ดวงตาแห่งจักรวาล ที่ผมเห็นในสมาธิ

เห็นเปงสีสันหรือป่าว ครับ ถ้าเห็นเปงสีสัน ส่งสัย สมาธิของพลังจักระวาลอ่ะครับ

 

จริง ๆ แล้วผมเข้าใจอะไรเกี่ยวกับพระพุทธศาสนามากพอสมควร ทั้งด้านปริยัติและปฏิบัติ (และผมคิดของผมเองว่า มีหลายอย่างที่ผมเข้าใจอย่างลึกซึ้งมากกว่าพระภิกษุ-สามเณร หลาย ๆ รูป เสียอีก แต่ไม่อยากพูดไม่อยากอธิบายเท่านั้นเอง)...ความจริงผมก็ไม่เคยคิดว่านักปฏิบัติต้องเป็นอย่างหลวงปู่มั่นทุกรูป (แต่ถ้าเป็นได้ก็ดี) เพราะการปฏิบัติ (จริง ๆ นั้น) มันมีรายละเอียดปลีกย่อยหลายอย่าง (และอย่างที่บอกนั่นแหละ ผมก็ไม่ใช่คนหมดกิเลสอะไร มีเยอะเหมือนคนอื่น ๆ นั่นแหละครับ) เช่น บุคคล, สถานที่ ฯลฯ...และผมก็ไปนั่งสมาธิหลายวัดครับ ไม่ใช่วัดเดียว แล้วแต่สะดวก หรือว่าอยู่ที่ใด (ผมไม่เคยติดวัดใดวัดหนึ่งอะไรมากขนาดนั้น แต่ถ้าเลือกได้ก็ดี)...แต่ที่รับไม่ค่อยได้ก็คือ พวกที่มันไม่ทำ ไม่ปฏิบัติแล้วยังมาเหยียบย่ำ ซ้ำเติม รังแกหรือกลั่นแกล้งผมนะสิ พวกมันไม่ทำ บางครั้งผมอุตส่าห์ไม่พูดไม่บอกอะไรแล้ว ทำให้พวกมันดูทุกอย่าง ทั้งไหว้พระสวดมนต์ ทำความสะอาด ฯลฯ แต่พวกมันกลับไม่สำนึกว่าผมกำลังทำสิ่งดี ๆ ไว้ให้กับวัดที่พวกมันอาศัยผ้าเหลืองหากิน ไม่ช่วยอะไรผมยังพอทำเนา แต่นี่...เฮอะ ๆ ๆ มันเหมือนขี้รดหัวใจผมเลยแหละ...เหนื่อยครับ...จนบ่อยครั้งผมคิดว่า เฮ้ย ! ศาสนามันไม่ใช่ของกูคนเดียวนี่หว่า มันเรื่องอะไรต้องให้กูต้องมารับผิดชอบอะไรหนัก ๆ คนเดียวเยี่ยงนี้...เนื้อก็ไม่ได้กิน หนังก็ไม่ได้รองนั่ง แล้วทำไมกูจะต้องเอากระดูกมาแขวนคอด้วยว่ะ !...

 

เพิ่งได้แวะเข้ามาอีกรอบ
จริงๆพระที่ดีๆมีอยู่อีกมากนะครับ ยิ่งถ้าให้ดีถามกับพระอรหันต์จะดีมากๆครับคิดว่าท่านจะแก้ไขให้ได้ ในความเห็นผมคุณได้พบข้อธรรมบางอย่าง แต่อาจยังเจือปนด้วยกิเลสบ้าง สิ่งที่ควรสนคือข้อธรรม ไม่ควรไปสนสิ่งปรุงแต่งนัก พระที่ท่านพ้นกิเลสก็จะแปลนิมิตได้ดีและถูกต้องครับ
เรื่องพระผิดศีลไม่ต้องเล่าก็ได้ครับ ผมเองก็เคยได้พบเจอ ไม่อยากให้ต้องมาจิตใจขุ่นมัวกัน ทางที่ควรคือหาพระดีๆ ทราบข้อมูลที่เป้นประโยชน์ก็มาแลกเปลี่ยนกัน
ปล. ขอค้านที่บอกว่าสมัยนี้ไม่มีพระดีๆแบบหลวงปู่มั่นนะครับ และหวังว่าจะปฏิบัติภาวนาต่อนะ แต่ควรมีครูบาอาจารย์(พระที่แฏิบัติจนรู้เห็นจริง)คอยดูแลใกล้ชิด เพราะบางคนหลงไปกับนิมิตได้ หรือบางคนฝึกจนวิกลจริตก็มี

 

เห็นแสงเจิดจ้าเลยแหละ...

เห็นสิครับ แสงสว่างเจิดจ้าออกมารอบดวงตาเลยแหละ (แต่จำรายละเอียดไม่ได้หรอก)...และเรื่องสมาธิของพลังจักรวาล อะไรนั่น ผมก็เคยได้ยินมาบ้างเหมือนกัน แต่ไม่เคยสนใจ และไม่อยากสนใจด้วย (เพราะผมคิดว่า มันเป็นเรื่องไร้สาระของพวกนอกพระพุทธศาสนา)...

 

ตอบ เรื่อง ดวงตาจักรวาล

เป็นดวงตาที่สามของผู้สร้างจักรวาลคะ
ถ้าเห็นได้ แสดงว่ามีของเก่าติดมามาก
มีอยู่สองกลุ่มที่จะรู้และเห็น 1 เหล่าเทพ และ บริวารผู้ควบคุมเอกภพ
2 เหล่ามารผู้ต้องการครองจักรวาลคะ
ทั้งสองกลุ่มนี้ต้องการดวงตาแห่งจักรวาล ต้องลองไปค้นคว้าเอาตามต่างประเทศเขาจะรู้เรื่องนี้ดีคะ
จริงๆ .. แล้วเรื่องยาวมาก ถ้าคุณมองเห็นได้ ก็ขอภาวนาให้คุณเดินในทางที่ถูกต้องนะคะ อย่าให้มารเข้ามาเป็นสื่อกลางเพื่อตามหาดวงตาดวงนี้ ...
ถ้าสนามทดสอบ พลังงานทุกชนิด อยู่บนโลก
ชะตาของโลก จะพลิก และ นำพาจักรวาลคะ .......
ตอบมากกว่านี้ไม่ได้คะ

 

ส่วนเรื่องนอกศาสนานะคะ
เรื่องราวและพลังงานทุกอย่าง ทุกเรื่อง คือหนึ่งเดียวกันคะ ท่านพ่องค์สมเด็จสัมมาสัมพุธเจ้า ท่านก็มาจากห้วงจักรวาลคะ ไม่ใช่คนละเรื่อง ไม่ใช่นอกศาสนา มีกลุ่มบางกลุ่ม พยายามแยกพวกเราออกจากกัน เพื่อไม่ให้คนอย่างพวกคุณรับรู้ความจริงสักที
คนที่เปิดใจเรียนรู้ทุกภาษาบนโลกใบนี้ ย่อมมีความรู้มากกว่าผู้ที่ตั้งใจและเข้าใจฟังแต่ภาษาของตนเพียงภาษาเดียว

 

ถ้ามันสำคัญขนาดนั้นทำไมท่านพ่อองค์สมเด็จสัมมาสัมพุธเจ้าท่านไม่สอนไว้หละครับ

********************************************
คนที่เปิดใจเรียนรู้ทุกภาษาบนโลกใบนี้ ย่อมมีความรู้มากกว่าผู้ที่ตั้งใจและเข้าใจฟังแต่ภาษาของตนเพียงภาษาเดียว
ููู^^^^^
^^^^^ท่านพ่อสอนไว้หรอครับ (ไม่ได้หยาบนะครับเขาเขียนไว้เอง)

อย่าเอาศาสนามาเป็นเครื่องมือสนับสนุนความเชื่อของพวก...ดีกว่าครับ ถ้ามันจริง มันสำคัญขนาดนั้น พระพุทธเจ้าท่านแสดงไว้เองแล้วละ ไม่ต้องรอให้พวก...มาเปิดเผยที่หลังหรอกครับ

 

เป็นดวงตาของจักรวาล

ไม่ใช่เพียงสุริยจักรวาลดวงอาทิตย์นี้ที่เราเห็น
แต่นับทุกจักรวาลมารวมกัน

ที่รักษากฏความสมดุล กายภาพและจิตวิญญาณ ทั้งปวง
ที่รักษาความเที่ยงธรรม

เป็นรูปสามเหลี่ยมขึ้นมาก่อน
และมีดวงตาปรากฏขึ้นตามมา

ไม่ใช่นิมิตความทรงจำในอดีต สิ่งนี้มีอยู่ทุกขณะ และชั่วนิรันดร์
ความบริสุทธิ์เท่านั้นที่จะเชื่อมถึงสิ่งนี้ได้

ในลิงค์นี้พอมีข้อมูลให้อยู่บ้าง
"มหานุภาพอันศักดิ์สิทธิ์ - พุทธกิจบรรยาย" • - พุทธกิจบรรยาย

 

ภาพที่ท่านเห็นเป็นแค่นิมิตรปรุงแต่ง หลอกให้ท่านเสียเวลา หรือสุ่มหลงกับสิ่งมายา เพื่อไม่ให้ผ่านสมาธิขั้นสูงไปอีก
เพราะถ้าท่านผ่านขั้นนี้ได้ จะไปผ่านม่านหมอกเมฆที่มืดดำเป็นสว่างจ้า ที่สามารถเป็นสื่อกลางดั่งใจนึก หรือเรียกว่าการเพ่งพิจารณานั้นเอง
แต่ต้องมีครูบาร์-อาจารย์ หรือศิษย์มีครู ถึงจะถูกต้อง
ขอแนะนำให้ท่านเพ่งพิจารณา พระเถระทั้ง 5 รูป ที่คอยสอนธรรมะให้กับทุกคนที่กำลังจะเข้าถึงสื่อกลางเหมือนที่บอกไปข้างต้น
ขออนุญาตอ้างอิงข้อความนี้

พระอรหันต์ที่ยังไม่ดับขันธ์ และมียังมีชีวิต เพื่อสอนธรรม
ตอนนี้ มี 5 รูป ดังนี้
หลวงปู่กาแก้ว อยู่จังหวัดเลย เป็นพระอรหันต์
พ่อท่านแก้ว (หลวงปู่แก้ว) ผู้สร้างวัดพระบรมธาตุเจดีย์นครศรีธรรมราช ตอนนี้ อยู่จังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นพระอรหันต์
พระครูเทพโลกอุดร เป็นพระอรหันต์
หลวงปู่โพรงโพธิ์ เป็นพระอรหันต์
พระแก้วมรกต เป็นพระอรหันต์
พระทั้ง 5 รูปนี้ เป็นปัจเจพุทธะ ที่หลายๆ ท่านในเว็บนี้ รู้ดีว่าท่านยังไม่ดับขันธ์ แต่เพียงไม่ได้เอามาบอกกล่าว เพราะกลัวคนอื่นจะหาว่าเสียสติ
แต่ผู้ตอบกระทู้เห็นท่านมีเจตนาดี จึงขอแนะนำไปให้ลองปฏิบัติตามที่บอกไป แล้วจะผ่านพ้นสิ่งที่ท่านเห็นได้อย่างแน่นอน.

 

ถามด้วยๆสิ..เคนเห็นดวงตาแต่ไม่สนใจ

มีครั้งหนึ่งช่วงที่นั่งสมาธิบ่อยๆเคยเห็นมีดวงตา..มองมา(เมื่อก่อนไม่เคยเห็น)
ไม่มีสัญลักษณ์อะไรทั้งสิ้น ดวงตาล้วนๆดูลึกลับแต่ดูไม่ธรรมดาเหมือนมีพลัง
ครั้งแรกมองเฉยๆนิ่งๆ บางครั้งจ้องแต่บางครั้งเหมือนเค้ามองหาได้ทั่วทั้งหมด
(เราเกรงๆเค้าจะหาเราเจอด้วย..อารมณ์ปรุงแต่งตอนนั้น) ไม่รู้เรื่องพวกนี้จริงๆไม่สนใจ ช่วงนั้นเห็นบ่อยเราก้อไม่สนใจปล่อยเฉยเลยผ่านตอนนี้ไม่เห็นดวงตานั้นแล้ว..แต่จำติดตา..ใครรู้ช่วยตอบก้อได้ชักอยากรู้อ่ะ:dเพราะเราไม่รู้จริงๆ

 

Eye in the sky เพลงของ --Alan Parson Project ในเนื้อเพลงกล่าวถึงดวงตา ที่รู้ทุกอย่าง สามารถอ่านใจของทุกๆคน น้่่าแปลกดีครับที่ตรงกัน

[ame="http://www.youtube.com/watch?v=G-Cen0DyZeo"]Eye In The Sky ~ Alan Parsons Project - YouTube[/ame]

 

คนที่นั่งทางในได้ จะรู้ว่าความลับไม่มีในโลก เวลาปฏิบัติธรรมโดยฉะเพราะอยู่ในป่าเขา ที่ไหนก็ตาม ต้องมีศีลที่บริสุทธิ์ ให้เข้าใจว่าเทวดา นางฟ้า จับตาดูผู้บำเพ็ญทุกขณะ นักปฏิบัติที่ไม่ควรประมาท จะตื่นตัวอยู่เสมอ เพราะรู้จักอายชาวสวรรค์เวลากระทำอะไร ทั้งในที่ลับ ที่แจ้ง ส่วนผู้ไม่ประมาท ก็ให้ทำอย่างที่ตั้งใจไว้ บอกจะนั่งกรรมฐาน ก็ต้องนั่ง จะตื่นต่อจากนั้นจะนั่งก็ต้องนั่ง ถ้าแขกนอก หมายถึงบริวาล พระอินทร์ ท่านเป็นเจ้าท่าเจ้าสวรรค์ ส่งบริวาล ให้มาคุ้มครองรัก ษาผู้ปฏิบัติทำ หากท่านพบว่าผู้บำเพ็ญขี้เกียจ
ไม่อยากปฏิบัติ ติดสุขกับการนอนมากไป ท่านก็จะมาตักเตือน ถ้าตื่นแล้วให้บำเพ็ญต่อไปเลย อย่านอนต่อ เพราะถ้านอนต่อ ดวงตาสวรรค์ที่จับตาดูท่านจะเบื่อหน่าย และเลิกตักเตือนให้บำเพ็ญต่อ เป็นเหมือนพี่เลี้ยงน้อง
ถ้าท่านไม่สนใจคอยสอดส่องดูตน เมื่อนั้นเราก็จะล้มลงในกองบาป ผลของความบาป ก็คือความตาย ตายจากความดี เลยกลับมาหาความมักมากระวังให้มาก เพียรรักษาความดีของตนอย่าให้ เสื่อมไปครับ หากตัวเราเองยังปฏิบัติไม่ถึงความไว้ใจได้ ว่าตนจะไม่เสื่อมไม่ถอนกลับคืนไปสู่ความตกต่ำ.

 

ดวงตานี่ผมรู้จัก

ดวงตานี้ผมรู้จักดีเพราะเมื่อก่อน(ตอนเป็นเด็ก)ผมก็พบเข้าโดยบังเอิญ คือผมฝันไปพบ ผมยืนอยู่ตรงหน้าของดวงตานี้ พอผมได้อ่าน คำบรรยายผม ผมก็รู้เลยว่า เป็นธรรมดาที่คุณจะบรรยายไปแบบนั้นแต่จริงๆแล้วมันไม่ใช่

เพราะเหตุการณ์ที่ผมฝันไปครั้งนั้น ช่วงเวลาที่ผ่านมา ผมสามารถไปถึงได้โดยใช้เวลาไม่นาน และไม่จำเป็นต้องฝันด้วย ผมเฝ้าค้นหาวิธีการมานาน

ดวงตานั้นนะครับ เป็นดวงตาของคุณเอง แล้วมันก็มีวิธีการใช้ด้วย คุณจงค้นหาเองว่าจะใช้มันเช่นไร สำหรับผมตอนนี้ ผมจะไม่ใช้มันอีกเด็ดขาด

 

ต้องรีบเอาแหวนไปทำลาย...

 

มันคือสัญลักษณ์ของศาสนาโบราณทวีปมู ศาสนาของคนโบราณ บ่งบอกได้ถึงจริยธรรม คุณธรรม จารีตในสมัยนั้นๆ เริ่มจาก ขอนำจารึกอักษรภาษาสัญลักษณ์ที่ใช้บนทวีปมู ที่เขียนจารึกโดยนักบวชชาวนาอะคัล(Naacal)เป็นสัญลักษณ์โบราณที่ใช้เมื่อนับย้อนไปประมาณ 50,000-30,000 ปีที่แล้ว หมายถึง ดวงตาที่ครอบคลุมดูแลทั่วทุกสรรพสิ่งในสากลจักรวาล ภายใต้สามเหลี่ยมที่ทรงพลังที่สุดที่เป็นศูนย์กลางของทุกจักรวาลรวมทั้งเอกภพทั้งหมด ก่อนกาลทวีปมูใช้สัญลักษณ์นี้แทนพระเจ้า รา ในอียิปต์ หมายถึง ดวงตาแห่งเทพโอสิริส, ดวงตาที่สามและยังใช้อยู่ในคริสต์ศาสนา นิกายคาทอริคและใช้กันในสมาคมfreemason ที่มีต้นสายที่ยาวนานย้อนไปได้ถึงยุคไอยคุปย์

 

มันไม่เกี่ยวอะไรกับ Illuminati เลยครับ สัญลักษณ์นี้มันน่าจะคล้ายสัญลักษณ์โบราณของชาวลีมูเรียมากกว่า (ซึ่งกลุ่ม Free mason และ Illuminati ก็นำมาใช้เช่นกัน) มันเป็นหนึ่งในหลายๆสัญลักษณ์โบราณของชาวมู น่ะครับ

โดยสัญลักณ์นี้ (ดวงตาในรูปเลขาคณิตทรงสามเหลี่ยม บางครั้งก็อยู่บนเหนือสามเหลี่ยม)

มันหมายถึง อานุภาพอันศักดิ์สิทธิ์ ดวงตาที่ครอบคลุมดูแลทั่วทุกสรรพสิ่งในสากลจักรวาล ภายใต้สามเหลี่ยมที่ทรงพลังที่สุดที่เป็นศูนย์กลางของทุกจักรวาลรวมทั้งเอกภพทั้งหมด

ก่อนกาลทวีปมูใช้สัญลักษณ์นี้แทนพระเจ้า รา
ในอียิปต์ หมายถึง ดวงตาแห่งเทพโอสิริส, ดวงตาที่สาม
และยังใช้อยู่ในคริสต์ศาสนา นิกายคาทอริค
และใช้กันในสมาคม freemason ที่มีต้นสายที่ยาวนานย้อนไปได้ถึงยุคไอยคุปย์(สังเกตที่แบ็งค์ 1 ดอลล่าร์อเมริกา)

ทวีปมู(Mu) หรือ รีมูเลีย(LeMUria) คือ นครอันตธานที่จมหายลงใต้ทะเลแปซิฟิกใต้เมื่อกว่า ๑๓,๐๐๐ ปี

 

หลวงพ่อวิริยังค์::สมาธิเบื้องต้น อธิบายเรื่องการเห็นนิมิต เป็นส่วน๑ของสัญญา เป็นอารมณ์อย่าง๑ นิมิตเป็นสมาธิขั้นเริ่มต้น https://www.youtube.com/watch?v=eis0atf6OVI
หลวงปู่วิริยังค์::สมาธิเข้าสู่ภวัง https://www.youtube.com/watch?v=Y4tRL-NKKek

 

รู้ได้ไงว่าเป็นดวงตาของจักรวาลอ่ะ

 

นี่คือภาพที่ถ่ายได้ในคืนบูลมูล
ดวงตาของพระเจ้า สะท้อนไปที่ดวงอาทิย์
ส่องไปที่ดวงจันทรา เฝ้ามองมนุษย์ในยามค่ำคืน

ดวงตาแห่งรา หรือพระผู้สร้างโลกและจักรวาล อาเมนรา

ปัจจุบันในศาสนาคริตส ลงท้ายคำอธิฐาน จะใช้คำว่า เอเมนฯ
ในศาสนาอิสลาม จะลงท้ายคำสวดว่าเข้าเฝ้าพระเจ้าว่า อารมีน

ทั้งสองศาสนามาจากรากศาสนาเดียวกัน ลูกหลานอับราฮามหรือ อิบราฮิม
โมเซทหรือมูซา เยซูหรืออีซา
นับถือศาสดาเหมือนกันเพียงต่างภาษาเรียกเพี้ยนตามสำเหนียง
แต่ยังออกเสียงคล้ายกัน ตามนามพระศาสดา