จริงหรือไม่ว่าผู้หญิงห้ามฝึกกสิณ

ในห้อง 'ประสบการณ์อภิญญา' ตั้งกระทู้โดย DuchessFidgette, 2 พฤศจิกายน 2012.

  1. นายกสิณ

    นายกสิณ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2011
    โพสต์:
    245
    ค่าพลัง:
    +251
    กสิณสามารถฝึกได้ทั้งหญิงและชาย....แต่เราต้องฝึกถึงจะรู้ว่าเป็นอย่างไร ฝึกแล้วไปต่อได้ไหม เมื่อฝึกกสิณ เช่น ไฟ-ดิน-น้ำ-ลม-แสงสว่าง จะมีการเปลี่ยนธาตุในตัวเราหรือมีการปรับเปลี่ยนธาตุเรา เพื่ออะไร เพื่อปรับความสมดุลหรือการเปลี่ยนแปลงญาณสมาธิ บางคนเป็นไข้ 3-7 วัน หรือบางคนมีอาการท้องเสีย ช่วงระยะเวลานั้นอย่าพยายามนั่งสมาธินานมาก แค่ครั้งละ 10-30 นาทีก็พอ เพราะช่วงนี้จะเป็นช่วงพักผ่อนเพื่อปรับธาตุในร่างกายเรา เมื่อหายจากอาการดังกล่าวแล้ว สมาธิเราจะเปลี่ยนไปจากเดิม...จากประสบการณ์ของผมเอง
     
  2. DuchessFidgette

    DuchessFidgette เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    2,607
    ค่าพลัง:
    +9,301
    อยากทราบคะว่า จุดแสงสีม่วงฟ้า กับสีเขียว ที่มักจะเห็นบ่อยๆหลังจากเริ่มฝึกกสิณนั้นหมายความว่าอะไร
     
  3. Tamjugg

    Tamjugg เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กันยายน 2012
    โพสต์:
    657
    ค่าพลัง:
    +1,029
    หาผู้ีูรู้จิงได้อภิญญาแล้วแนะนำเถอะคับ หรือไปฝึกกับพระอาจารย์ที่สอนผมก็ได้ท่านได้อภิญญาแล้ว ผมก็เห็นเหมือนคุณ มี แดง เทา ขาว ม่วง เขียว เหลือง ฝึกอีกนิดให้รู้ฌาน ก็จะใช้อภิญญาได้ แล้วใช้อภิญญาไปดูเองว่าใช่ทางหรือไม่
     
  4. Tamjugg

    Tamjugg เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กันยายน 2012
    โพสต์:
    657
    ค่าพลัง:
    +1,029
    อนุโมทนาคับกล่าวธรรมได้ถูกต้องยอดเยี่ยมมาก กล่าวธรรมเหมือนคนได้อภิญญาเลยคับ มนุษย์นี่แหละคับเหมาะแก่การบำเพ็ญถึงพระนิพาน พุทธองค์ก็บอกแล้วการเกิดเป็นมนุษย์เป็นของยาก
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 พฤศจิกายน 2012
  5. Tamjugg

    Tamjugg เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กันยายน 2012
    โพสต์:
    657
    ค่าพลัง:
    +1,029
    มาฝึกวิปัสนากรรมฐาน ดูกาย เวทนา จิต ธรรม ของตน วันละเป็น10กว่าชั่วโมงไม่เห็นเป็นไรเลยคับ ได้ญาน ฌานไวด้วย ไม่นานก็ได้อภิญญา
     
  6. watjojoj

    watjojoj เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    562
    ค่าพลัง:
    +9,793
    บางครั้งก้ลืมตัว นี่มันห้องอภิญญานี่นา แฮะๆๆๆๆ ไม่ใช่ห้องหลุดพ้น (เปล่าว่าใครเด้อ แค่จะบอกวัตถุประสงค์ของห้อง )
    เขาก็ให้postเรื่องอภิญญาถูกต้องแล้ว แต่เราก็อย่านำคำสอนขององค์ศาดามาเถียงกันเลยนะ คำสอนของพระท่านชัดเจนอยู่แล้ว เถียงกันไปมา สังโยชน์จะมาเกาะแน่นเอา
    คุณกับคุณอินทรบุตร(ขออภัยที่เอ่ยนามนะครับ) จริงๆแล้วถ้าเปิดใจคุยกันดีๆ มันมีทางออกแน่นอน เพราะเราท่านล้วนแต่เป็นลูกพระพุทธเจ้าทั้งนั้น
     
  7. อินทรบุตร

    อินทรบุตร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    2,511
    ค่าพลัง:
    +7,320
    ผมอยู่บนเส้นทางการละครับ ไม่มีติดข้องอะไรอยู่ในใจอยู่แล้วครับ
     
  8. firstini

    firstini เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    1,213
    ค่าพลัง:
    +3,770
    เป็นอาการของประสาทตา
    ไม่ได้มีปัญหาอะไรหรอกครับ
    ไม่จำเป็นต้องสนใจมัน สนใจที่จิต
    สมาธิ สนใจที่จิต จิตของเราคนเดียว
     
  9. DuchessFidgette

    DuchessFidgette เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    2,607
    ค่าพลัง:
    +9,301
    อยากทราบว่าใครในที่นี้เคยฝึกสมาธิแบบกุลธาริณีมาบ้างคะ ช่วยตอบหน่อย จริงหรือเปล่าว่าช่วยรักษาโรคได้ชนิดเอาพลังไปรักษาคนอื่นต่อได้
     
  10. Tamjugg

    Tamjugg เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กันยายน 2012
    โพสต์:
    657
    ค่าพลัง:
    +1,029
    ดีแล้วอินทรบุตร ขอให้ได้ญาน ฌาน อภิญญาในเร็ววัน
     
  11. Tamjugg

    Tamjugg เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กันยายน 2012
    โพสต์:
    657
    ค่าพลัง:
    +1,029
    ไม่ใช่อาการตาคับหากเห็นในสมาธิไม่มีความอยากในตอนนั้น ภาวนาต่อเรื่อยๆญานทรรศนะเปิดมากขึ้น จะเริ่มเห็นโลกวิญญาน และจะเห็น31ภพภูมิ เป็นต้น ต้องให้ผู้รู้ิจิงสอนญาน ฌาน จะได้บรรลุปฐมฌานต่อไป
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 พฤศจิกายน 2012
  12. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,425
    ค่าพลัง:
    +35,019
    ค่อยๆพิจารณานะครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 พฤศจิกายน 2012
  13. นายกสิณ

    นายกสิณ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2011
    โพสต์:
    245
    ค่าพลัง:
    +251
    มารไม่มีบารมีไม่เกิด...สิ่งนี้จริงแท้แน่นอน
    ผมขอให้เจ้าของกระทู้คิดให้ดีในการรับรู้ข้อมูลข่าวสารต่างๆด้านการปฎิบัติ
    ทุกสิ่งทุกอย่างเมื่อปฎิบัติเข้าถึงแล้ว จะสามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง
    แต่ตัวเราเองจะต้องเป็นผู้คนหาด้วยตนเองว่าสามารถนำมาใช้อย่างไร
     
  14. Tamjugg

    Tamjugg เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กันยายน 2012
    โพสต์:
    657
    ค่าพลัง:
    +1,029
    มารภายนอกไม่เท่ามารในใจตนหรอก ชนะใครไม่เท่าชนะใจตน
     
  15. GhostHead

    GhostHead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    1,010
    ค่าพลัง:
    +1,878
    แสงสีต่างๆที่เห็น เรียกว่า โอภาส จะเกิดเมื่อจิตเริ่มมีความเป็นทิพย์เล็กน้อย อยู่ในขั้นอุปจารสมาธิ

    ถ้ากำลังฝึกกสิณกองใดอยู่ ก็ให้ทรงเฉพาะนิมิตของกสิณกองนั้นไว้ แล้วตัดโอภาสต่างๆออกเสีย อย่าให้มาปนกับนิมิตของกสิณ เพราะจะเป็นอุปสรรคในการทรงนิมิตของกสิณได้(เป็นเหมือนคลื่นรบกวน ทำให้ภาพไม่ชัด) แรกๆจะยากสักหน่อยแต่พอสมาธิมีกำลังมากขึ้น ก็จะกลายเป็นของง่าย ทำได้ไม่ยาก

    เหมือนนักกีฬาจะเก่งได้ ก็ต้องฝึกซ้อมอยู่ตลอดเวลา เพื่อพัฒนาความสามารถให้เพิ่มขึ้น เมื่อความสามารถและความชำนาญของเราเพิ่มขึ้น อะไรที่ว่ายากๆ ก็จะกลายเป็นของง่ายไปเอง


    เจริญในธรรมครับ
     
  16. GhostHead

    GhostHead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    1,010
    ค่าพลัง:
    +1,878
    ฝึกแบบไหนไม่สำคัญ ขอให้ทรงอภิญญาให้ได้เป็นพอ เมื่อทรงอภิญญาได้แล้วการรักษาคนไม่ใช่เรื่องยาก

    ที่ยากก็คือ ทำยังไงให้เรามีอภิญญานั่นล่ะ

    ลองอ่านประวัติหลวงปู่ปานดูนะครับ ท่านก็ใช้อภิญญา+สมุนไพร ในการรักษาชาวบ้านครับ


    เจริญในธรรมครับ
     
  17. กสิณี

    กสิณี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มกราคม 2009
    โพสต์:
    141
    ค่าพลัง:
    +333
    ดิฉันไปฝึกกสิณมาช่วงเข้าพรรษา ฝึกด้วยตนเองรวมแล้วไม่กี่ชั่วโมง นอกนั้นทำงานในครัว ผลเป็นไปตามที่หลวงปู่มั่นบรรยายไว้ ขณะนี้รอโอกาสและสถานที่ในการปลึกวิเวก ต้องอยู่คนเดียวโดยไม่พบปะกับใคร เพื่อเข้าสู่ขั้นฌาน
     
  18. ธรรม-ชาติ

    ธรรม-ชาติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    2,567
    ค่าพลัง:
    +9,957
    Kundalini เป็นการบรรยายถึง ฐานพลังงานในร่างกายมนุษย์ ที่เรียกกันว่า จักรทั้ง 7 หากนับจากแกนกระดูกสันหลัง ให้ไล่มาตั้งแต่ปลายกระดูกก้นกบขึ้นมาจนถึงปลายกระหม่อม ก็จะควบคุมได้เองทั้ง 7 ศูนย์ แต่ถ้าหากจะใช้วิธีฝึกของพระพุทธเจ้า ซึ่งสามารถรวบได้ทีเดียวทั้งหมด 7 ฐาน ก็จะตรงกันกับคำพูดที่สั้น ๆ ง่าย ๆ ว่า

    ตั้งกายตรง ดำรงค์สติมั่น

    ตั้งกายตรงนี้ หลังจากตั้งได้แล้ว ให้ใช้ จิต เข้าประคองเอาไว้ด้วยสติที่มั่นคง แล้วจึงค่อย ๆ สังเกตุปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นเฉพาะตน ไม่นานก็จะเริ่มเข้าใจได้เอง รวมทั้งปรากฏการณ์ของ Serpent Coil อีกด้วย

    การอธิบายต่าง ๆ ของฝรั่งนั้นมักใช้ภาษาโลดโผน อ่านแล้วน่าตื่นเต้นเหมือนผู้วิเศษต่าง ๆ ก็เหมือนกับเด็ก ๆ ได้ของเล่นใหม่ ย่อมเห่อเป็นธรรมดา เพราะฝรั่งไปเอามาจากโยคีอินเดีย จริง ๆ แล้วหากสามารถ ตั้งกายตรง ดำรงค์สติมั่น ได้จริง ไม่นานก็จะเป็นสมาธิแล้วก็จะได้ ปิติ ออกมาเป็น Serpent Coil นั่นเอง

    Kundalini รวมทั้ง Serpent Coil นั้้นยังเป็นแค่องค์ประกอบย่อย ๆ ส่วนหนึ่งภายใต้ เวทนานุปัสสนามหาสติปัฏฐาน เท่านั้น สิ่งที่เรียกว่า ความรู้สึกตัวนี้ เป็นคำศัพท์ที่เรียบง่ายมาก ๆ จนคนทั่วไปนึกเอาเองเดาเอาเองว่าไม่มีอะไร แต่แท้ที่จริงแล้ว จะมีคนทำได้จริง ๆ สักกี่คน โดยเฉพาะ ความรู้สึกตัวที่เป็น "ตะจะปริยันโต" มีหนังหุ้มอยู่เป็นที่สุดรอบนี้

    โดยส่วนตัวแล้วผมถือว่า เวทนานุปัสสนามหาสติปัฏฐาน นี้ เป็นแม่บทที่สามารถครอบคลุมกรรมฐานเหล่าต่าง ๆ ได้จนนับไม่ถ้วน ไม่ว่าจะเป็น ร้อน เย็น อ่อน แข็ง กระแสไหลสะพัดโบกสะบัด หนัก เบา ขยายตัว หดตัว พลังปราณ ต่าง ๆ จัดได้ว่าเป็น "อัปปะมาโนธรรมโม" ได้อย่างเต็มภาคภูมิทีเดียว โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ความรู้สึกตัวนี้ เป็นศัตรูโดยตรงกับความฟุ้งซ่านและความปรุงแต่งทั้งหลาย ดังนั้นสิ่งที่เกิดขึ้นกับกรรมฐานกองนี้ย่อมเป็นสัจจธรรมโดยปริยาย ผู้ใดก็ตามที่สามารถเดินกรรมฐานกองนี้ได้ ก็จะรู้ได้เองว่า กรรมฐานกองนี้ มีอานิสสงค์ที่สามารถส่งให้เกินออกไปจาก สุขขะวิปัสสโก ได้อย่างไม่ยากและแน่นอนทีเดียว นะครับ
     
  19. phrawizean

    phrawizean สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    15
    ค่าพลัง:
    +20
    หญิง ชาย ไม่มีแบ่งแยกเรื่องการบรรลุมรรคผล นิพพาน หรือ คุณวิเศษต่างๆ แล้วแต่บุญบารมี ที่ใครเคยสั่งสมอบรมมาแบบไหน ยกเว้นความเป็นพระพุทธเจ้า ที่มีแต่บุรุษเท่านั้น
     
  20. nilakarn

    nilakarn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2011
    โพสต์:
    3,604
    ค่าพลัง:
    +3,014

    มนุษย์ทั้ง สี่เพศ สามารถฝึกกสิณได้ครับ คือ ชาย หญิง กะเทย ทอม แต่
    มนุษย์ชาย สามารถฝึกได้ง่ายกว่า หญิง
    หญิง ฝึกได้ง่ายกว่า กะเทย
    กะเทย ฝึกได้ง่ายกว่า ทอม

    การสวดมนต์ มันเป็นเกราะป้องกันสิ่งร้ายๆ ที่จะเข้ามาหาตัวเรา ถ้าเราไม่มี
    อาจารย์ คอยช่วยเหลือ

    การฝึกกสิน ยิ่งทำให้เกิดโรคต่างๆ โดยเฉพาะ ดิน น้ำ ลม ไฟ เป็นกสิณ
    ที่อันตราย แต่ถ้าสามารถใช้กสิณกองหนึ่งกองใดได้คล่องดีแล้ว ให้ฝึก
    ให้ถึง ญาณสี่ จะสามารถรักษาโรคได้ แต่มีวิธีฝึกอีกแบบหนึ่ง

    หากเจ้าพ่อเจ้าแม่ พูดอย่างนั้น แสดงว่า เค้าจะเอาเราไว้ใช้งานครับ
    พอเราทำงานรับใช้เขา เค้าก็ให้แก้วแหวนเงินทอง ความสมปรารถนา
    แต่พอเราไม่ทำให้เค้า เค้าจะเล่นเราเกือบตายเลย
    วิธีตัด ก็คือ การรักษาศึลห้า น้่งสมาธิ สวดมนต์ หาอาจารย์ที่เป็นพระ
    ที่ท่านสามารถคอยช่วยเหลือเราได้ แล้วก็ อูทิศบุญกุศลที่เราได้จากการ
    นั่งสมาธิ ไปให้เค้าอนุโมทนาบุญ แล้วให้เค้าอโหสิกรรม ให้ตัดเราออกซะ
     

แชร์หน้านี้

Loading...