยไปกราบนมัสการท่าน
    เมื่อได้ดูคลิปนี้แล้วมีความรู้สึกบางอย่าง
    ต่อมาจำได้ว่าพระอาจารย์รูปนี้เราเคยเห็นในหนังสือเล่มหนึ่งท่านได้เตือนเรื่องภัยพิบัติไว้
    หนังสือนั้นพิมพ์เมื่อปีพ.ศ. 2553

    ขอเล่าค้างไว้เพียงเท่านี้ก่อนเนื่องจากติดภาระกิจ


    ขอบพระคุณ คุณ navycom33 ที่นำมาโพสต์ในกระทู้ หลวงพ่อดำ อายธัมโม วัดป่ารัตนพรชัย พูดเรื่องภัยพิบัติ


    .
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 เมษายน 2012
  15. karan20

    karan20 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2010
    โพสต์:
    1,297
    ค่าพลัง:
    +2,379
    จากการวิเคราะห์ของผู้เขียน

    ตามคลิปดังกล่าวพระอาจารย์ดำท่านเตือนว่าน้ำจะเข้ากรุงเทพเดือนกรกฎาคมหรือสิงหาคม
    ซึ่งตรงกับความรู้ (สึก) ของผู้เขียนว่าจะมีเหตุการณ์ที่เป็นภัยสำคัญในเดือนกรกฏาและสิงหาคม
    เพียงแต่ผู้เขียนไม่รู้แน่ชัด ไม่กล้าเดาว่าจะเป็นภัยจากคนหรือภัยธรรมชาติในลักษณะใด

    ความจริงตามความรู้สึกของผู้เขียนนั้น
    เดาว่าตั้งแต่เดือนพฤษภาคมและเดือนมิถุนายนนั้นก็น่าจะมีเหตุการณ์ที่เป็นภัยแล้ว
    แต่ไม่รู้สึกถึงขนาดว่าจะเป็นมหาภัยพิบัติชนิดเกิดทั่วโลกหรือทั่วประเทศครั้งใหญ่พร้อมกัน


    หากความรู้สึกของผู้เขียนถูกต้อง หรือเดาถูก ก็น่าเป็นห่วงเดือนกรกฎาคมและสิงหาคม
    แม้ช่วงนั้นจะยังไม่ถึงกับเป็นมหาภัยพิบัติโลก แต่อาจจะมีผลกระทบต่อประเทศไทยที่ค่อนข้างน่าเป็นห่วง

    ส่วนในช่วงรอยต่อของปีพ.ศ. 2555 - 2556 นั้นน่าจะเป็นภัยขนาดใหญ่ชนิดที่กระทบกระเทือนทั้งโลก
    ทั้งนี้ผู้เขียนเชื่อในองค์ความรู้ของพระอาจารย์รัตน์เป็นหลัก และนำข้อมูลจากคุณลุงเชียงใหม่และเด็กชายปลาบู่
    ซึ่งบังเอิญตรงกันที่มีการเตือนถึงภัยในช่วงเทศกาลปีใหม่
    นอกจากนี้ยังพิจารณาจากข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ของ ดร.ก้องภพ


    .
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 เมษายน 2012
  16. karan20

    karan20 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2010
    โพสต์:
    1,297
    ค่าพลัง:
    +2,379


    อะไรเป็นสัญญาณก่อนเกิดภัยพิบัติครั้งรุนแรง ?





    ในปี 2553 ผู้เขียนได้พบหนังสือเล่มหนึ่งชื่อว่า
    สัญลักษณ์อาร์เธอร์นอล (Arternall Symbol) เขียนโดยผู้ใช้นามว่า อริอโศก
    ในหนังสือดังกล่าวได้เล่าถึงประสบการณ์เร้นลับต่างๆที่เกี่ยวข้องกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์
    เรื่องประสบการณ์ในการปฏิบัติธรรมและเรื่องเร้นลับต่างๆ ซึ่งหลายเรื่องเป็นความเชื่อส่วนบุคคล
    ในหนังสือได้กล่าวถึงพระอาจารย์ดำ เจ้าอาวาสแห่งวัดป่ารัตนพรชัย
    ว่าพระอาจารย์ดำเป็นครูบาอาจารย์ของท่านผู้ที่ใช้นามว่า อริอโศก

    เรื่องที่จะนำมาเล่าต่อไปนี้ปรากฏอยู่ในหนังสือของผู้ที่ใช้นามว่า อริอโศก ดังกล่าว
    ไม่ทราบว่าจริงเท็จประการใด ขอเชิญท่านผู้อ่านใช้วิจารณญาณ


    สัญลักษณ์อาเธอร์นอล นั้นหมายถึงสัญลักษณ์แห่งคุณงามความดี และอำนาจทำลายล้าง
    ถ้าคนดีได้ครอบครองก็จะเป็นประโยชน์แก่โลกและบุคคลทั้งหลาย
    แต่หากคนชั่วได้ครอบครองก็จะเป็นอาวุธทำลายล้างโลก เป็นหายนะแก่โลกและชีวิต

    ลักษณะของสัญลักษณ์อาเธอร์นอล มีลักษณะเป็นดวงแก้วกลมใสสว่างภายในมีรูปปิรามิด
    และมีรูปดวงตาอยู่ตรงกลางปิรามิด สัญลักษณ์นี้จะปรากฏก็ต่อเมื่อประเทศทั่วโลกถึงกาลวิบัติ
    และเกิดความวุ่นวาย ผู้คนล้มตาย โรคระบาดอย่างรุนแรง แผ่นดินทรุดตัว น้ำท่วมโลก

    สัญลักษณ์อาเธอร์นอลจะปรากฏพร้อมกับผู้มีบุญญาธิการสูงส่ง
    ซึ่งเป็นผู้ที่จะครอบครองสัญลักษณ์อาเธอร์นอลเพื่อช่วยเหลือโลกและสร้างเมืองขึ้นมา

    ในยุคแห่งพระเจ้าจักรพรรดินั้น บ้านเมืองจะเจริญรุ่งเรืองวิวัฒนาการเจริญก้าวหน้ากว่าทุกยุคสมัย
    ในช่วงนั้นจะบังเกิดผู้มีบุญ 2 ท่านสำคัญคือ อาญาสิทธิ์และอาญาธรรม

    อาญาสิทธิ์ คือพระเจ้าจักรพรรดิผู้มีอำนาจเด็ดขาด
    เป็นผู้ปกป้องศาสนาและสร้างโลก สร้างเมืองใหม่ ขจัดความอยุติธรรมทั้งหลายและยังเป็นผู้ทำลาย

    อาญาธรรม นั้นคือผู้นำศาสนาที่นำความเจริญแห่งพระธรรมของพระสัมมาสัมพุทธเจ้ามาสู่โลก
    ก่อนจะถึงศาสนาของพระศรีอาริยเมตไตรย

    ท่านทั้งสองนี้จะบังเกิดขึ้นแก่โลกในระยะเวลาไม่นานนับจากนี้

    ก่อนที่บุคคลทั้งสองจะปรากฏตัว ทุกๆประเทศในโลกจะต้องได้พบกับภัยพิบัติ
    และมีการสูญเสียดินแดนและสูญเสียประชากรครึ่งหนึ่งของประเทศ
    ผู้คนทั่วโลกจะล้มตายเป็นจำนวนมาก เพราะน้ำมากถึงสามส่วน ดินมีแค่ส่วนเดียว

    มนุษย์ทุกคนต่างหนีเอาตัวรอดจากภัยพิบัติ แต่บุคคลที่จะรอดได้นั้นจะต้องเป็นบุคคลที่มีศีลธรรม
    หรือทำความดีไว้มากกว่าทำความชั่ว จึงจะรอดพ้นจากภัยพิบัติครั้งนี้ได้

    เฉพาะประเทศไทยนั้นจะมีผู้เสียชีวิตถึงสามสิบล้านคน
    น้ำจะท่วมตั้งแต่เกาะสิงค์โปร์ ประเทศมาเลเซีย ภาคใต้ทั้งหมดถึงกรุงเทพมหานครจะจมอยู่ใต้น้ำทั้งหมด
    เนื่องมาจากคลื่นยักษ์ที่มีความเร็วมากกว่าที่เคยมีมาและสูงมากกว่าหนึ่งร้อยเมตร
    จะเกิดขึ้นอย่างแน่นอนและจะทำลายล้างทุกพื้นที่ในทางใต้ของประเทศทั้งหมด

    สำหรับภาคเหนือนั้นจะเกิดพายุหมุนที่มีความรวดเร็วรุนแรงและสูงมากกว่าร้อยเมตร
    หรือจะเรียกว่ามหาซุปเปอร์ทอร์นาโดร์เช่นเดียวกัน
    อีกทั้งแผ่นดินจะเกิดการทรุดตัวทำให้เกิดความเสียหายเป็นอันมาก
    พายุลมและคลื่นน้ำจะมาบรรจบรวมกันเป็นหนึ่งเดียว
    และจะทำลายทุกสิ่งทุกอย่างพินาศราบเป็นหน้ากลอง

    บุคคลที่ขาดคุณธรรมความดีจะถูกทำลายล้าง ผู้มีคุณธรรมความดีจะอยู่รอดจากภัยพิบัติ

    ก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์ทั้งหลายเหล่านี้สิ่งที่จะต้องพบภายในประเทศบ้านเมืองนี้คือ
    ผู้คนภายในประเทศจะขาดความสามัคคี
    ใส่ร้ายป้ายสียุยงให้แตกแยก แย่งชิงอำนาจเพื่อผลประโยชน์ส่วนตน
    ใครที่ขัดผลประโยชน์ก็คิดหาทางกำจัดออกไป เกิดการเปลี่ยนแปลง
    แย่งชิงอำนาจในระดับผู้นำทำให้บ้านเมืองเสียหายนำมาสู่ความล่มจม
    ส่วนประชาชนต่างแบ่งพรรคแบ่งพวก ไม่มีความสามัคคี
    จนเกิดเหตุการณ์บานปลายก่อให้เกิดสงครามกลางเมืองทำให้ผู้คนเสียชีวิตมากมาย
    นอกจากนี้ยังเกิดโรคระบาดร้ายแรงตามมาอีกก่อให้เกิดความสูญเสียเป็นอันมาก
    ภายหลังจากเกิดสงครามผู้คนล้มตายจำนวนมากจากการแย่งชิงอำนาจแล้วบ้านเมืองขาดผู้นำ
    ในช่วงนั้นก็จะเกิดภัยพิบัติที่เกิดขึ้นใหญ่โตด้วยพายุลมและคลื่นน้ำที่บังเกิดขึ้นพร้อมกัน

    และพัดทำลายทุกสรรพสิ่งในสภาวะอันน่าสะพรึงกลัวนั้น

    .
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 เมษายน 2012
  17. karan20

    karan20 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2010
    โพสต์:
    1,297
    ค่าพลัง:
    +2,379
    อะไรเป็นสัญญาณก่อนเกิดภัยพิบัติในปี 2555


    จากคำเตือนของหลวงปู่สรวง
    สัญญาณอันตรายน่าจะเป็นเหตุการณ์การต่อสู้นองเลือดทางการเมืองในปีพ.ศ. 2555
    โดยวิเคราะห์จากประโยคที่ว่า.....


    ต่อไปนี้ พ.ศ. 2555 คนเก่งอยู่ในเมืองไทย อยู่ที่ไหนก็ตามแต่ มุมไหนก็แล้วแต่
    พ่อ - แม่ - ญาติพี่น้อง ไม่ต้องสู้ จะตายหมด
    น้ำทะเลตีข้างล่างได้ครึ่งโลกแล้ว ไม่ใช่ครึ่งประเทศนะ ครึ่งโลกแล้ว
    มาบอกให้หยุดนะ ไม่ต้องอยากชนะกันให้ออกไป อย่ามีเวร อย่ามีกรรม

    ครั้งที่สองบอกอีก เป็นภาษาเขมรว่า ให้ออกก่อน

    "พวกที่ทำลายศาสนา พระมหากษัตริย์ ให้ออกไปก่อน นางนาคเป่าน้ำน้ำทะเลเต็มไปหมด"
    ให้มันไปแต่พวกนี้ ประมาณสองชั่วโมงกว่าๆ กลับเข้ามาก็ตีท่วมภูเขา มีทั้งดินมีทั้งโคลน


    ตอบ - แปลว่า ไม่ต้องกลัว 2555 นางนาคเป่าน้ำ ท่วมทั้งน้ำทั้งดิน ตายวอดวาย คนที่ไม่ดีตายหมด คนดีไม่ตาย

    "คนดีมันเป็น ไม่ตายจะรอด"

    ท่านบอกให้คอยดู แต่มาเป่านี่มันปี 2547 - 2550 ไม่ใช่สึนามินะ
    นางนาคสิเป่า ปี 55 แถวเราน้ำไม่มี
    เขาว่านางนาคเอาขึ้นข้างบน สามวันสามคืนก็เป็นลูกเห็บ ลูกที่หนึ่ง ลูกที่สอง
    ถูกใครตายระเนระนาด อย่าให้ถึงขนาดนั้น "คนดีไม่ตาย"


    แกว่างั้นนะ ถ้าคนมีศีลห้าไม่ถูก ก็เราไม่ได้กบฎพระเจ้าอยู่หัว
    คนที่กบฎ คนที่อยากชนะผืนแผ่นดินนี้ตายแน่
    จะยึดแผ่นดินเป็นหลักแค่นั้นแหละ ปีนี้นาคไม่ขึ้นที่หนองคาย นาคไม่ขึ้น





    <TABLE class=tablebg cellSpacing=1 width="100%"><TBODY><TR></TR><TR><TD align=middle>[​IMG]


    </TD></TR></TBODY></TABLE>หลวงปู่สรวง (เทวดาเล่นดิน)

    พูดถึงภัยพิบัติที่กำลังจะเกิดขึ้นอีกไม่นานนี้...


    พอดีผมพึ่งได้ซื้อหนังสือรวมเล่ม ประวัติอภินิหารและวัตถุมงคลของหลวงปู่สรวง ออยเตียนสรูล
    มาเมื่อประมาณเดือนที่แล้ว เป็นหนังสือรวมเล่มหนาจากนิตยสาร 'ลานโพธิ์'เคยลงเอาไว้
    และได้นำมารวมเล่มเป็นเล่มใหญ่ บอกตามตรงเมื่อก่อนผมไม่เคยรู้จักหลวงปู่สรวง
    แต่พอดีวันนี้ไปเดินซื้อหนังสือเล่น เจอหนังสือเล่มนี้น่าสนใจดีเลยซื้อมา

    อ่านๆไปจึงได้รู้ว่าอภินิหารของท่านมากจริงๆครับและยังมีเรื่องแปลกประหลาดอีกนับไม่ถ้วนจะเล่าก็คงไม่หมด
    ใครอยากอ่านลองตามหาอ่านตามแผงดูครับ

    และที่วันนี้มาตั้งกระทู้นี้ก็เพราะว่าผมก็อ่านหนังสือเล่มนี้ไปตามปกติแต่ยังอ่านไม่จบ
    วันนี้อ่านไปเจอตอนหนึ่งที่คิดว่าตรงกับสภาพความเป็นจริงในปัจจุบันมากๆ
    เป็นที่น่าแปลกใจจึงจะพิมพ์จากหนังสือมาให้เพื่อนสมาชิกได้อ่านกันครับ

    เรื่องเล่าเกี่ยวกับภัยพิบัตินี้ เป็นคำบอกเล่าจาก

    พระครูจันทธรรมานุโยค (ลมัย จันทโร) เจ้าอาวาสวัดโคกตาเขียว อ.สังขละ จ.สุรินทร์
    ซึ่งท่านได้เมตตาเล่าให้ทางนิตยสารลานโพธิ์ถึงเรื่องต่างๆ
    แต่ผมขอยกเรื่องที่ท่านเคยได้ยิน หลวงปู่สรวง พูดถึงเรื่องภัยพิบัติมาดังนี้
    (ขออภัยถ้าเคยอ่านแล้ว)

    ลป.สรวง พูดถึงภัยพิบัติ

    มีประมาณ ปี 2541 ลป.สรวง ท่านแวะมาที่วัดของหลวงพ่อลมัยในช่วงเข้าพรรษา
    และก่อนท่านจะจากไปท่านพูดเป็นภาษาเขมรกับหลวงพ่อลมัยว่า

    พ.ศ. 2550 ถึง 2555 หางนาคกวาดน้ำให้โลกมาได้ครึ่งหนึ่งแล้ว กำลังจะกวาดน้ำขึ้นมาล้างโลก
    จะเกิดน้ำท่วมใหญ่ คนไม่ดีไม่มีศีลธรรมจะล้มตายมาก ส่วนคนดีมีศีลธรรม จะอยู่รอดปลอดภัยได้

    หลวงพ่อลมัย ได้ถาม หลวงปู่สรวง ว่าถ้าน้ำท่วมมากขนาดนั้นคนดีก็คงไม่รอดเหมือนกันจะให้ทำอย่างไร
    หลวงปู่สรวงบอก 'คาถาเป่าน้ำ' ให้ไม่ท่วมร่างกายแก่หลวงพ่อลมัยว่า

    "อุ้ม เกรอะ เกรอะ เกรอะ เตียงตึ๊ก เกรอะ ตึงได อุมสติสวาหะ"

    ต่อไปเป็นบทคัดลอกตอนที่ หลวงพ่อลมัย พูดถึงภัยพิบัติตามคำบอกเล่าจาก หลวงปู่สรวง

    ถาม (ทีมงานลานโพธิ์) - หลวงปู่สรวง เคยสอนวิชาอะไรให้หลวงพ่อมั้ย ?

    ตอบ (หลวงพ่อลมัย) - เคยสอน แต่โยมจะได้มั้ย เคยสอนว่า
    ต่อไปนะ เผาของหลวงพ่อสามวันสามคืนไม่หมด พวกยา พวกอะไร
    หลวงพ่อให้ก็รับ เผาโยนใส่กองไฟ ให้อะไรก็รับ แล้วก็เผา
    ตอนหลวงพ่อมา มีคนมาถวายเสื้อ ถวายทรัพย์ เผาหมด เขาว่ายั่งงี้ ..

    ต่อไปนี้ พ.ศ. 2555 คนเก่งอยู่ในเมืองไทย อยู่ที่ไหนก็ตามแต่ มุมไหนก็แล้วแต่
    พ่อ - แม่ - ญาติพี่น้อง ไม่ต้องสู้ จะตายหมด
    น้ำทะเลตีข้างล่างได้ครึ่งโลกแล้ว ไม่ใช่ครึ่งประเทศนะ ครึ่งโลกแล้ว
    มาบอกให้หยุดนะ ไม่ต้องอยากชนะกันให้ออกไป อย่ามีเวร อย่ามีกรรม

    ครั้งที่สองบอกอีก เป็นภาษาเขมรว่า ให้ออกก่อน

    "พวกที่ทำลายศาสนา พระมหากษัตริย์ ให้ออกไปก่อน นางนาคเป่าน้ำน้ำทะเลเต็มไปหมด"
    ให้มันไปแต่พวกนี้ ประมาณสองชั่วโมงกว่าๆ กลับเข้ามาก็ตีท่วมภูเขา มีทั้งดินมีทั้งโคลน

    "พวกทำไม่ดีตายหมด" แกว่า...เทวดาตัดสินเอง เจ้ากรรมนายเวรตัดสินเอง หลวงพ่อไม่กลัว (ลป.สรวง)
    แล้วก็ไม่หนีด้วย หลวงพ่อนี่ในตัวสังขละ ท่านสร้างมาหลายวัดเหมือนกัน ไปอยู่ที่นั่นเขาเอาระเบิดเข้าไป
    สามปีมอบตัวกันหมด ที่ถนนดินแดงหลวงพ่อก็ไป

    ถาม - ที่ หลวงปู่สรวง พูดหมายความว่ายังไง ?

    ตอบ - แปลว่า ไม่ต้องกลัว 2555 นางนาคเป่าน้ำ ท่วมทั้งน้ำทั้งดิน ตายวอดวาย คนที่ไม่ดีตายหมด คนดีไม่ตาย

    "คนดีมันเป็น ไม่ตายจะรอด"

    ท่านบอกให้คอยดู แต่มาเป่านี่มันปี 2547 - 2550 ไม่ใช่สึนามินะ
    นางนาคสิเป่า ปี 55 แถวเราน้ำไม่มี
    เขาว่านางนาคเอาขึ้นข้างบน สามวันสามคืนก็เป็นลูกเห็บ ลูกที่หนึ่ง ลูกที่สอง
    ถูกใครตายระเนระนาด อย่าให้ถึงขนาดนั้น "คนดีไม่ตาย"

    แกว่างั้นนะ ถ้าคนมีศีลห้าไม่ถูก ก็เราไม่ได้กบฎพระเจ้าอยู่หัว
    คนที่กบฎ คนที่อยากชนะผืนแผ่นดินนี้ตายแน่
    จะยึดแผ่นดินเป็นหลักแค่นั้นแหละ ปีนี้นาคไม่ขึ้นที่หนองคาย นาคไม่ขึ้น


    หลวงปู่สรวง ท่านละสังขารเมื่อ วันที่ 8 กันยายน 2542
    (ขึ้น 10 ค่ำเดือน 10 ปีมะโรง )
    สรีระสังขารของท่านตั้งอยู่ที่ศาลาออยเตียนสรูล วัดไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 เมษายน 2012
  18. karan20

    karan20 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2010
    โพสต์:
    1,297
    ค่าพลัง:
    +2,379
    อะไรเป็นสัญญาณก่อนเกิดภัยพิบัติในปี 2555


    สัญญาณอันตรายน่าจะเป็นเหตุการณ์การต่อสู้นองเลือดทางการเมืองในปีพ.ศ. 2555


    [​IMG]




    นองน้ำแลเลือดจะนอง'ญาณ'ของพระพรหมวชิรญาณ

    คัดลอกบางส่วนจาก คมชัดลึก


    อย่างไรก็ตามเท่าที่ได้ศึกษาด้านโหราศาสตร์ ในปี ๒๕๕๔ นี้ เป็นเพียงแค่การทดสอบ ความเสียหายที่ปรากฏยังถือว่าไม่มาก เมื่อเปรียบกับเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในปี ๒๕๕๕ ซึ่งจะหนักว่าปีนี้ทุกด้าน ไม่เฉพาะเรื่องธรรมชาติเพียงอย่างเดียว เรื่องเหตุบ้านการเมืองก็สาหัสไม่แพ้ พ.ศ.๒๕๕๔ โดยเฉพาะในช่วงรอยต่อระหว่าง พ.ศ.๒๕๕๔ กับ พ.ศ.๒๕๕๕ ก็ต้องระวังในเรื่องความแตกแยกทางความคิด

    "ตั้งแต่ต้นปี ๒๕๕๕ จะมีปัญญาหลายอย่างเกิดขึ้นพร้อมๆ กัน โดยเฉพาะในช่วงเดือนเมษายนและเดือนพฤษภาคมความวุ่นวายของประเทศชาติจะไม่ธรรมดาหนักและร้ายแรงยิ่งกว่าเดือนเมษายนและเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา กลางปีนองเลือดพอปลายปีน้ำก็นอง และจะอยู่ต่อเนื่องไปอีก ๒ ปี คือ พ.ศ. ๒๕๕๖ และ พ.ศ.๒๕๕๗ เมื่อขึ้น พ.ศ.๒๕๕๘ บ้านเมืองจะสงบสุข เศรษฐกิจจะรุ่งเรือง" เจ้าคุณพรหมกล่าว

    “ความแม่นยำเป็นสิ่งที่หมอดูปรารถนามากที่สุด
    แต่คราวนี้อาตมาได้แต่สวดมนต์ภาวนาขออย่าให้เป็นตามที่ดูไว้เลย”
    นี้เป็นคำยืนยันของเจ้าคุณพรหม
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 เมษายน 2012
  19. karan20

    karan20 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2010
    โพสต์:
    1,297
    ค่าพลัง:
    +2,379
    อะไรเป็นสัญญาณก่อนเกิดภัยพิบัติในปี 2555


    สัญญาณอันตรายน่าจะเป็นเหตุการณ์การต่อสู้นองเลือดทางการเมืองในปีพ.ศ. 2555


    คัดลอกบางส่วนจาก คำทำนายดวงเมืองปี 2555 โดย หมอนิด (กิจจา ทวีกุลกิจ)

    เขาคนนั้น...มี ทีมงานที่ปรึกษาและวางแผนต่างๆ ได้ดีเยี่ยม มีทั้งเกมรับ และเกมรุกพร้อมสรรพหากใครที่คิดจะทำการปฏิวัติรัฐประหาร รัฐบาลของเขาคนนั้นคงต้องคิดหนัก เพราะเขาคนนั้นได้เตรียมแผนรับมือเอาไว้พร้อมเต็มอัตราศึกเช่นกัน หากบุ่มบ่ามออกมาโดยไม่ดูตาม้าตาเรือ หรือตาถั่วความสูญเสียจะเกิดขึ้นกับประเทศชาติบ้านเมืองอย่างใหญ่ หลวง...เพราะเขาคนนั้นเคยมีบทเรียนอันเจ็บปวดมาแล้วครั้งหนึ่ง จนต้องระหกระเหินเร่ร่อนไปตามประเทศต่างๆ ตราบจนทุกวันนี้...วันนี้ กับวันก่อน มันหนังคนละม้วนแล้ว เป้าหมายของเขาคนนั้นในวันนี้ที่พรรคของเขาได้เป็นรัฐบาลก็เริ่มกลืนกิน อำนาจไปทีละองค์กร...ทีละองค์กร แม้แต่ “ศาล” ยังสั่นสะเทือนกับระบอบของเขาคนนั้นไปด้วย การที่เขาคนนั้นเป็นผู้บงการอยู่เบื้องหลังนายกยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นการท้าทายประชาชนส่วนหนึ่ง ที่ไม่ชอบเขาคนนั้น และยังเป็นการท้าทายทหารไปในตัวด้วย ... เขาคนนั้นฉลาดพอที่จะไม่แตะโผทหารในครั้งนี้มากนัก แต่ก็เหมือนเป็นการขีดวงจำกัดทหารไม่ให้ออกนอกลู่นอกทางง่ายๆ ตามอำเภอใจเหมือนก่อน ...และ เขาคนนั้นมีแผนสำรองที่เป็นไม้เด็ดไว้ต้อนรับทหาร ถ้าทหารทำการปฏิวัติ รัฐประหารเมื่อไหร่ ก็ตาม “บ้านเมืองจะสูญเสียครั้งใหญ่เป็นประวัติศาสตร์” ทันที เพราะ ฉะนั้นทหารคงต้องคิดหนัก ต้องไตร่ตรองให้ดีเพราะเขาคนนั้นมีมวลชนคนเสื้อแดงที่ถูกล้างสมองจนแยกแยะ ผิดชอบชั่วดีไม่ออก จะออกมาต่อต้านและต่อสู้กับทหารทันทีมันไม่ง่ายเหมือนเมื่อก่อนแล้วเพราะจะ มีบุคคลกลุ่มหนึ่งติดอาวุธออกมาต่อสู้กับทหาร ...แต่ถ้าไม่คิดทำอะไรเลย เขาคนนั้นก็จะรุกฆาตขยายอำนาจ ไปทุกซอกทุกมุม และไม่นานเขาคนนั้นก็จะกลับมา “ยิ่งใหญ่ค้ำฟ้า” อีกครั้งหนึ่ง (แต่ก็ไม่ง่ายอย่างที่หวัง) สิ่งที่น่าเป็นห่วงคือ ถ้าทหารออกมาโดยไม่วางแผนป้องกันให้ดี คงจะมีคนบาดเจ็บล้มตายจำนวนมากทั้งประชาชนและเจ้าหน้าที่ทหาร สถานที่ราชการคงจะถูกทำลายหลายแห่ง คลังน้ำมันเชื้อเพลิงจะตกเป็นเป้าหมาย ห้างสรรพสินค้า และธนาคารรวมทั้งโรงแรมก็ไม่ปลอดภัย...การก่อวินาศกรรมจะเกิดขึ้นหลาย แห่ง...ไฟไหม้จะเกิดขึ้นหลายจุดจนรถดับเพลิงวิ่งวุ่นไปหมด...รวมทั้งรถ มูลนิธิ และรถหน่วยกู้ชีพวิ่งกันสับสน...โรงพยาบาลจะเต็มไปด้วยคนบาดเจ็บ และคนตาย...เลือดตามโรงพยาบาลต่างๆไม่พอต้องประกาศขอให้ประชาชนช่วยบริจาค เลือด...สถานที่สำคัญอีกสองแห่งที่ประมาทไม่ได้เลยคือ โรงผลิตไฟฟ้าหรือเสาไฟแรงสูง และโรงกรองน้ำทำประปา หากเกิดเหตุการณ์ขึ้นในปี 2555 มันจะรุนแรงกว่าเมื่อปี 2553 ที่ผ่านมาหลายเท่า... เพราะเขาคนนั้นมีความพร้อมทุกด้านแล้วในวันนี้... เขาไม่กลัวทหาร แต่กับทำให้ทหารต้องคิดหนัก ไม่เพียงแต่ทหารเท่านั้นที่เขาไม่แคร์...เขาคนนั้นยังต้องการให้บุคคลสำคัญระดับสูงในประเทศต้องกังวล...เหมือน เป็นการบีบบังคับทางอ้อมไปในตัวซึ่งตรงนี้น่าเป็นห่วงมากทีเดียว...ถ้า ทุกอย่างเป็นไปตามแผนที่เขาคนนั้นทำสำเร็จประเทศไทยจะไม่เหลืออะไรเลย... บุคคลที่เราเคารพรัก………….?.. คนที่เป็นศัตรูของเขาคนนั้นจะถูกเช็คบิลทุกคนไม่มีเว้น... นี่คือ “ เขาคนนั้น “ ในปีนี้ประเทศไทยจะรอดพ้นหรือไม่คงต้องช่วยกันสวดมนต์ภาวนาให้กับประเทศไทย และขอสิ่งศักดิ์สิทธิ์ปกปักษ์รักษาแผ่นดินไทย... ขอให้คงอยู่กับผู้ที่มีบุญญาบารมี และเปี่ยมไปด้วยความเมตตาปรานีมีคุณธรรม และศีลธรรมเท่านั้น
    ทหารจะทำอย่างไร... คงต้องนั่งคิด นอนคิด แม้แต่นั่งขี้ไป ก็ยังต้องคิดหนัก เพราะเมื่อไหร่ก็ตามที่ทหารเคลื่อนกำลังออกมาจะเข้าทางเขาคนนั้นทันที ....เพราะเขาคนนั้นได้เตรียมพร้อมทั้งอาวุธร้ายแรงสารพัดชนิด และกำลังคนของเขาไว้แล้ว จากความ ร่วมมือของผู้นำประเทศกุ๊ยๆใกล้กับประเทศไทย ที่ทุ่มสรรพอาวุธมาให้เขาคนนั้นไว้ต่อสู้กับทหารไทย และอาจจะส่งทหารนอกเครื่องแบบมาช่วยเขาคนนั้นด้วย ...อีกทั้งยังต้องระวังทหารอีกกลุ่มหนึ่งที่จ้องจะตลบหลังทหารของพระราชา... เขาคนนั้นไม่สนใจว่าจะมีประชาชนบาดเจ็บล้มตายกันมากแค่ไหน และถึงจะมีคนเสื้อแดงล้มตายจำนวนมากเท่าไหร่เขาก็ไม่สน เพราะเขาจะใช้มวลชนคนเสื้อแดงที่หลงบูชาเขาเป็นพระเจ้า มาเป็นโล่ห์มนุษย์ป้องกันไม่ให้ทหารทำการได้เต็มที่ ... ทหารไม่คิดที่จะเข่นฆ่าประชาชน ถึงจะเป็นเสื้อแดงก็เป็นประชาชนคนไทยเหมือนกัน(ยังมีคนเสื้อแดงจำนวนมากที่มีความจงรักภักดีต่อสถาบัน) ทหารก็จำเป็นต้องปกป้องชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ผู้บริสุทธิ์และต้องปกป้องชีวิตตัวเองเช่นกัน ... ดูดูแล้วก็ “หนักใจ” เป็นอย่างมาก เพราะในปี 2555 นี้ จะมีเหตุการณ์รุนแรงหรือมีการสูญเสียใหญ่เกิดขึ้น... หากทหารวางแผนไม่รอบคอบ ประเทศไทยจะเกิดสงครามกลางเมืองขึ้น คล้ายๆประเทศ ลิเบีย ...การเปลี่ยนแปลงการปกครองใหม่จะเกิดขึ้น... แต่ไม่รู้ว่าจะเปลี่ยนไปในทางที่ดีหรือไม่ดีเท่านั้น “จุดเปลี่ยนประเทศไทย” ใกล้เข้ามาแล้ว เพราะทั้งดวงเมือง ...ดวงบุคคลสำคัญของประเทศ...และดวงของผู้นำทหาร ล้วนเป็นสิ่งบอกเหตุได้พอสมควร .... บวกกับดวงของเขาคนนั้นก็บ่งบอกไว้อย่างชัดเจน ...ในปีนี้คงหนีไม่พ้นศึกชิงอำนาจและไกลไปถึง “ชิงประเทศ” กันเลยทีเดียวตราบใดที่เขาคนนั้นยังมีชีวิตอยู่เขาจะไม่มีทางยอมวางมือและจะไม่มีทางยอมแพ้ และพยายามที่จะทำทุกวิถีทางที่จะเอาชนะ ผู้เป็นใหญ่ในแผ่นดิน... งานนี้คงต้องฝากให้ผู้มีอำนาจนำไปศึกษาและทบทวนให้ดี...ถ้ารุกก็เสี่ยง...นิ่งก็เสีย...ใน เวลานี้เกมต่างๆดูเหมือนอยู่ในกำมือของเขาคนนั้นแล้วเพียงแต่เขาคนนั้นจะ ค่อยๆนวดไปทีละจุด... กลืนกินอำนาจไปเรื่อยๆ เหมือนกำลังสะสมพลังอำนาจเอาไว้ให้มากที่สุด...เห็นได้จาก “ รัฐตำรวจ “ ในเวลานี้ก็ตกอยู่ในมือของเขาคนนั้นแล้ว.รวมทั้งองค์กรอิสระหลายแห่งก็ตก อยู่ในมือและยอมอยู่ใต้อุ้งตีนของเขาคนนั้น..อาจจะเป็นเพราะอำนาจเงินที่ สามารถซื้อทุกอย่างได้ หากเขาคนนั้นสามารถ “ ซื้อสีเขียวได้ “ ประเทศไทยจบข่าว... แต่คิดว่าทหารในชุดปัจจุบันคงไม่มีใครคิดอย่างนั้น...มีที่น่าเป็นห่วง มากกว่าคือ อาจจะมีทหารอีกกลุ่มหนึ่งที่ไม่พอใจ ทหารในชุดปัจจุบันที่ขัดแย้งกันลึกๆ จะปันใจให้กับเขาคนนั้นและมีสิทธิ์ที่จะร่วมทำการกับเขาคนนั้น หากปรับความเข้าใจกันได้ก็อยากจะให้ทหารในชุดปัจจุบันช่วยส่งเสริมทหาร อีกกลุ่มหนึ่งขึ้นมารับตำแหน่งบ้างจะได้เป็นปึกแผ่นในกองทัพ และกลมเกลียวกันยิ่งขึ้นเพื่อชาติ... ศาสนา... พระมหากษัตริย์... ปีนี้ประชาชนทั้งประเทศคงต้องฝากความหวังไว้กับทหารเท่านั้น... แล้วทหารจะทำอย่างไร ?
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 เมษายน 2012
  20. karan20

    karan20 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2010
    โพสต์:
    1,297
    ค่าพลัง:
    +2,379
    ตอนนี้ผู้เขียนได้วางกำหนดการไว้แล้ว
    ผู้เขียนจะเดินทางออกจากกรุงเทพอย่างถาวรภายในไม่เกินวันที่ 2 มิถุนายน 2555
    (กำหนดไว้ก่อนแต่สามารถเลื่อนกำหนดเข้าหรือเลื่อนออกได้ตามสถานการณ์)

    ระหว่างนี้มีกำหนดการที่วางแผนไว้ที่จะต้องเดินทางและเตรียมการคือ

    1. เดินทางไปวัดพระบรมธาตุดอยผาส้ม อ.สะเมิง จ.เชียงใหม่

    2. เดินทางไปวัดถ้ำเมืองนะ (วัดพุทธพรหมปัญโญ) อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่

    3. เดินทางไปศูนย์เตรียมการรับมือมหาภัยพิบัติ มหาสุรสิงหนาท อ.สอยดาว จ.จันทบุรี



     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 เมษายน 2012

แชร์หน้านี้

Loading...