พระรามพุทธเจ้าคือใคร?

มิใช่ดอกครับ
ปัจจุบันท่านกำลังวร้างบารมีให้เต็มทั้ง 10 ทัศน์ เพื่อรอไปดุสิต และนับจากนี้ไป อีก 7 ล้านปี คือหมดยุคของพระศรีอาริยเมตไตรย์ (อีก 1ล้าน4แสนกว่าปีท่านจะลงมาตรัสรู้)แล้วต่อศาสนาของพระราม นะครับ รวมแล้ว ท่านบอก 7 ล้านปีท่านลงมาตรัสรู้ ครัล ทีแรกท่านขอพระนิพพาน แต่ไม่สามารถหนีพุทธทำนายมิได้ครับ
โมทนาสาธุ
ขอให้มีเมตตาและเจริญในธรรม
ข้าพเจ้าเกิดมาต้องตาย ชีวิตไม่เที่ยง ความตายเป็นของเที่ยง นิพพานเป็นสุขแย่างยิ่ง

 

สงสัยตรงพวกที่บอกว่าเรื่องนั้นเรื่องนี้ไม่มีในพระไตรปิฏกน่ะ อ่านจบแล้วหรือ

 

หลวงปู่ปาน คือพระเจ้า ปเสนทิโกศล องค์พ่อ หรือ พระเจ้า มหาโกศล พระเจ้าปเสนทิโกศล องค์ ร่วมกาล พระพุทธองค์ คือ หลวงพ่อ วัด ท่า...

 

บูม!! โลกแตก

 

..สรุปกันไม่ได้ ??..

 

ถามว่าทราบกันได้อย่างไร
ก็ขอตอบว่า เมื่อผู้ใดเห็นธรรมอันประเสริฐที่องค์สมเด็จพระชินวร
ทรงตรัสสอน ผู้นั้นจะหมดความสงสัยใดๆทั้งสิ้น
เรื่องนี้ไม่มีผู้ใดให้คำตอบคุณได้ นอกจากคุณจะหาคำตอบพบเอง
ที่แนะนำได้ก็มีเพียงรักษาศีลให้บริสุทธิ์ เจริญพระกรรมฐานจนจิตเข้าถึงอุปจารสมาธิ
ขอบารมีพระพุทธเจ้าท่านในการหาคำตอบ

 

อนาคตวงศ์
พระศรีอริย์
พระราม
พระธรรมราชา สมัยพุทธกาลคือ พระเจ้าปัสเสนธิโกศส
สายหลวงพ่อฤาษี เชื่อว่าคือหลวงปู่ปาน

พระราม เราได้ทราบจากพระสงฆ์รูปนึง เป็นเจ้าอาวาสวัดใหญ่แห่งหนึ่งในภาคเหนือ
และเคยมีประสบการณ์เหลือเชื่อหลายอย่างกับท่าน

ได้สนทนากับท่านสองต่อสอง พระโพธิสัตว์ที่จะตรัสรู้ต่อจากพระศรีอริย์ ที่ชือพระราม
คือจตุคามรามเทพ และเป็นองค์เดียวกับพระเจ้าอโศกมหาราช

 

ขอยกมาจากอีกกระทู้ เพราะมีเรือ่งเกี่ยวข้องกับพระรามโพธิสัตว์

ยกมา....
เรืองท่านพ่อลี คือ พระเจ้าอโศกมหาราช นั้น มีความน่าเชื่อมาก
ชวนให้น่าคิด ว่าเหตุใดจึงมีการสร้างรูปปั้นพระเจ้าอโศกมหาราชไว้ที่วัดอโศก
มิหนำซ้ำ ชื่อวัดอโศการาม ก็พ้องกับชื่อพระเจ้าอโศก

เราเคยสนทนากับหลวงปู่พระสำคัญรูปหนึ่งทางภาดเหนือ
มีญาณสมาธิสามารถทักทายอนาคตได้ พิสูจน์ด้วยตนเองก็เคยมาแล้ว

ตัวท่านเองก็น่าจะเป็นพระโพธิสัตว์องค์นึง เดาเองจากชื่อวัด
และถาวรวัตถุในวัดที่ท่านสร้าง และจากคำพูดลูกศิษย์วัด
ตัวเราเองไม่ใช่ลุกศิษย์ท่าน แต่ไปหาท่านหลายครั้งเวลามีเรื่องเดือดร้อน
และไม่เคยถามท่านจริงๆ ว่าท่านลาพุทธภุมิหรือยัง

แต่เผอิญวันนั้น สนทนาเรืองจตุรคามรามเทพพอดี
ท่านบอกจตุคามเป็นเทพที่คอยปกปักรักษาพระศาสนา
พอมีคนนับถือมาก อัญเชิญท่านมาก ท่านเลยเหาะมาปิดเสีย
ทำให้อยู่ๆ คนก็เลยเลิกสนใจเรืองจตุคามกันโดยฉับพลัน

ยังเล่าต่อไปว่า จตุคามคือพระพระพุทธเจ้าองค์หนึ่งในอนาคต
ถัดจากพระศรีอริยเมตไตรย์ ที่ืมีพระนามว่า พระราม

ตอนนั้นเราโพล่งไปว่า อ้าว ไม่ใช่พระเจ้าอโศกมหาราชหรือ
( ตรงนี้เราแปลกใจตนเองในภายหลังเหมือนกันว่าทำไมโพล่งไปเช่นนั้น )
ท่านบอกว่า นั่นแหล่ะ องค์เดียวกัน

มานึกทีหลังว่า ทำไมเราพูดไปเช่นนั้นว่า...
พระเจ้าอโศกมหาราช คือพระพุทธเจ้าที่มีนามว่าพระราม
เพราะเราเองไม่เคยรู้มาก่อน
และไม่เคยได้ยินได้ฟังใครพูดเรื่องนี้มาก่อนเช่นกัน

ซึ่งบทสนทนา เรืองจตุคามกับพระเจ้าอโศกจบแค่นั้น
ไม่ได้ถามต่อว่า คือท่านพ่อลีใช่ไหม

แต่กลับมาบ้าน ยังเสียดายว่า ทำไมไม่ถามว่า
ในหลวงใช่พระพุทธเจ้าองค์ที่ชื่อว่า พระสุมงคล ที่อดีตคือช้างป่าเลไลก์ ใช่หรือไม่

เพราะตรงนี้ บางท่านว่าช้างป่าเลไลก์คือในหลวง
บางท่านว่าคือหลวงปู่อ่ำวัดโสมนัส
บางท่านก็ว่าเป็นท่านอื่นอีก

แต่พอได้ยิน บางท่านบอกว่า ท่านพ่อลี ลาพุทธภูมิเสียแล้ว
ถ้าท่านพ่อลี คือพระเจ้าอโศกมหาราชจริง ซึ่งก็น่าเชื่อเช่นนั้น
จึงยังขอไม่เชื่อก่อนว่า ท่านพ่อลี ลาพทธภูมิแล้ว

พราะยังจำคำพูดของหลวงปู่ทางภาคเหนือที่เราสนทนากับท่านได้อยู่
เพราะเราได้ยินกับปากท่านเอง ว่า พระเจ้าอโศกมหาราช
ท่านจะมาตรัสรู้ในอนาคต มีพระนามว่าพระราม

http://palungjit.org/threads/%E0%B8%AD%E0%B8%94%E0%B8%B5%E0%B8%95%E0%B8%8A%E0%B8%B2%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%87-%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%A7%E0%B8%87%E0%B8%9E%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%A5%E0%B8%B5-%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%94%E0%B8%AD%E0%B9%82%E0%B8%A8%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%A1-%E0%B8%84%E0%B8%B7%E0%B8%AD-%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%88%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%AD%E0%B9%82%E0%B8%A8%E0%B8%81%E0%B8%A1%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%8A-%E0%B9%83%E0%B8%99%E0%B8%AA%E0%B8%A1%E0%B8%B1%E0%B8%A2%E0%B8%9E%E0%B8%B8%E0%B8%97%E0%B8%98%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A5.564269/

 

สนุกดีเขียนเดา นั้นขอเดามัง

องค์แรกหลวงปู่ทวด จากนั้นหลวงปู่โต จากนั้น ร.4

จากนั้นเดาไม่ออก ฮา....

 

ก็มีเรื่องบังเอิญดีเหมือนกัน กระทู้นี้ถามเรือ่งพระราม
เพราะเป็นเรือ่งแปลกที่เรื่องของพระรามไม่มีกล่าวไว่ว่า สมัยพุทธกาล เป็นท่านผู้ใด
นอกนั้นมีเกือบหมด มีตัวตนหมด ตั้งแต่พระอชิตะ ซึ่งก็คือพระศรีอริย์
เว้นอยู่สองพระองค์คือ พระอสุรินทราหูกับพระราม
ส่วนพระยามาราธิราชก็มีตัวตนแม้นว่าจะไม่ได้เกิดเป็นมนุษย์ในสมัยพุทธกาล

และเรือ่งพระรามคือพระเจ้าอโศกมหาราช เราไมได้ได้ยินได้ฟังใครพูดมาก่อน
และเราก็ไม่เคยทราบมาก่อน เพียงแต่วันนั้น ขณะสนทนากับหลวงปู่ดันโพล่งออกไป
ซึ่งไม่รู้ทำไมถึงพูดออกไปเช่นนั้น ก็ถือว่าเป็นความรู้ใหม่ ส่วนใครจะเชื่อหรือไม่ก็สุดแท้แต่

กระทู้นี้มีขึ้นวานนี้ และก็บังเอิญอีกเช่นกันขณะที่เราตอบกระทู้นี้เมื่อคืน
พี่สาวอยู่ๆก็โทรมาหาเรา บอกว่าไม่เคยไปวัดแห่งหนึ่งเลย ที่อยู่สมุทรสาคร
ที่เราเคยเล่าให้ฟังก่อนนี้

เราก็ถามไปว่าใช่วัดเกตุมวดีหรือป่าว
เขาก็บอกว่าใช่ เราก็เลยตอบไปว่า งั้นจะพาไป ไปไหมพรุ่งนี้น่ะ ไปกราบพระบรมสารีกธาตุ
ไปกราบท่านบัณฑุรย์สิงห์ ( สายวัดเกตุมวดี เชื่อว่าท่านคือพระติสสะพระพุทธเจ้า ซึ่งจะมาตรัสรู้เป็นองค์ที่ 9 นับจากนี้ อดีตชาติคือช้างนาฬาคีรี สมัยพุทธกาล )

พี่สาวบอกว่าไปสิ

จึงสรุปว่า พรุ่งนี่ไปกัน วัดเกตุมวดี สมุทรสาคร

ก็บังเอิญอีกข้อ ที่ว่า หลวงปู่ที่เรากล่าวในตอนบนนั่นน่ะ
ท่านเป็นลูกศิษย์สำคัญคนหนี่งแห่งวัดเกตุมวดี
ถ้าเอ่ยชื่อไป สายวัดเกตุมวดีย่อมรู้จัก เป็นอย่างดี

 

ที่รอคอยอยู่ชั้นดุสิต มีเพียงพระมหาโพธิสัตว์ที่บารมีเต็มและเงื่อนเวลาก่อนตรัสรู้เท่านั่นครับ

ส่วนองค์อื่นๆ ที่อยู่ชั้นดุสิต คือ นิตย อนิตย ที่มีโพธิจิตเต็มครับ เรียกว่า โพธิสัตว์ แท้ๆ ขณะนั้น ไม่รอเวลา รอคอย

สำหรับนิตย อนิตย ที่จิตไม่เกิดโพธิจิตเต็ม ต่อให้เป็นพระโพธิสัตวฺประเภทนิตยระดับต้น ถึงกลางแล้วก็ตาม ท่านไม่อาจอยู่ชั้นดุสิตได้ ส่วนระดับสูงมีบ้างแม้โพธิจิตเต็มก็อาจไม่อยู่ที่ชั้นดุสิต ทั้งด้วยเรื่องเจตนา หรือเรื่องวิบากกรรม ที่ทำให้แสดงธาตุโพธิจิตไม่เต็ม

โพธิสัตว์ มีมากมายดุจเมล็ดทราย หมายถึง ถูกปลูกจิตให้มีกุศล สัตว์เหล่านั้นส่วนใหญ่ในช่วงต้นหลายอสงไขยมีแว่บๆ ไม่รู้ตัว ต่อมาอีกหลายอสงไขยจึงรู้แต่ได้แต่คิด ต่อมาอีกหลายอสงไขยจึงกล่าวด้วยวาจาเป็นกระบวนการสุดท้าย ก่อนถูกคัดเลือกเข้าสู่ นิตย

การสละชีวิตของตนเอง เริ่มตรงช่วงยุคที่เปล่งวาจาสักพักก่อน จิตที่ถูกปลูกฝัง จะถูกปลูกฝังเรื่อยๆโดยพระพุทธองค์ และพระโพธิสัตว์ระดับสูง จนโพธิจิตเริ่มแสดงธาตุมากขึ้น จึงเริ่มทำกุศลที่เรียกว่า สามสิบทัศน์ แต่ช่วงนี้ สะเปะสะปะ ครับ ต้องหลังได้รับพุทธทำนายนั้นแหละ จึงเข้ารูปเข้ารอยตรงทาง

อดีตที่เป็นบ่อเกิดปัจจัยการระลึกรู้โพธิจิต ของผม เค้าได้สละชีวิต ไปแล้ว แต่ไม่ได้หมายความว่า ถัดจากนั่น อดีตจะเสียสละชีวิตเพื่อบารมีสามสิบทัศน์มากหรือบ่อยหรือถี่เท่านิตยโพธิสัตว์ หลงไปเยอะก็มี ช่วงที่เก็บบารมีเล็กๆน้อยๆ ในช่วงนี้ บางช่วง โพธิจิตเต็มประกอบกับกุศลกรรมก็ขึ้นชั้นดุสิต แต่บางช่วงโพธิจิตก็มาๆ หายๆ พูดง่ายๆ อนิตย ปัญญาจะน้อยกว่า นิตยมาก การรู้เหตุปัจจัยให้โพธิจิตเกิดขึ้น ยังไม่ค่อยถูก

 

ต่อเรื่อง ว่าทำบารมีอะไร

เท่าที่ทราบ ระดับนิตย ท่านสละชีวิต บริจาคลูกเมีย เป็นว่าเล่น(แต่ไม่เล่นๆ) ท่านเล่ากันว่า นับไม่ถ้วนครั้ง แต่อนิตย นี่ ยากมากกว่าจะกระหืดกระหอบได้แต่ละครั้ง เหนื่อยและนานกว่าจะทำได้สักครั้งนะครับ

ส่วนเรื่อง อนาคตวงศ์ อย่าจริงจังครับ ผมเคยได้ยินท่านมหาโพธิสัตว์สองพระองค์สนทนากัน ท่านก็เหมือนสนทนาแบบเพิ่มกำลังใจกัน เป็นเหมือนปกติกริยาที่ต้องทำกันต่อกัน ความได้ทราบว่า พระราม ตามทสรถชาดกกับพระราม ฮินดู น่าจะคนละคนกัน ทสรถชาดกเป็นเรื่องพระพุทธองค์ ส่วนพระราม ฮินดู เป็นพระโพธิสัตว์ แต่ท่านลาพุทธภูมิ แล้ว ยังมีการพูดถึงหนุมานด้วย ปัจจุบันเป็นพระภิกษุ ท่านน่าจะตามอดีตพระรามเข้านิพพานเช่นกัน แต่ที่ฟังมา ท่านทั้งสองก็ฟังมา ก็อย่าจริงจังครับ

แต่ทำให้ทราบว่า โพธิสัตว์ประเภทที่ไม่ได้รับพุทธทำนาย หลายองค์ท่านไม่ได้ตัดเข้านิพพานง่ายๆ จนเกือบจะเต็มเวลาที่อธิษฐานเป็นพระพุทธเจ้าด้านนั่นๆ ไป เหลืออีก เจ็ดชาติ แต่ว่า เมื่อไม่ได้รับพุทธทำนาย ไม่ได้เข้าระบบก็มีทางเลือกสองทาง คือ พระปัจเจก กับพระสาวกไป ซึ่งความนี้ ปรากฎในเรื่องที่ สุนทรภู่ กล่าวในกลอนของท่านว่า สงสัยว่าตนจะเป็นได้เพียงพระปัจเจกพุทธเจ้า


นอกจากนี้ ท่านพระมหาโพธิสัตว์หนึ่งในสององค์ที่ สนทนากันเหมือนกล่าวถึง ว่า ท่านเป็นอดีตช้างนาฬาคิริง และพระเจ้าเสือ แต่ท่านก็สนทนาแบบเพื่อนคุยกัน

แต่ท่าน เหมือนจะมุ่งนิพพาน ท่านเคยกล่าวว่า มีอุบาสกอุบาสิกา มาเป็นศิษย์ แต่แทนที่จะมุ่งมั่นในการบวช กับสึกไป (บวชชี หรือผู้ชายนุ่งขาวห่มขาว) ท่านว่า สองคนนั้น ตัดใจพุทธภูมิไม่ได้ แทนที่จะบวชกับออกไปก็มีแต่ทุกข์ (ฟังเหมือนท่านไม่สนใจไปทางพุทธภูมิเลย) ทั้งนี้ ดูท่านก็มุ่งมั่นในการปฏิบัติหลายช่วง เหมือนอย่างจะหลุดพ้น แต่ว่า ภายหลังผมพิจารณาแล้ว ท่านไม่มีทางหลุดพ้นครับ เพราะต่างจากที่ไปกราบพระอริยะ จะต่างกันคนละแบบที่เราสัมผัสได้

 

ขออภัย ถ้าความเห็นอาจทำให้ขุนเคือง

มุมมองผม พระรามพุทธเจ้าเป็นเรื่องแต่ง ในคัมภีร์อนาคตวงศ์ โดยสมัยนั้นพราหม์กำลังกลืนพุทธอย่างแยบคายอ้างว่าพระพุทธเจ้าคือปางหนึ่งของพระนารายณ์ อาจารย์ยุคนั้นต้องหาทางแต่งตำรามาสู้

คัมภีร์อนาคตวงศ์ก็คือหนึ่งในนั้น. ถูกแต่งขึ้มาสู้กับพวกลัทธิพราหม์ ข้อน่าสังเกตคือพระนามพุทธเจ้าชื่อนั้นคล้องกับพระนาราณ์ของพรามณ์(น่าจะเป็นการโต้ตอบของทางฝั่งพุทธ) อีกทั้งสมัยพุทธการเป็นช่วงเวลาสำคัญที่พระโพธิสัตว์จะลงมาสร้างบารมี แต่พระรามโพธิสัตว์กลับไม่ลงมาเกิด(หรือเกิดแต่ไม่เจอพระพุทธเจ้า) ซึ่งไม่าน่าจะเป็นอย่างนั้น

และในคำภีร์ยังมีเรื่องขัดแย้งกับคำภีร์อื่นๆ โดยเฉพาะพยามารที่จะเป็นพระพุทธเจ้า แต่ในคำภีร์อื่นพยามารจะเป็นพระปัจเจกพุทธเจ้า อีกทั้งอาณิสงส์ 16 ประการที่พระโธิสัตว์ปรมัติบารมีจะได้หลังพยากรณ์มีอยู่ 1 ข้อที่พระโพธิสัตว์จะไม่เกิดเป็นเทวดาที่นับเนื่องในหมู่มาร

และโตเทยพราหม์ ที่ชาตินั้นเป็นเศรษฐีขี้เหนียวจนต้องมาเป็นสุนัข มันก็ดูแปลกๆ

ส่วนตัวคิดว่าในพระอนาคตวงศ์ ทั้ง 10 นอกจากพระศรีอาริยะเมตไตร ที่แน่นอน บุคคลที่น่าจะเป็นนิตยโพธิสัตว์ คือพระเจ้าปเสนธิโกศล เพราะทำอสทิสทานร่วมกับพระนางมัลลิกา (สมัยก่อนพระนามพิมพาก็เคยได้ทำ อสทิสทานเหมือนกัน) ซึ่งในสมัยพระพุทธเจ้าองค์หนึ่งจะมีเพียงครั้งเดียว

ส่วนอีกท่านน่าจะเป็นคือช้างป่าเลไลย์ แต่ไม่ชัวร์เท่ากับพระเจ้าปเสนธิโกศล

 

ผมก็รู้สึกแบบนั้นเหมือนกัน.

เพราะมั่นใจว่า ร4 คือพระเจ้าปเสนฯ แถมนิสัยก็เหมือนกัน คือหลงผู้หญิงมาก. ถ้าจะมีพระโพธิสัตว์ที่บารมีมากกว่าท่าน ก็คงมีเพียงพระศรีอาริย์

ปล. มันจะเป็นแบบนั้น ถ้า หลวงปู่ทวดไม่ใช่ ท่านเดียวกับหลวงปู่โต

 

เหตุที่พระโพธิสัตว์ใหญ่หลายองค์มาเกิดถิ่นนี้

เพราะพระพุทธองค์เสด็จไัปชั้นดุสิต ที่อยู่ของเหล่าโพธิสัตว์

แล้วบอกเหตุการที่จะเกิดในศาสนาของท่าน...

การไว้ศาสนานาน จำเป็นต้องพึ่งพระโพธิสัตว์ใหญ่หลายองค์

จึงเป็นเหตุให้คนไทยได้พบเจอ ท่านมาเกิด ทำหน้าที่กัน

เพื่อให้ศาสนาครบห้าพันปี ตามที่พระพุทธองค์ได้พยากรณ์ไว้...

 

เรื่องใครเป็นใครในอนาคตวงศ์มีหลายความเชื่อหลายสำนัก ไม่ลงรอยกัน
บางสำนักก็อาจคล้องจองกัน ซึ่งไร้ข้อสรุปอยู่ดี เอาว่าสำนักใครสำนักมันก็แล้วกัน
และบางที ก็บอกปากต่อปาก ไม่รู้ต้นทางเป็นอย่างไร

ที่เราพอทราบ
สายหลวงพ่อฤาษี
หลวงปู่ปานคือ พระเจ้าปัสเสนทิโกศล และเป็นพระธรรมราชาในอนาคตวงศ์
หลวงปู่อำวัดโสมนัส คือช้างปาเลไลย์หรือ พระสุมังคละ

สายหลวงปู่มั่น
ว่ารัชกาลที่ 4 คือพระเจ้าปัสเสนทิโกศล
และว่าท่านพ่อลีคือพระเจ้าอโศก เป็นพระโพธิสัตว์ แต่ไม่ยืนยันว่าคือใครในอนาคตวงศ์
หรืออาจนอกอนาคตวงศ์เลยก้ได้ และยังมีกล่าวว่าท่านพ่อลี ลาพุทธภูมิแล้วด้วยซ้ำ

สายครูบาศรีวิชัย ซึ่งก็เกี่ยวกับสายหลวงปู่มั่น เพราะเป็นสหธรรมิกทางธรรมกับหลวงปู่มั่น
เชื่อว่า ครูบาศรีวิชัยคือ พระศรีอริย์

สายหลวงปู่ดู่ หลวงตาม้า
เชื่อว่า หลวงพ่อทวด กลับชาติมาเกิดเป็นหลวงปู่ดู่ และคือพระศรีอริยเมตไตรย์

สายหลวงปู่สิม ซึ่งก็คือสายหลวงปู่มั่น
แต่องค์หลวงปู่สิมเอง ใกล้ชิดกับหลวงพ่อฤาษี
มีการอ้างว่า หลวงปู่สิมบอกว่า ในหลวงคือช้างป่าเลไลก์
ในอินเตอร์เนตมีกล่าวกันมาก โดยอ้างว่าเป็นคำของหลวงปู่สิม
ที่เราเห็นจริงๆของหลวงปู่สิม ก็มีแต่เพียงว่า ในหลวงองค์นี้ท่านเป็นพระโพธิสัตว์นะ

ยังมีสายพระใหญ่ชัยภูมิ เชื่อว่า
ท่านผู้นั้นคือช้างป่าเลไลก์

ยังมีสายวัดเกตุมวดี
เชื่อว่าท่านบัณฑูรย์สิงห์คือพระจิตตะ หรือช้างนาฬาคีรี
บริเวณโบสถ์ที่วัดคือบริเวณที่เรือพระมหาชนกล่ม

ส่วนสำหรับพระราม เป็นความรู้ใหม่ของเรา มิได้ฟังจากปากต่อปากของผู่ใด
เราฟังจากหลวงปู่ที่เรานับถือโดยตรง แต่ท่านเป็นสายวัดเกตุมวดี
และสำหรับเราถือว่ามีส่วนมาก

เพราะพระเจ้าอโศกมหาราช เป็นกษัติรย์ที่ยิ่งใหญ่ มีส่วนสำคัญในการเผยแพร่ศาสนามาถึงสุวรรณภูมิ ก็น่าจะเป็นพระโพธิสัตว์ใหญ๋พระองค์นึง

จตุคามรามเทพ ถ้าศึกษาประวัติศาสตร์สมัยศรีวิชัยเป็นกษัตริย์ที่ยิ่งใหญ่มากเช่นกัน
ครองอาณาจักรไปทั้งทะเลจีนใต้ ศาสนาพุทธสมัยนั้น ไปถึงอินโดนีเซีย
มีหลักฐานคือบรมพุทโธ

และในรุ่นเราๆ เคยเห็นปรากฎอะไรที่แปลกพิศวงเท่าจตุคามไหม
มีคนนิยมกันทั้งประเทศ และเกิดในสมัยเศรษฐกิจตกต่ำพอดี
โรงงานในขณะนั้นพากันปิดตัว แต่พอเกิดปรากฎการ์ณจตุคาม
โรงงานหลายโรงงานรอดตายเพราะจตุคาม
มีคนตั้งแผงขายกันตามป้ายรถเมล์แบบล๊อตเตอรี่
แล้วอยู่ๆ ไหงนัดกันเลิกคุยเรื่องจตุคามกันไปแบบไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย

เรื่องมันอีกหลายอสงขัยข้างหน้า
อย่าไปหาความชัดเจนเลย เอาว่าใครลูกศิษย์สายไหนก็เชื่อตามสายนั้นไป

เรือ่งพระเจ้าปัสเสน คือหลวงปู่ปาน เราเชื่อหลวงพ่อฤาษี
ส่วนเรื่องพระรามเราเชื่อหลวงปู่
เพราะเรืองพระรามยังไม่เคยเห็นสายอื่นๆมีมติเรืองนี้มาก่อน

 

เมื่อวานไปวัดเกตุม ไปกราบพระบรมธาตุ กราบท่านบัณฑูรย์สิงห์โพธิสัตว์
และได้ทำบุญไปอีกนานาประการ
อธิษฐานขอให้ได้รับคำพยากรณ์จากท่านบัณฑูรย์สิงห์
ในสมัยที่จะมาตรัสรู้เป็นพระติสสะพระพุทธเจ้า

วันนี้รู้สึกไข้ขึ้นเลยแฮะ มันครั่นเนื้อครั่นตัว ไม่ได้เป็นมาหลายเพลาแล้ว
จนนึกไม่ออกปีพศ.ไหน

 

ที่รู้มา ตำแหน่งข้างบน บางทีเขาก็แต่งตั้งตั้งแต่ยังเป็นมนุษย์ครับ

บางคนก็เคยเป็นคนที่พวกเรารู้จัก เช่น ท่านที่เป็นท้าวเวสสุวรรณ พระยายมราช กระทั่งท้าวสันตดุสิต ก็อาจเคยมีกรรมสัมพันธ์กับพวกเรามา (ที่จริงมีรายละเอียด แต่เล่าไปเดี๋ยวคนจะไม่เชื่อ)

 

ไม่เกี่ยวกันครับ พระรามในรามเกียรติเป็นเรื่องแต่งของพวกภารตะของพราหมณ์ ฮินดูครับ ส่วนพระรามพุทธเจ้านั้น พระองค์ยังไม่เสด็จอุบัติขึ้นมาครับ จะเสด็จอุบัติก็ต่อเมื่อพระศาสนาของพระเมตไตรยฯ นั้นสูญสิ้นไปแล้ว ครับ
จตุคามรามเทพ ไม่ใช่เทพที่คุ้มครองพระพุทธศาสนานะครับ เท่าที่เคยได้อ่านมา จตุคามเป็นเทพของพราหมณ์ ฮินดูครับ และก็ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับผู้ที่จะได้ตรัสรู้เป็นพระรามสัพพัญญูพุทธเจ้าเลยครับ

 

ราโม จะ รามะสัมพุทโธ พระรามที่รบกับทศกัณฑ์ จะเกิดเป็นสมเด็จพระรามะสัมมาสัมพุทธเจ้า เป็นองค์ถัดจากพระศรีอาริยเมตไตย